คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 13 What's wrong with me !!?
"วันนี้แอปเปิ้ลมีโปรโมชั่นมานำเสนอค่ะพี่นท ฟรีฮักชุดใหญ่สำหรับคนที่คิดถึงแอปจนตัวสั่น มาเร็วๆ กอดเลยๆๆๆๆ"
แอปเปิ้ลอ้าแขนร้อยแปดสิบองศา พร้อมกับส่งประโยคหลงตัวเองและรอยยิ้มหวานฉ่ำแบบสุดๆให้คนหน้าบูดข้างๆอย่างเปิดโอกาสเต็มที่ ... หลังจากที่เธออาสาตามพี่นทเข้าครัวมาเพื่อให้มีเวลาด้วยกันสองต่อสอง แล้วทิ้งหนุ่มสาว ... สองคนไว้ในส่วนโถงของบ้าน ให้เขาคุยกันตามประสา ... เพื่อนน
นทหยุดการกระทำที่เป็นอยู่ แล้วหันหน้ามามองแอปเปิ้ลด้วยสายตาที่น่ากลัวมากกว่าน่ามอง ... สายตาที่ทำเอาคนทะเล้นหัวเราะร่าด้วยความชอบใจ
เธออยากจะหยิกแก้มคนโตกว่าด้วยความเอ็นดู ... นี่แหล่ะ พี่นทตัวจริงเสียงจริงต้องเป็นแบบนี้ ขี้เก๊ก หน้าเครียด ชอบดุ แล้วก็ยิ้มยาก ถ้าอยู่ดีดีพี่นทโผเข้ามากอดเธอ ให้ตั้งสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าพี่นทตัวปลอมแน่ๆ
"ใครเขาจะกอดเธอ"
เสียงโคตรเข้มของคนกำลังโดนแกล้ง ดุคนขี้แกล้งเบาๆ คิ้วเข้มขมวดแน่น เธอกำลังพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะปั้นหน้าดุแล้วซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ ซ่อนจังหวะหัวใจที่เต้นผิดปกติเอาไว้ ซ่อนลมหายใจที่สั่นสะท้านเอาไว้ ... เธอเกลียดการต้องเผชิญหน้ากับแม่มดร้ายอย่างแอปเปิ้ลเพียงลำพังเหลือเกิน
ดูซินั่น สายตาอะไรกัน ใช้มันมองเธอแบบนั้นได้ยังไง
และเหมือนเวทย์มนตร์ที่ยัยตัวแสบใช้ จะหลอมกำแพงน้ำแข็งให้เหลวละลายได้มากขึ้นทุกนาที
ยิ่งเห็นพี่นทแสดงท่าทีว่าโมโห เธอยิ่งอยากจะยิ้มยั่ว ... ยั่วให้คนขี้เก๊ก สลัดมาดบ้าๆนั่นออกแล้วมองเธอด้วยสายตาหวานๆสักที
อารมณ์คนขี้แกล้ง ทำให้แอปเปิ้ลยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนขี้เก๊กเข้าเรื่อย ... เธอไม่กลัวสายตาดุดุของพี่นท ไม่กลัวใบหน้าชาเย็นเป็นน้ำแข็งนั่นสักนิด ประสบการณ์และความใกล้ชิดสอนให้แอปเปิ้ลรู้ พี่นทคนนี้เป็นเพียงคนใจอ่อนปากแข็งคนนึงเท่านั้นเอง
ก็เธอยังเห็นแววหวั่นไหวในสายตา
ก็เธอยังรับรู้ได้ว่าการหายใจของพี่นท มันเงียบไปและไม่ปกติ
แม้แต่ปลายเสียง ยังสั่นๆและเถียงได้ไม่เต็มปากเต็มคำ
"ไม่ยอมรับว่าอยากกอด แต่นี่คือการยอมรับกลายๆว่าคิดถึงแอปใช่ไหม ?"
