ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Ts7} ปาดับปา.วับวาว' #noteapp :)

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 14 Carefully

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 55


     

     

    "เห้ยยยยยย ... นั่งเหม่ออะไรเนี่ยยย !"

     

    เสียงแหบๆห้วนๆของเด็กตัวแสบที่ขึ้นชื่อได้ว่าแฟน ดังเรียกพราวให้สะดุ้งจากการทอดอารมณ์เรื่อยเฉื่อยได้ฉับพลันอย่างน่าตกใจ พ้รอมกับเจ้าของใบหน้าหมวยอินเตอร์ที่ยื่นเข้ามาใกล้กันเรื่อยแบบเด็กเรียกร้องความสนใจ โถ่ เด็กน้อย ...

     

    "คิดถึงตอนมอต้นไง คิดถึงเด็กหญิงมุกผมติ่งที่แอบปลื้มพี่พราว สุดสวย 55555555"

     

    สาวสวยผมแดงยิ้มจนตาปิด ส่งเสียงหวานๆล้อคนที่ได้ชื่อว่าแฟนยาวๆอย่างจงใจยียวนให้อีกคนได้เขินเล่น เน้นคำว่าสุดสวยด้วยน้ำเสียงทะเล้นแล้วก็ยิ้มยียวนอีกคน ... แม้สายตาจะยังจดจ่ออยู่ที่ใบหน้าสีเลือดฝาดของมุก แต่สมองก็ยังคิดวนเวียนถึงภาพจำในอดีตที่แจ่มชัดขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว ... ภาพวันอำลาอาลัยในคืนวันสุดท้ายของโรงเรียนมัธยมต้นยังติดตา ความประทับใจที่มีต่อเด็กหน้าหมวยข้างๆยังคงติดใจมิรู้เลือน

     

    มุกเบ้ปากใส่คำว่า 'สุดสวย' ที่พี่พราวหยิบมันออกมาชมตัวเองได้อย่างน่าหมั่นไส้

     

    "โหยยย อย่ามาแซวเกินเถอะ ตอนนั้นกะตอนนี้เจ๊ไม่เหมือนกันซะหน่อยย" มุกกอดอกแน่น เบ้ปากใส่คนโตกว่าอย่างแง่งอน และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอเขินมาก เมื่ออีกฝ่ายเปิดประเด็นเรื่องความหลงใหลได้ปลื้มขั้นเทพของเธอในตอนนั้น คิ้วสองข้างของเด็กน้อยยู่ยี่อย่างน่ารัก

     

    และคำสรรพนามแทนที่อีกคนชอบใช้เรียกกัน ดันคิ้วคนโตกว่าให้ยู่เข้าหากันได้ทันที

    "นี่ ไอ้แสบ ! บอกกี่ทีอย่าเรียกเจ๊ เจ๊ ! " เสียงแหลมโวยวายได้ดังสะท้านทรวง ... จนคนโดนวายต้องเอามืดปิดหูแล้วแลบลิ้นปลิ้นตาอย่างทะเล้นสุดๆ เธออยากจะโวยวายพี่พราวคืนเหมือนกัน ว่าเธอก็ไม่ค่อยสนุกกับการได้ยินคำเรียกชื่อว่าไอ้แสบเท่าไรนัก มันดูเป็นเด็ก ... เด็กสองขวบที่เป็นที่น่าเอ็นดูของหมู่ญาติผู้ใหญ่ ไม่ใช่แฟน

     

    แต่ก็ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงให้คนโตกว่าหน้ายู่ไปมากกว่านี้

    "โอเคๆ ไม่เรียกแล้ววว ล้อเล่นหรอกน่า"

     

     

    พราวรับฟังน้ำเสียงกึ่งฉิวกึ่งขำของมุกแล้วก็ได้แต่โคลงหัวไปมาอย่างนึกขำ ... สองมือเรียวสวยยกขึ้นมาหยิกเนื้อนิ่มๆที่ทำแก้มป่องให้ยืดออกไปตามแรงด้วยความหมั่นเขี้ยว จนเจ้าของแก้มหน้าเบ้ ในท่าทางของเด็กตัวน้อยๆที่อีกคนแสดงออกมา น่ารักจับใจจนพราวอดเอ็นดูไม่ได้เลย

     

    "โหย ... เจ็บนะเจ๊ !"

