คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 1 จากวันที่เธอไม่อยู่ ...
Chapter 1'
แอปเปิ้ลแหกขี้ตาตื่นมาในเช้าวันเสาร์ที่แสนว่างเปล่า...
บ้านว่างเปล่า
ตู้เย็นว่างเปล่า
สัญญาณโทรศัพท์ว่างเปล่า (เพราะโดนตัด)
และที่สำคัญ !!
กระเป๋าตังค์ ก็ว่างเปล่า...
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ แอปเปิ้ลก็คว้าน้ำเปล่าที่เหลือเพียงขวดเดียวในตู้เย็น มานั่งจุมปุกอยู่ที่โซฟาที่ไม่นิ่มเท่าที่ควร ตรงกลางบ้าน...
หยิบสมุดบัญชีที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกตรงหน้ามาเปิดดู เห็นตัวเลขในสมุดที่ไม่เคยขยับเขยื้อนไปไหนแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจออกมาเบาๆ
เธอตกงานมาเป็นเดือนที่สองแล้วนะ !
แล้วมีเงินเพียงแค่สองพันบาท จะอยู่พอได้ยังไงกัน ค่าเช่าบ้านก็กรอบแล้ว...
แอปเปิ้ลสั่นหัวเบาๆ พยายามไล่ความหงุดหงิด ความกังวล และสารพัดความ... ในหัวให้หลุดออกไปให้หมด
เมื่อสามเดือนก่อนที่ซิลวี่จะไปญี่ปุ่น เธอและซิลวี่เช่าบ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน บ้านเล็กๆหลังนี้อยู่แถบชานเมือง ใกล้จะถึงจังหวัดปทุมธานีเต็มที แต่การเดินทางนั้นสะดวก และคนก็ไม่ค่อยพลุกพล่าน ถูกอกถูกใจทั้งสองสาวเป็นอย่างมาก
แถมค่าเช่าบ้านก็ถูกซะจนน่าใจหาย...
เพียงสองพันหกร้อยบาทต่อเดือนเท่านั้น
แต่หลังจากซิลวี่เดินทางไปญี่ปุ่นพร้อมจูเนียร์ เธอก็ต้องอยู่บ้านหลังนี้เพียงคนเดียว ค่าเช่าบ้านก็จ่ายเพียงคนเดียว ซึ่งถือเป็นภาระที่หนักขึ้นพอสมควร...
และที่ซวยยิ่งไปกว่านั้น...
จู่ๆ โรงเรียนสอนดนตรี ที่เธอและซิลวี่สอนประจำอยู่นั้น ก็ปิดตัวลงไปอย่างกะทันหัน ไม่บอกไม่กล่าว ทิ้งเพียงซองขาวที่บรรจุเงินไว้เพียงไม่กี่พันสำหรับเธอและซิลวี่ ไว้เป็นเงินเดือนก้อนสุดท้าย
ถ้าจะโชคดีหน่อยก็ตรงที่ ซิลวี่ยกเงินเดือนก้อนนั้นให้เธอทั้งหมด เพราะแอบรู้สึกผิดเบาๆ ที่ต้องทิ้งเพื่อนรักไว้ให้ผจญชีวิตเพียงลำพัง
พยายามจะไปสมัครงานที่ไหน ก็มีเหตุให้ต้องพลาด ถูกปฏิเสธอยู่ร่ำไป เธอเรียกเงินเดือนสูงไปบ้างล่ะ บ้านเธออยู่ไกลบ้างล่ะ ...
หนักๆเข้า แอปเปิ้ลจึงเกิดอาการงก ตัดสินใจเก็บเงินค่ารถ ไว้เป็นค่าอยู่ค่ากินก่อนดีกว่า
และด้วยความคิดไม่เข้าท่านี่เอง ที่ทำให้เธอต้องมากินแต่น้ำเปล่าประทังชีวิตไปวันวัน
แทนที่จะออกไปทำงานหาเงินอย่างที่ควรจะเป็น...
แอปเปิ้ลหัวเราะเยาะกับโชคชะตาของตัวเองเบาๆ
"ก็ใช่สิ ฉันมันไม่ดีเท่าเขา ไม่ค่อยน่าแคร์เท่าไหร่ ได้แต่น้อยใจเบาเบาอย่างนี้...."
เอ่อ... แต่ดูเหมือนเพลงที่แอปเปิ้ลฮัมออกมา จะไม่ค่อยเกี่ยวกะชีวิตปัจจุบันของเธอเองเท่าไหร่นะ
= =;
แอปเปิ้ลเงยหน้ามองปฏิทิน ที่เต็มไปด้วยรอยปากกาแดงเถือกเต็มหน้ากระดาษ ...
