ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "ถ้าเขายังสำคัญ" #newjiew

    ลำดับตอนที่ #3 : chapter 2 better day

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 57


     

     Chapter  two

     

     
    .
    .


     

    “อย่าคิดนะว่าพี่ไม่รู้ แกสองคนแปลกๆไปมาก แล้วไม่ใช่แค่พี่คนเดียวที่สังเกตได้ ใครๆที่ตามแกมานานเขาก็รู้ทั้งนั้น”

     

     

    “มีอะไรก็เคลียร์กันซะนะปิยนุช แกกับนิวน่ะ เพื่อนกันมานานแล้วนะ แล้วยังต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน อย่าให้เรื่องเล็กๆน้อยๆมาทำให้ทุกอย่างพัง

     


     

    จิ๋วลืมตาโพลงท่ามกลางความมืดมิดที่ครอบคลุมทุกทิศทางของสายตา นอนไม่หลับแม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบเช้าแล้วก็ตาม

     

     

    คำพูดของพี่เจนยังดังก้องอยู่ในหัว การที่พี่เจนรับรู้ถึงความเปลี่ยนไปของเธอและนิวไม่ใช่เรื่องแปลกนัก คนที่อยู่ด้วยกันทุกวัน สนิทสนทกันเฉกเช่นพี่น้องคลานตามกันมาแบบนี้คงรู้ใจกันได้ไม่ยาก เธอไม่ได้กังวลกับพี่เจน แต่ในสายตาคนนอกที่มองเข้ามาและเธอไม่มีโอกาสได้อธิบาย เธอแคร์คนตรงนั้นมากกว่า

     

    แต่ถึงจะมีโอกาสได้อธิบายจริงๆ เธอก็ไม่รู้เลยว่าเธอจะอธิบายให้ใครต่อใครเข้าใจว่ายังไง



     

    เธอรู้ดี นิวจิ๋วคือไอคอนของคำว่าเพื่อน… คือเรื่องราวของมิตรภาพและเสียงเพลง คือคนสองคนที่จับมือฝ่าฟันเรื่องราวมากมายมาด้วยกันและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน


    ใครต่อใครคาดหวังให้นิวจิ๋วเป็นเพื่อนกันไปจนตาย คาดหวังเหมือนกับที่เธอคาดหวัง

     

     

    แต่ใจเธอกลับคาดหวังมากกว่านั้นไปมากมาย

     


     

    “เฮ้อ…

    เสียงถอนหายใจดังขึ้นในความเงียบ จิ๋วพลิกตัวไปมาเป็นรอบที่ร้อย… ไม่รู้จะหาทางออกให้กับเรื่องนี้อย่างไร สิ่งที่ควรจะเป็น ก็คงเป็นการกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม แต่กับปัญหาหัวใจเธอที่ยังทนรับไม่ได้ เธอก็ไม่รู้จะแก้ไขตรงนี้ยังไงเหมือนกัน

     

    ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว แต่ความรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจยังไม่จางหายลงไปแม้แต่นิดเดียว

     

    เธอยังมีความรักอยู่ในหัวใจมากมาย มันแทบล้นออกมาเมื่อได้พบหน้ากัน

     

     


     

    ในความห่างเหินที่เธอพยายามสร้างมันขึ้นมา ใจเธอสัมผัสได้เสมอว่านิวพยายามมากกว่าที่จะร่นระยะของเราให้ลดน้อยลงไป และความพยายามของนิวยังคงประสบความสำเร็จมากกว่า เธอใจอ่อนเกินไปที่จะปล่อยให้นิวพูดหรือทำอะไรคนเดียว และนิวก็รู้จุดอ่อนข้อนี้ของเธอดี ถึงได้พยายามเอาปัญหาชีวิตมาให้เธอเห็นในทุกๆวัน

     

    จากที่นึกว่าใจแข็ง เลยเป็นได้แค่ฝืนแข็งใจ… พยายามสร้างเกราะป้องกันหัวใจตัวเองเอาไว้ ถึงความรู้สึกมากมายมันจะไม่ลดน้อยลง ก็ขอแค่ให้มันไม่เพิ่มพูนขึ้น เธอก็พอใจแล้ว


     

