ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My candy...เพราะหัวใจขาดหวานไม่ได้ [ Fic SJ Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #19 : MC #...15 นายเท่านั้น... 150%

    • อัปเดตล่าสุด 21 มิ.ย. 52


    MY CANDY เพราะหัวใจขาดหวานไม่ได้
    By :;: THE AOF AP
    UpzZ 21/06/09  10:29 AM.
    MC #...15 นายเท่านั้น

    150%
    --------------------------------------------------------->>>




    href="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" />

    My Candy: 15



     

     


    * เปิดฟัง...ไปพร้อมๆกับอ่านจะได้อารมณ์อย่างสุดซึ้ง...


                ในห้องพักของฮันคยอง สองร่างยังคงนั่งอยู่ในความเงียบ ตั้งแต่เช้าที่ฮีชอลตื่นขึ้นมาจนกระทั่งเย็น เขาทั้งสองคนก็ยังไม่มีคนปริปากพูดอะไรออกมาซักคำ




     

                ในความคิดทั้งสองคนที่แตกต่าง ร่างบางที่คิดหนัก ว่าตนผิดที่เข้ามายุ่งย่ามกับคนมีเจ้าของ อีกคนมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่ตนรัก ความคิดที่แตกต่าง...แต่ก็มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่เป็นสิ่งครอบคลุมความรู้สึกเหล่านั้น




                หิวหรือยัง ฮันคยองเป็นคนเลือกที่จะเอ่ยปากออกมาทำลายความอึดอัด




                แล้วนายล่ะ ไม่ทันได้ตอบคำถาม ร่างบางก็ตั้งคำถามขึ้นมาใหม่




                ตอบชั้นมาก่อนซิ ฮันคยองยิ้ม และก็ยิ้มกว้างขึ้นอีกเมื่อได้ยินเสียงประท้วงจากร่างบาง เป็นสัญญาณว่าร่างกายต้องการอาหารแล้ว




                เดี๋ยวชั้นทำอะไรให้นายกินดีกว่า ดูเหมือนนายจะหิวแล้วนะ ฮันคยองยิ้มให้ก่อนจะลุกเข้าครัว




                ฮีชอลมาตามแผ่นหลังนั้นไม่วางตา เขาไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมหัวใจมันถึงได้แต่เรียกร้องหาแต่คนๆนี้นัก ร่างบางลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินตามร่างสูงเขาไปในครัว




                มีอะไรให้ชั้นช่วยมั้ย กล่าวถามก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าร่างสูง




                หืมม นายช่วยชั้นหันผักล่ะกัน ฮันคยองกล่าวอย่างยิ้มแย้ม ดีใจที่มีกำลังมาช่วยในการทำกับข้าว



                จบคำร่างบางก็หันไปหั่นผักต่อจากที่ร่างสูงทำเอาไว้ แต่ดูเหมือนจะไม่ดีอย่างที่คิดเพราะอาการเหม่อลอยของฮีชอลทำให้มีดในมืดบาดเข้ากับนิ้วตัวเอง



                โอ๊ย!!” ร้องด้วยความตกใจ เพราะบาดแผลก็ไม่ได้สาหัสมากมาย แต่แค่เสียงเล็กน้อยกลับทำให้อีกคนรีบปรี่เขามาแทบไม่ทัน ฮันคยองจับมือบางคิดมามอง พรางพาไปล้างเลือดปากก็พูดไปเรื่อยด้วยความเป็นห่วง ฮีชอลมองการกระทำเหล่านี้ด้วยความประหม่า เป็นอีกหนึ่งในหลายๆครั้งที่เขาไม่อาจจะควบคุมจังหวะเสียงหัวใจได้



                ร่างสูงจูงมือร่างบางเข้ามาในห้องนอนก่อนจะเดินไปหยิบกล่องเล็กๆบนโต๊ะทำงาน กล่องปฐมพยาบาลที่มีติดไว้เผื่อจำเป็นได้ถูกเปิดใช้ ฮันคยองนั่งลงบนเตียงนุ่มข้างๆร่างบาง ก่อนจะบรรจงทำแผลให้ฮีชอลอย่างเบามือ



                เจ็บหรือเปล่า ความเป็นห่วงเจือมากับน้ำเสียง สายตาอ่อนโอนจากร่างสูงจ้องมองร่างบางด้วยห่วงใย



                ไม่หรอก นิดหน่อย ฮีชอลตอบเพียงเบาๆ ไม่กล้าเงยหน้าสบตา เพราะเขารู้ว่าเขาไม่เคยชนะสายตาคู่นี้ได้ซักครั้ง



                และความเงียบก็เข้าปกคลุม สองร่างยังคงนั่งอยู่ที่เดิมต่างคนต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเองอีกครั้ง



                เอ่อ//คือ กล่าวขึ้นพร้อมกันอย่างไม่รู้ตัว สองสายตาสบประสานกันโดยมีพื้นที่ระยะห่างเพียงนิด ทุกอย่างเงียบอีกครั้ง

    ..