แอปเปิ้ลยิ้มหวาน สบสายตาดุดุนั้นอย่างจงใจเผยความนัย ไม่มีอะไรต้องแอบซ่อนและปิดบัง เธอกล้าพูดด้วยหัวใจว่าคิดถึงใบหน้าหวานๆนี้จับใจ ... แต่ใบหน้าคนเครียดคนนี้ กลับไม่ได้ร่วมรับรู้และซาบซึ้งไปด้วยกันเลย
นิ้วเรียวจากมือทั้งสอง ลู่ไปตามคิ้วของคนหน้าเครียดเบาๆ ผ่อนคลายใบหน้าบูดบึ้งที่ปั้นไว้ ละลายท่าทางที่ขึงขังเกินไป
"แอปคิดถึงพี่นท"
แอปเปิ้ลยิ้มบอกพี่นทด้วยน้ำเสียงที่หวานไพเราะจับหัวใจ...
"นี่ไอ้นท ถ้าแกให้พี่ช่วยวิเคราะห์อาการแล้วอุบอิบไม่บอกกันแบบนี้ พี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้นะเว้ย"
หมอริทโวยวายขึ้นมาอย่างพหนีไม่พ้นอารมณ์หงุดหงิด หลังจากพยายามอดทนรอและกลั้นใจฟังไอ้น้องสาวที่นั่งหน้าแดงอยู่ตรงข้าม เล่าเรื่องราวอย่างตะกุกตะกัก ...นทพูดคำนึงก็หน้าแดงทีนึง หลบตาวูบวาบไปมาอย่างคนที่แสดงออกชัดเจนว่าขี้อาย แถมยังอธิบายอาการตัวเองด้วยคำว่า...
'ก็แบบนั้นอ่ะ ... แบบที่นทไม่เคยเป็นอ่ะพี่หมอ เข้าใจไหมอ่า ?'
ให้ตาย ! ไม่รู้ต้องเรียนหมอกี่ปีถึงจะเข้าใจ กับไอ้อาการ 'แบบนั้นอ่ะ แบบที่นทไม่เคยเป็น' ... ไม่รู้จะต้องศึกษาทฤษฎีอีกกี่ร้อยเล่มถึงจะแก้ปัญหานี้ได้ ปัญหาที่ไอ้เจ้านทน่าจะรู้ดีแต่ก็ไม่ระแคะระคายสงสัย...
"โถ่พี่ ! ต้องช่วยได้ดิ พี่ก็รู้ เวลานทเจอยัยแอปป่วยนั่นแล้วนทจะไม่ค่อย ... ปกติ"
ท้ายเสียง มันอุบอิบและแผ่วเบาเต็มที ราวกับจะเก็บเอาไว้ในลำคอ เก็บเอาไว้ในก้นบึ้งหัวใจอยู่แบบนั้น ... ซึมซับความรู้สึกดีดีที่เกิดขึ้นเพียงลำพัง แม้จะอยากรู้แน่ชัด แต่นทก็ไม่เก่งกล้าพอที่จะประกาศมันกับใคร ... เพียงแต่อยากให้พี่หมอวิเคราะห์เท่านั้น และถ้ารักษาได้ เธอก็อยากให้หาย
ไม่ใช่ว่าจะอินโนเซ้นท์ รักไม่เป็นเสียเมื่อไร...
หัวใจเธอเคยเต้นแรงกับใครบางคน เคยมีความสุขคล้ายๆกับแบบนี้ แม้มันจะไม่ได้เหมือนกันเสียทีเดียว แต่สิ่งที่เคยเป็นมันคืออาการที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาแล้วจนเป็นวันนี้
"แต่ถ้าเอาเท่าที่แกเล่ามา ... น้องเขาก็ดูเหมือนจะจีบแกเหมือนกันนะ"
พี่หมอริทพยักหน้าเห็นด้วยกับตัวเอง เอาข้อมูลที่นทอุบอิบบอกกันมาตีแผ่และคัดสิ่งที่น่าสนใจ พร้อมบวกรวมด้วยสิ่งที่เห็นมากับตา ... ไม่ต้องวิเคราะห์นานก็รู้ ยัยแอปป่วย หรือน้องแอปเปิ้ลคนนี้ ดูจะตกหลุมรักนทแบบหัวปักหัวปำ
"ไม่เกี่ยวกับแอป ... เกี่ยวกับนทนี่แหล่ะ"
นทปล่อยตัวลงบนโซฟา เอนหลังพักผ่อนและหลับตาลงอย่างเคร่งเครียด ... ไม่รู้จะรับกับความรู้สึกนี้ได้ยังไง ไม่รู้จะต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเองในแบบไหน
"นทเล่าให้พี่ฟังต่อดิ อยากให้ช่วยไม่ใช่ไง ! เล่าเดี๋ยวนี้นะ"
"หืมมม พี่นท ไข่ดาวพี่นทอร่อยที่สุดเลย..."
