ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "ถ้าเขายังสำคัญ" #newjiew

    ลำดับตอนที่ #4 : chapter 3 too close

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 57


     

    Chapter three

     

     

    บ่ายวันอาทิตย์ แดดส่องเจิดจ้าสมกับเป็นหน้าแล้ง วันชิลๆที่ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรมากไปกว่าการพักผ่อน สองสาวต่างพากันเข้ามุมของตัวเองตั้งแต่เช้า หลังจากที่ตลอดอาทิตย์ ต่างก็วุ่นวายกับการวิ่งรอกงานนู้นงานนี้ทุกวัน ธุระส่วนตัวจึงมีมากเหลือเกินในวันนี้ มีเวลาพอให้ได้เห็นหน้าค่าตากันก็แค่เมื่อตอนมื้อเช้าในเวลาใกล้เที่ยง ข้าวไข่เจียวง่ายๆสำหรับคนสองคนถูกตระเตรียมไว้โดยนิว และรสชาติมันก็ดีเหมือนเดิม พอให้ได้อิ่มมาจนตอนนี้

     
     

    จิ๋วนั่งพลิกแมกกาซีนไปเรื่อยเปื่อยอย่างรู้สึกเบื่อๆ หลังจากวุ่นวายกับการจัดนู่นเก็บนี่มาทั้งนั้นสมาธิของเธอไม่ได้จดจ่ออยู่กับหน้ากระดาษตรงหน้ามากนัก จึงไม่ได้รู้สึกรำคาญอีกคนที่นั่งดีดอูคูเลเล่ตะแหน่วๆอยู่ไม่ไกล

     

    นิวนั่งคิ้วขมวดมุ่นมาสักพักแล้ว สองหูของคนท่าทางยุ่งมีหูฟังเสียบอยู่ สองตาจดจ้องอยู่กับจอไอแพดที่เปิดหน้าเดิมนิ่งมาแล้วระยะหนึ่ง สมาธิจดจ่อเต็มขั้นขนาดนั้น เดาว่าผู้ใหญ่จอมซนคงกำลังวุ่นวายทำโปรเจคท์อะไรสักอย่างอยู่แน่ๆ


     

    จิ๋วอมยิ้มบางๆเมื่อเห็นอีกคนยังคงวุ่นวายไม่เลิกรา หากนิวต้องการสมาธิขนาดนั้น เธอก็เลือกที่ไม่ยุ่งอะไร ปล่อยให้เจ้าจอมโปรเจคท์ได้ทำอย่างที่เขาชอบ ซื้อเวลาสงบสุขของเธอต่อไปอีกสักพัก

     

     




     

     

    แต่มันก็ไม่ได้เนิ่นนานอะไรนักหรอก

     

     

     

    “คุณจิ๋ววววว งานลานเบียร์อาทิตย์หน้า นิวอยากร้องเพลงนี้อ้ะ

     

    เสียงร้องลั่นบ้านดังขึ้นให้ได้เตรียมตัวแค่เพียงเสี้ยววินาที เดี๋ยวเดียว แผ่นหลังบอบบางของอีกคนก็เบียดแทรกพิงไหล่กันจนแนบชิด ตัวเธอทั้งตัวกลายเป็นแท่นรองรับน้ำหนักไปโดยปริยาย แมกกาซีนในมือถูกโยนทิ้งแทบไม่ทัน หูฟังไอโฟนสีขาวถูกเสียบเข้าหูซ้ายโดยไม่รอสักคำอนุญาต นิวกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงเธออย่างสบายอารมณ์ แถมยังยึดต้นขาซ้ายของเธอเป็นที่วางแขนอย่างไม่คิดจะเกรงใจกันสักนิดเดียว


     

