ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TS7] โปรดติดตามตอนต่อไป... #noteapp'

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 3 หนูน้อยหมวกแดง

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 55


      

     

    "ทำอะไรไปล่ะ..."

     

    "คะ..."

     

     

     

    "ไม่สิ จะไปทำอะไร แกรนด์น่ะ จะไปทำอะไร ?"

     

    มันอาจเป็นเพราะเขาไม่สบายใจและสับสนชั่วขณะ ไอ้คำไทยง่ายๆที่ใช้เป็นประจำในชีวิตจึงติดขัดสลับกันไปมาอย่างน่าตลก...  คุณเบิร์ทยกมือขึ้นลูบศีรษะที่ไร้เส้นผมอย่างเขินๆ กับสายตาของหญิงสาวชาวไทย ที่เพิ่งรับรางวัลการใช้ภาษาไทยดีเด่นไปหมาดๆ มองเขาอย่างกึ่งตำหนิกึ่งขำ ... อายจริงๆ

     

    "ไปหาโลเคชั่นละครเรื่องใหม่ค่ะ ... ที่จริงก็มีทีมที่จะทำด้วยกันขึ้นมาวีคหน้า แต่วันนั้นแกรนด์เผลอเช็คอินที่นี่ไป เขาเลยรู้กันหมดว่าอยู่เหนือ เลยได้งานทั้งทีมมาทำคนเดียวเลยค่ะ ฮ่ะๆ" หญิงสาวเล่าพร้อมกับหัวเราะอย่างตลกในความเบ๊อะของตัวเอง ... นทเตือนเป็นสิบเป็นร้อยครั้งให้ปิดมือถือเสีย อย่างน้อยๆก็เพื่อความเป็นส่วนตัวที่หาได้ยากที่สุดเมื่ออยู่กรุงเทพ แต่เธอก็เผลอเปิดมือถืออยู่ในโลกออกไลน์จนได้ ...

     

    ทำไงได้ล่ะ ... เธอไม่ได้โด่งดังคับฟ้าเหมือนคุณนทนี่นา ถึงขยับซ้ายทีเป็นเงิน ขยับขวาทีเป็นทองได้น่ะ...

    เงินของเธอมาจากความพยายาม ความคิด และก็เรี่ยวแรงทั้งนั้น

     

     

     

    คุณเบิร์ทฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ในหัวของเขานอกจากจะต้องเรียบเรียงคำที่จะพูดแล้ว ... มันยังมีมวลความเครียดก้อนหนึ่งหลั่งเวียนวนไปมาอยู่ด้วย ...

     

    คนเป็นพ่อก็แบบนี้ รู้ว่าลูกไม่สบายใจ ... จะให้เขาสบายใจมันก็คงไม่ได้

     

     

    "ดอย ?"

    คุณเบิร์ทถามสั้นๆ .. ในหัวยังกังวลกับเรื่องลูกสาว ที่เขาไปแอบรู้มาอย่างไม่สามารถสลัดออกไปได้

     

     

     

     

    เมสเสจยาวๆในไอโฟนแอปเปิ้ล ... เขาหยิบขึ้นมาดูเพื่ออ่านมัน ... เพื่อดูที่มาแล้วก็ต้องขมวดคิ้วอย่างไม่สบายใจ ... งานเขียนคอลัมน์บรรยายชีวิตส่วนตัวระยะยาวสามสิบห้าปักษ์ ... ค่าตอบแทนต่อหนึ่งปักษ์ไม่ใช่น้อยๆจนไม่น่าปฏิเสธ ...แต่กับคนภาษาไทยไม่แข็งแรงอย่างแอปเปิ้ล ดูเอาสิ เขาควรเครียดไหม ?

