ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TS] เมื่อสองเราได้พบกัน #SpecialTBC

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 ไม่น่ารัก

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 56


     

     เขารักประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีคนที่เขารัก…


     

    นั่นคือเหตุผลแรกที่ทำให้คุณเบิร์ทตัดสินใจทิ้งหน้าที่การงานจากบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อมาเริ่มธุรกิจเกษตรกรรมและการท่องเที่ยว มาทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องทำในชีวิตนี้

     

    แต่ยิ่งอยู่ไปนานๆ เขาก็ยิ่งรักที่นี่ และเหตุผลอีกมากมายก็ตามมาให้เขาได้หลงหลักปักฐานว่าจะอยู่ที่นี่อีกเป็นกระพรวน

     


     

    “สวัสดีครับ คุณเบิร์ท !

    เสียงผู้จัดการรีสอร์ทหนุ่มหล่อ ทักทายกันมาจากอีกฝั่งของถนน ผู้ชายหน้าไทยชื่อเรียกยากคนนี้ คือคนที่คอยดูแลที่นี่ให้เติบโตอย่างจริงจัง ในทุกเช้า เขาและนายกันนภัทร จะต้องพากันวิ่งแลกเปลี่ยนทัศนคติพร้อมออกกำลังกายไปรอบๆฟาร์ม ชมบรรยากาศสวยงามยามเช้าของเมืองเหนือ ก่อนจะแวะดื่มกาแฟยามสายกันที่คอฟฟี่ช็อปด้านหลังรีสอร์ท ที่จะเปิดบริการในตอนแปดโมงเช้า และตอนนั้น กลิ่นกาแฟสดก็จะหอมกรุ่นไปทั่ว

     

    วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวัน ที่เขาและเพื่อนชาวไทยคนแรกของเขา จะได้ร่วมแลกเปลี่ยนทัศนคติและทักษะทางภาษากันอีกครั้ง

     


     

     

    “วันนี้ออกสายนะฮะ ผมวิ่งไปแล้วรอบนึง

    ร่างสมส่วนตามมาตรฐานชายไทยวิ่งช้าๆมาหยุดลงตรงหน้าคุณเบิร์ท รอยยิ้มหวานจับใจของเขาถูกส่งให้นายจ้างอย่างต่อเนื่องแต่ภาษาไทยยาวรัวนั่นกำลังทำให้คนฟังเกิดอาการงงไม่น้อย อ่า ก็เขายังไม่ได้ถนัดภาษาไทยขนาดนั้นนี่นะ

     

    “อ่า วิ่งๆ วิ่งกัน”

    เพราะไม่รู้จะตอบอะไรดี หนุ่มใหญ่ชาวอเมริกันจึงเลือกที่จะเลี่ยงและเตรียมออกวิ่ง รับวิตามินดีและซึมซับบรรยากาศยามเช้าด้วยหัวใจที่เปิดโล่ง

     

     

     

     

     

    แต่ยังไม่ทันได้ออกวิ่ง สองขาก็ต้องสะดุดกึก

     

     

    Daddy… wait !

     

    เสียงใสของสาวสวยดังลั่นพื้นที่สนามหญ้ากว้างๆ พร้อมกับที่เจ้าของเสียงในชุดวอร์มคลุมด้วยฮู้ดสีดำตัวหนาวิ่งกึ่งกระโดดลงมาจากบันไดบ้าน ฮู้ดตัวนั้นปิดหน้าปิดตา แต่ก็ไม่อาจปิดใบหน้าสดใสของคนในฮู้ดได้ รอยยิ้มนั้นกำลังน่ารักจนคนเป็นพ่อต้องหยุดวิ่งแล้วฉีกยิ้มตอบไปอย่างอารมณ์ดี

     

    กันชะโงกหน้ามองผ่านเจ้านายในนาทีที่ยังไม่รู้ว่าเธอคนนั้นคือใคร แต่พอได้เห็นรอยยิ้มสดใสนั่นเข้า ในอกซ้ายเขาก็เหมือนโดนแอทแทคเข้าอย่างจัง