    นิ้วมืออีกคนกระดิกตามจังหวะเพลง ใบหน้าสวยคมหลับตานิ่ง ดูเคลิบเคลิ้มกับเนื้อร้องและทำนองที่สวยงามจนเธออดไม่ได้ที่จะแอบมอง นิวคงไม่รู้ตัว ว่าในตอนนี้ นิวมีเสน่ห์ดึงดูดใจขนาดไหนความเป็นนิวที่เป็นอยู่ในทุกนาทีไม่อาจทำให้เธอถอนสายตาจากไปได้เลย

     

    นิวคงกำลังมีความสุขกับเพลงนี้มาก ถึงได้ฟังทั้งใบหน้าเปื้อนยิ้มขนาดนั้น

     



     

    “แต่บอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่


     

    เสียงเพลงผ่านหูไปโดยที่เธอไม่ได้สนใจนัก คงไม่ต้องตั้งใจอะไรมากมาย ในเมื่อเพลงนี้ก็โด่งดังพอที่จะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง และมันก็เนิ่นนานมาแล้วที่วิทยุทุกคลื่นประโคมกันเปิด ใครๆก็ร้องกันจนติดหูติดปาก แต่เธอไม่ยักเคยเห็นนิวสนใจอะไรกับมัน

     

    น่าแปลก ที่ในวันนี้กลับดูอินซะเต็มประดา

     



     

    “ดีพอแล้ว… แค่ได้มีเธออยู่ใกล้ๆ

     

    เสียงฮัมเพลงเบาๆกับใบหน้าเปื้อนยิ้มยังคงดึงดูดสายตาเธอไว้แบบนั้น จิ๋วเผลอยิ้มตาม รอยยิ้มของนิวเป็นสิ่งเดียวในโลกที่เธอยอมอะไรก็ได้เพื่อให้มันยังคงอยู่บนใบหน้าสวยคมนี้ตลอดไป

     

    เธอรักรอยยิ้มที่แสนจริงใจของนิว มันทำให้คนมองเบิกบาน

     



     

    จิ๋วตกอยู่ในห้วงภวังค์รักอีกครั้ง หัวใจของเธอเป็นของอีกคนไปแล้วทั้งดวงอย่างไม่ต้องสงสัย ความพยายามทั้งหมดไร้ค่า นิวไม่ยอมปล่อยให้เธอห่างกาย และเธอเองก็ใจแข็งไม่พอกับความน่ารักของนิวที่ดูจะเพิ่มมากขึ้นทุกวันราวกับรู้ว่านี่เป็นวิธีสำคัญที่จะยึดหัวใจเธอเอาไว้ได้ตลอดไป

     

    แต่นิวคงไม่รู้และคงลืมเรื่องคืนนั้นไปแล้ว


     

    มันออกจะเจ็บแปลบปลาบอยู่ในบ้างในช่วงแรกที่ต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อผ่านไปสักระยะนึง เธอก็เข้าใจแล้วว่ามันคงจะดีกว่า ที่จะปล่อยให้มันเป็นไปเช่นนั้น หากความสุขชั่วคืนของเธอจะทำให้เราสองคนไม่มีกันและกัน เธอขอยอมแกล้งทำเป็นลืม และแสร้งทำเป็นเพื่อนรักที่บริสุทธิ์ใจอย่างนี้ตลอดไป

     


     

    “คุณจิ๋ว นะ ร้องกันนะ นิวชอบจริงๆนะเนี่ย

     

    จู่ๆก็ลืมตาขึ้นมาให้คนเผลอมองเพลินหักเหสายตาหลบแทบไม่ทัน นิวผุดลุกขึ้นนั่งพรวดพราด ดึงอารมณ์อ่อนไหวของจิ๋วเสียจนกระเจิง นิวก็ชอบเป็นแบบนี้ นึกจะทำอะไรก็ทำไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะคิดอะไร แต่เธอก็ตั้งรับเหตุการณ์แบบนี้มาได้สักพักแล้ว หัวใจที่ไหวเอนถูกจับตั้งให้ตรงอย่างไม่ยากเย็นนักเมื่อสติกลับคืน จิ๋วสูดลมหายใจเข้าปอดจนลึก ก่อนจะเอาความสนใจทั้งหมดมาไว้ที่นิวอีกครั้ง

