ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TS7] โปรดติดตามตอนต่อไป... #noteapp'

    ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 14 ฉันคิด ...

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ค. 55


     

    กลับมาแล้วโทรหานทยังเนี่ยหนู…”

     

    สองคนพี่น้องพร้อมด้วยขบวนทีมงานอีกหนึ่งกลุ่ม เดินยิ้มแย้มออกจากประตูผู้โดยสารขาเข้าพร้อมกระเป๋าสัมภาระคนละใบสองใบที่อัดแน่นไปด้วยความทรงจำและผลงานมากมาย วันนี้คือวันที่ทุกคนได้กลับมาเหยียบเมืองไทย หลังจากต่างคนต่างจับมือพากันยกโขยงไปใช้เงินต่างสกุล ใช้เวลาที่แตกต่างกันหลายสัปดาห์

     

     

     

    ยัง ยังไม่โทร แกรนด์อยากเซอร์ไพรส์

    สาวสวยยิ้มแป้นบอกพี่ชายคนสนิทพร้อมกับก้าวขายาวๆด้วยสเต็ปที่ไวขึ้นอีกเท่าตัว ในหัวก็คิดเรื่องเซอร์ไพรส์เอาไว้เป็นฉากๆ … แน่นอน เธอจะต้องมีมื้อเย็นอรอ่ยๆใต้แสงเทียนแล้วนั่งมองหน้ามองตากันให้หายคิดถึง แต่มากกว่านั้นจะทำอะไรดีล่ะ นั่งข้างกันบนโซฟาตัวโปรดแล้วเล่าเรื่องราวที่ไปพบมาให้นทฟัง จะดีหรือเปล่า ?

     

     

    ไม่ได้เจอกันตั้งสี่อาทิตย์ ไม่รู้ว่าคนที่นี่จะเป็นยังไงบ้าง จะมีอะไรเปลี่ยนไปหรือยัง

    อ้วนขึ้นไหม ผอมลงหรือเปล่า ? จะได้รู้แล้ววันนี้

     

     

    โอเคๆ ตามใจนะตามใจ

    พี่ชายตี๋หล่อเองก็ใจลอยไปถึงขอนแก่น เสร็จงานคราวนี้เขาก็โล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอกตากล้องใหญ่อย่างเขาคงได้พักอีกสัก1-2เดือนก่อนจะเปิดกล้อง คอยดูเถอะ แม่จะกลับไปนอนให้สบาย จะไม่เอาเรื่องงานมาคิดให้รกสมองเลยแม้แต่วินาที

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อะไรของแอปนะ ทำไมไม่รับ !

     

    เสียงบ่นเบาๆของชายหนุ่มที่ยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายของสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นแค่เสียงเล็กๆที่ไม่ได้สลักสำคัญ เว้นแต่ผู้คนสักหนึ่งในสิบจะรับรู้ ว่าเขาคือใคร

     

    เสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวจัดเต็มชนิดนายแบบจากแคตวอล์คย่านปารีสยังอาย ประดับประดาอยู่บนหุ่นทรงที่แสนจะพอดิบพอดีกับเขาไม่ต่ำกว่าเจ็ดชิ้น ใบหน้าเฉี่ยวคมแต่ทว่าก็ยังมีวี่แววน่ารักน่าเอ็นดู จากส่วนประกอบบนใบหน้าที่แสนเพอร์เฟ็กต์ทำให้เขาสะดุดตาคนมองเข้าอย่างจัง โดยเฉพาะที่แววตาแบบนั้น แววตาซุกซนน่าค้นหาแบบนั้น แววตาที่ทำให้เขาทะนงในเสน่ห์ของตัวเองเสมอมา

     

     

     

    หึ ตัวแสบ โทรหาก็ไม่รับ ถ้าเจอล่ะจะดุซะให้เถียงไม่ออกเลย

     

    เมื่อมั่นใจว่าปลายสายจะยังไม่รับสายเขาในเร็วๆนี้แน่ เขาจึงใช้ปลายนิ้วเลื่อนขึ้นลงไปอีกสองสามทีเพื่อเปลี่ยนเบอร์โทรออกแล้วขมวดคิ้วรอคอยการตอบรับอย่างใจจดใจจ่อ ...

