ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Ts7} ปาดับปา.วับวาว' #noteapp :)

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 FRAGILE

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.พ. 55


     



    "อ่ะ นี่แกรบกวนฉันมากเลยนะแอป ! พี่พราวมองฉันตาเขียวตอนฉันขอเบอร์พี่นท ฉันนี่แก้ตัวแทบไม่ทัน !!!!"

     

    เด็กหญิงมุกในวันวาน โตขึ้นเป็นสาวห้าวสวยสะพรั่ง ... แต่ยังคงรักษาดวงตาตี่ๆ และมิตรภาพเดิมๆไว้ได้ไม่เปลี่ยนแปลง เธอเดินเข้ามาในห้องนอนเจ้าแอปเปิ่นเพื่อนสนิท พร้อมกับเสียงโวยวายแล้วกระดาษแผ่นใหญ่เท่าบ้าน ใบกระดาษเต็มไปด้วยสีน้ำเงินเข้มของมาร์กเกอร์ ที่เจ้ามุก ... เจ้าแม่จอมลายมือบรรจงคัดมาฝากเพื่อนรักโดยเฉพาะ

     

    และแอปเปิ่นตัวแสบก็แทบกระโจนไปตะครุบกระดาษแผ่นนั้นแทบไม่ทัน

     

    "เฮ้ยมุก แกแม่งเพื่อนแท้ว่ะ อร๊ายยยยยยย" ทันทีที่แอปเปิ้ลเมมมันลงโทรศัพท์ได้ เสียงกรี๊ดกร๊าดวี๊ดว๊ายก็ดังไม่หยุดปาก กระดาษทั้งแผ่นแทบจะยับแยกแตกสลายอยู่ในมือแอปเปิ้ล เสียงดังจนเพื่อนมุกต้องเอื้อมมือไปผลักหัวมันแรงๆเพราะทนไม่ไหวจริงๆ

     

    "ไปแล้วนะ พี่พราวจอดรถรออยู่หน้าบ้าน แถมให้เวลาฉันแค่สิบห้านาที คนไรไม่รู้โคตรขี้หึงเลย ไปล่ะๆแอป"

     

    แอปเปิ้ลนอนแผ่บนเตียง ใบหน้ายังคงยิ้มหวานอย่างมีความสุข พยักหน้าฟังคำร่ำลาของมุกเฉยๆ แถมยกมือโบกเพื่อลามุกอีกด้วย มุกก็ได้โคลงหัวไปมาอย่างอ่อนใจ ก่อนที่ร่างสูงเกินมาตรฐานหญิงไทย จะลับจากประตูห้องไปในที่สุด

     

    เกือบอาทิตย์ที่คิดหัวแทบแตก เธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะไปสืบหาเลขสิบตัวของพี่นทได้จากที่ไหน ... อยากจะทุบหัวตัวเองเสียให้บุบไปข้างในความงี่เง่าไม่เข้าท่าของตัวเอง ให้เบอร์ไปอย่างกับเขาจะโทรกลับ ป่านนี้ลงถังขยะไปแล้วหรือยังก็ไม่รู้

     

    และเป็นจังหวะเดียวกันที่ไอ้เพื่อนมุกสุดที่รัก โทรไมาไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกันพอดี ! หัวสมองลิงอย่างแอปเปิ้ลเลยแล่นฉิวหวิวทันใด

     

    ไอ้เจ้ามุก ... ไอ้เพื่อนรักที่คบกันมาเกินสิบปี สาวห้าวที่หงอกลัวแฟนยิ่งกว่าใคร ... เธอ มุก และซิลวี่ แยกกันจริงจังก็เมื่อตอนม.6 โดยเธอเป็นเด็กประหลาดคนเดียวที่ได้เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในใจกลางเมืองแบบนี้ ส่วนเพื่อนอีกสองคน สอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดังที่มีวิทยาเขตอยู่แถวรังสิต ระยะห่างระหว่างกันจึงเกิดขึ้นบ้างตามระยะทางที่ไกลกันเหลือเกิน เธอเก็บเสื้อผ้ามาอยู่คอนโดกับพี่สาวที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ได้รับรู้ข่าวสารของไอ้เจ้ามุกบ้าง แต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดลึกใดใดเลย

     

    รู้แค่ว่าโชคชะตาพาพี่พราวมาคืนยังอ้อมอกของมุก ... และไอ้มุกก็ทำบุญมามากพอที่จะทำให้พี่พราวยอมทิ้งชีวิตสวยหรูไว้ในมือลูกสาวเจ้าของร้านทองอย่างมัน

     

     

    ส่วนตอนนี้ เป็นคิวของเธอ ...

