ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Short fiction} Unconditional love #grandappnote'

    ลำดับตอนที่ #4 : UNCONDITIONAL LOVE - 3 -

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ย. 54



    - 3 -





    “ยอดขายในไตรมาสที่สามไม่ได้ตามต้องการ ผมขอตำหนินะครับ อีกสามเดือนก็จะเช็คยอดประจำปีแล้ว ผมอยากรู้คำตอบว่าเวลาที่เหลือแค่นี้พวกคุณจะจัดการกันได้ไหม ?”


    “ได้ไหมครับ ?”

    เสียงนุ่มนวลแต่กลับแฝงไปด้วยความน่าเกรงขามอย่างประหลาด … คุณสุกฤษฎิ์ยืนหน้าเครียดอยู่ตรงหน้าสมาร์ทบอร์ด กับยอดขายประจำไตรมาสที่ได้ไม่ถึงเป้า เหล่าผู้จัดการทั้งตำแหน่งเดียวกับแกรนด์และน้อยกว่า นั่งหน้าเครียดกับยอดขายกันถ้วนหน้า…

    ยอดประจำปีที่ทางคณะบริหารมอบหมายให้ฝ่ายสะสมเงินเดือนหนึ่งของคุณสุกฤษฏิ์ เป็นจำนวนราวๆห้าสิบล้านบาท ไม่มากเลยสำหรับกลุ่มก้อนที่ทำงานมาได้ดีตลอดเช่นเธอ บางปีฝ่ายสะสมเงินเดือนหนึ่งขายได้เกินหกสิบล้าน จนได้โบนัสใหญ่โตถ้วนหน้าด้วยซ้ำ

    ทั้งๆที่เรื่องยอดขายต่ำกว่าเป้าไม่เคยเกิดขึ้นในฝ่าย… แต่ทำไมครั้งนี้มันจึงเกิดขึ้นได้



    “ถ้าไม่มีใครตอบ ผมขอสรุปเอาเองว่าพวกคุณไหวนะ ?” เพราะบรรยากาศในห้องประชุมเงียบงันและเครียดขึงเกินกว่าจะมีใครกล้าเอ่ยปากอะไร จึงเป็นอีกครั้งที่คุณสุกฤษฎิ์ทำลายความเงียบขึ้นมา แกรนด์เงยหน้ามองคุณสุกฤษฎิ์ตาปริบๆ … สังเกตเห็นความหนักอกหนักใจแววตาขี้เล่นคู่นั้นแล้วสังหรณ์ใจพิกล ปัญหาที่มีอาจไม่ได้มีเพียงเท่านี้

    “ผมขอให้ผู้จัดการฝ่ายทั้งหมดส่งตัวแทนไปยังแถบปริมณฑล ปทุมธานี , นนทบุรี , สมุทรปราการ … ผมยื่นขอพื้นที่สามจังหวัดนี้ไปเมื่ออาทิตย์ก่อน และเราได้เวลาสำหรับเขตปริมณฑลสองเดือน ถ้าเราเก็บตามเป้าไม่ได้ ฝ่ายสะสมเงินเดือนสามจะเข้าแทนทันที”

    “เอาล่ะ แยกย้ายกันได้…”


    การประชุมประจำไตรมาสที่สามสั้นและเครียดกว่าทุกครั้ง คุณสุกฤษฎิ์ม้วนแผนงานทั้งหมดลงกระเป๋าอย่างใจเย็น บรรดาผู้จัดการทั้งหลายต่างก็พากันเก็บข้าวของทยอยออกไปทีละคน แกรนด์ก็เช่นกัน เธอเก็บสมุดออแกไนเซอร์เล่มเล็กที่มีไว้ใช้จดงานสำคัญลงกระเป๋า ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้เงียบๆ




    “แกรนด์อย่าเพิ่งไป อยู่คุยกับพี่ก่อน…”

