ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC:SJ/KIHAE]+!Destiny Plan!+แผน{บังเอิญ}ป่วนหัวใจนายเย็นชา

    ลำดับตอนที่ #7 : Destiny Plan!!+6 : ความบริสุทธิ์ที่น่าลิ้มลอง!?!

    • อัปเดตล่าสุด 20 ส.ค. 52


                   

     

     

    “นั่งตรงนั้นก็ได้...”เสียงนุ่มฟังดูใจดีดังขึ้นเรียบๆก่อนจะชี้ไปที่โซฟาสีแดงเลือดหมูตัวยาวที่วางอยู่ตรงหน้าทีวีก่อนจะหันไม่หยิบกล่องปฐมพยาบาลนั่นทำให้คนที่ฟังอยู่ถึงกับนิ่วหน้าอย่างสงสัย

     

     

                    “นายทำยังงี้ทำไม?”ฮยอกแจถามเสียงแข็ง  ถึงแม้ว่าไอ้หล่อนี่กับรุ่นพี่ตาสวยจะเพิ่งช่วยชีวิตเค้ามาหยกๆแต่เค้าก็ยังไม่ยอมอ่อนให้อยู่ดี(แต่ก็สงบเสงี่ยมมากขึ้น)

     

     

                    “นายนี่...วุ่นวายชะมัด”พี่ทึกกี้พูดพร้อมรอยยิ้มขันก่อนจะเริ่มพูดต่อเมื่อเห็นฮยอกแจทำท่าจะเถียง

     

     

                    “พี่ของนาย...ทำสัญญากับเราเอาไว้แล้ว...”พูดจบพี่ทึกกี้ก็ยื่นสัญญาของดงแฮ(แน่นอนว่าเป็นฉบับสำรอง)ให้ฮยอกแจดู

     

     

                    ร่างบางคว้ากระดาษไปอ่านและเช็คจนมั่นใจว่ามันมีลายเซ็นของพี่เค้าจริงๆ  แล้วมันก็มีอยู่จริงๆ...มันอยู่ตรงมุมล่างซ้ายที่แม้จะไม่อยากมองยังไงก็ยังสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนและเมื่อเห็นว่าเป็นสัญาที่พี่ดงแฮทำเอาไว้กับมาเฟียพวกนี้จริงฮยอกแจจึงเริ่มอ่านรายละเอียดทันที

     

     

                    “อะไรเนี่ย?...”ฮยอกแจถามพร้อมคิ้วที่ขมวดเข้าหากันแบบชนิดที่ว่าแทบจะผูกเป็นปม  สัญญาในฉบับนี้มันสัญญาทาสชัดๆ!!!

     

     

                    “อะไร?สงสัยอะไรอีกเจ้าตัวยุ่ง”พี่ทึกกี้ยิ้มขำก่อนจะขยี้หัวฮยอกแจอย่างไม่ยี่หระต่อสายตาอาฆาตรที่ถูกส่งมาให้

     

     

                    “นี่มันสัญญาทาสชัดๆ  เอาเปรียบกันขนาดนี้พวกแกคงเอาปืนขู่ให้พี่ชั้นเซ็นล่ะสิ!!!”ฮยอกแจเผลอขึ้นเสียงอย่างลืมตัวแต่มันก็ไม่ได้ทำให้อาการสบายๆหายไปจากทั้งสองคนที่จับตัวเค้ามาได้เลย

     

     

                    “เราไม่บังคับใครซี้ซั๊วหรอกนะ อย่าว่ายังงู้นยังงี้เลยนะแต่ไอ้การรับพี่นายเข้ากลุ่มแถมยังพ่วงภาระดูแลคนในสายเลือดอีกเนี่ย...พวกเราก็ไม่ได้อยากรับมาเป็นภาระนักหรอก...”ไอ้หน้าหล่อ(ในสายตาฮยอก)พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มขำ  ร่างสูงกำลังล้างแผลและพันผ้าตามส่วนที่บาดเจ็บซึ่งมันก็เยอะพอควรจนทำให้ร่างสูงดูทุลักทุเล(มากเกิน)ไปนิดนึง

     

     

