ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "ถ้าเขายังสำคัญ" #newjiew

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8 bad time

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 57


     

     

    “จิ๋ว เดินดีดี อย่ามาทำฤทธิ์กับนิวตรงนี้นะ บันไดมันสู๊ง
    !!!

    เข็มนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน ความลำบากยากเข็ญเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง นิวหิ้วปีกอีกคนขึ้นบันไดอย่างทุลักทุเล เหนื่อยใจแทบขาด แถมแม่ตัวดีก็ไม่ให้ความร่วมมือกันแม้แต่นิดเดียว โยเยตั้งแต่พี่เจนลับตาไปจนบัดนี้

     

    คอยดูเถอะ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จิ๋วจะได้ดื่มแอลกฮอลล์ ต่อไปนี้ ตลอดทั้งชาติ เธอจะไม่ปล่อยให้ไกลหูไกลตาอีกเลย

     

     

    “เอ้า… นอนรอเค้าเดี๋ยวนึง ไปเตรียมน้ำมาเช็ดตัวให้ รอนิวตรงนี้นะ”

    ก็อยากจะพาจิ๋วกลับขึ้นห้องตัวเองเหมือนกัน แต่เธอหมดแรงจะลากจะจูงแล้ว จุดหมายจึงถูกเปลี่ยนมาเป็นห้องเธอแทน นิววางคนตัวเล็กลงบนเตียงตัวเองพร้อมกับกำชับให้อยู่เฉยทั้งที่รู้ว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ ละล้าละลังทั้งเป็นห่วงทั้งรีบร้อน หันมองอยู่หลายที ก่อนจะวิ่งตื๋อออกจากห้องไปเตรียมข้าวของสำหรับเช็ดเนื้อเช็ดตัว

     

    เสียงวุ่นวายล้งเล้งจากส่วนครัวชั้นล่างอาจจะดูน่ารำคาญไปสักหน่อยในยามดึกดื่น…. แต่ใครสนกันล่ะ

     

    คล้อยหลังนิวไปนิดเดียว จิ๋วก็เริ่มพลิกซ้ายพลิกขวา แทบไม่รับรู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องตัวเอง คว้าเอาหมอนข้างได้ก็เอามากอดซุกจนแนบแน่น เรี่ยวแรงจะพยศมันหมดไปนานแล้ว แต่ที่เธอยังฝืนทำอยู่ก็เพราะโกรธเคืองอีกคนอยู่มากมาย

     

    ใบหน้าสวยเหยเกเพราะอาการมึนที่ตีรวนอยู่ในสมอง ดวงตาคู่สวยหรี่ปรือ รู้สึกไม่สบายทั้งกาย ไม่สบายทั้งใจ ผสมกับความมึนงงและง่วงงุนที่ทำเอาสติที่มีน้อยนิดเริ่มจะเกลี้ยงหมดหลอด จิ๋ววาดมือคว้าเอาผ้าห่มลายซูเปอร์ฮีโร่มาคลุมร่างไว้หมิ่นเหม่ อุณหภูมิกำลังสบายขับกล่อมให้ดวงตาเริ่มปิดสนิท

     

    คนฤทธิ์เยอะเริ่มหมดฤทธิ์ ไม่ทันได้คิดอะไร ความเหนื่อยหน่ายทั้งกายและใจก็เห่กล่อมเธอให้หลับใหลง่ายดาย

     

    หัวใจที่แบกรับอะไรมากมาย คงได้เวลาพักผ่อนลงเสียที

     

     

     

     

     

     

     

    “มาแล้วๆคุณจิ๋ววว

     

    เสียงโวยวายอันแสนจะเป็นเอกลักษณ์ดังลั่นมาก่อนตัว นิวกระวีกระวาดพุ่งเข้าห้อง สองมือเต็มไปด้วยอุปกรณ์เช็ดตัว เท้าซ้ายเขี่ยประตูห้องปิดดังปัง หันรีหันขวางวางกะละมังและผ้าขนหนูผืนเล็กบนตู้เตี้ยๆที่วางอยู่ใกล้ประตู เหงื่อโทรมกายกับใบหน้าที่ดูเหน็ดเหนื่อยเป็นภาพที่ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย เธอไม่เคยต้องวิ่งวนไปวนมาในทำนองนี้บ่อยเท่าไร

     

    นิวใจจดใจจ่อกับภารกิจตรงหน้า เอาผ้าชุบน้ำอุ่นๆแล้วบิดจนหมาดๆ ก่อนจะปราดเข้าไปหาคนตัวเล็กที่นอนนิ่งสนิท