นทนั่งเท้าคางในโต๊ะทำกับข้าวกลางห้องครัว พลางทิ้งสายตามองหน้ายัยเด็กป่วยที่เคี้ยวข้าวไข่ทอดฝืดๆอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ตรงหน้าอย่างแอบเอ็นดู ... หลังจากที่ยัยแอปป่วยตัวแสบ ร้องตะแง้วเธอพร้อมประกาศทวงคำสัญญาบ้าๆบอๆ ทั้งๆที่ต่างก็ร่วมมือกันทำกับข้าวไปเสิร์ฟให้พี่สาวพี่ชายตัวเองตั้งมากตั้งมาย แต่แอปเปิ้ลก็ดูจะไม่ได้สนใจกับมันสักนิด ตรงกันข้าม กลับวิ่งโร่หาไข่ไก่สดจนครัววุ่นวายไปหมด
สุดท้าย เธอเลยต้องยอม แกะไข่สดออกจากแพค และจับมันโยนลงกะทะเพื่อให้มันตกเป็นมื้อเช้าของแอปเปิ้ลในที่สุด
"เว่อร์"
ถึงปากจะเป็นไปในเชิงดุอีกคนกลายๆ แต่นทก็เก็บอาการหน้าแดงไม่ได้สักที เธอรู้สึกเขินที่ต้องเป็นอาหารตาให้แอปเปิ้ลแบบนี้ ... เขินที่แอปเปิ้ลพูดคำเว่อร์ๆเพื่อชมอาหารธรรมดาจากเธอ ... เขินที่ต้องนั่งกันอยู่สองต่อสองในห้องครัวเพียงลำพัง ... เขิน แต่ก็ชอบใจ
"เชื่อแอปซี ถ้าได้นั่งกินแล้วมองหน้าพี่นทไปแบบนี้ อะไรก็อร่อย..."
แล้วยัยแอปป่วย ก็ยิงประโยคละลายหัวใจ พร้อมสายตาฉ่ำหวานชวนหวั่นไหว มาให้กันอีกรอบ...
"จริงๆนะคะ..."
นทได้แต่หลบตาวูบอย่างไม่เข้าใจ ... กับคำพูดสั้นๆง่ายๆ ไม่ได้เป็นรูปธรรมอะไรเท่าไร แต่ทำไม หัวใจกลับรู้สึกดี...
"หืม งี้ที่แกไม่ยอมออกมากินข้าวด้วยกันก็เพราะงี้สินะ แหม ซุ่มนี่หว่า !"
พี่หมอริทตบเข่าดังชั๊วะ เมื่อฟังน้องสาวอุบอิบเล่าเรื่องราวหวานๆจนจบ สายตาพี่ชายมองน้องสาวอย่างหมั่นไส้เต็มที ... ไอ้เขาหรือก็สงสัยตั้งนานว่าทำไมเจ้านทกับน้องแอปเปิ้ลถึงได้แยกไปกินข้าวกันในครัว แทนที่จะออกมาร่วมวงสนทนากับพวกพี่ๆบนโต๊ะใหญ่ ! อุตส่าห์แอบนึกว่าไอ้น้องรักจะรู้ดีเปิดโอกาสให้เขา ที่ไหนได้ ... เปิดโอกาสให้ตัวเองนี่หว่า
"ซุ่มอะไร ... นทรู้หรอกว่าพี่หมออยากกินข้าวกะพี่แกรนด์สองคน ไม่อยากขัด"
นทแย้งหน้าแดง ... แม้การอยากทำตามใจตัวเองจะเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำแปลกๆนั่น แต่ไอ้พี่หมดตัวดีก็ต้องรับรู้ได้ว่าเธอก็อยากทำตัวเป็นน้องที่ดีเหมือนกัน ... เห็นสายตาแวววาววิบวับของพี่หมอที่มองพี่แกรนด์ก็พอจะรู้ ไม่คิดต่อกันแค่ธรรมดาหรอกน่า
และเมื่อพี่หมอดึงมาเรื่องนี้ ... สถานการณ์จึงถูกพลิกให้นทกลับมาเป็นต่อได้อย่างน่าตกใจ
นทเลยได้แต่ยักคิ้วหลิ่วตาใส่พี่หมอที่เริ่มหน้าแดงอย่างเฮฮา
