ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "ถ้าเขายังสำคัญ" #newjiew

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 10 fuel

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 57


    บรรยากาศในรถเป็นไปอย่างอึดอัด สองสาวเพื่อนรักเงียบผิดปกติ ปล่อยให้คนไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างเจนรบต้องนั่งพยายามชวนคุยโดยที่มันไม่ประสบผลสำเร็จและแทบไม่มีวี่แวว แววตาหนักใจของคุณผู้จัดการส่วนตัวมองลอดแว่นไปทางสาวๆในความปกครองซ้ายทีขวาทีอย่างลำบากใจ เอาอีกแล้ว เจ้านิวเจ้าจิ๋ว ทะเลาะกันมาชัวร์ เห็นท่าไม่ดีตั้งแต่ยืนจ้องตากันนิ่งตรงโน้นแล้ว

     

    “เฮ้อ

    เสียงถอนหายใจหนักๆเรียกดวงตาคู่คมของสาวข้างตัวมามองกันได้เพียงชั่ววินาทีสั้นๆ แต่แล้วก็ตวัดสายตากลับไปด้วยท่าทางขุ่นมัวไม่ต่างจากเดิม ทิ้งเจนรบให้ตีคิ้วขมวดขึ้นบ้าง ความหนักใจเริ่มตีตื้นขึ้นอกหนักขึ้นทุกที

     

    นิวยึดที่นั่งข้างคนขับไว้เหมือนเดิม แต่ไม่ส่งยิ้มสดใสชวนคุยเหมือนทุกครั้ง คนสวยตีหน้ายุ่งกอดอกมองออกไปนอกหน้าต่าง แทบไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปากสีส้มเรืองแสงแม้แต่เสี้ยวคำ

     

    แต่กับจิ๋ว เป็นแบบนี้บ่อยครั้งจนคนเป็นพี่มองแล้วก็ไม่แปลกใจอะไรนัก มีก็แต่คิ้วบางๆที่ดูจะขมวดแน่นเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าความหงุดหงิดที่มีนั้นไม่น้อยเลย ส่วนปากน้อยๆที่แทบจะไม่หลุดคำพูดใดออกมาอยู่แล้ว ก็ยังสงบคำรักษาความไว้ได้อย่างที่เคย

     

     

    รวมๆกันแล้ว เป็นสถานการณ์อึดอัดที่บุคคลที่สามแทบจะขยับตัวทำอะไรไม่ได้เลย เขาอยากจะถอนหายใจสักพันรอบให้กับความงุ้งงิ้งของน้องรักสองคน พักหลังมานี้เจ้านิวเจ้าจิ๋วทะเลาะกันถี่จนน่าแปลกใจ อาการเมินกันมีบ่อยไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่อย่างเช่นวันนี้ แต่ทั้งหมดนั่นก็ไม่น่าแปลกใจเท่านิวที่นั่งนิ่งเงียบ ผิดจากปกติที่จะเป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อให้จิ๋ว ง้อก่อนไม่ว่าเรื่องนั้นตัวเองจะผิดจริงหรือไม่

     

    นั่นหมายความว่า จะไม่มีทางที่นิวกับจิ๋วจะคุยกันปกติ หากไม่มีใครยอมเลิกขมวดคิ้วแล้วเปิดปากพูดกันเสียที….

     

    เอ้อ เอาเข้าไป

     

     

    “รู้ไหม ว่าดูแลเธอสองคนน่ะ เหนื่อยกว่าเป็นครูพี่เลี้ยงเด็กอนุบาลทั้งห้องเรียนอีกนะ”

    เจนรบเปรยขึ้นมาเสียงเรียบๆ ดวงตาที่แฝงความเหนื่อยอ่อนไว้มากมายจ้องนิ่งบนถนน ไม่ได้มองสองสาวในปกครองคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ แต่ก็ทำให้ทั้งสองคนต้องให้ความสนใจกับพี่ชายคนสำคัญ หลังจากได้ยินคำพูดในทำนองที่ไม่เคยได้ยินหลุดออกมาจากปาก

     

