ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "ถ้าเขายังสำคัญ" #newjiew

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11 brandnew

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 57


     

     ห้าทุ่มเศษๆ… จิ๋วเดินสโลสเลเข้าห้องนอนส่วนตัวอย่างอ่อนเพลีย เมื่อยขบไปทั้งตัวจากการนั่งคุดคู้ในรถตู้หลายชั่วโมง ดวงตาคมปรือใกล้ปิดเต็มที วันนี้ขอใจเธอแลกเบอร์โทรเวอร์ชั่นเมทัลร็อคทำเอาเธอเต้นจนลืมโลก ลืมท่าดีดนิ้วดันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวไปสนิทใจ เหมือนได้ปลดปล่อย ทั้งที่จริงในใจเธอก็ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับจังหวะชวนโยกอะไรขนาดนั้น  

     

    ยังดีที่พรุ่งนี้ไม่มีงานเช้า พอจะได้ตื่นสายก่อนจะต้องไปงานร้องเพลงตอนเย็น

     

    มือบางจับคาลูกบิด ไม่มีแรงแม้กระทั่งจะผลักมันให้ปิดสนิทอย่างที่ควร สองเท้าก้าวพ้นทั้งที่ประตูยังเปิดแง้มโดยที่ไม่รู้ตัว

     

    มากกว่างานการที่หนักหนา เรื่องราวที่รุมเร้าก็ทำให้สามสี่คืนที่ผ่านมานอนหลับไม่เต็มตาปกติ เมื่อเธอมีปัญหาอะไร เพื่อนรักอย่างนิวก็จะมาออดอ้อนคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ หลอกล่อสารพัดให้เธอยอมคายภาระที่หนักอึ้งอยู่ในหัวใจและบรรเทามันด้วยการขนเอาคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์โปรดมากมายมานั่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ก่อนจะปิดท้ายด้วยการช่วยคิดวิธีแก้ปัญหา รอจนกว่าเธอจะสบายใจ และจากไปพร้อมกับทิ้งความสุขไว้ที่เธอ

     

    แต่วันนี้… กับปัญหานี้ นิวผู้เป็นต้นเรื่องคนเดียวที่ทำให้เธอสบายใจ กลับเป็นคนเดียวกันที่ทำให้เธอไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าด้วยซ้ำเราพูดกันเพียงในเวลาจำเป็น สบตากันเพราะความเคยชิน คงต้องขอบคุณความเป็นมืออาชีพที่ทำให้เธอและนิวไม่เคอะเขินสักนิดยามต้องโอบไหล่กอดคอกันให้แฟนเพลงเห็น แต่เมื่อหมดเวลาที่สปอตไลท์ส่องหน้า เราต่างก็เดินแยกกันไปนั่งคนละมุม ทั้งที่ลึกๆ ใจเธอก็คิดถึงอีกคนแทบขาดใจ

     

    เจอกันทุกวัน เห็นกันทั้งวัน แต่ความคิดถึงมันกลับรุมเร้าจนเธอแย่ขึ้นทุกที

     

    ทุกครั้งที่โกรธกัน นิวจะเป็นฝ่ายที่อารมณ์รุนแรงกว่าเธอเสมอ แต่ใช้เวลาไม่นานนักหรอก เพื่อนรักก็จะยอมอ่อนให้แต่โดยดี มาออดมาอ้อนเสียจนเธอลืมเรื่องที่ผิดใจกันไปง่ายดาย แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป นิวนิ่งเงียบ ไม่พูดไม่จา ราวกับมีอะไรมากกว่าที่เธอจะเข้าใจอยู่ในใจดวงนั้น นิวที่แสนเย็นชา นิวผู้ลึกล้ำ เธอเข้าไม่ถึงนิวคนนี้ และหากจะให้เธอเป็นฝ่ายเข้าไปง้อ เธอก็ทำไม่ได้ ในเมื่อไม่เคยทำมาก่อนเลยตลอดชีวิต ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการง้อเพื่อนคนนี้ต้องทำยังไง นิวไม่เคยปล่อยให้เธอทำขนาดนั้น

     

     

    อีกอย่างที่ทำให้เธอยิ่งไม่กล้ามากกว่าความเงียบงันที่ดูไม่ออกของนิว เพราะเธอรู้ดี

    ปัญหาของเรามันซับซ้อน เรื่องราวมันผสมมากมายจนเธอแยกไม่ออก

     

     

    ยิ่งต้องยิ้มกว้างมากเท่าไร ก็ยิ่งพบว่าในหัวใจมันหมองหม่นมากขึ้นเท่านั้น เธอเชื่อว่าเธอควบคุมตัวเองได้ดีอย่างที่อยากให้ใครๆมองเห็น แต่ในส่วนของความรู้สึกที่ร้าวราน มันยังอยู่เหนือการควบคุม

     

    เฮ้ออออออออออออออ….