     

    คุณหนูแอป ลูกสาวคนเดียวของคุณเบิร์ทนี่เอง

     

     

    กันเดินถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างทำตัวไม่ถูก ใบหน้าคมเข้มซับสีเลือดฝาดอย่างเขินๆโดยไร้เหตุผล ได้แต่แอบส่งสายตาหวานมองคนสวยที่กำลังน่ารักเกินพิกัด น่ารักจนเขาแทบลืมวันเวลา

     


     

     

    “อะอ่า อรุณ สวัสดิ์”

    ภาษาไทยแปร่งหูดังตอบลูกสาวอย่างพยายามสุดความสามารถ พร้อมกับวาดวงแขนอบอุ่นคว้าเอาตัวลูกสาวคนสวยมาไว้ในอ้อมกอด เด็กหญิงตัวน้อยของคุณพ่อโอบรอบเอวกลมๆนั่นอย่างรักใคร่ ใบหน้าสวยสดใสซุกลงกับหน้าท้องนุ่มๆ สองคนพ่อลูกประสานเสียงหัวเราะกันเบาๆ ปล่อยคนนอกอย่างกันในยืนมอง อมยิ้มในความน่ารักของสองพ่อลูกตรงหน้า

     

     

    ก่อนที่อ้อมกอดนั้นจะคลายลง กันก็รวบรวมความกล้าส่งรอยยิ้มหวานๆให้สาวสวย พร้อมกับคิดส่งคำทักทายแนะนำตัวอย่างไม่อยากปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป


     

     

    “สวัสดีครับคุณหนูแอป เราเจอกันแล้วเมื่อคืนในปาร์ตี้ แต่ผมยังไม่ได้แนะนำตัว ผมกัน นภัทร ฮะ”

     

     

    แอปเปิ้ลยิ้มรับคำนั้นของเขา พยักหน้าราวกับว่ารู้เรื่องทั้งที่ไม่เข้าใจอะไรสักคำ แต่ก็เนียนจนคนเป็นพ่อต้องแอบหัวเราะออกมาเบาๆเพราะรู้จักลูกสาวตัวเองดีกว่าใคร แอปเปิ้ลเป็นอย่างนี้เสมอ แม้เขาจะเคี่ยวเข็ญให้เรียนภาษาไทยตั้งแต่ยังเด็ก แต่แอปเปิ้ลก็แทบไม่ค่อยได้ใช้ จนสกิลด้านภาษาไทยต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เขาที่เป็นพ่อ และไม่เคยลงคอร์สเรียนภาษาไทยจริงๆจังๆ ยังพูดได้คล่องมากกว่า



     

    He’s Gun Napat , a manager of our resort

    และเพราะกลัวลูกสาวจะทำตัวไม่ถูกไปมากกว่านี้ คนเป็นพ่อเลยช่วยแปลคร่าวๆแล้วกระซิบใส่หูให้ลูกสาวได้พยักหน้าหงึกหงัก อ๋อ เขาคนนี้เป็นผู้จัดการรีสอร์ทนี่เอง ชื่อกัน นาพัด

     

    กัน ปืน ปิ้วๆ ใช่ไหม

    แล้วนาพัดล่ะ อะไรนะ

     

    แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวเธอก็ลืมชื่อมิสเตอร์ยิ้มหวานนี่แล้วล่ะ ในอีกไม่กี่ชั่วโมงหรอก

     

     
     

    แอปเปิ้ลฉีกยิ้มให้มิสเตอร์กันหน้าหวาน ก่อนจะเอื้อมมือดึงฮู้ดให้ลงมาปิดหน้าปิดตาตามเดิม ถึงเธอจะรู้ว่าแดดตอนเช้ามันมีประโยชน์แค่ไหน แต่เธอก็ไม่อภิรมย์นัก ที่จะโดนแดดแผดเผาให้ผิวสวยๆต้องเสีย

     

    แม้จะเช้า แต่มันก็ยังร้อนเกินไป สำหรับเธอ

     


     

    “วิ่งกันเถอะครับ ไม่งั้นเดี๋ยวสายจะร้อน

     

