คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 2 คนแปลกหน้า
มันเป็นยามบ่าย ที่แดดร้อนแรงที่สุดเท่าที่นทเคยสัมผัส ..
ฤดูร้อน จะซุกหัวที่ไหนในเมืองไทยมันก็ร้อนทั้งนั้น ... เคยคิดว่าหลบร้อนมานอนเชียงรายจะช่วยได้ แต่ไม่ใช่เลย ... มันกลับร้อนจนทุรนทุรายกว่าเก่า ตัวร้อน ตาร้อน ใจร้อน ... น้ำที่ซึมในตา ก็รุ่มร้อนไปหมด ... เหมือนฤดูร้อนปีนี้จะมีขึ้นมาเพื่อตอกย้ำว่าทุกสิ่งมันไม่จีรัง หนาวเหน็บอยู่ไม่กี่วัน ฟ้าก็เปลี่ยนเวียนมาเป็นวันร้อนจนได้
กอดกันอยู่ไม่กี่ชั่วโมง ไม่กี่พันนาที... แต่ภาระหน้าที่ก็มาดึงมาดันพาแยกกันไปจนได้
"นท ... คือ อย่าโกรธพี่สิ"
คนโดนโกรธเข้าเต็มเปา ยืนเกาะขอบประตูห้อง ส่งเสียงอ่อนหวานร้องเรียกความสนใจจากคนที่นั่งกอดเข่าอยู่ริมระเบียงอย่างง้องอน ... น้ำตาของคนรัก กำลังทำให้เธอทำตัวไม่ถูก ใจที่ยึกมั่นแต่กับงานถูกแบ่งออกเป็นสองดวงอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งๆที่นาทีนี้เธอควรจะเดินทางทั่วภาคเหนือเพื่อตามหาโลเกชั่นเหมาะๆสำหรับละครเรื่องใหม่ ... แต่นทมีน้ำตาแบบนี้
เธอจะทิ้งไว้ได้ยังไง ?
"เปล่าโกรธนะ ... กุญแจรถนทอยู่ในกระเป๋ากางเกงตัวเมื่อคืน เอาไปใช้สิ"
คนที่ยืนยันว่าไม่ได้โกรธ ตะโกนว่าถึงตำแหน่งของสิ่งที่อีกคนต้องการที่สุดอย่างรู้ใจกันดร ... กุญแจรถเก๋งคันเก่งของเธอ ... พี่แกรนด์คงอยากใช้มันพาตะลอนไปทั่วเมืองเหนือเพื่อตามหาอะไรที่ว่า อะไรที่ตามมาหลอกมาหลอนกันจนถึงวันนี้ นาทีนี้ ...
ชัดเจนว่าอีกคนไม่เคยเลยที่อยากจะหยุดสักวินาทีเพื่อกันและกัน ...
และคนที่ไม่เคยยอมรับว่าขี้งอน ... ก็กอดเอาตัวเองจนแน่น ซุกหน้าลงบนหัวเข่าตัวเอง ... หลบซ่อนแสงแดดที่เริ่มจะแยงตากันจนทนไม่ไหว
แสบตา ... จนน้ำตาอาจไหล
"นท... ไปกับพี่ซี"
ปล่อยเอาไว้คงไม่ได้การ ... คนรักคนเดียวที่เป็นทุกอย่างในชีวิตนท จึงต้องย้ายตัวเองไปนั่งข้างๆเด็กน้อยของเธอเอาไว้ วงแขนนุ่มนิ่มโอบรอบไหล่เล็กๆนั่น แล้วก็เอนตัวซบคนขี้งอน เพื่อออดเพื่ออ้อนเอาสายตาคู่เดิมกลับมาให้ชุ่มชื่นหัวใจ
"นทเกะกะ ไปไม่ได้หรอก ทำอะไรไม่เป็น..."
ตั้งแง่งอนแล้วก็กระเถิบตัวหนีทุกๆปัจจัยที่อาจละลายความเข้มแข็ง ... เธอไม่ยอมตะลอนๆไปทุกๆที่บนโลก เพื่อที่จะเหนื่อยและทนเหนื่อยต่อไปอีกแล้ว ชีวิตเธอเลือกแล้ว เธอเลือกแล้วว่าจะหยุดอยู่ที่นี่ ... ที่ที่แม้อากาศจะเปลี่ยนแต่แสงแดดและสายลมก็ชดเชยอุณหภูมิที่แปรปรวนได้ ... ที่ที่มีธรรมชาติไว้เพื่อทำความสะอาดหัวใจ ... มีที่นี่แล้ว เธอจะต้องไปตามหาที่ไหนอีก
โลเกชั่นละครเรื่องใหม่ ? ละครเรื่องที่พี่แกรนด์รับเขียนบทไว้ทั้งเรื่อง ... เกี่ยวกับเธอเสียเมื่อไร ?
