คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : UNCONDITIONAL LOVE - 8 -
-8-
นอกหน้าต่างใสใส ... ที่กั้นระหว่างโลกภายนอกกับโลกเงียบๆนี้ไว้ ราวกับคนละโลก
คนจำนวนไม่น้อย เดินเคียงคู่กัน หากยกกระจกที่กั้นนี้ออกไป เสียงหัวร่อต่อกระซิกน่ารักน่าเอ็นดูคงลอยมากระทบแก้วหูให้ได้อิจฉาเล่นเป็นแน่
อิจฉาคนที่มีความสุขกับความรัก
แอปเปิ้ลเหม่อไปยังฟ้าไกล ... ท้องฟ้าสีสันสดใสในวันธรรมดา ของนักศึกษาปีหนึ่งธรรมดาคนนึง วันธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา ...
การมองไปไกลลิบๆเรื่อยๆเช่นนี้ มันทำให้เธอได้รู้ถึงความเป็นจริงบางอย่าง ความจริงที่ซ่อนเร้นความจริงในหัวใจเอาไว้ในบางครั้ง
หัวใจของเราก็เหมือนท้องฟ้าโปร่งใส ... ชัดเจนในความต้องการ แต่ท้องฟ้ามักมีเมฆมืด ฝุ่นควัน และเม็ดฝนบดบังอยู่เรื่อยย...
ยากนักที่จะได้มองเห็นท้องฟ้ากระจ่างตา ในบางครา กว่าจะได้เห็นมันก็สายเกินไปเสียแล้ว
ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ใจตัวเอง ...
และไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถรู้ใจตัวเอง และได้ทำตามใจตัวเองไปด้วยกัน
เธอมั่นใจ ว่าเธอ เป็นหนึ่งในคนจำนวนไม่น้อย ... จำนวนไม่น้อยที่รู้ใจตัวเองช้าไป จำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจผิดพลาด จำนวนไม่น้อยที่ไม่มีโอกาสได้ทำอย่างที่ใจต้องการ
จำนวนไม่น้อย ที่ต้องทน อยู่กับคนที่คิดว่า ‘รัก’
“แอป ... แอป ... แอปเปิ้ล !”
“ค คะ...”
เสียงทุ้มหวานของสาวสวยจัดตรงหน้า ดึงแอปเปิ้ลออกจากภวังค์ลึกได้ในทันทีที่ได้ยิน ... พี่แกรนด์ในชุดลำลองสบายๆ ส่งยิ้มเฉียบให้กันราวกับจงใจให้บันทึกรอยยิ้มนี้ไว้ในหัวใจ พร้อมกับมือนิ่มนวลที่เลื่อนมาแตะมือเธอไว้เบาๆ
“พี่เรียกตั้งนานแล้วทำไมไม่พูด คิดอะไรอยู่เหรอคะ ?”
“เปล่าๆ ค่ะ ... พี่แกรนด์มีอะไรหรือเปล่า”
หนึ่งปีแล้วก็ยังไม่หายคิดถึง ...
นับแต่วันนั้น หนึ่งปีแล้วก็ยังไม่ได้ยินแม้แต่สุ้มเสียงสั้นๆ หรือเห็นหน้ากันแม้เพียงวินาที
คิดถึง ... นึกถึง ... ฝันถึง แม้อยู่กับใครต่อใคร ก็ยังคิดถึง
แอปเปิ้ลหลบสายตาที่วาวไปด้วยความสงสัยนั้น เมินไปทางอื่นเสีย เธอไม่ต้องการให้ใครต้องมารับรู้ถึงความในใจของเธอแม้เพียงสักคน
“เปล่า ... พี่ก็แค่เห็นแอปเงียบๆไปเลยเรียกดู เป็นอะไรหรือเปล่าแอป ดูไม่ค่อยแฮปปี้” ทั้งๆที่วันนี้มันเป็นวันที่แอปควรยิ้มมากกว่านี้
แกรนด์ไม่กล้าพูดประโยคสุดท้ายออกไป ทำได้เพียงเก็บไว้ในใจเหมือนทุกๆครั้งที่เป็น ...
ไม่ง่ายเลยที่จะถาม ไม่ง่ายเลยที่จะฝืนเก็บความสงสัย
แต่สายตาที่ไร้ซึ่งความรักอย่างที่เคย ใยจึงเห็นได้ง่ายนักไม่รู้
แต่มันก็เป็นสายตาที่ช่วยในการตัดสินใจบางอย่างของเธอให้ง่ายขึ้น ...