     

    “อ้าวคุณจิ๋ว หลับซะแล้ว”

     

    ถึงตัวก็ต้องร้องอ้าวออกมา เมื่อพบว่าอีกคนสลบไปแล้วทั้งที่คิ้วยังคงผูกกันอยู่แน่นแบบนั้น

     

    มือที่ถือผ้าสำหรับเช็ดตัวชะงักค้าง นิวจ้องมองคนตัวเล็กอย่างนึกเอ็นดู

     

    ใบหน้าของคนตัวเล็กยุ่งไปหมด คิ้วขมวดเป็นปม ดวงตาคู่สวยก็ดูจะไม่ผ่อนคลาย เรียวปากบางเม้มติดกันสนิท เห็นก็รู้ว่าคงหลับไปกับความไม่สบายกายแถมยังไม่สบายใจเท่าไรนัก

     

    วงแขนเล็กกอดเกี่ยวหมอนข้างใบโปรดของเธอแน่น แนบใบหน้าจนชิด มีลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอที่เป็นเครื่องช่วยยืนยันว่าคนตัวเล็กได้หมดฤทธิ์เดชไปแล้วจริงๆ

     

    เนิ่นนานแต่ละวินาทีเดินพัดผ่านไปโดยที่เธอแทบไม่ได้สนใจรับรู้มัน

     

    นิวจับจ้องภาพเพื่อนรักอย่างหลงใหล ปลายนิ้วชี้เกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าเพื่อนรักแผ่วเบาอย่างทนุถนอม รอยยิ้มจางๆวาดขึ้นบนใบหน้าสวยคมโดยที่เจ้าตัวแทบไม่รู้ตัว

     

    ความรู้สึกอ่อนหวานค่อยก่อตัวในหัวใจชัดเจนความน่ารักของคนตัวเล็กจับหัวใจเธอเอาไว้จนดิ้นไม่หลุด

     

    เธอหวงแหนภาพแบบนี้ หวงแหนวันเวลาที่เรามีกันเพียงลำพัง ไม่ว่ายามหลับหรือตื่น เธอยังอยากเป็นคนเดียวที่มีสิทธิได้เห็นมันก่อนใคร

     

    อยากเป็นคนเดียวที่ได้ดูแล ได้ทำให้รอยยิ้มที่เธอหลงรักเจืออยู่บนใบหน้านี้ตลอดไป

     

    “นิวเช็ดตัวให้นะ แล้วอย่าเพิ่งตื่นขึ้นมาล่ะ นิวเหนื๊อยเหนื่อย แรงไม่พอจะรบกับคุณจิ๋วแล้ว

    นิวเอ่ยกับอีกคนทั้งรอยยิ้ม พยักเพยิดหน้าทำสายตาราวกับว่าคุยกับคนหลับได้รู้เรื่อง ก่อนจะบรรจงซับผ้าหมาด ไล้ไปตามผิวหน้านวลเนียนแผ่วเบา ราวกับว่าหากเผลอแตะสัมผัสแรงกว่านี้ไป คนตัวเล็กของเธอจะแตกสลายหายไปกับตา

     

    แววตาที่เจือความรักความปรารถนาดีจ้องมองอีกคนราวกับสิ่งของล้ำค่า หากจิ๋วจะมีโอกาสได้มองเห็นมันสักครั้ง

     

    แค่สักครั้งก็พอ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “คุณจิ๋ว น่ารักจัง

    นิวนั่งขัดสมาธิอยู่กับพื้น เท้าแขนสองข้างลงบนเตียง แล้วเอียงศีรษะแนบแขนมองอีกคนพร้อมรอยยิ้ม เสียงพึมพำความในใจแผ่วเบา นิวเพียงอยากพูด อยากให้อีกคนรับรู้ แต่เธอก็รู้ดีว่าตอนนี้มันคงเป็นไปไม่ได้

     

    เธอจัดการเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เพื่อนรักเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อเกือบๆสิบนาทีที่แล้ว และยังพาตัวเองไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนลายการ์ตูนเรียบร้อย แต่ทั้งๆที่ร่างกายมันแสนเหนื่อยหน่ายและอยากจะพักผ่อนนอนหลับจนเต็มแก่ เธอก็พ่ายแพ้ต่อบางอย่างในใจที่เรียกร้องให้ต้องนั่งจ้องมองอย่างไม่รู้เบื่อ คุณจิ๋วคนดีในชุดนอนหลวมโคร่งของเธอ เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับภาพนั้นโดยไม่มีเหตุผลสมควรสักนิด