                    “ถ้าเป็นภาระแล้วจะรับมาทำไม...”ฮยอกแจเริ่มลดเสียงของตัวเองลงเพราะความสงสัยมันเริ่มมีมากกว่าความโกรธ

     

     

                    “เพราะพวกนายดันยุ่งไม่เข้าเรื่องน่ะสิ  ชั้นยังไม่อยากไปเก็บศพพวกนายมาจากไอ้พวกกลุ่มศัตรูเพราะงั้นเลยยื่นข้อเสนอให้ดงแฮไงล่ะ”พี่ทึกกี้อธิบายพร้อมรอยยิ้มแต่คราวนี้เป็นรอยยิ้มที่แปลกไป  จากเดิมที่เป็นรอยยิ้มสวยที่ดูอ่อนโยนเหมือนยิ้มให้คนในครอบครัวแต่ตอนนี้มันแปลกไปตรงที่มันดูเย็นเยียบและไร้ความเป็นมิตรซึ่งมันทำให้ฮยอกแจถึงกับเสียวสันหลังวาบ

     

     

                    “คุณ...คุณชื่อลีทึกใช่มั้ย??”ดูเหมือนฮยอกแจเพิ่งจะรู้ตัวว่าต้องทำความรู้จักกับคนทั้งสอง  ร่างบางถามด้วยเสียงกล้าๆกลัวๆก่อนจะนึกย้อนไปดึงข้อมูลในสมองที่พอจะจำได้ลางๆ

     

     

                    ‘รู้สึกหมอนี่จะเป็นเลขาล่ะมั้ง…’

     

     

                    “อืม...รู้มาจากข้อมูลที่แฮ็คหรือจากพี่ชายของนายล่ะ”ลีทึกถามพร้อมกับเลิกคิ้วน้อยๆอย่างสงสัยแถมยังแอบแฝงน้ำเสียงประชดประชันเอาไว้นิดๆด้วย

     

     

                    “ทั้งสองอย่าง...แล้วคุณล่ะ...”ฮยอกแจตอบลีทึกก่อนจะหันไปหาอีกหนึ่งบุคคลที่อยู่ในห้องนี้  ถ้าจำไม่ผิดเค้าเห็นหน้าไอ้หมอนี่ติดอยู่อันดับต้นๆของลิสรายชื่อเลยมั้ง?แต่เค้าเพิ่งจะได้ดูข้อมูลผ่านๆอาจจะไม่ใช่ก็ได้...

     

     

                    “ฮัน...ชั้นชื่อฮันคยองเป็นมือขวาของคิม  คิบอมส่วนลีทึกที่นั่งยิ้มอยู่ข้างนายเป็นมือซ้าย”ฮันคยองตอบเสียงเรียบแต่นั่นก็ทำให้ฮยอกแจอ้าปากค้างตาถลนได้แล้ว

     

     

                    ‘มือซ้ายกับมือขวา!!!แล้วกุจะรอดไปได้ยังไงวะเนี่ย!!!!!’

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                    ...เกือบจะตีสองแล้ว...

     

     

                    ท้องฟ้าภายนอกหน้าต่างบานสวยมืดมิดแต่ก็คงมืดได้ไม่เท่าจิตใจของร่างบางที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงนี้เป็นแน่  ร่างบางของลี ดงแฮกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ข้างหน้าต่างภายในห้องของตนเองพลางหวนคิดไปถึงเรื่องในอดีตของเค้า...คิดถึงความสุขที่เคยมีตอนที่พ่อกับแม่ยังอยู่...คิดถึงคำสอนต่างๆนาๆ...คิดถึงคำสั่งเสียที่บอกให้ดูแลน้องๆให้ดี...

     

     

                    ดวงตาแดงก่ำที่ผ่านร้องไห้อย่างหนักของร่างบางเริ่มจะรื้นน้ำตาขึ้นมาอีกครั้ง  คำสั่งเสียครั้งสุดท้าย...ประโยคสุดท้ายที่เค้าได้ยิน...สิ่งที่เค้าพยายามทำมาตลอด  ตอนนี้มันกำลังจะพังทลายลงมาหมดเพียงเพราะความไร้จิตใจของคิม คิบอม!