     

    ด้วยสายตาว่างเปล่าที่กักเก็บความลับในหัวใจไว้ได้อย่างมิดชิด

     


     

    “รู้แล้วว่าชอบ แต่ร้องได้ที่ไหนล่ะ ไม่ใช่เพลงแกรมมี่

     

    จิ๋วว่ายิ้มๆ เมื่อเห็นคนข้างตัวออกอาการเซ็งจนถอนหายใจทิ้งเสียพรืดใหญ่ คงขัดใจมาก ทั้งที่ก็คงจะรู้อยู่ตั้งแต่แรกนั่นล่ะว่าสิ่งที่อยากทำมันเป็นไปไม่ได้

     


     

    “แต่นิวอยากร้องนี่ งั้นจิ๋วฟังหน่อยสิ นะๆอยากร้องอ้ะ”

    หงุดหงิดอยู่ไม่ทันไร ดวงตาคมก็หันมามองสบตาปริบๆอย่างไม่ยอมให้เธอได้ตั้งตัวอีกตามเคย แถมยังใช้เสียงหวานออดอ้อนกันอย่างไม่คิดว่าคนถูกอ้อนจะต้องใจละลาย นิวกำลังน่ารักอีกแล้ว น่ารักมากเสียจนยากเย็นที่จะกลั้นยิ้มมากขึ้นทุกที

     


     

    “นะะะะ ฟังแค่แปปเดียว เดี๋ยวจะไม่กวนแล้วว น้า”

    ศีรษะทุยไถไปมาอยู่กับต้นแขนเธอ ออดอ้อนออเซาะเต็มที่แววตาก็ขอร้องเสียจนจิ๋วใจอ่อนไปหมด เธอรู้จุดจบของสถานการณ์นี้ดี ว่าเธอคงจะต้องกลายเป็นติ่งพี่นิวรอฟังเสียงเพราะๆนั่นร้องเพลงโปรดแน่ๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเล่นตัว

     

    ปรายตามองคนข้างๆอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะใช้นิ้วเรียวจิ้มหน้าผากนั่นแรงๆจนหงาย หวังเพียงให้ถอยห่างไปสักที

     

    คนบ้า ชอบเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง



     

    “อะไรของเธอ อยู่ดีๆก็จะมาเปลี่ยนงานให้ฉันซะแล้วว นภัสสร”

    จิ๋วแกล้งทำเป็นเหความสนใจไปทิศทางอื่น คว้าเอาแมกกาซีนเล่มเดิมที่ถูกวางไปแล้วขึ้นมาอ่านใหม่ ก้มหน้าก้มตาซ่อนริ้วแดงๆที่เห่อขึ้นมาบนแก้มใสอย่างเขินจัด ไม่สนใจนิวที่นั่งหน้ายับกอดอกเหมือนเด็กๆ รู้ว่านิวกำลังงอแง แต่ก็เดาไม่ออก ไม่รู้นิวขัดใจอะไรมากกว่า ระหว่างการที่เธอแกล้งไม่สนใจกับที่เธอผลักเสียหน้าหงายไปเมื่อกี้

     

    ทายว่ารวมๆกันออกมาเป็นนิวในตอนนี้ละกันนะ


     

     

    “ไม่รู้แหละ จะร้อง ถ้าจะไม่ฟังก็ปิดหูไป เชอะ”

    เด็กขี้งอนสะบัดสะบิ้งลุกหนีกันไปอีกทาง ท่าทางคงยังขัดใจไม่หาย แต่ก็ยังคงทำรวนไม่รับรู้อะไร เมื่อเห็นอีกคนลุกไปแล้ว จิ๋วจึงได้ละความสนใจปลอมๆจากแมกกาซีนเล่มเดิม แล้วใช้สายตามองตามยังคนที่ได้รับความสนใจจากเธออยู่เสมอ ตลอดเวลา

