ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Short fiction} Unconditional love #grandappnote'

    ลำดับตอนที่ #1 : UNCONDITIONAL LOVE - 1 -

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 54



    - 1 -





    “เงื่อนไขในการจ่ายค่าเบี้ยประกัน อยู่ในเอกสารชุดที่เราแฟกซ์ให้เมื่อวาน ไม่ทราบได้รายอ่านละเอียดหรือยังคะ ?”

    “ไม่สามารถคงเบี้ยประกันเท่าเดิมได้จริงๆค่ะ … เพราะคุณพชรค้างชำระค่าเบี้ยประกันนานเกินระยะเวลาสามสิบวัน และยังลากยาวไปเป็นสามงวดการชำระอีกด้วย ซึ่งนี่เป็นกรมธรรม์ระยะสองปีแรก ดังนั้นไม่สามารถจะคงค่าเบี้ยประกันเท่าเดิมได้จริงๆค่ะ”

    “คุณพชรต้องชำระค่าเบี้ยประกันทั้งหมดภายในสิ้นเดือน หรือ อีกวิธีคือต้องเพิ่มค่าเบี้ยประกันโดยเทียบจากอายุของคุณพชรในตอนนี้ค่ะ…” 

    “… เอ่อ ค่ะ แต่คุณพชรคะ คะ…”





    บรรยากาศที่วุ่นวายมาตลอดทั้งวันผ่อนคลายลงเมื่อได้เวลาเลิกงาน เหล่าตัวแทนขายประกันทั้งหลายต่างขนเรื่องผู้เอาประกันขี้วีนของตนเองขึ้นมาพูดคุยกันไม่ขาดปาก เสียงแว้ดๆดังเซ็งแซ่ ถึงขนาดหากมีใครหลงข้ามาในยามนี้คงไม่คิดว่าบรรดาหนุ่มสาวในชุดสูทดูหรูหราเหล่านี้จะเป็นพนักงานผู้เคร่งกฎระเบียบและเคร่งขรึมของบริษัทประกันภัยชื่อดังเป็นแน่




    กึก !


    หญิงสาวในชุดสูทเรียบหรู ตะโกนกระแทกโทรศัพท์สำนักงานบนโต๊ะของพนักงานในความปกครองของตนเองอย่างฉุนเฉียว ในเวลาที่พระอาทิตย์คล้อยต่ำ บ่ายสี่โมงจวนเจียนจะห้าโมงเต็มที หากเป็นเวลาเปิดทำการซึ่งผู้อำนวยการฝ่ายยังคงอยู่ในห้องเธอคงไม่ได้ต่อปากต่อคำกับเขาขนาดนี้เป็นแน่ … ร่างบางกัดปากแน่นอย่างหัวเสีย โดยมีสายตาเห็นอกเห็นใจปนเอ็นดูจากบรรดาผู้ร่วมงานฝ่ายสะสมเงินเดือนทอดมองมาจากทั่วทุกทิศ

    ‘พรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า’ เวิร์คกิ้งวูเมนสาวสวยวัยยี่สิบห้า ที่มีตำแหน่งหน้าที่เป็นถึงผู้จัดการภาคของบริษัทประกันภัยชื่อดัง ความสามารถอันเฉียบขาดและความมั่นใจที่สาวสวยคนนี้พกมาเต็มกระบุง ส่งผลให้เด็กสาวที่เพิ่งจบมหาวิทยาลัยมีหน้าที่การงานพุ่งพรวดขึ้นถึงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายสะสมเงินเดือนได้ไม่ยาก และอีกหนึ่งปีถัดจากนั้น ผลงานอันโดดเด่นของเธอในวัยยี่สิบห้า ก็ส่งผลให้เธอคว้าตำแหน่งผู้จัดการภาคคนใหม่มาได้อย่างง่ายดาย

    นอกเวลางาน ใครใครต่างก็อยากอยู่ใกล้ชิดกับสาวสวยอารมณ์ดีคนนี้ทั้งนั้น แต่เข้าเวลางานทีไร เหล่าลูกน้องที่ส่วนมากจะอาวุโสกว่า ก็อยากจะหลีกห่างทุกที ด้วยความเฉียบขาดและการตัดสินใจที่แม่นยำเกินวัย ทำให้ใครต่อใครต่างก็เกรงกลัวผู้จัดการอายุน้อยคนนี้ราวกับเป็นผู้บริหารใหญ่

