คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8 bad time
“จิ๋ว เดินดีดี อย่ามาทำฤทธิ์กับนิวตรงนี้นะ บันไดมันสู๊ง!!!”
เข็มนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน… ความลำบากยากเข็ญเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง นิวหิ้วปีกอีกคนขึ้นบันไดอย่างทุลักทุเล เหนื่อยใจแทบขาด แถมแม่ตัวดีก็ไม่ให้ความร่วมมือกันแม้แต่นิดเดียว โยเยตั้งแต่พี่เจนลับตาไปจนบัดนี้…
คอยดูเถอะ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จิ๋วจะได้ดื่มแอลกฮอลล์ ต่อไปนี้ ตลอดทั้งชาติ เธอจะไม่ปล่อยให้ไกลหูไกลตาอีกเลย…
“เอ้า… นอนรอเค้าเดี๋ยวนึง ไปเตรียมน้ำมาเช็ดตัวให้… รอนิวตรงนี้นะ”
ก็อยากจะพาจิ๋วกลับขึ้นห้องตัวเองเหมือนกัน แต่เธอหมดแรงจะลากจะจูงแล้ว… จุดหมายจึงถูกเปลี่ยนมาเป็นห้องเธอแทน… นิววางคนตัวเล็กลงบนเตียงตัวเองพร้อมกับกำชับให้อยู่เฉยทั้งที่รู้ว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ ละล้าละลังทั้งเป็นห่วงทั้งรีบร้อน หันมองอยู่หลายที ก่อนจะวิ่งตื๋อออกจากห้องไปเตรียมข้าวของสำหรับเช็ดเนื้อเช็ดตัว…
เสียงวุ่นวายล้งเล้งจากส่วนครัวชั้นล่างอาจจะดูน่ารำคาญไปสักหน่อยในยามดึกดื่น…. แต่ใครสนกันล่ะ
คล้อยหลังนิวไปนิดเดียว จิ๋วก็เริ่มพลิกซ้ายพลิกขวา แทบไม่รับรู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องตัวเอง คว้าเอาหมอนข้างได้ก็เอามากอดซุกจนแนบแน่น… เรี่ยวแรงจะพยศมันหมดไปนานแล้ว แต่ที่เธอยังฝืนทำอยู่ก็เพราะโกรธเคืองอีกคนอยู่มากมาย…
ใบหน้าสวยเหยเกเพราะอาการมึนที่ตีรวนอยู่ในสมอง… ดวงตาคู่สวยหรี่ปรือ รู้สึกไม่สบายทั้งกาย ไม่สบายทั้งใจ… ผสมกับความมึนงงและง่วงงุนที่ทำเอาสติที่มีน้อยนิดเริ่มจะเกลี้ยงหมดหลอด จิ๋ววาดมือคว้าเอาผ้าห่มลายซูเปอร์ฮีโร่มาคลุมร่างไว้หมิ่นเหม่ อุณหภูมิกำลังสบายขับกล่อมให้ดวงตาเริ่มปิดสนิท
คนฤทธิ์เยอะเริ่มหมดฤทธิ์ ไม่ทันได้คิดอะไร ความเหนื่อยหน่ายทั้งกายและใจก็เห่กล่อมเธอให้หลับใหลง่ายดาย
หัวใจที่แบกรับอะไรมากมาย คงได้เวลาพักผ่อนลงเสียที…
“มาแล้วๆคุณจิ๋ววว…”
เสียงโวยวายอันแสนจะเป็นเอกลักษณ์ดังลั่นมาก่อนตัว นิวกระวีกระวาดพุ่งเข้าห้อง สองมือเต็มไปด้วยอุปกรณ์เช็ดตัว เท้าซ้ายเขี่ยประตูห้องปิดดังปัง… หันรีหันขวางวางกะละมังและผ้าขนหนูผืนเล็กบนตู้เตี้ยๆที่วางอยู่ใกล้ประตู เหงื่อโทรมกายกับใบหน้าที่ดูเหน็ดเหนื่อยเป็นภาพที่ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย เธอไม่เคยต้องวิ่งวนไปวนมาในทำนองนี้บ่อยเท่าไร…
