คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11 brandnew
ห้าทุ่มเศษๆ… จิ๋วเดินสโลสเลเข้าห้องนอนส่วนตัวอย่างอ่อนเพลีย เมื่อยขบไปทั้งตัวจากการนั่งคุดคู้ในรถตู้หลายชั่วโมง ดวงตาคมปรือใกล้ปิดเต็มที วันนี้ขอใจเธอแลกเบอร์โทรเวอร์ชั่นเมทัลร็อคทำเอาเธอเต้นจนลืมโลก ลืมท่าดีดนิ้วดันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวไปสนิทใจ… เหมือนได้ปลดปล่อย ทั้งที่จริงในใจเธอก็ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับจังหวะชวนโยกอะไรขนาดนั้น…
ยังดีที่พรุ่งนี้ไม่มีงานเช้า… พอจะได้ตื่นสายก่อนจะต้องไปงานร้องเพลงตอนเย็น
มือบางจับคาลูกบิด ไม่มีแรงแม้กระทั่งจะผลักมันให้ปิดสนิทอย่างที่ควร สองเท้าก้าวพ้นทั้งที่ประตูยังเปิดแง้มโดยที่ไม่รู้ตัว…
มากกว่างานการที่หนักหนา เรื่องราวที่รุมเร้าก็ทำให้สามสี่คืนที่ผ่านมานอนหลับไม่เต็มตา… ปกติ เมื่อเธอมีปัญหาอะไร เพื่อนรักอย่างนิวก็จะมาออดอ้อนคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ หลอกล่อสารพัดให้เธอยอมคายภาระที่หนักอึ้งอยู่ในหัวใจและบรรเทามันด้วยการขนเอาคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์โปรดมากมายมานั่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ก่อนจะปิดท้ายด้วยการช่วยคิดวิธีแก้ปัญหา รอจนกว่าเธอจะสบายใจ และจากไปพร้อมกับทิ้งความสุขไว้ที่เธอ
แต่วันนี้… กับปัญหานี้ นิวผู้เป็นต้นเรื่อง… คนเดียวที่ทำให้เธอสบายใจ กลับเป็นคนเดียวกันที่ทำให้เธอไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าด้วยซ้ำ… เราพูดกันเพียงในเวลาจำเป็น สบตากันเพราะความเคยชิน คงต้องขอบคุณความเป็นมืออาชีพที่ทำให้เธอและนิวไม่เคอะเขินสักนิดยามต้องโอบไหล่กอดคอกันให้แฟนเพลงเห็น แต่เมื่อหมดเวลาที่สปอตไลท์ส่องหน้า เราต่างก็เดินแยกกันไปนั่งคนละมุม ทั้งที่ลึกๆ ใจเธอก็คิดถึงอีกคนแทบขาดใจ
เจอกันทุกวัน เห็นกันทั้งวัน แต่ความคิดถึงมันกลับรุมเร้าจนเธอแย่ขึ้นทุกที
ทุกครั้งที่โกรธกัน นิวจะเป็นฝ่ายที่อารมณ์รุนแรงกว่าเธอเสมอ แต่ใช้เวลาไม่นานนักหรอก เพื่อนรักก็จะยอมอ่อนให้แต่โดยดี มาออดมาอ้อนเสียจนเธอลืมเรื่องที่ผิดใจกันไปง่ายดาย… แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป นิวนิ่งเงียบ ไม่พูดไม่จา ราวกับมีอะไรมากกว่าที่เธอจะเข้าใจอยู่ในใจดวงนั้น นิวที่แสนเย็นชา นิวผู้ลึกล้ำ เธอเข้าไม่ถึงนิวคนนี้… และหากจะให้เธอเป็นฝ่ายเข้าไปง้อ เธอก็ทำไม่ได้ ในเมื่อไม่เคยทำมาก่อนเลยตลอดชีวิต ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการง้อเพื่อนคนนี้ต้องทำยังไง นิวไม่เคยปล่อยให้เธอทำขนาดนั้น…
อีกอย่างที่ทำให้เธอยิ่งไม่กล้ามากกว่าความเงียบงันที่ดูไม่ออกของนิว… เพราะเธอรู้ดี
ปัญหาของเรามันซับซ้อน เรื่องราวมันผสมมากมายจนเธอแยกไม่ออก…
ยิ่งต้องยิ้มกว้างมากเท่าไร ก็ยิ่งพบว่าในหัวใจมันหมองหม่นมากขึ้นเท่านั้น เธอเชื่อว่าเธอควบคุมตัวเองได้ดีอย่างที่อยากให้ใครๆมองเห็น แต่ในส่วนของความรู้สึกที่ร้าวราน มันยังอยู่เหนือการควบคุม
“เฮ้ออออออออออออออ….”