    แต่ในความเกรงกลัวนั้นก็ยังเต็มไปด้วยความเคารพในฐานะผู้ชำนาญการกว่าในทุกทุกด้าน


    ผู้จัดการภาคสาวน้อมหัวน้อยๆเป็นเชิงขอโทษขอโพยบรรดารุ่นพี่ร่วมงาน … ที่เผลอระเบิดอารมณ์ใส่ปลายสายที่เพิ่งกระฟัดกระเฟียดวางหูไป ขาเรียวยาวก้าวฉับๆเข้าห้องส่วนตัวด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่ระบุอารมณ์ แต่ใครใครต่างก็รู้ทั้งนั้น ว่าเจ้านายสาวสวยของพวกเขาเป็นอะไร…

    ‘คุณพชร’ ลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ประกันภัยเบี้ยประกันหนึ่งแสนบาทเพียงหนึ่งกรมธรรม์ ผู้มากล้นไปด้วยปัญหานานาตลอดหนึ่งปี อันเป็นที่เอือมระอาของตัวแทนทั้งภาค และไม่มีใครสามารถพอจะปราบปรามเขาได้เลย ปัญหาใหม่ล่าสุดที่คุณพชรขนมาให้ตัวแทน … คือการเบี้ยวค่ายเบี้ยประกันในช่วงสองปีแรกซึ่งเป็นช่วงสำคัญมากของประกันภัย

    ตัวแทนจำหน่ายซึ่งเป็นลูกน้องของลูกน้องของเธออีกที พยายามอย่างถึงที่สุดแล้วแต่ก็ไม่มีแม้แต่เศษสตางค์แดงเดียวที่หลุดออกจากกระเป๋าสตางค์ของเขา

    ผู้จัดการฝ่ายขายสะสมเงินเดือนผู้เป็นเจ้านายของตัวแทนผู้น่าสงสาร และลูกน้องโดยตรงของเธอ ลงทุนบากหน้าสวยไปทวงแบบสุภาพถึงบริษัทขนส่งขนาดย่อมของเขา แต่ขอโทษเถอะ … โดนตอกหน้ากลับมาเหมือนลูกน้องผู้น่าสงสารของเธอไปติดหนี้เขาไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้วก็ไม่ปาน

    ร้อนถึงผู้จัดการภาคอย่างเธอ ต้องลงมือคุยกับเขาด้วยตนเอง … ลำพังเบี้ยประกันแค่ไม่กี่แสนบาทของเขาไม่ได้ทำให้ภาคเดือดร้อนอะไรมากเลย แต่การหักหน้าลูกน้องเธอต่างหาก คือสิ่งที่เธอยอมไม่ได้

    คุณพชรจึงถูกต่อสายตรงถึงผู้จัดภาคที่มีอายุน้อยกว่าเขาถึงห้าปี ทั้งๆที่ไม่ใช่ธุระปะปังและไม่ใช่หน้าที่ใดใดของเธอสักนิด แรกๆเขาก็ดูเกรงอกเกรงใจและยินยอมที่จะจ่ายค่าเบี้ยประกันทั้งหมดทันที แต่พอวันถัดมา เขาได้ล่วงรู้ถึงอายุของเธอซึ่งก็ไม่รู้ว่าจากสืบหามาจากไหนเท่านั้นแหล่ะ

    คำพูดก็พลิกตลบไปมาราวกับคนละคน แถมยังไม่ให้ความเชื่อถือที่เป็นถึงผู้รับผิดชอบชีวิตเขาคนหนึ่งอีกต่างหาก ถึงเธออายุยังน้อย แต่มันก็ไม่ได้หมายรวมถึงความสามารถของเธอด้วยนี่นา

    ถ้อยคำก่อนที่เขาจะวางสายยังทำหญิงสาวเดือดปุดๆอยู่ถึงตอนนี้ …

    ‘ตอนผมอายุเท่าคุณ ผมยังคบแฟนสิบคนผลาญเงินพ่อเล่นอยู่เลย อายุแค่ยี่สิบห้า คุณจะมีความรู้ความสามารถอะไรมาสั่งผมให้ทำนู่นทำนี่ เงินก็เงินผม ประกันก็ชื่อผม ผมไม่จ่ายก็เรื่องของผม แต่ถ้าผมตายคุณก็ต้องจ่ายผม มันเป็นเงื่อนไขที่คุณต้องทำให้ผม จบ !’