     

     

                    ดงแฮปาดน้ำตาออกก่อนจะเดินไปล้างหน้า  คิดให้กำลังใจตัวเองว่าควรเข้มแข็ง  ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเค้าก็คือการปกป้องน้องๆ  เค้าเข้าใจแล้วว่าวงการมาเฟียเป็นวงการแบบไหน...ดงแฮเช็ดหน้าที่เปียกอยู่ก่อนจะจ้องเค้าไปในกระจกด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป

     

     

                    ...วงการนี้...ถ้าต้องการจะปกป้องอะไรก็จะต้องแลกด้วยสิ่งที่เท่าเทียม...

     

     

                    ...ถ้าเค้าต้องการรักษาชีวิตน้องๆ...

     

     

                    !!!เค้าก็ต้องแลกด้วยชีวิตของเค้าเอง!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                    ...ตีสองกว่าแล้ว...

     

     

                    ร่างเล็กเจ้าของใบหน้าน่ารักและฟันกระต่ายที่เป็นเอกลักษณ์กำลังเดินไปเรื่อยเปื่อยโดยมีเพียงแสงจากดวงจันทร์ที่ทอสวยอยู่บนฟ้าเป็นแสงนำทางให้  ถนนที่ซองมินกำลังเดินวนไปวนมาอยู่บนถนนสายเล็กๆที่รถต์วิ่งสวนไม่ได้(แต่รถก็พยายามจนมันสวนได้)  ข้างทางทั้งสองฟากเป็นสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดมหึมาที่สามารถเป็นที่บังแดดได้เป็นอย่างดีในตอนกลางวัน(และดูน่ากลัวในตอนกลางคืน)  ลี ซองมินกำลังเดินกลับหอพักโดยใช้ทางอ้อมด้วยความง่วงงุนและหงุดหงิด  ถึงแม้ว่าร่างเล็กจะทำงานจนดึกดื่นอย่างนี้เป็นประจำแต่ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะปรับตัวได้ซักนิด  ที่เป็นแบบนี้ก็คงจะเป็นเพราะถูกดงแฮบังคับให้นอนเร็วอยู่บ่อยๆ

     

     

                    และแน่นอนว่าถ้าเค้ายังอยู่ที่บ้านเค้าคงไม่มีโอกาสได้นอนดึกแบบนี้แน่ๆ  การที่เค้าออกมาอยู่หอกับเรียวอุคนั้นมีเหตุผลเพียงข้อเดียวนั่นคือการที่เค้าแอบไปทำงานตามผับนั่นเอง  ซองมินตัดสินใจมาทำงานแบบนี้เพราะเป็นงานที่ได้เงินเยอะและไม่เหนื่อยมากมายโดยที่ไม่กระทบต่อเวลาเรียน(ถึงมันจะทำให้ง่วงตอนเรียนก็เหอะ)และที่ต้องมาทำงานก็เพราะต้องการจะช่วยดงแฮนั่นแหละ(และโดยที่ดงแฮกับฮยอกแจไม่รู้)

     

     

                    โรงเรียนที่ซองมินเรียนอยู่เป็นโรงเรียนเอกชนที่ค่าเรียนแพงเอาการซึ่งแค่ค่าเทอมไม่รวมค่าพิเศษอื่นๆก็กินเงินเดือนของดงแฮไปมากกว่าครึ่ง!!และแน่นอนว่ามันคงไม่พอจ่ายค่ามากมายในชีวิตประจำวันหรอกเพราะอีกครึ่งของเงินก็ต้องเอาไปจ่ายให้ลี ฮยอกแจด้วย  แล้วถ้าถามว่าทำไมเค้าไม่ย้ายโรงเรียน?แน่นอนว่าก็เพราะดงแฮไม่ยอมให้ย้ายน่ะสิ  และเหตุผลก็คงไม่พ้นเทือกว่ามันเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในแถบนี้น่ะแหละ...แล้วเค้ามาพล่ามชีวประวัติอะไรอยู่วะเนี่ย?...

     

     

                    “เฮ้ย!ให้คนที่เดินตามชั้นมาตลอดน่ะ!!!เมื่อไหร่จะโผล่หัวออกมาซะที  หรือจะไปโผล่หน้าสถานีตำรวจ  ห๊ะ!?!”หลังจากที่เดินอดทนมานานซองมินก็หันไปตวาดลั่นใส่ถนนโล่งโจ้ง  ถ้าใครมาเห็นตอนนี้ต้องคิดว่าร่างบางเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ

     

     

                    ...เงียบ...

