คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 การพบกัน
“เรียบร้อยสักที…”
เสียงต็อกแต็กที่ดังสม่ำเสมอมาตลอดคืน ถึงคราต้องเงียบลง เมื่อใครบางคนที่ใช้งานมันอย่างหนักมาตลอดสองวัน หมดภาระหน้าที่ลงเสียที…
“เฮ้ออ…”
เสียงถอนใจยาวเหยียด ดังขึ้นพร้อมกับร่างบอบบางของเจ้าของเสียงที่นอนเอนไปกับเก้าอี้ผ้าบุนวมหนานุ่มอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง… พลังสมองที่ถูกรีดออกมาใช้จนหมดหยดสุดท้าย เป็นอันเกลี้ยงกริบ ไม่เหลือเรี่ยวแรงให้เธอได้คิดอะไรอีกแล้ว เธออ่อนล้าเต็มที…
วารสารนิสิตรายเทอมที่เธอได้รับความรับผิดชอบเข้าไปเต็มๆตัว เปรียบเสมือนไฟนรกขุมที่ร้อนที่สุดที่ไล่วิ่งตามก้นเธอ จนไม่เป็นอันกิน นอน อ่านหนังสือ หรือหายใจด้วยซ้ำ ทั้งที่ช่วงอาทิตย์ก่อนหน้านี่เป็นสัปดาห์แห่งการสอบไฟนอลภาคเรียนที่1ของเธอแท้ๆ
แต่มันก็เป็นความผิดของเธอเต็มๆจริงๆล่ะนะ…
ไฟล์ pdf คุณภาพสูงถูกแนบไปทางอีเมล์เพื่อส่งถึงทีมงานอีกเป็นสิบชีวิตที่รอไม่กี่แผ่นสุดท้ายจากเธอ… นทพิมพ์คำขอโทษลงไปในนั้นเล็กน้อย ให้มันพอสมควรกับความผิดที่เธอก่อขึ้นมา ก่อนจะกดส่ง …
เป็นอันสิ้นภาระหน้าที่ของคอลัมนิสต์จากวารสารนิสิตประจำเทอมนี้…
และเพราะงานชิ้นนี้ล่ะ ที่ทำให้เวลาชีวิตเธอต้องคลาดเคลื่อนไปหมด ทั้งที่ตอนนี้ เธอควรแพ็คกระเป๋าไปเชียงราย นอนเอ้เต้ลงในบ้านพักหลังงามท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขา และเฝ้ารอจะพบสบตากับใครบางแล้วด้วยซ้ำ
แต่ก็ไม่เลย… ตอนนี้เธอทำได้แค่ อุดอู้อยู่ในห้อง รอคอยวันมะรืนที่จะเป็นวันพักผ่อนเต็มตัวของเธอ
และมันดึกดื่นเต็มที… ที่เธอฝืนอดตาหลับขับตานอนจนเสร็จงาน เมื่อภาระหน้าที่สิ้นสุดลงแล้ว ก็ไร้ประโยชน์ที่จะฝืนตาตื่นต่อไป…
เก้าอี้บุนวมหนานุ่มหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ในห้องขนาดเล็กในหอพักนิสิต ถูกใช้เป็นที่นอนในค่ำคืนนี้ ผ้าห่มผืนบางที่ติดตัวเธออยู่เสมอ ถูกสะบัดเพื่อคลุมร่างเล็กนั่นให้ปลอดภัยจากความหนาวเย็นเกินไปที่อาจเกิดจากพัดลมผนังในตอนที่ดึกกว่านี้…
“ฝันดีนะคะ…”
สุ้มเสียงนึงที่ดังเสมอในสำนึกสุดท้ายก่อนจะหลับตานอน ขับกล่อมเธอให้หลับใหล และฝันดีเป็นหน้าใครบางคนอย่างที่เจ้าของคำอวยพรบอกกันจริงๆ
คุณผู้หญิงคนนั้น…
คุณผู้หญิงที่ทำให้เธอต้องกลับไปอีกครั้ง
กลับไปในที่ที่เราเจอกันครั้งแรก และกำลังจะพบกัน
คุณผู้หญิงที่เธอรอความบังเอิญเพื่อพบกันเสมอมา…
.
