ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TS] เมื่อสองเราได้พบกัน #SpecialTBC

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 จากในวันนั้น

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 56





    “แกรนด์ หนูจะกลับบ้านเมื่อไร ไปอยู่นู่นนาน แม่กะคุณป๊าคิดถึงละนะ”

     



    “เดี๋ยวอีกสามสี่วันก็กลับแล้วค่า บอกคุณป๊าว่าแกรนด์คิดถึงมากน้า”

     


    “จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆ รักแม่ที่สุดค่ะฝันดีน้า”

     

    เมื่อได้บอกใจความครบถ้วนอย่างที่อยากบอก คนสวยปลายสายก็รีบกดวางอย่างฉับไว กลัวคนที่ฝั่งภูมิภาคจะกระเง้ากระงอดให้เธอต้องลำบากใจอีก นี่ก็แทบจะตลอดห้าวันแล้วที่เธอพาตัวเองพักพิงที่นี่ ที่คุณแม่ของเธอโทรมาพร่ำคำคิดถึงให้ต้องใจแข็งทำเมิน

     

    ย่างเข้าวันที่หกแล้วที่เธอมาดื่มด่ำกับความสวยงามอยู่กับสถานที่ในจิตใต้สำนึก อุปกรณ์สื่อสารถูกปิดตลอดวันและเปิดขึ้นในเวลาหนึ่งทุ่มเพื่อรับสายของคุณแม่ตามที่สั่งกันเอาไว้  และในช่วงเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกดิน นั่นคือเวลาพักผ่อนที่แสนสงบที่เธอเฝ้ารอ

     

     

     

    แต่นอกจากการพักผ่อนที่แสนสงบ สิ่งที่สาวสวยคนนี้รอคอยมาเนิ่นนาน คือการกลับมาตามคำสัญญาของใครบางคนมากกว่า

     

     

    ใครบางคนที่ทำให้เธอต้องทิ้งภาระมากมายเพื่อมาหยุดชีวิตไว้นิ่งๆตรงนี้

    ใครบางคนที่ทำให้เธอรู้สึก

     

     

     

    คิดถึง ทั้งที่เรายังไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ใดใดต่อกัน นอกเหนือจากการ สบตาและพูดคุยไม่กี่คำ แค่นั้นเอง

     

     

     

    แต่มันก็เป็นความน่ารักที่ประทับจับใจเธอน่าดูเชียวล่ะ

     

     

     

     

    ก็เธอยังจำ

    รอยยิ้มและน้ำใจของเขาได้อยู่เลย จนป่านนี้

     

     

     

     

     

    เมื่อครั้งที่เราได้พูดกันครั้งแรก

     

     

     







     

    .

    .

     

     

    บ่ายแก่ๆจวนจะเย็นย่ำเต็มที เวลาพักผ่อนที่แสนจะชิ๊ลชิล ท่ามกลางแสงแดดสีส้มที่สาดส่องให้ความอบอุ่นไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เธอเองก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตเช่นกัน ที่มายืนท้าลมเย็นฉ่ำปอดอย่างไม่แคร์แดดเช่นนี้

     

    อ่า สดชื่นเป็นบ้า

     

     

    เธอเห็นภูเขาลูกนั้นอยู่ใกล้แค่เพียงเอื้อมมือ มันตั้งตระหง่าน หญิงใหญ่และมั่นคง  แต่ในความเป็นจริง มันออกจะดูแสนไกล เธอคงเดินไปถึงไม่ได้แน่ๆ

     

    แต่เธอจะสามารถเก็บความประทับใจไว้ได้ในรูปแบบของภาพถ่าย

     

     

     

     

    คิดได้ดังนั้น คนสวยอารมณ์ดี ก็ยกกล้องคอมแพคตัวบางขึ้นถ่ายรูปรัวๆอย่างชอบอกชอบใจ

     

     

    จากที่เคยยืนชื่นชมบรรยากาศนิ่งๆ ก็กลายเป็นว่าเธอต้องเดินไปมุมนู้น นั่งลงตรงนี้ เอนนอนตรงนั้น เพื่อหามุมที่สวยที่สุดของเจ้าภูเขาลูกใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวินาที

     

    ให้ตายเถอะ สวยทุกมุมเลยนะ !!

