ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {TS7} all about NOTEAPP #67miniseries

    ลำดับตอนที่ #8 : มันคือความรัก - 2

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 55


     

    มันคือความรัก
    Part II





     

     





     
    พบกันไม่นาน แล้วเราก็ห่างหายกันสักพัก

    หันไปทางไหน ก็เห็นหน้าเธอคนเดียว

     

     


     

     

     

    ตารางงานเดือนหน้าออกแล้ววววววววววววววววววววว

    เสียงสาวสวยหนักหนึ่งเดียวในกลุ่มสี่สาว วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามากลางวงพร้อมกับร้องแรกแหกกระเชิงให้คนได้ยินกันทั้งบาง ภายในคอนโดมิเนียมส่วนตัวของพี่สาวสุดติสท์ สามสาวจากเวทีประกวดเดียวกันนั่งคุยกันไปมาอย่างออกรส ... บทสนทนาที่ลื่นไหลมาตลอดเป็นอันต้องหยุดชะงักลงเพราะเสียงอันแสนตื่นเต้นของซิลวี่นี่เอง

     

    ไหนมาดูสิ...

    นทคว้าหมับเอาจากมือซิลวี่ทันทีที่มันถึงตัว ... หรี่ตาเล็กๆในมองตั้งแต่บรรทัดอย่างตั้งอกตั้งใจ

     

    อะไรอ่ะพี่นท ! เค้าเป็นคนเอามานะ ให้เค้าดูก่อนสิ

    สาวสวยหนักเริ่มเบ้หน้างอแงเพราะตัวเธอเองก็อยากจะรู้ตารางงานตัวเองใจจะขาด ... ขั้นตอนการเรียกร้องสิทธิจึงเกิดขึ้นโดยการส่งเสียงคุณภาพระดับบรอดเวย์ออกไปร้องประท้วง พร้อมกับเอี้ยวตัวไปยื้อแย่งกระดาษแผ่นนั้นจากพี่นทมาเต็มไม้เต็มมือ

     

    เดี๋ยวซิล !

     

    แต่ยังไม่ทันจะได้ออกแรงดึง ... คนที่ทำการโอนกรรมสิทธิ์กระดาษแผ่นนี้มาเป็นของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งเสียงดุๆที่แปลความหมายได้ชัดเจนว่าเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา ไปเบรกสาวสวยหนักให้ได้ชะงักกึก ...

     

    สาวสวยหนักเริ่มสำนึกรู้ในคราวซวยของตัวเอง มือที่คว้ามันไว้หลวมๆ จึงค่อยๆปล่อยกระดาษอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง...

     

     

     

     

     

    ซิลวี่นั่งตัวเหี่ยวมองเพื่อนอย่างแอปเปิ้ลที พี่อย่างเจ้กวงที รอยยิ้มแห้งของสาวสวยหนักฉาบขึ้นเบาๆ ... กับพฤติกรรมขี้เหวี่ยงของพี่นทที่พักนี้ดูจะหนักข้อขึ้นทุกวัน

     

    เมื่อก่อนพี่นทไม่เคยเป็นแบบนี้ ... พี่นทออกจะน่ารัก ใจดี มีขนมอะไรก็แบ่งให้กินตลอด ... แต่เดี๋ยวนี้เริ่มเปลี่ยนไปเบาๆ ถึงจะยังแบ่งขนมให้กินเหมือนเดิม แต่ไอ้ความน่ารักใจดีไม่รู้หายไปไหนหมดแล้ว

     

    สงสัยเพราะสนิทกันมากขึ้น มากเกินไป...

    ฮืออออ ไม่น่าสนิทกะพี่นทเลย T^T ซิลคิดผิด

     

     

     

     

     

    เห้ย ! อะไร งานโปรโมตรวมแปดคนนี่เหลืออีกแค่สามครั้งเองหรอ ?”