    ในเรื่องความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนขนาดนี้ จิ๋วจะเป็นฝ่ายที่รู้ใจเจนรบมากกว่านิว ใช้เวลาเพียงสองสามวินาทีก็ปรับสีหน้าได้อย่างไม่ลำบากนัก คนตัวเล็กเอียงตัวมาโผล่เผยยิ้มเผล่ระหว่างเบาะ ส่งเสียงสดใสใส่อีกคนทั้งที่สถานการณ์กำลังตึงเครียดเกินความจำเป็น

     

    “อาราย พี่เจน จะว่าดูแลนิวเหนื่อยคนเดียวก็ว่าไปสิ อย่ารวบจิ๋วเข้าไปด้วย จิ๋วมีปัญหาอะไรที่ไหน คิคิ”

    ทำเสียงเล็กเสียงน้อยเหมือนจะอารมณ์ดี แต่คนฟังก็รู้ว่าจิ๋วแค่ทำหลอกตา ในส่วนของความรู้สึก จิ๋วหลอกใครไม่ได้เลย อยู่กันมาเป็นสิบปีจนรู้ใจ เจนรบได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ เขายังไม่มีอารมณ์จะมาเล่นกับจิ๋วตอนนี้

     

    และนั่นก็ทำเอาคนพยายามปั้นหน้าหลอกต้องหน้าเสีย รู้เลยว่าพี่เจนเครียดจริง เธอรู้ว่ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก ที่ปัญหาของนิวจิ๋วจะไม่กระทบคนรอบข้าง แต่พี่เจนรับผลกระทบมากเกินไป จนเธอเดาแทบไม่ออกว่าพี่เจนกำลังเหนื่อยใจขนาดไหน และในใจดวงนั้นกำลังคิดอะไรอยู่

     

    คนเดียวเอาไม่อยู่ จิ๋วเลยต้องเอียงคอมองเพื่อนรักคู่กรณีอย่างขอความช่วยเหลือ ส่งสัญญาณผ่านการจ้องมองเนิ่นนานแต่ก็ไม่ได้ผล เลยเอื้อมมือซ้ายอ้อมเบาะไปสะกิดไหล่อีกคนเรียกร้องความสนใจแบบฉุกเฉิน

     

    คนโดนสะกิดสะบัดหน้ามองจิ๋วพรึ่บ เตรียมตัวตั้งแง่งอนเต็มที่ แต่พอเห็นสายตาเข้มๆคู่นั้นก็อ่อนยวบ สองเพื่อนรักเลยได้ทีปรึกษากันผ่านแววตา จิ๋วบุ้ยบ้ายให้นิวช่วยเธอกอบกู้สถานการณ์โดยไว พักรบมากอบกู้สถานการณ์ที่สำคัญกว่า

     

    “อารายเนี่ยพี่เจน หน้ายุ่งเป็นยักษ์เลย ดูแลเอ็นเจนี่มันเหนื่อยยังไงคะ น้องน่ารักๆตั้งสองคน เนอะคุณจิ๋วเนอะ”

    นิวหันไปฉีกยิ้มให้จิ๋วพร้อมกับเอื้อมแขนไปเหนี่ยวคอคนตัวเล็กมาใกล้เร็วๆ  จนร่างบอบบางลอยหวือศีรษะชิดไหล่ตัวแสบแนบแน่น คนตัวเล้กหน้ายุ่งเฉียบพลันเพราะรู้ตัวว่าโดนแกล้ง หันไปแยกเขี้ยวให้อีกฝ่ายคาดโทษ ก่อนจะได้รับอาการลอยหน้าลอยตามาเป็นการรับรู้ความผิดโดยไม่สำนึกแม้แต่น้อย

     

    จิ๋วส่งยิ้มให้พี่เจนอย่างฝืดๆ ในขณะที่ยิ้มของนิวเริ่มเป็นจริงเป็นจังขึ้นเรื่อย ตัวแสบกำลังขำที่ทำให้เพื่อนรักแยกเขี้ยวใส่อย่างคาดโทษได้แบบนั้น จิ๋วไม่ค่อยทำ และมันก็ตลก

     