คนตัวเล็กถอนหายใจยาว ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างอย่างหมดเรี่ยวแรง มันว่างเปล่าและสับสน เธอรู้สึกเพียงเหนื่อยที่จะต้องคิดต้องรู้สึกตลอดเวลา ทั้งที่ในความจริง เธอก็อธิบายไม่ได้ด้วยซ้ำว่าในหัวเธอมีอะไรอยู่มากมายขนาดไหน…
ความอ่อนเพลียสะสมหลายคืนหลายวันทำดวงตาคู่สวยค่อยๆเคลิ้มหลับอย่างไม่รู้ตัว…
ก๊อกก๊อก
“คุณจิ๋ว นิวขอเข้าไปนะ… อ้าว”
ผู้มาเยือนร้องอ้าวเบาๆ เมื่อทันทีที่มือเธอจับลูกบิด ประตูนั้นก็เปิดออกราวกับมันไม่ถูกปิดไว้… นิวยังพูดไม่ทันจบประโยคดีด้วยซ้ำ อ่า… บรรยากาศแบบนี้ แปลกๆแฮะ
“หลับแล้วหรอคุณจิ๋ว”
นิวในชุดนอนลายการ์ตูนค่อยๆก้าวเข้าในห้องอย่างเงียบเชียบและระวังตัว ส่งเสียงถามอย่างลังเลกับบรรยากาศไม่คุ้นเคย… เงียบสงัด มืดสนิท และอากาศก็ร้อนอ้าวเกินกว่าจะหายใจได้คล่อง… นิวพยายามเพ่งมองไปทั่วๆอย่างประหลาดใจ ตอนนี้ มีเพียงไฟถนนที่ลอดผ่านหน้าต่างมาเท่านั้นที่จะให้แสงสว่าง…
ยังคงเงียบ ไม่มีเสียงใดตอบมา และอากาศมันเริ่มจะร้อนเกินไปแล้ว
คิ้วเข้มขมวดแน่น อาศัยความคุ้นเคยก้าวฉับๆเข้าไปเปิดโคมไฟดวงเล็กๆหัวเตียงที่เธอบังคับให้คนตัวเล็กซื้อไว้ หมายจะใช้มันทำให้เธอมองเห็นอะไรมากกว่านี้ และไม่รบกวนอีกคน หากจิ๋วหลับไปแล้วจริงๆ…
“หือ หลับจริงๆด้วย หลับทั้งที่ไม่อาบน้ำเนี่ยนะ… ได้ไงเนี่ย”
เสียงประหลาดใจดังขึ้นอย่างเบาที่สุดเมื่อเห็นเจ้าของห้องนอนสลบสไลอยู่ในสภาพไม่น่าเชื่อ นิวแทบจะขยี้ตามองอีกครั้ง ชุดที่ใส่ก็ยังเป็นเสื้อคลุมตัวหนากับกางเกงผ้าบางๆที่เปลี่ยนหลังจากกลับมาจากงานเมื่อสักครู่ ผมเผ้าที่ผ่านอะไรมากมายก็ยังเป็นทรงเดิม และมากที่สุด คิ้วจมูกปากตาของคนตัวเล็กยังสวยจัด เพราะแทบไม่มีสิ่งใดหลุดออกจากใบหน้าเนียนใสนั่นสักอย่าง…
เพลียขนาดนี้เชียวหรอเนี่ย…
พินิจมองจนพอใจ นิวก็หัวเราะกับตัวเองเบาๆ แอบยิ้มกับคนตัวเล็กที่หลับไม่รู้เรื่อง ไม่ค่อยเห็นเพื่อนรักหลับไปในสภาพที่ไม่พร้อมเช่นนี้ ไม่เหมือนเธอที่ดองตัวเองข้ามวันข้ามคืนเป็นประจำ… แปลกตาดีเหมือนกันแฮะ
“คุณจิ๋วนะคุณจิ๋ว…”
แววตาเอ็นดูจ้องมองร่างเล็กไม่วางตา… รอยยิ้มเปี่ยมสุขเปื้อนใบหน้า ยิ้มแบบที่ขาดหายไปเสียหลายวัน
เห็นทีจะปล่อยให้นอนแบบนี้ต่อไปไม่ได้ นิวหมุนตัวไปคว้ารีโมตแอร์มากดเปิดไล่อุณหภูมิสูงๆในห้องให้ออกไป ก่อนจะเดินไปปิดหน้าต่างเพื่อให้ต่อจากนี้มืดสนิทที่สุด…