    เธออยากตอบกลับไปเหลือเกิน … ว่าถ้าเขารีบตายตอนนี้ ประกันอาจยังคุ้มครองเขาอยู่
    ฉะนั้นหากอยากได้เงินประกัน ให้เขาช่วยถือมีดมาหาเธอที เธอจะค่อยๆกรีดสมองลิงของเขาออกมาช้าๆ ให้สมกับความยียวนขั้นสุดที่เขาทำกับผู้จัดการภาคผู้น่าเกรงขามเช่นเธอ แล้วหลังจากนั้นไม่ต้องกังวล เงินระกันจะต้องถูกส่งกลับที่บ้านเขาครบทุกบาททุกสตางค์แน่นอน




    เงื่อนไขในคำจำกัดความของเขา มันผิดจากความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง และนั่นมันทำให้เธอยอมไม่ได้…
    ทุกอย่างมันต้องมีเงื่อนไข ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนทั้งนั้น อยากได้เงินประกัน ก็ต้องจ่ายเงินประกันแล้วไปตายซะ !

    แต่นี่ไอ้บ้านั่นมันไม่ยอมทำอะไรสักอย่าง

    เธอได้แต่กรีดร้องในใจอย่างทรมาณ … มือควานออยล์และสำลีที่ติดไว้ในกระเป๋าเสมอ เช็ดเครื่องสำอางบ่นหน้าออกตามความเคยชิน หมดเวลางาน ก็หมดเวลาแอ๊บ หมดเวลาเก๊ก หมดเวลาสำหรับเมคอัพราคาแพงที่ดูสำคัญต่อภาพลักษณ์เหลือเกิน

    กระจกบานใหญ่ถูกยกมาวางไว้ตรงหน้า สองมือก็เช็ดไล้ไปตามผิวหน้าอย่างแผ่วเบา จนเครื่องสำอางหลุดออกไปจนหมด ใบหน้าเธอก็เนียนใสดังเดิม

    สองมือกวาดข้าวของสำคัญลงประเป๋าก่อนจะก้าวขาฉับๆออกจากห้องทันที …
    ยกมือไหว้รุ่นพี่ผู้ร่วมงานมากหน้าหลายตา ในฐานะนางสาวพรรณวรทวัยยี่สิบห้าปี ละทิ้งตำแหน่งใหญ่โตไว้ในห้องทำงาน แล้วค่อยสวมบทบาทใหม่เมื่อต้องเดินเข้าห้องนี้อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

    เธอคงต้องรีบกลับบ้านไประบายก่อนที่สมองจะคิดฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้
    ไอ้บ้าพชร ฉันอยากฆ่าแก๊ !!!!!!!!!!!












    .
    .


    “พี่แกรนด์ กลับมาแล้วเหรอคะ วันนี้ไม่ลืมขนมปังแอปใช่ไหม ?” ทันทีที่รถเลกซัสคันหรูจอดสนิท ยังโรงจอดรถใหญ่โต เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มวัยสิบแปดปีนาม ‘แอปเปิ้ล’ ก็กระโดดผลุงมารอรับถึงประตูรถ พร้อมกับเอ่ยถามด้วยแววตาใสแจ๋วทันที

    คำถามพร้อมด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายแห่งความหวังทำหัวใจผู้จัดการใหญ่กระตุกวูบ หน้าซีดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าโมโหจนลืมของสำคัญ ขนมปังเจ้าโปรดของสาวน้อยตรงหน้า ที่มีช็อปเล็กๆขายอยู่ใกล้สำนักงานใหญ่ของเธอ รับปากสัญญิงสัญญากันไว้ดิบดี แต่เธอก็หลงๆลืมๆ ผัดวันประกันพรุ่งทุกครั้งไป จนแม่สาวน้อยคนนี้ของเธองอนเอาหลายรอบ

    กว่าจะง้อได้ก็ต้องตามง้อจนเสียเวลาเป็นวัน…

    “เอ่อ … แอป คือว่า”

    หญิงสาวทิ้งขาข้างนึงไว้อย่างนั้น ไม่กล้าก้าวลงจากรถเพราะกลัวต้องเผชิญหน้ากับแอปเปิ้ลเต็มๆตัวๆ พฤติกรรมการพูดจาตะกุกตะกักแบบที่เธอไม่เคยเป็น เกิดขึ้นทุกทีที่ทำผิดต่อเด็กน้อยตรงหน้า