     

    ก็จิ๋วน่ารัก

    ทั้งหมดนั่นคือเหตุผลของเธอ

     

     

    “อื้อ

    เสียงครางอือแผ่วเบา ดังให้นิวได้สะดุ้งอย่างตกใจไม่น้อย คนตัวเล็กเริ่มขยับตัวยุกยิก ให้นิวได้ผละออกจากการจับจ้องระยะประชิด เปลี่ยนเป็นนั่งหลังตรงตัวเกร็งอยู่ข้างๆในระยะที่ห่างออกมาแทน

     

    นิวยกมือขึ้นลูบหน้าลูบตาที่ยังมีแววตื่นตกใจให้กลับมาเป็นปกติ รวบรวมสติเตรียมตัวรับสถานการณ์ที่จิ๋วกำลังจะตื่น

     

    อิทธิฤทธิ์เกินร้อยก่อนหลับของจิ๋วยังพอหลงเหลือเอฟเฟคท์ให้เธอได้กลัว นิวเม้มปากแน่น หรี่ตามองเพื่อนรักอย่างลุ้นๆ หวังว่าเสียงโวยวายของจิ๋วในการตื่นรอบนี้จะไม่ทำให้โดนคนข้างบ้านไล่ตะเพิดเอาในตอนเช้าหรอกนะ

     

     

    คนตัวเล็กที่เพิ่งรู้สึกตัว ยกแขนซ้ายขึ้นขยี้ตา ก่อนจะบิดแขนซ้ายแขนขวาไล่ความเมื่อยขบที่จับแน่นอยู่ทั่วทุกอณูร่างกาย เรี่ยวแรงอ่อนล้าแถมยังปวดเมื่อยไปหมด ความรู้สึกง่วงงุนแถมมึนตึ้บยังคงเกาะแน่นอยู่ในสมอง และเธอคงจะนอนต่อไปแล้ว หากไม่ลืมตาขึ้นมาพบคนใกล้ตัวที่นั่งมองกันด้วยแววตาใสแจ๋วเสียก่อน

     

    นิวส่งยิ้มจางๆให้เธออยู่ข้างๆ มันเป็นรอยยิ้มแหยๆที่จิ๋วตีความไม่ออกเลย แถมใบหน้าคุ้นตานั้นยังมึนๆวนๆ ดูเป็นนิวแบบเบี้ยวๆบูดๆ แถมยังเบลอๆอีกต่างหาก

     

    จิ๋วส่ายหน้าไปมาสองสามที ราวกับจะสะบัดความง่วงงุนให้หลุดกระเด็น และทั้งหมดนั่น ก็ตกอยู่ในสายตานิวที่นั่งมองอย่างลุ้นไม่หาย

     

    “นั่งทำไรตรงนั้น นิวมานอน

    จิ๋วยืดแขนลงไปคว้าเอาไหล่อีกคน จนร่างบางนั้นเซเข้ามาติดเตียงอย่างตั้งตัวไม่ทัน มือบางที่ยังยึดไหล่นิวไว้แน่นเขย่าๆซ้ำไปซ้ำมาทั้งที่นิวยังหน้าเหวอ เดาอารมณ์จิ๋วไม่ถูกสักนิด

     

    คนตัวเล็กปิดเปลือกตาแน่น ดูก็รู้ว่าอาการง่วงงุนยังคงค้างอยู่มากมาย นิวนอนเอนตัวไม่เป็นท่าอยู่ข้างๆเตียง ทั้งที่หัวไหล่ก็ยังอยู่ในการยึดครองของอีกคน แขนข้างซ้ายวางเท้ากับพื้นพอให้ตัวได้มีที่พยุง เหลือบตาขึ้นมองอย่างหวาดๆ อยากจะแน่ใจจริงๆว่าจิ๋วจะไม่แหกปากลั่นขึ้นมากลางดึกให้เธอต้องเป็นจำเลยอีกครั้ง

     

    จนเมื่อจิ๋วลืมตาขึ้นมามองกันช้าๆ แววตาคู่นั้นช่างไร้เดียงสา ราวกับว่าไม่ใช่จิ๋วตัวร้ายที่โกรธกันอยู่มากมาย

     

    นิวถึงได้วางใจ ส่งรอยยิ้มบางๆคืนกลับ จับจ้องใบหน้าง่วงงุนของคนตัวเล็กใกล้ๆแบบนั้น ยอมปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้จิ๋วได้ฉุดดึงไปตามใจ