     

     

    ลุง ตอนนี้รอรับแอปอยู่หรือเปล่า ?”

     

    และเมื่อปลายสายรับ คนขี้เหวี่ยงก็กรอกเสียงถามญาติห่างๆที่พ่วงตำแหน่งคนขับรถประจำตัวศิลปินดัง ห้วนสั้นและเร่งเร้าเอาคำตอบให้ไวทันใจ คิ้วที่ถูกกันมาอย่างดีขมวดเข้าหากันเป็นรอยผูกแน่น

     

     

     “ฮะ ! อะไรนะ ลุงอยู่กรุงเทพ แอปอยู่ระยอง !!!!!!!!!!!

     

     

    มารับผมที่สุวรรณภูมิ แล้วพาผมไประยองเดี๋ยวนี้ !!!!!!!!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

    การถ่ายทำในรอบบ่ายเป็นไปได้ด้วยดี พระเอกและนางเอกที่ได้ร่วมฉากกันเป็นครั้งแรกก็เข้าขากันจนการถ่ายทำนั้นดำเนินไปอย่างง่ายดาย จนเมื่อสตอรี่ไลน์จบลง ศิลปินเจ้าของเพลงก็เดินเข้าฉากพร้อมกับเริ่มไลน์ซิงท่ามกลางบรรยากาศริมทะเลที่แสนสวยงาม นทมองภาพเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นแล้วยิ้มอย่างประทับใจ การได้มาพบมาเห็นการทำงานที่แสนจะมืออาชีพอย่างนี้เป็นโชคดีของเธอ โชคดีที่ได้มามองโลกในมุมอื่นๆ มุมที่ลึกกว่าคนอื่นๆ และได้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น

     

     

    เลิกกอง…. !!!!!!!!”

     

    เสียงผู้กำกับหนุ่มไฟแรง ร้องดังขึ้นทันทีเมื่อเช็คมอนิเตอร์ฉากสุดท้ายเสร็จ มันจบลงพอดีกับที่แสงอาทิตย์กำลังจะหมดไป และตามมาด้วยเสียงเฮของเหล่าทีมงานที่จิตใจลอยไปถึงปาร์ตี้เล็กๆสำหรับฉลองที่งานเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ... นทหลุดหัวเราะออกมาเบาๆกับความร่าเริงของทุกๆคน แต่ก็เข้าใจ ขนาดเธอที่ไม่ได้มีส่วนร่วมกับงานนี้สักนิด ยังอดร่าเริงไม่ได้เลย

     

    แหม เธอก็มีสาเหตที่จะทำให้ร่าเริงนะ

     

     

    พี่นทงานเลิกแล้ว

     

    แอปเปิ้ลในชุดสวยเต็มสำหรับการเข้าฉากสุดท้ายท่ามกลางแสงสุดท้ายของวันนี้ เดินยิ้มหวานเข้ามาหานทพร้อมกับบอกเสียงค่อย ให้คนที่นั่งเอนหลังอยู่กับเก้าอี้ผ้าใบตัวยาวให้เด้งตัวขึ้นมาเบาๆ นทพยักหน้ารับรู้พร้อมกับผุดลุกขึ้นยืน แต่เมื่อสองคนได้จ้องตากันเต็มตา เท่านั้น ทั้งนททั้งแอปเปิ้ลก็เป็นอันต้องเสหลบตากันอย่างเขินๆ

     

    นทรู้สึกได้ทันทีว่าเธอคงหน้าแดงฉ่าฟ้องความรู้สึกไปแล้วแน่ๆ อ่า ให้ตายสิ ก็เธอจะเก็บอาการได้ยังไง ภาพเมื่อกลางวันยังติดตาเธออยู่เลย เธอฝืนลืมไม่ไหว

     

     

     

    เอ่อพี่นทอยากไปปาร์ตี้กับทีมงานไหมคะ ?”