    กันหันมาชักชวนสองพ่อลูกพร้อมกับยกขึ้นผ้าขนหนูมาซับหน้า สามคนจึงออกวิ่งพร้อมกัน และมีคุณเบิร์ทกับมิสเตอร์ยิ้มหวานส่งเสียงพูดคุยกันไปตลอดเส้นทาง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เช้าตรู่ ตะวันทอแสงสดใสสว่างทั้งฟ้า อากาศดี๊ดี แต่คนตรงนี้ อารมณ์ดี๊ดียิ่งกว่าอากาศ

     

    นทนั่งถ่ายรูปลมฟ้าอากาศ เก็บใส่กล้องจนหนำใจ สูดออกซิเจนบริสุทธิ์เฮือกแล้วเฮือกเล่า เดินเตร่ไปเตร่มา รอใครบางคนที่นัดกันไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะไปทานมื้อเช้าพร้อมกัน

     

     

    ซึ่งเธอก็บ้า ตื่นมารอตั้งแต่เจ็ดโมง

    ทั้งที่เมื่อคืนกว่าจะเดินชมดาวกันถึงบ้านพัก ก็ดึกดื่นค่อนคืนจนพ้นผ่านวันไปเสียแล้ว

     

     

    ความสุขในความรักกำลังทำให้ทุกอย่างในโลกสวยงาม ตอนเช้ามันน่าตื่น และเมื่อคืนก็น่านอน เธอหลับตานิ่งสนิทในวงล้อมของผ้าห่มอบอุ่น จินตนาการว่าเป็นเนื้อตัวนุ่มนิ่มของใครบางคนในอ้อมแขนแทนหมอนข้าง

     

    เสียงหวานๆและรอยยิ้มตราตรึงจับใจเธอ ทั้งหมดกำลังทำให้เธอตกอยู่ในภวังค์อยู่ในกำมือนุ่มๆนั่นทั้งตัวและหัวใจ จะบีบก็ตาย จะคลาย ก็คงไม่ไปไหน

     

     

    ใครมาเห็นเธอยิ้มในตอนนี้ คงคิดว่าเธอบ้า

     

    ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่งตัวเซอร์ๆเสื้อผ้าย้วยๆ เดินยิ้มไปยิ้มมาช้าๆ ไม่สนใจใคร โลกทั้งใบมีแค่ตัวกับคนในหัวใจ

     

     

     

     

    ไม่มีใครจริงๆ ไม่มีใครแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    พลั่ก !!

     

    “โอ๊ะ

     

     

    เอ้า ! นึกว่าไม่มีใครแล้วนี่หว่า

     

     

     

    “เห้ย ขอโทษค่ะ ขอโทษๆ ไม่ทันมอง ขอโทษจริงๆค่ะ”

    นทตกใจจนแทบหวีด กับแรงกระแทกที่พุ่งชนเธอจนเซ โชคดีที่เธอไม่ล้มลง แต่หญิงสาวผู้โชคร้ายที่วิ่งมาซัดเธอเต็มแรงนั่นไม่ !

     

    สภาพคุณผู้หญิงคุณผู้หญิงผู้โชคร้ายที่แสนบอบบางนอนเท้เต้อยู่ที่พื้น เธอได้ยินเสียงโอ๊ะเสียงเดียว และก็จับใจความอะไรไม่ได้อีกเลยมีแต่ความตกใจ มึนงง และสับสนอยู่ในหัว นี่เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆเองนะไม่ใช่เสาไฟฟ้า ถึงได้มีใครมาชนแล้วต้องล้มหงายหลังไปแบบนั้น

     

     

    “คุณ ลุกไหวไหม

     

    ฮู้ดตัวหนาระดับแปดคลุมทั้งเนื้อตัวและหน้าตาของเธอคนนั้นไว้จนนทไม่อาจเห็นใบหน้านั้นได้ เธอจึงไม่รู้ว่าเขาเจ็บอะไรแค่ไหน เมื่อเธอพยายามจะขยับเข้าไปประคองให้ช่วยลุก ใครคนนั้นก็สะบัดเนื้อสะบัดตัวและลุกขึ้นเองพรวดพราดจนนทถอยหลัวหนีแทบไม่ทัน