     

    ถึงว่า แอปเปิ้ลถึงได้มีเวลาว่างกลับมาหากันได้ ที่แท้ ก็งดรับงานหนึ่งอาทิตย์เพื่อจะเขียนคอลัมน์ส่งหนังสือนี่เอง

     

     

    "ที่จริง เป็นฟาร์มโคนมน่ะค่ะ ... เพราะแกรนด์เขียนเรื่องนี้ที่นี่"

    หญิงสาวเปิดปากบอกคุณเบิร์ทอย่างเขินๆ ... ที่เอาที่แห่งนี้เป็นโลเคชั่นหลักในนิยายของเธอ เรื่องที่เพิ่งได้ถูกเลือกทำละครกับทีมงานที่สนิทสนมกันแน่นแฟ้น... แกรนด์หมุนสายตาไปรอบทิศเพื่อรับเอาความสวยงามนั้นไว้ในสายตา ที่นี่สวยและเป็นส่วนตัว สงบและชวนให้สบายใจเมื่อได้พักพิง คงไม่แปลกที่เธอวาดภาพพระเอกผู้เดียวดายคนนั้นให้เป็นพ่อเลี้ยงใหญ่แห่งฟาร์มนี้ ใช้พระเดชพระคุณที่มีมากล้นปราบลูกน้องตัวแสบนับร้อยเสียอยู่หมัด ... ก่อนที่เขาจะได้พบผู้หญิงคนหนึ่ง ... คนที่จะมาเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตของเขา ให้เปลี่ยนไป

    คิดดูสิ ภาพในฝันแบบนั้น ไม่ใช่ที่นี่ จะเป็นที่ไหน...

     

    แต่เธอก็รักที่นี่มากพอที่จะไม่ยอมให้ใครมากร้ำกรายความสงบ สะอาดของมัน ... และเธอก็รู้ดีว่าคุณเบิร์ทไม่พิสมัยการเปิดฟาร์มต้อนรับใครๆมากมายนัก

    แค่ที่ยอมให้เธอมาพักพิง ... ในฐานะคนรักของเพื่อนสนิทของเขา ... นั่นก็ถือว่ามากพอแล้วสำหรับการให้ความช่วยเหลือในการเฟื่องฟูจินตนาการ

     

    "อ้าว ... แล้วทำไมไม่เป็นที่นี่ ?"

     

    คุณเบิร์ทถึงกับขมวดคิ้วสีเทานั่นเข้าหากันทันทีที่รับฟังสถานที่ที่อีกคนตามหาจบ ...

    ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองไปรอบทิศอย่างฉงน หรือที่นี่ไม่ใช่ฟาร์มโคนม ?

     

    "แกรนด์เกรงใจค่ะคุณเบิร์ท ยิ่งที่นี่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แกรนด์ยิ่งเกรงใจ... ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฟาร์มในเชียงรายที่เปิดตลอดคงยังมีอีกเยอะ"

     

    คำตอบของแกรนด์ กับรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าไม่ต้องกังวลแบบนั้น ... ทำให้เขาได้แต่พยักหน้ารับคำ แล้วเดินตามทางเรื่อยเปื่อยไปส่งเธอที่รถเก๋งของนทที่จอดรออยู่... พอรู้ว่าแกรนด์ต้องไป เขาก็นึกสงสารนทจับใจ ... เพื่อนคนเดียวของเขารอคอยเธอคนนี้แทบทุกลมหายใจ เขายังจำรอยยิ้มตื่นเต้นตอนที่เธอมาถึงได้ ... นทคงรักผู้หญิงคนนี้มากจริงๆ

     

    หากเขาจะยอมให้เธอใช้ที่นี่ ... มันจะดีหรือเปล่า ?

     

     

     

     

     

     

    แล้วจู่ๆ ความคิดบางอย่างก็ลอยวูบเข้ามาให้เขาได้ตัดสินใจ ... เรื่องที่เขานึกเครียดก็เหมือนจะค่อยๆคลี่คลาย ... เขารู้จักนักเขียนมือทองอยู่ทั้งคน จะต้องเสียเวลาปวดหัวทำไมในเมื่อมีคนพอจะช่วยได้ ...