"นทรู้หรือเปล่า ว่าพี่อยากหยุดชีวิตพี่ไว้ที่นี่กับนทจังเลย..."
นักเขียนมือทองคนหนึ่ง ... กำลังอ้อนนักคิดอีกคนด้วยถ้อยคำที่ดูธรรมดาเหลือเกินเมื่อเทียบกับแต่ละประโยคในบทประพันธ์ที่เธอเขียนไป ... มันอาจไม่ได้หวานขนาดนั้น ไม่ได้เต็มไปด้วยความรู้สึกที่มากล้นขนาดนั้น ... แต่คำว่า 'อยากหยุด' เธอก็หมายความว่าแบบนั้นจริงๆ ไม่ได้จะต้องคิดซับซ้อนให้ปวดหัวอะไรมากมาย
เธอรักทุกวินาทีที่มีนท ... รักช่วงเวลาแบบนี้ที่สุด ... อยากหยุดเวลานั้นไว้นานๆ ... แต่โลกแห่งความเปป็นจริงย้ำเตือนเธอเสมอว่าเรามีกันแค่สองคนไม่ได้
"...อย่าเสียเวลาของเราเพื่อโกรธพี่ ... อย่าเสียเวลาโกรธคนที่เรารัก และก็รักเราหมดใจ ... เขียนลงหนังสือได้ ก็ทำให้ได้ซี"
แม้นั่นจะเป็นสิ่งที่นทต้องการที่สุด ... อยากยืนอยู่บนโลกที่มีแค่เราสองคนมากที่สุด ...
แต่คนรอบข้างไม่เคยเห็นด้วย ความคิดกบฏถูกปฏิเสธร่ำไป
แกรนด์อ้างถึงประโยคยาวๆอันหนึ่ง ที่นทเคยเขียนลงพอคเกตบุ๊คปกสีชมพู ... ที่มียอดวางจำหน่ายเป็นที่หนึ่งของทุกร้านหนังสือเป็นหลายต่อหลายอาทิตย์ ... เมื่อตอนที่คบกัน รักกัน มีกันใหม่ๆ
พาให้คนที่เขียนมันลงไปกับมือ คิดมันเองกับหัว ... ต้องยอมละทิฐินั้นแล้วหันกลับมามองหน้า 'คนที่เรารัก และรักเราหมดใจ' ...
ดูสิ ... ในสายตาคู่นั้น มีแต่เธอเต็มไปหมด
"นทไม่ได้โกรธ แต่คราวนี้นทขอไม่ไปได้ไหม ?"
ไม่มีเหตุผลจะปฎิเสธ ... แต่เหตุผลที่จะไป ยิ่งไม่มีมากกว่า ... เธอรู้แต่ว่าชีวิตเธอมันเหนื่อย และพอแล้วกับการต้องไปไหนต่อไหนไม่จบไม่สิ้น ... ถึงอยากจะอยู่กับคนที่เรารัก แต่เธอก็เลือกจะรอเขากลับมาหามากกว่าจะไปด้วยกัน
พี่แกรนด์ผิดหวัง ... คำนั้น อีกคนบอกผ่านสายตา ให้นทได้รู้สึกหดหู่ลึกๆที่ทำอีกคนรู้สึกอย่างนั้นตามเคย...
เธอมักทำพี่แกรนด์ผิดหวัง ... ทำซ้ำๆเดิมๆ เหมือนที่เคย
"ได้สิ แต่นทต้องไป..."
แต่เสียงสดใสไม่เคยเงียบลงได้นาน พี่แกรนด์ดีที่สุดตรงที่ไม่เคยหมดอีเนอร์จีในการต่อรองความเฉื่อยของเธอ ... ชีวิตพี่แกรนด์ กระตือรือล้น สดใส ตื่นขึ้นมาเจอกับเช้าวันใหม่ที่จะมีสิ่งใหม่ๆเข้ามาตลอด ... แต่เธอต่าง เธออยากเป็นคนเดียวที่อยากตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อเจอจูบเดิมๆ คนเดิมๆ ที่เดิมๆ ไม่อยากให้มันเปลี่ยนแปลงหรือหายไปไหน...