    ทันทีที่แอปเปิ้ลเห็นพี่สาวคนสนิทเป็นแบบนี้ เธอก็รู้ได้ทันที ว่าพี่แกรนด์ของเธอ คงลืมของฝากที่สัญญากันไว้เป็นแน่ แววตาที่เต็มไปด้วยความหวังเปลี่ยนเป็นผิดหวังฉับไวทันใจ

    จนคนมองใจเสีย…




    “คือว่าลืม คือว่าพี่ทำงานหนักจนลืมใช่ไหมล่ะคะ ? ไม่ต้องกังวลนะคะ แอปไม่โกรธพี่แกรนด์หรอกเพราะแอปรู้ว่าแอปไม่ใช่ลูกค้าที่มีเบี้ยประกันแพงๆแบบคุณผู้ชายหลายๆคน ขอตัวค่ะ !”

    พูดจบ เด็กน้อยตัวแสบของเธอก็สะบัดหน้าไปอีกทางทันที แขนเล็กถูกยกขึ้นมาพันกันหลวมๆระดับหน้าอกพร้อมกับสองขาที่ก้าวเดินไปอีกทางอย่างฉุนเฉียว คำพูดจากปากเล็กๆนั้นทำเอาผู้จัดการใหญ่ได้แต่หน้าซีดเผือด

    ถ้อยคำเชือดเฉือนช่างประชดประชันของเด็กช่างพูดทำให้เธอร้อนรนจนนั่งไม่ได้ ต้องลุกตามขึ้นไปอธิบายอย่างร้อนใจ

    “ไม่ใช่อย่างนั้นสิแอป พี่ก็แค่ลืม… ไม่ได้แปลว่าแอปไม่สำคัญซะหน่อย” ฉวยแขนเด็กขี้งอนเอาไว้เต็มแรง จนร่างสูงเกินวัยนั้นเซนิดๆด้วยเสียหลัก ใบหน้าแสนงอนของแอปเปิ้ลสะบัดมามองพี่สาวคนสวยด้วยแววตาที่ฉายชัดถึงความน้อยใจ ได้ยินคำอธิบายที่แสนดีของพี่สาวตรงหน้า แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย

    แขนกลมกลึงสลัดแขนอีกคนออกเต็มแรง ปากเล็กๆนั่นยังคงทำหน้าที่ผลิตถ้อยคำประชดประชันได้อย่างไม่บกพร่อง แถมคราวนี้ยังประสานงานกับลำคอให้เชิดจนน่าหมั่นไส้ จนคนโดนถากถางได้แต่กระพริบตาปริบๆมอง

    คำพูดของแอปเปิ้ลที่ต่อว่ากัน มันทำให้เธอคิดว่าเธอไปฆ่าพ่อฆ่าแม่เพื่อเอาเงินประกันด้วยซ้ำ !

    “โอเคๆๆๆ แอป อย่าว่าพี่นักเลย … อยากกินมากใช่ไหมขนมปังนั่นน่ะ”
    กว่าจะตั้งสติเบรกคำตัดพ้อของเด็กน้อยตรงหน้าได้ เธอก็โดนถอนหงอกไปเกือบสิบเส้น… และเมื่อเธอเอ่ยปากโดยแทบไม่ต้องรอให้หนึ่งวินาทีผ่านไป ยัยตัวแสบปากจัดตรงหน้าเธอก็พยักหน้ายืนยันเป็นทีที่สิบล้าน แสดงความอยากกินที่มากล้นจริงๆ จนเธอยิ่งรู้สึกผิดกันไปใหญ่

    “พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าแล้วกัน แต่งตัวให้มันดูได้ พี่จะพาไปทำงานด้วย … แล้วบ่ายๆจะพาเดินตลาด ตกลงไหม ?”