     

    “นิว นอนน”

    เสียงงุ้งงิ้งเอ่ยซ้ำ คิ้วคมขมวดบางๆ มองนิวด้วยแววตาหวานฉ่ำออดอ้อน เรียวแขนที่เกี่ยวแน่นที่หัวไหล่ ค่อยๆไหลเรื่อยเปลี่ยนไปวางพาดบนต้นคอนิวอย่างแผ่วเบาพร้อมแขนอีกข้างที่ตกลงมาจากเตียงยังไหล่อีกข้างของเธอพอดิบพอดี กลายเป็นอ้อมแขนที่คล้องคอกันเอาไว้หลวมๆ

     

    คนตัวเล็กใช้เรี่ยวแรงเพียงนิด ก็สามารถรั้งใบหน้าสวยคมของนิวให้เข้ามาชิดใกล้ได้อย่างต้องการ

     

    เจ้าของอ้อมแขนเล็กๆยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ รอยยิ้มหวานหยดย้อยที่จิ๋วคงไม่รู้ว่ามันเข้าข่ายยั่วยวน ถูกส่งมาอย่างต่อเนื่องให้นิวใจเต้นรัว

     

    นิวยิ้มบางๆส่งคืน ด้วยหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะรัก ยากจะควบคุม

     

    “นอนเถอะนะ จิ๋วง่วง นะนิว

    อ้อมแขนที่คล้องคอกันไว้หลวม เขย่าเบาๆแต่ก็เล่นเอาคนโดนเขย่าหัวสั่นคลอน นิวหัวเราะเบาๆในลำคอกับความขี้อ้อนของคนตัวเล็ก แต่ก็ยอมรับคำขอนั้นแต่โดยดี

     

    เอื้อมมือขวาขึ้นมาแกะอ้อมแขนเล็กๆนั่นออกจากต้นคอ นิวพามือบอบบางนั้นไปวางไว้ข้างตัวจิ๋วอย่างแผ่วเบา ก่อนจะกดปิดไฟหัวเตียงให้ห้องทั้งห้องมันมืดสนิทลง

     

    นิวพาตัวเองเดินอ้อมเตียงไปนอนข้างๆเพื่อนรัก หยิบผ้าห่มที่คลุมร่างอีกคนอยู่อย่างหมิ่นเหม่ มาสะบัดคลุมเราเอาไว้ ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน

     

    จิ๋วยังคงนอนหันหลังให้นิวอยู่แบบนั้น ความเงียบงันที่แสนเบาบางดำเนินต่อไปในค่ำคืนที่อะไรต่างก็ยังคงคลุมเครือ นิวข่มตาให้หลับอย่างยากลำบาก ความคิดในหัวยังวิ่งวนวุ่นวาย

     

    และอีกคน ก็ไม่ต่างกัน

    เป็นร้อยเป็นพันอย่างตีรวนอยู่ในหัว ฤทธิ์แอลกฮอลล์ที่ยังคงค้างมันทำให้จิ๋วจับประเด็นอะไรไม่ได้สักอย่าง

     

    แต่ความเจ็บปวดอ่อนแอที่ตกค้างอยู่ในใจ มันแจ่มชัดเหลือเกิน

     

     

     

    “นิว

     

    เสียงแผ่วเบาของคนข้างๆดังให้นิวต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง

     

    “หืม?

    ขานตอบรับสั้นๆ และนิวก็นอนนิ่งๆอยู่แบบนั้น รอคอยเวลาที่เดินไปเรื่อยๆ และไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดลงตรงไหน

     

    เธอก็พอจะรู้ ว่าในใจของจิ๋วคงมีบางอย่างค้างคา เหมือนที่เธอเองก็มีเรื่องในใจจนนอนไม่หลับเช่นกัน

     

    ความสัมพันธ์ของเราในช่วงหลังๆมานี้ นิวรู้และเข้าใจดีว่ามันวุ่นวายเกินกว่าที่จะรับมือไหว เธอไม่ชัดเจนในสิ่งที่มีให้กัน แต่ในครั้งใดที่เธออยากจะทำให้มันชัดเจนมากขึ้น จิ๋วก็เลือกที่จะทำให้มันกลายเป็นเพียงเรื่องไร้สาระไปตลอด

     

    มันทำให้เธอสับสน หวั่นใจ และกังวลกับหลายๆสิ่งที่ประดังประเดเข้ามาจนตั้งตัวไม่ทัน

    เธอไม่รู้ว่าเธอหวงห่วงจิ๋วได้แค่ไหน และก็ไม่รู้ ว่าเรื่องพี่เบลกับนนท์ในค่ำคืนนี้ มันทำให้จิ๋วรู้สึกอย่างไรบ้าง