     

     

                    “เฮ้อ~นับสามชั้นจะโทรแจ้งตำรวจแล้วนะ…”ซองมินถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา  อย่าแปลกใจที่ร่างบางดูจะไม่ตื่นเต้นอะไรเลยกับการโดนสะกดรอยตามแบบนี้  ตั้งแต่ที่ซองมินเริ่มไปทำงานที่ผับก็มักจะโดนสะกดรอยตามแบบนี้อยู่บ่อยๆซึ่งส่วนมากก็ไม่พ้นพวกที่มีความคิดอุบาทว์ๆนั่นแหละ

     

     

                    “เอ่อ...รู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าผมเดินตามมา...”และเมื่อเห็นซองมินเริ่มกดโทรศัพท์ร่างสูงซึ่งซ่อนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่ข้างทางก็ยอมปรากฎตัวก่อนจะถามซองมินด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ

     

     

                    ซองมินเริ่มสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยที่ไม่ได้สนใจจะตอบคำถามซักนิด  ร่างสูงสมส่วนในชุดสูทดูดี  ใบหน้าคมที่ประดับประดาไปด้วยจมูกที่เป็นสันสวยดวงตาคมออกแววเจ้าเล่ห์และปากเรียวที่ดูเหมือนจะยกยิ้มมุมปากอยู่ตลอดเวลาทำให้ซองมินเบ้หน้าอย่างหมั่นไส้  ถึงรอบข้างจะมืดมากแต่เค้าก็พอจะมองออกว่าไอ้หมอนี่มันหล่อขั้นเทพจริงๆและที่มันน่าหงุดหงิดอีกอย่างก็คือใบหน้าเจ้าเล่ห์ที่ดูเหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกนี่แหละ!

     

     

                    “คือ...อย่าจ้องยังงั้นสิครับ...”ถึงจะหน้าด้านขนาดไหนแต่ถ้าลองมาเจอสายตาของลี ซองมินก็คงต้องรู้สึกเขินอยู่บ้าง  ร่างสูงพูดด้วยสีหน้ากลืนไปเข้าคายไม่ออกก่อนจะเริ่มเปิดประเด็นเมื่อเห็นว่าซองมินทำท่าไม่ไว้ใจเค้าอย่างเต็มที่

     

     

                    “ผมโจว คยูฮยอนไงครับ...เราเคยเจอกันมาก่อน...”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                    “นายว่ายังไงนะ?”ฮยอกแจทวนคำอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง  เมื่อกี้ไอ้หนุ่มหน้าจีนนี่มันบอกจะปล่อยเค้าไปเรอะ!!!

     

     

                    “ชั้นจะปล่อยนาย...แต่...”ฮยอกแจกลืนน้ำลายเอื๊อกเมื่อได้ยินคำว่าแต่ของป๊าฮัน

     

     

                    “แต่อะไร?

     

     

                    “ชั้นไม่รับประกันความปลอดภัยของพี่กับน้องนายนะ”จบคำฮยอกแจก็กัดฟันอย่างหงุดหงิดก่อนทำท่าจะเถียงแต่โดนพี่ทึกกี้สกัดไว้ก่อน

     

     

                    “ตอนนี้ดงแฮมีควมผิดติดตัวอยู่  หมอนั่นไม่ยอมคิบอมแถมยังทำร้ายร่างกายอีก  ยังงี้คงต้องเรียกว่าดงแฮทรยศตั้งแต่วันแรกเลยแหละ  ส่วนลี ซองมิน  หมอนั่นดูจะมีความลับกับครอบครัวมากทีเดียวนะ...”พี่ทึกกี้พูดด้วยน้ำเสียงสนุกสนานพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้ฮยอกแจรู้สึกสะอิดสะเอียน

     

     

                    “ความลับ?ซองมินน่ะหรอมีความลับ?เหอะ!ขำตาย”ฮยอกแจพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันแล้วย่นจมูกอย่างไม่พอใจในประโยคถัดมาของพี่ลีทึก

     

     

                    “แล้วคนที่อยู่กับคอมทั้งวันไม่ยอมสนใจน้องจะรู้ดีกว่าชั้นเชียวหรอ?”