.
สถานที่ในความทรงจำของเธอ อยู่ที่อำเภอเล็กๆในจังหวัดเชียงราย มันเป็นฟาร์มโคนมที่แสนจะเงียบสงบเหลือเกิน แต่มันก็ทำให้เธอหลงรักในความเรียบง่ายนั้นเสมอมา
รถสองแถวสีแดงหม่นๆคันเดิม มารับเธอจากบขส.เพื่อปุเลงๆมาส่งกันยังจุดหมายปลายทางอย่างฟาร์มโคนมแห่งนี้… นทนั่งมองไปข้างทางอย่างสุขใจ วันนี้เพื่อนร่วมการเดินทางมีเพียงประปราย ไม่เต็มจำนวนสิบคนอย่างที่รถจะสามารถจุได้เหมือนครั้งแรกที่เคยมา คงเป็นเพราะนี่เป็นใกล้เป็นช่วงปิดซีซั่นของที่นี่เสียแล้ว ใครต่อใครถึงได้พากันกลับ มากกว่าที่จะเดินทางมาเช่นเธอ
ระหว่างทางลูกรังสีแดง… นทได้แต่ภาวนาให้ใครที่เธอรอคอย ยังคงอยู่ที่นั่น เธอต้องการพบเธอคนนั้น มากกว่าสิ่งอื่นใด…
ดวงตาเรียวเล็กผินมามองที่นั่งข้างๆที่ว่างอยู่… ความทรงจำสวยงามที่สุดครั้งนึง กำลังฉายซ้ำในหัวใจเธออีกครั้ง เมื่อเจ้ารถเก่าๆคันเดิมคันนี้ พาเธอมาใกล้ๆจุดหมายเข้าทุกที…
นั่นไง ป้ายต้อนรับ ณ ทางเข้า… เธอเห็นมันอยู่ไม่ไกลจากสายตา…
‘Welcome home’
ป้ายไม้ขนาดใหญ่ในสีธรรมชาติตั้งตระหง่านอยู่ที่ทางเข้าแคบๆเล็กๆ โดดเด่นชัดเจน เรียบง่ายแต่แสนอบอุ่นกับคำว่า home ที่อุ่นใจคนไม่เคยมีบ้านจนต้องเผลอยิ้มออกมา… บรรยากาศรอบตัวกำลังสดชื่นจนผู้มาใหม่ต้องสูดหายใจเข้าเต็มปอด…
รอยยิ้มเปื้อนกระจายเต็มสีหน้า สิ่งที่เรียกว่าความสุขกำลังครอบคลุมทุกตารางนิ้วของหัวใจดวงนี้จนมันเต้นแรง…
รถสองแถวโกโรโกโสวิ่งโคลงเคลงพานักท่องเที่ยวกว่าสิบชีวิตผ่านป้ายไม้นั่น ตรงเข้าไปในทางยืดยาว ไกลลิบๆ เธอเห็นภูเขาเขียวขจี ท้องฟ้าแสนสดใส … ยิ่งรถคันนี้เคลื่อนไปข้างหน้าเท่าไร หัวใจเธอยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น…
แสงอาทิตย์ในงามสาย สาดลงมาอ่อนๆ… ลมเย็นฉ่ำพัดมาเรื่อยๆ ใบไม้ใบหญ้าปลิวไหวโอนอ่อนไปตามลม ธรรมชาติ เรียบง่าย สวยงาม บริสุทธิ์ ทั้งหมดนั้นประกอบกันเป็นที่นี่ ที่ที่ทำให้เธอตกหลุมรักจนอยากพักพิงไปอีกแสนนาน
ใครก็ๆบอกว่า… ที่นี่สวยจับใจ…
และเธอก็กำลังตกหลุมรัก ปักใจเชื่อ… มันสวย สวยมากกว่าที่ใครบรรยายเอาไว้อีกด้วยซ้ำ…
แชะ… แชะ แชะ
ดูสิ ไม่เชื่อเธอเหรอว่ามันสวยงามขนาดไหน…
คุณผู้หญิงข้างๆเธอถ่ายรูปมาแทบจะตลอดทางเข้ากระมัง…