    "แน๊ ! บอกห้ามเรียกเจ๊"

     

    สิ้นคำสั่งที่เหมือนจะกึ่งคำขู่ หมู่มวลเส้นผมสีแดงก็ร่วงผล็อยลงบนไหล่นุ่มนิ่มของเจ้ามุก ... เป็นการซบไหล่ที่นุ่มนิ่ม ฉับพลัน และทันใจไร้การตั้งตัวที่สุด และแม้จะอยู่ในช่วงกรุ่นๆแห่งการล้งเล้งกันตามประสา มุกก็ยังมีรอยยิ้มให้ผู้ใหญ่ขี้อ้อนข้างตัวเสมอ

     

    "เถอะน่า ... จะเรียกอะไรต่างกันตรงไหน ยังไงมุกก็รักเจ๊อยู่แล้ววว"

    ก่อนที่ศีรษะคนโดนซบจะเอนไปพิงอีกคนไว้เบาพร้อมรอยยิ้มบางๆที่ยังประดับอยู่ไม่หายไปไหน...

     

    โดยมีความรักใสใส ผูกหัวใจสองดวงเอาไว้อย่างหนาแน่น ราวกับจะเป็นหลักประกันว่าทั้งสองคนจะอยู่ด้วยกันยืนนานสืบไป

     

    "ฉันก็รักแก ไอ้ตัวแสบ !"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


    .

    .

     

     

    "รีบกินไปไหน เดี๋ยวติดคอตาย..."

     

    เสียงดุเข้มๆของนท ดังขึ้นอย่างไม่ใคร่จะชอบใจนักกับพฤติกรรมการกินแบบหักโหมของอีกคน ... ตาเขียวปั๊ดจ้องมองไปใบหน้าสวยๆอย่างผู้ใหญ่ที่มองเด็กน้อยๆคนนึง แต่เหมือนเด็กน้อยคนนั้นก็ดูจะไม่ใส่ใจอะไรกับคำดุของนทนัก ยังคงตั้งตั้งตายัดทานอาหารเข้าปาก ตาก็เหลือบมองนาฬิกาอยู่เนืองๆ ยิ่งเห็นเข็มนาฬิกาเดินไปไวเท่าไร ความเร็วในการกินยิ่งเพิ่มพูนเป็นทวีคูณ

     

    ในขณะที่นท ... คนพามากิน หมดอารมณ์ตั้งแต่แอปเปิ้ลเอ่ยปากพูดคำแรก ...

    'แอปรีบอ่าพี่นท ... ซื้อหมูปิ้งกินกันไม่ได้เหรออ'

     

    ทำลายบรรยากาศได้เละตุ้มเป๊ะไม่มีชิ้นดี

     

    "ไปค่ะพี่นท..." เสร็จคำสุดท้าย แอปเปิ้ลก็ดึงทิชชู่มาเช็ดมือและปาก ยกมือเรียกเด็กเสิร์ฟมาคิดตังค์ แล้วควักจ่ายพร้อมกับก้าวขาฉับๆออกไปอย่างใจร้ายใจดำที่สุด ... สิ่งที่แอปเปิ้ลทำมันทำให้นทขมวดคิ้วเข้ม ทั้งหน้าตึงไปหมด เธอโกรธจนเกินโกรธ ... และในความรู้สึกลึกๆ มันแฝงไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ

     

    ไหนบอกว่าชอบเธอมากมาย แต่เวลาแค่ชั่วโมงสองชั่วโมงต่อวัน ให้กันไม่ได้...

     

    เชอะ ... อยากจะรีบอยากจะวุ่นวายอะไรก็เป็นไป ไม่ง้อหรอกนะ เดี๋ยวจะไม่พูดด้วยซะให้เข็ด

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "แอปเปิ้ล ต่อไปนี้ก่อนเธอจะไปมอ เธอต้องไปบ้านฉันก่อน ! แล้วเดี๋ยวฉันไปส่งเอง เข้าใจไหม ?"