     

     

                    “หยุดเถียงกันได้แล้วน่า...เมื่อเห็นว่าฮยอกแจกำลังจะอ้าปากเถียงป๋าฮันเลยตัดสินใจหยุดบทสนทนาไร้สาระด้วยการยื่นเอกสารสีขาวให้ฮยอกแจ

     

     

                    “สัญญาเข้ากลุ่มฉบับฉุกเฉิน?”ฮยอกแจหยิบมาอ่านก่อนจะมองหน้าป๋าอย่างสงสัย

     

     

                    “จะอธิบายให้ฟังนะลี ฮยอกแจ  ตอนนี้ชีวิตของพวกนายสามคนเสี่ยงอันตรายมาก  ดงแฮเป็น...เอ่อ...ผู้ดูแลส่วนตัวของคิบอมคนล่าสุดซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใกล้ชิดกับคิบอมรองจากพวกชั้นซึ่งเป็นเป้าหมายอย่างดีในการจับตัวไปรีดข้อมูลเพราะดงแฮคงไม่มีปัญญาสู้กับกลุ่มศัตรูเหมือนพวกชั้น  แต่ตอนนี้...ตอนปัจจุบันน่ะ  พี่นายก็แทบจะตายเพราะข้อหาทรยศอยู่รอมร่อแล้ว 

    ส่วนนาย...แฮ็คเข้าระบบขนาดนั้นไอ้พวกศัตรูมันสืบรู้แล้วล่ะว่าห้องนายมีตู้เสื้อผ้ากี่ตู้  นายเข้าใจประเด็นใช่มั้ย?นายกำลังโดนจ้องเอาชีวิต  แล้วบอกเลยนะ...พวกนั้นไม่ปล่อยนายตายง่ายๆแน่...

    น้องนายลี ซองมิน  ชั้นจะบอกให้ก็ได้ว่าตอนนี้หมอนั่นตกอยู่ในอันตรายมากที่สุด  อย่างพวกนาย 2 คนยังอยู่ในควบคุมของพวกเราไอ้พวกศัตรูทั้งหลายไม่กล้ายุ่งแน่  แล้วนายคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น  ตอนนี้พวกนั้นคงค้นห้องพวกนายอยู่แล้วพอค้นเสร็จ…คิดสิว่าพวกมันจะไปที่ไหนต่อ...”พี่ทึกกี้พูดยืดยาวก่อนจะหยุดที่ประโยคหน้าหวาดเสียวที่ทำเอาฮยอกแจหน้าซีด

     

     

                    “ผม...ต้องทำยังไง...”ฮยอกแจเริ่มลังเล  ถึงพวกนี้จะเป็นมาเฟียแต่พวกนี้ก็ดูจะให้ความสำคัญกับคำว่าชีวิตพอสมควร  บางที...เค้าอาจจะต้องพึ่งพวกนี้จริงๆ...

     

     

                    “ทันทีที่นายเซ็นสัญญาชั้นจะสั่งหน่วยนักฆ่าที่สังกัดหน่วยดูแลพี่ชายนายให้ไปรับตัวลี ซองมินมาส่วนพี่นายลี ดงแฮชั้นจะพูดกับคิบอมให้เอง”ป๋าฮันตอบหน้านิ่ง  ดูเป็นการแลกเปลี่ยนที่ง่ายดายเสียเหลือเกิน

     

     

                    “แล้วต้องแลกกับอะไร  พวกคุณคงไม่ช่วยครอบครัวผมเพื่อรับผมไปเป็นตัวภาระอีกตัวหรอกมั้ง?”ถูกต้องแล้ว  สิ่งที่ลี ฮยอกแจสังหรณ์ไม่เคยผิดพลาด

     

     

                    “ชั้นต้องการความสามารถของนาย...”ป๋าฮันเงียบไปก่อนจะเผยรอยยิ้มเย็นพร้อมกับคำพูดที่สั่นคลอนการตัดสินใจของฮยอกแจเป็นอย่างดี

     

     

                    “...กับความบริสุทธิ์ที่น่าลิ้มลองของนาย...”ฮยอกแจแทบจะอ้วกออกมาซะให้ได้  ให้ตาย!!!ทำไมเค้าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้วะ!!!!!!!!!!!!!!

