คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : UNCONDITIONAL LOVE - END -
“อ้าว หลับซะแล้ว ไหนว่าจะอาบน้ำก่อนไงเด็กบ๊อง…”
นทร้องอ้าวกับตัวเองเบาๆ เมื่อเห็นร่างบอบบางของคนคุ้นตานอนอยู่บนเตียง ดวงตาสองข้างปิดสนิท และจมอยู่ในห้วงนิทรา ด้วยเหนื่อยอ่อนมาเกินจะทานไหว รอยยิ้มบอบบางของคนปากแข็งใจอ่อนเผยออกมาบางๆ พร้อมกับสองขาที่สืบเข้าใกล้ร่างนั้นเรื่อยราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่าง…
ใบหน้าขะมุกขะมอมยังคงตั้งมั่นอยู่ในความเกรอะกรังเช่นเดิม แอปเปิ้ลไม่แม้แต่จะลุกไปล้างหน้าล้างตา เส้นผมเหนียวๆก็ยังถูกปล่อยให้ระเกะระกะไปตามใบหน้า … ตั้งหนึ่งปีที่จากกันมา ไม่นึกเลยว่านอกจากผู้หญิงคนนี้จะไม่โตขึ้นเลยแล้ว ยังดูกลายเป็นเด็กน้อยขี้งอแงมากขึ้นอีกด้วย
เล็บสีสดพ้นชายผ้าห่มออกมาแว่บๆ … และนั่นทำเอาคนมองเพลินๆต้องนิ่วหน้า ไม่ชอบจริงๆสีสันที่เกินเด็กที่อยู่บนเรือนร่างของเด็กคนนี้ สำหรับเธอแล้ว แอปเปิ้ลแบบใสใสน่ารักและน่ามองกว่ากันตั้งเยอะ
แล้วอีกอย่าง เธอก็ไม่อยากให้ใครต่อใครมาหลงเสน่ห์ตัวป่วนนี่มากมายด้วย !
นึกได้ดังนั้น คนปากแข็งก็เดินออกจากห้อง ไปคว้าผ้าเช็ดหน้านุ่มๆ กับน้ำหนึ่งกะละมัง มาวางไว้ยังโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนจะถือวิสาสะค้นกระเป๋าเครื่องสำอางใบโตของเด็กสาว
“ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเล็บ…”
นทยิ้มกับตัวเองอย่างพึงพอใจ เธอจะเคลียร์มันออกจากเล็บของแอปเปิ้ลให้หมดก่อนที่จะมีใครมาหลงเสน่ห์เด็กป่วนไปมากกว่านี้ บรรจงวางมันไว้ข้างๆกะละมังที่บรรจุน้ำจนปริ่มเต็ม แล้วเริ่มลงมือเช็ดหน้าเช็ดตาให้เด็กน้อยขี้เซาพร้อมรอยยิ้มบางๆอย่างคนที่มีความสุขมากมายในหัวใจ
“เอ้า แล้วจะขยับหนีทำไมเนี่ย ?” และในทันทีที่ผืนผ้านุ่มๆแตะสัมผัสหน้า คนที่มีทีท่าว่าหลับสนิทมาตลอด ก็หันหน้าหนีไปอีกทางพร้อมป่ายมือไปมาอย่างรำคาญ จนนทต้องถามออกมาดังๆ …
แต่แล้วคนขี้เซาก็ยอมนอนนิ่งๆให้เช็ดหน้าเช็ดตาแต่โดยดี นทค่อยไล้ๆผ้านุ่มไปเรื่อยๆ ทั้งตามไรผม ข้างแก้ม ใต้ตา หน้าผาก และซอกคออุ่น … ทำด้วยความรักทนุถนอมจากหัวใจ
จนเวลาผ่านไป คราบหมองๆก็หลุดมาเลอะอยู่ที่ผ้านุ่มๆผืนนั้น หน้าตาใสใสของแอปเปิ้ลก็คืนกลับมาดังเดิม … ผุดผ่องราวกับเด็กวัยสิบห้าที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี จนนทต้องยิ้มละไมกับความบริสุทธิ์สวยงามตรงหน้า นทเผลอใช้ปลายนิ้วไล้ข้างแก้มคนหลับสนิทแผ่วเบา ขนาดหลับตานอนนิ่งๆเช่นนี้ แอปเปิ้ลก็ยังคงร่ายมนตร์ลึกลับสะกดเธอไว้ได้ไม่เสื่อมคลาย
คนอะไร … ร้ายกาจที่สุด
.