     

    เหี่ยวได้ไม่นานเท่าไร ... พี่เหวี่ยงคนดีคนเดิมก็ร้องโวยขึ้นมาให้อีกสามคนได้สะดุ้งเบาๆ ... ข้อมูลใหม่เอี่ยมอ่องจากพี่นททำทั้งแอปเปิ้ล ซิลวี่ และพี่กวาง มองหน้ากันสลับไปมาอย่างสุดจะประหลาดใจ ... อะไร ? อะไรของนทที่โวยวายขึ้นมา

     

    นั่งดูตารางงานคนเดียวแล้วจู่ๆก็โวยวายขึ้นมา ... แปลก ... แถมโวยวายในเรื่องที่ตัวเองก็รู้อยู่แล้วด้วยนะ

     

    มีมะรืน ศุกร์หน้า แล้วก็อังคารโน้นนน ทีนี้ก็หมด ... หมดแล้ว ! เราจะไม่ได้ทำงานด้วยกันแล้ว

     

     

     

    ว๊าววว เห้ย ! เจ๋งอ่ะ ทีนี้ก็ของจริงแล้วอ่ะดิ ... ไหนๆพี่นท ซิลขอดูบ้างเด๊ะ !

     

    ทุกคนรับรู้แล้วเข้าใจในคำพูดของนท ... สี่คนที่นั่งด้วยกัน แต่ปฏิกิริยามันแตกต่างกัน ... ซิลวี่ยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น พร้อมกับที่เธอเอื้อมมือคว้าตารางงานแผ่นนั้นมาทันที ...

     

     

    คนเป็นพี่ใหญ่ก็เริ่มมีสีหน้ากังวล ... สังหรณ์ไม่ดียังไงอธิบายไม่ถูก... กวางลุกข้ามโซฟาไปนั่งข้างซิลวี่แล้วชะโงกหน้าดูตารางงานแผ่นนั้นด้วยสีหน้าเรียบๆ

     

     

     

    ส่วนคนรู้ข่าวคนแรกอย่างนท ... ใจหายไปแล้วทั้งใจด้วยความรู้สึกหน่วงๆบอกไม่ถูก ...

     

     

     

     

    คนที่นั่งคนละฝั่งโซฟา สบตากันนิ่งๆ ... คนนึงแทบไม่มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ... ส่วนอีกคน กลับมีรอยยิ้มเกลื่อนกระจายเต็มไปหมด ... และนั่นคือรอยยิ้มแห่งความเข้าใจ

     

     

     

    แอปเปิ้ลเริ่มจะรู้ ว่าพี่สาวขี้เหวี่ยงตรงหน้าเธอกำลังเริ่มจะเหวี่ยงอีกครั้ง ...

     

    เหวี่ยงเพราะไม่ได้ทำงานด้วยกันเป็นกลุ่มเบ้อเร่อ ... ชัดเจนว่าไม่พอใจอย่างที่โวยวายนั่นแหล่ะ เธอรู้ ... แต่ที่เธอไม่รู้คือสาเหตุของมัน ทำไมพี่นทถึงไม่พอใจ ?

     

     

     

     

     

     

     

    อย่าทำหน้างั้นซีพี่นท... ไม่ได้ทำงานด้วยกันก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่เจอกันสักหน่อย

     

    สุดท้าย แอปเปิ้ลก็ทนนั่งยิ้มและมองเฉยๆไม่ไหว น้องสาวจึงต้องขยับตัวไปใกล้พี่สาวแล้วส่งเสียงห้าวๆปลอบอย่างเข้าอกเข้าใจ ... ให้คนเป็นพี่ได้ขมวดคิ้วจนแน่นและช้อนตาขึ้นมองอย่างตัดพ้อกันแบบนั้น ...

     

    สายตาตัดพ้อที่ทำเอาคนปลอบได้แต่ยิ้มแห้งๆ กระพริบตาปริบๆมองอย่างคนขี้เหวี่ยงที่เปลี่ยนโหมดไปแล้วอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจ ...