"ไม่ต้องมาแซวนทหรอก ตัวเองนั่นแหล่ะที่ซุ่ม แหมทำมาบอกนทไม่มีใคร มีอยู่เป็นตัวเป็นตนโต้งๆ ขาวโอโม่ซะขนาดนั้น จะเก็บจะซ่อนไว้ยังไงไหวค๊าาาา"
ยิ่งเห็นพี่หมอหน้าแดงนทยิ่งได้ใจ รอมานานแล้วเวลาจะได้แซวคืน นทเลยใส่เสียงยียวนไปท้ายประโยคเสียเข้มข้น ลากยาวจนพี่หมอทนสบตาไม่ไหว ... นทหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สาวเท้าไปใกล้ๆพี่ชายแล้วตบหนักๆเอาที่หัวไหล่บอบบาง อย่างคนที่ดูจะเข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี
ก่อนประโยคถัดมาจากพี่ชายจะทำให้จังหวะขาที่กำลังจะขึ้นไปชั้นสองของบ้าน ต้องหยุด ...
"ไอ้นท ..."
และยิ้ม ออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
"พี่ว่าเราสองคน โดนสาวบ้านนี้ละลายใจซะเละเลยล่ะว่ะ"
กลิ่นอายของโรงเรียนมัธยมในวันสุดท้าย ... เด็กหญิงนทหายใจสูดเดาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด วันนี้จะต้องจากกันแล้วสินะ , โรงเรียนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ประถมต้น คุณครูที่สั่งที่สอนกันมาจนปากเปียกปากแฉะ เพื่อนๆที่รู้จักและรู้ใจกันดีมากว่าสิบปี นทอยากจะกล่าวคำอำลากับสิ่งที่เธอผูกพันให้เต็มสูบ แต่ก็ทำได้เพียงยิ้มและหมุนตัวมองไปรอบๆทิศอย่างคนที่ต้องการจะจดจำมันไว้ด้วยพื้นที่เล็กๆในหัวใจ
"นท เฟรนด์ชิพ..."
เสียงเรียกนุ่มๆของเพื่อนหนุ่มดังขึ้น พร้อมๆกับรูปเล่มสมุดวาดเขียนสีดำขนาดพอเหมาะ ที่ลอยหวือตามแรงโน้มถ่วงลงมาจากชั้นสองของตึก ... ทันทีที่ได้สติ นทก็ปราดเข้าไปอ้าแขนรับสิ่งของล้ำค่านั้นทันใจ รวบมันมาไว้ในท่าถนัดพร้อมฉีกยิ้ม ยกมือข้างนึงโบกไปมาให้เพื่อน
"ขอบใจนะเซน"
เพื่อนชายของนทยิ้มหวาน ทั้งเนื้อทั้งตัวของเด็กชายคนนี้เต็มไปด้วยสติกเกอร์หลากสีจนน่าตกใจ แม้กระทั่งที่ข้างแก้มก็ยังไม่เว้น ... สายตานทไล่มองไปตามส่วนที่โผล่พ้นระเบียงของเซนออกมาอย่างพินิจพิเคราะห์ แต่ละลวดลายที่อยู่บนเนื้อบนตัว ดูเขรอะขระเละเทะ แต่ก็เต็มไปด้วยมิตรภาพ จนนทอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ... ปฏิกิริยาที่นทแสดงออกต่อสติกเกอร์สื่อรักของเขา เล่นเอาเพื่อนชายสุดป๊อปของเธอยิ้มเขิน ดึงสติกเกอร์รูปหัวใจดวงโตที่แก้มออก ก่อนจะตะโกนแก้ตัวลงมาจากชั้นสองอย่างผู้ชายขี้อาย
"อย่ามองเซนอย่างนั้นสิโน้ททท ..."