.
“อ้าวพี่นท … ทำไมไม่ปลุก !”
นานกว่าคนขี้เซาจะยอมตื่นเต็มตา จนนทเช็ดสีสันสดสดออกจากเล็บแอปเปิ้ลออกเกือบหมดทั้งสองมือ เหลือเพียงเล็บสุดท้าย แต่ก็ไม่ทัน … แอปเปิ้ลขี้เซาชักมือออกจากมืออุ่นๆของนทอัตโนมัติอย่างไม่รู้ตัว ตื่นได้เต็มตา วาจาร้ายกาจก็ทำงานเต็มสูบ ส่งเสียงขุ่นเข้มถามราวกับจะหาความกับอีกคน
“ก็เห็นกำลังนอนหลับสบาย…” นทตอบคำถามเหวี่ยงๆนั้นด้วยรอยยิ้มบางๆ สบายๆ สำลีก้อนเล็กๆที่ใช้เช็ดเล็บแอปเปิ้ลถูกวางยังโต๊ะหัวเตียง ปัดมือตัวเองไปมา จ้องตาเขียวๆที่เจือความน้อยอกน้อยใจของแอปเปิ้ลเต็มสองตา ฤทธิ์เดชอะไรอีกหนอ ที่ยัยตัวแสบขี้งอนคนนี้จะแผลงใส่เธอ เวทย์มนตร์กลใดอีกหนอ ที่จะสะกดจิตวิญญาณของเธอให้ภักดีอยู่เช่นนี้ตลอดไป
“อ้อ …”
ที่จริงก็เพียงไม่อยากทำบาปตัวเองด้วยการปลุกคนกำลังหลับนี่เอง …
แอปเปิ้ลพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเบือนหน้าหลบสายตานั่นแล้วสะบัดผ้าห่มจนอณูฝุ่นที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าฟุ้งกระจาย เพิ่งรู้เอาตอนนี้เองว่าโดนคนรักหมางเมินมันเป็นเช่นไร เหวี่ยงสองขาไปยังอีกฝั่งเตียง แล้วเลื่อนตัวลงมายืนที่พื้นไม้เย็นเฉียบเต็มความสูง
“ตอนนี้แอปตื่นแล้ว อย่างนั้นแอปขอตัวนะคะ พี่นทจะได้ไม่ต้องออกปากไล่ให้เปลืองน้ำลาย…”
ประชดประชันด้วยอารมณ์น้อยใจที่พลุ่งพล่าน ลืมสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองไปเสียสนิทใจ กระเป๋าใบเดิมที่แพคไว้เรียบร้อย ถูกคนเพิ่งตื่นนอนลากมากองรวมกันไว้อีกครั้ง แต่เชื่อเถอะ … แม้ร่างกายกำลังทำท่าว่าต้องการจะจากไปเต็มแก่ แต่กับหัวใจ…
มันเรียกร้องการดึงรั้งจากอีกคน จนต้องประวิงเวลาไว้เพื่อให้หัวใจได้เต้นอย่างมีความหวังอีกสักพัก
“ไม่ไปล้างหน้าล้างตาหน่อยหรือไง …” นทถามคำถามนี้เบาๆ เธอหยิบยื่นไมตรีจิตให้แม้จะรู้ว่าอีกคนไม่ต้องการคำถามนี้เลย สงสารเหมือนกันที่แอปเปิ้ลยังต้องจมอยู่ในความผิดหวังที่ไม่เคยเป็นจริง … แต่จะทำให้ทำยังไงได้ล่ะ
ก็คนคิดมากคนนี้ มันน่าแกล้งเหลือเกิน
“ไม่ดีเหรอคะ ไม่เปลืองน้ำเปลืองท่าบ้านพี่นท ลาล่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับคืนวัน ‘ดีดี’ ที่เชียงใหม่ !”
