ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Ts7} ปาดับปา.วับวาว' #noteapp :)

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 12 Heart Shaken

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 55


      

    "โหวไอ้โน้ททททททททท ไม่เจอกันนาน หน้ากลมขึ้นบานเลย ! ฮ่าฮ่าฮ่า"

     

    เสียงทักอย่างเอ็นดู พร้อมกับอ้อมแขนหนักที่รัดน้องสาวอย่างเธอเข้าไปเต็มตัวของพี่ดิว ฉีกแก้มนทจนยิ้มออกมาได้เต็มปาก วงแขนเล็กๆของเธอโอบรอบตัวของพี่ชายคนสนิทอย่างคิดถึงไม่แพ้กัน วันนี้เป็นวันดีดีวันนึงที่เธอหอบเอาตัวเองมาจนถึงบ้านพักแถบชานเมืองหลังนี้ได้ ... มาได้ด้วยความคิดถึง

     

    แต่จะใช่คิดถึงพี่ชายคนนี้หรือเปล่า นี่คือข้อสันนิษฐานที่นทยังไม่แน่ใจนัก

     

     

    "กินเยอะสิท่า ไอ้เหม่งเอ๊ย"

     

    พี่สาวผมสั้นยืดแขนข้ามหน้าข้ามตาทุกคนมายีหัวน้องสาวคนสนิทอย่างสุดจะรักใคร่ แถมยังเอ่ยประโยคในเชิงรู้ทันมาให้อย่างน่ารัก เล่นเอาน้องสาวแก้มแทบปริ ต้องผละออกจากอ้อมกอดพี่ดิวไปโอบพี่กิ่งไว้แน่นอีกคน

     

    "ใครจะเหมือนพี่กิ่ง ตัวกระเปี๊ยกเหมือนเดิม"

     

    "แน๊!"

     

    สิ้นเสียงทะเล้นของนท พี่กิ่งก็ร้องแน๊ขึ้นมาอย่างชอบอกชอบใจ ในอ้อมกอดที่นทยังคงยิ้มตาปิดอยู่แบบนั้น นทไม่มีทางเห็นเลยว่าเหล่าพี่พี่ต่างหันสบตากันอย่างดีอกดีใจแค่ไหน ... ดีใจที่เห็นน้องสาวของเธอกลับมาน่ารักสดใสเหมือนอย่างที่เคยเห็นกันเมื่อก่อน ดีใจที่ได้รับคำยืนยันในข่าวดีเป็นรอยยิ้มของนทกับตา ดีใจที่ได้รับข่าวดีจากไอ้น้องหมอ  ... ที่โทรมารายงานกันเมื่อเช้าอย่างอารมณ์ดี

     

    'ไอ้นทมันกำลังอินเลิฟ แต่ปู่อย่าเพิ่งไปแซวมันนะ เดี๋ยวมันเตะริทตาย'

     

     

     

    ปู่รุจเป็นคนรับโทรศัพท์และกระจายข่าวด้วยตัวเอง ทุกคนดูจะดีอกดีใจ เว้นแต่สาวสวยของกลุ่มที่ดูจะทำหน้าตาไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไร ... สีหน้าแบบนั้นทำเอารุจอดไม่ได้ที่ต้องจับตามอง แม้แต่ในวินาทีนี้ วินาทีที่ข่าวดีนั้นดูเหมือนจะเป็นจริงขึ้นมา วินาทีที่ทุกคนต่างมีความสุขไปพร้อมๆกัน แต่กวางก็ยังทำหน้าตาไม่สบายใจ เหมือนมีบางอย่างต้อนครุ่นคิดอยู่ลึกๆ

     

    รุจอยากจะปล่อยไป อยากจะปล่อยให้สีหน้าแบบนั้นเป็นความลับที่ไม่มีใครรู้ต่อไป ... แต่เขาก็อดสงสัยไม่ได้ เหตุไฉนคนที่รักและหวังดีต่อน้องสาวคนนี้ตลอดมาจึงทำสีหน้าไม่สบายใจเมื่อรู้ว่าคนที่ตัวเองหวังดีกำลังจะเดินเข้าสู่วิถีแห่งความสุขอีกครั้ง