ผ้าห่มผืนบางถูกสะบัดคลุมร่างคนตัวเล็กเอาไว้จนมิดคอ ก่อนจะหยิบหมอนข้างใบโปรดมายัดไว้ในอ้อมแขนคนตัวเล็กอย่างรู้ใจ คนหลับไม่รู้เรื่องได้หมอนข้างมาก็กระชับกอดพร้อมซุกหน้ากับนุ่นนุ่มๆเสียแน่น… เสียงครางอืออย่างชอบใจดังขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
คนตัวเล็กผิวบาง สิวขึ้นง่าย เป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องคอยพิถีพิถันกับใบหน้าอยู่ตลอด นิวรู้ความจริงข้อนี้ดี… แต่เห็นอีกคนหลับสบายแล้วก็ไม่อยากจะรบกวน นิวยื่นมือไปหรี่ไฟโคมไฟให้กลายเป็นแสงสลัวพอให้เห็นใบหน้าสวย… ปล่อยให้ตื่นมาคิ้วขมวดให้เช้าวันรุ่งขึ้นก็คงจะไม่แย่เท่าไรนัก ช่วยไม่ได้นี่นา อยากเผลอหลับไปเอง
รอยยิ้มยังคงเจืออยู่ที่ใบหน้านิวตลอดเวลา… เธอตกหลุมรักคนตัวเล็กในเวลานี้ที่สุด จิ๋วยามหลับทำให้เธอรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เห็น มันเหมือนเธอเป็นอัศวินที่จะคอยพิชิตทุกสิ่งเลวร้ายที่เข้ามากร้ำกรายเจ้าหญิงตัวน้อยบอบบางที่หลับใหลอยู่ตรงนี้ ข้างกัน…
มันเป็นช่วงเวลาสั้นสั้น จากหมื่นล้านช่วงเวลาที่เธอจะได้ปกป้องคนเข้มแข็งคนนี้…
เธอเลือกจะยืดเวลาแห่งความสุขต่อไปด้วยการทิ้งตัวลงนั่งกอดเข่าที่พื้นพรมข้างเตียง มองหน้าคนตัวเล็กที่เธอกำลังคิดถึงสุดหัวใจด้วยรอยยิ้มละไม… สองสามวันมานี้ เราห่างเหินกันเกินความจำเป็น และความผิดทั้งหมด เธอขอยอมรับแต่โดยดี…
ไม่ใช่เพราะความโกรธเคืองหรือน้อยใจที่ทำให้เธอไม่ยอมเปิดปาก แต่เป็นเพราะเรื่องคาราคาซังระหว่างเรามากกว่าที่ทำให้เธอไม่กล้า เธอละอาย… รู้สึกผิดทุกครั้งที่อีกคนแสดงออกชัดเจนว่าไม่เคยมีใครในหัวใจ แต่เธอกลับไม่กล้าพูดเต็มปากว่าเธอไม่คิดอะไรกับนนท์จริงๆ
เรื่องนี้ยังรบกวนกันอยู่เสมอ มันยากที่จะทำให้เธอทำตัวเหมือนปกติได้… ปัญหานี้มันหนักเกินตัวคนอย่างเธอ แต่จะให้พูดบอกพี่เจนก็คงไม่ใช่…
คนเดียวที่อยู่ข้างเธอยามมีปัญหา เป็นคนเดียวกันกับที่เธอมีปัญหา… นั่นยิ่งทำให้ความหมองหม่นเท่าทวีคูณ เธอในตอนนี้ช่างอ่อนแอ ต้องการอ้อมกอด ต้องการเสียงปลอบโยนและความเข้าใจอย่างที่จิ๋วมีให้กันเสมอ แต่เธอขลาดกลัวเกินกว่าจะเรียกร้องอะไร…
ที่มาวันนี้เพราะอดรนทนไม่ไหว คิดถึงจนทนไม่ได้ เลยอยากมาเห็นหน้า มาพูดดีดีด้วยสักคำก่อนจะกลับไปนอนคนเดียวเหมือนเดิม มาขอพลังใจสักนิดเพื่อต่อสู้กับความสับสนลังเลของตัวเองที่ดูจะมากมายขึ้นทุกวัน…
อีกอย่างพรุ่งนี้เธอก็ต้องตื่นแต่เช้า อยากจะมาขอความสบายใจเพื่อหลับให้เต็มตาก่อนจะตื่นอีกครั้ง…