     

    แต่สุดท้าย นทเองก็เป็นฝ่ายที่หลงลืมอารมณ์ของตัวเองไปจนหมด ... เธอปั้นปึ่งอยู่นานแต่ก็ไม่เห็นวี่แววว่าแอปเปิ้ลจะง้อ ทั้งสะบัดสะบิ้งและแกล้งเปิดเพลงเสียงดังแต่อีกคนก็ยังเหม่อมองนอกถนนอย่างไม่สนใจ จนในที่สุด นทต้องแกล้งทำเป็นขึงขังขึ้นมาอีกที แล้วรวบรัดยัดเยียดคำสั่งที่คิดขึ้นมาใหม่สดสดให้เสียเลย ! เป็นการเปิดประเด็นหลังจากปล่อยให้บทสนทนาระหว่างกันหายไปนาน และหาทางแก้ไขสภาวะห่างเกิน ก่อนที่แอปเปิ้ลคนใจร้ายจะปล่อยให้เธอต้อง ... คิดถึงตาย .... เสียก่อน

     

    "ห้ะพี่นท ว่าไงนะคะ ?"

    และเมื่อพอคนโดนรับคำสั่งได้ยิน แอปเปิ้ลก็แทบจะแย้งออกมาไม่ทัน กับคำสั่งประหลาดๆที่ดูจะเป็นการลำบากเกินไปทั้งเธอและตัวพี่นทเอง ...

     

    "แล้วพวกมื้อปิ้งย่างของเธอน่ะ เลิกซะที กินอยู่ได้ทุกเช้า ! กินจนสารเฮทเทอโรบ้าบออะไรนั่นมันจะซึมเข้าไปทุกรูขุมขนอยู่แล้ว !"

    นทไม่เสียเวลาสนใจฟังเสียงแย้งของแอปเปิ้ลแม้เพียงวินาที เธอปล่อยให้มันผ่านหูไปเหมือนเป็นเสียงเข็มตกพื้นเล่มหนึ่ง ... แล้วหยิบยื่นข้อมูลสดใหม่ของเธอให้แอปเปิ้ลได้รู้ไปด้วยกันแม้จะไม่ละเอียดนักก็ตามที ก็หลังจากที่เมื่อวานซืน ไถ่ถามแอปเปิ้ลจนได้ความว่ามื้อเช้าของยัยเด็กหน้าขาวไม่เคยหนีพ้นหมูปิ้งหน้ามอ. เธอก็ไม่สบายใจเว่อร์จนต้องเร่งไปหาพี่หมอแล้วสั่งให้เขาอธิบายโทษของมันมาให้หมด ... พี่หมอพูดชื่อสารบางอย่างซึ่งเป็นอะไรที่เธอไม่เข้าใจ และไม่อยากเข้าใจ ... แต่อยากให้อีกคนเข้าใจ

     

    "สารเฮทเทอโรอะไรคะ ?"

    เรื่องเก่ายังไม่ทันหายงง พี่นทก็พ่นประโยคใหม่มาให้ฉงนกันได้ไม่ขาดตอน ... ดูเอาหนอ พี่นทสุดอินดี้ ช่างพูดเรื่องนู้นชักเข้าเรื่องนี้ แล้วออกนอกเมืองไปเรื่องนั้นได้อย่างไม่สนใจคนฟังสักนิด ใจคอจะไม่ให้เธอตามทัน จะไม่ให้เธอเข้าใจเลยหรืออย่างไร ... ว่าเจตนาที่พูดคำเหล่านี้ออกมา มันยังไงกันแน่ ?

     

    "อ้อ แล้วอย่านอนดึกด้วย หน้าตาเธอโทรมไปหมดแล้ว หัดพักผ่อนซะมั่ง หรือถ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนเหล็ก ลุยยังไงก็ไม่ล้ม ก็ตามใจ "

     

    "โอยยยยยยยยพี่นท แอปงงไปหมดแล้วววว หยุดดุแอปแล้วอธิบายหน่อยได้ไหมคะ เป็นอะไรเนี่ยย ..."