อีกสามอาทิตย์เท่านั้น หากเธอยังหางานทำไม่ได้ คงต้องไปใช้ชีวิตอยู่ที่กำแพงเพชรกับแม่ เกาะพี่ชายกินไปวันๆ อย่างที่สัญญาไว้แน่ๆ
เธอไม่อยากกลับไปอยู่กำแพงเพชร ไม่ใช่เพราะหลงแสงสีอะไร แต่เพราะกลับไปทีไร แม่มักมีคำถามที่ทำให้เธอ 'รู้สึก' สะกิดใจเสมอ ...
ต้องกลับไปอยู่กับร่องรอยเดิมๆ คำปรามาสของพี่ชาย คำปลอบโยนของแม่ที่เอ่ยออกมาทีไรมีแต่จะตอกย้ำให้มันฝังลึกลงในจิตใจ
'เค้าจะไปรักแกจริงได้ยังไงแอปเปิ้ล เค้าเป็นผู้หญิง แกเป็นผู้หญิง เลิกงี่เง่า ลืมๆซะทีเถอะ'
ประโยคใจความเดิมๆ ที่ได้ยินจากปากพี่ชายคนเดียวบ่อยๆ ...
ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของเธอสักคน นอกจากซิลวี่...
ทุกคนมองความรักของเธอ เป็นเหมือนเรื่องเด็กๆ แถมยังมองว่าไร้สาระอีกด้วยซ้ำ บ้างก็ว่ามันเป็นอดีตที่ผ่านไปแล้ว ไม่ควรไปนั่งจดจำ
แต่หารู้ไม่ ...
ว่าไม่ใช่เพราะอดีตหรอกเหรอ ที่ทำให้เธอยังคง หมดจิตใจที่จะเล่นเปียโนจนถึงทุกวันนี้
ไม่ใช่เพราะมีเพลงของเราหรอกเหรอ แอปเปิ้ลจึงขยาดเพลงนั้นไปโดยปริยาย
ไม่ใช่เพราะเขากลายเป็นนักร้องดังหรอกเหรอ เธอจึงยอมตกข่าว ปิดหูปิดตาจากสื่อต่างๆ เพียงเพราะกลัวจะได้รับรู้เรื่องราวของเขาแล้วจะกลับไปคิดถึง
ทั้งหมดที่คนอื่นมอง มันคือเรื่องไร้สาระ
แต่ทั้งหมดที่เธอรู้สึก และเป็นมาแล้วถึงหกปี ... คือความรู้สึกของคนเจ็บ ปวดร้าว และยังคงฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้
วันเปลี่ยนและหมุนไป แต่ใจยังเป็นเมื่อวาน
ทุกๆอย่างในทุกวัน ยังมีเธอทุกลมหายใจที่เข้าออก
.
.
.
ร่างบอบบางของหญิงสาวสองคน นอนกอดกันกลมบนเตียงสีขาวคิงไซส์ ... ภายในคอนโดมิเนียมสุดหรูใจกลางกรุงเทพ ที่อยู่เยื้องกับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ฝั่งอโศก
สายโด่งแล้ว แต่ทั้งสองสาวก็ยังนอนห่มผ้าหลับสนิทกันอย่างเหนื่อยอ่อน ... เพราะเพิ่งได้หลับไปเพียง3-4ชั่วโมงเท่านั้น
คนนอนฝั่งซ้าย กำลังพลิกตัวหลุดจากอ้อมกอด และดื้นไปดื้นมาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ดวงตาเรียวเล็กยังปิดสนิท อยู่ในห้วงนิทราอย่างล้ำลึก
ส่วนคนนอนฝั่งขวา ก็หมุนตัวตามมาเรื่อยๆ ยื่นแขนหาความอบอุ่นในอ้อมกอดตัวเองตามสัญชาตญาณ
และถึงแม้เตียงจะกว้างขนาดไหน หากสองสาวยังคงนอนดิ้นกันอย่างนี้...
ตุบ !
