คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 ไม่น่ารัก
เขารักประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีคนที่เขารัก…
นั่นคือเหตุผลแรกที่ทำให้คุณเบิร์ทตัดสินใจทิ้งหน้าที่การงานจากบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อมาเริ่มธุรกิจเกษตรกรรมและการท่องเที่ยว มาทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องทำในชีวิตนี้…
แต่ยิ่งอยู่ไปนานๆ เขาก็ยิ่งรักที่นี่ และเหตุผลอีกมากมายก็ตามมาให้เขาได้หลงหลักปักฐานว่าจะอยู่ที่นี่อีกเป็นกระพรวน…
“สวัสดีครับ คุณเบิร์ท !”
เสียงผู้จัดการรีสอร์ทหนุ่มหล่อ ทักทายกันมาจากอีกฝั่งของถนน… ผู้ชายหน้าไทยชื่อเรียกยากคนนี้ คือคนที่คอยดูแลที่นี่ให้เติบโตอย่างจริงจัง… ในทุกเช้า เขาและนายกันนภัทร จะต้องพากันวิ่งแลกเปลี่ยนทัศนคติพร้อมออกกำลังกายไปรอบๆฟาร์ม ชมบรรยากาศสวยงามยามเช้าของเมืองเหนือ ก่อนจะแวะดื่มกาแฟยามสายกันที่คอฟฟี่ช็อปด้านหลังรีสอร์ท ที่จะเปิดบริการในตอนแปดโมงเช้า… และตอนนั้น กลิ่นกาแฟสดก็จะหอมกรุ่นไปทั่ว…
วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวัน ที่เขาและเพื่อนชาวไทยคนแรกของเขา จะได้ร่วมแลกเปลี่ยนทัศนคติและทักษะทางภาษากันอีกครั้ง…
“วันนี้ออกสายนะฮะ ผมวิ่งไปแล้วรอบนึง…”
ร่างสมส่วนตามมาตรฐานชายไทยวิ่งช้าๆมาหยุดลงตรงหน้าคุณเบิร์ท รอยยิ้มหวานจับใจของเขาถูกส่งให้นายจ้างอย่างต่อเนื่อง… แต่ภาษาไทยยาวรัวนั่นกำลังทำให้คนฟังเกิดอาการงงไม่น้อย… อ่า ก็เขายังไม่ได้ถนัดภาษาไทยขนาดนั้นนี่นะ
“อ่า… วิ่งๆ วิ่งกัน”
เพราะไม่รู้จะตอบอะไรดี หนุ่มใหญ่ชาวอเมริกันจึงเลือกที่จะเลี่ยงและเตรียมออกวิ่ง รับวิตามินดีและซึมซับบรรยากาศยามเช้าด้วยหัวใจที่เปิดโล่ง…
แต่ยังไม่ทันได้ออกวิ่ง สองขาก็ต้องสะดุดกึก…
“Daddy… wait !”