    เจนรบหันมองน้องสองคนที่กอดคอกันด้วยท่าทางประหลาดๆ ไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่าสิ่งที่นิวกับจิ๋วทำให้เขาเห็นมันจะเป็นจริง อยากจะทำเป็นโกรธเคืองให้นานกว่านี้ แต่พอด้เห็นรอยยิ้มของจิ๋วกับสายตาออดอ้อนของเจ้านิว คนเป็นพี่ก็ใจอ่อนยวบจนกลายเป็นนึกเอ็นดูเข้าไปใหญ่

     

    ลึกๆก็รู้ ว่าน้องสองคนพยายามเสมอเพื่อให้เขาสบายใจกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่

     

    แต่เอาเข้าจริง เขาเองก็สัมผัสได้ถึงความซับซ้อนในความสัมพันธ์ และยิ่งหลังๆมานี้ อะไรๆมันก็ชัดเจนขึ้นมาจนเขากลัว

     

     

    “เหอะ ไอ้เจ้าแสบ อย่านึกว่าพี่ไม่รู้นะว่าเราสองคนมีปัญหากัน พี่เข้าใจนะ ว่าคนอยู่ด้วยกันตลอด มันก็ไม่แปลกที่จะมีปัญหากันบ้าง แต่ เพื่อนกันน่ะ ให้อภัยยอมๆกันบ้างมันก็ไม่ลำบากใช่หรือเปล่า”

     

    เจนรบเทศน์ยาว เสียงเข้มแอบเน้นคำว่าเพื่อนพร้อมส่งสายตาค้นหาความจริงในแววตาน้องทั้งคู่อย่างจับสังเกต การจะจับผิดนิวไม่ใช่เรื่องยากเลย เมื่อตัวแสบนิ่วหน้าตั้งแต่คำว่าเพื่อนเริ่มต้นขึ้น แม้จะเก็บอาการได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็ไม่มีทางเสียหรอกที่จะรอดพ้นสายตา

     

    ผิดกับจิ๋ว รายนั้นปั้นยิ้มได้สดใสสม่ำเสมอ เป็นปิยนุชคนเดิมที่เก็บอาการได้เนียนสนิท

     
     

    “แล้วมีอะไรอ่ะ ก็บอกพี่บ้างก็ได้นะ เรื่องบางเรื่องที่เธอสองคนดูกันไม่ออก คิดกันไม่ตก ถ้าได้ลองมีมือใครที่หวังดีและรู้จักเธอดีพอเข้าไปช่วยจับวางให้เข้าที่เข้าทาง มันอาจจะง่ายขึ้นก็ได้

     

    เจนรบทิ้งท้ายพร้อมยิ้มมุมปาก ทิ้งความกดดันไปให้สองเพื่อนรักที่ยังคงกอดคอกันอย่างหลวมๆนิวกลืนน้ำลายลงคอเพราะอาการร้อนตัวเป็นหลัก พี่เจนต้องรู้เรื่องเธอกับจิ๋วแล้วแน่ๆแต่รู้ได้ยังไงล่ะ รู้ได้ยังไง ตายๆๆๆ อย่างนี้ก็แย่แล้วน่ะสิตัวแสบหน้าตาเลิ่กลั่ก แววตาหลุกหลิกร้อนรนชัดเจนไม่ปิดบัง

     

    ผิดกับคนตัวเล็กที่แสดงอาการเพียงขมวดคิ้วบางๆเท่านั้น รอยยิ้มลดลงนิดหน่อยแต่ก็ไม่มากมาย จิ๋วไม่สะเทือนกับคำพูดของพี่เจนสักเท่าไร ดวงตาเฉียบคมสานสบตาพี่เจนที่จ้องรออยู่ก่อนแล้วผ่านกระจกมองหลัง หยั่งเชิงความรู้เท่าทันของพี่ชายคนสนิทว่าเจาะลึกเข้ามาได้แค่ไหน ไม่เห็นแววปรุโปร่ง เห็นเพียงแค่ความห่วงใยก็ค่อยโล่งใจ ยิ้มปิดท้ายแล้วหลบตาหนี พี่เจนคงแค่กังวลและจับสัญญาณผิดปกติได้บ้าง ไม่น่าจะร้ายแรงถึงขั้นรู้เหตุการณ์สำคัญ

     

    โดยแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าตัวเองพลาดเผลอปล่อยพิรุธอะไรให้เจนรบล่วงรู้ความในใจไปแค่ไหน