     

    ความเงียบงันดำเนินต่อไปอีกครั้ง หลายวินาที

    จวบจนกระทั่งจิ๋วพลิกตัวกลับมาหากัน แววตาใสแจ๋ววาววับจึงกลายเป็นสิ่งเดียวที่นิวมองเห็นในตอนนี้

     

    แววตาที่มีแต่แววตัดพ้อ น้ำตาเอ่อคลอ จ้องมองกันจนนิววูบไหว

     

    หัวใจที่หนักอึ้ง เป็นอันต้องละลายเมื่อรู้ว่าอีกคนกำลังอ่อนแอและสับสนอย่างจริงจัง นิวรู้ว่าสาเหตุทั้งหมดนั่น มันเริ่มต้นมาจากเธอแต่เพียงผู้เดียว ความผิดของเธอคนเดียว เป็นเธอเองที่สร้างรอยแผลให้กับหัวใจจิ๋ว ครั้งแล้วครั้งเล่า

     

    แววตาของนิวที่ตอบกลับไป มีแต่คำว่าขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า นิวพูดมันออกจากใจ และใช้เพียงสายตาในการถ่ายทอดมัน

     

    แขนเรียวเกี่ยวกระหวัดคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอด มือข้างนึงลูบเรือนผมยาวสลวยแผ่วเบาอย่างปลอบประโลม จิ๋วโอบรัดเอวเพื่อนรักแน่น ซุกหน้าลงกับอ้อมอกอีกคนอย่างอ่อนแอเต็มที พยายามกลั้นน้ำตาที่ไหลซึมออกมาเพราะความอัดอั้นมากมายในใจ

     

    หยดน้ำตามากมายไหลซึมจนนิวสัมผัสได้ถึงความชื้น และน้ำตาของอีกคนก็กำลังทำให้เธอเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่ากัน

     

    มือบางทำหน้าที่ลูบแผ่นหลังคนตัวเล็ก เสียงหวานนุ่มหูฮัมเพลงเบาๆในลำคอ เป็นบทเห่กล่อมที่ทำหน้าที่ปลอบประโลมคนอ่อนแอให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาอย่างง่ายดาย

    มันดำเนินไปเรื่อยๆ พร้อมน้ำตาของนิวที่จวนจะไหลเพราะความอึดอัดลึกๆ ไม่ต่างกัน

     

    จิ๋วขยับตัวเบียดซุกเข้ามาอีกครั้งสองครั้ง ลมหายใจที่สั่นเพราะแรงสะอื้น ก็ค่อยสงบลง เป็นความสม่ำเสมอที่ทำให้นิวรับรู้ว่าอีกคนได้หลับไหลไปแล้ว

     

    ริมฝีปากนุ่มอุ่นบรรจงจุมพิตลงยังกลางกระหม่อมของคนในอ้อมกอด นิวฝังจูบเนิ่นนาน ปลายจมูกไล้เรี่ยสูดกลิ่นเรือนผมหอมกรุ่นอย่างแสนรัก

     

    “ฝันดีนะ จิ๋วของนิว”

     

    ก่อนที่เธอจะบังคับตัวเองให้หลับตาลง อย่างใช้ความพยายามมากกว่าทุกๆคืน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

    “จิ๋ว ! คิดว่านิวผิดอยู่คนเดียวหรือไง หยุดทำงี่เง่าใส่นิวแบบนี้นะ !

     

    บรรยากาศความสงบหายไปตั้งแต่วินาทีแรกที่จิ๋วลืมตาขึ้นมาในอ้อมกอดอบอุ่นของเธอ ไม่รู้ว่าองค์อะไรเข้าสิงแต่เช้า แขนเรียวๆนั่นถึงได้ผลักเธอสุดแรงจนแทบตกเตียงตั้งแต่ยังไม่ตื่น และนับแต่วินาทีนั้น ร่างทรงยัยตัวร้ายก็เข้าสิงจนเล่นเอาเธอปวดหัวแทบแตก ไม่ว่าเธอจะพยายามพูดอะไร จิ๋วก็ทำเป็นหูทวนลมอยู่ร่ำไป นิวแทบจะขยุ้มหัวตัวเองให้หลุด เธอไม่เข้าใจจิ๋วเลยให้ตาย !