     

    เดี๋ยว ... อะไร ? ... มองเธอแบบนั้นทำไม ตารางงานนั่นน่ะ เธอจัดเหรอ ?

     

     

     

     

    เห้ยยย อะไรนั่น ! บวงสรวงละครกุหลาบซาตาน นท จูเนียร์ ว๊าววว ! เยี่ยมไปเล้ยยยย !!!!

     

    เสียงซิลวี่ร้องขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ... แต่ซวยไปหน่อยที่มันผิดที่ผิดเวลา แทนที่จะได้รับรอยยิ้มเผล่แสดงความภาคภูมิใจอย่างที่เคยทำ ... สาวสวยหนักจึงได้สายตาเขียวราวกับมรกตจากพี่นทไปแทน ... ตาเขียวปั๊ด

     

    สายตาท่าทางที่ทำแอปเปิ้ลได้แต่แอบปาดเหงื่อกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของพี่นท ... เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ... เดี๋ยวขี้งอน เดี๋ยวเอาแต่ใจ

     

    ใครเขาจะตามทันไหว..

     

     

    เอ่อะ ... พี่นท ซิลพูดอะไรผิดป่ะ ?”

     

    ซิลวี่กระพริบตาปริบๆถามพี่นท ... พี่นทที่ยังจ้องเธอตาเป๋ง ... โอยยย เอาอีกแล้ว มือไม้ไอ้ซิลอ่อนแรงอีกแล้ว พี่นทจ้องเอาๆเหมือนจะฆ่าเธออีกแล้ว

     

     

    ไม่ผิด แต่ไม่อยากฟัง

     

    จบแค่นั้น ! นทก็ตวัดสายตาเหวี่ยงๆรอบทิศแล้วเดินแหวกวงแยกเข้าห้องนอนส่วนตัวไปอย่างหงุดหงิดเกินจะทน ... ไม่อยากจะอยู่ต่อให้ยิ่งอารมณ์เสียต่อไปอีกแล้ว ... นททิ้งสามสาวเอาไว้กับตัวต้นปัญหาหนึ่งแผ่น ปล่อยให้ซิลวี่ กวางและแอปเปิ้ล หันหน้ามองกันไปมาอย่างเพลียๆ กับอารมณ์ร้ายๆของนทที่อยู่ดีๆมันก็เกิดขึ้น ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นจากจุดไหน

     

     

     

    “....เฮ้อออ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

    อ้าวแอป ซิลกับพี่กวางกลับแล้วเหรอ ?”

     

     

    ตกค่ำ คนขี้เวี่ยงที่เพิ่งได้ฤกษ์โผล่ศีรษะออกจากห้องก็ส่งเสียงถามน้องสาวคนเดียวที่นั่งพลิกนิตยสารอยู่ด้วยน้ำเสียงอึนๆ ผมเผ้าฟูๆนั่นถูกเกาซ้ำไปซ้ำมาจนมันยิ่งฟูให้คนเดียวที่เหลือในห้องได้เผยรอยยิ้มจางๆด้วยความเอ็นดู

     

    แอปเปิ้ลวางนิตยสารฉบับนั้นลง ก่อนจะลุกขึ้นอ้อมโซฟาไปยังโต๊ะวางของกระจุกกระจิก แล้วหยิบหวีอันเขื่องขึ้นมาอย่างคนที่คุ้นเคยกับทุกซอกทุกมุมในห้องนี้ดี

     

     

    ค่ะ ซิลกับพี่กวางกลับแล้ว เขาว่าเขากลัวพี่นทเหวี่ยง

     

     

    ฮื้อออ แอปอ่ะ

     

     