    แอปเปิ้ลถามคนที่ยืนประจันหน้ากันใกล้ๆเสียงเบาหวิว สองเท้าค่อยคืบถอยหลังห่างจากคนตรงนี้อัตโนมัติราวกับโดนตั้งโปรแกรมมา

     

     

    แต่แล้วจังหวะพอเหมาะพอเจาะ ก็พาสองตาของสองคนกลับมาจ้องมองกันอีกครั้ง ... มองกันลึกๆ ทั้งที่ยังมีความอ่อนหวานและหวั่นไหวอยู่ในแววตา

     

     

     

     

     

     

     

    ไม่ พี่ว่าไม่ดีกว่า พี่ว่าจะไปนอนอ่านหนังสือสักหน่อย แอปไปเถอะ

     

     

     

    และสุดท้าย ... นทก็เลือกที่จะปฏิเสธ และยิ้มแปร่งๆให้กับคนที่เธอยังทำตัวปกติด้วยไม่ได้เท่าไร สิ้นคำก็สิ้นนาทีแห่งการสบตากันให้ใจมันคิดไกล นทหลบสายตานั้นว๔บ เชื่อเถอะ ตอนนี้หัวใจเธอที่มีดวงเดียว กำลังถูกก้อนความรู้สึกบางอย่าง สับลงชั๊วะตรงกลางใจแล้วแบ่งมันออกเป็นสองข้างข้างหนึ่งบอกว่าเธอควรทำไอ้ที่อยากทำ ปล่อยใจให้ไปในทางที่อยากไป ถ้าสุดท้ายแล้วมันต้องเกิดอะไร มันก็จะดีที่สุดต่อหัวใจของเธอ

     

    แต่ใจอีกข้างกลับรั้งเอาไว้แน่นหนัก

     

     

    ก็เธอรู้ เธอโตแล้ว รู้ดีว่าหัวใจตัวเองกำลังไม่ปกติ มันระส่ำและสั่นซ้ำๆในทุกครั้งที่ได้พบได้ใกล้ชิดกัน ยิ่งได้อยู่ด้วยกันในบรรยากาศที่แสนเป็นใจ

     

     

    มันยืนยันด้วยภาพเมื่อกลางวัน ... มันยืนยันด้วยจังหวะหัวใจเธอที่เหมือนจะกระเด็นออกมาจากอก เพียงได้เห็นทรวดทรงของผู้หญิงด้วยกัน...

    ผู้หญิงที่แค่รูปร่างดี ... ดีจนน่าอิจฉา แค่เธอไม่ได้อิจฉา

     

     

     

     

    เธอไม่อยากต้องเผลอใจ หรือต้องทำให้ใครเจ็บใจ เพราะตัวเธอทั้งตัว และใจเธอที่ยังเหลืออยู่มันมีเจ้าของแล้ว เจ้าของเธอที่ไม่ได้ทำผิดอะไร

    ถ้าจะเริ่มหยุดใจ ก็ควรหยุดเสียตั้งแต่วินาทีนี้

     

     

     

     

    ค่ะ... งั้น คืนนี้เจอกันที่ห้อง"

     

    ".. นะคะ"

     

     

     

     

     

     

     

    แอปเปิ้ลรับรู้และกล่าวลาอย่างไม่เต็มปากเต็มคำ ... อยากจะยิ้มก็ยิ้มได้ไม่เต็มสีหน้าเท่าที่ควร ... เชื่อเธอเถอะ กลิ่นอายของความยากลำบากกำลังเกิดขึ้นแล้วในความสัมพันธ์ที่ดีงามของคนสองคน ... ความสัมพันธ์ดีดีที่บิดเบี้ยวมาตั้งแต่ต้น ... มันไม่ใช่ในแบบที่ควรเป็น แต่มันผิดเพี้ยนไปจากนั้น ... แม้จะเพียงเล้กน้อย แต่ความรู้สึกที่ชัดเจนก็ทำให้ใครต่อใครสัมผัสได้ง่ายดาย

     

     

    และนี่ก็เป็นอีกครั้ง... ที่คนสองคน กำลังปล่อยให้สองตามองกัน ... ให้หัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ได้พูดคุยกันในเรื่องที่รู้กันเพียงสองคน...