     

    เจนรบยิ้มมุมปากกับตัวเองอย่างพอใจ อย่างน้อยเขาก็ล้วงแม่เสือซุ่มนี่ได้สำเร็จ หากเรื่องที่เขาพูดไม่มีมูลจริง จิ๋วไม่มีทางใช้แววตาตรวจสอบกับเขาแบบนั้น ไอ้แววตาหวาดระแวงเฝ้าระวังแต่แสร้งทำเป็นมั่นใจ เขาเห็นจิ๋วทำมันทุกครั้งกับปัญหาที่ใหญ่เกินตัว

     

    ถ้ายังจัดการอะไรไม่ได้ จิ๋วไม่มีทางจะเปิดปาก แถมยังเก็บนิ่งราวกับว่าปัญหานั้นได้ตายจากไปแล้ว ผิดกับนิว รายนี้ร้อนรนเห็นได้ชัด พิรุธแสดงออกชัดเจน เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ก็มีอาการ แต่จะมากจะน้อยก็ตามความสำคัญของเรื่อง

     

    และตอนนี้ ทั้งคู่กำลังทำอยู่ ทั้งนิวทั้งจิ๋ว ทำมันให้เขาเห็นกับตาทั้งสองอาการมีปัญหาประจำตัว



     

    มาถึงตอนนี้ เจนรบค่อนข้างมั่นใจแล้วว่านิวและจิ๋วมีปัญหาในความสัมพันธ์จริง และไม่ใช่เพิ่งเกิด มันเริ่มต้นมานานแล้วเพียงแต่เพิ่งมาพีคจนใกล้ถึงจุดแตกหักเอาในวันนี้

     

    เขาก็แค่คนนอก ถึงมองเห็นแต่ก็คงทำอะไรได้ไม่มาก หากยังไม่มีใครยอมเปิดปาก ก็คงไม่เหมาะนักที่จะเข้าไปยุ่งย่าม แม้จะรู้ว่าหากปล่อยคนปากแข็งสองคนเอาไว้ด้วยกัน ปัญหาจะจบยากก็ตาม….

     

    จิ๋วไม่มีทางพูดก่อน ตามนิสัยดื้อรั้นและปากแข็ง ฝ่ายนิวที่ยอมมาตลอด ก็คงไม่ยอมอีกแล้ว เห็นสายตาก็พอรู้ เว้นเสียแต่ว่า จะยุใครสักคนให้ถึงจุดระเบิดเร็วๆ

     

    แล้วใครล่ะ ยุง่ายกว่ากัน ใครล่ะ จะปั่นอารมณ์ให้ขึ้นได้ก่อน

    แน่นอน

     

    เจนรบทิ้งสายตาเจ้าเล่ห์มองน้องสาวข้างๆตัว สองเพื่อนรักปล่อยอ้อมกอดเอาใจเขาไปเป็นต่างคนต่างนั่งเช่นเดิมแล้ว นิวนั่งก้มหน้ามองมือ แววตายังหลุกหลิกไม่หาย

    นี่ไง เหยื่อของเขาล่ะ

     

    เจ้านิว หึ




     

     

    “นี่ ที่เราสองคนเคยขอวันหยุดยาวติดกันสองอาทิตย์ ได้เรื่องแล้วนะจ๊ะ”

    เปลี่ยนเรื่องเครียดเป็นทอปปิคเบาสมอง ทั้งที่ในหัวเจ้าแผนการยังวางเรื่องราวสลับซับซ้อนไปหมด เห็นผลทันตา เหยื่อของเขาหูตาลุกวาวเป็นคนละคน นิวยิ้มแก้มแทบแตก ท่าทางสมใจนั่นทำให้คนเป็นพี่ยิ้มตามอย่างห้ามไม่อยู่

     
     

    “เลิศเลยพี่เจน เฮ้ออออ คิดถึงการพักผ่อนจนแทบทนไม่ไหวอยู่แล้วววว”

    เสียงสดใสดังลั่นรถ คลอด้วยเสียงหัวเราะของพี่เจนที่ดังขึ้นอย่างเอ็นดู

     