    คุณสุกฤษฎิ์ส่งเสียงรั้งเธอไว้โดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง ส่งผลให้ลูกน้องคนสนิทอย่างแกรนด์ชะงักงัน เป็นธรรมดาที่คุณสุกฤษฎิ์จะเรียกพนักงานในปกครองที่รู้สึกสนิทใจด้วยชื่อเล่น แต่คราวนี้น้ำเสียงที่ใช้เรียกกลับเครียดกว่าปกติ คนโดนเรียกอย่างแกรนด์ใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ ลางสังหรณ์ที่ว่าคงจะเป็นการเรียกคุยเดี่ยวครั้งนี้นี่แหล่ะ



    “ค่ะ…”

    “คุณเอื้อมาลาออกเมื่อวานนี้…”

    “หา !?” พอได้ฟังคำพูดที่คุณสุกฤษฎิ์เอ่ยออกมา แกรนด์ก็ร้องหาดังลั่นอย่างลืมเก็บอาการ ก่อนจะได้รับรอยยิ้มบางๆที่เคลือบไปด้วยความหนักใจอย่างหนาตอบกลับมา …

    นี่เป็นเรื่องน่าตกใจระดับชาติเลยก็ว่าได้

    พี่เอื้อ หรือคุณเอื้ออาทรของเหล่าลูกน้อง พี่ชายตัวกลมผู้ครองตำแหน่งผู้จัดการภาคมากว่าสิบปี ฝีมือการขายเฉียบขาดชนิดเกินเป้าทุกครั้ง ! บริหารจัดการลูกน้องได้อยู่หมัดทุกคน ใครๆก็ยำเกรงพี่เอื้อแม้แต่เธอ

    ถึงว่า เมื่อกี๊ไม่เห็นพี่เอื้อในห้องประชุม

    “พี่เอื้อมีผู้จัดการฝ่ายอยู่ในปกครองหกคน , แกรนด์ต้องเอาไปสอง คุณนิคก็ต้องแบ่งไปสอง คุณพีทก็ต้องแบ่งไปอีกสอง…”

    เรื่องหนักใจที่ตามมาคือปัญหาการแบ่งบุคลากร ลูกน้องของพี่เอื้อเยอะแยะไปหมด และก็ไม่ค่อยจะถูกกับเหล่าคนในปกครองของเธอเท่าไหร่นัก ดีหน่อยที่พวกเขาเกรงใจพี่เอื้อ เกรงใจเธอ…

    แต่ถ้าไม่มีพี่เอื้อ ก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง

    “พี่เอื้อทำยอดไว้จบที่เดือนนี้ เหลืออีกเดือนละล้าน ผู้จัดภาคสามคนต้องแบ่งไปคนละล้าน เท่ากับอีกสามเดือนที่เหลือต้องทำได้คนละสี่ล้าน”

    ยอดเงินตัวกลมๆที่คุณสุกฤษฎิ์ไว้ใจมอบหมายให้ เล่นเอาผู้จัดการคนเก่งหน้าซีดเผือด .. จากยอดเก่าที่เธอได้รับมอบหมายมาตั้งแต่ต้นปี เธอยังต้องวิ่งปั่นจนแทบกล้ามเนื้อแทบฉีกอีกเดือนละล้าน โดนเพิ่มมาอีกหนึ่ง เป็นสี่ล้าน แบบนี้ฆ่ากันดีกว่า !



    “พี่ขออำเภอเมืองนครปฐมไว้ด้วย … ถ้าแกรนด์รับปากว่าทำได้ พี่ก็จะให้แกรนด์ แต่พี่ไม่อยากให้แกรนด์บอกใคร”

    “ตกลงไหม?”








    .
    .




    “แอป… วันนี้อยากไปไหนไหม”
    “ถ้าแอปอยากไปเอธิโอเปีย จะพาไปไหมล่ะคะ ?”