นิวใจจดใจจ่อกับภารกิจตรงหน้า เอาผ้าชุบน้ำอุ่นๆแล้วบิดจนหมาดๆ ก่อนจะปราดเข้าไปหาคนตัวเล็กที่นอนนิ่งสนิท…
“อ้าว… คุณจิ๋ว หลับซะแล้ว”
ถึงตัวก็ต้องร้องอ้าวออกมา เมื่อพบว่าอีกคนสลบไปแล้ว… ทั้งที่คิ้วยังคงผูกกันอยู่แน่นแบบนั้น
มือที่ถือผ้าสำหรับเช็ดตัวชะงักค้าง นิวจ้องมองคนตัวเล็กอย่างนึกเอ็นดู…
ใบหน้าของคนตัวเล็กยุ่งไปหมด คิ้วขมวดเป็นปม ดวงตาคู่สวยก็ดูจะไม่ผ่อนคลาย เรียวปากบางเม้มติดกันสนิท… เห็นก็รู้ว่าคงหลับไปกับความไม่สบายกายแถมยังไม่สบายใจเท่าไรนัก
วงแขนเล็กกอดเกี่ยวหมอนข้างใบโปรดของเธอแน่น แนบใบหน้าจนชิด … มีลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอที่เป็นเครื่องช่วยยืนยันว่าคนตัวเล็กได้หมดฤทธิ์เดชไปแล้วจริงๆ…
เนิ่นนาน… แต่ละวินาทีเดินพัดผ่านไปโดยที่เธอแทบไม่ได้สนใจรับรู้มัน
นิวจับจ้องภาพเพื่อนรักอย่างหลงใหล ปลายนิ้วชี้เกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าเพื่อนรักแผ่วเบาอย่างทนุถนอม รอยยิ้มจางๆวาดขึ้นบนใบหน้าสวยคมโดยที่เจ้าตัวแทบไม่รู้ตัว…
ความรู้สึกอ่อนหวานค่อยก่อตัวในหัวใจชัดเจน… ความน่ารักของคนตัวเล็กจับหัวใจเธอเอาไว้จนดิ้นไม่หลุด
เธอหวงแหนภาพแบบนี้ หวงแหนวันเวลาที่เรามีกันเพียงลำพัง ไม่ว่ายามหลับหรือตื่น เธอยังอยากเป็นคนเดียวที่มีสิทธิได้เห็นมันก่อนใคร
อยากเป็นคนเดียวที่ได้ดูแล… ได้ทำให้รอยยิ้มที่เธอหลงรักเจืออยู่บนใบหน้านี้ตลอดไป
“นิวเช็ดตัวให้นะ แล้วอย่าเพิ่งตื่นขึ้นมาล่ะ นิวเหนื๊อยเหนื่อย แรงไม่พอจะรบกับคุณจิ๋วแล้ว…”
นิวเอ่ยกับอีกคนทั้งรอยยิ้ม พยักเพยิดหน้าทำสายตาราวกับว่าคุยกับคนหลับได้รู้เรื่อง ก่อนจะบรรจงซับผ้าหมาด ไล้ไปตามผิวหน้านวลเนียน… แผ่วเบา ราวกับว่าหากเผลอแตะสัมผัสแรงกว่านี้ไป คนตัวเล็กของเธอจะแตกสลายหายไปกับตา
แววตาที่เจือความรักความปรารถนาดีจ้องมองอีกคนราวกับสิ่งของล้ำค่า หากจิ๋วจะมีโอกาสได้มองเห็นมันสักครั้ง…
แค่สักครั้งก็พอ…
“คุณจิ๋ว น่ารักจัง…”
นิวนั่งขัดสมาธิอยู่กับพื้น เท้าแขนสองข้างลงบนเตียง แล้วเอียงศีรษะแนบแขนมองอีกคนพร้อมรอยยิ้ม เสียงพึมพำความในใจแผ่วเบา นิวเพียงอยากพูด อยากให้อีกคนรับรู้ แต่เธอก็รู้ดีว่าตอนนี้มันคงเป็นไปไม่ได้
เธอจัดการเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เพื่อนรักเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อเกือบๆสิบนาทีที่แล้ว… และยังพาตัวเองไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนลายการ์ตูนเรียบร้อย… แต่ทั้งๆที่ร่างกายมันแสนเหนื่อยหน่ายและอยากจะพักผ่อนนอนหลับจนเต็มแก่ เธอก็พ่ายแพ้ต่อบางอย่างในใจที่เรียกร้องให้ต้องนั่งจ้องมองอย่างไม่รู้เบื่อ… คุณจิ๋วคนดีในชุดนอนหลวมโคร่งของเธอ… เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับภาพนั้นโดยไม่มีเหตุผลสมควรสักนิด
ก็จิ๋วน่ารัก…
ทั้งหมดนั่นคือเหตุผลของเธอ
“อื้อ…”
เสียงครางอือแผ่วเบา ดังให้นิวได้สะดุ้งอย่างตกใจไม่น้อย คนตัวเล็กเริ่มขยับตัวยุกยิก… ให้นิวได้ผละออกจากการจับจ้องระยะประชิด… เปลี่ยนเป็นนั่งหลังตรงตัวเกร็งอยู่ข้างๆในระยะที่ห่างออกมาแทน…
นิวยกมือขึ้นลูบหน้าลูบตาที่ยังมีแววตื่นตกใจให้กลับมาเป็นปกติ… รวบรวมสติเตรียมตัวรับสถานการณ์ที่จิ๋วกำลังจะตื่น…
อิทธิฤทธิ์เกินร้อยก่อนหลับของจิ๋วยังพอหลงเหลือเอฟเฟคท์ให้เธอได้กลัว นิวเม้มปากแน่น หรี่ตามองเพื่อนรักอย่างลุ้นๆ… หวังว่าเสียงโวยวายของจิ๋วในการตื่นรอบนี้จะไม่ทำให้โดนคนข้างบ้านไล่ตะเพิดเอาในตอนเช้าหรอกนะ
คนตัวเล็กที่เพิ่งรู้สึกตัว ยกแขนซ้ายขึ้นขยี้ตา ก่อนจะบิดแขนซ้ายแขนขวาไล่ความเมื่อยขบที่จับแน่นอยู่ทั่วทุกอณูร่างกาย เรี่ยวแรงอ่อนล้าแถมยังปวดเมื่อยไปหมด… ความรู้สึกง่วงงุนแถมมึนตึ้บยังคงเกาะแน่นอยู่ในสมอง และเธอคงจะนอนต่อไปแล้ว หากไม่ลืมตาขึ้นมาพบคนใกล้ตัวที่นั่งมองกันด้วยแววตาใสแจ๋วเสียก่อน…
นิวส่งยิ้มจางๆให้เธออยู่ข้างๆ… มันเป็นรอยยิ้มแหยๆที่จิ๋วตีความไม่ออกเลย… แถมใบหน้าคุ้นตานั้นยังมึนๆวนๆ ดูเป็นนิวแบบเบี้ยวๆบูดๆ แถมยังเบลอๆอีกต่างหาก
จิ๋วส่ายหน้าไปมาสองสามที ราวกับจะสะบัดความง่วงงุนให้หลุดกระเด็น… และทั้งหมดนั่น ก็ตกอยู่ในสายตานิวที่นั่งมองอย่างลุ้นไม่หาย…
“นั่งทำไรตรงนั้น นิวมานอน…”
จิ๋วยืดแขนลงไปคว้าเอาไหล่อีกคน จนร่างบางนั้นเซเข้ามาติดเตียงอย่างตั้งตัวไม่ทัน มือบางที่ยังยึดไหล่นิวไว้แน่นเขย่าๆซ้ำไปซ้ำมาทั้งที่นิวยังหน้าเหวอ เดาอารมณ์จิ๋วไม่ถูกสักนิด…
คนตัวเล็กปิดเปลือกตาแน่น ดูก็รู้ว่าอาการง่วงงุนยังคงค้างอยู่มากมาย… นิวนอนเอนตัวไม่เป็นท่าอยู่ข้างๆเตียง ทั้งที่หัวไหล่ก็ยังอยู่ในการยึดครองของอีกคน… แขนข้างซ้ายวางเท้ากับพื้นพอให้ตัวได้มีที่พยุง เหลือบตาขึ้นมองอย่างหวาดๆ อยากจะแน่ใจจริงๆว่าจิ๋วจะไม่แหกปากลั่นขึ้นมากลางดึกให้เธอต้องเป็นจำเลยอีกครั้ง…