    แต่การที่เราได้กลับมาพูดคุยกันอีกครั้งก็เหมือนการเติมเชื้อให้กองไฟที่กำลังร้อนระอุ… นิวไม่เคยเข้าใจว่าเธอกำลังพยายามทำอะไร ถึงได้พยายามทำตัวน่ารักจนหัวใจเธอใกล้จะละลายขึ้นทุกที


     

    ความพยายามซ่อนบังหัวใจเริ่มต้องทำงานหนักขึ้นทุกวัน

     


     

     

    ติ๊ง

     

     

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเตือนว่ามีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้น ขัดจังหวะความคิดที่เริ่มจะใกล้เข้าถึงจุดตันขึ้นทุกที จิ๋วเลิกคิ้วสูงอย่างประหลาดใจ เวลาตอนนี้มันไม่ใช่น้อยๆ ตีสามกว่าแล้ว ใครกันที่จะมาวุ่นวายอะไรกับเธอตอนนี้

     

    มือเรียวเกี่ยวคว้าเอาไอโฟนเครื่องบางมาไว้ในมือ ก่อนที่คิ้วที่ถูกยกสูงขึ้นในคราแรก จะต้องเปลี่ยนขมวดมุ่นผูกกันไว้แน่นแทน

     

     

    หัวใจเต้นตุบๆราวกับจะทะลุออกจากอก รอยยิ้มที่เหือดหายกลับผุดพรายขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม เธอเกลียดความอ่อนแอของตัวเอง แต่เธอก็หลงรักความน่ารักของอีกคนสุดหัวใจ

     

     

    ความน่ารักผ่านตัวอักษรไม่กี่ตัว ที่ทำหัวใจเธอต้องยิ้มตาม เพราะมันทำให้เธอชุ่มชื่นหัวใจบอกไม่ถูก

     

     

    “ฝันดีนะคุณจิ๋ว J

     

     

    ให้ตายเถอะ

    เพราะนิวเป็นแบบนี้ไงล่ะ เธอถึงตัดใจไม่ลงสักที

     

     

     

    “คนบ้า อยู่ห่างกันแค่นี้ก็ต้องส่งมา หึ

    คนตัวเล็กแสร้งบ่น ทั้งที่หัวใจก็เบิกบาน จนต้องยอมล่าถอยจากการคิดมาก มานอนซุกผ้าห่มหลับตาพริ้ม อยากจะฝันดีอย่างที่อีกคนส่งคำนั้นมาให้กัน

     

     

    ฝันดีเหมือนกันนะนิว

     
     

     

    ประโยคสุดท้าย ที่ดังก้องในใจ ก่อนที่ความสุขเล็กๆน้อยๆ จะขับกล่อมให้คนตรงนี้ ฝันดีอย่างที่นิวต้องการ

     

     

     

     

     

     

     

     



     

    .

    .

     

     

    “จิ๋วววววววว เห็นตุ้มหูคู่ที่นิวซื้อมาเมื่อวานไหมอ่า นิววางไว้ไหนไม่รู้อ่ะ หาทั่วแล้วไม่เจอเลยยยย”

     

    เสียงโวยวายลั่นบ้านที่เธอได้ยินเป็นประจำ และมันดูจะบ่อยมากยิ่งขึ้นในช่วงหลังๆ กำลังทำให้เช้าในบรรยากาศสบายๆเริ่มวุ่นวาย ความเดือดร้อนของนิวคือความเดือดร้อนของเธอเสมอ นิวทำมันให้เป็นแบบนั้นมาแต่ไหนแต่ไร จิ๋วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเตรียมตัวกับการเผชิญหน้า เพราะรู้ดีว่า ไอ้ตุ้มหูบ้านั่นคงจะไม่ถูกหาพบสักที หากเธอไม่เป็นคนลงมือด้วยตัวเอง

     

    นิวยืนเขย่งเก็งกอยแอบชะโงกมองอีกคนอยู่ยังบันไดที่คาบเกี่ยวระหว่างชั้นสองกับชั้นสาม ท่าทางมีพิรุธแทบยังลับๆล่อๆแบบนั้น ฟ้องความผิดดังสนั่นว่าตุ้มหูคู่นั้นคงไม่ใช่เรื่องเดือนร้อนเท่าที่นิวพยายามปลุกปั้นขึ้นมา

     

     