    คนตัวเล็กถอนหายใจยาว ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างอย่างหมดเรี่ยวแรง มันว่างเปล่าและสับสน เธอรู้สึกเพียงเหนื่อยที่จะต้องคิดต้องรู้สึกตลอดเวลา ทั้งที่ในความจริง เธอก็อธิบายไม่ได้ด้วยซ้ำว่าในหัวเธอมีอะไรอยู่มากมายขนาดไหน

     

     

     

    ความอ่อนเพลียสะสมหลายคืนหลายวันทำดวงตาคู่สวยค่อยๆเคลิ้มหลับอย่างไม่รู้ตัว

     

     

     

     

     

     

     

    ก๊อกก๊อก

     

    “คุณจิ๋ว นิวขอเข้าไปนะ อ้าว”

    ผู้มาเยือนร้องอ้าวเบาๆ เมื่อทันทีที่มือเธอจับลูกบิด ประตูนั้นก็เปิดออกราวกับมันไม่ถูกปิดไว้ นิวยังพูดไม่ทันจบประโยคดีด้วยซ้ำ อ่า บรรยากาศแบบนี้ แปลกๆแฮะ

     

    “หลับแล้วหรอคุณจิ๋ว”

    นิวในชุดนอนลายการ์ตูนค่อยๆก้าวเข้าในห้องอย่างเงียบเชียบและระวังตัว ส่งเสียงถามอย่างลังเลกับบรรยากาศไม่คุ้นเคยเงียบสงัด มืดสนิท และอากาศก็ร้อนอ้าวเกินกว่าจะหายใจได้คล่อง นิวพยายามเพ่งมองไปทั่วๆอย่างประหลาดใจ ตอนนี้ มีเพียงไฟถนนที่ลอดผ่านหน้าต่างมาเท่านั้นที่จะให้แสงสว่าง

     

    ยังคงเงียบ ไม่มีเสียงใดตอบมา และอากาศมันเริ่มจะร้อนเกินไปแล้ว

     

    คิ้วเข้มขมวดแน่น อาศัยความคุ้นเคยก้าวฉับๆเข้าไปเปิดโคมไฟดวงเล็กๆหัวเตียงที่เธอบังคับให้คนตัวเล็กซื้อไว้ หมายจะใช้มันทำให้เธอมองเห็นอะไรมากกว่านี้ และไม่รบกวนอีกคน หากจิ๋วหลับไปแล้วจริงๆ

     

     

     

    “หือ หลับจริงๆด้วย หลับทั้งที่ไม่อาบน้ำเนี่ยนะ ได้ไงเนี่ย”

    เสียงประหลาดใจดังขึ้นอย่างเบาที่สุดเมื่อเห็นเจ้าของห้องนอนสลบสไลอยู่ในสภาพไม่น่าเชื่อ นิวแทบจะขยี้ตามองอีกครั้ง ชุดที่ใส่ก็ยังเป็นเสื้อคลุมตัวหนากับกางเกงผ้าบางๆที่เปลี่ยนหลังจากกลับมาจากงานเมื่อสักครู่ ผมเผ้าที่ผ่านอะไรมากมายก็ยังเป็นทรงเดิม และมากที่สุด คิ้วจมูกปากตาของคนตัวเล็กยังสวยจัด เพราะแทบไม่มีสิ่งใดหลุดออกจากใบหน้าเนียนใสนั่นสักอย่าง

     

    เพลียขนาดนี้เชียวหรอเนี่ย

     

    พินิจมองจนพอใจ นิวก็หัวเราะกับตัวเองเบาๆ แอบยิ้มกับคนตัวเล็กที่หลับไม่รู้เรื่อง ไม่ค่อยเห็นเพื่อนรักหลับไปในสภาพที่ไม่พร้อมเช่นนี้ ไม่เหมือนเธอที่ดองตัวเองข้ามวันข้ามคืนเป็นประจำ แปลกตาดีเหมือนกันแฮะ

     