ไม่อยากต้องเอนศีรษะซบไหล่กันบนยานพาหนะที่มีความเร็วที่สุดในโลก .. เพื่อความฟ้าข้ามอากาศแหวกเมฆไปแสนไกล
"ไม่ไปโตเกียว ไม่ไปโอไฮโอ ไม่ไปลอนดอน และไม่ไปไหนทั้งนั้น... ไปเถอะ สามสี่เดือนนทก็จะรออยู่ที่นี่ ไม่หนีไปไหน"
ความหวังครั้งที่สอง ถูกนทปฏิเสธจนมันเงียบลง ... พาให้แสงในตาพี่แกรนด์ที่ไม่เคยดับ หายวูบไปเนิ่นนาน ... ใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้ม คนที่เคยมีแต่ความกระตือรือล้น ... เปลี่ยนเป็นคนละคนเพียงเจอคำปฏิเสธที่แสนเย็นชานั่นเข้าไป
แต่นทรู้ว่าพี่แกรนด์เข้มแข็งพอ...
"ได้สิ ... แต่นทอยู่คนเดียวได้นะ"
คำถามที่มาพร้อมสัมผัสเย็นวาบบนแก้ม ... ละลายความร้อนรุ่มในทุกอณูรูขุมขนให้เย็นฉ่ำใจภายในเสี้ยววินาที ...
นทจ้องตาหวานเฉียบคู่นั้น ตาที่มีแต่ความรักความกังวล ... มองเนิ่นนานและอยากจะหยุดมองมันตลอดไป
"นทอยู่ได้... สบายมาก ไปเถอะ"
นทอยู่ไม่ได้ ... ตายแน่ๆ ไม่ไปได้ไหม ...
ประโยคที่ตอบ - ประโยคที่คิด มันขัดกันอยู่ในใจ...
นทโกหกพี่แกรนด์ไม่ได้ รู้ตัวดี แต่ก็ไม่เคยอยากให้อีกคนต้องมาเป็นห่วงความอ่อนแอของตัวเอง ...
"พี่จะรีบกลับมา..."
.
.
"แอปทำได้ค่ะ"
เสียงใสดังบอกคนงานกลุ่มนึงที่พยายามเสนอตัวเข้ามาช่วยเจ้านายคนสวย... แอปเปิ้ลในชุดชาวฟาร์มเต็มที่ ใช้แรงทั้งหมดที่มีกลิ้งถังนมขนาดสี่สิบลิตรไปยังโรงพักถังนมอย่าขยันขันแข็ง คนสวยใจเด็ดโบกมือปฏิเสธความช่วยเหลือทั้งหมดนั่น ก่อนจะปล่อยถังนมในมือให้วางลงในที่ที่ควรวาง พร้อมรอยยิ้มแจ่มใสอารมณ์ดี...
ท่ามกลางสายตาชื่นชมที่ต่างมองตรงมายังซุปตาร์สาวเหมือนเป็นฮีโร่จากดาวอังคาร...
"คุณหนูพอก่อนเถอะครับ... ให้คนงานจัดการดีกว่า คุณผู้จัดการส่วนตัวคุณหนูฝากผมให้กำชับเรื่องผิวและผื่นนะครับ"
ผู้จัดการฟาร์มหนุ่มหน้าใส ผู้รับคำสั่งโดยตรงจากแด๊ดให้ดูแลเธอ ... ตรงเข้ามายั้งมือแอปเปิ้ลที่เตรียมจะคว้าถังนมขึ้นมาอีกถัง แล้วก็ทอดเสียงนุ่มนวลขอร้องกันอย่างเริ่มไม่ค่อยสบายใจ ... พาให้แอปเปิ้ลขมวดคิ้วแน่นอย่างเริ่มไม่พอใจขึ้นมาหน่อยๆ ทันทีที่เธอได้ยินว่าคำสั่งนั่นมาจากผู้จัดการส่วนตัวที่ตอนนี้หนีไปพักร้อนอยู่แถบยุโรป...
ดวงตาเฉียบคม จ้องหน้าผู้จัดการฟาร์มหนุ่มอย่างเอาเรื่อง ... มือนิ่มนวลกระชากถังนมคืนมาทางตัวเองจนเขาต้องปล่อยมือออกอย่างเกรงกลัว
"ถ้าพี่เซนโทรมาอีก แอปฝากบอกด้วยนะคะว่าแอปดูแลตัวเองได้ ! ไม่ต้องเป็นห่วงกันขนาดนั้น ขอบคุณค่ะ !"