นิวจ้องมองคนตัวเล็กด้วยความคิดถึง สูดลมหายใจร่วมกัน เฝ้ามองอย่างไม่รู้เบื่อ… นานจนพอใจ ร่างบอบบางจึงค่อยๆลุกขึ้นยืนอีกครั้ง พึมพำแผ่วเบาล่ำลาอีกคนที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่องเช่นเคย
โน้มตัวลงมอบจุมพิตแผ่วเบาประทับยังหน้าผาก เนิ่นนาน… ราวกับเป็นการอำลาก่อนการจากไกล
หน้าผากเนียนแนบชิดใบหน้าอีกคนอย่างออดอ้อนอ่อนหวาน… อยากจะอยู่กับคนตัวเล็กไปนานๆ อยากจะลงไปนอนกอดแนบข้างเหมือนอย่างที่เคยทำ อยากจะทำให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม… แต่สุดท้าย… ก็ต้องตัดใจ
ปิดโคมไฟให้ห้องทั้งห้องมืดสนิทลงอีกครั้ง… แล้วเดินจากไปพร้อมความกับรู้สึกที่ดีขึ้น แม้ไม่มากมาย แต่ก็คงไม่ลำบากหากจะหลับตาให้ค่ำคืนทรมาณผ่านพ้นไป
จิ๋วคงไม่เคยรู้ตัว ว่าจิ๋วเป็นคนเดียวที่ให้เธอดีขึ้นเสมอ ในทุกๆเรื่อง ในทุกๆวัน
แต่เรื่องนี้เธอรู้ดี…
เธอรู้ดีว่าที่เธอดีพอจะให้ใครต่อใครมารักกัน มันเป็นเพราะจิ๋ว จิ๋วคนเดียวเท่านั้นที่เคียงข้างและสร้างเธอขึ้นมาอย่างอดทน…
และมันคงถึงเวลา ที่เธอต้องจัดการเรื่องในหัวใจที่ค้างคาให้เด็ดขาดลงสักที…
.
.
สิบโมงเช้า ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ… คงไม่มีใครคาดหวังจะเห็นนักร้องคนดังเดินลากกระเป๋าตามชายหนุ่มต้อยๆ แม้แต่ตัวนักร้องดังเองก็ยังไม่คาดหวังจะทำแบบนี้เช่นกัน…
“ทำไมบินไฟลท์เช้าขนาดนี้วะหวิน โคตรง่วงอ่ะมึง หน้ายังไม่ได้แต่งเลย”
นิวในสภาพหน้าสดหัวกระเซิงบ่นใส่เพื่อนรักเสียงดัง ขาสองข้างลากเอื่อยๆอย่างไม่ค่อยเต็มร้อย เธอในตอนนี้ดูแย่เต็มทีจนต้องหลบหน้าหลบตาไม่ให้ใครเห็น เธอตื่นสาย เพราะนอนดึก จริงๆก็ไม่อยากจะโทษไอ้เรื่องนอนดึกเพราะนาฬิกาปลุกแล้วแต่เธอไม่ยอมตื่นเอง กว่าจะลากร่างออกจากเตียงได้ก็เลยเวลาแล้ว เธอจึงทำได้แค่เธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จับหวีสางผมอย่างลวกๆ และก็คว้าแป้งฝุ่นมาปาดซ้ายปาดขวาเท่านั้นเอง
ผู้คนพลุกพล่านทั่วอาคารผู้โดยสารก็ยิ่งทำให้ไม่มั่นใจ แม้จะสวมแว่นกันแดดอันใหญ่ปิดบังไว้แล้วก็ตาม คนติดสวยยกไอโฟนขึ้นเช็คสภาพตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ อยากจะหันไปทุบไอ้เพื่อนรักสักทีที่เอาแต่โทรเร่งจนเธอแทบเหาะมาขนาดนี้
หวินเหลือบมองเพื่อนยิ้มๆ ทั้งขำทั้งหมั่นไส้ แต่ก็เลือกที่จะเอ่ยปลอบแทนที่จะกวนประสาทเหมือนทุกครั้ง เพราะรู้ดีว่าวันนี้เพื่อนรักอาการไม่ดีเท่าไรนัก