นทเหลือบตามองสาวสวยที่อยู่ในความสนใจเธอแทบจะตลอดเวลาอย่างแสนประทับใจ รอยยิ้มจางๆประดับอยู่บนใบหน้าหวาน และดวงตาเรียวเล็กก็แสดงออกถึงความชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง… ไม่ใช่แค่บุคลิคและการแต่งตัวเท่านั้นที่ทำให้นทต้องจ้องมองเธอไม่วาง แต่ความวุ่นวายตลอดทาง ที่แม้จะยุ่งยากแต่ก็เจือด้วยรอยยิ้มตลอดมา กำลังทำให้เธอสนใจเขา เข้าอย่างจังงัง…
สาวมาดมั่นแบบฉบับสมัยใหม่ที่นทคนนี้กล้าเอาหัวประกันให้มั่นใจว่าคงต้องถูกใจชายใดๆทั้งโลก... เธอทั้งหุ่นดี ทั้งผิวขาว ทั้งหน้าตาจิ้มลิ้ม ทั้งยิ้มหวาน ดูเป็นผู้หญิงเก่งแต่ก็ยังอ่อนหวานอยู่ในที… นั่นใช่ไหมล่ะ ผู้หญิงที่ใครๆก็ต้องหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตา
นทยิ้มมองตามทุกอิริยาบถนั้นอย่างพอใจ… มองไปรอบเธอคนนี้ กระเป๋าพกพาใบโตคงมีพื้นที่จุมากมาย แต่จากการประเมินด้วยสายตา มันคงยังไม่มากพอ เธอคนนี้ถึงต้องพกกระเป๋าใบเล็กแยกไว้อีกใบ แล้วก็เอาของกระจุกกระจิกมากมายมาวางไว้รอบตัวแบบนั้น…
แถมคุณผู้หญิงแสนสวยยังสนุกสนานกับการถ่ายรูป ไม่ยอมเก็บข้าวของที่วางก่อนไว้แม้เพียงนิด…
นทมีความสุขเหลือเกิน ที่ได้เห็นอะไรแบบนี้ ต้นไม้ ใบหญ้า ภูเขา… และเธอที่กำลังนั่งน่ารักจับใจอยู่ข้างเธอ
ไม่ใช่วิวข้างหน้าที่สวยมาก…
คนข้างเธอก็สวยมากๆ ไม่น้อยไปกว่ากัน
“สวัสดีเพื่อนสุดพิเศษของเราครับ ผม กัน นภัทร เพื่อนที่จะคอยดูแลคุณทุกนาทีจากนี้เป็นต้นไป…”
ความคิดชื่นชมของนทสะดุดลง เมื่อยานพาหนะคันเก๋าพากรุ๊ปทัวร์ขนาดย่อมมาถึงจุดหมาย… ที่นั่งในสุดติดริมอย่างนท ต้องรอนานทีเดียวกว่าจะได้ลงไปเหยียบพื้นหญ้าเขียวขจีนั่น… เพราะมีอีกหลายชีวิตที่กำลังทุลักทุเลแบกสัมภาระติดตัวลงไปอย่างช้าๆ
ชายหนุ่มผู้ยิ้มหวานที่ยืนกล่าวคำต้อนรับด้วยน้ำเสียงหวานหู คอยหยิบยื่นความช่วยเหลือด้วยการถือกระเป๋าและประคองนักท่องเที่ยวแต่ละคนอย่างเอาใจใส่… เธอเดาเอาว่าเขาคงทำหน้าที่เป็นผู้มีหน้าที่คอยต้อนรับส่วนหน้า เขาถึงได้คอยมาดูแลเอาใจถึงขนาดนี้
เขาก็ยิ้มน่ารักน่าเอ็นดูดีอยู่หรอก หน้าตาก็หล่อคมชัดชวนให้สาวๆหลงใหล… แถมบุคลิกท่าทางก็โก้ไม่เบา สำเนียงเสียงพูดก็ดูสุภาพอ่อนน้อม
แต่ไม่รู้สิ แค่แว่บแรกที่เจอ เธอก็ไม่ถูกชะตาเอาเสียแล้ว
เพื่อนที่จะดูแลคุณทุกนาทีจากนี้เป็นต้นไป
โอ๊ยยย… ประโยคนี้ใครคิด น้ำเน่าไปหน่อยไหมคะ คุณกัน นภัทร ~
“ว้ายๆๆๆ…”