    ฮื้ออออ ชอบบบบ ชอบที่นี่

     

     

     

     

     

     

     

     

    ห่างออกไป หลังต้นไม้ต้นใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านใบไพศาล มีใครบางคนกำลังยืนยิ้มหวานอย่างสุขใจ ดวงตาพราวระยับจับจ้องอยู่ที่จุดหมายที่ทำให้เธออยู่ไม่เป็นสุขตั้งแต่วินาทีแรกที่สบตากัน และไม่ว่าธรรมชาติหรือความสวยงามอื่นใด ก็เทียบไม่ได้กับความเคลื่อนไหวซนๆตรงหน้าแม้สักนิด

     

    ภาพคนสวยที่เดินวุ่นวายไปมุมนู้นมุมนี้ กำลังทำให้คนมองมีความสุขจนจุกในอก เธอเห็นตั้งแต่ใครคนนั้นยืนเหม่อมองภูเขาลูกนั้นด้วยแววตาแห่งความหลงใหล ยกแขนสองข้างขึ้นสูงสุดมือเพราะความลมเย็นที่พัดมาให้ฉ่ำใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความวุ่นวายที่เธอคนนั้นควักกล้องออกมาชักภาพนั้นรัวๆ นทยิ้มตามทุกรอยยิ้มของเธอคนนั้นอย่างคนที่กำลังมีความสุข ความสุขที่เกิดขึ้นเพราะใครบางคนกำลังมีความสุข และดีใจมากเหลือเกินที่ได้มาพบเข้ากับหญิงสาวที่หัวใจเธอเรียกร้องจะพบหน้า

     

    ถึงไม่ใช่การเดินตามหาแต่มันก็คลับคล้ายคลับคลาคำนั้นจนเรียกได้ว่าใช่เข้าไปทุกที


     

    เธอเดินไปทั่วฟาร์ม ดูวัวกินหญ้า ดูม้าวิ่งเล่น เห็นเป็ดพยายามบิน เดินไปทุกที่ทุกมุมเจออะไรมากมาย แต่เพิ่งมาหยุดสนใจ แค่ตรงนี้นี่เอง

     

     


     

    มันคือความสวยงามที่เธอเฝ้ารอ


     

     

     

    คุณผู้หญิงซุ่มซ่ามคนนั้น

     

    ช่างมีเสน่ห์ดึงดูดหัวใจเธอเหลือเกิน

     

     

     

     

     

     


     

     

    “ฮึ่ย

     

    ความหงุดหงิดกำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆในความรู้สึกของคนสวยเพียงลำพังต้นเหตุก็เกิดจากความลำพังของเธอนี่แหล่ะ ! เพราะเธออยู่เดียว มันจึงทำให้เธอไม่อาจถ่ายภาพตัวเองแบบสวยๆคู่กับภูเขาและต้นไม้ได้สักที

     

    นี่พยายามมานานแล้วนะ !

     


     

    “ฮึบ ฮึ่ย!

    เสียงแห่งความหงุดหงิดขัดใจดังขึ้นทุกทีเมื่อแขนขาวๆนั่นพยายามยื่นออกไปจนสุดความยาว แต่รูปถ่ายก็ได้เพียงเสี้ยวหน้าผากกับไรผมที่ตกลงมากระจายเต็มหน้า บางที รูปก็ติดภูเขาจนไม่เห็นเธอ บางที รูปก็ติดแต่เธอจนไม่เห็นภูเขา สลับไปมาแบบนี้จนคนสวยอยากร้องไห้เต็มทีแล้ว

     

    “ฮึ่ยยย!!


     

    หงุดหงิดจนอยากจะเขวี้ยงกล้องแล้ว ให้ตาย !

     

     

    เที่ยวคนเดียวไม่เห็นสนุกเลย ไม่สนุกเลยจริงๆนะ

     

     


    โอ๊ยยยยยยยยยยย!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


    “ฮ่ะๆ ฮ่ะ ฮ่าฮ่า”

     

    นทยิ้มจนแทบจะขำเธอคนนั้นออกมาอยู่แล้ว ท่าทางขัดอกขัดใจที่เหมือนเด็กแบบนั้นกำลังทำให้นทรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวมันช่างสดใสกว่าวันไหนๆ และความรู้สึกที่ว่าเธอคนนั้นกำลังต้องการความช่วยเหลือ ก็แจ่มชัดมากขึ้นทุกที

     