แล้วดาราสาวสุดดื้อก็กึ่งลากกึ่งกลิ้งเจ้าถังนมน้ำหนักมากนั่นไปจนสุดทาง ... ทิ้งประโยคที่เต็มไปด้วยอารมณ์ร้อนให้คนโดนเหวี่ยงใจสั่นหวิวๆ มือผู้จัดการฟาร์มหนุ่มยกขึ้นทาบอกตัวเองพลางควบคุมจังหวะหายใจให้เป็นไปตามปกติทั้งที่ก้อนเนื้อในอกยังเต้นระรัว ... เขาโดนคุณหนูแอปเปิ้ลดุเอาหรือนั่น ตื่นเต้นอะไรแบบนี้...
ไม่สงสัยแล้วว่าทำไมเขาถึงได้รักหลงกันทั้งเมือง ...
ผู้หญิงที่สวยเฉียบคมในทุกสถานการณ์แบบนี้ มันหาไม่ได้ง่ายๆ
อาจมีแค่คุณหนูแอปเปิ้ลคนเดียวด้วยซ้ำ ...
นทเดินเรื่อยเปื่อยออกมาตามทางที่ทอดยาวกั้นระหว่างส่วนของที่พักแขก กับฟาร์มโคนมกว้างใหญ่ ... รับลมตอนบ่ายจัดที่ปะทะหน้าหวิวๆอย่างหมองหม่น ตอนนี้พี่แกรนด์ไปแล้วล่ะ เกี่ยวกุญแจรถเธอ และกำลังไปตึกใหญ่เพื่อบอกลาคุณเบิร์ท ... พี่แกรนด์ชวนเธอไปด้วยกัน แต่เธอปฏิเสธหมดทุกทาง ไม่อยากต้องไปให้รู้ว่าอีกคนจะต้องไปไหนเมื่อไร แค่รู้ว่าจะไป แล้วจะรู้อีกทีก็เมื่อพี่แกรนด์กลับมา ขอรู้แค่นั้นก็พอ...
อุตส่าห์คิดว่าชีวิตนับต่อแต่นี้ คงไม่ต้องเหงาอีกต่อไปแล้ว...
นทเดินตรงไปยังต้นไม้ต้นเดิมที่เธอมานั่งพักพิงเป็นประจำ เหงาจนอยากจะนั่งมองลมและฟ้า ... ให้ธรรมชาติเป็นเพื่อนแท้คนสุดท้าย บางทีเธอก็มีอารมณ์ที่อยากจะอยู่คนเดียวเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้...
ก็เธออยากอยู่กับพี่แกรนด์นี่นา
แต่เมื่อยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ในองศาที่เหมาะเจาะพอจะเห็นที่ประจำของตัวเองชัดๆ ... นทก็พบว่ามันไม่ว่างอีกต่อไป เด็กหญิงตัวโตที่นทประเมินคร่าวๆด้วยสายตาว่าคงอายุประมาณสิบปลายๆ นั่งยืดขาเรียวยาวนั่นออกจนสุด กอดอกแน่นและเหม่อมองฟ้าไปไกลแสนไกล หมวกหมิ่นเหม่ปิดบังหน้าตาของเด็กคนนั้นไปเสียครึ่ง แต่ก็ยังให้นทเห็นสีหน้าไม่สบายใจแบบนั้นได้ .. ไม่มีอาการใดแสดงออกว่านั่นคือความสุนทรีย์ มีแต่กิริยาที่ฟ้องดังว่าเด็กหญิงคนนี้กำลังไม่สบายอารมณ์แบบสุดๆ !
สิ่งที่เห็นทำนทอยากจะหัวเราะเยาะให้ดังก้องโลก...
เออแฮะ ... แฟนโดนงานแย่งตัว ที่ประจำโดนเด็กกะโปโลที่ไหนไม่รู้มาแย่งนั่ง ... ดีจังว่ะ ชีวิตไอ้นท !
แต่ไม่รู้สิ ... มันน่าหงุดหงิดก็จริง แต่สีหน้าหงุดหงิดของคนที่เธอกำลังเอาตัวเข้าไปนั่งข้างๆ กำลังทำให้เธอรู้สึกอารมณ์ดี...
"หนูน้อย เธอกำลังนั่งที่พี่นะ..."