เสียงใสของสาวสวยดังลั่นพื้นที่สนามหญ้ากว้างๆ พร้อมกับที่เจ้าของเสียงในชุดวอร์มคลุมด้วยฮู้ดสีดำตัวหนาวิ่งกึ่งกระโดดลงมาจากบันไดบ้าน ฮู้ดตัวนั้นปิดหน้าปิดตา แต่ก็ไม่อาจปิดใบหน้าสดใสของคนในฮู้ดได้ รอยยิ้มนั้นกำลังน่ารักจนคนเป็นพ่อต้องหยุดวิ่งแล้วฉีกยิ้มตอบไปอย่างอารมณ์ดี
กันชะโงกหน้ามองผ่านเจ้านายในนาทีที่ยังไม่รู้ว่าเธอคนนั้นคือใคร… แต่พอได้เห็นรอยยิ้มสดใสนั่นเข้า ในอกซ้ายเขาก็เหมือนโดนแอทแทคเข้าอย่างจัง…
คุณหนูแอป… ลูกสาวคนเดียวของคุณเบิร์ทนี่เอง
กันเดินถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างทำตัวไม่ถูก… ใบหน้าคมเข้มซับสีเลือดฝาดอย่างเขินๆโดยไร้เหตุผล… ได้แต่แอบส่งสายตาหวานมองคนสวยที่กำลังน่ารักเกินพิกัด… น่ารักจนเขาแทบลืมวันเวลา
“อะ…อ่า อรุณ สวัสดิ์”
ภาษาไทยแปร่งหูดังตอบลูกสาวอย่างพยายามสุดความสามารถ พร้อมกับวาดวงแขนอบอุ่นคว้าเอาตัวลูกสาวคนสวยมาไว้ในอ้อมกอด เด็กหญิงตัวน้อยของคุณพ่อโอบรอบเอวกลมๆนั่นอย่างรักใคร่ ใบหน้าสวยสดใสซุกลงกับหน้าท้องนุ่มๆ สองคนพ่อลูกประสานเสียงหัวเราะกันเบาๆ… ปล่อยคนนอกอย่างกันในยืนมอง อมยิ้มในความน่ารักของสองพ่อลูกตรงหน้า
ก่อนที่อ้อมกอดนั้นจะคลายลง กันก็รวบรวมความกล้าส่งรอยยิ้มหวานๆให้สาวสวย พร้อมกับคิดส่งคำทักทายแนะนำตัวอย่างไม่อยากปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป
“สวัสดีครับคุณหนูแอป เราเจอกันแล้วเมื่อคืนในปาร์ตี้ แต่ผมยังไม่ได้แนะนำตัว ผมกัน นภัทร ฮะ”
แอปเปิ้ลยิ้มรับคำนั้นของเขา พยักหน้าราวกับว่ารู้เรื่องทั้งที่ไม่เข้าใจอะไรสักคำ… แต่ก็เนียนจนคนเป็นพ่อต้องแอบหัวเราะออกมาเบาๆเพราะรู้จักลูกสาวตัวเองดีกว่าใคร… แอปเปิ้ลเป็นอย่างนี้เสมอ แม้เขาจะเคี่ยวเข็ญให้เรียนภาษาไทยตั้งแต่ยังเด็ก แต่แอปเปิ้ลก็แทบไม่ค่อยได้ใช้ จนสกิลด้านภาษาไทยต่ำเตี้ยเรี่ยดิน… เขาที่เป็นพ่อ และไม่เคยลงคอร์สเรียนภาษาไทยจริงๆจังๆ ยังพูดได้คล่องมากกว่า…
“He’s Gun Napat , a manager of our resort”
และเพราะกลัวลูกสาวจะทำตัวไม่ถูกไปมากกว่านี้ คนเป็นพ่อเลยช่วยแปลคร่าวๆแล้วกระซิบใส่หูให้ลูกสาวได้พยักหน้าหงึกหงัก… อ๋อ เขาคนนี้เป็นผู้จัดการรีสอร์ทนี่เอง ชื่อกัน นาพัด…
กัน ปืน ปิ้วๆ… ใช่ไหม…
แล้วนาพัดล่ะ อะไรนะ…
แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวเธอก็ลืมชื่อมิสเตอร์ยิ้มหวานนี่แล้วล่ะ… ในอีกไม่กี่ชั่วโมงหรอก
แอปเปิ้ลฉีกยิ้มให้มิสเตอร์กันหน้าหวาน ก่อนจะเอื้อมมือดึงฮู้ดให้ลงมาปิดหน้าปิดตาตามเดิม ถึงเธอจะรู้ว่าแดดตอนเช้ามันมีประโยชน์แค่ไหน แต่เธอก็ไม่อภิรมย์นัก ที่จะโดนแดดแผดเผาให้ผิวสวยๆต้องเสีย…