     

    มันคงไม่ยากลำบากเกินหากเขาจะให้ผู้ได้รับรางวัลการใช้ภาษาไทยดีเด่นหมาดๆคนนี้.. มาช่วยเทรนด์การเขียนอ่านให้ลูกสาวเขาบ้าง ตอบแทนที่เขาจะคืนความเกรงใจให้เธอ แล้วมอบพื้นที่ในฟาร์มให้ทำอะไรได้ตามใจ

     

    มือคุณเบิร์ท ยื่นไปรั้งไหล่เธอเอาไว้ ... ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนประกายจัดจ้าอย่างยินดี ... เขาไม่รู้หรอกว่าเธอจะตอบว่ายังไง แต่เขาไม่มีวันปล่อยให้หนึ่งในไมกี่คนที่สามารถช่วยลูกสาวเขาได้ ต้องล่องลอยหลุดมือไปแน่

     

    "ทำอะไรก็มาทำที่ฟาร์มผม กี่วีคก็ได้..."

     

    คุณเบิร์ทเอ่ยเสียงใส ... ส่งผลให้คนฟังถึงกับชะงัก หรี่ตามองคุณเบิร์ทอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไร ?

     

    "ผมยกฟาร์มให้ถ่ายได้ ... แต่ให้แกรนด์ช่วยผมนิดหน่อย ได้ไหม ?"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

    "แสบตา..."

     

    มันคงเป็นเพราะเธอเงียบ ... พี่สาวยิ้มสวยข้างๆเงียบ และโลกทั้งใบก็เงียบ ... บรรยากาศมันจึงเหงาราวกับไม่มีใครนั่งอยู่ ... แอปเปิ้ลไม่ชอบเลยกับความรู้สึกแบบนี้ เธอถึงได้บ่นออกไปทั้งที่แดดมันก็ไม่ได้แรงอะไรนัก ...

     

    เธอแค่อยากให้คนข้างๆสนใจ... แบบไร้เหตุผล

     

    "ใส่หมวกเข้าสิหนูน้อย..."

    พี่สาวคนนั้นเอื้อมผ่านเธอไปคว้าหมวกย้วยนั่นเข้า ... แล้วก็ยื่นมันให้เธอพร้อมยิ้มหวานให้ แอปเปิ้ลรับมันมาวางแปะบนหัวตัวเอง .. ดึงมาปิดๆหน้าอย่างว่าง่าย แดดที่เหมือนจะแกล้งแยงตาเธอถูกเจ้าหมวกใบน้อยบังเอาไว้ได้สมหน้าที่ ... ให้แอปเปิ้ลได้ยิ้มแฉ่งอย่างชอบใจ

     

    หันมองหน้าพี่สาวยิ้มหวานข้างๆ ก็พบว่า เธอยังไม่ละสายตาจากเธอไป...

     

    มองอะไรอ่ะ ...

     

     

    "หมวกแดง 555555555."

    และพอพี่สาวคนนั้นพูดออกมา ... พร้อมเสียงระเบิดหัวเราะลั่น อารมณ์ดีดีของเธอก็เหมือนจะถูกกวนให้ขุ่นทันที... คนที่ยิ้มหวานให้เธอเปลี่ยนเป็นหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง ชี้ไม้ชี้มือมาที่หมวกย้วยของเธออย่างไม่เก็บอาการ ! อะไรเนี๊ยะ แอปเปิ้ลถลึงตามองพี่สาวคนนั้น พร้อมกับส่ายหน้าไปมาหาความปกตที่น่าจะมี ... แต่ก็ไม่พบอะไร !!  เฮ้ย ... เธอแค่ใส่หมวกสีแดง มันตลกมากเลยหรือไงนะ ...

     

    "พี่ขำแอปทำไมเนี๊ยะ"

    แอปเปิ้ลบู้ปากจนหมดสวยแล้วดึงหมวกแดงออกจากหัวอย่างหงุดหงิด ... พลิกมันไปมาก็ไม่เห็นมันจะผิดปกติตรงไหน แค่หมวกสีแดงธรรมดาเนี๊ยะ มันตลกอะไรเล่า ?