    คำถามที่เต็มไปด้วยความอยากเอาใจ กับคำตอบที่มากไปด้วยความกวนประสาท ดังขึ้นเบาๆท่ามกลางบรรยากาศเงียบๆในร้านอาหารเล็กๆใกล้ออฟฟิศ เที่ยงแล้ว … นทชวนเด็กน้อยที่นั่งหน้าตูมอยู่ในห้องทำงานของพี่แกรนด์ให้ลงมาทานข้าวด้วยกัน หลังจากที่นั่งรอเจ้าของห้องมาแสนนาน

    ไม่ได้จะถือโอกาสนี้ทำคะแนน แค่ไม่อยากให้เด็กน้อยของเธอหิวมากกว่านี้ต่างหาก

    วันนี้พี่แกรนด์พาแอปเปิ้ลมาทำงานที่ออฟฟิศด้วยเหมือนทุกครั้ง แต่คราวนี้คุณสุกฤษฎิ์กลับเรียกพนักงานระดับสูงเข้าไปเชือดในห้องประชุมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว การเรียกครั้งนี้ดูซีเรียสจนพี่แกรนด์ไม่กล้าปฏิเสธ เล่นเอาตัวแสบหน้ามุ่ยเป็นตูด…
     
    สองชั่วโมงก็แล้ว สามชั่วโมงก็แล้ว ร่างบอบบางคุ้นตาก็ยังไม่โผล่ออกมาจากห้องประชุม ทั้งๆที่ใครๆก็ออกมาจากห้องแคบๆนั่นจนหมด ไม่เว้นแต่แม้แต่คุณสุกฤษฎิ์ เจ้านายใหญ่ที่เป็นคนเรียกเข้าประชุมด้วยตัวเอง

    ลืมหรือไงว่ามีเธออยู่…
    กี่ครั้งที่เห็นว่างานสำคัญกว่าหัวใจเธอ



    มันเป็นปัจจัยใหญ่ที่ทำให้แอปเปิ้ลตอบตกลงมาทานมื้อเที่ยงกับพี่นททันทีโดยไม่ต้องคิด ยิ่งเห็นคนตัวเล็กตรงหน้าคอยเอาอกเอาใจเธอทุกครั้งที่เจอ สมองก็อดเอาพฤติกรรมของคนสองคนไปเทียบกันไม่ได้เลย

    พี่แกรนด์ … ปากก็บอกให้ความสำคัญ แต่การกระทำกลับเป็นไปทางตรงกันข้าม น้อยเหลือเกินที่จะให้เวลาต่อกันอย่างที่มันสมควรจะเป็น มีแต่งาน งานและงานเท่านั้นที่อยู่ในชีวิต เธอไม่เคยสำคัญพอจะดึงรั้งความสนใจจากพี่แกรนด์ไว้ได้เลย

    พี่นท … ผู้ที่ไม่เคยพูดอะไรให้เธอต้องคิดมากแม้จะแสดงออกมาชัดเจนเหลือเกินก็ตาม พี่นทรู้ใจเธอและตามใจเธอทุกครั้งที่พบกัน มีแต่รอยยิ้มหวานๆที่เต็มไปด้วยความนัยให้กันเสมอ ตั้งแต่วันนั้นที่พบกัน จนวันนี้ที่อยู่ตรงหน้า มีแต่ความอบอุ่นและเอาใจใส่ที่พี่นทมอบให้ไม่เคยขาด



    “พี่นท…” แอปเปิ้ลเรียกชื่อคนที่อยู่ในความคิดเบาๆ เมื่อเห็นอีกคนเงียบไป หลังจากหัวเราะเบาๆกับคำตอบกวนประสาทที่เธอมอบให้

    คนถูกเรียกชื่อเงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวช้าๆ … ดวงตาใสแจ๋วช้อนมองเธอ พร้อมกับประกายตาระยิบระยับ และรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปาก เพียงอากัปกิริยาน้อยๆที่พี่นทเป็นในตอนนี้ มันทำให้หัวใจแอปเปิ้ลกระตุกไปด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน

    น้อยครั้ง … น้อยครั้งที่เธอจะหัวใจกระตุกกับคนที่ไม่ใช่พี่แกรนด์
    น้อยครั้งจนเรียกว่าไม่เคย ได้เลยด้วยซ้ำ



    “ว่าไงแอป” พี่นทยืดไหล่แล้วนั่งตัวตรง ก่อนจะทอดเสียงหวานถามแอปเปิ้ลอย่างสงสัยในท่าทาง มือข้างถนัดเลื่อนไปหยิบแก้วน้ำมาจิบน้อยๆด้วยความระคายคอ … แอปเปิ้ลยังคงตรึงสายตาไว้กับใบหน้าเธออย่างนั้น ในแววตาซุกซนแบบเด็กๆของแอปเปิ้ลมีสิ่งต่างๆมากมายเต็มไปหมด และนทก็ไม่สามารถจับประเด็นใดเป็นชิ้นเป็นอันได้