    “คุณจิ๋วนะคุณจิ๋ว

    แววตาเอ็นดูจ้องมองร่างเล็กไม่วางตา รอยยิ้มเปี่ยมสุขเปื้อนใบหน้า ยิ้มแบบที่ขาดหายไปเสียหลายวัน

     

    เห็นทีจะปล่อยให้นอนแบบนี้ต่อไปไม่ได้ นิวหมุนตัวไปคว้ารีโมตแอร์มากดเปิดไล่อุณหภูมิสูงๆในห้องให้ออกไป ก่อนจะเดินไปปิดหน้าต่างเพื่อให้ต่อจากนี้มืดสนิทที่สุด

     

    ผ้าห่มผืนบางถูกสะบัดคลุมร่างคนตัวเล็กเอาไว้จนมิดคอ ก่อนจะหยิบหมอนข้างใบโปรดมายัดไว้ในอ้อมแขนคนตัวเล็กอย่างรู้ใจ คนหลับไม่รู้เรื่องได้หมอนข้างมาก็กระชับกอดพร้อมซุกหน้ากับนุ่นนุ่มๆเสียแน่น เสียงครางอืออย่างชอบใจดังขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

     

    คนตัวเล็กผิวบาง สิวขึ้นง่าย เป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องคอยพิถีพิถันกับใบหน้าอยู่ตลอด นิวรู้ความจริงข้อนี้ดีแต่เห็นอีกคนหลับสบายแล้วก็ไม่อยากจะรบกวน นิวยื่นมือไปหรี่ไฟโคมไฟให้กลายเป็นแสงสลัวพอให้เห็นใบหน้าสวย  ปล่อยให้ตื่นมาคิ้วขมวดให้เช้าวันรุ่งขึ้นก็คงจะไม่แย่เท่าไรนัก ช่วยไม่ได้นี่นา อยากเผลอหลับไปเอง

     

    รอยยิ้มยังคงเจืออยู่ที่ใบหน้านิวตลอดเวลา เธอตกหลุมรักคนตัวเล็กในเวลานี้ที่สุด จิ๋วยามหลับทำให้เธอรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เห็น มันเหมือนเธอเป็นอัศวินที่จะคอยพิชิตทุกสิ่งเลวร้ายที่เข้ามากร้ำกรายเจ้าหญิงตัวน้อยบอบบางที่หลับใหลอยู่ตรงนี้ ข้างกัน

     

    มันเป็นช่วงเวลาสั้นสั้น จากหมื่นล้านช่วงเวลาที่เธอจะได้ปกป้องคนเข้มแข็งคนนี้

     

    เธอเลือกจะยืดเวลาแห่งความสุขต่อไปด้วยการทิ้งตัวลงนั่งกอดเข่าที่พื้นพรมข้างเตียง มองหน้าคนตัวเล็กที่เธอกำลังคิดถึงสุดหัวใจด้วยรอยยิ้มละไม สองสามวันมานี้ เราห่างเหินกันเกินความจำเป็น และความผิดทั้งหมด เธอขอยอมรับแต่โดยดี

     

    ไม่ใช่เพราะความโกรธเคืองหรือน้อยใจที่ทำให้เธอไม่ยอมเปิดปาก แต่เป็นเพราะเรื่องคาราคาซังระหว่างเรามากกว่าที่ทำให้เธอไม่กล้า เธอละอาย รู้สึกผิดทุกครั้งที่อีกคนแสดงออกชัดเจนว่าไม่เคยมีใครในหัวใจ แต่เธอกลับไม่กล้าพูดเต็มปากว่าเธอไม่คิดอะไรกับนนท์จริงๆ

     

    เรื่องนี้ยังรบกวนกันอยู่เสมอ มันยากที่จะทำให้เธอทำตัวเหมือนปกติได้ ปัญหานี้มันหนักเกินตัวคนอย่างเธอ แต่จะให้พูดบอกพี่เจนก็คงไม่ใช่

     

    คนเดียวที่อยู่ข้างเธอยามมีปัญหา เป็นคนเดียวกันกับที่เธอมีปัญหา นั่นยิ่งทำให้ความหมองหม่นเท่าทวีคูณ เธอในตอนนี้ช่างอ่อนแอ ต้องการอ้อมกอด ต้องการเสียงปลอบโยนและความเข้าใจอย่างที่จิ๋วมีให้กันเสมอ แต่เธอขลาดกลัวเกินกว่าจะเรียกร้องอะไร

     