จนเมื่อจิ๋วลืมตาขึ้นมามองกันช้าๆ แววตาคู่นั้นช่างไร้เดียงสา ราวกับว่าไม่ใช่จิ๋วตัวร้ายที่โกรธกันอยู่มากมาย…
นิวถึงได้วางใจ ส่งรอยยิ้มบางๆคืนกลับ… จับจ้องใบหน้าง่วงงุนของคนตัวเล็กใกล้ๆแบบนั้น ยอมปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้จิ๋วได้ฉุดดึงไปตามใจ…
“นิว… นอนน”
เสียงงุ้งงิ้งเอ่ยซ้ำ คิ้วคมขมวดบางๆ มองนิวด้วยแววตาหวานฉ่ำออดอ้อน… เรียวแขนที่เกี่ยวแน่นที่หัวไหล่ ค่อยๆไหลเรื่อยเปลี่ยนไปวางพาดบนต้นคอนิวอย่างแผ่วเบา… พร้อมแขนอีกข้างที่ตกลงมาจากเตียงยังไหล่อีกข้างของเธอพอดิบพอดี กลายเป็นอ้อมแขนที่คล้องคอกันเอาไว้หลวมๆ…
คนตัวเล็กใช้เรี่ยวแรงเพียงนิด ก็สามารถรั้งใบหน้าสวยคมของนิวให้เข้ามาชิดใกล้ได้อย่างต้องการ…
เจ้าของอ้อมแขนเล็กๆยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ… รอยยิ้มหวานหยดย้อยที่จิ๋วคงไม่รู้ว่ามันเข้าข่ายยั่วยวน ถูกส่งมาอย่างต่อเนื่องให้นิวใจเต้นรัว…
นิวยิ้มบางๆส่งคืน… ด้วยหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะรัก… ยากจะควบคุม
“นอนเถอะนะ จิ๋วง่วง นะนิว…”
อ้อมแขนที่คล้องคอกันไว้หลวม เขย่าเบาๆแต่ก็เล่นเอาคนโดนเขย่าหัวสั่นคลอน… นิวหัวเราะเบาๆในลำคอกับความขี้อ้อนของคนตัวเล็ก แต่ก็ยอมรับคำขอนั้นแต่โดยดี…
เอื้อมมือขวาขึ้นมาแกะอ้อมแขนเล็กๆนั่นออกจากต้นคอ… นิวพามือบอบบางนั้นไปวางไว้ข้างตัวจิ๋วอย่างแผ่วเบา… ก่อนจะกดปิดไฟหัวเตียงให้ห้องทั้งห้องมันมืดสนิทลง
นิวพาตัวเองเดินอ้อมเตียงไปนอนข้างๆเพื่อนรัก… หยิบผ้าห่มที่คลุมร่างอีกคนอยู่อย่างหมิ่นเหม่ มาสะบัดคลุมเราเอาไว้ ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน…
จิ๋วยังคงนอนหันหลังให้นิวอยู่แบบนั้น… ความเงียบงันที่แสนเบาบางดำเนินต่อไปในค่ำคืนที่อะไรต่างก็ยังคงคลุมเครือ นิวข่มตาให้หลับอย่างยากลำบาก… ความคิดในหัวยังวิ่งวนวุ่นวาย
และอีกคน… ก็ไม่ต่างกัน
เป็นร้อยเป็นพันอย่างตีรวนอยู่ในหัว ฤทธิ์แอลกฮอลล์ที่ยังคงค้างมันทำให้จิ๋วจับประเด็นอะไรไม่ได้สักอย่าง
แต่ความเจ็บปวดอ่อนแอที่ตกค้างอยู่ในใจ มันแจ่มชัดเหลือเกิน
“นิว…”
เสียงแผ่วเบาของคนข้างๆดังให้นิวต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง…
“หืม?”