และถ้อยคำประชดประชันจากคนขี้น้อยใจก็ทำเอานทแทบสะอึก ยิ่งเสียงขมๆที่เน้นชัดยังคำว่า ‘ดีดี’ ด้วยแล้ว …นทยิ่งอยากจะดึงเวลาสองอาทิตย์กลับคืนมาเพื่อทำให้มัน ‘ดีดี’ จริงๆ แต่ก็ไม่อาจทำได้อย่างใจอยาก
แต่เวลาต่อๆไป เธอยังทำได้อย่างที่อยากทำ
เสียงกึกกักครั้งที่ร้อยของวันดังขึ้นพร้อมกับแอปเปิ้ลที่กำลังขนย้ายกระเป๋าอย่างทุลักทุเล แต่นทไม่ได้สนใจ ไม่ได้สนใจว่าแอปเปิ้ลจะต้องเปลืองพลังงานแค่ไหน ไม่ได้สนใจว่าแอปเปิ้ลจะทุกข์ระทมขมใจเท่าไหร่ … เพราะถึงยังไง สุดท้ายแอปเปิ้ลก็จะไม่ได้ออกไปจากห้องนี้เพียงลำพังอีกต่อไปแล้ว
นทกระโดดขึ้นเตียงนอนที่ยับยู่ยี่ เกลือกกลิ้งทับผ้าห่มที่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆของแอปเปิ้ล สูดออกซิเจนรอบบริเวณนั้นเข้าเต็มปอด อากาศสดชื่นเสียจริง …
และในวินาทีที่แอปเปิ้ลกำลังเดินหน้าง้ำเตรียมจะก้าวออกจากประตูนี้ไป
“เดี๋ยวแอป …”
“คะ !”
บอกทีว่าแอปเปิ้ลไม่ได้รอคอยเสียงเรียกของเธอ
ไม่ถึงวินาทีด้วยซ้ำที่แอปเปิ้ลเว้นระยะหลังคำรั้งของเธอ … แน่นอน ทันทีที่เธอพูดจบ
มันรวดเร็วทันหัวใจจนนทอดรู้สึกดีไม่ได้
นทยิ้มกว้างก่อนจะพยายามปั้นหน้านิ่งกลบเกลื่อนรอยยิ้มนั้นเต็มความสามารถ
“เหลือเล็บอีกนิ้วยังไม่ได้ล้าง กลับมานี่ก่อนพี่เช็ดออกให้มันน่าเกลียด…” มือป่ายไปคว้าสำลีก้อนเดิมที่โต๊ะข้างเตียง แล้วกวักมือเรียกแอปเปิ้ลพร้อมส่งเสียงเร่งให้มาไวไว … จะให้ดึงให้รั้งกันตรงๆก็คงไม่ใช่สไตล์นท มันต้องมีบีบคั้นหัวใจกันบ้าง เผื่อเธอจะดูมีค่ามากขึ้นบ้างในสายตา
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำแอปเปิ้ลอ้าปากค้าง ผิดคาด ไม่ใช่การรั้ง ให้ตายเถอะ ! พี่นทเรียกเธอให้กลับไปล้างเล็บออกให้หมด !
ล้างเล็บออกให้หมด !