    ที่มาวันนี้เพราะอดรนทนไม่ไหว คิดถึงจนทนไม่ได้ เลยอยากมาเห็นหน้า มาพูดดีดีด้วยสักคำก่อนจะกลับไปนอนคนเดียวเหมือนเดิม มาขอพลังใจสักนิดเพื่อต่อสู้กับความสับสนลังเลของตัวเองที่ดูจะมากมายขึ้นทุกวัน

     

    อีกอย่างพรุ่งนี้เธอก็ต้องตื่นแต่เช้า อยากจะมาขอความสบายใจเพื่อหลับให้เต็มตาก่อนจะตื่นอีกครั้ง

     

     

    นิวจ้องมองคนตัวเล็กด้วยความคิดถึง สูดลมหายใจร่วมกัน เฝ้ามองอย่างไม่รู้เบื่อ นานจนพอใจ ร่างบอบบางจึงค่อยๆลุกขึ้นยืนอีกครั้ง พึมพำแผ่วเบาล่ำลาอีกคนที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องเช่นเคย

     

    โน้มตัวลงมอบจุมพิตแผ่วเบาประทับยังหน้าผาก เนิ่นนาน ราวกับเป็นการอำลาก่อนการจากไกล

     

    หน้าผากเนียนแนบชิดใบหน้าอีกคนอย่างออดอ้อนอ่อนหวาน อยากจะอยู่กับคนตัวเล็กไปนานๆ อยากจะลงไปนอนกอดแนบข้างเหมือนอย่างที่เคยทำ อยากจะทำให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม แต่สุดท้าย ก็ต้องตัดใจ

     

    ปิดโคมไฟให้ห้องทั้งห้องมืดสนิทลงอีกครั้ง แล้วเดินจากไปพร้อมความกับรู้สึกที่ดีขึ้น แม้ไม่มากมาย แต่ก็คงไม่ลำบากหากจะหลับตาให้ค่ำคืนทรมาณผ่านพ้นไป

     

     

     

    จิ๋วคงไม่เคยรู้ตัว ว่าจิ๋วเป็นคนเดียวที่ให้เธอดีขึ้นเสมอ ในทุกๆเรื่อง ในทุกๆวัน

    แต่เรื่องนี้เธอรู้ดี

     

    เธอรู้ดีว่าที่เธอดีพอจะให้ใครต่อใครมารักกัน มันเป็นเพราะจิ๋ว จิ๋วคนเดียวเท่านั้นที่เคียงข้างและสร้างเธอขึ้นมาอย่างอดทน

     

    และมันคงถึงเวลา ที่เธอต้องจัดการเรื่องในหัวใจที่ค้างคาให้เด็ดขาดลงสักที

     

     

     

     


     

     

     

     

     

    .

     

    สิบโมงเช้า ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ คงไม่มีใครคาดหวังจะเห็นนักร้องคนดังเดินลากกระเป๋าตามชายหนุ่มต้อยๆ แม้แต่ตัวนักร้องดังเองก็ยังไม่คาดหวังจะทำแบบนี้เช่นกัน

     

    “ทำไมบินไฟลท์เช้าขนาดนี้วะหวิน โคตรง่วงอ่ะมึง หน้ายังไม่ได้แต่งเลย”

     

    นิวในสภาพหน้าสดหัวกระเซิงบ่นใส่เพื่อนรักเสียงดัง ขาสองข้างลากเอื่อยๆอย่างไม่ค่อยเต็มร้อย เธอในตอนนี้ดูแย่เต็มทีจนต้องหลบหน้าหลบตาไม่ให้ใครเห็น เธอตื่นสาย เพราะนอนดึก จริงๆก็ไม่อยากจะโทษไอ้เรื่องนอนดึกเพราะนาฬิกาปลุกแล้วแต่เธอไม่ยอมตื่นเอง กว่าจะลากร่างออกจากเตียงได้ก็เลยเวลาแล้ว เธอจึงทำได้แค่เธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จับหวีสางผมอย่างลวกๆ และก็คว้าแป้งฝุ่นมาปาดซ้ายปาดขวาเท่านั้นเอง

     

    ผู้คนพลุกพล่านทั่วอาคารผู้โดยสารก็ยิ่งทำให้ไม่มั่นใจ แม้จะสวมแว่นกันแดดอันใหญ่ปิดบังไว้แล้วก็ตาม คนติดสวยยกไอโฟนขึ้นเช็คสภาพตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ อยากจะหันไปทุบไอ้เพื่อนรักสักทีที่เอาแต่โทรเร่งจนเธอแทบเหาะมาขนาดนี้