ขานตอบรับสั้นๆ และนิวก็นอนนิ่งๆอยู่แบบนั้น รอคอยเวลาที่เดินไปเรื่อยๆ และไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดลงตรงไหน
เธอก็พอจะรู้… ว่าในใจของจิ๋วคงมีบางอย่างค้างคา เหมือนที่เธอเองก็มีเรื่องในใจจนนอนไม่หลับเช่นกัน
ความสัมพันธ์ของเราในช่วงหลังๆมานี้ นิวรู้และเข้าใจดีว่ามันวุ่นวายเกินกว่าที่จะรับมือไหว… เธอไม่ชัดเจนในสิ่งที่มีให้กัน แต่ในครั้งใดที่เธออยากจะทำให้มันชัดเจนมากขึ้น จิ๋วก็เลือกที่จะทำให้มันกลายเป็นเพียงเรื่องไร้สาระไปตลอด…
มันทำให้เธอสับสน… หวั่นใจ… และกังวลกับหลายๆสิ่งที่ประดังประเดเข้ามาจนตั้งตัวไม่ทัน
เธอไม่รู้ว่าเธอหวงห่วงจิ๋วได้แค่ไหน… และก็ไม่รู้ ว่าเรื่องพี่เบลกับนนท์ในค่ำคืนนี้ มันทำให้จิ๋วรู้สึกอย่างไรบ้าง
ความเงียบงันดำเนินต่อไปอีกครั้ง… หลายวินาที…
จวบจนกระทั่งจิ๋วพลิกตัวกลับมาหากัน แววตาใสแจ๋ววาววับจึงกลายเป็นสิ่งเดียวที่นิวมองเห็นในตอนนี้
แววตาที่มีแต่แววตัดพ้อ… น้ำตาเอ่อคลอ จ้องมองกันจนนิววูบไหว
หัวใจที่หนักอึ้ง เป็นอันต้องละลายเมื่อรู้ว่าอีกคนกำลังอ่อนแอและสับสนอย่างจริงจัง นิวรู้ว่าสาเหตุทั้งหมดนั่น มันเริ่มต้นมาจากเธอแต่เพียงผู้เดียว… ความผิดของเธอคนเดียว เป็นเธอเองที่สร้างรอยแผลให้กับหัวใจจิ๋ว ครั้งแล้วครั้งเล่า…
แววตาของนิวที่ตอบกลับไป… มีแต่คำว่าขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า นิวพูดมันออกจากใจ และใช้เพียงสายตาในการถ่ายทอดมัน…
แขนเรียวเกี่ยวกระหวัดคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอด มือข้างนึงลูบเรือนผมยาวสลวยแผ่วเบาอย่างปลอบประโลม… จิ๋วโอบรัดเอวเพื่อนรักแน่น ซุกหน้าลงกับอ้อมอกอีกคนอย่างอ่อนแอเต็มที พยายามกลั้นน้ำตาที่ไหลซึมออกมาเพราะความอัดอั้นมากมายในใจ…
หยดน้ำตามากมายไหลซึมจนนิวสัมผัสได้ถึงความชื้น… และน้ำตาของอีกคนก็กำลังทำให้เธอเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่ากัน
มือบางทำหน้าที่ลูบแผ่นหลังคนตัวเล็ก เสียงหวานนุ่มหูฮัมเพลงเบาๆในลำคอ เป็นบทเห่กล่อมที่ทำหน้าที่ปลอบประโลมคนอ่อนแอให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาอย่างง่ายดาย…
มันดำเนินไปเรื่อยๆ… พร้อมน้ำตาของนิวที่จวนจะไหลเพราะความอึดอัดลึกๆ… ไม่ต่างกัน
จิ๋วขยับตัวเบียดซุกเข้ามาอีกครั้งสองครั้ง… ลมหายใจที่สั่นเพราะแรงสะอื้น ก็ค่อยสงบลง เป็นความสม่ำเสมอที่ทำให้นิวรับรู้ว่าอีกคนได้หลับไหลไปแล้ว…
ริมฝีปากนุ่มอุ่นบรรจงจุมพิตลงยังกลางกระหม่อมของคนในอ้อมกอด นิวฝังจูบเนิ่นนาน… ปลายจมูกไล้เรี่ยสูดกลิ่นเรือนผมหอมกรุ่นอย่างแสนรัก…
“ฝันดีนะ จิ๋วของนิว”
ก่อนที่เธอจะบังคับตัวเองให้หลับตาลง อย่างใช้ความพยายามมากกว่าทุกๆคืน
.
.
“จิ๋ว ! คิดว่านิวผิดอยู่คนเดียวหรือไง หยุดทำงี่เง่าใส่นิวแบบนี้นะ !”
บรรยากาศความสงบหายไปตั้งแต่วินาทีแรกที่จิ๋วลืมตาขึ้นมาในอ้อมกอดอบอุ่นของเธอ… ไม่รู้ว่าองค์อะไรเข้าสิงแต่เช้า แขนเรียวๆนั่นถึงได้ผลักเธอสุดแรงจนแทบตกเตียงตั้งแต่ยังไม่ตื่น… และนับแต่วินาทีนั้น ร่างทรงยัยตัวร้ายก็เข้าสิงจนเล่นเอาเธอปวดหัวแทบแตก ไม่ว่าเธอจะพยายามพูดอะไร จิ๋วก็ทำเป็นหูทวนลมอยู่ร่ำไป นิวแทบจะขยุ้มหัวตัวเองให้หลุด เธอไม่เข้าใจจิ๋วเลยให้ตาย !