    “แต่ยังไม่ได้กำหนดวันที่แน่นอนนะนิว อย่าเพิ่งล็อคคิวเที่ยว นี่มีงานใหญ่อีกสองงานขอคิวเรามา รอพี่เคลียร์คิวเรียบร้อยก่อน แล้วจะมาบอกวันให้ชัดๆอีกที”


     

    “ค่า ผู้จัดการคนเก่งของน้องนิววว”

    นิวลากเสียงยาวอย่างปลื้มปริ่ม แทบจะกางแขนโอบกอดร่างใหญ่ของพี่ชายหากไม่ติดว่าอีกฝ่ายกำลังขับรถอยู่ รอยยิ้มเกลื่อนกระจายทั่วหน้ารถ แต่คนด้านหลังกลับไม่มีปฏิกิริยาใดใดเท่าไร คนตัวเล็กยังนั่งเฉย การพักผ่อนยาวอะไรนั่นไม่ได้มีผลอะไรกับเธอนัก เธอไม่ได้ชอบเที่ยวเหมือนนิว แค่ได้มีเวลานอนหลับให้เต็มตื่นในแต่ละคืน นั่นก็ถือเป็นการพักผ่อนที่เพียงพอแล้ว

     

    และเมื่อไม่มีใครพูดอะไรต่อ ความเคลื่อนไหวในรถก็ค่อยๆเงียบลงไป โดยมีเจนรบมุ่งขับรถไปให้ถึงปลายทางที่ยังอยู่อีกไกล

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติ๊ง

     

    เสียงในความเงียบ

    ไม่ต้องหันหน้ามองใครมากมาย หางตาเจนรบเหลือบเห็นเจ้าของโทรศัพท์พยายามควักมันออกจากกระเป๋าสะพายตำตา

     

    นิวจับโทรศัพท์ด้วยสองมือ รอยยิ้มสวยฉาบขึ้นใบหน้า สองมือกดยุกยิกตอบไลน์

     

    โดยปิดไม่มิด ปิยนุชที่เคยนั่งเชิดมองนอกกระจกอยู่เบื้องหลัง แอบทิ้งหางตามองเพื่อนรักอย่างใคร่รู้ เพราะความระแวงเรื่องนนท์ยังเข้มข้นอยู่ในใจแม้จะมองจากระยะนี้ไม่เห็นอะไร แต่แค่เห็นลักยิ้มกดลึกข้างแก้มเพื่อนรักก็พอจะดูออก

     

    หน้าตาเรียบนิ่งเลยได้ฤกษ์กลับมาบูดบึ้งให้เห็นอีกหน

     

     

    เจนรบยิ้มบางๆ เอาล่ะนะ โอกาสมาถึงตรงหน้า ไม่คว้าไว้ก็คงจะไม่ไหว

    ภารกิจ เริ่ม!

     


     

    “ฮั่นแหนะ แม่หนูแบรนด์นิว ใครไลน์มาจ๊ะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว”

    เสียงในเชิงแซวทำเอาคนโดนแซวต้องเม้มปากน้อยๆอย่างเขินอาย นิวช้อนตาขึ้นมองพี่ชายคนสนิท อ้อมแอ้มตอบเสียงเบา ด้วยอาการที่ทำเอาคนมองอยู่จากด้านหลังแทบอยากจะถอดส้นสูงเขวี้ยงหัวด้วยความหมั่นไส้เต็มอัตรา


     

    “นนท์ค่ะ

    สั้นๆแต่ก็เรียกเสียงกิ๊วก๊าวจากเจนรบได้เต็มคำ


     

    นิวยืนยันออกมากับปาก ด้วยน้ำเสียงเขินๆที่ขัดหูจนอยากจะลืมมันเสีย ยิ่งเห็นหน้าแดงๆนั่น ใจเธอยิ่งร้อนจนแทบระเบิด จิ๋วพยายามนับลมหายใจเข้าออก ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอเองร้อนเป็นไฟแค่ไหน พยายามซ่อนพายุอารมณ์ไว้ภายใต้สีหน้าเรียบนิ่ง เธอจะต้องไม่ไหวเอนไปกับเรื่องง่ายๆแบบนี้ ปิยนุชอย่างไรก็ต้องเป็นปิยนุชที่เก็บความรู้สึกได้ดีเสมอ