    และเธอคงต้องขอบคุณไอ้เพื่อนมุกที่ช่วยเอาเบอร์พี่นทมาให้กันจนได้ ... ขอบคุณจริงๆ ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องงมโข่งไปอีกนานแค่ไหน

     

     

    กับการมอง พี่นท ผู้หญิงเพียบพร้อมที่เกิดมาพรั่งพร้อมไปด้วยคุณสมบัติโดดเด่นนานับประการ

    และสามอย่างเด่นๆ ... สวย รวย เก่ง

     

    และแอปเปิ้ล ...

    เด็กผู้หญิงโคตรธรรมดา ที่ฟ้าไม่ได้ให้อะไรมาเลยนอกจากพี่สาวที่โคตรจะโดดเด่นกว่าในทุกๆด้านคนหนึ่ง เด็กบ๊องที่ไม่มีใครเข้าใจ เด็กบ้าที่ไม่มีใครรัก คนกวนประสาทที่แทบจะโดนรุมสกรัมในแต่ละที ... ไม่มีอะไรดีดีจะไปเทียบชั้นพี่นทได้เลย

     

    จะเอาอะไรไปหวัง ว่าผู้หญิงอย่างนั้นจะหันมามอง ...

    แล้วที่สำคัญ เราเป็นผู้หญิงด้วยกัน ...

     

    "... เอ้า โทรโทรโทร !"

     

    เสียงเชียร์อัพตัวเองของแอปเปิ้ลดังขึ้น ... เล่นออกมาจากสมอง คัดกรองไหลผ่านมาสู่เส้นเสียง และไล่เลียงออกมาตามริมฝีปาก กำลังใจมาเต็ม ! แค่คิดถึงหน้าพี่นท แค่นั้นเอง

     

    เพราะที่สำคัญกว่านั้น ...

    ความรักน่ะมีหลากหลาย แต่คนเดียวที่มีความหมาย จะยอมทิ้งไปคงเศร้า :)

     

    ไอ้หมวยมุกสอยดาวแพรวพราวมาได้ ทำไมไอ้แอปจะทำไม่ได้บ้างวะ !!!!

    สู้เว้ยย ไอ้แอป !

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     



    หนทางยังดูเหมือนเดิม มีแสงไฟมีผู้คนรอบกาย

    จากคนร้อยพันที่ยืนใกล้กัน กลับรู้สึกว่าไกลแสนไกล

    อะไรมันหายไป จากหัวใจของเรา ....

     

     

     

    เช้าวันจันทร์ที่มีเรียนทฤษฎีดนตรี3ตั้งแต่เก้าโมง ทวนครั้งสุดท้ายก่อนสอบย่อย นทเดินถือสมุดทำมือที่แต่ละหน้าเป็นกระดาษสต๊าฟสำหรับเขียนโน๊ตกับปากกาแท่งโปรด ลงจากรถหลังจากทิ้งมันไว้ในที่สำหรับจอดรถอย่างไว้วางใจ ... เธอเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยศิลปะแห่งหนึ่ง ศึกษาอยู่ในคณะดุริยางคศาสตร์สาขาการแสดงดนตรี เป็นน้องที่นอกคอกและลูกสาวที่น่าผิดหวัง ... ใครๆต่างก็บอกตรงกันว่ามันสมองของเธอน่าจะมีมากพอให้เรียนอะไรที่คุ้มค่ากับวัตถุดิบมากกว่านี้ แต่สำหรับนทแล้ว นี่คือกรรมวิธีที่เหมาะสมกับส่วนประกอบที่สุดในโลก ... เธอมีความรักในดนตรีที่แน่วแน่และมั่นคง มีฝีมือที่สามารถพัฒนาได้ไม่ยาก และมีความสามารถพอที่จะฝ่าฟันมาเป็นหนึ่งในร้อยสามสิบห้าคนของรุ่นได้ ... เพียงรอระยะเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น เธอจะต้องเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้ครอบครัวภูมิใจ

     

    นี่ก็เพิ่งจะแปดโมงเช้า เพื่อนร่วมเซคยังไม่มีใครมาแม้สักคน ... นทนั่งแปะลงที่โต๊ะไม้ประจำหน้าตึกปฏิบัติการ ที่มีห้องโถงใหญ่ๆสำหรับการเรียนการสอนวิชานี้ ทฤษฎีดนตรีเป็นวิชาที่เธอเกลียดที่สุด และแย่มากตรงที่มันเป็นวิชาบังคับของนักเรียนชั้นปีสาม