เสียงโวยวายสนั่นลั่นบ้าน… นิวตั้งใจตะโกนมันให้เข้าหูจิ๋วคนเดียว…
เสียงตะโกนที่ได้เพียงแววตาเย็นชาตอบกลับมา
“…”
จิ๋วมองกันเหมือนเธอไปทำอะไรผิดมากมาย…
ริมฝีปากเล็กๆช่างอ้อนตอนเมื่อคืนนั่นก็ไม่หลุดพูดอะไรออกมาสักคำ
“จิ๋ว! มันจะเกินไปไหมเนี่ย !”
จิ๋วเดินออกจากห้องนอนนิวอย่างไม่คิดจะสนใจ… พุ่งตรงขึ้นห้องนอนส่วนตัว ปล่อยให้เสียงโวยวายดังใกล้เข้ามาจนถึงประตูห้อง… เสียงทุบปึงปังดังอยู่หลายครั้ง จนจิ๋วต้องคว้าเอาไอพอดมาเปิดเพลงอุดหูตัดความรำคาญ ที่รังแต่จะทำให้ใจอ่อนมากขึ้นทุกที
คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิด… สายตาของนิวในวินาทีที่พบนนท์ยังเป็นรอยแผลในใจเธอไม่หาย… และนิวที่โวยวายนี่ก็น่าหงุดหงิดเกินกว่าจะให้อภัย… แต่ที่มากไปกว่านั้น คือเธอ เธอในอ้อมกอดนิวคือสิ่งที่หงุดหงิดที่สุดในวันนี้เลยให้ตาย !
ทั้งที่โกรธเขาอยู่แท้ๆ… แต่เธอก็แพ้ความอ่อนแอ โผเข้ากอดเขา ร้องไห้ในอกเขาจนได้
ดีนะที่ตื่นเช้ามากลับลำทัน… เฮ้อ
จวบจนสาย คนตัวเล็กก็ยังตั้งแง่ไม่พูดกับอีกคนไม่ยอมหาย… คนสองคนร่วมโต๊ะกินข้าวเดียวกัน ดูทีวีด้วยกัน อ่านหนังสืออยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน แต่กลับไม่มีบทสนทนาใดเกิดขึ้นแม้เพียงเสี้ยวคำ
นิวหน้ายุ่งตลอดวันเป็นภาพที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ส่วนหน้านิ่งๆของจิ๋วมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว… คราวนี้ ไม่ใช่แค่จิ๋วที่หงุดหงิดเธอ แต่เธอเองก็หงุดหงิดเช่นกันที่อีกจิ๋วยังไม่ยอมรับว่าความผิดของเรามันเท่ากัน และสิ่งที่จิ๋วทำ มันออกจะร้ายแรงด้วยซ้ำ…
ที่เธอเจอกับนนท์น่ะมันเรื่องบังเอิญ…
แต่ที่จิ๋วโทรตามอีตาพี่เบลมาน่ะ มันเรื่องตั้งใจ
หากจะมองตามเจตนา อย่างไรเธอก็ไม่ผิด…
จิ๋วชายตามองนิวที่เปิดหนังสือแต่งบ้านไปมาอย่างหงุดหงิด… ใบหน้าง้ำงอนั่นแสดงอารมณ์ภายในของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี… มันน่าหมั่นไส้ไม่น้อยเลย และมันมากมายทีเดียว มากจนอยากจะเขวี้ยงหมอนในมือใส่หัวคนหน้ายุ่งสักที
เออ… ดี จะไม่ง้อกันก็ดี… คิดว่าทำแบบนี้แล้วพอใจก็ทำไปเถอะ
คอยดูแล้วกันว่าใครจะเดือดร้อนกว่า เฮอะ…
และเพราะต่างคนต่างคิดแบบนั้น… ต่างคนต่างหงุดหงิดกันเกินกว่าจะพูดกัน
เธอทั้งคู่จึงเลือกที่จะปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้น จนกระทั่ง…
กริ๊งงงงงง….