    เธอทำได้เพียงยิ้มน้อยๆให้ ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้

    แอปเปิ้ลพินิจมองไปทั่วทุกจุดของใบหน้าพี่นทอย่างสนใจ …

    ดวงตาเรียวเล็กที่มองเผินเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับซ่อนเสน่ห์มากมายไว้ เวทย์มนตร์ล้ำลึกเมื่อยามได้จ้องตา สามารถทำให้คนทั้งคนระทดระทวยได้ง่ายๆ

    ปลายจมูกคมโดดเด่น ที่ดูพอเหมาะพอเจาะไม่มากไม่น้อยเกินไป ริมฝีปากสีชมพูอ่อนโยน ระบายแย้มยิ้มหวานฉ่ำทุกทีที่ได้มอง … แม้แต่พวงแก้มเนียนใสนั่นเหมือนกัน มันมีสีแดงระเรื่อเจืออยู่ตลอดเวลา โดนที่ไม่ต้องแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางใดใดด้วยซ้ำ

    พี่นทสวยเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางใดใดให้รำคาญลูกกะตา…

    “พี่นททำไมไม่แต่งหน้าคะ ?” แอปเปิ้ลถามนทเบาๆ ถามทั้งๆที่ยังคงจ้องตานทอย่างมีความหมายอยู่เช่นนั้น … คนโดนถามได้แต่ทำหน้างงนิดหน่อย ก่อนจะระบายยิ้มบางๆตอบกลับไป ตอบอย่างที่ใจคิด

    “พี่ไม่ชอบ”

    “แต่มันน่าจะสำคัญกับการทำงาน ภาพลักษณ์ บุคลิกภาพ ?”

    “ถ้าลูกค้าจะไม่ซื้อประกันกับพี่เพราะพี่ไม่สวย … พี่ก็โอเค”

    “แค่แต่งหน้านิดๆหน่อยก็สวยแล้วพี่นท ทำไมไม่ทำ ถ้ามันสำคัญถึงขนาดได้ลูกค้าจริงๆอ่ะนะ ?”

    “พี่มั่นใจในแพคเกจของบริษัท มั่นใจในความสามารถตัวเองที่พอมีอยู่บ้าง … ฉะนั้นเรื่องหน้าตาเนี่ยไม่สำคัญ พี่ไม่อยากฝืนตัวเองเกินไป พี่ไม่ชอบโปะเมคอัพจริงๆ”

    คำตอบของพี่นททำเอาตัวแสบยิ้มออกมาได้กว้างๆเต็มสีหน้า แน่ล่ะ … เธอชอบใจในคำตอบของพี่นทจนกลั้นยิ้มไม่อยู่ คนที่เป็นตัวของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ขวางโลกจนขัดขาใคร คนที่มั่นใจในตัวเอง แต่ก็ไม่ได้อวดอ้างจนเสียความฉกาจที่มี

    “ถ้าแอปขอให้แต่งล่ะ พรุ่งนี้เอาแบบสวยๆมาเลย” แอปเปิ้ลแย็บๆถามพลางตักหมูนุ่มชิ้นเล็กๆใส่จานข้าวพี่นทอย่างเอาอกเอาใจ

    คำถามที่ได้มาใหม่ทำนทได้แต่ยิ้มอย่างเขินๆ … ในสายตาของแอปเปิ้ลมีความหมายใหม่เพิ่มขึ้นโดยที่เธอไม่ทันสังเกต ในหัวสมองประมวลคำถาม วิเคราะห์คำตอบปรู๊ดปร๊าด เธอควรจะตอบอย่างไรให้มันเป็นคำตอบที่โอเคที่สุดดี



    แต่ก็ไม่มีคำตอบไหนที่ทำให้นทมั่นใจ นอกจากคำตอบที่ตรงใจตัวเอง

    “ถ้าแอปขอ พี่ก็คงแต่งมาบางๆ … แต่จะเอาจริงเหรอ ? แบบนั้นพี่ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นะ”

