+
+ +
++
+ +
+-s
b-
เลือกสีลิปสติกให้เข้ากับสีปาก
|
เนื้อสเตนหรือทินท์
ลิปสติกประเภทนี้ไม่ค่อยมาในรูปลักษณ์แท่งหมุนเหมือนลิปสติกเนื้อครีมและเนื้อเชียร์ ด้วยความที่เนื้อ stain ซึ่งมีลักษณะกึ่งน้ำผสมสี (หรือจะว่าคล้ายกับสีเมจิกก็ได้) เมื่อทาลงบนเรียวปาก เนื้อสีจะซึมไปตามผิวชั้นนอกของริมฝีปาก
ทำให้สีติดทนนาน และเพราะลิปประเภทนี้มีสีให้เลือกไม่หลากหลายนัก ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางสีแดงสดและสีโทนเข้มซะมากกว่า ถ้าคุณใช้ร่วมกับลิปกลอสใส หรือกลอสสีอ่อนๆจะเลิศมาก | |
เนื้อแมตต์
ถ้าต้องการลุคในแบบเรียบนุ่ม แม้ไม่เป็นประกายเฉิดฉาย แต่ดูสวยเฉี่ยวแบบหนักแน่นแน่นอนคุณต้องหยิบลิปสติกเนื้อแมตต์นี้ขึ้นมาระบายบนริมฝีปาก เพราะเนื้อแมตต์นั้นปราศจากความมันวาวโดยสิ้นเชิง ให้สีด้านอย่างมีสไตล์ ถ้าคุณไม่เห็นว่าความมันวาวบนริมฝีปากจะดูมีเสน่ห์ตรงไหน เลือกใช้ลิปสติกเนื้อแมตต์ไม่ผิดหวังแน่ | |
|
เนื้อครีม
เมื่อใดที่อยากรู้สึกคล่องแคล่วกระฉับกระเฉงและเสริมสร้างความมั่นใจให้ตัวเองด้วยสีสันบนใบหน้าแล้วล่ะก็ หยิบลิปสติกเนื้อครีมขึ้นมาใช้ได้เลย เพราะลิปเนื้อครีมนั้นมีเนื้อเนียนนุ่มสนิทแนบไปกับเรียวปาก
ทั้งยังให้สีได้เด่นชัด ชนิดที่ว่าเลือกใช้สีแดงก็ออกแดงเต็มที่ ใช้ชมพูก็เห็นสีชมพูหวานจับใจ ลิปสติกเนื้อครีมนี้นอกจากใช้ทาปากแล้ว ยังปรับใช้เป็นครีมบลัชออนช่วยเพิ่มสีให้พวงแก้มคุณได้ด้วยนะ | |
ลิปไลเนอร์
เหมาะมากกับวันที่คุณต้องการความเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว ไม่เว้นแม้แต่ขอบปากที่จะต้องลงเส้นให้ดูคมชัดราวกับตีกรอบล้อมไว้ เพื่อไม่ให้ลิปสติกที่ทาเลอะออกนอกขอบปากได้ ลิปไลเนอร์ที่ดีต้องมีเนื้อนุ่มกำลังดี ไม่นิ่มจนเละเขียนไม่เป็นเส้น แต่ก็ไม่แข็งจนขูดขอบปากเป็นรอยแดง | |
ลองเอาไปปรับใช้ได้เลยนะคะ
เครดิตนะคะ
http://www.tttonline.net
ความคิดเห็น