     

     

     

     

    "โอเคแอป ... ไว้ ... ไว้เจอกันที่ห้อง"

     

    นทกลั้นใจพูด ... แอปเปิ้ลกลั้นใจยิ้ม ... สองคนกลั้นใจหันหลังหนีหน้ากันแล้วมุ่งตรงไปในทิศทางตรงข้ามกัน ต่างหนีกันเมื่อแม่เหล็กถูกขั้ว ... ทั้งที่ในใจคนสองคนรู้ เราสองคนต่างก็เป็นแม่เหล็กคนละขั้ว ... คนละขั้วที่เข้ากัน เข้าอกเข้าใจกัน และมีแรงดึงดูดต่อกันมากกว่าสิ่งไหน ...

     

    แอปเปิ้ลมุ่งหน้าเข้าหาแสงสีของงานปาร์ตี้ ... แสงสีที่กำลังจะสาดความวุ่นวายเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้ง

    ส่วนนทมุ่งหน้าสู่พื้นที่เงียบสงบริมทะเล ... ที่ที่จะมีแต่ความลำพังเท่านั้น ลำพัง ... ไม่ใช่ลำปาง

     

     

     

     

    ต่างหันกันไปคนละทาง ...

    ทั้งที่ใจร่ำร้องว่าอยากจะหยุดยืนตรงนี้อีกนานเท่านาน...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

    ฉันรู้ว่าเธอกำลังกังวล เธอบอกทางสายตา
    ฉันรู้ว่าเธอไม่กล้า ที่จะพูดจาเปิดหัวใจ

     

    ฉันรู้ว่าเธอกำลัง อยากรู้ว่าฉันนั้นคิดอะไรอยู่

     

     

     

    เช่ารีสอร์ทราคาแพงๆนอนมันก็ดีแบบนี้ ...

    ขนาดพระอาทิตย์ลับริมทะเลไปแล้ว ก็ยังอุตส่าห์มีแสงไฟส่องสว่างให้คนบ้าอย่างเธอมานั่งอ่านหนังสือริมทะเลอยู่ได้...

     

     

     

    เป็นสองสามชั่วโมงแล้วที่นทนั่งชิลอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบตัวนี้ ... เก้าอี้ผ้าใบคู่ใจที่เธอลากใบมาทั้งวัน นี่ก็สามทุ่มเข้าไปแล้ว ถ้าเธอยังนั่งต่ออีกสักสองชั่วโมงก็คงเติมคำว่าทั้งคืนเข้าไปด้วยได้...

     

    เธอในตอนนี้ ... เป็นความเงียบงัน ... เป็นความสงบ ... เป็นความลึกลับซับซ้อน ... และเป็นความควรเหงาอย่างแท้จริง ....

    ทุกอย่างประกอบกันลงตัวพอดีให้ต้องเหงา ... ยิ่งไปกว่านั้น คนขี้เหงาอย่างเธอยิ่งต้องเหงา ... เหงาจนน่าร้องไห้ แต่ไม่ล่ะ วันนี้มันไม่ใช่...

     

     

     

    ในใจเธอมีเรื่องให้คิด ในหัวเธอมีเรื่องให้สับสน ... สำคัญที่สุด ในมือเธอมีเพื่อนคือหนังสือ

     

     

    แต่อย่าถามนะว่าเธออ่านหนังสืออะไร ...

     

     

     

    .

    .

     

    โอยย มันเขินน่ะ

     

     

     

     

     

     

    "อะไรน่ะพี่นท ... อ่านหนังสือตัวเองอยู่เหรอ ?"