"โอยยย"
สุดท้ายแล้ว ทั้งสองสาวก็ร่วงลงมาจากเตียงพร้อมๆกันอย่างไม่ทันตั้งตัว ... แต่ก็ทำให้ตื่นขึ้นมาทีเดียว แม้จะยังไม่ลืมตาก็ตาม
"เจ็บอ่ะ" เสียงทุ้มหวานของคนที่นอนทับอยู่ด้านบน เอ่ยขึ้นมาเบาทั้งๆที่ยังหลับตาสนิท หน้าสวยหวาน ซบลงไปบนหน้าของอีกคนเพราะความง่วง โดยไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ ว่าคนที่นอนอยู่ด้านล่างจะ 'หนัก' ขนาดไหน
"พี่แกรนด์ ลุกออกจากนทเลยนะ"
ส่งเสียงประท้วง พร้อมกับยื่นมือมายกหัวของสาวรุ่นพี่ออกจากหน้าตัวเอง ... หน้าเหยเกเพราะความเจ็บ และรู้สึกหนักไปทั้งตัว
แต่พอได้เห็นระยะความชิดใกล้แบบไม่ต้องใช้เทคโนโลยี 3D ขนาดนี้
เธอก็เผลอยิ้มกริ่มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์นิดๆ
แก้มขาวใสที่เธอเองได้สัมผัสมันบ่อย ริมปากเล็กๆสีชมพู น่ารักน่าจุ๊บเสมอ
แอร๊ยย ><.
ปล่อยให้นทได้คิดลึกไม่นาน ดวงตากลมโตของคนด้านบนก็เบิกขึ้นช้าๆ ...
ภาพที่เห็นเหมือนภาพเบลอๆ เพราะความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่มาก แต่ก็เห็นเกือบชัด ว่าผู้หญิงคุ้นๆหน้าตรงหน้า กำลังส่งยิ้มแบบหวานละลายหัวใจ ให้ตนเองอยู่
"เหม่งยิ้มอะไร" พูดออกมาอีกคำ ก็ทำเอาคนโดนว่า 'เหม่ง' หน้าบู้ลงทันที พูดออกมาคำแรก ก็ปากดีเลยนะ !
พอเห็นใบหน้าเปลี่ยนไปเหมือนโดนสั่งของ 'เหม่ง' เธอก็ส่งเสียงหัวเราะชอบใจออกมายกใหญ่ ... ส่งผลให้นทยิ่งทำหน้างอขึ้นไปอีก
"พี่แกรนด์ อย่ามาหัวเราะ" ส่งเสียงพยายามเข้ม ... ขัดเสียงหัวเราะสดใสของคนบนตัวเอง
ก่อนจะทำเนียน ค่อยๆเลื้อยแขนตัวเองขึ้นไปกอดรัดคนกำลังหัวเราะไว้ช้าๆ ...
ช้า ๆ ... แต่รับรอง ดิ้นไม่หลุดแน่ๆ
"เอ้า ก็มันขำนี่เหม่..."
ส่งเสียงเถียงออกมาทันที ... แต่การกระทำที่เธอได้พบ มันกลับทำให้ทั้งลำคอตีบตันไปโดยปริยาย ...
แก้มขาวใสขึ้นสีเลือดฝาดอย่างน่ามอง
นทพลิกตัวเองจากด้านล่าง ขึ้นมานอนคร่อมแกรนด์ไว้ทั้งตัวอย่างง่ายดาย ... ร่ายมนตร์สะกดสาวตาหวานเบื้องล่าง ให้ดิ้นไม่หลุด ให้นอนนนิ่งอย่างนี้ไม่ไปไหน
"เอ้า ขำสิคะ ขำสิคะ !" เอ่ยเยาะเย้ยคนที่อยู่ใต้ร่างของตัวเอง พร้อมกับยิ้มอย่างคนชนะ
"ไม่ขำ เล่นอะไรเนี่ยแต่เช้าเลย ปล่อยเค้าเลยไอ้หัวเหม่ง !" คราวนี้ เป็นแกรนด์ที่ส่งเสียงประท้วงออกมา พร้อมกับแสร้งทำหน้าตาน่าหยิกอีก แต่ท่าทางนั่นกลับยิ่งทำให้นทหมั่นเขี้ยว แกล้งซบหน้าของตน ลงบนหน้าของอีกคน เลียนแบบท่าทางที่ตัวเองโดนเมื่อครู่อย่างนึกสนุก
"หัวเหม็นมาก เอาหัวออกไปเลยนะนท" แต่อีกฝ่ายกลับเบือนหน้าหนี แถมล้อปมด้อยของนท จนนทต้องยอมเอาใบหน้าของตัวเองออกมาในที่สุด
"ไม่โรแมนติกเลยนะพี่แกรนด์ !" นทส่งเสียงตำหนิคนหน้าบูดใต้ร่างของตัวเองอย่างเสียอารมณ์นิดๆ มีอย่างที่ไหน คนอยากสวีทด้วยแท้ๆ กลับมาหาว่าหัวเหม็น นี่ไม่ได้สระผมแค่6-7วันเอง จะเหม็นได้ยังไง !?