แล้วเธอไปเริ่มต้นล้างเล็บตอนไหนเนี่ย
“เอ้า … งงอะไร มาเร็ว มานั่งข้างๆพี่นี่” นทร้องเรียกแอปเปิ้ลดังๆอีกครั้ง พร้อมกับใช้มือซ้ายตบหนักๆ
เข้าที่เตียงนุ่มนิ่มจนมันยุบลงไปตามมือ เนิ่นนานทีเดียว … ตัวป่วนจึงค่อยๆสืบเท้าเข้ามาหากันช้าๆ ช้าที่สุดราวกับหุ่นยนต์ที่แบตเตอรี่อ่อนแรง เหมือนไม่อยากจะเดินมา เหมือนถูกบังคับขู่เข็ญและไม่เต็มใจ จนคนรอทนไม่ไหว ต้องกระโจนออกจากเตียง ไปลากข้อมือบอบบางของแอปเปิ้ลมาด้วยตัวเอง
คนตัวบางแทบปลิวหวือตามแรงนท…
“อย่าทาเล็บสีจัดๆแบบนี้อีกนะแอป พี่ไม่ชอบเลย มันบดบังความธรรมชาติของแอปเปิ้ลจนเบลอไปหมด…”
นทพูดเสียงค่อยๆ ขณะกำลังลงมือเช็ดเล็บนิ้วก้อยข้างซ้ายของแอปเปิ้ลอย่างตั้งใจ สีแสบตาเลือนออกจากเล็บทีละน้อย และนทก็ยิ้มหวานกว้างยิ่งขึ้นราวกับเริ่มเดินเข้าใกล้ขุมทรัพย์ล้ำค่ามหาศาล
แอปเปิ้ลนั่งนิ่ง ตัวอ่อนตัวนวลจวนเจียนจะละลาย เธอสิ้นเรี่ยวแรงไปแล้วตั้งแต่วินาทีที่พี่นทดันเธอให้นั่งลงบนเตียงกว้างๆนี่ด้วยกัน ยิ่งโดนมืออุ่นๆนั่นสัมผัส ยิ่งระทดระทวยจนไม่อาจคงรูปร่างของหัวใจได้
พี่นทจะรู้บ้างไหม ? เห็นพี่นทมาเอาใจใส่กันในเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ … เห็นพี่นทดุเอาราวกับห่วงเหลือเกินเช่นนี้ … เห็นพี่นททนุถนอมกุมมือเธอไว้แผ่วเบาอย่างนี้ มันทำให้เธออดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้เลย
“เรียบร้อย แอปเปิ้ลหน้าใสคนเดิมกลับมาและ…” นทยิ้มแป้นใส่แอปเปิ้ลอย่างไม่กลัวคนมองจะขาดใจตาย มืออุ่นๆของเธอก็ค่อยๆคืบคลานจากนิ้วก้อยไปเป็นการกุมไว้ด้วยกันทั้งมือ อุ่น … อุ่นราวกับสวมถุงมือหนาๆไว้สักห้าชั้น
แอปเปิ้ลใจเต้นระรัว สั่นสะท้านไปด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน ทั้งสุขและทุกข์ ทั้งอยากร้องไห้และอยากหัวเราะอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน … รอยยิ้มนี้ของพี่นท รอยยิ้มที่ฆ่าคนให้ตายได้ทั้งคน รอยยิ้มที่เธอจะได้เห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะต้องเดินจากไป … จากไปจากพี่นท จากไปจากคนที่เธอรักมากเกินใคร
คิดถึงตรงนี้ น้ำอุ่นๆ ก็ชักชวนกันมาเอ่อคลอที่ขอบตาเสียแล้ว …
“หนาวไหม ?”
เป็นมือสองคู่ที่จับกันไว้แนบสนิท … เป็นสัมผัสหนักแน่นที่ช่วยตอบคำถาม ตอบถึงความหนาวเย็นเข็ญใจได้ละเอียดชัดเจน
แต่แอปเปิ้ลก็เลือกที่จะพยักหน้าเบาๆเพื่อยืนยันความหนาวเย็นให้กระจ่างยิ่งขึ้น
อุณหภูมิภายนอกสู้ความหนาวเย็นของหัวใจไม่ได้ … แค่คิดว่าจะไม่ได้เจอพี่นทอีกนาน หัวใจก็เย็นสะท้านราวกับยืนอยู่กลางพายุหิมะแถบขั้วโลกเหนือ
นทยิ้มให้คนตรงหน้าบางๆ … อากาศยามค่ำมืดดึกดื่นที่เชียงใหม่ไม่ใช่เรื่องน่าตลก มันหนาวชนิดที่ฆ่าคนให้ตายได้จริงๆ ยิ่งดึก ยิ่งเย็น … ยิ่งอยากมีใครให้กอด
มืออุ่นๆเลื่อนไปตามเนื้อนวลแผ่วเบา ราวกับกลัวมันจะแตกสลายหายไปกับตา ค่อยๆรวบตัวบอบบางที่สั่นสะท้านเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ลมหายใจพริ้วแผ่วอ่อนโยน… กับสัมผัสใกล้ชิดที่สุดในชีวิต กับการกอดที่อบอุ่นยิ่งกว่าครั้งไหน กับหัวใจตัวเองที่เต้นระรัวเมื่อถึงวินาทีที่ต้องถามออกไป
“อุ่นไหม ?”