     

    หรือว่าเธอกำลังนั่งคุยอยู่กับคนบ้า

     

    "ก็ ... ก็พี่นึกว่าหนูน้อยหมวกแดงจะมีแต่ในนิทานนี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า..." เสียงพี่สาวที่ยังคงตั้งมั่นอยู่ในการหัวเราะแบบเต็มสตรีม ดังอธิบายพร้อมกับยกมือกุมท้องบิดตัวไปมา ... ลักษณะท่าทางเหมือนคนปวดท้องใกล้ตาย แต่ไม่ใช่ ! นั่นเหมือนคนหัวเราะใกล้ตาย ... หัวเราะเธอจนอยากหมวกแดงนี่อุดรูจมูกให้ตาย !

     

    หนูน้อยหมวกแดง ... ขำอะไรเธอไม่เข้าใจ

     

    สองมือที่จับหมวก ... แอปเปิ้ลโยนมันทิ้งไว้แล้วเปลี่ยนมันมากอดอกตัวเองแน่น ดวงตาใสแจ๋วแบบเด็กดื้อจ้องเป๋งที่พี่สาวยิ้มสวยคนนั้นนิ่งๆ ท่าทางเหมือนเด็กน้อยขี้งอนทำคนกำลังหัวเราะดังเงียบลงได้ทันควัน ... ให้ตายสิ หนูน้อยคนนี้จ้องเธอราวกับจะสะกดเสียงหัวเราะให้เงียบลงไปในเสี้ยววินาที

     

    เหมือนแม่มดตัวร้ายในเทพนิยายอย่างไรอย่างนั้น ?

     

    "โอเคๆ อย่ามองพี่แบบนั้น เลิกหัวเราะแล้วก็ได้น่ะ คิกคิก"

    แต่เรื่องที่ยังน่าตลกมันก็ยังห้ามไม่ได้ นทหลุดหัวเราะออกมาเบาๆพอให้ไม่อึดอัดตัวเองจนเกินไป ... สายตาอีกคนที่มองเธอ มันยังน่ากลัวอยู่เลย ... นทได้แต่มองหมวกใบนั้นแล้วอมยิ้มชอบอกชอบใจ ไม่ตลกหรือไงเล่า ? ที่อยู่ดีดีเธอก็มาเจอเด็กแปลกหน้า ... หน้าตามอมแมม นั่งทอดหุ่ยอยู่ใต้ต้นไม้ แถมยังใส่หมวกสีแดง ... เห็นหรือยัง คุณสมบัติพวกนี้มันต่างกับหนูน้อยหมวกแดงที่ไหน ?

     

    แล้วยิ่งทำหน้ามู่ทู่ก็ยิ่งน่าตลกเข้าไปใหญ่ ...

    แม่หนูน้อย ... หมวกแดเอ๊ย

     

    "หนูน้อยหมวกแดงคืออะไรคะ แอปไม่เข้าใจ ..."

     

    แอปเปิ้ลกระพริบตาวิบวับมองพี่สาวแปลกหน้าอย่างอยากจะรู้ ... กับคำยาวๆแสนคุ้นหูที่เธอไม่ค่อยจะเข้าใจมันนัก ... อาจเพราะเธอไม่ได้โตในเมืองไทย บางที ไอ้ประโยคเมื่อกี๊มันอาจเป็นโจ๊กเฮฮาของคนไทยก็ได้ ...

     

    อยากรู้เลยต้องถาม เผื่อมีครั้งหน้า ถ้าใครพูดถึง เธอจะได้เข้าใจ...

     

     

    นทถึงกับชะงักไปนานเมื่อได้ยินคำถามใหม่ ... คำถามที่น่าตลกที่สุดเท่าที่เคยได้ยิน หนูน้อยหมวกแดง คืออะไร ? ให้ตาย ... เด็กอนุบาลที่ไหนก็คงไม่ถามเธอแบบนี้

     

    "อ๋อ ใช่สิ ... หนูไม่รู้จักหนูน้อยหมวกแดงใช่ไหม ?"