     

    สาวปริศนาผู้โชคร้ายในฮู้ดดูหงุดหงิดงุ่นง่านจนนทรู้สึกผิดขึ้นมาเป็นกอง เธอได้ยินเสียงบ่นพึมพำแต่ฟังไม่รู้เรื่องลอยเข้าหูมาเนืองๆ

     

    ก่อนมันจะชัดเจนขึ้น เมื่อถึงประโยคสุดท้าย

     

     

    “อ่า ขอ เอ่อ”

     

    “หลบ !

     

    ชัดเจน เธอคนนั้นสะบัดหน้ามาสบตาเธอแว่บเดียว แต่ก็เป็นแว่บสั้นๆที่นทรู้สึกว่ามันแปลกประหลาดมากมาย

     

    อีกคนสั่งให้หลบ แต่คำแรกที่กุกกักว่าขออะไร ไม่มีคำใดต่อจากนั้น

     

    และไม่มีคำพูดใดจากเจ้าของแววตาดุดุนั่นอีกแล้ว ร่างบางๆนั่นเดินกระแทกส้นห่างออกไปอย่างชัดเจนว่าหงุดหงิดเต็มที ทิ้งคนเคยอารมณ์ดีให้ได้แต่มองตามไปอย่างงงๆ ผสมความรู้สึกผิดอยู่กลายๆ


     

     

    เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นไว สั้น กระชับ จนเธอตั้งตัวไม่ทันเลยนะ

     

     

    เอ่อ

     

    นี่เธอยัง งงๆ อยู่เลยนะ

     


     

    นทได้แต่ยืนเกาหัวแกรก แล้วมองร่างสูงโปร่งบอบบางของหญิงสาวปริศนานั่นไปจนสุดสายตา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

    หลังจากผ่านพ้นมื้อเช้าในตอนเกือบสาย คุณคนสวยซุ่มในชุดพลิ้วแสนสบาย ก็คิดหากิจกรรมทำนู่นทำนี่ได้ไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่เกาะเกี่ยวขบวนการบีบนมวัว ฝึกขี่ลาขี่ล่อ ปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่ป่า ให้อาหารเป็ด และอื่นๆอีกมากมาย โดยมีนทคอยเออออห่อหมกไปด้วยทุกอย่าง จนสุดท้าย มันก็มาสรุปลงตัวที่กิจกรรมสบายๆที่คนสองคนสามารถทำร่วมกันได้อย่างไม่ลำบากเกินไปนัก

     

    ขี่จักรยาน วนรอบฟาร์ม นั่นเอง

     


     

    “คุณนท ! อย่าปั่นเร็วสิ รอด้วย รอด้วยยยยย”

    เสียงสดใสโวยวายไล่ตามหลังมาอย่างกระชั้นในตอนแรก แต่ยิ่งออกแรงปั่นก็ยิ่งห่างกันออกไปทุกที นทเหลียวมองด้านหลังเป็นระยะ เห็นอีกคนกำลังตั้งอกตั้งใจออกแรงปั่นอย่างมุ่งมั่นก็นึกเอ็นดูจนยิ้มแก้มแทบปริ

     

    และไม่มีทีท่าว่าจะตามทันสักที นทเห็นใบหน้าแดงก่ำนั่นแล้วก็ให้สงสารจับใจ

     


     

    “อ่ะๆ นทชะลอก็ได้ค่ะ

     

    ยิ่งเห็นคนสวยพยายามยกมือขึ้นปาดเหงื่ออย่างทุลักทุเลก็ต้องต้องใจอ่อน นทส่งเสียงร้องบอกคนข้างหลังแล้วถอนหายใจเบาๆ ลดราจากการกลั่นแกล้งที่เธอเริ่มต้นมาตั้งแต่ออกตัว ยอมยกขาขึ้นจากขาปั่น กดเบรคลดความเร็วให้อยู่ในระดับที่คนงอแงน่าจะพอใจ ตามใจคนด้านหลังที่เอาแต่ร่ำร้องให้เธอรอ