แล้วก็มีคำตอบให้ชื่นใจ เมื่อคนที่ซุกใบหน้าผุดผ่องอยู่ที่หัวไหล่ ขยับขึ้นลงเบาๆ… ยืนยันความอบอุ่นที่ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องนอนกว้างๆ มันหายหนาวได้จริงๆ เพียงอุ่นไอรักที่มีให้กัน …
รู้สึกได้ถึงความชื้นที่หัวไหล่ … ความชื้นที่ไม่ใช่เพียงเหงื่อ แต่นั่นเป็นถึงน้ำตา
นทมองเลยไปยังกระเป๋าที่วางกองอยู่นอกห้อง … ประตูไม้บานโตยังเปิดอยู่ และหน้าต่างบานใหญ่ก็นำพาลมหนาวเขามาปะทะตัวเรื่อยๆ มันคงไม่สนุกแน่ หากกระเป๋าทั้งหมดนั้นจะหายไป หากจะไม่มีคนในอ้อมกอดอยู่ด้วยกันเพื่อเผชิญสภาพอากาศเช่นนี้
“ถ้าอุ่นมากขนาดนั้น … ก็ไม่ต้องไปแล้วนะ”
“กอดกันไปอย่างนี้ นอนกอดกันแบบนี้ทั้งคืน ตื่นมาตอนเช้าก็กอดกันแน่นๆแบบนี้ … จะได้อบอุ่น จะได้ไม่หนาว จะได้หายคิดถึง”
นทรัดอ้อมกอดแน่นขึ้น แน่นขึ้นและแน่นขึ้น … ราวกับจะไม่มีวันปล่อยคนในอ้อมกอดให้ห่างหายไปไหน วินาทีนี้เธอยอมแพ้ทุกอย่างแล้วจริงๆ นึกโกรธตัวเองเหลือเกินที่เคยทำปั้นปึ่งใจแข็งแสนงอนอยู่เนิ่นนาน หากรู้ว่าเพียงได้กอดกันแบบนี้ ได้อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขแบบนี้ เธอจะไม่มีวันยอมห่างหัวใจเป็นอันขาด
“พี่นท…” และแอปเปิ้ลก็ทำได้เพียงครางชื่อคนที่โอบรอบตัวเธออย่างแผ่วเบา … ตามมาด้วยคอมโบเสียงสะอื้นที่จัดหนักมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เสียงอบอุ่นคุ้นเคยกลับคืนมาแล้ว กลับมาอยู่ใกล้ๆเธอ ถ้อยคำอ่อนหวานเอาใจใส่ สัมผัสเบาๆที่มีไว้ปลอบประโลม … พี่นทที่แสนดีกลับมาแล้ว
“พี่รักแอป รักที่จะได้ใช้ทุกวินาทีอยู่กับแอป รักเชียงใหม่ที่มีแอป แล้วถ้าแอปก็คิดอะไรไม่ต่างกัน…” นทดันตัวเองออกมาเพื่อมอบสัมผัสอบอุ่นให้แอปเปิ้ลในวินาทีสำคัญ ปลายนิ้วโป้งไล้เนื้ออ่อนๆใต้ขอบตา ลมหายใจแนบชิด เป่ารดผิวแก้มแอปเปิ้ลราวกับจะขจัดความเศร้าหมองให้หมดไป
“…พี่จะขอโอกาสดูแลแอปเปิ้ลคนนี้ ไปตลอดชีวิต”
“ได้ไหมคะคนดี…”
“จะดูแลแอปแล้วก็รักแอปไปตลอดใช่หรือเปล่า จะไม่ใจร้ายกับแอปอีกแล้วใช่หรือเปล่าพี่นท ฮึก…” เสียงแอปเปิ้ลสะอื้นไห้หนักหน่วง ก่อนจะที่ทั้งเนื้อทั้งตัวจะโถมเข้าหาเธอเต็มแรง วงแขนแอปเปิ้ลรัดแน่นและนัวเนียจนไม่อาจมีส่วนใดที่ห่างเหินกันได้ … คนในอ้อมกอดทำนทยิ้มและไม่อาจหยุดมันได้ หัวใจเต้นตึบและร้องดังราวกับมันจะหลุดอกมานอกอก นทต้องขยับมือตัวเองไปลูบแผ่นหลังของแอปเปิ้ลอย่างตั้งใจปลอบประโลม