แม้จะเช้า แต่มันก็ยังร้อนเกินไป… สำหรับเธอ
“วิ่งกันเถอะครับ ไม่งั้นเดี๋ยวสายจะร้อน…”
กันหันมาชักชวนสองพ่อลูกพร้อมกับยกขึ้นผ้าขนหนูมาซับหน้า… สามคนจึงออกวิ่งพร้อมกัน… และมีคุณเบิร์ทกับมิสเตอร์ยิ้มหวานส่งเสียงพูดคุยกันไปตลอดเส้นทาง…
เช้าตรู่… ตะวันทอแสงสดใสสว่างทั้งฟ้า… อากาศดี๊ดี… แต่คนตรงนี้ อารมณ์ดี๊ดียิ่งกว่าอากาศ…
นทนั่งถ่ายรูปลมฟ้าอากาศ เก็บใส่กล้องจนหนำใจ สูดออกซิเจนบริสุทธิ์เฮือกแล้วเฮือกเล่า… เดินเตร่ไปเตร่มา… รอใครบางคนที่นัดกันไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะไปทานมื้อเช้าพร้อมกัน…
ซึ่งเธอก็บ้า ตื่นมารอตั้งแต่เจ็ดโมง…
ทั้งที่เมื่อคืนกว่าจะเดินชมดาวกันถึงบ้านพัก ก็ดึกดื่นค่อนคืนจนพ้นผ่านวันไปเสียแล้ว…
ความสุขในความรักกำลังทำให้ทุกอย่างในโลกสวยงาม ตอนเช้ามันน่าตื่น… และเมื่อคืนก็น่านอน… เธอหลับตานิ่งสนิทในวงล้อมของผ้าห่มอบอุ่น จินตนาการว่าเป็นเนื้อตัวนุ่มนิ่มของใครบางคนในอ้อมแขนแทนหมอนข้าง…
เสียงหวานๆและรอยยิ้มตราตรึงจับใจเธอ ทั้งหมดกำลังทำให้เธอตกอยู่ในภวังค์…อยู่ในกำมือนุ่มๆนั่นทั้งตัวและหัวใจ จะบีบก็ตาย จะคลาย ก็คงไม่ไปไหน…
ใครมาเห็นเธอยิ้มในตอนนี้ คงคิดว่าเธอบ้า
ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่งตัวเซอร์ๆเสื้อผ้าย้วยๆ เดินยิ้มไปยิ้มมาช้าๆ… ไม่สนใจใคร โลกทั้งใบมีแค่ตัวกับคนในหัวใจ…
ไม่มีใครจริงๆ… ไม่มีใครแล้ว…
พลั่ก !!
“โอ๊ะ…”
เอ้า ! นึกว่าไม่มีใครแล้วนี่หว่า
“เห้ย… ขอโทษค่ะ ขอโทษๆ ไม่ทันมอง ขอโทษจริงๆค่ะ”
นทตกใจจนแทบหวีด กับแรงกระแทกที่พุ่งชนเธอจนเซ โชคดีที่เธอไม่ล้มลง… แต่หญิงสาวผู้โชคร้ายที่วิ่งมาซัดเธอเต็มแรงนั่นไม่ !
สภาพคุณผู้หญิงคุณผู้หญิงผู้โชคร้ายที่แสนบอบบางนอนเท้เต้อยู่ที่พื้น… เธอได้ยินเสียงโอ๊ะเสียงเดียว และก็จับใจความอะไรไม่ได้อีกเลย… มีแต่ความตกใจ มึนงง และสับสนอยู่ในหัว นี่เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆเองนะไม่ใช่เสาไฟฟ้า ถึงได้มีใครมาชนแล้วต้องล้มหงายหลังไปแบบนั้น…
“คุณ ลุกไหวไหม…”
ฮู้ดตัวหนาระดับแปดคลุมทั้งเนื้อตัวและหน้าตาของเธอคนนั้นไว้จนนทไม่อาจเห็นใบหน้านั้นได้… เธอจึงไม่รู้ว่าเขาเจ็บอะไรแค่ไหน… เมื่อเธอพยายามจะขยับเข้าไปประคองให้ช่วยลุก ใครคนนั้นก็สะบัดเนื้อสะบัดตัวและลุกขึ้นเองพรวดพราดจนนทถอยหลัวหนีแทบไม่ทัน
สาวปริศนาผู้โชคร้ายในฮู้ดดูหงุดหงิดงุ่นง่านจนนทรู้สึกผิดขึ้นมาเป็นกอง… เธอได้ยินเสียงบ่นพึมพำแต่ฟังไม่รู้เรื่องลอยเข้าหูมาเนืองๆ…
ก่อนมันจะชัดเจนขึ้น เมื่อถึงประโยคสุดท้าย…
“อ่า… ขอ… เอ่อ”
“หลบ !”