    “ตกลง !” และเพียงวินาทีที่ข้อเสนอหลุดออกจากปาก ยัยตัวแสบสุดจิ้มลิ้มคนนี้ก็ประกาศคำตกลงออกมาอย่างพออกพอใจ เธอรู้จุดอ่อนของแอปเปิ้ลดี …ยัยตัวแสบนี่ชอบเหลือเกินกับการที่ได้เกาะแขนเธอไปที่สำนักงานใหญ่ ชอบออดอ้อนเธอในเวลางานทั้งๆที่รู้ว่าไม่สมควร ชอบแสดงความเป็นเจ้าของเธอโดยการมองตาเขียวใส่คุณลูกค้าประกันทุกคนที่มีทีท่าว่าจะเข้ามาเกินฐานะจำเป็น …



    “แต่มีเงื่อนไขอีกหนึ่งข้อ”

    อ่าว… นึกว่าจะเรียบร้อยแล้วเสียอีก
    แกรนด์เลิกคิ้วมองแอปเปิ้ลผลน้อยตรงหน้างงๆ ไหนว่าตกลงแล้วไง ยังจะมามีเงื่อนไขอะไรอีกหนอ

    “เงื่อนไขอะไรอีก ว่ามา…”
    “จริงๆแอปก็ไม่อยากจะเรื่องมากหรอกนะ แต่เห็นพี่แกรนด์ชอบมีเงื่อนไขโน่นนี่นั่น เลยอยากจะขอไว้ว่าครั้งนี้เว้นคำนั้นไว้ได้ไหม ?”



    แม่ตัวแสบทำหน้ายุ่งใส่พร้อมกับลอยหน้าลอยตาไปมา น้ำเสียงสดใสฉ่ำใจปล่อยประโยคป่วนๆให้คนเป็นพี่ยิ้มมองตามอย่างเอ็นดู แอปเปิ้ลชอบลอบแขวะเธอเรื่องเงื่อนไขต่างๆนานาเสมอ ก็จะให้ทำไงได้ อาชีพที่เธอทำเต็มไปด้วยเงื่อนไขต่างๆมากมาย เพื่อความเท่าเทียมไม่เอารัดเอาเรียบซึ่งกันและกัน ซึ่งนั่นแกรนด์ก็พยายามอธิบายให้ยัยตัวจ้อยฟังแล้ว แต่เด็กสาวหน้าใสนี่ก็ยังคงตีมึนไม่ยอมรับฟังอยู่เรื่อย



    “อื้ม ได้สิ คราวนี้แอปจะทำอะไรพี่ให้ทำ ไม่มีเงื่อนไข”
    แกรนด์ยิ้มบางๆ พร้อมตอบตกลงเพราะเห็นว่ามันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรเลย และอีกอย่าง แอปเปิ้ลสุดแสบตรงหน้าเธอนี้ไม่เคยยอมรับฟังคำปฏิเสธสักที ฉะนั้นไร้ประโยชน์ที่จะบอกปัด สุดท้ายเธอก็ต้องทำ แม้จะฝืนใจและสุ่มเสี่ยงต่อการโดนเตะออกจากหน้าที่การงานก็ตาม

    “แอปอยากให้พี่แกรนด์ดูแลอย่างเต็มใจ ไม่ใช่คุณลูกค้าคนไหนที่ต้องมีเงื่อนไขต่างๆเต็มไปหมด … เข้าใจแอปนะคะ” ยัยตัวแสบเปลี่ยนโหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ สายตาลึกซึ้งออดอ้อนที่แกรนด์คุ้นชินมาตั้งแต่นางสาวผลไม้เป็นเพียงเด็กหญิงผลไม้ตัวน้อยๆถูกหยิบขึ้นมามองกันเหมือนจะหลอมละลาย แกรนด์พยักหน้ารับแอปเปิ้ลทุกคำ เธออยากให้แอปเปิ้ลหยุดใช้สายตาแบบนั้นเสียที ก่อนที่หัวใจเธอจะต้องมาทำงานหนักขึ้น จะพาลเหนื่อยไปทั้งสมองทั้งหัวใจเปล่าๆ

    แต่ก็อดยิ้มตามสายตาหวานๆนั่นไม่ได้เลย

    “กับแอปพี่ไม่เคยมีเงื่อนไข มีแต่ได้ได้ได้ … ได้ทุกอย่างเลย”
    “เย้ … รักพี่แกรนด์ที่สุดเลย ทานข้าวให้อร่อยนะคะ แอปไปช่วยคุณป้าทำกับข้าวด้วยวันนี้ มั๊วะ”