     

    เสียงโวยวายสนั่นลั่นบ้าน นิวตั้งใจตะโกนมันให้เข้าหูจิ๋วคนเดียว

     

    เสียงตะโกนที่ได้เพียงแววตาเย็นชาตอบกลับมา

     

    จิ๋วมองกันเหมือนเธอไปทำอะไรผิดมากมาย

    ริมฝีปากเล็กๆช่างอ้อนตอนเมื่อคืนนั่นก็ไม่หลุดพูดอะไรออกมาสักคำ

     

     

    “จิ๋ว! มันจะเกินไปไหมเนี่ย !

     

    จิ๋วเดินออกจากห้องนอนนิวอย่างไม่คิดจะสนใจ พุ่งตรงขึ้นห้องนอนส่วนตัว ปล่อยให้เสียงโวยวายดังใกล้เข้ามาจนถึงประตูห้อง เสียงทุบปึงปังดังอยู่หลายครั้ง จนจิ๋วต้องคว้าเอาไอพอดมาเปิดเพลงอุดหูตัดความรำคาญ ที่รังแต่จะทำให้ใจอ่อนมากขึ้นทุกที

     

    คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิด สายตาของนิวในวินาทีที่พบนนท์ยังเป็นรอยแผลในใจเธอไม่หาย และนิวที่โวยวายนี่ก็น่าหงุดหงิดเกินกว่าจะให้อภัย แต่ที่มากไปกว่านั้น คือเธอ เธอในอ้อมกอดนิวคือสิ่งที่หงุดหงิดที่สุดในวันนี้เลยให้ตาย !

     

    ทั้งที่โกรธเขาอยู่แท้ๆ แต่เธอก็แพ้ความอ่อนแอ โผเข้ากอดเขา ร้องไห้ในอกเขาจนได้

     

    ดีนะที่ตื่นเช้ามากลับลำทัน เฮ้อ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    จวบจนสาย คนตัวเล็กก็ยังตั้งแง่ไม่พูดกับอีกคนไม่ยอมหาย คนสองคนร่วมโต๊ะกินข้าวเดียวกัน ดูทีวีด้วยกัน อ่านหนังสืออยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน แต่กลับไม่มีบทสนทนาใดเกิดขึ้นแม้เพียงเสี้ยวคำ

     

    นิวหน้ายุ่งตลอดวันเป็นภาพที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ส่วนหน้านิ่งๆของจิ๋วมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว คราวนี้ ไม่ใช่แค่จิ๋วที่หงุดหงิดเธอ แต่เธอเองก็หงุดหงิดเช่นกันที่อีกจิ๋วยังไม่ยอมรับว่าความผิดของเรามันเท่ากัน และสิ่งที่จิ๋วทำ มันออกจะร้ายแรงด้วยซ้ำ

     

    ที่เธอเจอกับนนท์น่ะมันเรื่องบังเอิญ

    แต่ที่จิ๋วโทรตามอีตาพี่เบลมาน่ะ มันเรื่องตั้งใจ

     

    หากจะมองตามเจตนา อย่างไรเธอก็ไม่ผิด

     

     

     

     

     

     

    จิ๋วชายตามองนิวที่เปิดหนังสือแต่งบ้านไปมาอย่างหงุดหงิด ใบหน้าง้ำงอนั่นแสดงอารมณ์ภายในของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี มันน่าหมั่นไส้ไม่น้อยเลย และมันมากมายทีเดียว มากจนอยากจะเขวี้ยงหมอนในมือใส่หัวคนหน้ายุ่งสักที

     

    เออ ดี จะไม่ง้อกันก็ดี คิดว่าทำแบบนี้แล้วพอใจก็ทำไปเถอะ

    คอยดูแล้วกันว่าใครจะเดือดร้อนกว่า เฮอะ

     

     

     

     

    และเพราะต่างคนต่างคิดแบบนั้น ต่างคนต่างหงุดหงิดกันเกินกว่าจะพูดกัน

    เธอทั้งคู่จึงเลือกที่จะปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้น จนกระทั่ง

     

     

    กริ๊งงงงงง….