    ก็ใช่น่ะสิ ก็ไอ้ตุ้มหูคู่นั้น เธอแอบซ่อนลงไปในถุงเสื้อของจิ๋วเมื่อวานนี่เอง

     

    แผนการนี้คงล่อลวงจิ๋วมาวุ่นวายอยู่ใกล้ๆเธอได้นานหลายนาทีทีเดียว

     


     


     

    แกร๊ก

     

    เมื่อสองหูได้ยินเสียงประตูเปิด ปลายเท้าก็แตะแผ่วเบากับพื้นบันได แล้วรัวสองขาพาร่างตัวเองลงไปชั้นล่างของบ้านอย่างรวดเร็ว จะให้จิ๋วรู้ไม่ได้ว่าเธอแอบมองและตั้งใจ รีบสวมบทคนเดือดร้อนวุ่นวาย ปั้นหน้าสวยคมจนยุ่ง คิ้วขมวดมุ่นแลดูหงุดหงิด หันรีหันขวางรื้อนู่นพลิกนี่ได้อย่างสมบทบาท

     

    เพราะทำบ่อย

     

    ตั้งแต่ค้นพบว่าวิธีนี้เรียกร้องความสนใจจากจิ๋วได้ผล มันก็ถูกใช้บ่อยครั้งจนนิวเริ่มจะกลายคนหาของไม่เคยพบเข้าจริงๆเสียแล้ว

     

    จิ๋วมาแล้ว ค้นๆๆๆๆๆ




     

     

    “ช่วงนี้ขี้ลืมจังนะ

     

    สำเนียงจิกกัดที่เรียกรอยยิ้มให้กับนิวได้เสมอ มาพร้อมกับร่างเล็กที่ยืนหรี่ตามองกันอย่างจับผิด นิวที่แสร้งก้มหาจนหลังแทบค่อม ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาหาอีกคนพร้อมพยายามซ่อนรอยยิ้มอย่างสุดความสามารถ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สำเร็จ นิวหลุดยิ้มแหยให้อีกคนเห็นจนได้


     

    จิ๋วกระตุกมุมปากน้อยๆ แววตาคมกริบยังคงมองนิ่งที่อีกคนอย่างจับสังเกต รอยยิ้มของนิวผิดปกติ ยิ่งมีแววเก้อเขินในสายตายิ่งทำให้สงสัย มันคงต้องมีอะไรผิดจากปกติไปสักอย่าง เสียดายที่เธอยังจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน

     

    แต่ก็แค่วันนี้เท่านั้นล่ะ



     

    “เอ้า อยู่ในถุงเสื้อจิ๋วโน่น ไม่รู้มันเดินเข้าไปตอนไหน”

    มือเรียวยื่นถุงกระดาษใบเล็กให้คนตรงหน้า พร้อมกับบอกตำแหน่งก่อนหน้านี้ของมัน แถมยังแขวะไปด้วยอีกคำ ให้อีกคนพอได้รู้ ว่าเธอก็ไม่ได้บื้อพอที่จะให้อีกคนแกล้งทำของหายอย่างนี้ได้บ่อยๆ


     

    แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ แววตาของเธอคงทำอะไรกับคนทะเล้นคนนี้ไม่ได้ นิวถึงไม่ได้มีท่าทีรู้สึกรู้สาอะไร แถมยังใช้แอคติ้งที่ร่ำเรียนมาจากหม่อมน้อย แสร้งดีใจกับไอ้ถุงกระดาษนั่นได้อย่างแนบเนียน รอยยิ้มสดใสนั่นดูดีใจกับมันอย่างสมจริง  ในสายตาคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ เธอที่รู้จักนิวมากพอ มากเกินไปแล้วด้วยซ้ำ

     


     

    “หืมมม ขอบคุณนะ นี่ถ้าไม่มีจิ๋วนี่นิวหาอีกนานเลย

     

    นิวยิ้มแป้นอย่างกลั้นไม่อยู่ เธอดีใจจริง ไม่ได้แกล้งทำ แต่แค่ไม่ได้ดีใจที่เจอตุ้มหูคู่นี้ เธอดีใจที่ได้เจอหน้าเพื่อนรักแต่เช้าต่างหาก

     