ชัดเจน… เธอคนนั้นสะบัดหน้ามาสบตาเธอแว่บเดียว… แต่ก็เป็นแว่บสั้นๆที่นทรู้สึกว่ามันแปลกประหลาดมากมาย…
อีกคนสั่งให้หลบ… แต่คำแรกที่กุกกักว่าขออะไร ไม่มีคำใดต่อจากนั้น…
และไม่มีคำพูดใดจากเจ้าของแววตาดุดุนั่นอีกแล้ว… ร่างบางๆนั่นเดินกระแทกส้นห่างออกไปอย่างชัดเจนว่าหงุดหงิดเต็มที ทิ้งคนเคยอารมณ์ดีให้ได้แต่มองตามไปอย่างงงๆ ผสมความรู้สึกผิดอยู่กลายๆ…
เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นไว สั้น… กระชับ จนเธอตั้งตัวไม่ทันเลยนะ…
เอ่อ…
นี่เธอยัง งงๆ อยู่เลยนะ…
นทได้แต่ยืนเกาหัวแกรก แล้วมองร่างสูงโปร่งบอบบางของหญิงสาวปริศนานั่นไปจนสุดสายตา…
.
.
หลังจากผ่านพ้นมื้อเช้าในตอนเกือบสาย… คุณคนสวยซุ่มในชุดพลิ้วแสนสบาย ก็คิดหากิจกรรมทำนู่นทำนี่ได้ไม่หยุดหย่อน… ตั้งแต่เกาะเกี่ยวขบวนการบีบนมวัว ฝึกขี่ลาขี่ล่อ ปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่ป่า ให้อาหารเป็ด และอื่นๆอีกมากมาย โดยมีนทคอยเออออห่อหมกไปด้วยทุกอย่าง จนสุดท้าย มันก็มาสรุปลงตัวที่กิจกรรมสบายๆที่คนสองคนสามารถทำร่วมกันได้อย่างไม่ลำบากเกินไปนัก
ขี่จักรยาน… วนรอบฟาร์ม นั่นเอง
“คุณนท ! อย่าปั่นเร็วสิ รอด้วย… รอด้วยยยยย”
เสียงสดใสโวยวายไล่ตามหลังมาอย่างกระชั้นในตอนแรก แต่ยิ่งออกแรงปั่นก็ยิ่งห่างกันออกไปทุกที… นทเหลียวมองด้านหลังเป็นระยะ เห็นอีกคนกำลังตั้งอกตั้งใจออกแรงปั่นอย่างมุ่งมั่นก็นึกเอ็นดูจนยิ้มแก้มแทบปริ
และไม่มีทีท่าว่าจะตามทันสักที… นทเห็นใบหน้าแดงก่ำนั่นแล้วก็ให้สงสารจับใจ
“อ่ะๆ นทชะลอก็ได้ค่ะ…”
ยิ่งเห็นคนสวยพยายามยกมือขึ้นปาดเหงื่ออย่างทุลักทุเลก็ต้องต้องใจอ่อน นทส่งเสียงร้องบอกคนข้างหลังแล้วถอนหายใจเบาๆ ลดราจากการกลั่นแกล้งที่เธอเริ่มต้นมาตั้งแต่ออกตัว ยอมยกขาขึ้นจากขาปั่น กดเบรคลดความเร็วให้อยู่ในระดับที่คนงอแงน่าจะพอใจ ตามใจคนด้านหลังที่เอาแต่ร่ำร้องให้เธอรอ
จักรยานทัวร์ริ่งสีชมพูหวานจ๋อย ค่อยๆพาตัวเองให้ช้าลง… ช้าลง รอคนข้างหลังที่กำลังหน้าดำคร่ำเคร่งสับขาปั่นให้ทันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
นทยิ้มละไม… รอคอยการมาถึงของคนข้างหลังด้วยหัวใจที่กำลังเป็นสุข
“คุณนท… ช้าอีกนิดสิ… คะ!”