     

    เสียงโทรศัพท์บ้านดังสนั่นหวั่นไหว

     

     

    นิวเหลือบตามองจิ๋ว และจิ๋วก็เหลือบตามองนิว ทั้งสองคนสบตากันชั่ววินาที ก่อนจะเป็นนิวที่เป็นฝ่ายวางหนังสือในมือลงเพื่อเดินไปรับสายนั้นด้วยตัวเอง

     

    โดยที่มีสายตาใคร่รู้ของจิ๋วมองตามอยู่ตลอดเวลา

     

    “ฮัลโหลค่ะ

    นิวกรอกเสียงลงตามสายอย่างแสนสุภาพ รับรู้ได้เลยว่ากำลังโดนใครบางคนจับจ้องอย่างสนใจ ถึงได้แอบซ่อนเสียงหวานอย่างประชดประชัน

     

    ก่อนอารมณ์สวีทจะหายเกลี้ยง เมื่อพบว่าเป็นเสียงของคนคุ้นเคยกันนี่เอง

     

    “อ้าวไอ้หวิน แกนี่เอง ว่าไง

     

     

     

    จิ๋วพยายามเงี่ยหูฟัง และพยายามทำเป็นไม่สนใจไปพร้อมๆกัน ระยะที่ห่างพอสมควรทำให้เธอได้ยินอะไรไม่ชัดเจนนัก แต่ก็จะรู้เรื่องบ้าง คำไหนที่ไม่ได้ยิน ก็อ่านเอาจากสีหน้าของนิวที่แสดงออกชัดเจน

     

     

    “ฮะ ฉันลืมมือถือไว้ที่ผับ แล้วไงต่อนะ ?

    แถมนิวยังชอบทวนประโยคราวกับจะจงใจให้เธอรับรู้ไปพร้อมกัน และประโยคล่าสุดที่หลุดมาจากปากนั่น ก็ทำเอาจิ๋วขมวดคิ้วแน่น อยากจะดึงหูไอ้คนขี้ลืมให้ขาดติดมือมาเชียว ลืมมือถือได้ยังไงกัน

     

    สีหน้ายุ่งยากลำบากใจของนิวทำให้จิ๋วรู้ว่านภัสสรคงจะซีเรียสกับมันมากทีเดียว

     

    “อ๋อ มีคนเก็บไว้ให้”

     

    และไม่ถึงสองวินาทีให้หลัง เสียงนิวก็ลอยมาอีกครั้ง พร้อมกับสีหน้าโล่งอกที่พาให้คิ้วที่ขมวดมุ่นของจิ๋วได้คลายออกตามๆกัน

     

     

    เมื่อเห็นว่าเรื่องของเพื่อนนิวและเพื่อนหวินน่าจะจบลงแต่เพียงเท่านี้ จิ๋วก็ละความสนใจจากตรงนั้นมาเป็นหนังสือที่อยู่ในมือแทน คนตัวเล็กนั่งไขว่ห้างอย่างสบายๆ ทำเป็นไม่สนใจนิวที่เดินคิ้วผูกโบว์มานั่งในตำแหน่งเดิม ตรงข้ามเธอ และนั่งจ้องกันอยู่เนิ่นนานด้วยแววตาที่ดูจะแปลกๆกว่าที่เคยเป็น

     

     

    และเธอก็ปล่อยให้นิวนั่งจ้องอยู่อย่างนั้น ฟอร์มค้ำคอจนไม่รู้จะทักจะถามอะไร

     

     

    “จิ๋ว ไลน์บอกพี่เจนให้นิวหน่อยว่ามือถือนิวไม่อยู่ หายเมื่อคืน มีคนเก็บไว้ให้ รอเขาเอามาคืน”

     

    และแล้วนิวก็ทนรอให้จิ๋วถามก่อนไม่ไหว ว่าประโยคยาวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูจะแข็งกว่าปกติอย่างต้องการจะรวนให้อีกคนแสดงปฏิกิริยาอะไรออกมาบ้าง

     

    แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าที่จิ๋วคว้ามือถือขึ้นมา กดยุกยิกไลน์หาพี่เจนตามคำบอกของนิว และนั่งก้มหน้าอ่านหนังสือในมือต่ออย่างไม่สนใจจะไถ่ถามอะไรสักคำ

     

    ไม่แม้แต่จะสบตา ไม่แม้แต่จะมองเธอสักนิดด้วยซ้ำ

     

    เล่นเอานิวหงุดหงิดจนแทบอยากจะขย้ำคนตัวเล็กแรงๆสักที แต่ก็ยังไม่ลดละ ส่งประโยคเด็ดที่เก็บงำไว้ออกไปเรียกปฏิกิริยาจากจิ๋ว

     

    และแน่นอน มันได้ผลแทบจะทันที

     