     

    "ไปกินข้าวกันดีกว่านท เนสเตรียมกับข้าวไว้ให้เยอะเลย"

     

    ลุงเนสเดินมาโฉบน้องสาวคนเล็กไปจากพี่กิ่ง พร้อมกับชวนคุยเรื่องอาหารการกินที่เขาอุตส่าห์แหกตาตื่นขึ้นมาทำทันทีที่รู้ว่าน้องสาวคนนี้จะมาหา ... นทยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปกับถ้อยคำแห่งความสุขที่ลุงเนสพูด รายชื่ออาหารจานโปรดลอยยาวมาเป็นหางว่าว ยิ่งเดินเข้าตัวบ้านยิ่งน้ำลายสอเมื่อกลิ่นอาหารยิ่งชัดเจน

     

    เนสพาน้องสาวมาวางแปะลงบนเก้าอี้ ต่อหน้าไข่พะโล้ถ้วยโต และอาหารคาวหวานนานาชนิด หน้าตาน่าทานเล่นเอานทตาโตด้วยความตื่นเต้น

     

    ทุกคนหันยิ้มมองตากันอย่างรู้สึกดี ข้าวแต่ละจานแต่ละจาน ถูกตักบริการด้วยมือปู่รุจ พี่ใหญ่ของบ้านที่ชอบใจและชื่นใจจนยิ้มไม่หุบ... บรรยากาศแห่งความสุข ที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอาหารหอมๆเกิดขึ้นเพราะหัวใจของบ้านมีความสุข น้องสาวที่ทุกคนรักและเป็นห่วงสดชื่น และใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน เป็นความปารถนาที่พวกเขาต้องการให้เป็นเช่นนี้ตลอดไป

     

     

     

     

    แต่ในขณะที่ทุกคนต่างมีความสุขกับอาหารตรงหน้า ใครเล่าจะรู้ ความสงสัยกำลังเกิดขึ้นในใจกวางจนอยากจะโพล่งถามออกมาดังๆ ...

    ใครกันนะคนที่นทกำลังอินเลิฟ ...

     

    "แล้วเรื่องไอ้ตามเป็นไงบ้าง..."

     

    บทสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆ และปู่รุจก็ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย... คำถามที่มาพอเหมาะพอเจาะ ไม่ได้ทำให้บรรยากาศในวงสนทนาต้องหมองหม่นหรือเงียบลงแต่อย่างใด มันเป็นการไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบที่เป็นปกติ และคนโดนถามก็ยิ้ม คิดและตอบตามปกติ ไม่มีปฏิกิริยาแปลกๆอะไรที่จะน่าเป็นห่วง

     

     

    แต่คนน่าเป็นห่วงดูแล้วน่าจะเป็นเธอมากกว่า

    กวางแทบกลั้นใจรอคอยคำตอบ ใจจดจ่ออยู่นทที่นั่งยิ้มอยู่ตรงข้ามกัน

     

    "ก็ดีขึ้นค่ะ ... แหมปู่ คนเจอหน้ากันแทบทุกวัน มันก็ต้องนิดนึง ฮ่าฮ่าฮ่า"

     

    คำตอบของนทตามมาด้วยเสียงหัวเราะเฮฮาของคนในวงสนทนา เสียงเฮฮาที่กวางก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นด้วยสาเหตุใด ... ทุกคนชอบใจที่นทมีทีท่าว่าจะกลับไปดีกับตูมตาม หรือชอบใจที่เห็นนทยิ้มๆด้วยอาการที่คล้ายว่าจะเขินแบบนั้น ... ทั้งๆที่มันเป็นก็เป็นคำตอบกลางๆ ปกติตามวิสัยของนท

     

    แต่คนที่ไม่เป็นปกติ กลับกลายเป็นตัวเธอเองมากกว่า

     

     

    หรือทุกคนจะรู้อะไรดีดีมากกว่าที่เธอรู้ ?

    หรือว่าตูมตามจะกลับไปง้อนทสำเร็จแล้ว ?

     

     

    คิดถึงตรงนี้ได้ เธอก็ไม่รู้จะยิ้มด้วยความดีใจ หรือร้องไห้ด้วยความเสียใจดี...