    หวินเหลือบมองเพื่อนยิ้มๆ ทั้งขำทั้งหมั่นไส้ แต่ก็เลือกที่จะเอ่ยปลอบแทนที่จะกวนประสาทเหมือนทุกครั้ง เพราะรู้ดีว่าวันนี้เพื่อนรักอาการไม่ดีเท่าไรนัก

     

    ไม่อย่างนั้นคงไม่อาสามารับเขาทันทีที่รู้ว่าเขาจะกลับถึงไทยวันนี้

     
     

    “เออๆ ความผิดกูเอง กูบินเช้าเอง แต่มึงไม่แย่หรอก น่าๆ อย่าทำหน้าแบบนั้นดิ”

    แขนแข็งแรงโอบไหล่เพื่อนรักเข้ามาแนบตัว ให้หญิงสาวที่อารมณ์ไม่เป็นปกติได้แต่ร้องงุ้งงิ้งอย่างขัดใจ ทั้งง่วง ทั้งเซ็ง ทั้งสับสน ผสมไปหมดจนอยากจะระบายออก มันอัดอั้นเหลือเกิน

     

    “ไปๆ รีบๆเดิน เดี๋ยวพาไปเลี้ยงกาแฟอร่อยๆ ป่ะ

    หวินลดแขนลงไปดึงกระเป๋าจากนิวมาไว้ในมือตัวเอง ก่อนจะออกแรงลากทั้งกระเป๋าทั้งคนให้เดินไปพร้อมๆกัน

     

     

     

     

     

     

     
     

     

    “สรุปก็คือ มึงไม่แน่ใจว่าตอนนี้มึงรู้สึกยังไงกันแน่ คุณจิ๋วมึงก็รักเขา ไอ้นนท์มึงก็ตัดไม่ขาด ใช่ไหม ?

    ต้องเป็นหวินเท่านั้น ต้องเป็นมันคนเดียว ที่กล้าจี้ใจเธอเข้าอย่างจังขนาดนี้ บรรยากาศดีดีรอบข้างไม่ได้ช่วยทำให้ความรู้สึกอึดอัดในใจผ่อนคลายลงเท่าไร มันไม่ช่วยเลยด้วยซ้ำ นิวเอนร่างแนบกับเก้าอี้หวายตัวใหญ่อย่างหมดแรง พยักหน้าเบาๆ น้ำตาเอ่อคลอ ยอมจำนนในข้อสรุปนั้นอย่างไร้ข้อโต้แย้ง ในเมื่อเธอก็ไม่มีคำอธิบายใดจะชัดเจนกับเรื่องราวในใจมากไปกว่านี้อีกแล้ว

     

    หวินมองเพื่อนรักอย่างอับจน ไม่รู้จะทำยังไงดี กับไอ้อาการตาบอดที่มันกำลังเป็น

     

    “นิว มึงไปคิดว่ามึงรักคุณจิ๋วเขาตอนไหนวะ มึงเป็นเพื่อนกับเขาเป็นสิบๆปีขนาดนี้ เพิ่งจะมารู้ว่ารักเขา ? มันเริ่มยังไงวะ”

     

    เขาเลือกที่จะเดินอ้อมไกลเพื่อพาเพื่อนรักไปถึงจุดหมายอย่างช้าๆ ดีกว่าบุกตะลุยให้หัวใจดวงนั้นต้องกระทบกระเทือนมากไปกว่านี้ นิวบอบช้ำเกินกว่าจะกระแทกอารมณ์แรงๆอย่างที่เคย หวินทอดเสียงนุ่มถามเพื่อนรักอย่างไม่รุกเร้า ดูจะเป็นคำถามสบายๆ และนั่นก็ทำให้คนโดนถามได้ผ่อนอารมณ์ขึ้นมานิดหนึ่ง หลังจากได้ยินคำถามที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ตอบ

     

    คิ้วคมขมวดลงเล็กๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มน้อยๆที่ค่อยปรากฏเมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ทำให้หัวใจรู้สึกดีมากกว่าที่เคย

     

    หลายภาพหลั่งไหลเป็นสิบปียี่สิบปี คนตัวเล็กน่ารักแสนดีกับเธอมาตลอด นักร้องตัวแม่ นักเรียนหน้าห้อง นักชิมตัวยง นักจัดการมือหนึ่ง ทั้งหมดคือจิ๋วที่ทำให้เธอตกหลุมรักมาตลอด

     