    สุดแขนสุดคว้า ยิ้มร่าสู้แดดและลม แต่เมื่อดึงกล้องกลับมา ก็กลับต้องทำหน้าผิดหวังทุกครั้งไป

     

     

    โธ่ คุณน่ะ

     

    น่ารักเป็นบ้าเลยรู้ตัวไหม

     

     

     

     

    นทชักชอบคุณมากขึ้นทุกทีแล้วนะคะ

     

     

     

     

     

    และท่าทางน่ารักเป็นบ้าแบบนั้น ก็กำลังทำให้นทเริ่มรวบรวมความกล้าที่จะทำตามหัวใจอีกครั้ง

     

    บางทีความช่วยเหลือของเธอในตอนนี้ อาจเป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ของเราก็ได้

     

     

     

    คิดได้ดังนั้น นทก็สูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด เตรียมย่างเท้าตรงเข้าไปหาคนสวยในดวงใจเพื่อหยิบยื่นไมตรีจิตให้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     



    หากแต่มันก็ช้าไป แค่เสี้ยววินาทีอีกเช่นเคย

     

     

     

     

     

    “คุณแกรนด์ครับ

     

    การพยายามถ่ายรูปขั้นแอดวานซ์ของคนสวย เป็นอันสะดุดลงเมื่อสองหูได้ยินเสียงใครบางคนเดินเข้ามา แกรนด์ลงกล้องในมือพร้อมหันหน้าไปหาต้นเสียง พร้อมฉีกรอยยิ้มแสนหวานให้กับเขาผู้มาใหม่

     

    คุณกัน นภัทร เพื่อนที่จะคอยดูแลคุณทุกนาทีจากนี้เป็นต้นไปนี่เอง อิอิ

     

     

    หนุ่มหน้าคมเข้มแต่ก็หวานฉ่ำที่ดวงตา ยืนยิ้มอบอุ่นอยู่ไม่ห่างเท่าไรนัก

     

    “คุณกัน”

     

    “ตอนบ่ายด้านนี้แดดร้อนนะครับ ผมเห็นคุณแกรนด์ไม่มีหมวก เลยหยิบมาเผื่อ

    น้ำใจที่เขาหยิบยื่นให้ มาพร้อมกับหมวกสานใบสวยทรงผู้หญิงที่น่าจะมีประโยชน์ใช้สอยในด้านการประดับตกแต่งมากกว่ากันแดดกันลม เธอยิ้มและรับมันไว้ พร้อมกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่ก็หวานจับใจ น้ำใจของเขามากมายทีเดียว และหมวกใบนี้ก็ดูสวยถูกใจจนเธออดไม่ได้ที่จะถามถึงที่มา

     

    เผื่อใครไม่รู้ เธอเป็นนักสะสมหมวกตัวยงเลยนะ เพียงแต่ลืมหยิบออกมาจากกระเป๋าเท่านั้นเอง

     


     

     

    “คุณกัน หมวกใครคะเนี่ย สวยจัง”

     

    กันยิ้มเขินๆเมื่อสบดวงตาหวานๆคู่นั้นเข้าเต็มๆตา สาวสวยตัวเล็กบอบบาง หุ่นทรงพอเหมาะพอเจาะ รับกับใบหน้าจิ้มลิ้มที่สมบูรณ์แบบราวกับตุ๊กตา ยิ่งเมื่อถูกเสริมด้วยหมวกใบสวยที่เขาตัดใจซื้อมาในราคาแพงหูฉี่จากช็อปของที่ระลึกของฟาร์ม มันยิ่งขับลุคส์ให้คุณแกรนด์คนนี้ เหมือนเจ้าหญิงผู้งามสง่าในนิยายไม่มีผิด

     

    เหมาะสม พอดี เพอร์เฟ็กต์

     

     

    สวยอ่ะ

     


     

    “คุณกัน คุณกันคะ”

     

     

    “อะ เอ่อ ครับครับ”

    ท่าทางลุกลี้ลุกลนเกินเหตุของเขากำลังทำให้คนสวยหลุดหัวเราะออกมาเบาๆอย่างอดกลั้นไม่ได้อีกแล้ว แม้จะแอบเขินนิดหน่อยที่เห็นเขามองเธอจนตาค้าง แต่สู้เขาที่ใบหน้าคล้ำนั่นแดงฉ่ำไม่ได้เลย

     