    แอปเปิ้ลส่งเสียงแย้งออกไปอีกทีอย่างสุดจะสงสัย เธอรับคำดุของพี่นทมาสามประโยคเต็มๆแบบไม่รู้สาเหตุ อยากจะรู้นักว่าเพราะอะไร ที่พักนี้ พี่นทช่างขยันทำตัวน่าสงสัย ขยันเอาตัวเข้าใกล้กันขึ้นทุกที ... ทั้งแว่บไปหากันพร้อมแบกขนมกองโตไปให้ถึงที่คณะเมื่อวานซืน ดึกๆดื่นๆก็โทรมาหาแล้วถามนู่นถามนี่เสียงเบา และจนวันนี้ตอนเช้า ยังอุตส่าห์พาบีเอ็มคันหรูไปเทียบถึงหน้าคอนโด แล้วโทรตามให้ลงมาหาแบบไม่เกรงใจ ทั้งๆที่รู้ว่าตอนนั้นเป็นเวลาแค่เจ็ดโมงเช้า เธอเพิ่งจะพาหัวถึงหมอนได้ไม่ถึงห้าชั่วโมง

     

     

     

    นทชะงักไปพักนึงทีเดียวกับเสียงแห่งความสงสัยของแอปเปิ้ล .... ไม่ได้เตรียมคำตอบมาด้วยละสิ เอาไงดีว้าาา

     

    "เอ่อ ... แล้วเธอจะมาหาฉันที่บ้านตอนเช้า หรือจะให้ฉันไปรับเธอเอง..."

     

    เลยเปลี่ยนเรื่องซะเลยอย่างไม่ต้องคิดนาน มันอาจติดขัดไปบ้างแต่นทก็ยังถือว่าตัวเองคุมอารมณ์ได้ดี ... คำตอบกึ่งคำถามที่ออกมาทำแอปเปิ้ลทำหน้าเหวอจนเธออยากจะบีบแก้มยุ้ยๆนั่นสักที สงสัยมากใช่ไหมยัยหน้าป่วย ? อยากรู้นักใช่ไหมว่าฉันเป็นบ้าอะไรขึ้นมา ... อยากได้ยินใช่ไหมว่าฉันเป็นห่วงสุขภาพเธอจะแย่

     

    แอปเปิ้ลทำให้เธออยากจะเรียนหมอเลยให้ตาย ! คนอะไรไม่ยอมดูแลตัวเอง

     

    "ก็ ... แอปไปหาพี่นทเองก็ได้ค่ะ พี่นทจะได้ไม่ต้องลำบาก"

    ในเมื่อปฏิเสธไม่ได้แล้ว แอปเปิ้ลก็ได้ยอมจำนนรับอารมณ์รวนๆของพี่นทไปแบบไม่มีทางเลือก แต่ยิ่งเธอตอบรับด้วยความเกรงใจแบบนี้ พี่นทยิ่งจะขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นขึ้นชอบกล ... จนเธอชักไม่แน่ใจ เธอไปทำอะไรผิดหรือเปล่า ?

     

    "ลำบากสิ ลำบากต้องมานั่งรอ ... ไม่เอาล่ะ ฉันไปรับเธอเองดีกว่า"

    นทคิดไปคิดมาแล้ว ... เธอก็ไม่ค่อยอยากจะให้แอปเปิ้ลต้องแหกขี้ตาตื่นเช้าแล้วมาบ้านเธอก่อนสักเท่าไร หากมันเป็นเพราะความต้องการของเธอที่อยากเจอแอปเปิ้ล เธอควรไปหาแอปเปิ้ลเองมากกว่า ... ควรให้แอปเปิ้ลได้พักผ่อนยาวๆๆ นอนให้เต็มที่ แล้วเธอจะคอยไปรับหน้าบ้านเพื่อไปส่งถึงที่อย่างปลอดภัยด้วยมือเธอเอง ... อื้มๆ ดูแล้วความคิดนี้เวิร์ค

     

    แต่ลำบากต้องมานั่งรอ ...

    โอ๊ยไอ้นท พูดจากวนส้นทีนแบบนี้ออกไปได้ยังไงวะ

     

    "อ่าว..."