ไม่อย่างนั้นคงไม่อาสามารับเขาทันทีที่รู้ว่าเขาจะกลับถึงไทยวันนี้
“เออๆ ความผิดกูเอง กูบินเช้าเอง แต่มึงไม่แย่หรอก น่าๆ อย่าทำหน้าแบบนั้นดิ”
แขนแข็งแรงโอบไหล่เพื่อนรักเข้ามาแนบตัว ให้หญิงสาวที่อารมณ์ไม่เป็นปกติได้แต่ร้องงุ้งงิ้งอย่างขัดใจ ทั้งง่วง ทั้งเซ็ง ทั้งสับสน ผสมไปหมดจนอยากจะระบายออก มันอัดอั้นเหลือเกิน
“ไปๆ รีบๆเดิน เดี๋ยวพาไปเลี้ยงกาแฟอร่อยๆ ป่ะ…”
หวินลดแขนลงไปดึงกระเป๋าจากนิวมาไว้ในมือตัวเอง ก่อนจะออกแรงลากทั้งกระเป๋าทั้งคนให้เดินไปพร้อมๆกัน…
“สรุปก็คือ มึงไม่แน่ใจว่าตอนนี้มึงรู้สึกยังไงกันแน่ คุณจิ๋วมึงก็รักเขา ไอ้นนท์มึงก็ตัดไม่ขาด ใช่ไหม ?”
ต้องเป็นหวินเท่านั้น ต้องเป็นมันคนเดียว… ที่กล้าจี้ใจเธอเข้าอย่างจังขนาดนี้… บรรยากาศดีดีรอบข้างไม่ได้ช่วยทำให้ความรู้สึกอึดอัดในใจผ่อนคลายลงเท่าไร มันไม่ช่วยเลยด้วยซ้ำ… นิวเอนร่างแนบกับเก้าอี้หวายตัวใหญ่อย่างหมดแรง พยักหน้าเบาๆ น้ำตาเอ่อคลอ ยอมจำนนในข้อสรุปนั้นอย่างไร้ข้อโต้แย้ง ในเมื่อเธอก็ไม่มีคำอธิบายใดจะชัดเจนกับเรื่องราวในใจมากไปกว่านี้อีกแล้ว
หวินมองเพื่อนรักอย่างอับจน ไม่รู้จะทำยังไงดี… กับไอ้อาการตาบอดที่มันกำลังเป็น
“นิว… มึงไปคิดว่ามึงรักคุณจิ๋วเขาตอนไหนวะ มึงเป็นเพื่อนกับเขาเป็นสิบๆปีขนาดนี้ เพิ่งจะมารู้ว่ารักเขา ? มันเริ่มยังไงวะ”
เขาเลือกที่จะเดินอ้อมไกลเพื่อพาเพื่อนรักไปถึงจุดหมายอย่างช้าๆ ดีกว่าบุกตะลุยให้หัวใจดวงนั้นต้องกระทบกระเทือนมากไปกว่านี้ นิวบอบช้ำเกินกว่าจะกระแทกอารมณ์แรงๆอย่างที่เคย หวินทอดเสียงนุ่มถามเพื่อนรักอย่างไม่รุกเร้า ดูจะเป็นคำถามสบายๆ และนั่นก็ทำให้คนโดนถามได้ผ่อนอารมณ์ขึ้นมานิดหนึ่ง หลังจากได้ยินคำถามที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ตอบ
คิ้วคมขมวดลงเล็กๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มน้อยๆที่ค่อยปรากฏเมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ทำให้หัวใจรู้สึกดีมากกว่าที่เคย…
หลายภาพหลั่งไหล…เป็นสิบปียี่สิบปี คนตัวเล็กน่ารักแสนดีกับเธอมาตลอด นักร้องตัวแม่ นักเรียนหน้าห้อง นักชิมตัวยง นักจัดการมือหนึ่ง ทั้งหมดคือจิ๋วที่ทำให้เธอตกหลุมรักมาตลอด
แล้วตอนไหนกันนะ… ที่เธอเอะใจ ว่าเราไม่ใช่เพื่อนกัน ว่าเรากำลังทำในสิ่งที่เพื่อนไม่ทำกัน…
เรื่องราวชวนยิ้มจะยุติลงเมื่อคิดถึงค่ำคืนที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเสียใจ
คำถามสบายๆกลายเป็นมีดที่คมกริบ เชือดเฉือนหัวใจจนน้ำตาคนร้าวรานเอ่อคลอขึ้นมาอีกครั้ง