     

    ถ้านิวได้เห็นสายตาจิ๋วในตอนนี้ ความน้อยอกน้อยใจบางๆนั่นคงหายไปเป็นปลิดทิ้ง จะมีใครทนได้ กับความอ่อนโยนอย่างมากมายที่จิ๋วสื่อสารผ่านแววตาในตอนนี้

     



    ร่างบอบบางที่ดูหงุดหงิดเล็กๆคว้าเอาอูคูเลเล่ตัวน้อยกับเจ้าไอแพดขึ้นมาไว้ในมือ คิ้วเข้มขมวดแน่น ปากก็ขมุบขมิบอะไรสักอย่างที่เธอไม่เก่งพอจะรู้เรื่องได้ ก่อนจะหมุนกลับมาทางเธออีกครั้ง คราวนี้จิ๋วเลยถึงบางอ้อ เข้าใจแจ่มแจ้งเลยว่าที่อีกคนก้มหน้าก้มตากับอูคูเลเล่อยู่นานนั่นเพราะอะไร

     

    นี่เอง โปรเจคท์ของคุณน้องนิวที่ซุ่มซ้อมอยู่เป็นชั่วโมงๆ ที่แท้ก็ตั้งใจจะเล่นให้ฟังอยู่แล้ว แล้วจะมาถามให้ต้องงอนกันทำไมล่ะเนี่ย

     

     


    จิ๋วยกมุมปากขึ้นยิ้มน้อยๆอย่างอารมณ์ดี

     

     


    เผลอสบตากับดวงตากลมโตที่แฝงความหมายมากมาย นิวมองกันนิ่งราวกับจะสะกดเธอไว้

     

     

    “อยากขยับเข้าไปใกล้ๆเธอ

     

    เสียงทุ้มหวานดังเป็นคำร้องที่คล้องจองกับทำนองในใจ และเสี้ยววินาทีนั้น หัวใจคนได้ฟังก็หยุดเต้นไปโดยไม่ทันตั้งตัว

     

    นิวยืนอยู่ไม่ไกล และสายตาคู่นั้นก็มีความหมายมากเกินกว่าที่คนมองจะเข้าใจ

     

     

     

    “อยากรู้จักตั้งแต่ได้เจอ

     

    และหากความตั้งใจของนิว คือการทำให้เธอเสียความเป็นตัวเอง

     

     

     

    “ใจฉันสั่นเมื่อได้ยินเสียงเธอ ตั้งแต่วันแรกเจอ”

     

     

    เธอก็ยอมรับ

    ว่าสิ่งที่นิวทำในวันนี้

     

     

     

    “ก็เผลอเอาไปคิดละเมอ

     

     

    ถือว่าประสบความสำเร็จมากกว่าอะไรทั้งหมด

     

     

     

     

     

    นิวทำให้เธอกลายเป็นแค่

    ผู้หญิงคนนึง ที่ตกหลุมรักนิวเข้าไปแล้ว


    เต็มหัวใจ

     

     

     

     

     

    เท่านั้นเอง

     

     

     

     

     

     

    “เกือบลืมหายใจ เมื่อเธอเข้ามาใกล้ๆ

     

    “แค่เธอยิ้มมา ก็สั่นไปทั้งหัวใจ”

     

     

     

     

    “อยากจะบอกเธอให้ได้รับรู้ความในใจ”

     

     

     

     

     

     

    เพลงยังไม่จบ แต่นิวเลือกที่จะจบลงมันลงอย่างที่ตั้งใจ

    ความหอมหวานในปริมาณพอเหมาะกำลังลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ บรรยากาศกำลังนุ่มนวล โอบอุ้มความรู้สึกของเธอเอาไว้อย่างอบอุ่น นิวยิ้มรับภาพความสำเร็จที่ใจหวัง เธอพอใจที่จะปล่อยให้มันฟุ้งลอยอยู่ในปริมาณเท่านี้ มากกว่าที่จะทำให้มันหนาแน่นจนใครต้องอึดอัด