    แต่แล้วนทก็ได้ฤกษ์ร้องอ๋อ ... เมื่อสำนึกถึงสำเนียงภาษาอังกฤษชัดเปรี๊ยะและเสียงไทยแปร่งหู ที่ฟังยังไงก็ไม่ใช่คนไทยพูดได้ ... ส่งคำถามใหม่ ที่ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าหงึกหงักของ 'ภาพจำลองหนูน้อยหมวกแดง' ตรงหน้า... หนูน้อยคนนี้แสดงความไม่รู้ออกมาชัดเจน ชัดจนนทต้องเริ่มประมวลในหัวให้ออกมาเป็นชื่อนิทานภาษาอังกฤษ ด้วยคำที่จะตีแตกกลางประเด็น ให้หนูน้อยคนนี้เข้าใจมันมากที่สุด

     

    "แล้วรู้จัก อ่า ...   A little girl with red hood  ไหม ?"

    ชื่อนิทานมันวนๆสับสนอยู่ในหัว ... นทตีความออกมาในรอบแรกได้ไม่เฉียบขาดเท่าไรนัก ... ส่งผลให้คนรอฟังคำตอบ ต้องหน้ายุ่งยิ่งกว่าเดิม จ้องตาพี่สาวยิ้มหวานตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจ ...

     

    นทยกมือขึ้นเกาหัวแกรกอย่างจนปัญญา ... ชื่อภาษาอังกฤษของไอ้นิทานชื่อดังเรื่องนี้มันติดอยู่ที่ลิ้นปี่นี่แหล่ะ เธอยังเอาออกมาไม่ได้ ... มันอะไรว้ะ

     

    คนรู้เรื่อง ... หันมองหน้าคนไม่รู้เรื่องแล้วมองหน้าหนูน้อยมอมแมมเหมือนเป็นนิทานหน้าหนึ่ง...

     

    "Ahh ... Do you know a fairytale name Little red ridding hood ?"

     

    ริมฝีปากสีชมพูอ่อน เริ่มขยับน้อยๆ ส่งประโยคที่กลั่นกรองด้วยสกิลด้านภาษาที่มีอยู่ไม่มากเท่าไร ส่งถามอีกคนที่ยังคงนั่งมองเธอตาใส ... แต่ละคำนทพูดออกมาช้าๆ เลือกมันมาวางลงประโยคอย่างใส่ใจ ... เรื่องเล็กที่อีกคนอยากจะรู้ และเธออยากให้รู้... นทพิถีพิถันในการอธิบาย ตาแป๋วแหววจ้องมองเธออยากมีความหวัง

     

    'ภาพจำลองหนูน้อยหมวกแดง' ของเธอ ... เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้กัน จ้องกัน ... ตอกย้ำให้นทรู้ว่าเรื่องนี้เธอเลี่ยงอธิบายไม่ได้

     

    เรื่องราวที่ไม่ได้อ่านมาเนิ่นนาน ถูกเรียกขึ้นจากลิ้นชักความทรงจำมาเป็นฉากๆ .... หนูน้อยหมวกแดง หมู่บ้านเล็กๆ คุณยาย หมาป่า อะไรต่อมิอะไร... ให้สมองได้ทำงานด้วยการเปลี่ยนภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษอีกที ... เรียบเรียงจนมั่นใจ... ก่อนจะเริ่มบรรยายมันออกไป ด้วยน้ำเสียงสูงต่ำที่เหมือนกับการเล่านิทานให้เด็กตัวน้อยฟัง...

     

    เพียงเปลี่ยนจากเด็กตัวน้อย ... เป็นเด็กสาวตัวน้อยหน้ามอมแมมคนนี้แทน

     

    "It's about a little girl like you." ประโยคแรก นทชี้นิ้วไปจิ้มปลายจมูกคนที่ยื่นหน้ามาใกล้เธอ อย่างนึกเอ็นดูเบาๆ...

     

    ให้หนูน้อยมอมแมมหัวเราะน้อยๆ ... แต่ก็ยังคงตั้งมั่นจะจ้องตาเธอ รอฟังเรื่องราวอยู่ตรงที่เดิม...

     

     

     

    "She live in a little village . Always wear a red hood , red dress."

     

     

    "That day , she have to walk across the forrest to meet her grandmother and gave something to her.  ."