คืนนั้น…
คืนที่เธอเมาจนแทบไม่มีสติรับรู้อะไร…
นอกจากความปรารถนาในตัวเพื่อนรักที่คอยตอกย้ำ ปลุกเร้าให้เธอทำในสิ่งที่รังแต่จะสร้างแผลในใจจนวันนี้
ริมฝีปากสั่นระริก บอกเล่าเรื่องราวอย่างช้าๆ…
เธอต้องการความช่วยเหลือมากเกินกว่าที่จะเลือกปิดบัง
“คืนนั้น… คืนที่มึงพากูไปเลี้ยงเหล้าแล้วบังเอิญเจอนนท์มากับผู้หญิงคนอื่น…”
หวินขมวดคิ้วแน่น เม้มปากจนแทบเป็นเส้นตรง เหตุการณ์คืนนั้นเขายังจำได้ดี เขาเพิ่งกลับจากทัวร์ยุโรปหมาดๆ เลยนัดเพื่อนเพื่อเอาของฝากไปแจกจ่าย ตามประสาเพื่อนฝูง เขานัดเพื่อนเป็นสิบๆคนที่ร้านเหล้าของเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกัน และด้วยความคิดถึงเพื่อนรักที่หายหน้าหายตากันไปนาน เขาโทรตามนักร้องดังอย่างนิวให้ตามมาจอยกันที่ร้านโดยเสนอว่าจะออกค่าเหล้าให้ไม่อั้น… และแน่นอน นิวมา
นิวมาโดยไม่มีเงาตามตัวอย่างคุณจิ๋วเหมือนที่เคย… แทบจะตลอดเวลา วงสนทนาวงใหญ่ของเพื่อนเก่าดูน่าสนุกแต่นิวกลับไม่สนุกเท่าไร มันกระซิบให้เขารู้หลายครั้งว่าอยากกลับบ้าน เพราะห่วงคุณจิ๋วที่ต้องอยู่คนเดียว จนสุดท้าย เขาก็เหนื่อยอ่อนที่จะรั้ง พานิวปลีกตัวออกจากร้าน เดินไปส่งมันที่รถ ให้มันได้กลับบ้านไปดูแลคนที่มันห่วงอย่างที่มันตั้งใจ
แต่แล้วเหตุการณ์ก็ไม่จบลงอย่างที่เขาและนิวต้องการ… ใครบางคนเดินสวนเขาและนิวเข้าไปในร้าน ใครบางคนที่เพื่อนรักเขาหันมองตามคอแทบบิด และหลังจากนั้น… เขาก็แทบกระเป๋าฉีกเพราะคำจากปากที่เคยบอกว่าจะเลี้ยงเหล้ามันหากยอมออกมาหากัน…
นิวเฮิร์ท… ใช่… ผู้ชายคนนั้น ที่เดินผ่านเขาไป คือนนท์ นิวเจ็บปวดเสียใจมหาศาลโดยที่ไอ้ผู้ชายคนนั้นไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่ามันทำเพื่อนเขาต้องชงเหล้าผสมน้ำตากินจนเมาไม่เหลือสภาพ…
ปาร์ตี้จบลงหลังจากนั้นไม่นานเพราะเจ้าภาพอย่างเขาทนไม่ไหวอีกแล้วที่จะเห็นเพื่อนรักต้องมีสภาพทุเรศแบบนี้ หวินจัดการเอานิวยัดใส่รถ อดทนฟังคนเมาที่อ้อแอ้ไปตลอดทาง เขาในตอนนั้นจับใจความอะไรไม่ได้เลย ประโยคเดียวที่นิวพูดชัดเจนก็คงจะเป็น… ทั้งหมดมันเป็นความผิดของจิ๋ว นั่นล่ะ… เขาได้ยินชัดเจนเพียงเท่านั้นเอง
จนถึงบ้าน คนที่นิวพร่ำโยนความผิดให้ตลอดระยะทางก็ออกมารับไอ้ขี้เมาด้วยแววตาห่วงใย หวินแอบสังเกต มองโดยไม่ได้ตั้งใจ เขารู้สึกผิดสังเกตตั้งแต่ตอนนั้น… มันไม่ใช่แค่ความเป็นห่วง มันคือความรักชัดๆในแววตาคู่สวยนั่น…