     

     

    คำถามเสียงใส ดังขึ้นในจังหวะที่โลกทั้งใบมีเพียงเสียงคลื่นและลม ... มันฉับพลันทันทีและทำนทไม่ได้ตั้งตัว รู้อีกที เจ้าของเสียงก็กำลังวุ่นวายอยู่กับการนำผ้าผืนหนามันปูกว้างๆข้างๆเธอ และทิ้งก้นจุมปุกอยู่บนผ้าคลุมทรายพื้นนั้นเสียแล้ว...

     

    ให้ทายสิ ... ว่าตัวป่วนใจที่เพิ่งเข้ามานั่งข้างเธอคนนี้น่ะใคร

     

     

     

     

     

    หึหึ ใช่ ... แอปเปิ้ลนั่นแหล่ะ แอปเปิ้ลคนที่เคยยกขาขึ้นพาดตักเธอเพราะขยาดทรายจนหน้าเบ้นั่นแหล่ะ...

     

     

     

     

    "read yourself in the past ?"

     

    แอปเปิ้ลร่างใหม่ที่ยิ้มแป้นเต็มสีหน้า พลิกลิ้นเข้าภาษาสากลแล้วยักคิ้วหลิ่วตาอย่างทะเล้นเสียเฉยๆ ... คราบใหม่ของคนคุ้นเคยที่ทำนทต้องขมวดคิ้วเพราะไม่รู้จะเริ่มรับมือกับมันยังไง บ้าหรือเปล่า ... ก็เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้นี่เอง .... เราสองคนยังขัดเขิน ยังทำตัวไม่ถูกกันอยู่เลย

     

    แต่นาทีนี้อีกคนกลับหนีปาร์ตี้มาจ้องตาเธอปริบๆเสียแล้ว

     

     

    "เล่มนี้แอปอ่านจบแล้ว ... เขียนได้ดีนี่"

     

    แล้วไม่ถึงนาทีอีกครั้ง ... เธอยังไม่ได้ถามไม่ได้ตอบอะไรคนสวยเลยสักคำ ... แอปเปิ้ลก็เอื้อมแขนมาดึงมันไปจากมือเธอ พลิกมันไปมาสองทีแล้วดันเอาประโยคที่น่าปลื้มใจนั่นมาให้เธอได้หายเหวอและยิ้มจางๆออกมาแทน...

     

     

    พลิกแล้วก็วาง ... วางแล้วคนสวยก็นิ่งเงียบไป ...

     

     

     

     

     

    แอปเปิ้ลเอาหนังสือในมือไปจากเธอ พร้อมกับที่เอาทุกความสับสน ความกังวล และความคิดไปจากสมองและหัวใจเธอ ... จากนั้นความสวยจัดจ้านนั่น ก็พาเอาจังหวะหัวใจใหม่ๆมาใส่ให้เธอแทน ...

     

     

     

    ด้วยการที่แอปเปิ้ลนั่งกอดเข่า... มองดาว ข้างเธอ...

     

    สูดกลิ่นอายทะเลไปด้วยกัน ... ลมเหนียวๆที่อีกคนบอกว่าไม่เคยชอบมันสักนิด

     

     

     

     

     

     

     

     

    "อย่าสงสัยนะ ... อย่าถามนะว่าแอปออกมาทำไม"

     

     

     

     

    นทอยากจะถาม กำลังจะถามพอดี ... แต่อีกคนก็ยื่นคำห้ามปรามมดักคอเธอได้อย่างพอดิบพอดีเหมือนกัน ... อีกคนละสายตาจากหมู่ดาวบนท้องฟ้ามายิ้มให้เธอน้อยๆ พูดในภาษาที่นทถนัดจะพูดและฟัวอีกที แต่ใครเล่าจะรู้ ใครเล่าจะมาได้ยินอย่างที่เธอได้ยิน ว่าสุ้มเสียงรวมไปถึงจังหวะจะโคนในคำพูดนั้น มันอบอุ่นเกินจะทนทานไหว ...

     

    รอยยิ้มนั่นก็อีก

     

     

    รอยยิ้มที่นทคุ้นชิน ... แต่บรรยากาศกำลังขับมันให้สวยงามจับใจ จนกลายเป็นความไม่คุ้นเคย...