ทุกวันนี้ ... มีเพียงคำว่า “แฟน” ที่ยึดตัวเด็กผู้หญิงคนนี้ไว้กับเธอไปวันวัน ไม่มีการเอาใจใส่ดูแลกันเฉกเช่นคนรักกันเขาทำ ไม่มีการออดอ้อนน่ารักๆอย่างที่เคยเป็น ไม่ได้มีอะไรพิเศษๆมากไปกว่าเดิม ตรงกันข้าม เยื่อใยมันกลับจางหายจนแทบไม่เหลืออะไรระหว่างกันอีกต่อไป
เคยคิดเอาไว้ วันนี้มันต้องมาถึง คงป่วยการจะรั้งหรือดึง ... ไม่ให้เธอไป
เพราะอะไร เพราะใคร ... มันเดาไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่จะยอมรับ
เราไม่ได้รักกันเหมือนที่เคยเป็น
“เปล่านี่คะ แอปแฮปปี้ดี ... ทานเถอะค่ะ เดี๋ยวเย็นชืดหมด”
หมี่เย็นและสารพัดผักชามโต ถูกขยับมาใกล้ตาขึ้นหน่อยด้วยมือของแอปเปิ้ล ตะเกียบคู่หนึ่งถูกแกะวางไว้บนปากชาม พร้อมกับเจ้าของการกระทำที่ส่งยิ้มให้เธอบางๆ ... แกรนด์มองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยหัวใจที่วูบไหวแปลกประหลาด เธอรักช่วงเวลานี้ เธอรักความรู้สึกที่รายล้อมรอบตัวแบบนี้ ทุกนาทีที่มีแอปเปิ้ลอยู่ข้างกาย เธอไม่อยากให้มันจบลงไปเลย
โลกทั้งใบที่มีแค่เรา ...
เธออยากยึดโลกใบนี้เอาไว้แนบกาย ... แนบใจ ในเมื่อเป็นเธอที่แอปเปิ้ลเลือก ... เป็นเธอแล้ว
หัวใจสั่งให้ยึดแอปเปิ้ลไว้ตลอดไป...
แต่สมองที่แสนยุติธรรมกลับบีบให้แกรนด์ตัดสินใจอะไรบางอย่างที่คล้ายจะควักหัวใจตัวเองออกมา
ยอมรับเถอะนะ ความรักที่เราวาดไว้ เมื่อต่างคนต่างไม่เข้าใจ...
แกรนด์บีบมือแอปเปิ้ลเบาๆ ราวกับจะถ่ายทอดทุกความรู้สึกหวั่นไหวในหัวใจให้แอปเปิ้ลได้ล่วงรู้ถึงมัน ความสับสน ความรวดร้าว และความรักที่ท่วมท้นเหลือเกิน ทั้งหมด ... เพียงหวังให้แอปเปิ้ลสงสารหัวใจดวงนี้บ้าง
“ทุกเวลาที่มีเรา มันทำให้พี่รู้ว่าพี่ขาดแอปไม่ได้จริง ... นี่ไม่ใช่คำขอร้อง แต่มันคือคำบอกเล่าถึงความในใจของพี่”
“หนึ่งในฝันของพี่คือการได้มีแอปเปิ้ลแบบนี้ตลอดไป ... ถ้ามันจะไม่เป็นจริง ไม่เป็นไร ... แต่พี่อยากให้มันยาวนานที่สุดนะ”
สัมผัสเบาๆที่ได้รับคืนมา มันทำหัวใจแกรนด์ชุ่มชื้นบอกไม่ถูก ... รอยยิ้มบางๆของแอปเปิ้ล ดวงตาไหวระริกที่จ้องกันราวกับล่วงรู้ถึงความในใจดวงนี้ทั้งหมด ... มันทำให้หัวใจได้กลับมาทำหน้าที่ของมันอีกครั้งหนึ่ง ได้เต้นเพื่อใครสักคน ได้เติมเต็มเพียงได้รับความรู้สึกล้ำลึกจากแอปเปิ้ลคืนกลับมาบ้าง
แม้มันคงไม่ใช่รัก ... แม้มันเป็นเพียงความผูกพันที่นานเนิ่น
ก็ต้องแยกทาง
“พี่รักแอปเหมือนสิบเก้าปีที่แล้วไม่มีเปลี่ยน แก้มป่องๆของเด็กสองขวบคนนั้นติดตาพี่เสมอ พี่ตกหลุมรักมัน และอีกแปดปีถัดมา หัวใจของพี่ก็หล่นหายไป มันไปเป็นของเล่นของเด็กสิบขวบคนนั้นโดยที่พี่ไม่ทันรู้ตัว...”
“พี่แกรนด์ ! ตอนแอปสิบขวบพี่แกรนด์สิบเจ็ดแล้วนะ !”
สิ้นคำหวานหูของพี่แกรนด์ แอปเปิ้ลก็หวีดเสียงขึ้นมาอย่างตกตะลึง ความจริงที่ไม่เคยรู้ทำให้แอปเปิ้ลวูบวาบไปทั้งใจบอกไม่ถูก ... เธอไม่เคยคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะตกหลุมรักเธอมานานเนิ่นนานเพียงนี้ ไม่ใช่เพียงช่วงสามสี่ปีหลังๆที่เธอเป็นสาวสวยสะพรั่งเพื่อใครสักคน แต่มันนานมาแล้ว นานมาแล้วถึงสิบปี !