เสียงโทรศัพท์บ้านดังสนั่นหวั่นไหว
นิวเหลือบตามองจิ๋ว และจิ๋วก็เหลือบตามองนิว ทั้งสองคนสบตากันชั่ววินาที ก่อนจะเป็นนิวที่เป็นฝ่ายวางหนังสือในมือลงเพื่อเดินไปรับสายนั้นด้วยตัวเอง…
โดยที่มีสายตาใคร่รู้ของจิ๋วมองตามอยู่ตลอดเวลา
“ฮัลโหลค่ะ…”
นิวกรอกเสียงลงตามสายอย่างแสนสุภาพ รับรู้ได้เลยว่ากำลังโดนใครบางคนจับจ้องอย่างสนใจ ถึงได้แอบซ่อนเสียงหวานอย่างประชดประชัน…
ก่อนอารมณ์สวีทจะหายเกลี้ยง เมื่อพบว่าเป็นเสียงของคนคุ้นเคยกันนี่เอง
“อ้าวไอ้หวิน แกนี่เอง ว่าไง…”
จิ๋วพยายามเงี่ยหูฟัง และพยายามทำเป็นไม่สนใจไปพร้อมๆกัน ระยะที่ห่างพอสมควรทำให้เธอได้ยินอะไรไม่ชัดเจนนัก แต่ก็จะรู้เรื่องบ้าง… คำไหนที่ไม่ได้ยิน ก็อ่านเอาจากสีหน้าของนิวที่แสดงออกชัดเจน
“ฮะ… ฉันลืมมือถือไว้ที่ผับ แล้วไงต่อนะ ?”
แถมนิวยังชอบทวนประโยคราวกับจะจงใจให้เธอรับรู้ไปพร้อมกัน … และประโยคล่าสุดที่หลุดมาจากปากนั่น ก็ทำเอาจิ๋วขมวดคิ้วแน่น อยากจะดึงหูไอ้คนขี้ลืมให้ขาดติดมือมาเชียว ลืมมือถือได้ยังไงกัน…
สีหน้ายุ่งยากลำบากใจของนิวทำให้จิ๋วรู้ว่านภัสสรคงจะซีเรียสกับมันมากทีเดียว
“อ๋อ มีคนเก็บไว้ให้”
และไม่ถึงสองวินาทีให้หลัง เสียงนิวก็ลอยมาอีกครั้ง พร้อมกับสีหน้าโล่งอกที่พาให้คิ้วที่ขมวดมุ่นของจิ๋วได้คลายออกตามๆกัน…
เมื่อเห็นว่าเรื่องของเพื่อนนิวและเพื่อนหวินน่าจะจบลงแต่เพียงเท่านี้ จิ๋วก็ละความสนใจจากตรงนั้นมาเป็นหนังสือที่อยู่ในมือแทน คนตัวเล็กนั่งไขว่ห้างอย่างสบายๆ ทำเป็นไม่สนใจนิวที่เดินคิ้วผูกโบว์มานั่งในตำแหน่งเดิม ตรงข้ามเธอ… และนั่งจ้องกันอยู่เนิ่นนานด้วยแววตาที่ดูจะแปลกๆกว่าที่เคยเป็น
และเธอก็ปล่อยให้นิวนั่งจ้องอยู่อย่างนั้น… ฟอร์มค้ำคอจนไม่รู้จะทักจะถามอะไร
“จิ๋ว ไลน์บอกพี่เจนให้นิวหน่อยว่ามือถือนิวไม่อยู่… หายเมื่อคืน มีคนเก็บไว้ให้ รอเขาเอามาคืน”
และแล้วนิวก็ทนรอให้จิ๋วถามก่อนไม่ไหว ว่าประโยคยาวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูจะแข็งกว่าปกติอย่างต้องการจะรวนให้อีกคนแสดงปฏิกิริยาอะไรออกมาบ้าง…
แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าที่จิ๋วคว้ามือถือขึ้นมา กดยุกยิกไลน์หาพี่เจนตามคำบอกของนิว… และนั่งก้มหน้าอ่านหนังสือในมือต่ออย่างไม่สนใจจะไถ่ถามอะไรสักคำ
ไม่แม้แต่จะสบตา ไม่แม้แต่จะมองเธอสักนิดด้วยซ้ำ…
เล่นเอานิวหงุดหงิดจนแทบอยากจะขย้ำคนตัวเล็กแรงๆสักที… แต่ก็ยังไม่ลดละ ส่งประโยคเด็ดที่เก็บงำไว้ออกไปเรียกปฏิกิริยาจากจิ๋ว…
และแน่นอน มันได้ผลแทบจะทันที