     

    "อ่าวอะไรเล่า เบลอไปแล้วหรือไง"

     

    แอปเปิ้ลกระพริบตาปริบๆมองนทที่ส่ายหัวไปมาด้วยอารมณ์ที่คล้ายจะเอือมระอา ... แน่ล่ะ เป็นใคร ก็คงต้องงงเป็นแน่แท้ มีอย่างที่ไหน ขี้เกียจรอ แต่ไม่มีขี้เกียจถ่อไปรับ

     

    เธอกำลังจะอ้าปากขานรับอย่างไม่มีทางปฏิเสธ แต่มันก็ถูกขัดไว้เสียก่อนด้วยเสียงโทรศัพท์ ... เสียงโทรศัพท์ที่เรียกทั้งสายตาเธอและพี่นทไปสามัคคีชุมนุมไว้ด้วยกันที่หน้ากว้างๆของเจ้าสมาร์ทโฟนนั่นเครื่องเดียว

     

     

     

    พี่นทจ้องมองกันด้วยสายตาน่ากลัวจนเธอเกรงใจที่จะรับ...

     

    "ฮัลโหลค่ะพี่เซน..."

    แต่เธอก็รับไปแล้วในที่สุด แม้จะต้องหลบตาดุดุของพี่นทวูบบบ...ก็เถอะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ชื่อของคนปลายสายที่แอปเปิ้ลเรียก ... มันสะกิดใจนทตงิดๆ นึกไปมา วันนั้นเธอก็พึ่งจะฝันถึงไอ้เพื่อนสมัยมัธยมหน้าหล่อที่ชื่อเดียวกันนี่ไปหยกๆ ... ฝันถึงทั้งพราว ทั้งเซน และก็ทั้งดอกไม้ปลอมของน้องแก้มยุ้ย ที่ป่านนี้ไม่รู้หลุดลอยไปอยู่มุมไหนของโลกแล้ว

     

    หลายที ... เธอก็เผลอมองแอปเปิ้ลแล้วนึกถึงน้องแก้มยุ้ยคนนั้นเหมือนกัน โครงหน้าจิ้มลิ้มที่เห็นได้ในระยะไกลเมื่อหลายๆปีก่อน ไม่ชัดเจนเท่าไรแต่ติดตา และถ้าหากน้องคนนั้นโตขึ้น นทก็คิดว่ามันก็มีโอกาสจะพัฒนากลายมาเป็นหน้าคมคมแบบคนข้างๆเธอได้ไม่ยาก ...

     

    เสียเวลานับปีต่ออีกหน่อย ... นทก็พบอีกว่าแอปเปิ้ลและน้องคนนั้นมีอายุห่างกับเธอเท่ากันเป๊ะแบบ ไม่ค่อยน่าเชื่อ ! จนอยากจะคิดต่ออีกหน่อยว่า หรือจะแอปเปิ้ลจะเป็นน้องแก้มยุ้ยคนนั้นจริงๆ ...

     

     

    "อ่อค่ะ ... เดี๋ยวแอปไปดูให้เอง อยู่ที่โต๊ะหน้าหอสมุดใช่ไหมคะ ?"

     

    เสียงแอปเปิ้ลที่ดูจะอ่อนจะหวานจนน่าหมั่นไส้ กับรอยยิ้มบางๆที่แปะประดับอยู่บนหน้า มันทำให้นทหงุดหงิดจนต้องชักสีหน้าขึ้นมาแบบควบคุมอารมณ์ไม่ทัน ...

     

     

    "โอเค ไว้เจอกันค่ะพี่เซน..."

    ไม่ใช่หรอก แอปเปิ้ลไม่ใช่คนคนเดียวกับน้องแก้มยุ้ยของเธอแน่ๆ ... น้องแก้มยุ้ยน่ารักกว่าแอปเปิ้ลตั้งเยอะ เชอะ !

     

     

    "พี่นท... เดี๋ยวแอปไปหอสมุด แต่พี่นทจอดหน้าตึกคณะก็ได้นะคะ เดี๋ยวแอปเดินต่อไปเอง..."

     

    วางสายแล้วแอปเปิ้ลก็หันมายิ้มหวาน บอกพี่นทด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชวนฟัง รอยยิ้มบางๆยังประดับอยู่บนใบหน้าไม่จางหาย ... เหมือนกับที่นทยังคงขมวดคิ้วแน่นอยู่แบบนั้น ไม่ยอมคลาย ส่งเสียงเขียวขุ่นถามอีกคนเหมือนระเบิดเวลาที่รอเข็มนาฬิกาเดินทางไปถึงเต็มที่

     

    "ทำไม นัดใครไว้หรือไง ?"