     

    จักรยานทัวร์ริ่งสีชมพูหวานจ๋อย ค่อยๆพาตัวเองให้ช้าลงช้าลง รอคนข้างหลังที่กำลังหน้าดำคร่ำเคร่งสับขาปั่นให้ทันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย


     

    นทยิ้มละไม รอคอยการมาถึงของคนข้างหลังด้วยหัวใจที่กำลังเป็นสุข

     

     



     

    “คุณนท ช้าอีกนิดสิ คะ!

    เสียงคะสุดท้ายดูเหวี่ยงชอบกล ทำนทต้องแตะเบรกให้รถชะลอจนแทบหยุดนิ่ง รอคอยการมาถึงของคนข้างหลังที่ช้าเหลือเกิน จักรยานแม่บ้านโซ่ฝืดคันนั้นไร้สมรรถภาพมากจริงๆ จนเธออยากปลดประจำการมันเสียเดี๋ยวนี้

     

    แต่อีกเพียงอึดใจ คนสวยด้านหลังก็ฮึดจนเอาจักรยานของตัวเองมาปั่นอยู่ข้างกันจนได้ แต่ก็ไม่วายทำหน้าตามู่ทู่หาความกับเธอให้ได้อมยิ้มเอ็นดูกันอีกครั้ง

     

     

     

     

    “คุณนทอ่ะ ! แกรนด์แค่อยากออกมาปั่นจักรยานกินลมชมวิวชิลๆเอง ไม่เห็นอยากปั่นเร็วอย่างกับรถแข่งเลย คุณนทรีบเหรอคะ เหนื่อยนะ คนเขายิ่งปั่นไม่ค่อยเก่งอยู่”

     

    เสียงกระเง้ากระงอดงอแงจากคนสวยข้างตัว บ่นกันยาวยืด แถมดวงตาสวยๆนั่นก็ยังส่งค้อนวงใหญ่มาให้นทได้จิตใจหวั่นไหว หน้าขาวเนียนใส แดงระเรื่อ เหงื่อพราวเต็มใบหน้าจนน่าเอ็นดู พาให้คนตัวเล็กสุดติสท์ได้ยิ้มหวานตาปิดอย่างหลงใหลเต็มกำลัง

     

    น่ารักจัง คุณน่ารักที่สุดเลย

     


     

    “คุณนทไม่ต้องมายิ้มเลยค่ะ ตอนนี้ไม่น่ารัก”

    ไม่รู้จะลงที่อะไร คนสวยจึงได้แต่ลงกับรอยยิ้มใสซื่อที่เคยมัดใจเธอตลอดมามันยังคงมัดใจเธอได้อยู่ และน่ารักเหมือนที่เคยเห็น แต่ความเหนื่อยจากการจ้ำปั่นจักรยานตามหลังมาเป็นสิบนาที กำลังทำให้เธอหงุดหงิดและอยากทุบแผ่นหลังชุ่มเหงื่อนั่นสักอั้ก! โทษฐานไม่รอกันสักนิด

     


    เหนื่อยจะตายอยู่แล้วเห็นไหม!

    ยังจะมายิ้มน่ารักอยู่ได้ ชิ



     

    “โธ่ นทขอโทษค่ะ อย่าโกรธเลยนะ นทไม่ยิ้มแล้ว”

    คนโดนคาดโทษด้วยสายตาเลยได้แต่ส่งคำขอโทษไปกับรอยยิ้มที่พยายามกลั้นไว้แล้วอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ได้เท่านี้จริงๆ ท่าทางหงุดหงิด เสียงโวยวายของอีกคนไม่ได้น่ากลัวสักนิด ตรงกันข้าม คนสวยซุ่มข้างๆเธอกำลังน่ารักถึงขีดสุด เธอไม่อยากเชื่อว่าสาวสวยที่ดูเป็นผู้ใหญ่จะซ่อนอารมณ์เด็กไว้ได้มากมายเท่านี้