     

    สำคัญกว่านั้น

    เธอไม่พร้อมจะถาม

    ไม่พร้อมจะบอก


     

    นั่นเพราะเธอยังไม่อาจแน่ใจได้เลย ว่าความรู้สึกของอีกคนจะเป็นอย่างไร

    กลัวว่าจะต้องเสียใจ

     

     


     

    นิวยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม รอยยิ้มบางๆยังคงเจือจางอยู่บนใบหน้า ดวงตาคู่เดิมยังจ้องมองกัน ความหมายมากมายหลั่งวนอยู่ในนั้น ความหมายที่เธอพยายามแปล แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะกระจ่างขึ้นมา

     

     

    เสียงเพลงเงียบลงแล้ว แต่ความปั่นป่วนในหัวใจยังคงดำเนินไปต่อเนื่อง



     

    “จบแล้วหรอ

    จิ๋วถามอีกคนเสียงเบา แน่นอนว่านี่ไม่ใช่คำถามที่เธอจะเอาคำตอบจริงจังอะไรเพียงแต่ความเงียบงันนี่ กำลังกลายร่างเป็นเชื้อเพลงชั้นดีที่จะปลุกปั่นความรู้สึกเธอให้ลุกลามไปแสนไกล

     

     

    ดวงตาคู่หวานเสหลบไปทางอื่น ทนทานไม่ได้หากต้องสบตากับนิวต่อไป

    เธอกลัวหัวใจตัวเอง กลัวจะเผลอหลุดปากบอกเขาไปว่าเธอ

     

     


     

    “เอ้าหลบตา เอ้าเขินๆ นั่นแน่ เขินนิวหรอ”

     

    อูคูเลเล่ตัวโปรดกับเจ้าไอแพดถูกวางทิ้งคนละทาง เมื่อเจ้าของโปรเจคท์ยักษ์ใหญ่เล็งเห็นเรื่องน่าสนุกบางอย่างจนต้องปรี่เอาตัวเข้าไปใกล้ หัวใจ



     

    “ไอ้บ้า

    ยัยตัวร้ายแทรกตัวเข้ามาข้างกันอีกครั้งพร้อมอาวุธชุดใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิม นิ้วเรียวชี้จ่อกันอยู่ไม่ไกล แถมน้ำเสียงหวานอบอุ่นเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเอามาใช้แซวกันได้อย่างน่าบิดแก้มสักทีให้หายหมั่นเขี้ยวจิ๋วได้แต่ด่าอีกคนเบาๆอย่างไม่จริงจังนัก ยอมรับเต็มประตูว่าเขินจนไม่อาจจะซ่อนบังได้ คอมโบความหวานปริมาณขนาดนี้ เธอทำใจรับไม่ทันจริงๆ ปัญญาจะซ่อนแก้มแดงๆนี่เธอยังไม่มี เรื่องจะสะกดกลั้นความเขินให้จางลงไป คงจะเป็นเรื่องยากหากจะทำในตอนนี้


     

    นาทีนี้ จะก้มมองพื้น หรือเงยหน้าขึ้นฟ้าก็ค่าเท่ากัน

    นิวบ้า แกล้งกันอยู่ได้

     


    เขินจะตายอยู่แล้ว



     

     

    “เอ้าๆปิยนุช อย่าเขินขนาดนั้นนิวไม่ล้อแล้วน่า เลิกมองเพดานได้แล้ว

     

    เสียงหัวเราะคิกคักยังดังตามประโยคจนจิ๋วไม่อยากจะเชื่อไอ้คำว่า นิวไม่ล้อแล้วน่า นั่นสักนิด

    หึ คงสนุกน่าดูกับการได้แกล้งกันแบบนี้

     