แต่เรื่องนี้ก็ถูกลืมไปในที่สุด… จนมันถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยคำตอบของนิว พร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาเป็นสาย
“คืนนั้น… มึง กับคุณจิ๋ว…”
หวินถามนิวอย่างลังเล ผสมกับความกลัวที่อยู่ลึกๆในใจ เขาไม่อยากได้ยินว่านิวทำแบบนั้น อยากให้สิ่งที่เขาคิดมันผิด… ทั้งที่อันที่จริง น้ำตาของนิวก็ดูจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนพอแล้วสำหรับเรื่องราวที่เกิด ระหว่างคนเมาที่ไม่ปิดบังความในใจ… กับคนที่รักจนยากจะเก็บซ่อนไว้
นิวพยักหน้าช้าๆ แทนคำตอบ…
และได้รับเสียงถอนหายใจยาวจากหวินมาเป็นการตอบรับด้วยความเข้าใจทั้งหมด…
เขาทิ้งเวลาให้ช่วยทุเลาอาการอึ้ง… นานพอที่จะรวบรวมสติ นานพอที่จะทำให้นิวได้ระลึกว่าเรื่องราวมันมาไกลเกินไปแล้วโดยที่เขาไม่ต้องพูดอะไรสักคำ
“ไม่มีอะไรที่ต้องลังเลแล้วนิว กูไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะเป็นไปถึงขนาดนี้ นนท์ไม่ใช่ตัวเลือก ไม่ใช่คนที่มึงจะเอามาคิดแล้ว…”
หวินจ้องตาเพื่อนรักราวกับจะสะกดจิตคนจิตใจอ่อนไหว เสียงเข้มแข็งพูดเรียบๆให้คนนั่งฟังต้องปาดน้ำตาอีกครั้ง
“สิ่งเดียวที่มึงต้องทำ คือเลิกสับสนเสียที นนท์เป็นผู้ชายที่มึงตามหา มันดี มันหล่อ มันตรงใจมึง มึงชอบอาร์ตติสท์ นนท์ใช่ มึงชอบสูงตี๋ขาวหล่อ และนนท์ใช่… มึงชอบที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับเขา แต่นนท์ไม่ใช่คนที่จะใช้ชีวิตกับมึงนะนิว มึงรู้ความจริงข้อนี้ดี มีสักครั้งไหมที่มึงจะสามารถบอกเขาได้ว่าจริงๆแล้วมึงต้องการอะไร มีสักครั้งไหนที่มึงอ่อนแอแล้วเขาจะเข้ามาปลอบแค่เพราะเขาเห็นแววตามึงเปลี่ยนไป”
นิวกลั้นน้ำตา รับฟังความจริงทั้งหมดนั่นอย่างหมดข้อโต้แย้งใดใด…
เหมือนกำลังมองเห็นโลกใหม่ ฝุ่นหนาที่ปิดบังความในใจถูกปัดออกด้วยความปรารถนาดี
“ถ้าได้ลองมีมือใครที่หวังดีและรู้จักเธอดีพอเข้าไปช่วยจับวางให้เข้าที่เข้าทาง มันอาจจะง่ายขึ้นก็ได้…”
พี่เจนเคยพูดเอาไว้… และมันใช่จริงๆ
หวินถอนหายใจเบาๆ เขารับรู้ได้ถึงความเข้าใจของนิวที่มีมากขึ้น จิตใจที่อ่อนแอนนั่นกำลังเยียวยาตัวเองอย่างๆช้า
อันที่จริง เขาอยากเรียกสิ่งที่นิวกำลังเป็นว่าการยอมรับในตัวเองมากกว่า
แต่มันคงช้าเกินไป หากปล่อยนิวไว้ให้คิดเอง…
“มึงไม่ได้รักนนท์ มึงแค่อยากจะรัก เพราะอยากให้มันมาเติมเต็มมึงในทุกๆอย่าง มึงอยากได้ความรักจากนนท์ เพราะมึงรู้สึกว่าคุณจิ๋วไม่รักมึงใช่ไหม ?”