     

     

    แต่เพราะยิ้มที่เธอพยายามกลั้นไว้ มันไม่หายไปสักที คนตัวเล็กบ้าพลังจึงได้ค้อนไปอีกวงใหญ่ไปเต็มๆ

     

     

     

     

     

    “นทหยุดยิ้มไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะคะที่ยิ้มไม่น่ารัก แค่ตอนนี้”

    และเพราะมันน่ารักจนเกินจะทนไหว นทจึงฉีกยิ้มหวานเฉียบจริงใจส่งให้อีกคนอย่างสุดกลั้น น้อมรับสายตาดุๆจากคนสวยอย่างเต็มใจ มันมีเสน่ห์เหลือเกินสายตาคู่นั้น

     

    แม้จะดุจะงอนกัน แต่ก็ยังสวยจับใจ

     

     


     

    “งั้นแวะพักตรงคอฟฟี่ช็อปมุมนู้นไหมคะ เดี๋ยวนทเลี้ยงกาแฟคุณ ง้อเลย

    และเพราะยังอยากจะเอาใจคนเอาแต่ใจไม่สิ้นสุด นทจึงพยายามคิดหาวิธีที่จะทำให้คนกำลังเหนื่อยสบายทั้งกายและใจ เห็นหน้าตาน่าเอ็นดูที่พราวไปด้วยเหงื่อแบบนั้นแล้ว เธอก็ไม่อยากจะต้องให้คนสวยของเธอต้องมาตากแดดร้อนๆอีกแล้ว เธอหวงผิวสวยๆแบบนั้น ห่วงว่าคนบอบบางจะต้องเหนื่อยจนเกินไป

     


    และคอฟฟี่ช็อปบรรยากาศดีที่ท้ายฟาร์มคือคำตอบ



     

     

    มือนทชี้ไปตามทิศทาง ดึงดูดความสนใจคนสวยให้หันมอง

     

     
     

    “ไหนคะ

    คนปั่นจักรยานช้าๆข้างกันชะโงกตามมือเธอจนคอยาว ให้นทได้อมยิ้มอีกครั้งกับท่าทางน่ารักที่ไม่รู้จักเกรงใจคนมองสักนิด

     

    จักรยานสองคันปั่นเคียงกัน ความเร็วน้อยนิด จนใกล้จะนิ่งสนิทเข้าไปทุกที

     

     

     


     

    “แวะก็ได้ ไกลไหม ไม่ไหวแล้วนะคะ เหนื่อยมากเลยอ่ะ มากๆเลยอ่ะ

     

    หน้าตางอแงกระเง้ากระงอดระดับเก้ากำลังหมั่นละลายใจนทอย่างไม่สิ้นสุด จักรยานที่เคยอยู่เคียงกัน จู่ๆก็ห่างออกไปทุกที และนทก็รู้สึกเหมือนคนงอแงกำลังปั่นจักรยานถอยหลัง มากกว่าที่จะไปข้างหน้าเหมือนอย่างเมื่อกี๊

     

     

    “อ้าว

     


     

    คนสวยซุ่มกำลังเหนื่อยมากกกก มากจนไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรได้แล้วนอกจากงอแงจักรยานที่แทบจะไม่เคลื่อนที่แล้วจึงถูกเบรกเอาเสียดื้อๆ ไม่มีสัญญาณเตือนใดนอกจากอาการกระเง้ากระงอดที่เป็นมาตลอดทาง ให้นทที่ปั่นจักรยานเอื่อยๆต้องเบรกรถตามอย่างกะทันหัน วางขาตั้งลงข้างถนนจักรยานตรงนั้น แล้วปรี่เข้าไปหาทันใดเห็นคนสวยกำลังลงจากจักรยานเก่าคันนั้นอย่างทุลักทุเล

     

     

    มือนุ่มนิ่มสองข้างกำลังจับประคองจักรยานแม่บ้านคันนั้น สีหน้าท่าทางของแกรนด์เหมือนกับว่ามันหนักหนักเหลือเกิน จนนททนไม่ไหวต้องดึงมันมาถือไว้ซะเอง