    นี่เธอเป็นอะไรกันนะ ... แย่ แย่ชะมัด

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

    ยามสายของธรรมดาที่น่านอน แอปเปิ้ลเดินงัวเงียออกมาจากส่วนของห้องนอนตัวเอง หลังจากที่อัดนอนไปสี่ห้าชั่วโมง ทันทีที่ได้มีโอกาสกลับบ้านเป็นครั้งแรกในรอบอาทิตย์ เธออยากจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อล้างหน้าล้างตา ... แต่แล้วก็ต้องหยุดขาไว้เท่านั้ เมื่อเห็นพี่สาวกำลังแต่งสวยอยู่หน้ากระจก ยึดครองห้องน้ำไว้เพียงลำพัง

     

    "ไปไหนแต่เช้าเนี่ย !"

     

    และด้วยวิสัยน้องสาวที่ดี แอปเปิ้ลเลยเคาะประตูห้องน้ำเต็มแรงไปเสียสามที ใช้น้ำเสียงกระโชกโฮกฮากจากส่วนลึกถามพี่สาวให้สะดุ้งเล่นเสียอย่างนั้น ... ผลที่ตามมาจึงเป็นการมองตอบด้วยดวงตาเขียวขุ่นของพี่สาว มือสวยเงื้อลิปสติกเหมือนจะเอาแทงหน้าน้องสาวเล่น

     

    "ไปหาหมอ..."

     

    แต่ก็เถอะ วันนี้แกรนด์อารมณ์ดีเกินกว่าจะทำร้ายไอ้น้องสาวตัวแสบได้ ... ลิปสติกสีสดจึงลดลงจากระดับที่น่ากลัว มาเป็นไล้ไปตามริมฝีปากเพื่อเติมสีสันให้ใบหน้าใสใสนี้แทน

     

     

    ริมฝีปากบางเฉียบเม้เข้าหากันเพื่อกระจายเนื้อลิปสติกให้ทั่ว รอยยิ้มหวานฉ่ำฉีกเข้าให้กับกระจก เติมแป้งนิดหน่อยเป็นอันเสร็จพิธีเสริมสวย ... แกรนด์เก็บเครื่องสำอางค์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยใส่กระเป๋าใบเล็ก เตรียมตัวจะออกไปข้างนอกด้วยหัวใจที่เต้นระรัว

     

    "หาหมออะไร ? แต่งสวยขนาดนี้"

     

    แต่ก็สะดุดกึกด้วยน้ำเสียงกวนบาทาของน้องสาว ที่รองน้ำจากก๊อกล้างหน้าอยู่ข้างๆ ... แกรนด์ต้องรีบก้าวออกจากห้องน้ำเร็วไวเพราะกลัวจะโดนลูกหลงเปียกชุ่มไปด้วยอีกคน รอยยิ้มสาแก่ใจบังเกิดขึ้นบนใบหน้าแอปเปิ้ล ที่ยักคิ้วกวนพี่สาวไม่เลิก ทั้งที่มือก็สาละวนอยู่กับการหยิบแปรงสีฟันมาแปรงฟัน

     

    "อ่ะ เงียบเลยๆ แอปถามไปหาหมอไหน ? เป็นไร ? ไม่สบายเปล่า ?"

     

     

    ถามทั้งที่ยังคาบแปรงสีฟันอยู่ในปาก ... เสียงอู้อี้ได้ยินไม่ชัดแต่กลับถ่ายทอดความห่วงใยออกมาได้ดี คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากันตามความเจ้ากี้เจ้าการที่น้องสาวมี แอปเปิ้ลทิ้งแปรงสีฟันไว้อยู่ในปากที่เดิมแบบนั้น แล้วก็ใช้สองขาก้าวพาตัวเองออกมาจากห้องน้ำ จุดหมายปลายทางคือพี่สาวที่ยืนยิ้มอ่อนๆอยู่ใกล้ๆ

     

     

    หลังมือเรียบเนียนแตะลงที่หน้าผากพี่สาวเบาๆ ... เพื่อวัดอุณหภูมิร่างกาย

     

    "ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา แล้วเจ็บเนื้อเจ็บตัวอะไรตรงไหนป่าวเนี่ย ..."