เสียงคะสุดท้ายดูเหวี่ยงชอบกล… ทำนทต้องแตะเบรกให้รถชะลอจนแทบหยุดนิ่ง รอคอยการมาถึงของคนข้างหลังที่ช้าเหลือเกิน… จักรยานแม่บ้านโซ่ฝืดคันนั้นไร้สมรรถภาพมากจริงๆ จนเธออยากปลดประจำการมันเสียเดี๋ยวนี้…
แต่อีกเพียงอึดใจ คนสวยด้านหลังก็ฮึดจนเอาจักรยานของตัวเองมาปั่นอยู่ข้างกันจนได้ แต่ก็ไม่วายทำหน้าตามู่ทู่หาความกับเธอให้ได้อมยิ้มเอ็นดูกันอีกครั้ง …
“คุณนทอ่ะ ! แกรนด์แค่อยากออกมาปั่นจักรยานกินลมชมวิวชิลๆเอง ไม่เห็นอยากปั่นเร็วอย่างกับรถแข่งเลย คุณนทรีบเหรอคะ… เหนื่อยนะ คนเขายิ่งปั่นไม่ค่อยเก่งอยู่”
เสียงกระเง้ากระงอดงอแงจากคนสวยข้างตัว บ่นกันยาวยืด… แถมดวงตาสวยๆนั่นก็ยังส่งค้อนวงใหญ่มาให้นทได้จิตใจหวั่นไหว… หน้าขาวเนียนใส แดงระเรื่อ เหงื่อพราวเต็มใบหน้าจนน่าเอ็นดู… พาให้คนตัวเล็กสุดติสท์ได้ยิ้มหวานตาปิดอย่างหลงใหลเต็มกำลัง
น่ารักจัง… คุณน่ารักที่สุดเลย
“คุณนทไม่ต้องมายิ้มเลยค่ะ… ตอนนี้ไม่น่ารัก”
ไม่รู้จะลงที่อะไร คนสวยจึงได้แต่ลงกับรอยยิ้มใสซื่อที่เคยมัดใจเธอตลอดมา… มันยังคงมัดใจเธอได้อยู่ และน่ารักเหมือนที่เคยเห็น แต่ความเหนื่อยจากการจ้ำปั่นจักรยานตามหลังมาเป็นสิบนาที กำลังทำให้เธอหงุดหงิดและอยากทุบแผ่นหลังชุ่มเหงื่อนั่นสักอั้ก! โทษฐานไม่รอกันสักนิด
เหนื่อยจะตายอยู่แล้วเห็นไหม!