สิบปี ไม่ใช่เวลาที่น้อยๆเลยนะ ...
ก็ตอนนั้น ... ตอนนั้นเธอยังเป็นยัยตัวแสบหน้ามอมที่วิ่งไล่จับกับพี่แกรนท์อยู่เลย
เธอยังไม่หวั่นไหวใจเต้นแรงไปกับพี่แกรนด์ด้วยซ้ำ
แม้ตอนนั้นพี่แกรนด์จะเป็นเด็กมัธยมปลายที่ออร่าเป็นประกายแล้วก็เถอะ !
“ทำไมล่ะ จะหาว่าพี่กินเด็กสิท่า ! แล้วนี่รู้อะไรไหมตัวแสบ ? เธอน่ะ เป็นรักแรกของพี่นะ...”
สัมผัสหนักแน่นที่มือ กับรอยยิ้มกระจ่างตาที่ส่งมา...
แอปเปิ้ลแทบไม่สามารถทรงตัวอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวนี้ได้เลย สายตาเธอเห็นถึงความรักในดวงตาคู่นั้นชัดเจน มันมากมาย และถูกสานใยเอาไว้ด้วยความผูกพัน ... ผู้หญิงคนนี้รักเธอมากเหลือเกิน
“...พี่แกรนด์ก็เป็นรักแรกของแอป” แอปเปิ้ลตอบพี่แกรนด์เบาๆ ความจริงที่ไม่มีข้อใดผิดเพี้ยนไปเลย พี่แกรนด์เป็นรักแรกของเธอ รักแรกที่บ่มเพาะมาด้วยความชื่นชม และความผูกพัน ในข้อนี้เธอมั่นใจ
แต่คงไม่ใช่รักสุดท้าย
มันถูกกัดกร่อนจนไม่เหลืออะไรอีกแล้วที่คล้ายคลึงกับคำนั้นอีกแล้ว
“สิบแปดที่เรารู้จักกันมา พี่ก็พอรู้ว่าตัวเองเป็นคนนึงที่ทำให้แอปยิ้มได้ อันนี้พี่เข้าใจถูกไหม ?”
และในคำถามนี้ ... แอปเปิ้ลต้องพยักหน้าแรงๆ บีบมือพี่แกรนด์แน่นเป็นการยืนยัน เธอปฏิเสธมันไม่ได้เลย แม้กระทั่งวินาทีนี้ พี่แกรนด์ยังเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อหัวใจเธอเสมอ พี่แกรนด์กำลังทำให้เธออยากจะหัวเราะ อยากจะร้องไห้ อยากจะฟูมฟายและอยากจะยิ้มไปพร้อมๆกันโดยมีพี่แกรนด์จับมืออยู่ข้างๆแล้วบอกต่อกันว่า ‘ไม่เป็นไร’
ถึงยังไง พี่แกรนด์ก็เป็นที่สุดในชีวิตของเธอเสมอ...
“แต่หนึ่งปีที่ผ่านมา หนึ่งปีที่เราเขยิบความสัมพันธ์มา พี่กลับทำมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร แอปยิ้มน้อยลง เก็บตัวมากขึ้น ... และพี่ก็พอรู้ว่ามันเกิดอะไร ?”
“เราจับมือกันเดินมาตลอดทาง แอปไม่เคยกล้าจะเดินโดยไม่มีพี่ พี่ก็ไม่คิดจะห่างจากแอปไปไหน ความผูกพันมันยึดเราเอาไว้ จนถึงวันที่เราต้องยอมปล่อยมือกันไปแต่เราก็ไม่ยอม...”
มือพี่แกรนด์เริ่มคลายจากเธอช้าๆ ... และมันยิ่งห่างออกไปทุกวินาที
ส่งเธอตรงนี้ และทุกนาที นาทีที่เธอเดินห่างฉันไป ... ไม่ต้องมองกลับมา
“เรายังจับมือกันไว้ แล้วก้าวต่อมาอย่างไม่ได้ตรึกตรองให้ดี... แต่วันนี้พี่มั่นใจแล้วแอปเปิ้ล เราจับมือกันแน่นเกินไป เราเดินมาไกลเกินไป มันพลาดแล้ว เราก้าวพลาดแล้ว...”
เสียงสั่นเครือของพี่แกรนด์กระตุ้นบางอย่างในใจแอปเปิ้ลให้เต้นระรัวอย่างห้ามไม่อยู่ ทุกถ้อยคำสับสนและไม่น่าเข้าใจ ... แต่สายตาพี่แกรนด์กำลังค่อยๆคลายความสงสัยนั้นให้ลดลง ในสายที่มีทั้งความรัก ในสายตาที่มีทั้งความหวังดี ในสายตาที่มีทั้งความเสียใจ
ฉันดูแลไม่ไหว ไม่ใช่ว่าไม่รัก ก็ไม่ต้องการทนเห็นเธอลำบาก มันก็เลยต้องยอมตัดใจ...