    จิ๋วยังคงนั่งเมินสายตาออกไปทางอื่น ยังไม่พร้อมจะมองดวงตาคู่หวานนั่นให้หัวใจต้องละลายไปมากกว่านี้

     

     

     


    นิวอมยิ้มแก้มตุ่ยอย่างมีความสุข ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยว่าการได้แกล้งจิ๋วให้เขินจะทำให้หัวใจพองโตได้ขนาดนี้ เธอก็เพิ่งรู้ ว่านอกเหนือจากการได้วาดรูป ได้ร้องเพลงจิ๋วก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เธอมีความสุขได้อย่างไม่ต้องพยายามอะไรเลย

     

    และมากกว่าความสุข จิ๋วเป็นความอบอุ่นทุกครั้งที่ได้ใช้เวลาไปด้วยกัน

     

     

     


    เจ้าของประโยคเอียงตัวเข้าหากันในท่าที่ใกล้ชิดจนหัวใจเต้นรัว แขนขวาโอบพาดไหล่กันอย่างสบายๆ นิวหลับตาพริ้ม เอนศีรษะพิงคนคนข้างตัวราวกับไหล่บอบบางนี่เป็นหมอนที่นุ่มสบายที่สุดในโลกจิ๋วเหลือบตามองคนข้างๆยิ้มๆ อาการน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ เธอไม่เคยปฏิเสธมันได้สักที

     

     


    “จิ๋ว

    นิวส่งเสียงแผ่วเบาเรียกความสนใจ ทั้งที่ดวงตาทั้งสองข้างยังคงหลับพริ้มสบายเช่นเดิม

     

    “หืม

    ความสนใจที่นิวไม่ต้องเรียกร้อง เธอก็มีให้ตลอดเวลาอยู่แล้ว

     

    จิ๋วส่งเสียงขานรับในลำคอ ทั้งที่สายตายังไม่ได้ละจากใบหน้าสวยคมนั่นเลยสักวินาที

     

     

     

     

     

    “ชอบไหม

    เสียงออดอ้อนทอดถามกันแผ่วเบา โดยไม่ได้ลืมตา อีกครั้ง ที่ยัยตัวร้ายกำลังคืบคลานเข้าครอบครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วในหัวใจ ศีรษะทุยขยับยุกยิกบนไหล่เธอ เบียดซุกเข้าหากันแนบแน่นกว่าเดิมทำตัวน่ารักน่าหลงใหลจนห้ามใจแทบไม่ไหว

     

    จิ๋วยิ้มหวานกับตัวเอง ตอบอีกคนไปตามที่เข้าใจ


     

    “ชอบสิ จิ๋วก็ชอบเพลงนี้อยู่แล้ว เพิ่งรู้นะว่าเดี๋ยวนี้นิวเล่นอูคูเลเล่ได้เก่งขนาดนี้แล้ว นี่ เก่งแล้วก็อย่าแยกวงนะเธอไม่งั้นฉันจะตามไปแฉรูปนอนหลับน้ำลายยืดให้งานหดเลย มีเยอะซะด้วยนะเนี่ย”

     

    เสียงหัวเราะคิกคักตามประโยคดังอย่างอารมณ์ดี ไม่บ่อยนักที่จิ๋วจะเอ่ยแซวอีกคนอย่างนี้ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ร้อยปีหนึ่งครั้งที่ทำเอาเจ้าของคำถามต้องยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

     

    ใครจะอยากแยกจาก ดูโอ้น่ารัก ขนาดนี้


     

    “ฮ่ะๆ ฮ่ะ ฮ่าฮ่า

    เสียงหัวเราะดังเป็นจริงเป็นจังขึ้นเรื่อย คงเป็นเพราะจิ๋วนึกขำอะไรสักอย่างมากขึ้นทุกที คนตัวเล็กขำจนร่างบอบบางนั่นสั่นไหว รบกวนคนกำลังสบาย

     

     