โถ เด็กน้อย … ขอดูแลไม่ใช่ดักปล้นเสียหน่อย ร้องไห้โฮเป็นเด็กไปได้
“ฮือ ๆ พี่นทจะดูแลแอปแล้วก็รักแอปไปตลอด จะไม่ใจร้ายกับแอปขี้แยอีกแล้วค่ะ ฮือออ …” และน้ำตาก็ไปกระตุ้นต่อมขี้แกล้งให้นทได้ร้องฮือๆล้อเลียนคนขี้แยอีกครั้ง คราวนี้ไเลยได้รางวัลเป็นทุบหนักๆกลางหลังเข้าอั้กหนึ่ง ! ที่แอปเปิ้ลคิดรวบยอดไว้ตั้งแต่ที่หมางเมินเธอแต่แรก
เจ็บไม่น้อยจนนทร้องโอย… ดันตัวแมวน้อยขี้อ้อนในอ้อมกอดมาจ้องตากันเพื่อส่งคำประท้วง
“ทุบพี่ทำไมเนี่…” แต่ร้องประท้วงได้ไม่ทันจบคำ แมวน้อยขี้อ้อน ก็กลายร่างเป็นนางเสือตัวแสบ ริมฝีผากสีชมพูเคลื่อนที่รวดเร็วมาฉกถ้อยคำจากริมฝีปากเธอไปวูบ วูบเดียวสั้นๆและแผ่วเบา … แต่เหมือนโดนไฟฟ้าแรงสูงชอร์ตจนชาไปทั้งร่างกาย
“พี่นท แอปขอโทษนะที่เคยทำไม่ดีกับพี่นท แล้วแอปก็ขอบคุณพี่นทที่รักแอปอย่างไม่มีเงื่อนไขมาตลอด ในชีวิตแอป มีคนไม่กี่คนที่แอปรักจนหมดหัวใจ หนึ่งในนั้นคือพี่นทนะคะ”
แล้วนทก็เหมือนโดนค้อนหนักๆทุบเข้าที่กลางศีรษะ โดนพิษคำหวานแล่นทำลายเส้นประสาทจนพังครืนไม่เป็นท่า นทเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเป็นเพียงพี่นทน้อยในกำมือแอปเปิ้ลก็วินาทีนี้เอง วินาทีที่โดนประโยคสั้นๆลอบตัดกำลังเสียจนพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า แต่เธอกลับรู้สึกภูมิใจในความพ่ายแพ้ครั้งนี้เหลือเกิน
ภูมิใจ ที่หัวใจดวงนี้พ่ายแพ้เพียงครั้งเดียว … พ่ายแพ้ให้กับเด็กผู้หญิงจอมแสบนี่คนเดียว ไม่เคยมีใครเข้ามาสั่นคลอนหัวใจได้นอกจากแอปเปิ้ล แอปเปิ้ลสุดที่รัก ของเธอคนเดียว :)
“…แต่ถ้าเราจะมาคบกันจริงๆจังๆ แอปคงต้องมีเงื่อนไขง่ายๆให้พี่นทสักหนึ่งข้อนะคะ”
“หืม ว่า ?” นทน้อยเอียงคอมองแม่สาวแสบอย่างสงสัย อะไรกันนะคือเงื่อนไขที่แม่ตัวแสบว่า … นทไม่อยากจะเดา และไม่คิดจะเดา แอปเปิ้ลลุคส์ใหม่ทั้งสวย แสบและร้ายบริสุทธิ์เกินไป คนใสใสอย่างเธอเร่งสปีดยังไงก็ตามไม่ไหวจริงๆ
“พี่นทต้องสัญญาว่าจะมีแอปคนเดียว รักแอปคนเดียวแบบนี้ตลอดไป … พี่นทจะต้องไม่ใจร้ายกับแอปอีก พี่นทจะต้องอยู่ใกล้ๆแอป ไม่ไปไกลจากแอป ไม่หนีแอปไปไหน ! ง่ายๆแค่นี้ ทำได้ใช่ไหมคะ !?”