“เรากลับไปยืนที่เดิมเถอะแอป... พี่จะลืมเรื่องราวทั้งหมดแล้วกลับไปสิบปีที่แล้วเพื่อเริ่มเดินใหม่ เราจะปล่อยมือจากกันช้าๆ แล้วหยุดในจุดที่ถูกที่ควรเพื่อรักษาความสัมพันธ์ของเราเอาไว้”
.
.
ให้เธอไปกับเขาจะเจ็บสักแค่ไหน แต่ถึงยังไงมันต้องยอมรับไว้... ถ้าเธอเจอกับใครที่ฝัน
“อาทิตย์หน้าพี่จะไปอบรมผู้ขายมืออาชีพระดับนานาชาติที่ฮ่องกงเดือนกว่าๆ... แอปต้องช่วยพี่ เราจะพักการติดต่อกัน แค่สี่สิบกว่าวันแค่นั้น แล้วเราจะกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมนะ...”
“นี่ของขวัญวันครบรอบของเรา ... อิสรภาพ และก็ที่อยู่นท”
“เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
สิ้นคำพูดที่เหมือนค้อนทุบเข้าหนักๆที่หัว ... เจ้าของคำพูดทั้งหมดก็หยิบยื่นกระดาษสีฟ้าสดแผ่นหนึ่งให้เธอ พร้อมกับรอยยิ้มจืดจางเพียงครู่เดียว ร่างระหงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนที่พาร่างนั้นเดินไปตามทางเดินสำหรับตรงสู่ห้องน้ำ ชักพาหัวใจของเธอหลุดลอยตามไปด้วยโดยไม่รู้ตัว
แอปเปิ้ลทำสีหน้าไม่ถูกไปครู่หนึ่งทีเดียว ... คำพูดที่คล้ายการบอกเลิกที่ไม่ใช่การบอกเลิก แต่มันคือการลดระดับความสัมพันธ์ที่ดูจะยากเย็นเข็ญใจสำหรับผู้พูดเหลือเกิน
ทั้งๆที่มีรอยยิ้มบางๆ ทั้งๆที่ยังคงมีสายตาอบอุ่นให้แก่กันอยู่แบบนั้น...
แต่เธอรู้ ... รู้ว่านั่นไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริงของผู้หญิงเข้มแข็งคนนี้แน่ หัวใจดวงนั้นคงไม่ได้กำลังยิ้มให้เธออย่างที่ใบหน้าสวยคมกำลังพยายามปั้น ภายใต้สีหน้าที่ดูไม่คิดอะไรแบบนี้ แต่ใครจะรู้ ... ใครเล่าจะรู้ว่าหัวใจเธอสั่นสะท้านไปด้วยความสงสารพี่แกรนด์จับใจ
และความสงสารก็จับตัวเป็นก้อนน้ำตา ... ความผูกพันที่เริ่มแน่ชัดก็กลั่นสะอื้นออกมาให้ได้ยิน ทั้งสองประกอบกันจนเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนนึงที่นั่งกลั้นน้ำตาอยู่ท่ามกลางร้านอาหารบรรยากาศสวยหรู
เกลียดตัวเอง ... เกลียดตัวเองจริงๆ
เธอจะทำร้ายหัวใจใครต่อใคร ไปถึงไหนกันนะ
.
.
.
“นท ... มึงไม่คิดจะไปเที่ยวกรุงเทพมั่งเลยหรือไงวะ ?”
“เที่ยวเหรอพี่ ? กรุงเทพมันมีอะไรให้เที่ยววะ นทอยู่มาหกเจ็ดปีและ ไม่เอาๆ เบื่อ ... นทรักเชียงใหม่จะตาย ไม่อยากย้ายไปไหนอีกแล้ววว”
คำพูดติดตลกที่ซ่อนอารมณ์เศร้าหมองของน้องสาวไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ... นทหัวเราะไปพูดไปและเคี้ยวขนมไปอย่างสบาย อากาศเย็นๆในช่วงปลายฝนต้นหนาวของภาคเหนือ ส่งผลให้คนเหนือขี้หนาวอย่างนทต้องสวมเสื้อผ้าหลายต่อหลายชั้นอย่างช่วยไม่ได้ หน้าขาวๆซีดแล้วซีดอีกเพราะความเย็นที่กระทบผิว ริมฝีปากแดงแต่ก็มันวาวไปด้วยลิปมัน...
จูเนียร์ที่พื้นเพเดิมก็เป็นคนเชียงใหม่ นั่งเอนหลังลงบนเก้าอี้หวายตัวเก่าของบ้านนทที่ถูกยกมาไว้ยังบ้านพักใกล้มหาวิทยาลัยอย่างคุ้นเคยกับมันดี ... เสื้อแจ็กเก็ตลายลิงกังยี่ห้อดังคืออุปกรณ์กันหนาวตัวใหม่ล่าสุดของเขาในฤดูหนาวนี้ ฤดูหนาวใกล้หนาวที่ใครๆก็อยากมาสัมผัสเชียงใหม่ ถึงหิมะไม่ตก แต่เขาก็รับประกันว่าหนาวได้สุดขั้วหัวใจแน่นอน !