นทนั่งแปะลงที่ข้างเด็กหน้ายุ่งคนนั้น ใช้สายตาจับจ้องก้อนเมฆบนท้องฟ้า และก็เริ่มบทสนทนาที่เหมือนจะหาเรื่องกันไปให้คนข้างๆ ... บางทีมันอาจเป็นเรื่องที่ดี ที่เธอจะมีคนมานั่งคุยด้วย แม้อาจจะไม่ใช่คนที่จะเริ่มรู้จักได้อย่างสนิทใจเท่าไร
...นทได้แต่หวังว่าคนที่เธอเลือกจะเริ่มทำความรู้จัก คงมีบางความคิดที่เข้ากันได้บ้าง ไม่งั้นหนูน้อยคนนี้คงไม่มายึดที่นั่งโปรดของเธอเป็นที่ปลดปล่อยอารมณ์แบบนี้...
"Sorry..."
สั้นๆสองพยางค์ ... ของคนที่ยังเชิดหน้ามองฟ้า บอกกันให้นทได้เผยรอยยิ้มเอ็นดูขึ้นมาจากหัวใจ พื้นหญ้าที่ทิ่มแทงขาจนระคาย นทต้องใช้มือลูบไปตามต้นหญ้าเบาๆ อย่างน้อยให้มันเรียบไปตามพื้นมากที่สุด ... ดวงตาของนักคิดมองเผินผ่านเด็กหญิงตัวน้อยข้างตัวนั่นอย่างละเลยและสนใจไปพร้อมๆกัน แม้ยังไม่ได้เห็นหน้าชัดๆ ไม่ได้รู้ว่าเธอคนนี้คือใคร แต่นทกลับหลงรักในสำเนียงภาษาสากลชัดเจนนั่นจับใจ ...
เธอพูดภาษาอังกฤษได้ดีในระดับหนึ่ง ... แต่เด็กคนนี้คงพูดมันได้ดีในหลายระดับ
ถึงได้ใช้คำขอโทษที่ฟังดูน่าหมั่นไส้มากกว่าน่าชื่นชมแบบนั้น
"อยู่เมืองไทย พูดไทยสิหนู..."
นทเตือนพร้อมกับเสียงกลั้วหัวเราะ ... เสียงนทมันเจือไปด้วยความรวนอารมณ์ที่นทเองก็ไม่ได้ตั้งใจ มันไม่ใช่สุ้มเสียงที่เหมาะกับคนแปลกหน้าเลย นทรู้ แต่ใช้ไปแล้ว ... และมันก็ทำให้เด็กหญิงที่กำลังเชิดหน้ามองฟ้า เลิกสนใจเมฆ สะบัดหน้าหันมามองเธอจนหมวกที่หมิ่นเหม่ร่วงลงพื้นแบบไร้ความใส่ใจ...
ให้นทได้ยิ้มหวานอีกครั้ง ... เมื่อหน้าตามอมแมมหันมามองเธอเต็มตา ... เด็กหญิงคนนั้นหน้ายุ่งยิ่งกว่าเดิม
นทถือโอกาสนั้นนั่นล่ะ พินิจใบหน้านั้นอย่างถือวิสาสะ ... ดูเผินๆแล้ว ก็ไทยแท้นี่นา
บุคลิกลักษณะ ก็ไม่ใช่นักท่องเที่ยวจากต่างชาติเลยสักนิด ...
ถึงจะดูแปลกถิ่นแปลกตาสักหน่อยก็เถอะ
"คุณพูดเหมือนแด๊ด ... แด๊ดบอกแอปตลอดให้พูดไทย"
คำพูดคำจาที่ดูจะแปร่งหูขึ้นมาทันทีในภาษาไทย กับเธอคนเดิมที่ยกมือขึ้นลูบแขนไปมา ... ทำนทที่แทบจะทำตัวเป็นนักอนุรักษ์ภาษาต้องหัวเราะน้อยๆออกมาอย่างชอบใจ ... เด็กคนนี้มีหลายลักษณะในตัวจนนทชักเดาไม่ถูกว่าที่มาของเธอเป็นแบบไหน ... ถึงไม่รู้จักกัน และไม่รู้จะมีโอกาสรู้จักกันไหม แต่นทกลับรู้สึกว่าเด็กคนนี้น่าสนใจดีเหลือเกิน
มันมากพอจะทำให้นทเริ่มชวนพูดคุย...
"เธอเป็นเด็กน่าสนใจ..."