แต่แล้ว ความคิดนทก็ถูกจับเปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนดังขึ้นอย่างน่าตกอกตกใจ…
และไม่ใช่แค่เธอที่จับจ้องด้วยสองตา…
ใครที่ได้ยินเสียงนี้ก็หันมาสนใจกันทั้งนั้น…
คุณผู้หญิงสวยเลิศที่นั่งถ่ายรูปตลอดทางข้างๆเธอนั่นเองที่เป็นเจ้าของเสียงร้องอันนั้น… ความวุ่นวายขนาดย่อมกำลังอุบัติขึ้นอยู่ข้างๆเธอ พร้อมกับเสียงจิ๊จ๊ะและคำบ่นพึมพำที่นทได้ยินไม่ชัดแต่สัมผัสได้ว่ามันน่ารักเหลือเกิน
ดูสิ… เพราะมัวแต่ถ่ายรูปและไม่ยอมเก็บของลงกระเป๋าสักที เมื่อถึงคราวที่ต้องลงยังจุดหมาย สัมภาระที่วางกองรอบตัวถึงได้กลายเป็นภาระไปหมด
และบัดนี้มันได้ทำการร่วงกระจายลงสู่พื้นกระบะแล้ว…
เป็นสิบๆอย่างเชียวแหล่ะ
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ…”
ก่อนที่นทจะได้ขยับตัวไปช่วยเก็บของ… ใครที่ไกลกว่าก็ทิ้งกระเป๋าของนักท่องเที่ยวท่านอื่นแล้วปราดเข้ามาดูแลเธอคนนี้เข้าอย่างรวดเร็ว… เสียงนุ่มๆและสายตาห่วงใยชวนหลงใหลขยันจ้องที่เธอคนนี้เสียจนนทกลัวว่าจะเห็นใครละลายไปต่อหน้า
ท่าทางดูแลเอาใจใส่เกินไปของพ่อหนุ่มกันนภัทรที่มีต่อคนนั่งข้างเธอในตอนนี้ กำลังทำคนคิดช้าทำช้าอย่างนทนึกเคืองไม่น้อย… ความรู้สึกเหมือนขโมยซีนแล่นปราดเข้ามาจับใจจนหงุดหงิดไม่เบา… ทั้งที่จริง มันควรเป็นเธอด้วยซ้ำ ที่จะได้ช่วยเธอคนนี้เก็บของ และถือโอกาส ทำความรู้จัก อย่างที่ใจเรียกร้องมาตลอดทาง…
หากใครได้มาเห็นนทตัวน้อยๆในนาทีนี้… เขาเหล่านั้นคงวิ่งหาน้ำมาดับไฟในตาเธอจ้าละหวั่น
“หึ้ย…”
และความหงุดหงิดนั่นก็มีมากพอ ที่จะทำให้นทคว้ากระเป๋าสะพายของตัวเอง แล้วลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เบียดแทรกผ่านพื้นที่คับแคบโดยไม่สนไม่แคร์สักนิดว่าต้องกระแทกกระเป๋าใส่ใครแค่ไหน
แถมเสียงสบถก็ดังลั่น… ท่าทางก็ดูโกรธเคืองจนคนบนรถอีกสองคน ต้องพยายามขยับหลีกทางให้นทเดินลงสะดวกให้จงได้…
ลงจากรถได้ก็เป็นอันสิ้นสุดการร่วมทางกับสาวสวยที่นทหมายตามาตลอด… นทถอนหายใจอีกพรืดใหญ่อย่างเสียดายไม่หาย แต่ก็เลือกที่จะเดินลากกระเป๋าใบโตจากไป โดยไม่คิดจะหันกลับมามองสักครั้ง…
ไม่แม้แต่จะชายตามอง… คนสวยในดวงใจ ที่ช้อนตาแลตามคนขี้หงุดหงิดไปจนลับสายตา
และไม่ใช่แค่คุณคนนั้นที่จับจ้องเธอไม่วางตา เธอเองก็เช่นกัน มีโอกาสเมื่อไรสายตาเจ้ากรรมของเธอก็แอบมองเขาอยู่เรื่อยไป… จนผิดคิว เผลอสบตากันให้เธอได้เขินอายตั้งหลายครั้ง