แต่แม้บ้านเดิมจะอยู่เชียงใหม่ และครอบครัวของเขาจะมีธุรกิจใหญ่โตอยู่เพียงไร แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่มีสำนึกรักษ์บ้านเกิดนัก ... เขาและไอ้น้องนทศึกษาเล่าเรียนในเชียงใหม่จนจบประถมหก แล้วอ้อนพ่ออ้อนแม่เพื่อขอไปเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาที่กรุงเทพทั้งคู่ ... ต่างคนต่างหลงระเริงกับแสงสีที่คึกคักกว่าเชียงใหม่มากนัก เขาติดเพื่อน ส่วนไอ้นท ... ติดหญิง
จนเมื่อมันอกหัก ... อกหัก ดังเป๊าะ !
“เบื่อกรุงเทพ หรือเบื่อผู้หญิงกรุงเทพ...”
คำถามสั้นๆ แต่สะกิดแผลเก่าไอ้นทเข้าอย่างจัง ... ดวงตาจาดจ้าวาววับขึ้นเมื่อได้ยินถ้อยคำที่สั่นสะเทือนหัวใจ นทหลบตาพี่จูเนียร์วูบ พร้อมกับคำถามต่างๆนานาที่ผุดขึ้นในหัวใจมากมาย...
แอปเปิ้ลเป็นยังไงบ้าง ?
ยังสบายดีอยู่ไหม ?
มีความสุขดีหรือเปล่า ?
กับพี่แกรนด์เป็นอย่างไร ?
ยังจำพี่ได้ไหมคนดี...
หนึ่งปีแล้วสินะ ที่ไม่ได้พบกัน ไม่ได้ยินแม้แต่ข่าวคราว จากกันไกลจนเหมือนตายจากกันไปเสียแล้วด้วยซ้ำ
ข่าวสุดท้ายที่นทได้รู้เกี่ยวกับแอปเปิ้ล คือการตามถามข่าวเธอจากคนในออฟฟิศโดยที่พี่แกรนด์ไม่ได้ร่วมรับรู้... ข่าวนี้ถูกส่งมาโดยเจ้เม , เจ้เมหน้ายักษ์สุดโหด ผู้ที่ดูเข้าอกเข้าใจเธอตลอดมา
เธอลาออกการจากเป็นตัวแทนบริษัทประกันภัยชื่อดัง ยกความรับผิดชอบทั้งหมดให้เจ้เม เป็นทั้งค่าตอบแทนและผลกรรมที่เจ้เมได้รับมันไปอย่างชอบธรรม ลูกค้าของเธอมีมากกว่าห้าสิบคน และเป็นลูกค้าชั้นดีของบริษัทเสมอ แม้เกินแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของลูกค้าจะเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยน่ามอง ... แต่ผู้ชายก็มีนะเออ
สิ่งต่อมาที่นทตัดสินใจทำคือโอนหน่วยกิตจากมหาวิทยาลัยเดิม เพื่อขึ้นมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในเชียงใหม่ แม้เป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากสักหน่อย แต่เส้นสายที่มีอยู่ไม่น้อยของครอบครัว ก็ช่วยให้จัดการเรื่องพวกนี้ได้ง่ายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
หนึ่งเดือนถัดจากนั้น เข็มนักศึกษาบนปกซ้ายของนทก็เปลี่ยนไป ทรงผม พูดจา ท่าทาง เปลี่ยนไปราวกับคนละคน นทคนใหม่ คนใหม่ที่วันวันทุ่มเทให้กับงานศิลปะ บ้านพักในละแวกมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้ชายป่าเปรียบดั่งแกลลอรี่ขนาดย่อมของเด็กวิจิตรศิลป์คนนี้ ... นทไม่คบเพื่อน ไม่มองใคร เป็นนักศึกษาที่ตกเป็นเป้าสายตา แต่ไม่เคยมีใครได้เข้ามาอยู่ในสายตานท...
มีบ้างที่พี่ชายคนสนิท ไอ้พี่เนียร์ ... คนเดียวนอกจากเจ้เมที่รู้เรื่องราว คนเดียวที่มักจะหาเวลาว่างมาเยี่ยมเยียนกันเสมอ แรกๆที่เธอย้ายมาอยู่ใหม่ๆ กราฟความถี่นั้นพุ่งกระฉูดจนเรียได้ว่าอาทิตย์ละครั้งเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อเวลานานเนิ่นไป กราฟก็เริ่มห่างขึ้น ห่างขึ้น และห่างขึ้น การไปมาหาสู่กันจึงเหลือเพียง การมาอยู่ด้วยยาวๆในช่วงปิดเทอมแค่นั้น
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปิดเทอมที่พี่จูเนียร์ทิ้งร้านหมูกระทะสุดฮอตมาอยู่ด้วยกัน ...