ยังจะมายิ้มน่ารักอยู่ได้ ชิ
“โธ่… นทขอโทษค่ะ อย่าโกรธเลยนะ นทไม่ยิ้มแล้ว”
คนโดนคาดโทษด้วยสายตาเลยได้แต่ส่งคำขอโทษไปกับรอยยิ้มที่พยายามกลั้นไว้แล้วอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ได้เท่านี้จริงๆ… ท่าทางหงุดหงิด เสียงโวยวายของอีกคนไม่ได้น่ากลัวสักนิด ตรงกันข้าม คนสวยซุ่มข้างๆเธอกำลังน่ารักถึงขีดสุด เธอไม่อยากเชื่อว่าสาวสวยที่ดูเป็นผู้ใหญ่จะซ่อนอารมณ์เด็กไว้ได้มากมายเท่านี้…
แต่เพราะยิ้มที่เธอพยายามกลั้นไว้ มันไม่หายไปสักที… คนตัวเล็กบ้าพลังจึงได้ค้อนไปอีกวงใหญ่ไปเต็มๆ…
“นทหยุดยิ้มไม่ได้จริงๆ… ขอโทษนะคะที่ยิ้มไม่น่ารัก… แค่ตอนนี้”
และเพราะมันน่ารักจนเกินจะทนไหว นทจึงฉีกยิ้มหวานเฉียบจริงใจส่งให้อีกคนอย่างสุดกลั้น น้อมรับสายตาดุๆจากคนสวยอย่างเต็มใจ มันมีเสน่ห์เหลือเกินสายตาคู่นั้น…
แม้จะดุจะงอนกัน แต่ก็ยังสวยจับใจ…
“งั้นแวะพักตรงคอฟฟี่ช็อปมุมนู้นไหมคะ เดี๋ยวนทเลี้ยงกาแฟคุณ ง้อเลย…”
และเพราะยังอยากจะเอาใจคนเอาแต่ใจไม่สิ้นสุด นทจึงพยายามคิดหาวิธีที่จะทำให้คนกำลังเหนื่อยสบายทั้งกายและใจ เห็นหน้าตาน่าเอ็นดูที่พราวไปด้วยเหงื่อแบบนั้นแล้ว เธอก็ไม่อยากจะต้องให้คนสวยของเธอต้องมาตากแดดร้อนๆอีกแล้ว… เธอหวงผิวสวยๆแบบนั้น ห่วงว่าคนบอบบางจะต้องเหนื่อยจนเกินไป…
และคอฟฟี่ช็อปบรรยากาศดีที่ท้ายฟาร์มคือคำตอบ…
มือนทชี้ไปตามทิศทาง ดึงดูดความสนใจคนสวยให้หันมอง…
“ไหนคะ…”
คนปั่นจักรยานช้าๆข้างกันชะโงกตามมือเธอจนคอยาว… ให้นทได้อมยิ้มอีกครั้งกับท่าทางน่ารักที่ไม่รู้จักเกรงใจคนมองสักนิด…
จักรยานสองคันปั่นเคียงกัน ความเร็วน้อยนิด… จนใกล้จะนิ่งสนิทเข้าไปทุกที…
“แวะก็ได้ ไกลไหม… ไม่ไหวแล้วนะคะ เหนื่อยมากเลยอ่ะ มากๆเลยอ่ะ…”
หน้าตางอแงกระเง้ากระงอดระดับเก้ากำลังหมั่นละลายใจนทอย่างไม่สิ้นสุด… จักรยานที่เคยอยู่เคียงกัน จู่ๆก็ห่างออกไปทุกที และนทก็รู้สึกเหมือนคนงอแงกำลังปั่นจักรยานถอยหลัง… มากกว่าที่จะไปข้างหน้าเหมือนอย่างเมื่อกี๊
“อ้าว…”
คนสวยซุ่มกำลังเหนื่อยมากกกก… มากจนไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรได้แล้วนอกจากงอแง… จักรยานที่แทบจะไม่เคลื่อนที่แล้วจึงถูกเบรกเอาเสียดื้อๆ… ไม่มีสัญญาณเตือนใดนอกจากอาการกระเง้ากระงอดที่เป็นมาตลอดทาง… ให้นทที่ปั่นจักรยานเอื่อยๆต้องเบรกรถตามอย่างกะทันหัน วางขาตั้งลงข้างถนนจักรยานตรงนั้น แล้วปรี่เข้าไปหาทันใดเห็นคนสวยกำลังลงจากจักรยานเก่าคันนั้นอย่างทุลักทุเล…