ประโยคถัดมา นทเปิดเผยความในใจไปหมดตามประสาคนที่ปากตรงกับใจเสมอ ... นทตั้งเข่าชันขึ้นแล้วโอบแขนรอบเข่าเอาไว้ รอยยิ้มจางๆประดับบนใบหน้า เงี่ยหูรอฟังคำตอบที่ไม่รู้จะมาในทิศทางไหน ... ความเหงาที่กัดกินหัวใจ ดูเหมือนจะค่อยๆละลายไปเมื่อเด็กหญิงตัวน้อยพูดประโยคต่อไปด้วยน้ำเสียงสดใสขึ้นเรื่อย
"ใช้คำว่า คนน่าสนใจ ได้ไหมคะ... แอปไม่ใช่เด็กแล้ว"
เด็กหญิงยื่นประโยคนั้นให้เธอพร้อมรอยยิ้มจืดจาง ให้นทได้หัวเราะชอบอกชอบใจในความเท่าทันของเด็กหญิงคนนี้ ... นักคิดคนดัง เริ่มมีเรื่องราวในสมองไหลหลากออกมาเรื่อยเปื่อย และเพราะนทเป็นแบบนี้ ... คนชอบคิด ชอบพูด ชอบแสดงออก ... ทุกเรื่องที่คิดได้จึงเป็นเรื่องที่พูดได้ และนทก็พูดเรื่องราวน่าสนุกในหัวออกมาอีกยกใหญ่ ... จากวงสนทนาเล็กๆ เงียบเหงาและมีกันเพียงคนสองคนที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไปมา ... นักคิดแบบนท ได้เปลี่ยนแปลงมันไปแล้วด้วยประโยคเดียว ที่นทพูดออกมาหลังจากได้เห็นรอยยิ้มของเด็กหญิงคนนี้กระแทกเข้าเลนส์ตา
"พี่ชอบเธอจัง นั่งคุยเป็นเพื่อนกันไปนานๆนะ"
เด็กคนนั้นยิ้มรับคำพูดเธอ ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ ... แต่นทก็รู้คำตอบเพราะอีกคนยังคงนั่งพูดคุยกับเธอไปเรื่อย ไม่มีทีท่าว่าจะหนีหายกันไปไหน...
คนบนโลกมีเป็นพันๆล้านคน เธอไม่รู้จำนวนที่แน่นอน ... ไม่อยากรู้ และถึงรู้ วันนีงเธอก็คงหลงลืมมัน คงจำไม่ได้ ...
น้อยคนนักที่จะได้พบคนแปลกหน้าที่สามารถคุยกันได้อย่างสนิทใจ ... วันนี้เธอเจอ
ตลอดชีวิต เธอเจอคนแบบนี้แค่เพียงสองคน ...
คนหนึ่งคือคนที่กำลังปล่อยให้งานพรากเอาเวลาของเราไปจากกัน ส่วนอีกหนึ่งคน คือเด็กผู้หญิงหน้ามอมแมมที่มาแย่งที่นั่งประจำเธอไปหน้าตาเฉย
นทเจอคนแปลกหน้าสองคนที่นี่...
และเธอยืนยันจะอยู่คุยกับคนแปลกหน้า 'คนนี้' ที่นี่ ... คุยกันไปจนหมดเรื่องราว คุยกันจนค่ำ จนเช้า ... กับเด็กผู้หญิงที่เธอไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อด้วยซ้ำ ...
แต่วันเวลา หรืออะไรก็ตามที่พาเธอและคนแปลกหน้าคนนี้มาพบกัน คงจะเฉลยให้เธอฟังเอง ว่าทุกสิ่งที่เธออยากรู้คืออะไร...
นทยิ้มและตักตวงความรู้สึกสดใหม่ในนาทีนี้ไว้เต็มที่ ... และเธอหลงรักความรู้สึกในนาทีนี้ ... จับใจ
ถ้าเลือกได้ระหว่างคนปากแข็งใจอ่อน กับปากอ่อนใจแข็ง
เลือกอะไรคะ ?
คงไม่ต้องบอกนะว่าเด็กหญิงตัวน้อยหน้าตามอมแมมคนที่พี่นทนั่งคุยอยู่ด้วยน่ะ ใคร ?
จุ้บๆ.3
ใครที่รอตอนจบวับวาว รอหน่อย
และก็ดีเลย์ตอนสอง รอนิด
เลิฟยูออล จุ๊บุ <3
ความคิดเห็น