     

    "ค่ะ ... บังเอิญพี่ที่คณะเค้ารับสอนพิเศษเด็กๆที่อยากเรียนที่นี่ไว้สองคน แต่วันนี้พี่เค้ามีธุระด่วน แอปเลยจะไปคุยๆแทนให้"

    แอปเปิ้ลก็ตอบพาซื่อ ก็เธอมีนัดจริงๆนี่นา ... พี่เซนโทรมาขอความช่วยเหลือกันด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร ฝากฝังรุ่นน้องม.หกไว้สองคนซึ่งเธอก็ไม่เคยรู้จักมักจี่ว่าเป็นใคร แต่ก็พอรู้มาคร่าวๆว่าเป็นเด็กตัวน้อยที่มีความใฝ่ฝันแรงกล้าว่าอยากจะเรียนคณะนี้แบบสุดพลัง ... พี่เซนบอกมีธุระด่วนซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และเธอก็ไม่กล้าพอจะปฏิเสธพี่เขาด้วยคำไหน เลยต้องตกปากรับคำไป แม้ในใจจะอยากว่างเต็มแก่

     

    นทปรายตามองแอปเปิ้ลเพียงวินาที แต่หากนทได้เห็นหน้าตัวเอง เธอคงต้องเขินที่เห็นสายตาคล้ายๆอาการมองค้อนในกระจก ... ตัวรถเข้าเขตมหาวิทยาลัย และผ่านเลยตึกคณะของแอปเปิ้ลไปแบบไม่ใส่ใจ ในเมื่อวันนี้ที่นี่ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง ... แต่มันก็ติดอยู่ที่ว่า นทไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางมันอยู่ที่ไหน

     

    แอปเปิ้ลอ้าปากจะทักท้วงเมื่อเห็นรถเลยมาไกลพอสมควร แต่สุดท้ายเธอก็ถูกเสียงพี่นทแทรกขึ้นมาแบบหมดสิทธิจะถามต่อ...

     

    "หอสมุดมันไปทางไหน ?"

     

    "ไม่ต้องหรอกค่ะพี่นท เดินไปนิดเดียว มันออกลำบาก..."

    แอปเปิ้ลปฏิเสธเสียงแผ่ว ทั้งเกรงใจและไม่อยากให้พี่นทต้องลำบากเข้าไป ทางเส้นนั้นเป็นทางแคบๆที่แม้แต่เด็กในมอเองยังไม่อยากจะพารถเข้าไป ทั้งแออัดยัดเยียดไปด้วยจักรยานและมอเตอร์ไซค์ เพราะมันดันบังเอิญไปติดติดอยู่กับหอพักในมหาวิทยาลัยที่มีลานจอดรถจักรยานยื่นออกมาพอดี

     

    "ทางไหน ?"

    แต่นทไม่ยอม ... คิ้วเข้มเริ่มขมวดแน่นอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าแอปเปิ้ลชักจะขัดใจเธอมากขึ้นและบ่อยขึ้นทุกที ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้ นิสัยชอบขัดใจนั่นมันของเธอชัดๆ !

     

    "เอ่อ ... ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายสองทีค่ะ ตรอกเล็กๆข้างสวนหย่อม"

    แอปเปิ้ลได้แต่ยิ้มอ่อน ส่ายหัวน้อยๆอย่างอ่อนใจกับพี่นทคนใหม่ที่เธอตั้งรับไม่ทัน ปากก็บอกทางให้คนหน้าเข้มไป ... ตามใจแล้วกัน

     

     

     

    จนรถเริ่มเข้ามาในช่วงแออัด แบบเห็นหอสมุดอยู่รำไรแล้วนั่นแหล่ะ ... ฟีดแบ็กแย่ๆจากคนข้างๆถึงได้เริ่มออกโรงมาให้ได้ยินอีกครั้ง

    "ทางแคบอ่ะ นี่ตรงออกไปได้เลยป้ะเนี๊ยะ ..."

     

    "เอ่อ ... ทางมันตันค่ะพี่นท ..."

     

    "เอ้าแล้วทำไมไม่รีบบอกก่อน !"