มือนุ่มนิ่มสองข้างกำลังจับประคองจักรยานแม่บ้านคันนั้น สีหน้าท่าทางของแกรนด์เหมือนกับว่ามันหนัก… หนักเหลือเกิน จนนททนไม่ไหวต้องดึงมันมาถือไว้ซะเอง…
ภาพที่เกิดขึ้น จึงเป็นคนสองคนที่ยืนจ้องหน้ากัน คนนึงจะยิ้มก็ยิ้มไม่ออก… อีกคนหนึ่ง ก็เหนื่อยจนไม่รู้จะทำอย่างไร
เสียงหายใจของแกรนด์… ดังถี่ๆ เจ้าของลมหายใจกำลังพยายามพาอากาศเข้าไปให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะเป็นลมไปเสียก่อน…
ดวงตาหวานเฉียบเจือแววออดอ้อนน้อยๆ… มองกันอยู่แบบนั้น ราวกับละลายนทให้กลายเป็นอะไรสักอย่างที่ควบคุมตัวเองไม่ได้
เขินจัง…
เห็นสายตาออดอ้อนแบบนั้น เธอก็ชักรู้สึกว่าจักรยานนี่มันหนักใช่เล่นนะเนี่ย…
“คุณนท ขอซ้อนจักรยานหน่อยนะคะ เหนื่อยมากเลย…”
คำขอเรียบๆง่ายๆ ที่ประกอบกับหน้าตาอ่อนแรงแล้วน่าสงสารจับใจ กำลังทำคนได้รับคำขอแล้วละลายลงไปอีกครั้ง… โธ่ ไม่เห็นต้องขอกันด้วยสายตาแบบนี้ นทก็พาคุณซ้อนจักรยานนทอยู่แล้วค่ะ
และคำขอที่แสนน่ารักแบบนั้น ถูกตอบรับในวินาทีถัดมาพร้อมรอยยิ้มเอ็นดูจากคนตัวเล็กบ้าพลัง… .ให้คนขอได้ยิ้มกว้างอย่างดีใจ…
จักรยานส่วนเกินถูกยกย้ายเข้าข้างทาง… และคนสองคนก็พากันไปขึ้นเจ้าทัวร์ริ่งสีชมพูสุดสวีท ก่อนที่นทจะออกตัวปั่นไป พร้อมกับใครบางคนที่นั่งยิ้มแป้นสบายใจอยู่เบาะเสริมด้านหลัง
ลมเย็นๆพัดปะทะใบหน้าแกรนด์เอื่อยๆ… การได้นั่งซ้อนมันแสนสบาย… และพาให้เธอดื่มด่ำกับความสวยงามรอบตัวได้ถึงอารมณ์มากกว่าปั่นตามคุณนทเป็นไหนๆ
นทเอี้ยวตัวมามองคนด้านหลังเพียงชั่วครู่… ส่งรอยยิ้มอ่อนโยนให้ พาให้หัวใจคนมองฟูๆแน่นคับอก จนต้องเสหลบสายตาเพราะอาการเขินที่ตีตื้นขึ้นมาจนทนไม่ไหว
เมื่อไม่รู้จะหลบไปทางไหน แกรนด์ก็ขี้โกงด้วยการแอบหลบหลังเจ้าของสายตาหวานๆนั่นเสียเลย คนกำลังเขินยิ้มหวานฉ่ำ โอบแขนรอบเอวบางๆ… เอนศีรษะซบแผ่นหลังชื้นเหงื่อนั่น อยากเอาความเหนื่อยล้าไปพักพิงไว้…
ถ้าจะเขิน ก็เขินไปด้วยกันนะคะคุณนท…
“นทหลังเปียกมากเลยอ่ะ… เหม็นเหงื่อแย่เลย”
นทบอกคนที่ซบกันอย่างเป็นกังวล… แต่นั่นก็ไม่ได้นำพา เมื่อวงแขนบอบบางนั่น ยิ่งรัดรึงเอวของเธอเสียแน่นจนนทเขินขึ้นทุกที