    แอปเปิ้ลแอบจิกคนขี้เหวี่ยงเล่นๆก่อนจะเดินไปกดไหล่พี่นทให้นั่งลงที่โซฟา นทเองก็ยอมนั่งแต่โดยดี ก่อนคนสวยจะเริ่มลงมือวางหวีลงบนผมยุ่งๆนั่นแล้วสางมันออกอย่างอดรนทนไม่ได้ พฤติกรรมน่ารักๆที่แอปเปิ้ลทำให้กัน ทำให้คนหัวยุ่งขี้เหวี่ยงต้องแอบอมยิ้มกับตัวเองอย่างพออกพอใจ

     

    มันดีจัง ที่มีคนมาคอยดูแลเอาใจใส่

     

     

    แล้วพี่กวางกับซิลกลับกันยังไง ? แล้วทำไมแอปยังไม่กลับ ?”

     

    นทพยายามเงยหน้าน้อยๆเพื่อถามคนที่ยื่นค้ำศีรษะเธออยู่เพื่อพูดและสบตาไปพร้อมๆกัน แม้มันจะไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไร แต่นทก็ได้เห็นรอยยิ้มของน้องสาวที่เผยออกมาจางๆเมื่อตอบคำถามของเธอ คำตอบบ้าๆที่เจือจางความกวนประสาทเอาไว้อย่างเข้มข้น

     

     

    กลับแท็กซี่ค่ะ ส่วนแอปยังไม่กลับเพราะกลัวพี่นทออกมาโวยวายเสียงดังให้เขาตกใจกันทั้งคอนโด …”

     

     

    คำตอบนั่นทำนทเริ่มหน้างอขึ้นมาอีกที จริงเรอะ ? เธอขี้เหวี่ยงจนคนเขากลัวกันปานนั้นเลยหรือไง

     

     

     

    จริงๆนะคะ แอปกลัวพี่นทออกมาไม่เจอใครแล้วโวยวายจริงๆนะ

     

    ฮื้อออ ! พี่เป็นคนแบบนั้นหรือไงเล่าแอปเปิ้ล !

     

     

     

     

     

     

     

    ดูเอาสิ คนขี้โวยวายเริ่มทำท่าทางบ๊องๆใส่เธออีกแล้วนะ

     

    แอปเปิ้ลได้แต่เงียบไม่ตอบ ได้แต่หวีผมยุ่งๆของพี่นทไปเรื่อยๆอย่างอิ่มเอิบในใจ ก็เอาเถอะ ถึงคนตัวเล็กตรงนี้จะขี้โวยวายยังไงก็ช่าง อย่างน้อยเธอก็เป็นข้อยกเว้นของพี่นท อย่างน้อยเธอก็เป็นคนเดียวที่พี่นทไม่เคยโวยวายใส่กันเลยสักครั้ง

     

     

    มีก็แต่ท่าทางจะงอนกันอยู่บ่อยๆน่ะแหล่ะ ไม่รู้ทำไม

     

    ว่างๆ เธอคงต้องแย็บถามดูสักครั้งแล้วล่ะ คนบ๊อง !

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    . 

    .

     

     

     

     

     

    ฝากติดตามผลงานล่าสุดของนทกับพี่เนียร์ด้วยนะคะ ซิงเกิ้ล อยากจะรู้ ประกอบละครกุหลาบซาตาน ออกอากาศทางช่อง5 ทุกวันจันทร์ถึงพฤหัส เริ่มวันที่ 7 พฤศจิกานี้ค่ะ…”

     

     

     

     

    ประโยคซ้ำเดิมที่นทต้องพูดทุกวันเป็นเวลากว่าเดือน กำลังหลอกหลอนประสาทเธอจนคนทำงานหนักแทบจะสลบสไลไปด้วยความเหนื่อยอ่อย เพลียกับงานที่หนักขึ้นและหนักขึ้นทุกวัน เธอเพิ่งกลับจากสวิสได้ประมาณสองอาทิตย์ ไอ้การถ่ายละครมันก็เริ่มจ่อคอหอย เสียงที่เริ่มพูดถึงอัลบั้มเดี่ยวของเธอที่ดูจะเป็นจริงเป็นจังในเร็ววัน งานโชว์ตัวหนักๆที่บ้างก็ต้องไปแบบเหงาๆคนเดียว บ้างก็มีเพื่อนร่วมค่ายไปแชร์ความล้า ทุกอย่างประดังประเดเข้ามาจนคนดังเริ่มจิตใจอ่อนแอ