“เขายกพลมาตีร้านหมูกระทะพี่บ่อยมาก มึงรู้ไหมนท ? เขานั่งโต๊ะเดิมที่เคยนั่งกับมึงทุกครั้งเลย พี่แกล้งย้ายโต๊ะไปไว้มุมอื่นแต่เขาก็ยังจะเดินไปหานั่งจนได้ แล้วโต๊ะตัวนั้นแม่งก็เหมือนมีอาถรรพ์ พอน้องเขาเดินเข้ามามันจะว่างพร้อมใช้ตลอด...”
จูเนียร์พาดแขนลงบนโต๊ะไม้สักทองตัวยาว พร้อมกับเล่าข่าวคราวของแอปเปิ้ลให้นทฟัง ท้ายประโยคแทรกไปด้วยการรำพึงถึงความไม่น่าเชื่อของโต๊ะตัวนั้น ... จริงอย่างที่เขาพูดทุกคำ แอปเปิ้ลนั่งโต๊ะตัวเดิมทุกครั้งที่เคยนั่งกับนท และคงไม่ใช่เพียงความบังเอิญแน่ๆ
หลายต่อหลายครั้งที่แอปเปิ้ลยกก๊วนเพื่อนสาวหน้าตาดีมาละเลงร้านเขาเสียจนยับย่อย และหลายครั้งอีกเช่นกันที่แอปเปิ้ลจะพาอารมณ์เหงาๆมาปลดปล่อยด้วยการย่างเนื้อเป็นกิโลๆ แล้วจ่ายค่าปรับก่อนจะเดินออกจากร้านไปอย่างใจลอย...
แต่เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่แอปเปิ้ลเอ่ยปากถามถึงข่าวคราวของนทจากเขา ครั้งเดียวที่ถาม ... ครั้งเดียวที่โดนปฏิเสธไปอย่างรุนแรง ประโยคสุดท้ายที่แอปเปิ้ลพูดกับเขาทั้งน้ำตา เขายังจำได้ดี...
“ถ้าพี่นทไม่อยากเจอแอปแล้วแอปก็เข้าใจค่ะ... แอปฝากพี่เนียร์ขอโทษพี่นท ฝากขอบคุณ ฝากบอกพี่นทว่าตลอดเวลาแอปมีความสุขมากที่มีพี่นทอยู่ข้างๆ ...”
สุ้มเสียงสั่นเครือเจือสะอื้นไห้ ... ทำเอาผู้ชายอกสามศอกอย่างเขาเกือบจะยอมใจอ่อนบอกไปเสียแล้ว
“... แต่เพื่อนเขาสวยมาก คมจัดหุ่นเป๊ะเลย พี่ได้ยินเขาเรียกบ่อยๆว่า ซิลซิล ... อะไรสักอย่าง สงสัยชื่อเต็มชื่อน้องต่อมทอนซิล ฮ่าฮ่า”
นอกเรื่อง... พี่จูเนียร์กำลังนอกเรื่องเพื่อเบนความสนใจจากนทออกไปจากเรื่องราวเก่าๆ เรื่องราวที่รังแต่จะสร้างความร้าวรานใจไม่จบสิ้น
แต่มันไม่ทันเสียแล้ว ... มันไม่ทันแล้ว
หัวใจนทหล่นไปอยู่ในวังวนเดิมอีกครั้ง วังวนแห่งการคิดถึง วังวนที่นทต้องใช้ความพยายามอย่างมากมายเพื่อปีนขึ้นมา ไม่นานเท่าไหร่ ไม่นานเท่าไหร่ที่นทหลงลืมมันไปซึ่งความทรงจำที่โหดร้าย ... แต่แล้ววันนี้ วันนี้นทก็ตกลงไปยังจุดเดิมอย่างง่ายดาย เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำ คำพูดไม่กี่คำจากปากพี่จูเนียร์
คิดถึง ... แม้แต่คำพูดสุดท้ายที่พูดกัน นทยังไม่เคยลืม
.
.
“พี่รักแอป พี่ยังยืนยัน... แต่พี่คงจะไม่รอ”
คำสุดท้าย... ที่นทตัดสินใจใช้เพื่อเป็นคำบอกลา ผ่านสายโทรศัพท์ในยามย่ำค่ำ คืนนั้น เป็นคืนเดือนมืดที่หนาวเหน็บราวกับจะคร่าชีวิตหนึ่งคนให้ล้มหายตายไปจากโลกใบนี้ มันเจ็บมันปวด มันยากเย็นเหลือเกินกว่าจะเอื้อนเอ่ยคำนี้ออกไป มันยากเย็น และทรมาณที่ต้องฟังเสียงครวญครางร้องขอของอีกฝ่าย
“แอปขอพี่นท ... ขอพี่นทอยู่ข้างแอปเหมือนเดิมไม่ได้เหรอคะ ?”