    ดวงตาที่ฉายแววรู้ทันของจิ๋ว มันน่ามันเขี้ยวจนนิวอยากจะหยิกแก้มใสใสนั่นสักที จิ๋วฉลาดขนาดนี้ ต่อไปเธอคงต้องหาวิธีการใหม่ๆมาใช้บ้างแล้ว


     

     

    “อ้าว”

    แต่ได้ปลื้มกับการเจอกันแต่เช้าไม่เท่าไร พริบตาเดียว จิ๋วก็หมุนตัวหันหลังไปจากกันจนนิวเหวอ ต้องรีบค้นเสียงตัวเองแล้วร้องเรียกอีกคนให้ยุติการเดินจากไป หัวใจเธอยังไม่ทันจะได้อบอุ่นดี จิ๋วก็จะมาหนีกันไปซะแล้ว โธ่

     

    “จิ๋ว ละนั่นจะไปไหนอ้ะ”

    นิวร้องเสียงหลง ใจแทบจะลอยตามอีกคนไปแล้วติดๆ

     

     

    “หืม

    จิ๋วหยุดการเคลื่อนไหวลงแต่เพียงเท่านั้น ใบหน้าเล็กเอียงคอมองเพียงเล็กน้อยมาจากบันไดขั้นที่สาม ส่งสายตามาเป็นเควสชันมาร์ก เลิกคิ้วสูงมองกันอย่างตั้งคำถาม

     

     

    เป็นโอกาสเหมาะให้คนทะเล้นที่เตรียมตัวมาอย่างดี ได้กุลีกุจอเข้าไปลากตัวอีกคนที่ยังคงมึนๆงงๆ ลงมานั่งจุมปุกยังเก้าอี้โต๊ะกินข้าวอย่างแนบเนียน

     

     

    “ไหนๆก็ลงมาแล้ว อยู่กินข้าวกับนิวก่อนสิ เนี่ย กับข้าวเต็มเลยนะ นิวทำสุดฝีมือเลย เนื่องในโอกาสที่วันนี้เอ็นเจได้หยุดอยู่บ้านทั้งคู่ อ๊าา หอมไหมล๊า”

     

    ความสามารถในการพูดของนิวไม่เคยมีข้อกังขาอยู่แล้ว นิสัยช่างพูดช่างคุยแถมยังช่างออดอ้อนละลายความตั้งใจจะปฏิเสธของเธอได้เสมอ นี่ก็เป็นเหมือนทุกครั้ง ที่หากนิวตั้งใจจะทำอะไรแล้ว ริมฝีปากบางๆนั่นก็จะต้องขุดหาคำบรรยายเหตุผลมากมายมาโน้มน้าวกันจนได้

     

    จิ๋วนั่งอ้าปากพะงาบๆ พูดไม่ทัน ปฏิเสธไม่ออก รู้ตัวแล้วว่านิวคงไม่ปล่อยฝห้เธอได้กลับขึ้นไปง่ายแน่ๆหากความตั้งใจทั้งหลายทั้งปวงของนิวยังไม่จบลง

     

    จากที่ตั้งใจว่าจะรีบหนีไปให้ไกลทันทีที่คืนตุ้มหูให้เรียบร้อย ก็กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ เธอต้องมานั่งลงบนโต๊ะอาหาร ตรงข้ามอีกคนที่ดูจะมีความสุขเสียเต็มประดา รอยยิ้มหวานเฉียบเปื้อนไปทั่วหน้า

     

     

    คงสมใจเธอแล้วสินะ แบรนด์นิว

     


     

    “ยิ้มไรนักหนา จะให้กินก็ตักข้าวสิ หิวแล้ว”

    อีกคนยังคงส่งยิ้มให้กันอย่างต่อเนื่องจนหัวใจเริ่มแกว่งมากขึ้นทุกที และภูมิต้านทานต่ำๆของเธออาจะหมดลง หากไม่ยุติมันลงไปเสียก่อน เสียงใสแหวดังให้เจ้าของมื้อเช้ารีบกุลีกุจอคว้าจานข้าวหอมฉุยส่งให้กัน มือเรียวเปิดจานสำรับทั้งสี่ห้าชุด พร้อมด้วยรอยยิ้มภูมิใจเสนอที่ภูมิใจ๊ภูมิใจจนถึงที่สุด

     


    ชัดเจนว่าอีกคนเตรียมตัวสำหรับมื้อนี้มาเป็นอย่างดี


     