     

    แม้ทุกอย่างจะเป็นสิ่งที่เธอรักและต้องการมาตลอด แต่เธอไม่ใช่คนเหล็ก ไอ้เรื่องเหนื่อยล้านี่มันเกิดขึ้นง่ายแบบสามัญมากนะ !

     

     

     

    โอ้ยยยยยย…”

     

     

    นทหลับตาแล้วเอนหลังลงกับเตียงนอนไซส์บิ๊ก ปล่อยอารมณ์ความรู้สึกให้คิดไปในสิ่งที่อยากจะคิด เธอออกจะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ เมื่อก่อน ที่เธอยังเป็นแค่หนึ่งในแปดคนจากบ้านเดอะสตาร์เจ็ด ยังมีเพื่อนคอยพูดกันคุยกันตลอดการทำงาน ลดทอนความเหนื่อยและเพิ่มความสุขให้ได้มีรอยยิ้มเปื้อนหน้าจากการได้ทำในสิ่งที่รัก แต่เดี๋ยวนี้ เธอเป็นศิลปินหญิงเดียวเดี่ยวโดดของค่าย ไอ้โอกาสที่จะได้พบปะคนคุ้นเคยกันก็น้อยลงเต็มที มีก็แต่พี่เนียร์เท่านั้นที่เบื้องบันได้ขีดเส้นให้มาพบกัน แต่ก็แค่นั้น

     

     

     

    เธอยังจำได้ ยังจำบรรยากาศงานรวมตัวครั้งสุดท้ายของเราได้อยู่เลย

     

     

     

     

     

     

     

    พี่นท…”

     

    เสียงห้าวหาญชาญชัยของน้องผลไม้ของเธอ ดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่กว้างเต็มสีหน้า มันจบลงแล้วกับภาระการโชว์ตัวต่อหน้าประชาชนนับพัน ที่นี่เป็นหลังเวที หลังเวทีที่มีเราแปดคน หลังเวทีที่มีคนพลุกพล่าน หลังเวทีที่เหล่าทีมงานวุ่นวายไปหมด และหลังเวทีที่มีเธอกับแอปเปิ้ล ยืนยิ้มให้กัน ประจันหน้ากัน และกำลังคุยกันด้วยสายตาในตอนนี้

     

     

    ยิ้มอะไรน่ะแอป งานเราเสร็จแล้ว ดีใจมากหรือไง ?”

     

    ไม่รู้ว่าทันทีที่ได้เห็นแอปเปิ้ล วิญญาณผีบ้าตัวไหนมันเข้าสิงเธอ อารมณ์เธอจึงได้เปลี่ยนปุบปับมาเป็นคนขี้น้อยใจได้แบบนี้ และก็ไม่รู้แอปเปิ้ลเด็กกว่าเธอหรือโตกว่าเธอเป็นสิบๆปีกันแน่ ถึงได้ยังคงยิ้มหวานระคนเอ็นดูและอดทนกับพฤติกรรมบ้าๆของเธอแบบนั้น

     

    ฮือออ รู้ไหม ? ต่อจากนี้ไป มันจะไม่มีอะไรแบบนี้ให้เห็นกันอีกแล้วนะ

     

     

     

     

     

     

    ไม่มีแล้วนะ

     

     

     

     

     

    เธอจะไม่ได้เหวี่ยงวีนงี่เง่างอแงและโวยวายเรียกร้องความสนใจจากใครแล้วนะ

     

     

     

    พี่นทท…”

      

     