     

     

     

    นทกำลังปล่อยตัวปล่อยใจให้ไปตามสายตา...

    กำลังปล่อยอารมณ์และทุกความคิดให้หลุดไปในทุกที่ที่อยากจะไป

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "แค่คิดถึงน่ะ...แค่กำลังคิดถึงตอนที่เราเจอกันใหม่ๆ"

     

    แอปเปิ้ลพูดถึงขึ้นเหมือนนักเล่านิทานคนนึง ... ที่มีหน้าที่เล่าเรื่องราวเหล่านั้นให้จบลง ... เพียงแต่ต่างออกไป ที่นี่คือจุดประสงค์ของเธอ และคนตั้งใจรอฟังก็ไม่ใช่เด็กตัวน้อย..

     

     

     

     

    ผู้ใหญ่สองคนกำลังถูกบรรยากาศบังคับ ... ให้มองกัน ฟังกัน พูดกัน คุยกัน ยิ้มให้กัน ... ทำทั้งหมดนั่นให้กรอบของความเงียบงัน ... ภาษาสามัญของคนเป็นผู้ใหญ่

     

     

     

     

    นทใจจดจ่อ ... ลมหนาวกำลังอุ่น ... ดาวที่พร่างพราววับวาวกำลังลดแสงในตัวลง เหมือนจะมารวบรวมกันเปล่งปลั่งอยู่ที่ดวงตาคู่ใสนั้น ...

     

     

    "แอปชอบตอนนี้จังพี่นท..."

     

     

    มือของคนที่นั่งข้าง กำลังเอื้อมขึ้นมาคว้ามือเธอไปไว้ข้างๆ ...

    รอยยิ้มนั้นแสนอบอุ่น ... และนทก็แสนอุ่นใจ

     

     

    "ชอบตอนนี้จัง"

     

     

     

     

    "ตอนที่แอปจับมือพี่นทไว้แบบนี้ อุ่นกว่าที่เราเคยนั่งด้วยกันเฉยๆตั้งเยอะแยะ"

     

     

    นทรู้สึกได้ว่าในนาทีนี้ ... นาทีที่อีกคนกอบกุมมือเธอไว้ทั้งมือ ... มันก็ไม่ได้ต่างอะไรเลยกับภาพเสมือนที่อีกคนกำลังขโมยเธอทั้งหัวใจ ...

    สุ้มเสียง สัมผัส สายตาของแอปเปิ้ล ...

     

    ทำเธอลืมวันลืมคืน ... ลืมตัวลืมตน ... ลืมทุกคนทุกสิ่งและทุกอย่าง ยากเกินที่จะนำมันมาเป็นส่วนสำคัญในการห้ามปรามจิตใจได้ ...

     

     

    และยิ่งกับประโยคนี้ ... สุ้มเสียงสุดท้ายที่เธอได้ยินในค่ำคืนนี้...

     

     

     

     

    "อย่าเพิ่งให้อะไรที่ยังมาไม่ถึง ทำให้เราต้องปล่อยมือกันไปนะคะพี่นท..."

     

     

     

    ถ้าไม่รีบไป  ก็อยู่คุยกันจนเช้า
    จนดาวหมดฟ้า จนเธอง่วงนอน




     




    เย้... งงป่าวววว ?


    ถ้าทุกคนงงน่ะไม่แปลก ถ้าไม่งงน่ะแปลก !
    555555555555555.


    เวลาคนเรามีรัก มันสับสนแบบนี้แหล่ะ !

    #ที่เธอพูดเป็นเหตุผลหรือว่าเป็นข้ออ้าง ;')

    มันไม่คืบหน้า มันเอาแต่คืบคลาน
    มาจนตอน14แล้วเรายังทำให้ทุกเรื่องคลุมเครือไม่เสื่อมคลาย
    หึหึ...



    อยากอัพฟิคสั้น
    .

    รักทุกคนค่ะ


    #โปรดติดตามตอนต่อไป

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×