     

    “แกรนด์ถามคุณว่า หมวกใบนี้ของใครคะ สวยจัง”

     

     

    “ถือเป็นอภินันทนาการจากทางฟาร์มแล้วกันครับ ขอให้คุณแกรนด์มีความสุขกับความสงบที่รอคอยการมาเยือนเสมอ มีอะไรเรียกใช้ผมได้นะครับผม กัน นภัทร ยินดีให้บริการฮะ”

     

    กันสูดลมหายใจเข้าปอดยาวเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะสวมบทผู้จัดการหนุ่มมาดดีเพื่อกล่าวคำอำลาและมอบพื้นที่ส่วนตัวคืนแก่ลูกค้าคนสำคัญ ไม่ใช่แค่มารยาทที่ต้องทำ แต่เขาทำไปเพื่อกลบเกลื่อนความเขินที่พุ่งโจมตีมากขึ้นทุกที

     

     

    คุณแกรนด์สวย และน่ารักเกินไป เขาหักห้ามหัวใจและอารมณ์ความรู้สึกไม่ได้เลย

     

     

    “ขอตัวนะครับ

    ผู้จัดการหนุ่มโค้งตัวน้อยๆ ก่อนจะเดินจากไปพร้อมรอยยิ้มกว้างเต็มสีหน้า ทิ้งแกรนด์ให้ยืนยิ้มค้างอย่างงงๆกับท่าทางของเขา ถามอะไรก็ไม่ตอบ แถมยังบอกลากันไปเสียเฉยๆเลย

     

     

    แกรนด์มองกล้องในมืออย่างเซ็งๆ โธ่ คุณกัน จะรีบไปไหนของเขานะ นี่เธอยังไม่ได้ขอความช่วยเหลือให่วยถ่ายรูปให้หน่อยเลย

     

     

     

     

    ว้า แย่จัง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ทำไงได้ล่ะ ก็คงต้องพยายามถ่ายรูปคนเดียวต่อไปอ่ะนะ

     

    แต่มีหมวกใบนี้เข้ามายิ่งทำให้เธอถ่ายรูปติดหน้าน้อยลงอีกนะเนี่ย

     

    “ฮึบ

     

     

    สงสัยคงต้องยอมแพ้แล้วล่ะ

     

     

     

     


     

    “คุณคะ มีอะไรให้ช่วยไหม ?

     

     

    เสียงของความช่วยเหลือดังขึ้น และมันก็ทำให้แกรนด์ฉีกยิ้มอย่างยินดี

     

    ใครกันนะคนใจดี คนสวยหันหน้าไปเต็มแรง เพื่อจะขอให้ผู้หยิบยื่นความช่วยเหลือนั้น มาช่วยเธอสักที

     

     


     


    “เอ่อ คุณ”

     

    แต่ใบหน้าของผู้มาใหม่ ก็ทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก คนสวยในหมวกใบเก๋ยืนตะลึงไปกว่าวินาทีด้วยความตกใจ ยิ่งรอยยิ้มบางๆแบบนั้นของเขา ยิ่งเข้ามาเขย่าจังหวะหัวใจเธอให้หวั่นไหวเข้าไปใหญ่

     

     

     

    ไม่อยากจะเชื่อ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเป็นเขา

     

     

    คุณคนนั้น คุณสุดติสท์ที่นั่งข้างๆเธอมาตลอดทางในรถสองแถวสุดเก๋าเก่ากึก เจ้าของดวงตาสีดำสนิทที่แสนแวววาว อบอุ่น อ่อนหวาน น่ามอง และยังน่าหลงใหลไปพร้อมๆกัน

     

    และผู้หญิงคนเดียวกัน กับที่กระแทกกระทั้นลงจากรถด้วยความหงุดหงิดให้เธอต้องมองตามตาละห้อยโดยที่ไม่อาจเดาได้เลยว่าสาเหตุของเรื่องนั้นคืออะไร

     

     

     

    ซึ่งเขาคนนั้น มายืนอยู่หน้าเธอตรงนี้

     

     

     

    เขากำลังมายืนติสท์แตกอยู่หน้าเธอ

    ตอนนี้

     

     

     

     

    “ให้ช่วยถ่ายรูปให้ไหมคะ

     

     

    เสียงหวานๆเบาบางถามกันอย่างมีน้ำใจ

    และรอยยิ้มนั้นก็น่ารักขึ้นทุกที ให้ตายเถอะ

     