หวินถามจี้ใจจนนิวหน้าเบ้… หัวใจเหมือนถูกแทงจึ้กจนเลือดอาบ… แต่ก็ยอมพยักหน้ารับ ทั้งที่มันเป็นความจริงที่เธอไม่เคยจะกล้าคิดถึงสักครั้ง
น่าอายเกินไปหรือเปล่าที่ถวิลหาความรักจากเพื่อนจนต้องไปขอให้คนอื่นมารัก…
หวินยิ้ม… ก่อนเสียงเรียบๆนั่นจะเอ่ยต่ออีกครั้ง
“แต่มึงไม่ต้องการใครแล้วล่ะนิว คุณจิ๋วคนเดียว พอแล้วสำหรับมึง เขานั่นล่ะ คนที่จะเคียงข้างมึงตลอดไป เขาแค่ไม่บอกรักมึง เขาแค่ไม่พูดว่าเขารักมึงแค่ไหน แต่สายตา เสียงเรียบๆกับการกระทำเจ้ากี้เจ้าการพวกนั้น คุณจิ๋วใช้มันบอกรักมึงตลอดเวลา…”
หวินทอดสายตามองเพื่อนรักอย่างเอ็นดู นิวในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากเด็กน้อยหลงทางที่กำลังจะเจอทางกลับบ้าน ความพยายาม ความเหนื่อยล้ามากกว่ากำลังจะยุติลง เพียงแต่ยังต้องเอาของที่หยิบมาระหว่างทางกลับไปคืนเจ้าของเขาเท่านั้น
นิวสูดน้ำตาเบาๆ การได้คุยกับหวินทำให้เธอรู้แล้วว่าเธอควรจะทำอย่างไรต่อไป
“ไปหานนท์เถอะ ไปบอกเขาให้เข้าใจ ก่อนที่เขาจะหันมาทุ่มเทความรักให้กับมึงอย่างจริงจัง… เขาทำอย่างนั้นแน่ล่ะ และเขาก็กำลังจะทำ… มึงคงไม่อยากทำร้ายคนที่มึงเคยอยากจะรักหรอก ใช่ไหมล่ะ?”
.
.
นิวจากไปแล้ว แทบจะทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ…แต่เขายังอยู่ที่เดิม นั่งขุดความทรงจำลางๆในหัว ความทรงจำที่ทำให้เขาแน่ใจว่านิวไม่ได้คิดอะไรกับนนท์มากไปกว่าแค่อยากจะรัก
อันที่จริงนิวชัดเจนมาตลอด ชัดเจนมาเสมอ…
และเขามีเวลาพอจะทบทวนความจำ คำพูดของมันในวันที่เมาก็ชัดเจนมากจริงๆ จนเขาอยากจะย้อนเวลาไปจัดการเรื่องราวให้ยุติลงตั้งแต่วันนั้น เผื่อจะเปลืองน้ำตาและเวลาน้อยกว่านี้
“ทั้งหมดมันเป็นความผิดของจิ๋ว จิ๋วนั่นล่ะ ถ้าจิ๋วรักนิวมากกว่านี้ อีกแค่นิดเดียว นิวก็จะไม่อยากมีนนท์ นิวก็จะไม่อยากมีใครแล้ว… นิวอยากให้จิ๋วรักนิว นิวอยากรักจิ๋วคนเดียว…”
หวินยิ้มกับตัวเองอย่างกลั้นไม่ไหว อยากจะหัวเราะด้วยซ้ำ หากมันไม่มากจนเกินไป…
นิวมันยังเด็กจริงๆด้วย เด็กมากถึงขนาดที่เมื่อเคลียร์ปัญหาเสร็จสิ้น คุณจิ๋วคงจะต้องปวดหัวกับการคอยตามเอาใจไอ้เด็กขี้หวงนี่จนแทบจะเลิกรักมันไปเลยเชียวล่ะ
ก็ขอให้คุณจิ๋วมีความอดทนมากพอแล้วกัน
แต่ก็คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกมั้ง… ก็เห็นทนกันมาได้เป็นสิบยี่สิบปีละนี่เนอะ…
_________________________________
ขอโทษค่ะที่ช้า ช่วงนี้ติดซีรีส์ แหะๆ
ขอบคุณนะคะ ที่ยังติดตามกัน :)
xoxo.
ความคิดเห็น