    แล้วตอนไหนกันนะ ที่เธอเอะใจ ว่าเราไม่ใช่เพื่อนกัน ว่าเรากำลังทำในสิ่งที่เพื่อนไม่ทำกัน

     

    เรื่องราวชวนยิ้มจะยุติลงเมื่อคิดถึงค่ำคืนที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเสียใจ

    คำถามสบายๆกลายเป็นมีดที่คมกริบ เชือดเฉือนหัวใจจนน้ำตาคนร้าวรานเอ่อคลอขึ้นมาอีกครั้ง

     

    คืนนั้น

    คืนที่เธอเมาจนแทบไม่มีสติรับรู้อะไร

     

    นอกจากความปรารถนาในตัวเพื่อนรักที่คอยตอกย้ำ ปลุกเร้าให้เธอทำในสิ่งที่รังแต่จะสร้างแผลในใจจนวันนี้

     

    ริมฝีปากสั่นระริก บอกเล่าเรื่องราวอย่างช้าๆ

    เธอต้องการความช่วยเหลือมากเกินกว่าที่จะเลือกปิดบัง

     

     

    “คืนนั้น คืนที่มึงพากูไปเลี้ยงเหล้าแล้วบังเอิญเจอนนท์มากับผู้หญิงคนอื่น

     

    หวินขมวดคิ้วแน่น เม้มปากจนแทบเป็นเส้นตรง เหตุการณ์คืนนั้นเขายังจำได้ดี เขาเพิ่งกลับจากทัวร์ยุโรปหมาดๆ เลยนัดเพื่อนเพื่อเอาของฝากไปแจกจ่าย ตามประสาเพื่อนฝูง เขานัดเพื่อนเป็นสิบๆคนที่ร้านเหล้าของเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกัน และด้วยความคิดถึงเพื่อนรักที่หายหน้าหายตากันไปนาน เขาโทรตามนักร้องดังอย่างนิวให้ตามมาจอยกันที่ร้านโดยเสนอว่าจะออกค่าเหล้าให้ไม่อั้น และแน่นอน นิวมา

     

     

    นิวมาโดยไม่มีเงาตามตัวอย่างคุณจิ๋วเหมือนที่เคย แทบจะตลอดเวลา วงสนทนาวงใหญ่ของเพื่อนเก่าดูน่าสนุกแต่นิวกลับไม่สนุกเท่าไร มันกระซิบให้เขารู้หลายครั้งว่าอยากกลับบ้าน เพราะห่วงคุณจิ๋วที่ต้องอยู่คนเดียว จนสุดท้าย เขาก็เหนื่อยอ่อนที่จะรั้ง พานิวปลีกตัวออกจากร้าน เดินไปส่งมันที่รถ ให้มันได้กลับบ้านไปดูแลคนที่มันห่วงอย่างที่มันตั้งใจ

     

     

    แต่แล้วเหตุการณ์ก็ไม่จบลงอย่างที่เขาและนิวต้องการ ใครบางคนเดินสวนเขาและนิวเข้าไปในร้าน ใครบางคนที่เพื่อนรักเขาหันมองตามคอแทบบิด และหลังจากนั้น เขาก็แทบกระเป๋าฉีกเพราะคำจากปากที่เคยบอกว่าจะเลี้ยงเหล้ามันหากยอมออกมาหากัน

     

    นิวเฮิร์ท ใช่ ผู้ชายคนนั้น ที่เดินผ่านเขาไป คือนนท์ นิวเจ็บปวดเสียใจมหาศาลโดยที่ไอ้ผู้ชายคนนั้นไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่ามันทำเพื่อนเขาต้องชงเหล้าผสมน้ำตากินจนเมาไม่เหลือสภาพ

     

    ปาร์ตี้จบลงหลังจากนั้นไม่นานเพราะเจ้าภาพอย่างเขาทนไม่ไหวอีกแล้วที่จะเห็นเพื่อนรักต้องมีสภาพทุเรศแบบนี้ หวินจัดการเอานิวยัดใส่รถ อดทนฟังคนเมาที่อ้อแอ้ไปตลอดทาง เขาในตอนนั้นจับใจความอะไรไม่ได้เลย ประโยคเดียวที่นิวพูดชัดเจนก็คงจะเป็น ทั้งหมดมันเป็นความผิดของจิ๋ว นั่นล่ะ เขาได้ยินชัดเจนเพียงเท่านั้นเอง

     