    สิ้นประโยค ยัยเด็กสุดแสบก็เลื่อนจมูกมากดแนบที่แก้มเนียนใสของเธอเร็วๆ ก่อนจะกระโดดผลุงข้ามรั้วบ้านที่กั้นไว้เพียงเตี้ยๆหนีกันทันที เพียงสัมผัสแผ่วเบาที่อีกคนขโมยกลิ่นแก้มเธอไปเมื่อสักครู่ เร่งจังหวะหัวใจให้เต้นระรัวได้ไม่ยากเลย ผู้จัดการคนเก่งยืนนิ่งค้าง มือเผลอยกขึ้นมาแตะแก้มตัวเองอย่างไม่รู้ตัว …

    ยัยตัวแสบ โตจนป่านนี้ยังจะมาแอบขโมยหอมแก้มเธอเหมือนเด็กๆไปได้
    บ่นยัยตัวแสบทางสายตาแต่ แต่หัวใจกลับเต้นระส่ำเหมือนจะกระเด็นออกนอกอก

    โอ๊ยยย แล้วฉันใจเต้นแรงทำไมเนี๊ยะ!







    .
    .

    “แกรนด์ … เข้ามาทานข้าวสิลูก วันนี้พี่เกรซมาทานข้าวด้วย…”

    เสียงคุณแม่ยังสวยของเธอ ตะโกนเรียกออกมาจากในบ้านหลังจากเห็นลูกสาวคนกลางเงียบไปนาน เรียกแกรนด์ให้ได้สติทันที เธอรีบเอามือถูแก้มไปมาหวังจะลบรอยเลือดฝาดบนใบหน้า เปิดประตูรถแล้วคว้ากระเป๋าถือออกมา ขานรับแม่กลับไปพร้อมฉีกยิ้มหวานด้วยความยินดี

    กลบเกลื่อนหัวใจที่เต้นแรงด้วยการรวบรวมลมหายใจ ก่อนจะเดินเข้าบ้านพร้อมรอยยิ้ม

    วันนี้พี่สาวของเธอ นักแสดงชื่อดังแห่งช่องมากสี มีเวลาว่างมาทานอาหารเย็นร่วมกัน ช่างเป็นวันพิเศษแท้ๆ

    “อ้าวแกรนด์ ไม่ได้แต่งหน้าไปทำงานหรือไง ใสมาเชียว”
    ประโยคแรกที่พี่สาวทักดูจะทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารหันมองด้วยความประหลาดใจ เว้นแต่ผู้เป็นแม่เท่านั้นที่ดูจะคุ้นชินกับความเป็นเธอดี …

    แกรนด์ยิ้มหวาน ก่อนตอบผู้เป็นพี่สาวให้รับรู้ถึงสาเหตุ
    “เปล๊า … แต่งค่ะแต่ง แต่เช็ดออกก่อนกลับบ้าน ตัวแสบมันบอกไม่ชอบให้แกรนด์แต่งหน้า”

    เหตุผลน่ารักๆที่น้องสาวมอบให้ เรียกทั้งเสียงหัวเราะและความประหลาดใจจากที่สาวได้เบาๆ แอปเปิ้ลเปรียบเสมือนน้องสาวอีกคนหนึ่งของบ้านด้วยเศียรเกล้าก็ว่าได้ ชายคาบ้านติดชิดกันมากว่ายี่สิบปี เห็นมาตั้งแต่ยัยเด็กผลไม้นั่นเป็นเด็กตัวแดงๆ แบเบาะดื่มนมแม่ร้องอุแว้ๆ … สี่สาว เกรซ แกรนด์ แกรนท์ แอปเปิ้ล ต่างก็สนิทสนมกันดีเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน คุณพ่อคุณแม่ก็เอ็นดูเด็กน้อยที่ปีนข้าวรั้วบ้านมาป่วนเป็นประจำ

    แต่ในระยะนี้ พี่สาวคนโตของเธอ มีงานอีว้งอีเว้นท์ถ่ายละครแทบทุกวัน แม่น้องสาวนามแกรนท์ ก็อยู่หอพักนักศึกษาแถวสามย่าน มีเพียงแต่เธอที่กลับบ้านเป็นประจำ บวกรวมกับความสนิทสนมเป็นพิเศษตั้งแต่เด็ก แอปเปิ้ลจึงติดเธอมากกว่าใครๆ