ใจร้าย ... มันเป็นคำขอที่ใจร้ายที่สุดเท่าที่นทเคยได้รับ
เธอโยนหัวใจไปทั้งดวง โยนไปทั้งที่รู้ว่าโอกาสจะได้รับชัยชนะแทบไม่มี แต่นทก็เอามันไปเสี่ยง เอามันไปต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่เข้มแข็งจนไม่อาจบ่อนทำลายได้แม้จะใช้วิธีใด ... ยาก แต่นทก็ยังกล้าเสี่ยง
“อยู่ไปทำไมล่ะแอป พี่ไม่เก่งพอจะทนทำกับแอปได้เหมือนเดิมหรอกนะ”
แต่แล้วแอปเปิ้ลก็ทำร้ายหัวใจของเธออย่างเลือดเย็น ไม่ทันวันจากที่เธอทุ่มใจไปทั้งดวง ความคาดหวังกำลังพุ่งเต็มปรี่ ความน่าจะเป็นเดียวที่เธอแสร้งหลงลืมมันไปก็เข้าทำร้ายเธอจนร้าวไปทั้งใจ ... เพียงวันเดียวที่ผันผ่าน เพียงหัวใจดวงเดียวที่ถูกเลือก ผลตัดสินมันเร็วเกินไป เธอเพิ่งแต่งทัพเข้าสู่สนามรบได้เพียงวันเดียว
และหัวใจที่ถูกเลือกไม่ใช่หัวใจของเธอ ไม่ยุติธรรม... เธอยังไม่ได้สู้เต็มที่ มันไม่แฟร์ !
เธอจำต้องต้องเดินสู่วิถีของผู้แพ้
แต่หัวใจดวงนี้ไม่ขอสู้อีกแล้ว...
“พี่นท...” เสียงครางอ่อนๆจากปลายสายเปรียบเสมือนน้ำมันที่ราดรดกองไฟในหัวใจ ให้ผลาญไหม้ไปทั้งดวง ...
จะทำทำไม ... จะทำแบบนี้ไม่ทำไม ในเมื่อเลือกจะทำลายหัวใจกันเช่นนี้ ทำกันเช่นนี้
ยังจะให้ความสงสารก่อร่างความหวัง เพื่อผิดหวังอีกครั้งไปทำไม
“ต่อไปนี้เราเจอกันเราก็ยังทักกันได้ ... แต่พี่ไม่ได้คาดหวังว่าเราจะได้กลับมาเจอกันอีก...”
ใครจะรู้เล่าว่าคำพูดเฉียบขาดนั้น นทต้องข่มสุ้มเสียงที่เริ่มสั่น กลั้นสะอื้นไว้ด้วยความพยายามมากแค่ไหน
“พี่รักแอปนะ...”
“พี่นท ! แอปก็ร...”
นทตัดสายนั้นทิ้งไป ไม่ต้องการอีกแล้วสำหรับความหวัง ความสงสารจากใคร ไม่อยากได้ยินอีกแล้วแม้เสียงหวานๆที่เคยละลายหัวใจ ไม่อยากเห็นอีกแล้วแม้รอยยิ้มสดใสที่เพิ่มพูนพลังใจให้ทุกวัน คำไหนก็ไม่อยากฟัง ต่อไปนี้เธอจะลืม !
ลืมแม้ความผูกพัน ลืมแม้วันเวลาที่เคยทุ่มเทเพื่อรอคอยใคร...
นทปิดโทรศัพท์ ก่อนจะถอดซิมออกมาแล้วโยนออกไปสุดแรง ... พอกันทีกับการรอคอยลมลมแล้งแล้ง ต่อไปนี้ชีวิตเธอจะเริ่มต้นใหม่ ชีวิตของเธอจะต้องไม่ถูกดึงรั้งด้วยคำหวานของใครอีก
น้ำตาหยดสุดท้าย ต่อไปนี้จะไม่มีการต้องร้าวรานใจเพราะใครที่ไม่เคยแคร์ ไม่เห็นค่ากัน ... ใครไม่รักเธอ แต่เธอมั่นใจว่าอย่างน้อยเธอก็รักตัวเองมากพอ
จะไม่มีวันไหนที่นทคนนี้จะอ่อนแอเหมือนเดิม...
จะไม่มีวัน ...
.
.
.
ที่อยู่พร้อมตั๋วเครื่องบินเที่ยวบินในอีกหกวันข้างหน้า ถูกวางไว้บนโต๊ะไม้ผิวเคลือบมันนิ่งๆ ... มันถูกจับจ้องมาเนิ่นนาน ผ่านเวลามานับชั่วโมง สิ่งรอบตัวเคลื่อนไหว เหลือเพียงสายตาของแอปเปิ้ลที่ยังจับจ้องอยู่กับกระดาษบางๆเพียงไม่กี่แผ่น
ชั่งน้ำหนัก ชั่งใจ ...
ชั่งความรัก ความคิดถึง ความเหมาะควรและทุกสิ่งทุกอย่างรวมกัน แต่ผลที่ได้มาไม่เคยเท่ากันสักครั้ง มันแปรผกผันตามความลังเลใจที่ขึ้นๆลงๆไม่คงที่ จนบางที แอปเปิ้ลคิดว่าเธออาจต้องใช้ความรู้สมัยมัธยมหาค่าเฉลี่ยของมันออกมา...