“ไอ้หวินมันไปฮ่องกงอาทิตย์นึง เค้าเลยไม่ได้ฝากไว้ที่มัน ตอนนี้มือถือนิวอยู่ที่นนท์… คงต้องรอนนท์ติดต่อมา อาจจะโทรเข้าเบอร์จิ๋วอ่ะ… ถ้านนท์โทรมาจิ๋วก็บอกนิวด้วยละกาน”
คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองนิวอย่างฉุนเฉียว ส่งค้อนปะหลับปะเหลือก แต่ก็ยังอุตส่าห์จะประชดประชันกลับอย่างไม่ยอมแพ้สักนิด
“ได้สิคะคุณนิว ไม่ต้องห่วงเลย จะรีบบอก จะรีบเอาให้คุยเลย…”
มือบางฟาดหนังสือลงโต๊ะอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะลุกขึ้นสะบัดก้นเดินขึ้นบันไดตึงตังไปอย่างหงุดหงิดเต็มขั้น… ทิ้งนิวให้นั่งอมยิ้มกับท่าทางน่าเอ็นดูแบบนั้น จิ๋วตอนงอนนี่น่ารักชะมัด… ไม่เหมือนจิ๋วที่เป็นจิ๋วเลยสักนิด
แต่ไหนแต่ไรมา ก็เห็นมีแต่ชื่อนนท์เท่านั้นที่จิ๋วดูจะอ่อนไหวเป็นพิเศษ เพียงแต่เป็นไปในทางตรงข้ามกับเธอก็เท่านั้น…
คิดมาถึงตรงนี้ นิวก็ต้องถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่… ยอมรับตรงๆว่าเธอยังไม่พร้อมเจอหน้านนท์อีกครั้งในเร็ววันนี้ ถึงแม้จะกล้าพูดเต็มปากว่าไม่ได้รักนนท์แล้ว แต่ความเจ็บช้ำที่ซ่อนลึกก็ยังโผล่ออกมาเสมอเมื่อได้สบตากับแววอบอุ่นที่มากมายขนาดนั้น…
ที่สำคัญ เธอรู้ดีว่าจิ๋วไม่พอใจ… เธอจึงตัดสินใจจะไม่ยุ่งกับนนท์อีก หากไม่จำเป็น เพราะมันจะดีที่สุดกับสำหรับหัวใจที่ยังอ่อนแอของเธอ และความสัมพันธ์ที่ดูจะเปราะบางของเรา…
ถ้าโทรศัพท์มันเครื่องละร้อยสองร้อย เธอก็คงพอจะตัดใจทิ้งได้ล่ะนะ…
แต่นี่ ราคามันไม่น้อยเลย แถมมันก็ยังมีข้อมูลอะไรอยู่ในนั้นมากมายซะอีก…
“เฮ้อออออ…”
นิวถอนหายใจยาวเหยียด เอนร่างพิงโซฟาแล้วเหยียดขาอย่างเหนื่อยหน่ายหงุดหงิดไปหมด…อะไรๆก็ดูจะไม่ลงตัวสักอย่าง ความรู้สึกของกันและกันเธอก็ยังไม่แน่ใจ เรื่องที่คาใจกับจิ๋วไว้ก็ยังไม่ได้เคลียร์ แถมยังมีเรื่องนนท์เข้ามาอีก ให้ตายเถอะ!
ครืด…..
เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวในบ้านดังสนั่นหวั่นไหว… เรียกนิวให้ลุกพรวดจากการเอนกายมาควานหาเจ้าต้นเสียงนั่นอย่างรีบร้อน… นี่จิ๋วคงฉุนเธอจนลืมมือถือเอาไว้… รีบๆหาแล้วเอาไปให้ คงจะได้พอมีจังหวะชวนคุยบ้างล่ะ
อ่า นั่นไง… คว่ำอยู่ตรงนั้น
นิวเอื้อมสุดแขนไปคว้ามันมาไว้ในมือ ไอ้เจ้าอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ราคาหลายหมื่นสั่นประท้วงอยู่ในมือเธอไม่ลดละ คิ้วนิวขมวดมุ่น… ก่อนสายตาเจ้ากรรมจะดันเหลือบไปเห็นชื่อคนโทรเข้า ที่ทำเอาคิ้วที่แน่นอยู่แล้ว แทบจะกลายเป็นเงื่อนตาย
นิวหงุดหงิดจนแทบจะสลายร่างนี้ทิ้งไป ให้ตายเถอะ เกิดเป็นเธอที่มันเป็นเวรเป็นกรรมซ้ำซากจริงๆ !
…
.
.
ความคิดเห็น