     

     

                    “บ้าแล้ว!!!ฝันไปซะเถอะ…”พูดได้แค่นั้นก็ต้องเงียบไปเมื่อเห็นภาพที่อยู่ในทีวี

     

     

                    “นั่นมัน...”

     

     

                    “คอนโดที่มีห้องของพวกนายอยู่ไง...ไหม้จนไม่เหลือซาก...คงจะเป็นศัตรูนัมเบอร์ 1 เลยล่ะมั้ง…”พี่ทึกกี้พูดพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่เคยหายไปต่างกับฮยอกแจที่กำลังหน้าซีดเป็นฮยอก(ไก่)ต้ม

     

     

                    “อืม...ค้นห้องพวกนายเสร็จแล้ว  ต่อไปก็ลี ซองมินสินะ...”ป๋าฮันทำเป็นพูดสบายๆก่อนจะมองนาฬิกาข้อมือเรือนสวยอย่างไม่ใส่ใจนั่นยิ่งเป็นการบีบคั้นฮยอกแจได้เป็นอย่างดี

     

     

                    “แค่ครั้งเดียวก็พอใช่มั้ย?”ร่างบางกัดฟันพูดพร้อมๆกับใบหน้าที่แดงไปทั้งหน้า(ไม่รู้โกรธหรืออาย)

     

     

                    “อะไรครั้งเดียว?”ป๋าฮันตีหน้าซื่อเอียงคอถามอย่างสงสัยทำเอาพี่ทึกกี้เกือบปล่อยก๊าก

     

     

                    “กะ...ก็...เอ่อ...ความบริสุทธิ์ของชั้น...เอ่อ...นั่นแหละ!!!”ร่างบางปิดประโยคด้วยการตะโกนอย่างเขินอายทำเอาร่างสูงที่ยืนดูอยู่ต้องยิ้มออกมาบางๆกับความน่ารักนั่น

     

     

                    “อืม...ครั้งเดียว”ทันทีที่ได้ยินคำตอบฮยอกแจก็ถอนหายใจพรวดแต่ก็ต้องสูดมันกลับเข้าไปใหม่เพราะจะเป็นลมกับประโยคต่อมาของป๋าฮัน

     

     

                    “ความบริสุทธิ์ของนายมันมีแค่ครั้งเดียวอยู่แล้ว  แต่หลังจากนั้นที่นายต้องมาหาชั้นทุกคืนนั่นไม่เรียกว่าความบริสุทธิ์แล้วล่ะ...”!?!

     

     

    กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    ย่ำอยู่กับที่รอบสอง  (ฮา)

    แหมๆแต่เราแอบมีพัฒนาการนะเคอะ(ไม่ดองแล้ว)

    ตอนนี้มีหลายอารมณ์มากค่ะ (เราก็ปรับตามไม่ทัน =___________=)

    แบบว่า...ป๋าเค๊อะ  มาถึงก็เรื่องอย่างว่าเรยรึเค๊อะ!!!(พูดแบบตรงไปตรงมาซะด้วย)

    แบบว่า...สงสารฮยอกว่ะ -*-

    โฮ~ตอนหน้าสามลีจะมาเจอกันแล้วค่ะ(ถ้าไม่ใช่ตอนหน้าก็ถัดจากตอนหน้าอ่ะค่ะ)

    แบบว่า...อยากแต่งถึงตอนที่เจอกันมั่กๆๆๆ อิอิ คงเป็นตอนที่แฮปปี้ค่ะ

    โอ้~แบบว่าเห็นเม้นแล้วระรานตา  ขอบพระคุณมากๆเลยนะคะ (กราบงามๆ) (-_/|\_-)

    แบบว่า(อีกรอบ)...รักทุกคนมากๆจริงๆค่ะ  ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ  จุ๊บๆๆๆ ไปละค่ะ

    เจอกันอาทิตย์หน้านะคะ (ถ้าไม่คลาดเคลื่อนนะ อุอุอุ)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×