     

    นิวยิ้ม เกาหัวแหรก ท่าทางประจำยามที่ทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ยังไม่วายส่งสายตาไปมองคนด้านหลัง เห็นอีกคนไม่มีทีท่าอะไร ก็ทั้งโล่งใจและขัดอกขัดใจไปพร้อมๆกัน คิ้วบางขมวดน้อยๆ  ฮึ่ย จิ๋ว นี่เธอไม่สนใจฉันเลยจริงๆหรอเนี่ย


     

     “อะไรยังไงกันจ๊ะ เมื่อกี้ก็เห็นเดินตามมาส่งถึงที่ นี่ก็ยังจะไลน์คุยกันต่อ นิว บอกพี่มานะ

    เสียงเข้มคาดคั้นน้องสาวคนสนิท แววตากดดันหวังจะได้เห็นรอยยิ้มเขินแต่กลับได้เห็นว่าสีหน้าน้องสาวไม่เหมือนเดิม นิวคิ้วขมวดมุ่น แต่ปากก็ยังแย้มยิ้มกว้าง เจนรบก็แอบเหล่มองจิ๋วผ่านกระจกมองหลัง เห็นท่าทางของจิ๋วแล้วก็แอบผิดหวัง เพราะไม่เห็นท่าทีอะไรจากคนตัวเล็กอีกแล้ว


     

    แหม เก็บอาการเก่งจริ๊ง แม่จิวเวอรี่

     


    “ไม่ยังไง วันนี้นิวไปเอามือถือคืน แล้วคุยกันเรื่องทริปถ่ายรูปที่ญี่ปุ่น นนท์เค้าก็เลยส่งรูปที่ไปถ่ายมาให้ดู แค่นั้นเองพี่เจน ไม่มีอะไรจริงๆ

    นิวอธิบายด้วยรอยยิ้มที่เบาบางกว่าเดิม ซ่อนความปลาบปลื้มในตัวนนท์เอาไว้ภายใต้น้ำเสียงเรียบนิ่ง ความสดชื่นจากการเห็นคนที่แอบปลื้มไลน์มาหาลดลงฮวบฮาบอย่างน่าตกใจ เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักให้ความสนใจเป็นศูนย์กับประเด็นร้อนแบบนี้ นั่นหมายถึง จิ๋วไม่ได้สนด้วยซ้ำว่าเธอกับนนท์จะคบหากันไปในทิศทางไหน


    คิดแล้วก็ให้อารมณ์เสียขึ้นมาเฉยๆ

     


     

    “นี่ อย่าว่างั้นงี้นะแบรนด์นิว ถามจริงเถอะ เธอก็โสด นนท์ก็โสด รอบนี้มีโอกาสจะสปาร์คจริงจังป้ะ”

    เจนรบถามพร้อมหรี่ตามองอย่าล้อเลียน ก่อนจะได้รับฟาดผัวะใหญ่จากมือน้องสาวไปเต็มไหล่จนแทบทรุด คำถามไม่แคร์สื่อจากพี่เจน ตรงประเด็นเสียจนคนแสร้งทำเป็นไม่สนใจด้านหลังแอบเซ


     

    นิวยิ้มมุมปาก เหล่มองด้านหลัง ยังเห็นอีกคนทำเป็นไม่สนใจอยู่อย่างเดิมก็เกิดอยากยั่วขึ้นมา ยังไม่อยากปักใจเชื่อว่าจิ๋วจะเฉยชาไปเสียหมดสัญชาตญาณยังบอกว่าคนตัวเล็กให้ความสนใจกันอยู่แม้จะทำเมินเช่นนั้นก็ตาม

     

    และเธอยังอยากรู้ ว่าเรื่องของเธอมีอิทธิพลกับจิ๋วขนาดไหน


     

    “ก็ไม่แน่เหมือนกัน นิวอ่ะยังเฉยๆ แต่รอบนี้นนท์เค้าคุยดีผิดปกติ” นิวเหลือบตามองกระจกหลัง เห็นคนตัวเล็กเริ่มคิ้วผูกก็ยิ้มกว้าง พูดต่อด้วยอารมณ์อยากยั่ว