     

     

    หน้าพี่สาวร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างไม่ได้นัดหมาย ... ความรู้สึกคล้ายๆเขินเกิดขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเมื่อได้สัมผัสห่วงใยแบบเหวี่ยงๆจากน้องสาว ที่ตั้งแต่เกิดมาจนจวนจะยี่สิบห้าขวบ ไม่เคยมีสักครั้งที่แม่น้องสาวตัวดีจะมาห่วงใยใส่ใจกันขนาดนี้ บวกรวมไปถึงสาเหตุที่เธอจะต้องพาตัวเองไปหา 'หมอ' อย่างที่บอกน้องสาวเอาไว้ ... คนเป็นพี่เลยได้แต่ยกมือขึ้นปัดความปารถนาดีของน้องสาวบนหน้าผาก แล้วอุบอิบตอบอย่างคนที่อารมณ์ไม่ปกตินัก

     

    เขินจะตายอยู่แล้ว...

     

     

    "เปล่า แค่บอกว่าจะไปหาหมอ ใครเจ็บอะไรที่ไหนเล่า เนี่ย สบายดีมากๆเลยยย"

     

    พอได้ยินคำตอบกำกวมกว่าเก่า แอปเปิ้ลเลยยิ่งขมวดคิ้วอย่างสงสัย ... ตั้งแต่สมัยเรียนเนอสเซอรี่ คุณครูก็สอนว่าถ้าจะไปคุณหมอก็ต้องเพราะว่าไม่สบาย ... เรื่อยๆมาจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ความเชื่อนั้นก็ยังคงตั้งมั่นอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เห็นเคยมีใครบอกสักคนว่าถ้าสบายดีมากๆแล้วจะต้องไปหาหมอ

     

    เลยยังต้องถามต่ออย่างไม่หายสงสัย

     

    "เอ้า ! ซะงั้น งั้นไปหาหมอไหนเนี่ย"

     

     

    สิ้นคำถามกับสายตาคาดคั้น ... ผิวแก้มขาวใส ก็ถูกเปลี่ยนสีเป็นชมแดงระเรื่อไปโดยปริยาย

     

    "หมอริท..."

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    วันนี้เป็นวันธรรมดา ที่นทรู้สึกว่างๆจนไม่รู้ตัวว่าอยากจะไปไหน... ทำได้เพียงแต่นอนดูรายการรีรันบนช่องดาวเทียมในทีวีจอใหญ่ เพียงลำพังอยู่ในบ้าน ... บ้านที่ไม่ใช่ของตัวเอง

     

     

    ก่อนหน้านี้สักหนึ่งอาทิตย์ ... เวลาว่างในแต่ละวันของเธอถูกใครบางคนยึดไปจนแทบไม่เหลือ จากชีวิตของนักศึกษาที่เรียนเบาๆพอผ่านไปแต่ละวัน ต้องโดนยัยตัวป่วนจับเปลี่ยนอาชีพไม่ซ้ำแต่ละวัน ทั้งคนขับรถส่วนตัว แม่ครัวมือหนึ่ง ... ลามไปถึงนักโภชนาการสุดเฮี๊ยบที่ต้องคอยดูแลเรื่องอาหารการกินให้เหมาะสมตามอาการของแอปเปิ้ลที่ดูจะไม่เหมือนชาวบ้านเขานัก

     

    เธอรำคาญ รำคาญเต็มทนที่ต้องมาสูญเวลาว่างไปเปล่าๆ ... แต่พอตอนนี้ ตอนที่ไม่มีแอปเปิ้ลมาคอยกวนใจ ..

     

    นทกลับรู้สึกว่างไปแปลกๆ...

     

     

     

    ยัยตัวป่วนแว่บมาหากันเมื่อราวๆอาทิตย์ก่อน หอบเอาหน้าตาป่วยๆและความขี้อ้อนจนน่าหมั่นไส้มาทิ้งใส่กันเต็มๆ ก่อนจะบอกว่าต้องช่วยใครสักคนทำละครเวทีของคณะ ... ทำหลายอย่างและอาจต้องเป็นนางเอกอีกต่างหาก จนชีวิตวุ่นวายไปหมด ต้องนอนค้างที่ม.ในบางคืน และไม่อาจจะมีเวลาว่างมากวนใจ จึงขอเว้นระยะการพบกันไว้ก่อนในช่วงนี้ ...