    คนที่ทำตัวโตกว่าเธอในทุกอย่างทุกทาง เรียกชื่อกันเสียงยานคางงงงง พร้อมกับเอามือน้อยๆนั้นมากุมมือเธอไว้อย่างคนที่กำลังจะบอกลากัน เธอเคยเห็นฉากแบบนี้ในละคร ในเอ็มวี หรือในอะไรสักอย่างที่มันจะมีความซาบซึ้งและเสียน้ำตา ! แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอวาดหวัง ไม่ใช่ที่นี่ ไม่ใช่ตอนนี้และไม่ใช่กับคนนี้

     

    แอปเปิ้ลจะบอกอะไรเธอ เธอไม่อยากฟัง ไม่พร้อมฟังนะ !

     

     

     

     

    ทีนี้ เราก็จะไม่ค่อยได้ทำงานด้วยกันแล้ว …”

     

    มันเป็นประโยคเกริ่นนำที่ทำเอาคนบ๊องของแอปเปิ้ลต้องเริ่มแบะปาก และผลไม้ลูกแดงๆของนทก็เริ่มยิ้มหวานเฉียบอีกครั้ง

     

     

     

     

    พี่นทอย่าไปเผลอขี้เหวี่ยงใส่ใครที่ไหนนะ ถ้าไม่ใช่แอป ไม่ใช่ซิล ไม่ใช่พี่กวาง แอปก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาจะเข้าใจที่พี่นทเป็นหรือเปล่า

     

     

    คนเป็นน้องเตือนคนเป็นพี่อย่างสุดจะหวังดี มือที่กุมกันไว้หลวมๆบีบเข้าหากันแน่นอย่างต้องการถ่ายทอดความรู้สึกดีดีให้กันจากใจถึงใจ สองตามองกันและต่างยิ้มให้กันอย่างเข้าอกเข้าใจ นทเพิ่งจะรู้เอาตอนนี้ ว่าส่งที่เธอกำลังจะเจอมันไม่ใช่ความเศร้า มันเป็นความสุขสีหม่นที่คนแบบนทไม่เคยต้องการ

     

    และถ้าเธอยังยืนยันจะแบะปากแบบคนบ๊องๆคนนึง มันก็จะยิ่งเป็นความสุขที่ใกล้เคียงกับสีดำไปมากกว่านี้

     

     

     

    “โถ่แอป ถึงเหวี่ยงก็รักนะ

     

    และถ้าคิดจะบ๊อง ก็คงต้องบ๊องให้สุด นทจึงทำหน้าที่ศิลปินที่ดีด้วยการเล่นมุขกากๆขายเพลงให้ต้นสังกัดเฉยๆเสียแบบนั้น แต่ใครล่ะจะรู้ ในประโยคเสี่ยวๆของเธอน่ะ มันแฝงไปด้วยความรู้สึกมากมาย ประโยคที่เหวี่ยงก็รัก เสี่ยวก็รัก และไม่ว่ายังไง เธอก็จะรักไปแบบนั้น

     

     

    นทยิ้มเขินๆ เขินที่เห็นอีกคนหรี่ตามองเธอเหมือนผู้ใหญ่จ้องเด็กน้อยๆที่รั่วเหมือนกระทะโดนตอกตะปู

     

    เขินที่อีกคน จู่ๆก็หน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ เหมือนจะเขินเธอแบบนั้น

     

     

    “โอ้โฮแฮะ แหมๆๆๆๆ เดี๋ยวนี้เสี่ยวนะ ไม่เหวี่ยงแล้วแต่จะเสี่ยวแทนใช่ไหมคะ !?