    จนถึงบ้าน คนที่นิวพร่ำโยนความผิดให้ตลอดระยะทางก็ออกมารับไอ้ขี้เมาด้วยแววตาห่วงใย หวินแอบสังเกต มองโดยไม่ได้ตั้งใจ เขารู้สึกผิดสังเกตตั้งแต่ตอนนั้น มันไม่ใช่แค่ความเป็นห่วง มันคือความรักชัดๆในแววตาคู่สวยนั่น

     

    แต่เรื่องนี้ก็ถูกลืมไปในที่สุด จนมันถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยคำตอบของนิว พร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาเป็นสาย

     


     

    “คืนนั้น มึง กับคุณจิ๋ว

     

    หวินถามนิวอย่างลังเล ผสมกับความกลัวที่อยู่ลึกๆในใจ เขาไม่อยากได้ยินว่านิวทำแบบนั้น อยากให้สิ่งที่เขาคิดมันผิด ทั้งที่อันที่จริง น้ำตาของนิวก็ดูจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนพอแล้วสำหรับเรื่องราวที่เกิด ระหว่างคนเมาที่ไม่ปิดบังความในใจ กับคนที่รักจนยากจะเก็บซ่อนไว้

     

    นิวพยักหน้าช้าๆ แทนคำตอบ

     

    และได้รับเสียงถอนหายใจยาวจากหวินมาเป็นการตอบรับด้วยความเข้าใจทั้งหมด

     

     

     

    เขาทิ้งเวลาให้ช่วยทุเลาอาการอึ้ง นานพอที่จะรวบรวมสติ นานพอที่จะทำให้นิวได้ระลึกว่าเรื่องราวมันมาไกลเกินไปแล้วโดยที่เขาไม่ต้องพูดอะไรสักคำ

     

     

    “ไม่มีอะไรที่ต้องลังเลแล้วนิว กูไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะเป็นไปถึงขนาดนี้ นนท์ไม่ใช่ตัวเลือก ไม่ใช่คนที่มึงจะเอามาคิดแล้ว

    หวินจ้องตาเพื่อนรักราวกับจะสะกดจิตคนจิตใจอ่อนไหว เสียงเข้มแข็งพูดเรียบๆให้คนนั่งฟังต้องปาดน้ำตาอีกครั้ง

     

    “สิ่งเดียวที่มึงต้องทำ คือเลิกสับสนเสียที นนท์เป็นผู้ชายที่มึงตามหา มันดี มันหล่อ มันตรงใจมึง มึงชอบอาร์ตติสท์ นนท์ใช่ มึงชอบสูงตี๋ขาวหล่อ และนนท์ใช่ มึงชอบที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับเขา แต่นนท์ไม่ใช่คนที่จะใช้ชีวิตกับมึงนะนิว มึงรู้ความจริงข้อนี้ดี มีสักครั้งไหมที่มึงจะสามารถบอกเขาได้ว่าจริงๆแล้วมึงต้องการอะไร มีสักครั้งไหนที่มึงอ่อนแอแล้วเขาจะเข้ามาปลอบแค่เพราะเขาเห็นแววตามึงเปลี่ยนไป”

     

    นิวกลั้นน้ำตา รับฟังความจริงทั้งหมดนั่นอย่างหมดข้อโต้แย้งใดใด

    เหมือนกำลังมองเห็นโลกใหม่ ฝุ่นหนาที่ปิดบังความในใจถูกปัดออกด้วยความปรารถนาดี

     
     

    ถ้าได้ลองมีมือใครที่หวังดีและรู้จักเธอดีพอเข้าไปช่วยจับวางให้เข้าที่เข้าทาง มันอาจจะง่ายขึ้นก็ได้…

    พี่เจนเคยพูดเอาไว้ และมันใช่จริงๆ

     


    หวินถอนหายใจเบาๆ เขารับรู้ได้ถึงความเข้าใจของนิวที่มีมากขึ้น จิตใจที่อ่อนแอนนั่นกำลังเยียวยาตัวเองอย่างๆช้า

     

    อันที่จริง เขาอยากเรียกสิ่งที่นิวกำลังเป็นว่าการยอมรับในตัวเองมากกว่า

    แต่มันคงช้าเกินไป หากปล่อยนิวไว้ให้คิดเอง

     

    “มึงไม่ได้รักนนท์ มึงแค่อยากจะรัก เพราะอยากให้มันมาเติมเต็มมึงในทุกๆอย่าง มึงอยากได้ความรักจากนนท์ เพราะมึงรู้สึกว่าคุณจิ๋วไม่รักมึงใช่ไหม ?