สองวันแล้วที่เธอแปรสถานภาพเป็นสาวโสดอย่างชัดเจน คนรอบข้างดูจะรับรู้ได้โดยง่ายดาย และเมื่อประมาณชั่วโมงที่ผ่านมา ตั๋วเครื่องบินร้อนๆก็ถูกร่อนมาโดยฝีมือพี่แกรนท์ พี่สาวสุดเจ๋งของเธอ น้องสาวตัวแสบของพี่แกรนด์ ผู้หญิงที่ไม่ว่าจะอย่างไรก็น่ารักกับน้องสาวเช่นเธอเสมอ
พี่แกรนท์บอกว่านี่คือของขวัญวันเกิด ... วันเกิดที่เพิ่งผ่านไปสี่ซ้าห้าวันจากพี่น้องสามใบเถาบ้านด้วยเศียรเกล้า
พร้อมทั้งชื่อผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการที่ทำแอปเปิ้ลสะอึก
คุณลุงคุณป้าผู้ที่เป็นดั่งราชาและราชินีแห่งบ้านแสนอบอุ่นหลังนั้น
เสียงกำชับกำชาพร้อมสัมผัสหนักแน่นที่มือยังวนเวียนอยู่ในหัว ...
‘ทำตามใจตัวเองสิแอป ... ดูอย่างพี่ดิวดิ กว่าจะกล้าบอกรักเจ้ได้ต้องเสี่ยงตาย ! อย่าให้เป็นแบบนั้นเลยนะแอป รู้ใจตัวเองแล้วก็ต้องทำ ! พี่เอาใจช่วยนะ’
คุณพงศธร ... หรือพี่ดิว พี่ชายที่ไปมาหาสู่บ้านด้วยเศียรเกล้าบ่อยๆราวกับเป็นญาติสนิท สาเหตุสำคัญที่ทำให้พี่แกรนด์พลาดงานวันเกิดปีก่อนของเธอ พี่ดิวบอกรักพี่แกรนด์ต่อหน้าเธอ พูดอย่างจริงใจเปิดเผยราวกับมันไม่มีความหมายใด ... ถ้อยคำเรียบๆ
‘ผมชอบคุณนะ ชอบมาก...’
ที่ดูจริงใจและหนักแน่นบอกไม่ถูก...
เชื่อเถอะ ... คนที่ได้ชื่อ แฟนในตอนนั้นอย่างเธอ
ทำหน้าไม่ถูกไปเป็นวันทีเดียว ...
และนับแต่วันนั้น พี่ดิวก็ดูจะห่างหายไปไม่ทราบสาเหตุ อาการทางร่างกายจากอุบัติเหตุครั้งนั้นส่งผลให้นักข่าวอาชญากรรมคนเก่งต้องยุติบทบาทนั้นลงอย่างน่าเสียดาย กลายเป็นหนุ่มน้อยในทรงสกินเฮดที่ดูจิ้มลิ้มกว่าเดรดร็อกขมุกขมอมเป็นไหนๆ สลัดเสื้อกั๊กกะโปโลแล้วสวมสูทผูกไทด์แล้วรับบทบาทใหม่เป็นเจ้าของคอลัมน์วิเคราะห์การเมืองชื่อดัง...
นี่คือข่าวคราวสุดท้ายของพี่ดิวที่เธอได้รู้...
แต่ว่านั่น ... นั่นไม่ใช่ประเด็นสลักสำคัญ ไม่ใช่ข้อมูลประกอบการตัดสินใจหรือถ้อยคำที่มีน้ำหนักใดใดเลย เป็นเพียงเรื่องราวของคนรอบตัวที่ช่วยสนับสนุนข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น
นิ้วเรียวเลื่อนไปแตะเฉียดเพียงแผ่วเบาบนกระดาษสีฟ้าสดที่มีลายมือขยุกขยิก ระบุพิกัดของพี่นท ... หัวใจสั่นระริกรัวราวกับยามแรกเต้น ใช่ล่ะ นี่คือเบาะแสเดียวของพี่นทที่เธอมี
มันถูกหยิบยื่นมาจากพี่แกรนด์ มาจากหัวใจอันยิ่งใหญ่ของพี่แกรนด์ ...
หากนี่คือการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต...
เพียงเดินหน้า กล้าทำตามหัวใจ
กับ สะกดกลั้นความรักทั้งหมดที่มี ปล่อยทุกวินาทีให้ผ่านไปเฉยๆ
.
.
.
แม้อาจไม่เคยต้องงอนง้อใคร ...
แต่เธออาจทำได้ คงทำได้ และต้องทำได้
“แม่ ! อาทิตย์หน้าแอปจะไปเที่ยวเชียงใหม่นะ !!!!!!!!”
จบตอน เอิ๊กอ๊าก :D
ความคิดเห็น