    แอปเปิ้ลแซวพี่นทกลับเสียงแห้งๆ แห้งเพราะเธอเองก็รู้สึกแปลกๆกับมุขเสี่ยวๆแบบนั้นของพี่นท มุขที่ไม่ได้ยินจากคนคนนี้บ่อยนัก ใครจะไปกล้าคิด ว่าคนขี้เหวี่ยงอยู่ดีดีก็จะกลายมาขี้เล่นได้ง่ายๆแบบนี้

     

     

    นทยิ้มหวานอีกที แก้เขินอีกที เมื่อเธอปล่อยประโยคสุดท้ายออกไปให้คนฟังได้อึ้งอิมกี่

     

     

    “จะเหวี่ยงจะเสี่ยวก็กะแอปคนเดียวแค่นั้นแหล่ะ จริงๆนะ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    นทหลับตานึกแต่ละภาพ แต่ละภาพ แล้วเธอก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ สิ่งที่เธอและแอปเปิ้ลเป็นมันช่างสวยงามและหอมหวานเกินกว่าจะลืม และมันก็ยังเป็นพลังใจให้เธอได้ดำเนินชีวิตต่อไปในทุกวัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตลอดเวลาที่มีแอปเปิ้ลอยู่ข้างกันในชีวิต เธอไม่เคยแน่ใจเลยกับความรู้สึกของตัวเอง จนเมื่อต้องมาห่างเหินกัน เมื่อต้องมาแยกจากกันไปนานๆ โดยมีภาระและเวลากันเราให้ห่างกันไปจนแทบไม่มีได้พบกัน

     

    นานสุดที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน ก็แค่เดินผ่านที่ตึก หรือขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกัน มันมีช่วงเวลาให้เธอและแอปเปิ้ลแค่นั้น

     

     

     

     

     

    เธอมาแน่ใจว่าเธอคิดยังไง ก็ตอนที่ เธอหันไปทางไหนก็เห็นแต่หน้ากลมๆผมสวยๆของแอปเปิ้ล เห็นแต่รอยยิ้ม เห็นแต่ภาพของแอปเปิ้ลในทุกที่ที่ไป

     

     

    มันเพ้อเจ้อ เธอเหมือนโดนสะกดใจ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    นทยกแขนขึ้นก่ายหน้าผาก ไม่ว่าจะกิน ไม่ว่าจะนอน จะหลับตาลืมตา อะไรอะไร ยังไงภาพแอปเปิ้ลก็จะเข้ามารบกวนให้เธออยู่สุขไม่ได้ แต่ใจเธอเป็นสุข

     

     

     

     

    การคิดถึงแอปเปิ้ลทำให้เธอยิ้มได้ แม้วันทั้งวันจะหนักหนามาแค่ไหน

     

     

    และเธอยืนยัน จะยิ้มให้กับตัวเอง ยิ้มให้กับความคิดเล็กๆของเธอแบบนี้ต่อไป

    เธอจะไม่มีวันปล่อยความรู้สึกหอมหวานนี้ไปไกลจากหัวใจเธอเด็ดขาด

     





    _________________________________________________





    มันคือความรัก เป็นฟิคสั้นขนาด 4-5 ตอน
    ที่ไม่มีแนวคิดและจุดขายอะไรเลย
    นอกจากต้องการหยิบความเบาและหวานมาเบรคความหน่วงจาก tbc
    ที่ทุกคนกำลังถามกันมาว่ามันจะดราม่าแล้วใช่ไหม 5555

    ไม่ตอบแล้วกัน ไปดูเอาเอง
    จุ้บๆ -3-


    เลิฟยูออล จิบิ :D

    ปล tbc จะอัพในเร็ววัน
    ปล2 อวยพรให้ลูกไม้ได้แกทเยอะๆด้วย
    ปล3 รีบๆอวยพรกันซะ ถึงมันจะสอบตุลาก็เถอะ
    ปล4 ถ้าทุกคนไม่อวยพรลูกไม้คงต้องหยุดอัพฟิคไปอ่านหนังสือและอวยพรตัวเอง #อะไร !
    ปล5 ทั้งหมดน่ะล้อเล่นค่ะ 5555


    ฝันดีแขร่บบบ 

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×