    นิวลืมตาขึ้นมองอีกคนที่ยังคงหัวเราะจนตาหยี ดวงตาหวานวาววับจับจ้องภาพนั้นด้วยความรักจับหัวใจ

     


     

    “หยุดขำก่อนสิแล้วมาฟังคำถามนิวใหม่ เมื่อกี้จิ๋วตอบผิดคำถามนะ”

     

    นิวว่าพร้อมรอยยิ้มบางๆ เรียกร้องความสนใจจากคนขำค้าง ที่หันมาสบตากันด้วยแววตาติดจะสงสัยอย่างรวดเร็ว

     

    คนตัวเล็กเอียงคอมองกันน้อยๆ

    ท่าทางน่ารักที่จิ๋วคงไม่รู้ว่ามันขโมยหัวใจใครต่อใครไปมากมาย

     

     

    นิวยิ้มกับตัวเองเงียบๆ

     

     

    “นิวถามว่า ชอบไหม

     

    ก่อนจะทวนคำถามที่เรียกความสงสัยจากคนตัวเล็กได้อีกชุดใหญ่

     

     

    ดวงตาสองคู่สานสบกันนิ่ง นิวยิ้มหวาน จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น มองหาวี่แววบางอย่างที่เธอจะเก็บเอาไว้เป็นเรี่ยวแรงให้หัวใจ

     

     

    “นิวน่ะ

    นิ้วเรียวชี้เข้าที่อกข้างซ้ายของตัวเอง

    ดวงตาวาววับก็ยังจับจ้องที่อีกคนราวกับจะหลอมะลาย

     

     

    ข้อสงสัยที่ถูกคลายลงอย่างช้าๆ คำถามที่กำลังจะกระจ่างชัดว่านิวต้องการทราบอะไร

    จิ๋วหน้าแดงระเรื่อ หัวใจเต้นระรัว เมื่อพบว่า นี่ไม่ใช่สายตาที่เธอควรจะได้รับ

     

     

     

    “จิ๋วชอบนิวไหม ?

     

     

    และนี่ก็ไม่ใช่

    คำถามที่เธอควรจะได้ยิน

     

     

     

     

     

    นิวจ้องคนตัวเล็กไม่วางตา รอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ แม้ในครั้งแรกที่ตั้งคำถาม จะไม่ได้เกิดจากการอยากรู้ใจ แต่เมื่อได้หลุดปากไปแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะรั้งรอเอาคำตอบ

     

    เผื่อว่ามันจะตรงใจ

     

    ความเงียบงันในบ้านหลังใหญ่กำลังเป็นตัวผลักดันความตื่นเต้นให้ยิ่งเพิ่มพูน และเห็นคนตัวเล็กนิ่งไปนานแบบนี้ จังหวะหัวใจที่ระรัวอยู่แล้ว ก็ยิ่งสั่นทวีคูณ

     

     

     



     

     

    จิ๋วรู้ดีว่าเธอกำลังจะแย่ ผิวแก้มเนียนใสร้อนเห่อขึ้นจนสัมผัสได้ หัวใจดวงน้อยระส่ำซ้ำๆราวกับจะหลุดออกจากอก อะไรในนาทีก็ดูจะติดขัดไปเสียหมด คิดอะไรไม่ออก บอกไปก็ทำไม่ได้ คนตัวเล็กทำได้แค่กำมือตัวเองจนแน่น แล้วหลับตาปี๋หนีเหตุการณ์ตรงหน้าไปอย่างขลาดกลัว

     

    สะกดกลั้นอารมณ์จนหน้าแดงก่ำ

    คนบ้า บ้า นิวบ้า

     


     

    “อ้าว เงียบเลย ทีงี้ไม่ตอบ หยิ่งหรอ ดังแล้วหยิ่งใช่ไหม เดี๋ยวนิวเอารูปตอนเด็กๆไปแฉบ้างน้า