เสียงเรียกชื่อของนทยืดยาวจนน่าหัวเราะ...
"โอเคๆ ... นทไม่มองแล้ว เจอกันนะเซน"
นทยิ้มรับคำขอของเขา โบกมือให้เพื่อนชายอีกที ก่อนที่เพื่อนชายคนนั้นจะยิ้มหวานให้เธอ แล้วก็วิ่งปรื๋อไปอีกทาง ตามประสาเด็กหนุ่มซนๆ ที่ยังไม่มีบุคลิกขี้เก๊กใดใดแม้จะเป็นหนุ่มป๊อปปูล่าในหมู่เด็กม.หนึ่งก็ตาม...
นทหันหลังออกจากที่ตรงนั้นไป ... เตรียมตัวจะเดินไปหาเพื่อนพราวอีกมุมหนึ่ง มุมประจำที่ยึดเป็นที่ของตัวเองมานานถึงสามปี โต๊ะยาวสีฟ้าใต้ต้นปาล์มต้นใหญ่ ที่ของนักดนตรีวงโยธวาทิต ที่มักจะมานั่งแย่งกันพูดเมื่อซ้อมเสร็จเสมอๆ
เพื่อนสาวคนสนิท นั่งฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะ อารมณ์ความรู้สึกสีหม่นลอยฟุ้งกระจายรอบตัวจนมองเห็นชัดเจนได้ระยะไกล จนนทอดเร่งฝีเท้าขึ้นไม่ได้ ... แล้วยิ่งเนื้อตัวที่สั่นไหวไปมา ยิ่งบอกให้นทรู้ชัดๆ ว่าเพื่อนพราวคนเก่งกำลัง ... ร้องไห้
ใจหายกับการจากลา
"พราว ... ไม่ร้องๆ"
นททำหน้าที่เพื่อนที่ดี ด้วยการนั่งลงข้างๆเพื่อนรัก แล้วเอ่ยปลอบเสียงหวาน ... หวานสุดเท่าที่ทำได้
สายตานทมองเห็นดอกกุหลาบหลากสีวางกระจายไปหมด ข้าวของแฮนด์เมดต่างๆนานา ก็วางเป็นกลุ่มๆจนหยิบมาปลื้มใจกันไม่หวาดไม่ไหว นทชินกับภาพเหล่านี้เหลือเกิน ... ภาพที่น้องๆผมติ่งตัวเล็กๆ จะมาแอบมองพี่พราวกันอย่างเขินๆ แล้วก็เดินบิดมาหาพี่พราวช้าๆ เพื่อยื่นของขวัญจากใจให้ จากนั้น ก็จะได้รับกอดอุ่นๆจากพี่พราวเป็นของตอบแทน ., และนทเรียกเหตุการณ์เหล่านั้นว่านาที่แห่งการแลกสิ่งดีดีจากใจ
"จบไปแล้วก็มาเยี่ยมใหม่ได้นี่นาพราว ... โรงเรียนใกล้ๆบ้านเอง"
นทไม่รู้ว่าสกิลในการปลอบของเธอมันต่ำเกินไป หรือพราวกำลังเศร้าสร้อยหนักเกินไปกันแน่ เหมือนเธอยิ่งปลอบเพื่อนสาวก็ยิ่งสะอื้นจนตัวโยน
"มีน้องฝากของมาให้แหน่ะนท"
นานทีเดียว กว่าพราวจะยอมถอนสะอื้น ... แล้วหันหน้ามาพูดกันด้วยน้ำเสียงที่ยังคงสั่นไหวอยู่แบบนั้น ดวงตาของพราวแดงจนน่าสงสาร และแม้จะหยุดร้องไห้ไปแล้ว น้ำตาที่ยังเหลือตกค้างในตา ก็ยังพากันมาเอ่อๆเตรียมตัวจะรินไหลอยู่เรื่อย ...
นทนึกเอ็นดูหน้าตามอมแมมนั้นขึ้นมาทันใจ เธอใช้ปลายนิ้วเขี่ยปอยผมที่ร่วงลงมาปรกหน้าสาวน้อยข้างๆ ก่อนจะฉีกยิ้มหวานๆให้เพื่อนรัก แล้วใช้น้ำเสียงรื่นหูไถ่ถามพราวอย่างใยดี
สงสารเด็กขี้แงคนนี้จับใจ...