    จิ๋วกวาดตามองกับข้าวหน้าตาน่าทานพวกนั้นแล้วก็อดอมยิ้มอย่างปลื้มใจไม่ได้เลย

    เสน่ห์ปลายจวักของนิว รสชาติชั้นยอด หน้าตาชั้นเยี่ยม เธอตกหลุมรักอาหารของแบรนด์นิวจนถอนตัวไม่ขึ้นเลย

     

     

    ไม่ได้กินมานานแล้ว ชักจะคิดถึงเหมือนกันแฮะ

     

    ช้อนสีเงินวาววับจับเข้าสู่กับส้อม คีบพาผักคะน้าสีเขียวสดใส ของโปรดเธอมาใส่จาน ด้วยฝีมือของแม่ครัวหัวป่าประจำวันนี้


     

    “กินเยอะๆนะ”

     

    อากัปกิริยานั้นกำลังทำให้หัวใจที่เคยไร้เรี่ยวแรง กลับพองโตขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล

     



    จิ๋วก้มหน้าลงซ่อนรอยยิ้ม เธอไม่ได้อยากให้อีกคนเห็นนักหรอก ว่าเธอมีความสุขแค่ไหนกับวันเวลาแบบนี้ของเรา

    เรื่องหัวใจของเธอ มันยังต้องเป็นความลับต่อไป

     

     


    “นิวไม่อยากจะพูดให้เสียบรรยากาศหรอกนะ แต่แค่อยากบอกว่าดีใจจัง ที่ได้ทำกับข้าวให้คุณจิ๋วกินอีกครั้ง

     

    เสียงเนิบนาบของนิวเอ่ยขึ้นเบาๆ แต่เรียกความสนใจจากจิ๋วคืนมาได้อย่างง่ายดาย จิ๋วเงยหน้าขึ้นสบตาอีกคนที่จ้องรออยู่แล้วพร้อมรอยยิ้มจางๆ แววตาจริงใจนั่นบอกต่อกัน ว่าทุกคำที่นิวกำลังพูด คือเรื่องจริง

    หัวใจของเธอกำลังรู้สึกอบอุ่น เมล็ดพันธุ์ความรักผลิดอกออกผลจนยากเย็นเกินไปหากจำห้ามใจ...



     

     

    นิวมองหน้าจิ๋วเต็มตา ทำในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำมานานแสนนาน คิดถึง คิดถึงใบหน้าน่าเอ็นดูนี่จนแทบจะขาดใจตายให้ได้… จากที่ได้แต่แอบมอง ได้แต่สนใจอยู่เงียบๆมานานนับเดือน และวันนี้ เธอมีความสุขเหลือเกิน มีความสุขที่สองตาของเธอได้มองจิ๋วแบบนี้ แม้ในหัวใจอีกคนจะมีกำแพงอะไรปิดกั้นเธอเอาไว้ แต่สักวัน เธอหวังว่าต้องมีวันที่เธอจะครอบครองพื้นที่นั้นได้เต็มทั้งหัวใจ

     

    ขอเพียงอีกคนยังไม่ผลักไสเธอไปไหน เธอก็จะตอแยอีกคนอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ

     

     

     

     

    “ขอบคุณนะนิว

     

    จิ๋วส่งรอยยิ้มบางๆให้เธอ รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจคนรอพองโตขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ นิวพยักหน้ารับคำขอบคุณนั้นอย่างเป็นสุข เธอเองก็ไม่รู้ว่าอนาคตต่อจากนี้ อะไรๆที่เธอคาดหวังจะมีวันได้เป็นจริงหรือเปล่า แต่เธอก็ยังชื่นใจ ที่อย่างน้อยๆ มันก็ไม่ได้จะเลวร้ายไปอย่างที่เธอเคยกลัว

     

     

     

    มื้อเช้าในตอนเกือบๆสายดำเนินไปอย่างเรียบง่าย เสียงพุดคุยลอยตามลมเป็นระยะ บรรยากาศในบ้านหลังเดิมไม่เงียบเหงาเหมือนวันวานที่ผ่านมาอีกต่อไปแล้ว

     

    อะไรๆ ก็คงจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นสักที

     



    เธอหวังว่าจะเป็นแบบนั้นล่ะนะ


    . 

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×