    หวินถามจี้ใจจนนิวหน้าเบ้ หัวใจเหมือนถูกแทงจึ้กจนเลือดอาบ แต่ก็ยอมพยักหน้ารับ ทั้งที่มันเป็นความจริงที่เธอไม่เคยจะกล้าคิดถึงสักครั้ง

     

    น่าอายเกินไปหรือเปล่าที่ถวิลหาความรักจากเพื่อนจนต้องไปขอให้คนอื่นมารัก

     

    หวินยิ้ม ก่อนเสียงเรียบๆนั่นจะเอ่ยต่ออีกครั้ง

    “แต่มึงไม่ต้องการใครแล้วล่ะนิว คุณจิ๋วคนเดียว พอแล้วสำหรับมึง เขานั่นล่ะ คนที่จะเคียงข้างมึงตลอดไป เขาแค่ไม่บอกรักมึง เขาแค่ไม่พูดว่าเขารักมึงแค่ไหน แต่สายตา เสียงเรียบๆกับการกระทำเจ้ากี้เจ้าการพวกนั้น คุณจิ๋วใช้มันบอกรักมึงตลอดเวลา

     

    หวินทอดสายตามองเพื่อนรักอย่างเอ็นดู นิวในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากเด็กน้อยหลงทางที่กำลังจะเจอทางกลับบ้าน ความพยายาม ความเหนื่อยล้ามากกว่ากำลังจะยุติลง เพียงแต่ยังต้องเอาของที่หยิบมาระหว่างทางกลับไปคืนเจ้าของเขาเท่านั้น

     

    นิวสูดน้ำตาเบาๆ การได้คุยกับหวินทำให้เธอรู้แล้วว่าเธอควรจะทำอย่างไรต่อไป

     

     

     

    “ไปหานนท์เถอะ ไปบอกเขาให้เข้าใจ ก่อนที่เขาจะหันมาทุ่มเทความรักให้กับมึงอย่างจริงจัง เขาทำอย่างนั้นแน่ล่ะ และเขาก็กำลังจะทำ มึงคงไม่อยากทำร้ายคนที่มึงเคยอยากจะรักหรอก ใช่ไหมล่ะ?

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    นิวจากไปแล้ว แทบจะทันทีหลังจากที่เขาพูดจบแต่เขายังอยู่ที่เดิม นั่งขุดความทรงจำลางๆในหัว ความทรงจำที่ทำให้เขาแน่ใจว่านิวไม่ได้คิดอะไรกับนนท์มากไปกว่าแค่อยากจะรัก

     

    อันที่จริงนิวชัดเจนมาตลอด ชัดเจนมาเสมอ

    และเขามีเวลาพอจะทบทวนความจำ คำพูดของมันในวันที่เมาก็ชัดเจนมากจริงๆ จนเขาอยากจะย้อนเวลาไปจัดการเรื่องราวให้ยุติลงตั้งแต่วันนั้น เผื่อจะเปลืองน้ำตาและเวลาน้อยกว่านี้

     

    “ทั้งหมดมันเป็นความผิดของจิ๋ว จิ๋วนั่นล่ะ ถ้าจิ๋วรักนิวมากกว่านี้ อีกแค่นิดเดียว นิวก็จะไม่อยากมีนนท์ นิวก็จะไม่อยากมีใครแล้ว นิวอยากให้จิ๋วรักนิว นิวอยากรักจิ๋วคนเดียว

     

     

    หวินยิ้มกับตัวเองอย่างกลั้นไม่ไหว อยากจะหัวเราะด้วยซ้ำ หากมันไม่มากจนเกินไป

    นิวมันยังเด็กจริงๆด้วย เด็กมากถึงขนาดที่เมื่อเคลียร์ปัญหาเสร็จสิ้น คุณจิ๋วคงจะต้องปวดหัวกับการคอยตามเอาใจไอ้เด็กขี้หวงนี่จนแทบจะเลิกรักมันไปเลยเชียวล่ะ

     

    ก็ขอให้คุณจิ๋วมีความอดทนมากพอแล้วกัน

    แต่ก็คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกมั้ง ก็เห็นทนกันมาได้เป็นสิบยี่สิบปีละนี่เนอะ

     

     

     

     


     

    _________________________________

    ขอโทษค่ะที่ช้า ช่วงนี้ติดซีรีส์ แหะๆ
    ขอบคุณนะคะ ที่ยังติดตามกัน :)
    xoxo.  

      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×