     

    “ก็ไม่รู้สิ ตอนนี้นนท์ก็เป็นเพื่อน เพื่อนชายที่สนิทที่สุด”

     

    “แต่ว่าตอนนี้นิวก็ขอให้โฟกัสเรื่องงานก่อนนะคะ กิ๊ววววว”

    ประโยคสุดท้ายเป็นพี่เจนที่ใช้เสียงดัดเป็นนิวแย่งพูดขึ้นมาพร้อมกับร้องกิ๊วก๊าวแซวอีกคนเสียงดัง จากที่เคยเฉยๆตอนตอบ เมื่อเห็นสายตาแซวแบบทะลุปรุโปร่งนั่นก็เลยได้หน้าแดงขึ้นมาจริงๆ


     

    แต่ในความเป็นจริง เธอกับนนท์ยังห่างไกลคำว่าเพื่อนชายที่สนิทที่สุดไปอีกไกลโข เพื่อนชายที่เธอสนิทที่สุด ก็มีไอหวินครองตำแหน่งอยู่แล้วทั้งคน คงไม่ต้องลำบากเชิญนนท์มารับหน้าที่สำคัญขนาดนั้น

     

    มันยังคลุมเครือ ทั้งในด้านของความรู้สึกและความสัมพันธ์ จะบอกว่าเฉยๆไปแล้ว มันก็ไม่ใช่เสียทีเดียว หรือจะบอกว่าคบหากันเป็นเพื่อนธรรมดา มันก็ยังไม่ใช่เหมือนกัน เธอเองยังไม่รู้แน่ชัด ตัดใจไม่ได้สักทาง เลยได้แต่ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ ทั้งๆที่ก็รู้ว่ามันก็ทำให้คนข้างๆเธอต้องไม่สบายใจไปด้วยอีกคน

     

    ใบหน้าสวยคมยังเหลือรอยยิ้มขัดเขินจางๆ นิวเหลือบตามองคนข้างหลังอีกครั้ง เห็นอีกคนยังปั้นหน้านิ่งก็ยังไม่วายจะเย้าต่อให้คิ้วคมๆนั่นได้ขมวดแน่นขึ้นอีกหน่อย

     


    ชอบนัก คุณจิ๋วเวอร์ชั่นเก็บอารมณ์ไม่อยู่เนี่ย


     

    “นิวกับนนท์อ่ะ ยังไม่มีอะไรจริงๆนะ แต่คุณจิ๋วกับพี่เบลเนี่ย หึคงต้องขอกุหลาบแดงที่ให้พี่เจนไปวันนั้นคืนละมั้งคะ”

    นิวคงไม่รู้ตัวว่าในขณะที่เธอกำลังพยายามทำเสียงให้เรื่องมันดูชิลๆเล่นๆ แต่ในแววตาที่จ้องคนตัวเล็กผ่านกระจกมองหลังกลับกร้าวขึ้นมาจนบรรยากาศเปลี่ยน พยายามจะให้อีกคนแสดงความรู้สึกออกมา แต่กลับเป็นตัวเองที่เปิดเผยความรู้สึกจนหมดเปลือก ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจสักนิด

     

    เจนรบเผลอกลืนน้ำลายลงคอกับคำถามที่ดูจะเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่าการแซวกันเฉยๆ แต่ดันดึงเขาเข้าไปเอี่ยวเสียเต็มตัวไม่มีใครอยากโดนจิ๋วมองด้วยสายตาอย่างนั้นหรอกนะ หรือถ้าจะมี ก็คงเป็นไอ้จอมหาเรื่องข้างตัวเขานี่แหละ

     

    ก็สายตานั่น มันยียวนเสียเหลือเกิน


     

    คงไม่ต้องขอคืนหรอกนิว พี่เบลเขามีให้จิ๋วเรื่อยๆล่ะ

    จิ๋วยิ้ม แต่เป็นยิ้มเชือดเฉือนที่ทำคนได้รับแทบกระอัก ไม่ทันจบประโยคนิวก็ตาลุกวาบ เม้มปากแน่น จ้องคนด้านหลังผ่านกระจกอย่างแสนจะไม่พอใจ จิ๋วเองก็ไม่แพ้กัน ไอ้สายตาไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับรอยยิ้มร้ายกาจแบบนั้น มันเป็นยิ่งกว่าน้ำมันร้อนที่สาดเข้ากองไฟ สองสายตาจ้องกันนิ่งจนกลัวว่ากระจกจะแตกเสียอารมณ์ร้อนๆแบบนี้ทิ้งไว้ให้คุยกันคงตีกันตายไปข้าง