เขาดึงดูดสายตาเธอเหลือเกิน และในความรู้สึกลึกๆ ก็ฟ้องกันว่าเขาก็แอบมองเธอหลายต่อหลายครั้ง…
แต่ทำไมเรื่องมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ…
เธอเผลอไปทำอะไรให้เขาต้องหงุดหงิดใจหรือเปล่าเนี่ย…
การพบกันครั้งแรกของเราไม่ใช่เหตุการณ์ที่น่าประทับใจนักสำหรับเธอ… แต่ความสวยหยดย้อยและบุคลิกภาพทั้งหมดที่เธอคนนั้นเป็น นั่นคือความประทับใจที่ทำให้เธอจดจำเขาเอาไว้ ไม่รู้ลืม
วันนี้ นทกลับมาที่นี่อีกครั้ง กลับมาตามสัญญาปากเปล่าของใครบางคนที่ทำให้ชีวิตของเธอ อยู่ไม่เป็นสุขเลย ในระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา…
ใจเธอพะวงหาเขาเหมือนคนบ้า ทั้งที่ไม่มีชื่อเสียงเรียงนามใดให้ได้เพ้อ แต่เขาก็อยู่ในใจเธอทุกวัน…
“ถ้าคุณกลับมา… เราก็จะได้พบกันค่ะ”
เสียงนี้ยังดังในใจและความทรงจำเสมอ… เสียงเดียวที่ทำให้การรอคอยของเธอมีความหมาย
รถสองแถวคันเดิมจอดลงยังหน้าอาคารต้อนรับ… จุดเดิมกับที่เธอเคยพบหน้าพ่อกันนภัทรนั่นครั้งแรก… สถานที่เดิม ในเวลาใกล้เคียงแทบไม่ต่างจากเดิม… เพื่อนของเธอที่ชื่อกันนภัทร เอ่ยต้อนรับด้วยคำพูดเดิมๆ และการเอาใจใส่แบบเดิม และเป็นอีกครั้งที่นทเลือกจะปฏิเสธ… เพราะเหตุการณ์วันนั้นยังทำให้เธอหงุดหงิดใจกับเขาไม่หาย…
นทลงจากรถคันนั้น… ยืนอย่างมั่นคงบนพื้นหญ้าเขียวขจี … สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ถึงแล้วสินะ… ถึงสักที บ้านของหัวใจ… สถานที่ที่เธอจะสามารถเอาทุกความรู้สึกมากเอาไว้อย่างอบอุ่น
สถานที่ที่จะทำให้เธอได้พบใครบางคนอีกครั้ง
และเธอเชื่อเหลือเกิน ว่าเราจะได้พบกัน…
เราต้องได้พบกัน…
และหากเราได้พบกัน… นทจะไม่ปล่อยคุณไปอีกแล้ว
หยุดต่อว่าต่อขานหาว่าเราใจร้ายสักที.
นี่อุตส่าห์ตัดใจทำสเปเชียลออกมาเลยนะ
มีใครต้องไม่การไหม ไม่มีสินะ เชอะ 55555
เพราะก่อนจะพราก ก็ต้องมีการพบกันทั้งนั้น
ขอโอกาสให้เขาได้พบกัน
ขอให้โอกาสให้ความรักครั้งนี้ได้ไปอยู่ในหัวใจคุณบ้างนะคะ
ก่อนที่มันจะเป็นไปอย่างที่มันต้องเป็น
มันอาจมีค่าแค่คั่นเวลาจากความเจ็บปวดของทีบีซี
แต่มันก้จะเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจที่หนูอยากให้ทุกคนมีความสุข
แล้วพบกันค่ะ :)
ความคิดเห็น