     


     

    ภาพที่เกิดขึ้น จึงเป็นคนสองคนที่ยืนจ้องหน้ากัน คนนึงจะยิ้มก็ยิ้มไม่ออกอีกคนหนึ่ง ก็เหนื่อยจนไม่รู้จะทำอย่างไร


     

    เสียงหายใจของแกรนด์ ดังถี่ๆ เจ้าของลมหายใจกำลังพยายามพาอากาศเข้าไปให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะเป็นลมไปเสียก่อน

     

     

    ดวงตาหวานเฉียบเจือแววออดอ้อนน้อยๆ มองกันอยู่แบบนั้น ราวกับละลายนทให้กลายเป็นอะไรสักอย่างที่ควบคุมตัวเองไม่ได้

     

    เขินจัง



     

    เห็นสายตาออดอ้อนแบบนั้น เธอก็ชักรู้สึกว่าจักรยานนี่มันหนักใช่เล่นนะเนี่ย

     

     



     

    “คุณนท ขอซ้อนจักรยานหน่อยนะคะ เหนื่อยมากเลย

    คำขอเรียบๆง่ายๆ ที่ประกอบกับหน้าตาอ่อนแรงแล้วน่าสงสารจับใจ กำลังทำคนได้รับคำขอแล้วละลายลงไปอีกครั้ง โธ่ ไม่เห็นต้องขอกันด้วยสายตาแบบนี้ นทก็พาคุณซ้อนจักรยานนทอยู่แล้วค่ะ

     

    และคำขอที่แสนน่ารักแบบนั้น ถูกตอบรับในวินาทีถัดมาพร้อมรอยยิ้มเอ็นดูจากคนตัวเล็กบ้าพลัง… .ให้คนขอได้ยิ้มกว้างอย่างดีใจ


     

     

    จักรยานส่วนเกินถูกยกย้ายเข้าข้างทางและคนสองคนก็พากันไปขึ้นเจ้าทัวร์ริ่งสีชมพูสุดสวีท ก่อนที่นทจะออกตัวปั่นไป พร้อมกับใครบางคนที่นั่งยิ้มแป้นสบายใจอยู่เบาะเสริมด้านหลัง

     

     

    ลมเย็นๆพัดปะทะใบหน้าแกรนด์เอื่อยๆ การได้นั่งซ้อนมันแสนสบาย และพาให้เธอดื่มด่ำกับความสวยงามรอบตัวได้ถึงอารมณ์มากกว่าปั่นตามคุณนทเป็นไหนๆ

     

     

     


    นทเอี้ยวตัวมามองคนด้านหลังเพียงชั่วครู่ ส่งรอยยิ้มอ่อนโยนให้ พาให้หัวใจคนมองฟูๆแน่นคับอก จนต้องเสหลบสายตาเพราะอาการเขินที่ตีตื้นขึ้นมาจนทนไม่ไหว


     

    เมื่อไม่รู้จะหลบไปทางไหน แกรนด์ก็ขี้โกงด้วยการแอบหลบหลังเจ้าของสายตาหวานๆนั่นเสียเลย คนกำลังเขินยิ้มหวานฉ่ำ โอบแขนรอบเอวบางๆ เอนศีรษะซบแผ่นหลังชื้นเหงื่อนั่น อยากเอาความเหนื่อยล้าไปพักพิงไว้

     

     

    ถ้าจะเขิน ก็เขินไปด้วยกันนะคะคุณนท

     

     

     

     

    “นทหลังเปียกมากเลยอ่ะ เหม็นเหงื่อแย่เลย”

     

    นทบอกคนที่ซบกันอย่างเป็นกังวล แต่นั่นก็ไม่ได้นำพา เมื่อวงแขนบอบบางนั่น ยิ่งรัดรึงเอวของเธอเสียแน่นจนนทเขินขึ้นทุกที

     