     

     

    ความรู้สึกแบบนี้ ... เธอไม่อยากยอมรับว่ามันคือความคิดถึงเลย ให้ตาย !

     

     

     

    นทหอบเสื้อผ้าสองสามชุดจากบ้านตัวเอง ไปนอนค้างบ้านพี่หมอแก้เหงาเหมือนที่เป็นในทุกๆครั้ง ... ช่วงนี้เฮียโน่มีเที่ยวบินตลอด จนไม่มีเวลาว่างอยู่บ้าน และยิ่งไม่มีใครมาคอยกวนใจ ความว่างเพียงลำพังก็ดูจะโหดร้ายจนเกินไป ในบ้านหลังใหญ่ที่แสนเหน็บหนาวและไม่เคยชินอย่างบ้านหลังนี้

     

     

    ไม่เคยชินกับบ้านที่เฮียเก็บเงินซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ไม่เคยหลับเต็มตาเมื่อต้องจากเตียงนอนอันเป็นที่รักไป ... สามปีก่อนหน้านี้เธอยังคงเป็นหนึ่งในผู้อาศัยของบ้านพี่หมอสุดแสนใจดี แต่เมื่อเฮียเริ่มมีเงินเก็บ โครงการขยับขยายก็เกิดขึ้น เฮียทุ่มเงินหลายล้านซื้อบ้านเป็นของตัวเองและย้ายออกพร้อมกับพาเธอไปด้วยทันที

     

    เฮียบอกไม่ใช่การแตกคอกัน ... แต่นี่คือการให้ความเป็นส่วนตัวซึ่งกันและกัน ในวันที่ทุกคนพร้อมทุกอย่าง

     

     

     

     

    นทรู้และเข้าใจถึงความคิดของเฮียทุกอย่าง แต่กับใจ... เธอบีบให้มันเข้าใจและเป็นไปอย่างนั้นไม่ได้ ในใจลึกๆ เธอยังหลงรักและโหยหากลิ่นอุ่นๆในบ้านหลังนี้ของพี่หมอ ... บ้านที่อยู่กันมาสามคนพี่น้องแต่เล็กแต่น้อย เตียงที่มีแต่กลิ่นหอมเดิมๆของเธอ และที่ที่มีแต่ความรักความเข้าใจตลอดมา

     

     

     

     

    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงง ...

     

    เสียงกริ่งดังระเบิดระเบ้อสะกิดนทให้สะดุ้งสุดตัว ... มันดังเนิ่นนานและระรัวจนนทอยากจะเขวี้ยงหมอนใส่หัวคนกดให้รู้แล้วรู้รอด เนื้อตัวตื่นจนต้องสับขาออกจากพื้นที่ส่วนตัวไปเปิดประตูให้ผู้มาเยือนโดยไว ใครกันนะที่ถ่อมารบกวนกันแต่เช้า นาฬิกานี่กะไม่ดูกันเลยสินะ

     

    เมื่อเดินถึงหน้าบ้าน แดดยามสายยิ่งทำให้นทอารมณืเสียอย่างบอกไม่ถูก มือข้างนึงนทยกขึ้นเสยผมที่บังหน้าบังตา ก่อนจะจ้องไปที่รถญี่ปุ่นคันกะทัดรัดที่จอดสนิทอยู่ที่หน้าบ้าน มันไม่คุ้นตา และไม่มีคุ้นเลย ยิ่งเพ่งยิ่งแปลกใจ ...