นั่นปะไร เงื่อนไขง่ายๆที่ตัวแสบว่า …
ง่ายที่ไหน ง่ายหรือไงที่เธอต้องสัญญิงสัญญาเอาตัวเองมาผูกไว้กับเด็กร้ายกาจคนนี้ตลอดไป ง่ายนักหรือที่ต้องทำใจดีกับยัยแสบคนนี้ ง่ายหรือเปล่าที่จะไม่หนีเด็กซนๆคนนี้ไปไหน …
นทรวบมือน้อยๆของแอปเปิ้ลมาไว้ในอุ้งมืออุ่นๆของตัวเอง ส่งสัมผัสผ่านมืดแผ่วเบา รอยยิ้มหวานฉ่ำของนทกำลังทำปฏิกิริยากับม่านตาของแอปเปิ้ลช้าๆ … ภาพนั้นซึมลึกเข้าไปสู่เซลล์สมอง และตรึงอยู่อย่างนั้นไม่เลือนไปไหน
พร้อมกับน้ำเสียงอบอุ่น และคำสัญญาที่ทำให้ฉ่ำเย็นไปทั้งหัวใจ
“พี่สัญญาอย่างที่แอปขอได้นะ … แต่พี่ก็ไม่รู้ว่ามันจะจริงได้มากแค่ไหน”
แต่เพียงประโยคแรกที่พี่นทเอ่ยออกมา ก็ทำคนที่ตะแง้วรอคำสัญญา หน้าง้ำพร้อมสะบัดมือให้หลุดออกจากเกาะกุมทันที
“นี่ฟังพี่ให้จบก่อนซี อย่าเพิ่งวีนได้ไหม !” โชคดีที่นทเบรกไว้ทัน ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่ายัยตัวแสบจะปล่อยพลังทำลายบรรยากาศได้ยับเยินแค่ไหน นทรีบรวบมือน้อยที่กลายเป็นกำปั้นหนักๆเอาไว้ก่อนที่มันจะร่วงลงบนไหล่มนของเธอ โถ่ … จะฟังให้จบก่อนก็ไม่ได้ ยังไม่ทันจะถึงจุดไคลแมกซ์เลย
เดี๋ยวคอยดูเถอะ พอพูดจบ แล้วจะระทดระทวยแทบตัก ร้องไห้ขี้มูกโป่ง ซาบซึ้งในความรักของพี่จนพร่ำเพ้อถึงแต่พี่นทขา พี่นทขาทั้งวันเลย …
“มันไม่มีใครรู้นี่นาแอปว่ารักเรามันจะยืนยาวแค่ไหน พรุ่งนี้แอปอาจต้องกลับกรุงเทพ มะรืนพี่อาจลื่นลงบันไดหัวฟาดพื้นน็อคยาว อะไรๆมันก็ไม่แน่นอน !”
นทรู้สึกตัวว่าตัวเองพูดพล่อยๆเกินไป ก็เมื่อตอนแอปเปิ้ลชักตาเขียวปั๊ดใส่เธอ … ปากเล็กสีชมพูเตรียมจะส่งคำเจ็บๆคันๆมาประหัทประหารกัน แต่นทก็ไวพอที่จะใช้ปลายนิ้วชี้แตะริมฝีปากนิ่มๆนั่นไว้อีกครั้ง
“ยัง ! ฟังพี่ อย่าเพิ่งดุที่พี่พูดพล่อยๆ ฟังให้จบก่อนซี”
สองแขนของแอปเปิ้ลถูกยกขึ้นมาเป็นอ้อมกอดหลวมๆสำหรับตัวเอง พร้อมกับใบหน้าที่มองเมินไปอีกทาง ชัดเจนว่าตัวแสบกำลังไม่พอใจในสถานการณ์ที่ดูไม่เป็นไปตามคาดครั้งนี้
“พี่ไม่ยืนยันว่าพรุ่งนี้อะไรจะเกิดขึ้น พี่ไม่รู้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันไปตลอดหรือต้องแยกจากกันวันใดวันหนึ่ง แต่ที่แน่ๆนะแอป … ที่แน่ๆคือวันนี้ ..”