    แกรนด์ยิ้มกับตัวเองบางๆ ยิ่งพินิจ ยิ่งมั่นใจว่าเธอหลงรักคนคนนี้จนถอนตัวและหัวใจไม่ขึ้นอีกแล้ว ไม่ใช่ใบหน้าหวานและรอยยิ้มสดใส แต่เป็นทั้งหมดที่คนคนนี้มี และวินาทีนี้ เธอหลงรักสัมผัสแผ่วเบาที่คอยอุ่นหัวใจเธอให้ไม่เหน็บหนาว มากกว่านั้น เธอยังปรารถนาที่จะกอดเอวคนคนนี้เอาไว้ เธอรู้สึกปลอดภัย แสนสบาย และมีความสุขจนอยากอยู่แบบนี้ตลอดไป

     


      

    “ไม่ไปไหนแล้วนะคะ กลับบ้านกันเถอะ

     

    คนสวยขยับศีรษะให้ถนัดกับการพิง ก่อนจะหลับตาลงบนแผ่นหลังนั้น หลังจากบัญชาสารถีสุดติสท์ว่าอยากกลับบ้าน ไม่อยากไปไหนแล้ว ไม่ว่าที่นั่นจะบรรยากาศดีแค่ไหนเธอก็ไม่คิดว่ามันจะดีไปกว่าที่ที่มีคุณนทแค่เธอและเขา แค่เรา อยู่ด้วยกัน

     

     

     

    “ค่ะ

     

     

    และความง่วงจัดกำลังเข้าครอบงำให้คนกำลังเหนื่อยล้า ต้องจมเข้าห้วงนิทราไปอย่างง่ายดาย

     

     

     

     


     

    นทเอี้ยวตัวมองคนสวยบนแผ่นหลัง เห็นอีกคนนิ่งเงียบ ก็พอจะเดาได้ว่าคงเหนื่อยจนอยากหลับตาพักผ่อนโถ คุณคนสวยซุ่มของนท แบตน้อยจริงเชียว นิดเดียว ก็หมดเรี่ยวแรงเสียแล้ว

     

     

    อารมณ์อ่อนโยนทำให้นทอยากทะนุถนอมคนกำลังพักผ่อนให้มากกว่านี้ มือข้างที่ไม่ได้จำเป็นมากนักในการบังคับจักรยาน จึงค่อยๆเลื่อนมาแตะสัมผัสแผ่วเบาที่หลังมือของอีกคน ส่งมอบความอบอุ่น บอกเจ้าหญิงนิทราให้ได้รับรู้เธอจะอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน

     

     

     

     

    “ฝันดีนะคะ

     

    นทบอกคนด้านหลังแผ่วเบา ราวกับไม่ต้องการให้ใครได้ยิน จักรยานที่ถูกปั่นอย่างเอาเป็นเอาตายมาตลอดทางถูกเปลี่ยนเป็นการบังคับอย่างสงบนิ่ง ช้าๆและระวังทุกการเคลื่อนไหวไม่ให้ไปรบกวนคนกำลังหลับสบายบนแผ่นหลังเธอ

     

     

     

     

    ความอบอุ่นหอมหวานห้อมล้อมรอบตัว จักรยานคันเดิมกำลังพาสองคนและหนึ่งความรัก ก้าวไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า แต่ทว่ามั่นคง แน่นอน และมันจะเป็นอย่างนี้เรื่อยไป

     

     

    นทกระชับมือตัวเองเข้ากับฝ่ามือที่โอบรอบตัวเธอไว้ รอยยิ้มละไมเจือใบหน้าตลอดทาง

     

     

     



     

     

    คุณได้ยินนทไหมคะ

     

    ชอบคุณ นทชอบคุณ

    ชอบจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว

     
     



     

     


     




    ว้าววว ไม่ได้อัพห้าวัน!
    ขอโทษค่ะ ยุ่งตลอดทุกวันเลยอ่า5555

    ถึงตอนนี้จะไม่น่ารัก แต่ก็หวังว่าจะทำให้คุณยิ้มได้บ้างนะ

    ขอให้ความรักละมุนละไมรายล้อมรอบตัวและหัวใจ

    #แล้วพบกันค่ะ :) 
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×