    หน้าเซียวๆกับรอยยิ้มจืดๆของพี่นท ทำแอปเปิ้ลหัวเราะออกมาได้เสียงดัง เธอแสนพออกพอใจในคำตอบของพี่นทเหลือเกิน พี่นทเป็นคนมีเสน่ห์และน่ารักกว่าที่เธอคิดไว้มากจริงๆ …

    อาหารตรงหน้าดูอร่อยขึ้นเพราะประเด็นที่เพิ่งจบไปเป็นบทสนทนาที่ถูกคอ พี่นทก็ดูจะกล้าชวนพูดคุยมากขึ้น ไม่เงียบไปแล้วอมยิ้มเหมือนที่ผ่านๆมา กลายเป็นเธอเองที่เงียบและแอบอมยิ้มแก้มตุ่ย … พี่นทเวลาทำสีหน้าเขินๆนี่ดูน่ารักไม่เบาเลย

    นอกจากหน้าตาจิ้มลิ้มน่ามอง ความสามารถสามารถโดดเด่นเกินใคร และความมั่นใจที่พกมาเต็มกระบุงแล้ว แอปเปิ้ลก็ได้พบเสน่ห์อีกหนึ่งข้อเต็มๆของพี่นทในวันนี้

    คือพี่นท พร้อมจะตามใจเธอไม่ว่ามันจะขัดกับความเป็นตัวเองแค่ไหนก็ตาม
    ตั้งแต่ไหนแต่ไร จนวันนี้ทุกอย่างก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป


    น่ารักจัง…















    .
    .


    “แม่จ๋า พรุ่งนี้ค่ำๆแอปออกไปทานข้าวกับพี่แกรนด์นะ”

    ลูกสาวตัวโตแต่หัวใจยังเป็นเด็ก โอบรอบเอวผู้เป็นแม่พร้อมกับออดอ้อนด้วยท่าทางแล้วเอ่ยปากบอกจุดประสงค์เบาๆ … จุดประสงค์ที่ทำเอาผู้เป็นแม่เบิกตากว้าง รีบย้อนเสียงสูงถามอย่างประหลาดใจ



    “วันเกิดนี่คิดจะฉลองกับพี่แกรนด์แค่สองต่อสองหรือไงฮะ ตัวแสบ…”

    “เราก็ฉลองกันเช้าถึงเย็นไงคะ นะๆ ให้แอปไปนะแม่ พี่แกรนด์อุตส่าห์ว่าง และก็รับปากแอปแล้วด้วย แอปไม่อยากพลาด”

    ลูกสาวรีบออดอ้อนแม่ต่อราวกับกลัวว่าหากแม่ตกลงช้าไปเพียงวนาทีจะทำให้เธออดไป… ผู้เป็นแม่ยิ้มมองลูกสาวอย่างเอ็นดู อยากเอ่ยปากแซวแต่ก็กลัวลูกสาวจะเขินจนหน้าแดง



    ทุกครั้งที่ลูกสาวพูดถึงพี่สาวคนสวยคนนี้ ประกายตาสดใสก็จะพราวระยับให้เห็นเสมอ ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่แอปเปิ้ลจะเก็บอาการได้อยู่ …

    แม้จะหนักใจ แต่ท่านก็ยินยอมปล่อยให้ลูกสาวได้ทำตามใจ ถึงความรักครั้งแรกของลูกจะไม่ใช่เรื่องปกตินัก แต่มันก็ยังคงเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ …

    แต่ทว่าในความหนักใจบางๆนั้น ก็เต็มไปด้วยความไว้ใจและเชื่อใจในตัวอีกฝ่ายอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใด

    หนูแกรนด์เป็นคนสวย เก่ง ฉลาด อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน รู้จักกันมาตั้งแต่ยังตัวเล็กตัวน้อย แถมยังอนาคตชัดเจน มีเงินซื้อรถหรูหราขับโดยไม่ต้องเพิ่งเงินพ่อแม่ตั้งแต่ตอนอายุยี่สิบสอง