    และมันเงียบเกินกว่าจะรอแล้ว นิวเห็นอีกคนหน้าแดงขนาดนั้น ก็กลัวคนตัวเล็กจะระเบิดตัวเองไปเสียก่อน คำกระเซ้าพร้อมเสียงหัวเราะคิกคักจึงถูกส่งออกมากอบกู้สถานการณ์ที่เสี่ยงจะหวานเกินควร แถมยังแอบขโมยคำอีกคนมาแหย่ให้อารมณ์หงุดหงิดได้พลุ่งพล่านหนัก

     

    ให้จิ๋วได้ฟาดงวงฟาดงาร้องแหวเสียงดัง จบกับคำถามน่ากลัวนั่นลงไปเสียที

     


     

    “ไอ้บ้านิว เล่นอะไรบ้าๆ หึ ไม่ยุ่งด้วยแล่ว โรคจิต

     

    มือเล็กส่งแรงสุดตัวมาผลักกันจนหัวทิ่ม แถมปากน้อยๆนั่นยังสาดคำมาว่ากันให้ได้สะดุ้ง เออแหน่ะ แค่เสี้ยววินาที คนดีดีก็กลายเป็นทั้งไอ้บ้าไอ้โรคจิตเสียแล้ว คุณจิ๋วนะคุณจิ๋ว

     

    มือคู่เดิมทุบอั้กเข้าที่ไหล่ขวา ระบายความเขินด้วยความรุนแรง แต่ก็ไม่ได้สะเทือนอะไรของนิวสักนิด

     

    นอกจากสะกิดต่อมหัวเราะให้ระเบิด



     

    “ฮ่าๆ จิ๋วอ่า โอ๊ยๆ โอ๊ย เจ็บนะ”

     

    ร่างเล็กสะบัดสะบิ้งขึ้นหนีกันขึ้นข้างบน ใบหน้าใสใสยังคงแดงก่ำเพราะความเขินไม่หาย ในมือถือหมอนใบโต เงื้อง่าเตรียมจะขว้างลงมาจากที่สูงให้นิวได้ยกมือปัดป้องทั้งที่ยังหัวเราะร่ากับอาการของอีกคน

     

     

    แต่ก่อนที่อีกคนจะลับตาไป คนหัวเราะยังไม่หาย ก็ส่งเสียงรั้งเอาไว้เสียก่อน

     


    “นี่จิ๋ว

     

     

    “อะไร”

    ตอบห้วนแถมยังเหวี่ยง คนตัวเล็กขมวดคิ้วหน้ายุ่ง คงนึกหมั่นไส้กันอยู่เต็มกำลัง แค่ทุบกับเขวี้ยงหมอนใส่คงยังไม่เพียงพอ

     


    นิวยิ้มเผล่ คิ้วข้างนึงยกสูงขึ้น หรี่ตาเล็กลง โปรยเสน่ห์ออกไปกับทุกอากัปกิริยา

    แถมยังส่งประโยคเด็ดขยี้ใจที่ถ้าหากในมือจิ๋วมีปืนอยู่สักหน่อย ลูกกระสุนจากปลายกระบอกร้อนๆ คงได้พุ่งเข้าตัดขั้วหัวใจเธอเป็นแน่

     
     

    “กลับไปคิดคำตอบนะ นิวจะรอ

     

     

     

     

     

    “ฮ่าฮ่าฮ่า

     

    เสียงหัวเราะไล่ตามหลังจิ๋วที่กระแทกเท้าปึงปังขึ้นห้อง จ้ำเท้ารีบร้อนแทบไม่คิดชีวิต ใบหน้าแดงก่ำไม่หาย สัมผัส สายตา เสียงหวานๆนั่นยังติดหูติดตา และมากไปกว่านั้น คำถามของอีกคนก็ยังติดอยู่ในใจ

     

    คนบ้า บ้าที่สุดเลย

     

    เล่นบ่อยๆแบบนี้

     


     

    เฮ้อ

    หัวใจเธอคงจะวายเข้าจริงๆสักวัน





     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×