     

    เหงา ... ไม่มีใครมาสักคน

    สมุดสต๊าฟถูกเปิดออก พร้อมกับที่นทยัดหูฟังเข้าสองหู แล้วเปิดเพลงง่ายๆสำหรับไล่สเกลโน๊ตฟังไปเรื่อยๆ ปากกาไฮไลท์แท่งโปรดทำสัญลักษณ์หยึกหยักตามความหมายของมันลงสมุดเพื่อย้ำและทำความเข้าใจ ในด้านการปฏิบัติเธอมั่นใจว่าไปได้ แต่ในด้านทฤษฎี ... นทคนนี้แทบไม่มีทางไปเลย

     

    เมื่อก่อน ... ก่อนที่จะถึงสอบย่อยครั้งนี้ เธอมีติวเตอร์วิชาทฤษฎีดนตรีประจำตัวอยู่หนึ่งคน เขาเป็นนักศึกษาในรุ่นที่หูดีที่สุดคนหนึ่ง เขียนโน๊ตได้เป๊ะๆทุกตัวและไม่เคยผิดพลาดแม้เพียงจังหวะหยุดครึ่งห้อง

    เจ้าของลายมือสวยราวกับตัวคัดในหน้ากระดาษก่อนๆ กับโน๊ตย่อช่วยจำที่ทำไว้เพื่อเธอ และที่เธอเคยคิดว่าเพียงเธอ ...

     

    นิ้วเรียวไล้ไปตามขอบโพสท์อิทนั้นอย่างคิดถึง หัวใจเธอเอนไหวไปหมดในตอนนี้ นทแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าอะไรนำพาเธอมายังจุดที่มืดมนที่สุดในชีวิต ... อะไรไม่รู้ ดึงเธอกลับเข้ามาในวังวนแห่งความหมองหม่นอีกครั้ง

    หัวสมองฉายภาพจำเก่าๆ ที่ยังคงรกเรื้ออยู่ในตอนนี้

     

     

    'นทตั้งใจฟังแล้วตอบผมนะ ...'

     

    'ติ๊งงง ...'

     

     

     

     

     

     

    'บีแฟล็ต ... !'

     

     

     

     

    "ฟังเพลงนี้ มันจะหนักไปสำหรับการเตรียมสอบไหมนท ?"

     

    เสียงนุ่มคุ้นหู ที่ดังเข้ามาแทนจังหวะเร่งเร้าของเพลงคลาสสิค ดึงนทให้หลุดออกจากโลกส่วนตัวและสะดุ้งด้วยความตกใจ ... ลืมตาขึ้นมาวินาทีแรก เธอก็พบเข้ากับใบหน้าของคนคุ้นเคย และรอยยิ้มละมุนที่คุ้นตา

     

    ใบหน้าที่ทำเอานทต้องขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ...

    "ตูมตาม..."

     

    "ผมเขียนโน๊ตย่อใหม่มาให้นท แบบเคลียร์ๆใสๆ และผมก็มั่นใจว่านทต้องเข้าใจแน่ๆ อ่ะ..."

     

    ร่างสูงบึกบึน ถือวิสาสะนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับนท ใบหน้าเขายังคงประดับรอยยิ้มอ่อนหวานเอาไว้เช่นเดิม มือเรียวสวยดันก้อนโพสท์อิทสีเหลืองนวลมาไว้ใกล้นท ก้อนโพสท์อิทที่เต็มไปด้วยลายมือสวยจัดของเขา ... ใจความถึงชื่อและหน้าที่ของตัวโน๊ตต่างๆ ทำอย่างที่เขาเคยทำทุกที

     

    แล้วเขาก็หันไปหยิบสมุดสต๊าฟของตัวเอง ที่ถูกเย็บรวมเป็นรวมโดยฝีมือนท พร้อมกับหนังสือทฤษฎีดนตรีเล่มหนาขึ้นมา ... แต่ยังไม่ทันที่เนื้อกระดาษจะสัมผัสกับพื้นไม้เย็นฉ่ำ นทก็ดีดตัวลุกจากโต๊ะไม้โดยฉับพลัน สมุดสต๊าฟถูกรวบเข้ามาอยู่ในมือ โดยที่นทไม่แยแสต่อโพสท์อิทนั่นแม้แต่นิดเดียว

     

    สายตาที่เจือแววเจ็บร้าว ... ล้ำลึกและเลื่อนลอย นทสั่นสะท้านไปหมดและไม่รู้จะเริ่มต้นยุติมันยังไงดี กับอารมณ์รุนแรงที่เริ่มรุกรานสภาวะย่ำแย่ของหัวใจเช่นนี้