    “ถ้าแกรนท์บอกให้เจ้แต่งหน้ากลับจากออฟฟิศพรุ่งนี้เจ้จะแต่งป้ะ ?” น้องสาวตัวแสบที่นั่งอยู่ในชุดนักศึกษาแบบหลุดลุ่ย ถามขึ้นมาทั้งที่เคี้ยวข้าวเต็มปากเต็มคำ วันนี้เป็นวันพิเศษจริงๆ เพราะน้องสาวตัวดีของเธอก็มักจะกลับบ้านในวันพฤหัส และก็ไม่บ่อยนักที่พี่สาวจะมาร่วมทานมื้อเย็นด้วยกันในวันที่ทุกคนพร้อมหน้า วันนี้จึงเป็นวันพฤหัสสุดพิเศษ พ่อกลับบ้านนน พ่อกลับบ้าน พี่กลับบ้าน น้องก็กลับบ้าน >//<


    “ไม่แต่ง” แกรนด์ตอบน้องสาวทันทีโดยไม่ต้องคิด น้องสาวก็สวนอีกคำถามทันทีโดยไม่ต้องคิดเช่นกัน
    “ทำไม”




    “แอปไม่ชอบ…”

    “แหม แคร์จังนะไอ้ตัวแสบเนี่ย ฮ่ะฮ่ะฮ่า… ชักน้อยใจซะละเว้ยยย” คำตอบที่แกรนด์ตอบมาแบบไม่คิด กระตุ้นต่อมช่างแซวของแกรนท์เข้าอย่างจัง จนอดไม่ได้ที่จะต้องแย็บสักนิดสักหน่อยตามประสาคนขี้เล่น แต่เพียงประโยคสั้นๆเท่านั้นแหล่ะ ก็ทำเอาพี่สาวคนกลางของบ้านหน้าแดงขึ้นมาไม่ทราบสาเหตุ

    ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะจากน้องสุดท้องได้ดังสนั่น

    “ก็แอปปีนมาเล่นกับพี่เขาทุกวันก็ต้องสนิทกันเป็นธรรมดา อ้ะแกรนด์ วันนี้แม่สอนแอปทำไข่ยัดไส้ แอปเขาตั้งใจทำชิ้นนี้ให้แกรนด์ ลองชิมหน่อยนะ”

    “ฮี๊ววววววววววว ~”



    สิ้นคำพูดที่ดูเหมือนจะช่วยกันของผู้เป็นแม่ ก็ตามมาด้วยเสียงโห่ฮิ้วของลูกสาวคนเล็กดังสนั่นทันที ไข่ยัดไส้หน้าตาน่าทานตรงหน้า บวกรวมกับเสียงโห่ฮาของแกรนท์ทำเอาสาวสวยเขินนั่งไม่ติด ได้ทำตาเขียวค้อนประหลับประเหลือกใส่น้องสาวอย่างขัดเขิน

    “จะกินไหมไข่ ไม่กินแกรนท์จัดนะ ?”
    “เฮ้ย ! อย่า ! จะกิน”



    แกรนด์ดึงจานไข่ยัดไส้นั้นไว้แทบไม่ทัน เมื่อยัยน้องสาวตัวดียังไม่ล้มเลิกการแกล้งเธอง่ายๆ แขนเรียวยาวของเด็กสาววัยยี่สิบเอ็ดเอื้อมมาดึงจานไข่ยัดไส้ของเธอเต็มแรง จนไข่ในจานเอนไปมาเหมือนจะหก สองสาวจ้องตากันราวกับต่อสู้กันผ่านสายตา คนนึงฉายแววความหวงออกมาเต็มที่ ส่วนอีกคนก็แววทะเล้นกวนประสาทกระจายออกมาวาววาบ

    ผู้อาวุโสกว่าทั้งสามคนนั่งถือช้อนค้าง พลางมองน้องสาวคนเล็กและคนกลางของบ้านอย่างขำๆ เด็กสองคนนี้ทะเลาะกันจนอายุเข้าเลขสอง และคาดว่าหากยังมีใครตกค้างขึ้นคานอยู่ในบ้านก็คงจะยังตีกันไปเรื่อยๆเป็นแน่



    “พอๆ … แกรนท์คืนพี่เขาไป แกรนด์กินข้าว”
    ผู้เป็นพ่อส่งเสียงร้องห้ามขึ้นมาก่อนจะเกิดการจลาจลครั้งใหญ่ แน่ล่ะ หากไม่ห้าม มื้อนี้ก็คงต้องได้ทานข้าวกันอย่างสงบสุขเป็นแน่ แกรนท์ยิ้มเผล่หันมองพ่ออย่างทะเล้น ก่อนจะหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่แกรนด์อย่างน่าหมั่นไส้ แต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยมือจากจานไข่ยัดไส้แต่โดยดี