    นทโวยเสียงแหลม สะบัดหน้าหันไปดุคนข้างๆแบบโคตรน่ากลัว ... และท่าทางนั้นทำเอาแอปเปิ้ลยิ้มแหยๆ เด็กสาวในชุดนักศึกษาได้แต่อ้อมแอ้มบอกแบบกล้าๆกลัวๆ

     

    "เอ่อ ... แอปเดินเข้าไปเองก็ได้นะคะ"

     

    "นี่เข้ามาขนาดนี้แล้ว ยังไงฉันก็ต้องไปส่งเธอแล้วล่ะ ยัยบ๊องเอ๊ย !"

     

    เหมือนแอปเปิ้ลจะรู้ว่าป่วยการจะแก้ตัวและเธอก็ได้ทำเพียงน้อมรับความหวังดีที่ดูเอาแต่ใจนั้นยิ้มๆ มีเวลานั่งนิ่งให้คิดนาน ความห่วงใยยิ่งเผยออกมาหมดจนไม่อยากจะสงสัย พี่นทคงเป็นห่วง อยากให้เธอไม่ต้องลำบากเดินทางมามหาวิทยาลัยเอง , พี่นทคงกังวล ที่เห็นเธอต้องทานมื้อเช้าที่เป็นของปิ้งย่างซ้ำแล้วรับทานสารก่อมะเร็งบ้าๆนั่นเข้าไปเต็ม ๆ , พี่นทคงหงุดหงิด ที่เห็นเธอนอนดึกดื่นจนหน้าตาใสใสเริ่มจะโทรมลงไปบ้าง แม้ไม่มากก็ตาม ...  และแม้พี่นทจะไม่อยากพูดมันให้ชัด แม้การแสดงออกของพี่นทจะดูกระโชกโฮกฮากเกินไป...

     

    ไม่เป็นไร ... อย่างน้อยๆเจตนาของความห่วงใยยังทำให้เธออุ่นใจได้เหมือนกัน

     

    อยากจะรู้นัก ว่าหากเธอบอกก่อนว่าทางมันตัน พี่นทจะเอาเหตุผลบ้าๆที่ไหนพาเธอมาส่งถึงที่อีกก็ไม่รู้...

     

     

     

     

    คนอะไร ฟอร์มมาก ปากเก่งชะมัด

     

     

     

     

     
    รูปนี้มีชื่อว่า
    น้ทททพีโซแฮนซั่ม:)


    หล่ออ้ะ หล่อเน้อะะะ หล่ออ 55555
    พี่นทกะน้องแอปเค้าหล่อแข่งกันหรือเปล่า !!!!? หือออออ...
    (สืบเนื่องจากรูปในตอนที่สิบสองงง)



    คิคิ ค่ะ ตอนนี้มาแบบกลวงๆ และรสรแบบสุด ฮ่าฮ่าฮ่า...
    ตอนแรกบทนี้จะเป็นของกลุ่มเพื่อน คือ พราว นท แอป มุก ซิล ไรแบบนี้
    แต่ขอโทษ พอลูกไม้รู้ว่าพี่นทกับแอปไปดูคอนด้วยกันเท่านั้นแหล่ะ
    ต่อมจิ้นงี้แหลก !

    55555555555555555
    พออ่านตอนแรกๆมาจนถึงตอนนี้ รู้สึกว่าพี่นทของเรานี่เปลี่ยนไปมากเลยนะ
    พูดเยอะ ปากจัด แถมยังขี้งอนด้วย , มากๆ คิคิ


    และถ้าคุณอ่านตอนนี้แล้วจะรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาถึง 'แพ้ใจ' ของพี่นิ่ม , ไม่แปลกค่ะ !!!!
    เพราะลูกไม้ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องนี้มาเต็มๆ ลูกไม้เพิ่งอ่านแพ้ใจรอบที่ล้านจบ
    คิดถึงพี่นิ่ม คิดถึงฟิคพี่นิ่มนะ

    คิดถึงคอมเม้นของทุกคนด้วย จุ้บๆ.3
    ดีใจที่มาคุยกันในทุกตอน ขอบคุณมากค่าาาา

    ปล ใครคือเด็กที่พี่เซนรับมาสอนพิเศษ โปรดติดตามตอนต่อไป ...


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×