     

    "นท หันมาคุยกันก่อนสิ"

     

    สุดท้าย นททำได้แค่เพียงหันหลังเดินไปจากตรงนั้น เธอไม่อาจทนมองเขาได้ ... จะทำได้ยังไง ถ้าจะต้องยืนมองหน้าเขาที่เหยียบย่ำจิตใจเธออย่างไม่เห็นคุณค่า จะทนได้แค่ไหน ถ้าจะต้องตอกย้ำตัวเองอยู่เสมอว่าเคยลุ่มหลงไปกับเขาที่ไม่ได้มีแค่เธออย่างที่เคยบอกกัน จะมีพรุ่งนี้ที่สวยงามได้ยังไง ถ้าเสียงจากสมองยังเรียกร้องให้กลับไปยืนในจุดจุดเดิมกับเขาแบบนั้น

     

    คิดถึงเหลือเกิน...

     

    "นท ผมอยากให้เรากลับมาเหมือนเดิม เรายังคุยกันได้ไม่ใช่หรือไง ?"

     

    ตูมตามผุดลุกจากเก้า ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง ด้วยรู้ว่าหากเขาเสียเวลากับการเก็บสัมภาระอีกแม้เพียงนาที นทจะหายลับไปจากสายตาเขาแน่ๆ ... ขายาวๆ ก้าวไปสุดความเร็ว เพียงพริบตาเดียวก้ถึงร่างของนทที่เล็กกว่าเขาเกือบเท่าตัว แขนกำยำยืดไปยึดแขนเล็กของนทเอาไว้ ... แผ่วเบา แต่หนักแน่นในเจตนาเหลือเกิน

     

    "นท โตโตกันแล้วนี่นา คุยกันก่อน..."

     

    กับคำพูดที่ดูจะผสมไปด้วยเชื้อแห่งควมรำคาญในน้ำเสียงของอีกคน ...

     

    นทหยุดเดิน หยุดการเคลื่อนไหว ... แต่ความเสียใจ ไม่เคยหยุด

    เปลือกตาสองข้างปิดลง เธอต้องการกดเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ให้แน่นที่สุด ... เตือนตัวเองด้วยสิ่งที่ตาเห็น ย้ำตัวเองด้วยสิ่งที่เขาเป็น เธอไม่ใช่ตัวสำรองของใคร ไม่ใช่เบอร์สองและไม่เคยอยากได้ตำแหน่งนั้นมา ...

     

    "นท ..."

    เสียงออดอ้อนของเขา ดังขึ้นทุกครั้งที่มีปัญหาระหว่างกัน ... มันเคยได้ผลทุกครั้ง

     

     

     

     

     

     

    ไม่ต่างจากครั้งนี้

    เธอยอมรับว่าเธอแพ้หัวใจตัวเอง ...

     

     

    นทพยักหน้ากับลมกับฟ้า พยักหน้าช้าๆราวกับจะตอกย้ำความงี่เง่าจำเจที่มี ...

    "พูดมา นทจะฟัง"

     

    แขนซ้ายข้างที่ถูกยึดไว้ นทสะบัดเพื่อให้มือของเขาหลุดออกไป ... ทั้งเนื้อทั้งตัวหันกลับมามอง ส่งโอกาสให้พร้อมสายตาหมองหม่น เธอรอคอยคำตอบที่แสนระรื่นหู เธอรอคอยความเป็นเขาที่จะมาช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาด เธอรอคอยวินาทีที่จะได้กลับไปยืนในจุดที่จะทำให้เป็นสุขได้อีกครั้ง

     

    ทั้งที่เจ็บ ... ก็ยังกล้าหวัง

     

    "ผมกับเขา..."

     

    ทำไมแค่ลมเพียงแผ่วเบายังทำให้เหน็บหนาว ... แค่เพียงแผ่นฟ้าที่ว่างเปล่า

     

    ไม่ทันที่ตูมตามจะได้อธิบายเหตุผลอย่างที่เขาพูดเอาไว้ เสียงโทรศัพท์ของนทก็ดังขึ้นขัดเต็มเสียง ... ตูมตามชะงักไปเล็กน้อย เขายิ้มและยอมถอยออกมาหนึ่งก้าว เพื่อให้ความเป็นส่วนตัวกับนทในการรับโทรศัพท์สายนั้น โดยที่ไม่มีเขาเข้าไปเกี่ยวข้องและวุ่นวาย