    ไม่มีอะไรเสียหายหากจะฝากชีวิตลูกสาวตัวแสบของท่านไว้ในอุ้งมือแข็งแรงนั้น



    “ไปซี … แต่อย่ากลับดึกนักน้า”
    อนุญาตปุ๊ป ตัวแสบก็รัดกอดแม่แน่นๆอย่างดีใจ เธอกดจมูกลงแก้มของแม่แรงๆ ยิ้มกว้างเต็มสีหน้าอย่างคนที่มีความสุขเต็มหัวใจ …

    ก่อนจะผละออกจากการอ้อนแม่เฉพาะกิจแล้วกระโดดไปมารอบๆบ้านอย่างอารมณ์ดี … ดินเนอร์ส่วนตั๊วส่วนตัวของเธอและพี่แกรนด์จะเป็นอย่างไรบ้างนะ จะหวาน จะซึ้ง น่าจดจำขนาดไหน พี่แกรนด์คงจะสวยหยาดเยิ้มมาแบบนางฟ้า แล้วนางฟ้าคนนั้นจะอวยพรอะไรให้เธอบ้างเนี่ย

    จะมีคำสั้นๆ ที่คำเป็นหมื่นเป็นพันไม่อาจทดแทนให้ได้ยินหรือเปล่า…


    >//<



    ชุดแล้วชุดเล่าถูกหยิบโยนออกจากตู้ กี่ตัวๆก็ไม่สวยพอสำหรับค่ำคืนสำคัญ คืนพรุ่งนี้เธอจะมีอายุสิบเก้าปีเต็ม ไม่ใช่แค่เด็กสบแปดในสายตาพี่แกรนด์อีกแล้ว…

    เธออยากเติบโต อยากสวย อยากสง่า และอยากยืนข้างพี่แกรนด์ได้อย่างเต็มภาคภูมิ



    ไม่ใช่แค่ตุ๊กตาหน้ารถตัวน้อยๆที่มีแต่ความสดใสน่ารัก แต่เธอจะคนเคียงข้างในทุกจังหวะชีวิตของพี่แกรนด์ จะเติบโตเป็นคนที่พร้อมรับฟังและเข้าใจปัญหา ที่ไม่เพียงแค่เข้าใจ แต่สามารถช่วยแก้ไขมันได้ด้วย

    นึกแล้วแอปเปิ้ลก็ยิ้มกับเด็กหน้าใสในกระจกอย่างมั่นอกมั่นใจ เธอจะทำให้วันเกิดปีนี้มีค่าและสำคัญกว่าทุกปี ไม่ใช่แค่วันคล้ายวันเกิด แต่จะบวกรวมเป็นวันเริ่มต้นความรักไปด้วยอีกหนึ่ง

    เดรสสีน้ำเงินเข้ม ที่แม่เคยซื้อมาบังคับให้ใส่เมื่อตอนที่ไปงานแต่งงานญาติสนิทกันทั้งครอบครัว ถูกหยิบขึ้นมา พร้อมกับคนหยิบที่ตาแวววาวอย่างชอบใจ เธอเจอแล้ว ชุดที่เหมาะที่ควรกับการดินเนอร์แสนหวาน

    ดวงตาหวานคมจ้องลึกไปในกระจกอย่างมาดหมาย

    คอยดูนะพี่แกรนด์ แอปจะสวยจนพี่แกรนด์ระทดระทวยแทบตักแอปเลย >//<










     




    ขนาดคุณแม่แอปยังอยากฝากชีวิตแอปไว้ที่พี่แกรนด์ ดูดิ !!!!

    ตอนนี้พี่นทก็นั่งร้องเพลง

    เธอฝากชีวิตไว้ผิดคนแล้ว  ได้โปรดให้ฉันดูแลชีวิตเธอ สักครั้งจะได้ไหม  ~
    (ฝากชีวิตไว้ผิดคน ดิวพงศธร)

    ไปอะไรไป
    5555555555555.

    แต่เอาจริง เรื่องนี้แอปน่าอิจฉา ... ใครๆก็รุมรัก .

    แล้วรอดูความเป็นพระเอ๊กพระเอก ของพี่นทในตอนต่อไป
    มั๊วะะะ >3<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×