"อยากโรแมนติก แล้วให้พี่เป็นลมตายไหมล่ะ ?" แกรนด์เถียงออกมานิดๆหน่อยๆ ... พยายามจะดันตัวนทให้ลุกออกจากตัวเองซะที แต่ดูเหมือนพยายามไปเท่าไร ก็ไร้ความหมาย
เมื่อนทยังคงนอนนิ่ง ไม่ขยับไปไหน แถมยังส่งสายตาหวานเฉียบ ที่ชวนให้วาบหวามอารมณ์ไปถึงไหนต่อไหน
"ลุกไปได้แล้วนท ตื่นซะที !"
แกรนด์ขึ้นเสียงด้วยความหงุดหงิดเล็กๆ ... ที่อีกฝ่ายจะทำอะไรก็ไม่ทำ จะลุกหรือก็ไม่ จะหวานหรือก็เปล่า ยังคงนอนมองหน้าตัวเองนิ่งๆด้วยสายตาหวานๆ อยู่อย่างนั้น
"โอเคตื่นก็ได้ ลุกแล้วๆ"
ด้วยเหตุผลประการใดไม่ทราบ นทจึงยอมเอ่ยปากว่าจะลุกออกแต่โดยดี ... แกรนด์พยักหน้าเล็กๆน้อยๆอย่างพออกพอใจ
จุ๊บ ...
โดยไม่ทันตั้งตัว เจ้านทตัวแสบ ก็ก้มลงมอบ 'มอร์นิ่งคิส' ให้เธออย่างแผ่วเบา และรวดเร็ว ...
แต่เพียงเท่านั้นแหล่ะ ที่ดึงดูดเรี่ยวแรงทั้งหมดของเธอไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
นทยิ้มหวานอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นจากตัวของอีกฝ่าย ... แล้วดึงมือให้ลุกขึ้นมาด้วยกันอย่างน่าเอ็นดู
เห็นรุ่นพี่ยังคงยิ้มค้างๆอยู่ นทก็หันไปกอดเธอไว้ด้วยแขนสองข้าง แล้วเอาหัวถูๆต้นแขนเธอ เจตนาจะออดอ้อน
"พี่แกรนด์รักนทมั๊ย ?" ส่งคำถามที่ตอบยากเหลือเกินให้ด้วยน้ำเสียงงุ้งงิ้งน่ารักน่าเอ็นดู ... คำถามที่ทำเอาคนโดนถามถึงกับหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง
แกรนด์หัวเราะเล็กๆ หลบสายตาหวานเชื่อมของอีกฝ่าย แล้วเอ่ยแซวกลับอย่างไม่คิดอะไร
"ถามตัวเองเถอะ ว่าเราน่ะรักพี่มั้ย ?"
.
.
.
แต่หารู้ไม่ เพียงคำถามสั้นๆ เล่นๆ แบบไม่คิดอะไร มันไปสะกิดใจนท โดยที่คนถามเองไม่รู้ตัว ...
ว๊ากกกก มาแล้วค่ะ มาแล้ว 55555.
เห็นไหม มาเร็วกว่าที่สัญญาไว้อีก วันนี้เพิ่งจะ 12 มิถุนายนเอง ><.
อัพคราวนี้ นอกจากจะไม่มีสาระอะไรแล้ว ยังเขียนฝืด และเข้าใจยากอีกค่ะ TT
ดูสิ แต่งมาตั้งเยอะแล้ว แต่ทำไมฝีมือมันไม่พัฒนาเลยอ้ะ สีใจ*
แต่จะพยายามเพื่อทุกคนค่ะ เฮ่ ~
><.
ช่วงนี้ทุกคนกำลังงานยุ่งเลยใช่ไหมคะ เข้าใจค่ะเข้าใจ
เพราะตัวลูกไม้เองก็หนักเหมือนกัน ...
เรียนพิเศษทุกวัน การบ้านก็เยอะม๊วกกก ><.
มีเวลาว่างเมื่อไหร่ ก็อยากมาอัพ มาปลดปล่อยจินตนาการของตัวเองบ้าง
ช่วงนี้มีฟิคใหม่ๆให้อ่าน โอยย ลูกไม้ติดงอมแงมเลยค่ะ 5555.
ขอให้ติดตามกันอย่างนี้ต่อไปนะคะ
หากแต่งไม่ดี เขียนไม่รู้เรื่องยังไง อภัยกันหน่อย
อย่าทิ้งเค้าไปซะก่อนน้า :D
Noteapp it's real ><.
ความคิดเห็น