    แกรนด์หน้าเบ้ใส่น้องสาว ก่อนจะค่อยๆวางจานไข่ขัดไส้ลงอย่างทนุถนอม พอมีโอกาสได้เห็นเต็มตาแล้วก็อดปลื้มใจไม่ได้ , อาหารสุดโปรดของเธอที่ทานบ่อยๆมาตั้งแต่เด็ก ร่องรอยการตกแต่งรอบจานที่สวยงามแม้จะบิดเบี้ยวจานการยื้อแย่งของเธอและแกรนท์แต่มันก็ยังคงชวนให้ยิ้มได้ … แกรนด์แทบอดใจไม่ไหวที่จะลองลิ้มชิมรสชาติของอาหารสุดน่าทานนี้ หยิบช้อนและส้อมขึ้นไว้ในมือในท่าเตรียมพร้อม

    แกรนท์ส่ายหัวมองพี่สาวอย่างขำๆ อยากจะแกล้งคนเก่งนี่อีกสักยกแต่ก็กลัวจะโดนพ่อดุโทษฐานเล่นไม่เลิก … แววตาวาววับของน้องสาวมองพี่สาวอย่างรู้ทัน ทำไมเธอจะไม่รู้ ว่าพี่แกรนด์กับยัยตัวแสบแอปเปิ้ลมีซัมทิงสเปเชียลซึ่งกันและกัน ตั้งแต่ไหนแต่ไร ที่สองคนนี้สนิทสนมกันเกินจำเป็น ไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันลำพัง บ่อยครั้งที่ยัยตัวป่วนขนข้าวของมานอนกับพี่แกรนด์ทั้งๆที่บ้านก็ติดกันแค่นี้ เหตุผลนานาชนิดที่ใครมองก็รู้ แต่พี่แกรนด์กลับไม่รู้



    เธอพยายามแย็บถามหลายครั้ง เตือนก็หลายที แต่พี่สาวของเธอก็ปฏิเสธเสมอ … พร่ำบอกว่าเป็นเพียงพี่น้องกันเท่านั้น โถ่ … ใครจะเชื่อล่ะ



    แกรนท์ตักผัดผักกรุบกรอบเข้าปาก พร้อมกับเลิกคิ้วมองพี่สาวอย่างกวนประสาท … คอยดูนะ เธอพยายามพูดเตือนตั้งหลายครั้งยัยพี่สาวปากแข็งนี่ก็ไม่ยอมรับหัวใจตัวเอง ไม่อยากให้พี่สาวต้องพลาดหากรักแอปเปิ้ลจริงจัง ยัยเด็กผลไม้นี่ก็ฮอตเหลือเกิน สมัยที่เธออยู่โรงเรียนมัธยมเดียวกันกับแอปเปิ้ล ก็เกือบมีรุ่นน้องของเธอ รุ่นพี่ของแอปเปิ้ล ที่มีดีกรีนักดนตรีสุดเซอร์จีบยัยแสบนี่ติดแล้ว



    โชคดีที่ยัยน้องเซอร์คนนั้นจบจบจากจากไปเสียก่อน …
    ไม่งั้นพี่แกรนด์ของเธอคงจะ น้ำตาเช็ดหัวเข่า เป็นแน่ ~

    “…”


    ยิ่งมองยิ่งรู้ ยิ่งดูยิ่งชัด … ลักยิ้มสองข้างแก้มเด่นสะดุดตาขึ้นมาทันทีที่พี่สาวของเธอตักไข้ยัดไส้ฝีมือแอปเปิ้ลเข้าปาก ประกายตาวาววับฉาบด้วยความสุขชัดเจน คาดว่าสิ่งมีชีวิตใต้อกข้างซ้ายของพี่สาวคนสวย ก็คงกำลังพองโตและเต้นแซมบ้าตะลึงตึงอยู่ข้างในเป็นแน่

    เธอจะช่วยเหลือพี่สาวเธอให้รู้ตัวยังไงดี
    ทำอย่างไรก็คิดไม่ออก แกรนท์ทำได้เพียงตักข้าวเข้าปากแล้วคิดหาวิธีการเงียบๆ




      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×