"ใครเหรอพราว ?"
สิ้นคำ ดอกไม้พลาสติกขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่สามสี่ดอก ที่ถูกมัดรวมกันอย่างปราณีต ก็ถูกยื่นมาตรงหน้านท พร้อมกับอมยิ้มรสโคล่ายี่ห้อดังอันหนึ่ง ... สิ่งของที่เห็นทำเอานทฉงน จากรอยยิ้มหวานๆก็เปลี่ยนเป็นสีหน้างงๆให้เพื่อนแทน สีหน้าที่ทำเอาเด็กหญิงพราวกลั้นหัวเราะไม่ได้ ... สองมืองัดแงะมือเพื่อนนทให้แบออก ก่อนจะบรรจงวางทั้งหมดลงไปในมือแผ่วเบา
"น้องเค้านั่งมองเราอยู่จากบ่อปลาคาร์ฟฝั่งนู้น ... เด็กผู้หญิงผมติ่งใส่แว่นสีขาว ค่อยๆหันไปนะนท"
พราวชี้ชวนไปอีกทางหนึ่ง ... ทางที่มีเด็กหญิงมอต้นกลุ่มเล็กๆนั่งกันอยู่สามสี่คน นทหรี่ตามองตามเพื่อนไปด้วยความรู้สึกดีในอกอยู่ลึกๆ ...
เด็กผู้หญิงในแว่นขาวคนหนึ่ง นั่งนิ่งอยู่กับที่ราวกับถูกตรึงไว้ ... แม้จะไม่ใช่ระยะที่ใกล้ แต่นทก็สามารถพินิจรายละเอียดบนใบหน้าละอ่อนนั้นได้ดี ใบหน้ากลมๆกับแก้มป่องๆเหมือนเด็กน้อยๆ ที่รับกับดวงตาใสใสและจมูกโด่งเป็นสันนั่นพอดิบพอดี ... จิ้มลิ้ม น่ารัก สมวัย
เด็กหญิงคนนั้นลุกลี้ลุกลนวิ่งหนีสายตาเธอไปแล้ว ... ท่าทางที่เห็นทำนทหลุดหัวเราะ พร้อมกับโคลงหัวไปมาเบาๆ ความรู้สึกเอ็นดูเล็กๆเกิดขึ้นด้วยความน่ารักของเด็กน้อย ... มือนทเผลอกำเจ้าดอกไม้ปลอมนั่นแน่น หัวใจเธอเต็มตื้อไปด้วยความรู้สึกดีแปลกๆ
ตัวหนังสือขยุกขยิกแบบเด็กๆ บนการ์ดใบเล็กๆที่แนบมากับดอกไม้ ทำนทยิ้มออกไปทั้งปากทั้งตา แค่คำสั้นๆ ... คำที่ใครๆเค้าก็พูดกัน และแม้มันจะไม่มีความหมายอะไร...
แต่นทก็รู้สึกกับคำว่า "จดจำ" มากมายกว่าครั้งไหนๆ ...
"จะจำพี่นทเอาไว้"
จำพี่ให้ได้ตลอดไป ... นะหนูน้อย :)
งงไหม เค้าตัดสลับไปสลับมาทั้งที่มันไม่ได้จำเป็นเล้ยยยย
คิคิคิคิคิ
วางตัวละครพลาดอ่ะ ! 555555555
คิดซะว่านทกะพี่เซนอายุเท่ากันซะนะทุกคน !
ส่วนหมอริทอย่าไปนึกถึง เค้าโตแล้วว กร๊ากกกกกกกกก
โอเค ดึกแล้ว เราคงต้องไปนอน
เพราะเมื่อวานซืนหลับในห้องสอบจนทำข้อสอบไม่ทัน
เซ็ง = =;
ฝันดีนะคะ ;D
ปล. หนุ่มสาวบ้านนี้หลงเสน่ห์ สาวบ้านโน้นกันหมดด เอาเข้าไป๊ เย้ ~
ความคิดเห็น