     

     

    นี่ถ้าน่ารักขึ้นอีกนิดเธอจะ ไม่ทนแล้วนะ

     

     

     

    “ค่ะรบกวนด้วยนะคะ”

     

    ใครจะหาว่ายิ้มนี้มันช่างจงใจโปรยเสน่ห์ เธอก็ไม่มีปัญญาไปห้ามความคิดใครอีกแล้ว ในเมื่อเธอทำจริง จงใจยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้เขาได้เห็น มือไม้เย็นเฉียบยามยื่นกล้องในมือส่งไปให้เขา ทั้งที่กล้า แต่ความกลัวก็มีไม่น้อยเลย


     

    และเมื่อมืออบอุ่นของคุณคนนั้นมาแตะสัมผัสกันเพียงแผ่วเบา ชั่ววินาทีเดียวเท่านั้น โลกทั้งใบก็กลายเป็นสีชมพูสว่างไสวจนหัวใจเต้นแรง

     

     

     

     

    “หนึ่ง สอง

     

     

    แชะ

     

     

    รอยยิ้มหลังกล้องคอมแพคตัวบางที่เจืออยู่บนใบหน้าเขาตลอดเวลา กำลังทำให้เธอไม่อาจห้ามใจให้คิดเข้าข้างตัวเองได้เลยว่า คุณคนน่ารักที่แสนมีน้ำใจคนนี้ ก็อาจจะมีสักเศษเสี้ยวความรู้สึกนึงที่ นึกถูกใจเธอเหมือนกัน

     

     

     

     

    ไม่รู้สิ เธอไม่เคยรู้สึกเหมือนถูกชอร์ตที่หัวใจอย่างนี้เลยนะ

     

     

     

     

    ยิ่งรอยยิ้มของเขา ท่าทางเขินๆแต่ก็ยังคงความสบายๆอย่างเป็นเอกลักษณ์ มันทำให้คำถามในใจเธอดังขึ้น ดังขึ้น ดังขึ้น ดังขึ้นทุกที

     

     

     

    เปลี่ยนจากรูปเดี่ยวของแกรนด์ เป็นรูปคู่กันของเรา จะดีไหมคะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แต่มันก็เป็นเพียงคำถามในใจ เธอไม่กล้าพอขนาดนั้นหรอก เพราะแม้แต่ชื่อของเขา เธอก็ไม่มีปัญญาจะหาเอามาเรียก แม้เราจะบังเอิญเดินเจอกันในฟาร์มตั้งหลายต่อหลายครั้งก็ตาม

     

     

    เธอได้แต่ทึกทักเอาว่านั่นคือพรหมลิขิต พยายามหลงลืมว่าตัวเองใส่ความตั้งใจจะพบเขาลงไปมากมายแค่ไหน

     

     

    และนอกจากจะพยายามหลงลืมความจริง เธอก็ยังโยนภาระ ไปให้พรหมลิขิตที่รัก พาเธอและเขามาพบกันสักวัน

     

     

     

    อาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็เป็นได้

    หรืออาจจะนานเท่าไร

     

     

     

     

    เธอก็ยังรอจะพบ สบดวงตาที่แสนแวววาวของเขา และบอกเขาว่าเธอดีใจที่ไหนที่เราได้พบกันอีกครั้ง

     

     

     

     

     

     


    หากแกรนด์จะพูดไปแล้วคุณจะได้ยิน

     



     

    แกรนด์อยากให้คุณรู้


     

    ว่าแกรนด์รอคุณอยู่ ให้กลับมา พบกันนะคะ









     



    ..จุ้บๆ..

    ค่ะ นี่คือสตอรี่สั้นๆ เรื่องราวก่อนที่คนสองคนจะได้พบกัน :)
    เรื่องอนาคตยังไม่เกิดน่า ดื่มด่ำกับความรักในวันนี้ก่อนนะคะ


    และเรื่องนี้จะไม่มีใครที่ทำให้คุณต้องเหนื่อยที่จะอ่าน
    จะไม่มีใครต้องปวดใจ
    เมื่อสองเราได้พบกัน โย่วววววว~


    ปล แกรนด์สวยขนาดนี้ ไรท์ใจร้ายคนไหนกล้าหักอกซ้ำๆได้ลงคอนะ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×