    “ไอ้หวินมันไปฮ่องกงอาทิตย์นึง เค้าเลยไม่ได้ฝากไว้ที่มัน ตอนนี้มือถือนิวอยู่ที่นนท์ คงต้องรอนนท์ติดต่อมา อาจจะโทรเข้าเบอร์จิ๋วอ่ะ ถ้านนท์โทรมาจิ๋วก็บอกนิวด้วยละกาน”

     

    คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองนิวอย่างฉุนเฉียว ส่งค้อนปะหลับปะเหลือก แต่ก็ยังอุตส่าห์จะประชดประชันกลับอย่างไม่ยอมแพ้สักนิด

     

    “ได้สิคะคุณนิว ไม่ต้องห่วงเลย จะรีบบอก จะรีบเอาให้คุยเลย

     

    มือบางฟาดหนังสือลงโต๊ะอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะลุกขึ้นสะบัดก้นเดินขึ้นบันไดตึงตังไปอย่างหงุดหงิดเต็มขั้น ทิ้งนิวให้นั่งอมยิ้มกับท่าทางน่าเอ็นดูแบบนั้น จิ๋วตอนงอนนี่น่ารักชะมัด ไม่เหมือนจิ๋วที่เป็นจิ๋วเลยสักนิด

     

    แต่ไหนแต่ไรมา ก็เห็นมีแต่ชื่อนนท์เท่านั้นที่จิ๋วดูจะอ่อนไหวเป็นพิเศษ เพียงแต่เป็นไปในทางตรงข้ามกับเธอก็เท่านั้น

     

     

    คิดมาถึงตรงนี้ นิวก็ต้องถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ยอมรับตรงๆว่าเธอยังไม่พร้อมเจอหน้านนท์อีกครั้งในเร็ววันนี้ ถึงแม้จะกล้าพูดเต็มปากว่าไม่ได้รักนนท์แล้ว แต่ความเจ็บช้ำที่ซ่อนลึกก็ยังโผล่ออกมาเสมอเมื่อได้สบตากับแววอบอุ่นที่มากมายขนาดนั้น

     

    ที่สำคัญ เธอรู้ดีว่าจิ๋วไม่พอใจ เธอจึงตัดสินใจจะไม่ยุ่งกับนนท์อีก หากไม่จำเป็น เพราะมันจะดีที่สุดกับสำหรับหัวใจที่ยังอ่อนแอของเธอ และความสัมพันธ์ที่ดูจะเปราะบางของเรา

     

     

    ถ้าโทรศัพท์มันเครื่องละร้อยสองร้อย เธอก็คงพอจะตัดใจทิ้งได้ล่ะนะ

    แต่นี่ ราคามันไม่น้อยเลย แถมมันก็ยังมีข้อมูลอะไรอยู่ในนั้นมากมายซะอีก

     

     

    “เฮ้อออออ

    นิวถอนหายใจยาวเหยียด เอนร่างพิงโซฟาแล้วเหยียดขาอย่างเหนื่อยหน่ายหงุดหงิดไปหมดอะไรๆก็ดูจะไม่ลงตัวสักอย่าง ความรู้สึกของกันและกันเธอก็ยังไม่แน่ใจ เรื่องที่คาใจกับจิ๋วไว้ก็ยังไม่ได้เคลียร์ แถมยังมีเรื่องนนท์เข้ามาอีก ให้ตายเถอะ!

     

    ครืด…..

     

    เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวในบ้านดังสนั่นหวั่นไหว เรียกนิวให้ลุกพรวดจากการเอนกายมาควานหาเจ้าต้นเสียงนั่นอย่างรีบร้อน นี่จิ๋วคงฉุนเธอจนลืมมือถือเอาไว้ รีบๆหาแล้วเอาไปให้ คงจะได้พอมีจังหวะชวนคุยบ้างล่ะ

     

    อ่า นั่นไง คว่ำอยู่ตรงนั้น

     

     

     

    นิวเอื้อมสุดแขนไปคว้ามันมาไว้ในมือ ไอ้เจ้าอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ราคาหลายหมื่นสั่นประท้วงอยู่ในมือเธอไม่ลดละ คิ้วนิวขมวดมุ่น ก่อนสายตาเจ้ากรรมจะดันเหลือบไปเห็นชื่อคนโทรเข้า ที่ทำเอาคิ้วที่แน่นอยู่แล้ว แทบจะกลายเป็นเงื่อนตาย

     


    นิวหงุดหงิดจนแทบจะสลายร่างนี้ทิ้งไป ให้ตายเถอะ เกิดเป็นเธอที่มันเป็นเวรเป็นกรรมซ้ำซากจริงๆ !

     






    .
    .

      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×