     


     

    ร้อนถึงพี่เจนที่ต้องรีบออกโรง กางปีกกั้นน้องรักทั้งสองก่อนจะเกิดบทปะทะคารมให้ใจหายใจคว่ำไปมากกว่านี้

     

     
     

    “เห้ยย พูดเรื่องหัวใจทำไมต้องทำหน้าซีเครียดกันขนาดนั้น อ่ะๆ จิ๋วเคลียร์มาสิคะ ตกลงกะพ่อสุพลนี่อารายยางงาย กลืนน้ำลายตัวเองใช่ไหม ตกลงนี่พี่ลุ้นเธอได้แล้วใช่ไหม”

    เจนรบพยายามทำเสียงให้ดูสบายๆในท้ายประโยค แต่ก็พอจะรู้ว่าคงช่วยอะไรไม่ได้มากเท่าไร ไอ้คนต้นเรื่องที่ตอนนี้ยังคงนั่งส่งสายหาคนข้างหลังก็เหมือนไฟระอุที่ยังร้อนตลอดเวลา จะเผามอดไหม้หรือไม่ก็คงขึ้นอยู่กับน้ำมันข้างหลังนั่น จิ๋วจะสาดอะไรที่ร้อนแรงกว่าเข้ามาหรือเปล่า เขาไม่ขอเดาแล้วกัน

     

    จิ๋วยิ้มเหยียด แววตาแน่วแน่มั่นใจจ้องตานิวนิ่ง พร้อมเสียงแข็งกระด้างที่มีแต่ความจริงจังไม่ล้อเล่นแม้เพียงเสี้ยวคำ


     

    “เพื่อนค่ะ ยังเป็นเพื่อน และจะเป็นเพื่อนไปตลอด จิ๋วไม่กลืนน้ำลายตัวเอง

     


    เท่านั้นเอง น้ำมันร้อนก็เปลี่ยนเป็นน้ำเย็นๆที่สาดลงกลางใจ ไฟในดวงตานิวดับวูบ อารมณ์ร้อนๆเย็นลงพร้อมกับรอยยิ้มบางๆที่ฉายขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว


     

    นิวก้มหน้าลงซ่อนยิ้ม หัวใจเต้นสั่นด้วยความยินดีอย่างบอกไม่ถูก

     

    จิ๋วเมินหน้าออกทางหน้าต่าง ทั้งที่โกรธเคืองนิวจนอยากใช้พี่เบลเป็นเครื่องมือแค่ไหน แต่เธอก็ทำมันไม่ลง ความรู้สึกดีดีกับพี่เบลที่งอกงามอยู่ในใจเป็นเพียงในฐานะเพื่อนเท่านั้น เธอรู้จักตัวเองดีพอ


     

    บรรยากาศอึดอัดในรถจางลง เจนรบกวาดตามองน้องสองคนที่เมินหน้าไปคนละทางแล้วก็แอบยิ้มอย่างสาสมใจ



    นี่ไงล่ะ วันนี้ที่เขาได้รับมาเต็มๆ เวลาไม่ถึงชั่วโมงระหว่างขับรถพาตัวยุ่งไปงาน ได้รอยยิ้มพอใจจากแบรนด์นิว แถมด้วยแววตาเข้มดุจากจิวเวอรี่ แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับเบาะแสเรื่องความขัดแย้งระหว่างเพื่อนรัก ที่แอบรักกันเองแต่กลับไม่รู้ตัว

     

    หรือรู้ตัว แต่ไม่ยอมทำให้เรื่องมันหายยุ่งยากเสียที

     

     

    เจนรบหมายมั่นปั้นมือเอาไว้แล้ว ว่ายังไง เขาก็ต้องจบปัญหานี้ลงให้จงได้

     

    ไม่เชื่อก็คอยดู

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×