แกรนด์ยิ้มกับตัวเองบางๆ ยิ่งพินิจ ยิ่งมั่นใจว่าเธอหลงรักคนคนนี้จนถอนตัวและหัวใจไม่ขึ้นอีกแล้ว ไม่ใช่ใบหน้าหวานและรอยยิ้มสดใส แต่เป็นทั้งหมดที่คนคนนี้มี … และวินาทีนี้ เธอหลงรักสัมผัสแผ่วเบาที่คอยอุ่นหัวใจเธอให้ไม่เหน็บหนาว มากกว่านั้น… เธอยังปรารถนาที่จะกอดเอวคนคนนี้เอาไว้ … เธอรู้สึกปลอดภัย แสนสบาย และมีความสุขจนอยากอยู่แบบนี้ตลอดไป
“ไม่ไปไหนแล้วนะคะ กลับบ้านกันเถอะ…”
คนสวยขยับศีรษะให้ถนัดกับการพิง ก่อนจะหลับตาลงบนแผ่นหลังนั้น… หลังจากบัญชาสารถีสุดติสท์ว่าอยากกลับบ้าน ไม่อยากไปไหนแล้ว… ไม่ว่าที่นั่นจะบรรยากาศดีแค่ไหน… เธอก็ไม่คิดว่ามันจะดีไปกว่าที่ที่มีคุณนท… แค่เธอและเขา แค่เรา… อยู่ด้วยกัน
“ค่ะ…”
และความง่วงจัดกำลังเข้าครอบงำให้คนกำลังเหนื่อยล้า ต้องจมเข้าห้วงนิทราไปอย่างง่ายดาย
นทเอี้ยวตัวมองคนสวยบนแผ่นหลัง เห็นอีกคนนิ่งเงียบ… ก็พอจะเดาได้ว่าคงเหนื่อยจนอยากหลับตาพักผ่อน… โถ คุณคนสวยซุ่มของนท แบตน้อยจริงเชียว นิดเดียว ก็หมดเรี่ยวแรงเสียแล้ว…
อารมณ์อ่อนโยนทำให้นทอยากทะนุถนอมคนกำลังพักผ่อนให้มากกว่านี้ มือข้างที่ไม่ได้จำเป็นมากนักในการบังคับจักรยาน จึงค่อยๆเลื่อนมาแตะสัมผัสแผ่วเบาที่หลังมือของอีกคน ส่งมอบความอบอุ่น บอกเจ้าหญิงนิทราให้ได้รับรู้เธอจะอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน…
“ฝันดีนะคะ…”
นทบอกคนด้านหลังแผ่วเบา ราวกับไม่ต้องการให้ใครได้ยิน… จักรยานที่ถูกปั่นอย่างเอาเป็นเอาตายมาตลอดทางถูกเปลี่ยนเป็นการบังคับอย่างสงบนิ่ง ช้าๆ… และระวังทุกการเคลื่อนไหวไม่ให้ไปรบกวนคนกำลังหลับสบายบนแผ่นหลังเธอ…
ความอบอุ่นหอมหวานห้อมล้อมรอบตัว… จักรยานคันเดิมกำลังพาสองคนและหนึ่งความรัก ก้าวไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า แต่ทว่ามั่นคง… แน่นอน และมันจะเป็นอย่างนี้เรื่อยไป
นทกระชับมือตัวเองเข้ากับฝ่ามือที่โอบรอบตัวเธอไว้… รอยยิ้มละไมเจือใบหน้าตลอดทาง…
คุณได้ยินนทไหมคะ…
ชอบคุณ… นทชอบคุณ
ชอบจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว…
ว้าววว ไม่ได้อัพห้าวัน!
ขอโทษค่ะ ยุ่งตลอดทุกวันเลยอ่า5555
ถึงตอนนี้จะไม่น่ารัก แต่ก็หวังว่าจะทำให้คุณยิ้มได้บ้างนะ
ขอให้ความรักละมุนละไมรายล้อมรอบตัวและหัวใจ
#แล้วพบกันค่ะ :)
ความคิดเห็น