     

    นทยอมรับกับตัวเองว่าเสียอารมณ์นิดๆ ที่อยู่ดีดีก็มีใครบางคนโทรเข้าขัดจังหวะในตอนนี้ ... แต่เมื่อตูมตามยอมยุติคำอธิบายไปแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลใดที่เธอต้องดึงรั้งมันเอาไว้ มือเรียวล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบมันออกมา เลขสิบตัวโชว์หรา ไม่คุ้นตา และไม่อาจเดาได้ว่าใคร

     

    วิธีเดียวที่จะรู้ได้ คือการกดรับสาย ... ซึ่งเธอกำลังทำมันในวินาทีนี้

     

    "ฮัลโหล ...ใครคะ"

     

     

     

     

     

    "พี่นท ... นี่แอปเปิ้ลเองนะคะ จำได้ไหม ?"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     



     

     

    .

    .

     

    "เป็นไงคุณ คุยกับนทรู้เรื่องหรือยัง ?"

    รถกระบะคันเอี่ยมจอดสนิทอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดงใจกลางเมือง คนขับรถสาวสวยที่พ่วงตำแหน่งเจ้าของรถไปด้วย กรอกเสียงลงเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กที่เรียกกันว่าบลูทูธ ถามปลายสายที่อยู่ห่างไกลกันคนละฝั่งเมืองด้วยน้ำเสียงเข้มข้น ... เจ๊กวางของเจ้านทนั่นเอง ที่กำลังฝ่าวิกฤติรถติดแบบโคตรๆอยู่ในขณะนี้ หลังจากเพิ่งกลับจากสถาบันสอนดนตรีแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง

     

    "คุยไม่รู้เรื่อง ผมจำบทที่คุณให้ผมพูดไม่ได้ ..."

    คำตอบที่ไม่น่าพอใจ ถูกส่งออกมาจากปลายสายด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีนัก ... คำตอบที่เอาคนถามขมวดคิ้วเข้ม เสียงจิ๊จ๊ะดังผ่านริมฝีปากสีชมพูไม่ขาด

     

    "ตูมตาม... ฉันขอร้องคุณแล้วไง ทำไมไม่คุยกับน้องให้ดีดีก่อน ฉันเป็นห่วงนท"

    วินาทีเดียวกันกับที่สัญญาณไฟแดงเปลี่ยนเป็นสีขาว กวางดันเกียร์หนึ่งเพื่อเดินหน้าและส่งเสียงร้องเรียนกลับไปยังเขา ... ในอกกรุ่นๆและรุ่มร้อนไปหมด ด้วยรู้ว่าป่านนี้คนที่เธอเป็นห่วงคงไม่ได้มีความสุขอย่างที่เธอหวังไว้เป็นแน่

     

    "ไม่สงสารผมหรือไง ?"

     

     

    คำถามจากปากเขา ... คำถามที่เขาเคยถามเธอมาแล้วหนึ่งครั้งในวันที่เธอไปขอร้องให้เขาทำอย่างนั้น คำถามที่ทำเอาเธอไหวสะท้านไปทั้งใจ


    คำถามที่ทำเอาเธออยากถามคืน ... แล้วเธอล่ะ ไม่น่าสงสารเลยใช่ไหม ?

    กวางเงียบ ... เธอหมดถ้อยคำอะไรจะไปพูดกับเขา และทำได้เพียงยืนยันเจตนารมณ์ที่มีเอาไว้ให้ชัดเจน

    "คุยกับนทให้รู้เรื่องก่อน ... แล้วคุณกับฉัน ค่อยมาคุยกัน"




     
    ...

    เรื่องนี้พี่ตามเป็นคนดีนะ :)
    จุ้บๆ อัพอีกตอนก่อนจะหายไปเรียนหนังสืออย่างเข้มข้นหนึ่งอาทิตย์

    เอาเป็นว่าตอนนี้ก็หายสงสัยแล้วใช่ไหมคะว่าใครมาหักอกหนูนท

    แอปได้เบอร์พี่นทมาแล้ว !!!!!!!!!!
    ใครกันนะโทรขัดจังหวะตามนทเคลียร์กัน เลิศมากจริงๆ
    กร๊ากกกกกกกกกก



    #MV ยิ่งลึกซึ้งยิ่งหวั่นไหว ของคุณนิวคุณ
    จิ๋ว
    ได้รับรางวัลมิวสิควิดิโอเพลงไทยสากลดีเด่น
    ในงานประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำครั้งที่26

    ขอแสดงความยินดีไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ :)


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×