     

    "ใครวะ ..." และได้แต่พึมพำกับตัวเองเบาๆ

     

     

    "พี่เองค่ะน้องนท พี่แกรนด์เอง"

    และดูเหมือนผู้มาเยือนจะได้ยินคำสบถกึ่งหยาบของเธอเข้า พี่แกรนด์จึงได้โผล่หน้าออกจากเสามายิ้มแหยให้เจ้าของบ้าน พร้อมกับยกมือแสดงตัวตนของเธอให้อีกคนได้รับรู้

     

    "อ๋อ พี่แกรนด์ เข้ามาก่อนสิคะ"

     

    และในแทบจะทันทีที่นทเห็นพี่แกรนด์ เธอก็ดันประตูรั้วหน้าบ้านออกทันที รอยยิ้มบางๆที่แสนจะมีเสน่ห์ฉีกออกมาโดยอัตโนมัติ แต่แล้วมันจะก็หยุดลง เมื่อประตูรถข้างคนขับนั้นถูกเปิดออก พร้อมๆกับที่ร่างสูงโปร่งของใครบางคนก้าวลงมา

     

     

    สายตานทสะดุดกึกอยู่ที่ปลายเท้าที่แตะพื้นของผู้มาใหม่ ... และสายตาเธอก็เลื่อนขึ้นอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ในใจลึกๆ นทนึกรู้กับตัวเอง และรู้ว่ามันมีโอกาสเป็นไปได้สูงแค่ไหนที่เจ้าเรียวขาขาวเนียนที่มาใหม่นี้จะเป็นน้องสาวของพี่แกรนด์ ... หุ่นทรงพอเหมาะพอเจาะและคุ้นตา ยิ่งเห็นยิ่งรับรู้ได้ชัดเจนว่าเป็นใคร และเธอต้องพยายามอย่างยิ่งที่จะยังคับหัวใจตัวเองไม่ให้ตื่นเต้น ให้ตาย ! นี่หัวใจเธอเต้นแรงเกินไปแล้วใช่ไหม...

     

    "ทีกะแอป เป็นเสือยิ้มยาก ... พอเป็นพี่แกรนด์แล้วกลายเป็นคนยิ้มง่ายเฉยเลย ขอคำอธิบายหน่อยได้ไหมคะ ? มันเพราะอะไรกัน..."

    ถ้อยคำตัดพ้อที่น่าสงสาร กับรอยยิ้มหวานฉ่ำกระจ่างตาจากคนที่เธอกำลังคิดถึง ถูกหยิบยื่นมาจ่ออยู่ตรงหน้าโดยที่นทไม่ทันตั้งตัว ... น่ากลัว และวินาทีนี้ นทได้แต่จ้องมองรอยยิ้มนั้นอย่างอึ้งๆ  และเธอเอาหัวใจตัวเองไปหลบไม่ทัน

     

     

    มันสั่น ตึกตึก ตึกตึก ร้องประท้วงจะออกมาเต้นฮิพฮอพอยู่ข้างนอกนี่ ในมือคู่นั้น ...

     

    ยัยเด็กป่วน...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เธอจะมาป่วนหัวใจฉันไปถึงไหนกันนะ




     

    แอปหล่อมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!


    ถามจริง ใครเจอแอปแล้วไม่หวั่นไหวบ้างงง!!!
    ลูกไม้ตอบด้วยความสัตย์จริงว่า โ ค ต ร ไม่มีอ่ะ55555555.

     

    ส่วนพี่นทตอนนี้ก็คงต้องร้องเพลง ... 

    “มันเกิดอะไรรรรร กับหัวใจ ควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง
    จะห้ามยังไงก็ไม่มีทาง ให้มันหยุดคิดถึงเธออออ”

    55555555555555555555.

    ดูคนรอบตัวพี่นทจะเริ่มรู้ถึงอารมณ์อินเลิฟของพี่นทแล้วนะคะ
    {ตอนนี้ซีนนทแอปน้อยมากกกกกก ...}

     

    จุ้บๆ.3

     

    จบตอนนี้แล้วเราคงต้องห่างกันสักพักนะคะ
    วันจันทร์ลูกไม้สอบ เสร็จวันศุกร์ปุ๊ป แล้วทีนี้เราก็ได้เจอกันแบบยาวๆจนจบเลย ..

     

     

    ใครที่สอบช่วงนี้ เรามาตั้งใจอ่านหนังสือไปด้วยกันนะ !
    ต้องสู้ ต้องสู้จึงจะชนะค่ะะ เฮ้
    .

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×