     

     

    เรื่องราวในตอนแรกเริ่มดำเนินไปอย่างน่าประทับใจ ... นทก็ไม่รู้ว่าทำไมหนูน้อยหมวกแดงเวอร์ชั่นนี้ถึงได้ถูกย่อให้สั้นนัก แต่ก็เถอะ นทเชื่อว่าเธอเก็บรายละเอียดได้ครบครันพอจะกระตุ้นความทรงจำของเด็กนอกหน้าไทยคนนี้ได้บ้างไม่มากก็น้อย ...

     

    ยิ้มหวานของนท ถูกหยิบขึ้นมาวางบนใบหน้าอีกครั้ง เมื่อเริ่มรู้สึกว่าดวงตาของเด็กน้อยตรงหน้า เริ่มจะทำปฏิกิริยายบางอย่างกับเธอ ... มากจนเกินไป

     

     

    คำถามที่แฝงบางอย่าง ... มันคงไม่ใช่แค่เรื่องราวที่เธอเล่าไป

     

     

    "Do you get it ?"

     

     

    แอปเปิ้ลกระพริบตาเสี้ยววินาที ... กระตุกมุมปากน้อยเป็นรอยยิ้มอย่างอ้อยอิ่ง รอยยิ้มที่น่าหลงใหล ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าเธอ นิ่งแน่นอนอยู่ใกล้เธอ ให้เธอได้จ้องมอง ได้บันทึก ได้เก็บเอาความหวานของรอยยิ้มนี้เก็บใส่พื้นที่ความทรงจำ ที่ว่างเว้นจากความสุขไปแสนนาน...

     

    ความสุขเกิดขึ้นลอยระเรื่อ ในหัวใจ...

    "Aha... i get"

     

    ประโยคนั้นถูกขับออกไปเบาๆ ตอบคำถามนั้น... ให้คนตรงหน้าเธอ ได้ยิ้มกว้างขึ้นมา ยิ้มอย่างน่ามองกว่าทุกๆครั้ง...

     

    ตึกตึก ... ตึกตึก ...

     

    ไม่รู้สิ ไม่รู้ทำไมหัวใจเธอถึงเต้นแรงจัง...

    รู้แต่ว่า เธอหลงรักรอยยิ้มนั้น ... หลงรักมัน เข้าไปแล้วล่ะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

     

    "ยังไง แกรนด์จะคุยกับนทให้แล้วกันค่ะ คุณเบิร์ทไม่ต้องห่วง แกรนด์ช่วยน้องแอปได้ทันส่งต้นฉบับปักษ์แรกแน่ๆ"

     

    แกรนด์ยิ้มกว้าง เอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องหนักใจของคุณเบิร์ทเต็มที่ ... หลังจากที่หนุ่มสาวต่างวัยได้ยื่นข้อเสนอที่ต่างฝ่ายต่างพอใจให้กันและกัน ตกลงกันได้เป็นอย่างดี ... ว่าหากแกรนด์รับปากจะเป็นธุระให้ทั้งสามสิบห้าปักษ์ ฟาร์มของเขาก็ยินดีเปิดรับกองถ่ายไว้ได้นานเท่าที่อยากได้ ... แฟร์ๆ และได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

     

    ติดนิดหน่อยตรงที่เธอเองก็ไม่ว่างเท่าไรในช่วงนี้ ... เพราะถึงจะได้ฟาร์มที่นี่เป็นโลเคชั่นหลัก แต่เธอก็ยังต้องเซอร์เวย์ในประเทศแถบยุโรปเพื่อไปปักหลักถ่ายทำที่นั่นอีกราวๆสิบฉาก ... แถมยังมีบทละครทั้งเรื่องที่เธอต้องเขียนให้ทันประชุมรอบแรกในอีกสามอาทิตย์ข้างหน้านี้ ... ดังนั้น ภาระใหม่ที่เธอรับมา จึงต้องถูกผลักไปให้นักคิดคนเก่งของเธอ ... ผู้ที่เธอเชื่อว่าแม่นยำและชำนาญภาษาไทยไม่แพ้เธอแน่ๆ ...