“พี่รักแอป แอปรักพี่ ความจริงในวันนี้คือสิ่งที่ไม่มีวันตาย พี่ไม่สัญญาว่าพี่จะอยู่กับได้แอปตลอดไป แต่พี่ขอสัญญาว่าพี่จะมีชีวิตอยู่เพื่อแอปในทุกลมหายใจ เพื่อแอปเพียงคนเดียว…”
“ขอให้แอปลืมสองอาทิตย์ที่พี่บ้าบอไป … ขอให้แอปจำเพียงวันนี้และวันต่อๆไปของเรา … ขอให้แอปรู้ว่าพี่นทคนนี้รักแอปเสมอ รักแอปอย่างไม่มีเงื่อนไขเสมอ …”
“และมันจะเป็นเช่นนี้ไป จนกว่าจะหมดลมหายใจของนท พนายางกูร”
สิ่งที่ตั้งใจไว้ รักไม่เรียกร้องสักเงื่อนไขใด
ให้ยืนอยู่ตรงที่จุดไหน
เป็นจุดเล็กที่สุด อยู่ท้ายปลายตาก็ยอม
“พี่นท …” สิ้นคำพี่นท แอปเปิ้ลก็ปล่อยโฮออกมาเต็มกลั้น พร้อมโถมทั้งเนื้อทั้งตัวกอดพี่นทไว้แนบแน่น … สิ่งที่พี่นทบอกกันเป็นยิ่งกว่าคำสัญญา เป็นยิ่งกว่าถ้อยคำใดใดบนโลกนี้ที่ใครๆจะสามารถเสกสรรปั้นแต่งได้ มันคือความจริง ความจริงอันเป็นนิรันดร์ ที่ไม่ว่าพรุ่งนี้โลกจะเปลี่ยนแปลงไปเท่าใด แต่ความสัมพันธ์มั่นคงนี้จะไม่เปลี่ยนไป … พี่นทที่รักเธออย่างไม่มีเงื่อนไขมาเสมอ พี่นทที่มีแต่เธอและไม่เคยเปลี่ยนใจ
เธอจะมองฉันแค่เป็นใคร ?
ตัวอะไรข้างในสายตา…
มองเธอไปไม่เคยมองมา ธรรมดาฉันก็รู้ตัว เข้าใจ
“รู้ไหมแอป … ตั้งแต่วินาทีแรกที่พี่รู้ตัวว่าตกหลุมรักแอปไปหมดใจ ก็ไม่มีเงื่อนไขอะไรที่จะทำให้พี่ต้องเปลี่ยนแปลงไปอีกเลย”
ความรัก กับฉัน เป็นสิ่งที่ไม่คู่กัน
รัก ผิดหวัง ก็เจ็บจนคุ้นเคยไป
รักและช้ำก็เจอมาซ้ำๆ แต่ใจฉันสมัครใจ อย่างน้อยๆฉันได้ทำ
…เพื่อเธอ…
“พี่รักแอปนะ …”
HAHAHAHAHAHAHA +
จบ !!!!!!!!
อย่างง เราจบกันง่ายๆ ดื้อๆแบบนี้นี่แหล่ะ ก๊ากกกๆ >//<
ไหนใครรอเลิฟน่าดู ไหนใครรอพี่นทกลับจากเที่ยวรอบโลก
รอมานานแล้ว รอต่อไปนะแจ้ะเพื่อนฝูง 555555
ส่วนคนที่รอรวมเล่นเลิฟโหมด !!!
จากยี่สิบคนถ้วนตอนนี้เหลืออยู่กี่หน่อคะ !
55555555555555555555555555
รู้ไหม ?
ว่าตั้งแต่เขียนฟิคมานะ เรื่องนี้ยากที่สุดแล้ว
แล้วเรื่องต่อไปก็คงจะยากกว่านี้อีก ...
เนื่องจากเขียนยาวมาสองเรื่องแล้ว
ก็ไม่รู้ว่าจะเขียนยังไงให้แตกต่าง ให้ถูกใจ และไม่ให้มันจำเจกับเรื่องก่อนๆ
สมองลูกไม้ก็มีอื้อมีตันนะคะ 5555555
แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าคงไม่เลิกเขียนหรอก
ถึงคนจะเบื่อก็ไม่เลิก เค้าดื้อว้อยย !
แฮปปี้นิวเยียร์ <3
ม๊วบบบบบบบบบบ
ความคิดเห็น