     

    การันตีด้วยหนังสือที่ได้ทั้งยอดขายและรางวัลทะลุแผงขนาดนั้น...

     

    "ขอบคุณครับ"

    คุณเบิร์ทยิ้มกว้าง กล่าวขอบคุณชัดถ้อยชัดคำอย่างสบายใจ ... แผ่นหลังของเขาเอนลงกับพนักพิงเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย ... เอาล่ะ ทีนี้เรื่องแอปเปิ้ลเขาก็หมดห่วง เหลือก็แต่แจ้งข่าวดีให้ลูกสาวเขาแค่นั้นเอง

     

     

    "แด๊ดดี้ !!!!!!!!!!!!"

     

    เสียงใสตะโกนแหวกอากาสเข้าบ้านมาในระยะไกล ... พาให้ผู้ใหญ่สองคนที่กำลังนั่งเพลิดเพลิน สะดุ้งขึ้นมาทันที ...

     

    แต่แล้วในวินาทีต่อมา คุณเบิร์ทก็ส่ายหัวอย่างขำๆ ลูกสาวที่โตแต่ตัวของเขาวิ่งตื๋อมาโน่นแล้ว ...

     

    "แด๊ดดี้ แอปมีเพื่อนใหม่มาให้รู้จัก.."

    เด็กหญิงตัวน้อยของเขามอมแมมจนผู้เป็นต้องผงะ ... หมวกแดงย้วยๆใบโปรดของแอปเปิ้ลถูกวางแปะลงบนโต๊ะแบบไร้ความใส่ใจ รอยยิ้มกว้างของลูกสาวเขาที่ไม่ได้เห็นบ่อยหนัก ถูกยื่นให้เขาพร้อมกับแขนเรียวๆที่พยายามรั้งเขาให้ลุกตามเธอออกไปข้างนอก

     

    คุณเบิร์ทต้องเสียหนึ่งวินาทีนึงเพื่อไปพยักหน้าในเชิงขอตัวจากแขกของเขา ... ให้แกรนด์ได้พยักหน้ากลั้วหัวเราะอย่างเข้าอกเข้าใจ เข้าใจแล้วว่าทำไมคุณเบิร์ทถึงได้บ่นอุบเรื่องลูกสาวนักหนา ... อย่างนี้นี่เอง ลูกสาวเขาโตแต่ตัวแบบนี้นี่เอง

     

    แอปเปิ้ล อิษฏ์อาณิก อินทรสูต ... ดาราสาวชื่อดังที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอตัวเป็นๆก่อนเวลา ... ภายใต้ภาพลักษณ์เชิดหยิ่งน่าหมั่นไส้ ที่แท้ก็เป็นเด็กหญิงน้อยๆคนนึงนี่เอง...

     

    แถมเป็นเด็กหญิงตัวน้อยคนนึงที่ ... น่ารักขี้อ้อนมากซะด้วย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    นทยืนขมวดคิ้วแน่นอยู่หน้าบ้านคุณเบิร์ทอย่างฉงน ... หนูน้อยหมวกแดงของเธอลากเธอกลับมาที่บ้าน บอกว่าจะแนะนำให้แด๊ดดี้ของเธอได้รู้จัก ... และด้วยไม่ทันคิดอะไร นทก็เดินตามหนูน้อยมาเรื่อยๆอย่างสบายอกสบายใจ ... แต่เพิ่งมาฉุกใจเอาตอนที่หนูน้อยพาเธอมาหยุดลงที่หน้าบ้านหลังนี้นี่เอง

     

    และสิ่งที่เธอเห็น กำลังยืนยันเรื่องน่าตลกให้นทแทบหัวเราะไม่ออก...

     

    "นท..."

    คุณเบิร์ทที่ถูกควงแนบแน่นด้วยหนูน้อยหมวกแดง ... เรียกชื่อเธอจากระเบียงบ้านอย่างงงๆ ก่อนที่เขาจะยืนนิ่งให้ลูกสาวทึ้ง เริ่มประมวลความคิดในหัวอย่างสงสัย ... แม่หนูน้อยหมวกแดงตัวน้อยยังคงยิ้มไม่รู้เรื่องรู้ราว ปากเล้กก็ส่งเสียงจ้อยๆเล่าเรื่องที่ไปพบไปเจอเธออย่างอารมณ์ดี แทนตัวเองอย่างน่ารัก ว่าแอปอย่างนู้น แอปอย่างนี้ทุกคำ ...

     

    นทขมวดคิ้วแน่น ... สมองเธอได้ใช้งานอีกครั้งแล้วแน่ๆไม่ต้องสงสัย...

     

    "ผมมีลูกสาวนะนท ชื่อแอป... แอปเปิ้ล"

     

    "เขาน่าห่วง โตแต่ตัว..."

     

    แอป ... แอป ...

    แอปเปิ้ล

     

    "แอปเปิ้ล ?"

    นทพึมพำชื่อนั้นออกมาอย่างคลับคลับคลาในความรู้สึก ... มันเกือบเบา แต่ดังพอจะให้คุณเบิร์ทได้ยิน ...

     

    "ลูกสาวผม ... ยี่สิบเอ็ดขวบ"

     

    คุณเบิร์ทยิ้มกว้าง เต็มไปด้วยแววแห่งความยินดี ... ยินดีที่สิ่งที่เขาตั้งใจจะให้เกิดขึ้น ที่สุดมันก็เป็นจริง ก็พยักหน้ายืนยันคำของเธอ... ให้นทได้หรี่ตาอ้าปากอย่างตกใจ

    ลูกสาวเขา ได้รู้จักกับเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา โดยที่เขาไม่ต้องออกแรงชักจูงให้มาพบกันสักคำ

     

     

    "แอป ... รู้หรือเปล่าว่านั่นใคร ?"

    คุณเบิร์ทกระตุกแขนเรียกลูกสาวแล้วส่งคำถามให้พร้อมรอยยิ้ม... รอยยิ้มของผู้เป็นพ่อที่นึกเอ็นดูลูกสาวตัวน้อยจับใจ

     

     

    ดวงตาใสแจ๋วของลูกสาวจับจ้องผู้เป็นพ่อ ... ให้คุณเบิร์ทได้หัวเราะหึหึ พร้อมกับเฉลยเสียงใส

     

    "นั่นเพื่อนแด๊ดไง ... นทน่ะ"




    "...นท พนายางกูร"








    ตอนนี้แอปไม่เหวี่ยงค่ะ แอปไม่เหวี่ยง 555555.
    แอปไม่เหวี่ยงกะแด๊ด ไม่เหวี่ยงกะ พี่สาวยิ้มสวย

    คิคิ...

    อะไรอ่ะ ใครว่าเราจะส่งพี่แกรนด์ไปไกลๆ เดี๋ยวซี รอแปปนึง
    สุกที่รักของเรา ต้องอยู่กับเรานานๆ จุ้บๆ<3


    ลูกไม้มีคำถาม !!!!!!!!!
    แอปไม่สงสัยเหรอว่าทำไมพี่นทไม่รู้จักตัวเอง เพราะแอปก็ออกจะดัง

    แอ่ด แอ่ดดด !!! (ยกมือตอบ)
    อาจเพราะแอปกำลังมอมแมมได้ที่เลยก้เป็นได้ 555555.



    จุ้บๆ.3
    ไปและ ฝันดีนะคะ


    ปล. คำถามนี้ต้องตอบ...
    "คุณคิดว่าเรื่องนี้ พี่แกรนด์สุดที่รักของลูกไม้ ควรมีคู่หรือยัง ?"
    ตึ่งโป๊ะ !!!!!!!!!!!!

    ขอให้ตอบทุกคน ... ใครไม่ตอบลูกไม้งอน ไม่อัพวับวาวตอนจบแน่
    :P

    ปล2. ไม่มีรูปหนูน้อยหมวกแดง เอาหมวกฟ้าไปแล้วกัน
    สีพี่นทเค้า 555. จุ้บๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×