    .

     



                ความห่างระหว่างทั้งสองย่นระยะลงเรื่อยๆ พร้อมกับเปลือกตาของฮีชอลที่ค่อยๆ ปิดลง ใบหน้าหวานเอียงหลบปลายจมูกของอีกคนตามสัญชาตญาณ เคลื่อนริมฝีปากเข้าใกล้ปากอิ่มอีกนิด





    จนกระทั่งระยะทางที่ยาวไกลก็สิ้นสุดลง...



     

     

                ร่างสูงกดจูบลงบนกลีบปากสวยด้วยความต้องการอย่างสุดกลั้น ไม่มีการขัดขืนหรือผลักไสมีเพียงการตอบสนองที่ยิ่งทำให้อีกคนได้ใจ แขนแรวเลื่อนขึ้นคล้องคอร่างสูงเพื่อรับสัมผัสให้ล้ำลึกกว่าเดิม



                อือ ฮันคยอง ฮีชอลเรียกชื่อคนในอ้อมกอด ก่อนจะรู้สึกตัวว่าตัวเองนอนราบลงกับเตียง ปากบางยังคงเผยอรอรับสัมผัสหวาบหวานจากอีกคนไม่ขาดสาย



                มือบางลูบไล้อยู่ที่ท้ายท้อยร่างสูง ขณะที่อีกคนก็ลูบไล้กับทุกส่วนของร่างบาง มือหนาค่อยๆปลดเปลื้องสิ่งกรีดขวางให้พ้นทาง



                สองร่างเปลือยเปล่าแนบชิด มือหนาลูบไล้ไปทุกส่วนพร้อมทั้งริมฝีปากที่ทิ้งร่องรอยไว้ทุกที่ที่สัมผัส เสียงครางประสานราวกับบทเพลงรักที่มีเพียงคนสองคนช่วยกันบรรเลงจนถึงห้วงทำนองสุดท้าย...



     

    ...~* ...~* ...~* ...~* ...~* MY CANDY *~...*~...*~...*~...*~...



    ))))) RRRRRR (((((



                เสียงโทรศัพท์ที่ตั้งไว้เป็นเสียงเฉพาะดังขึ้นเป็นสัญณาณให้เจ้าของเครื่องรีบมารับโดยไวแต่กลับเป็นตรงกันข้าม ดงแฮนั่งมองโทรศัพท์ที่มีหน้าจอแสดงชื่อ คิบอม เป็นสายเข้าอย่างครุ่นคิด



                หลังจากที่โดนคยูฮยอนกรอกหูมาวันนี้ ก็ทำเอาทุกเวลาที่มีภาพคิบอมลอยเข้ามาให้หัว เขาต้องเกิดอาการหน้าแดงอย่างไม่รู้สาเหตุ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม



                สายเรียกเข้าตัดไปแล้ว ยิ่งทำให้ดงแฮใจฟ่อแต่ก็ยิ้มได้อีกครั้งเมื่อเบอร์เดิมโทรกลับเข้ามาอีกครั้ง มือบางเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กขึ้นมา ดูดหายใจก่อนจะกดรับ



                มีอะไรหรือป่าว ไม่รู้จะพูดว่าอะไร เลยได้คำทักทายที่สิ้นคิดออกมา



                เอ่อ...ก็ไม่มีอะไรหรอก ไม่ว่างหรอ งั้น...วางก่อนก็ได้



                เดี๋ยว ชั้นว่าง ดงแฮรีบบอกเพราะกลัวจะโดนตัดสายทิ้ง



                ทำอะไรอยู่ ประโยคพื้นฐานของการคุยโทรศัพท์ ดังมาจากปลายสาย ดงแฮนั่งเงียบจะให้เขาพูดว่าอะไรก็ในเมื่อเขากำลังนั่งคิดถึงคนที่โทรมาอยู่น่ะ



                ก็ เตรียมตัวไปติวที่บ้านนายน่ะล่ะ เขาตอบตามความจริง แต่เพียงตอบไม่หมดก็เท่านั้น ก็เขากำลังตื่นเต้นจนไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อน กะอีแค่ไปติวหนังสือทำไมเขาถึงได้ตื่นเต้นจนหายใจไม่ทั่วท้องแบบนี้นะ



                อืม ชั้นไม่กวนแล้ว พรุ่งนี้เจอกันนะ คิบอมตัดบท ก่อนจะตัดสายไปอย่างดื้อๆ ดงแฮยู่หน้าใส่โทรศัพท์ แต่ก็กลับมาอมยิ้มก่อนจะล้มตัวลงนอนกลิ้งไปมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้



     

                พรุ่งนี้คงมีแต่เรื่องดีๆนะ...



     

     

    ...~* ...~* ...~* ...~* ...~* MY CANDY *~...*~...*~...*~...*~...



     

                สองร่างประคองกอดกันบนเตียงกว้าง ร่างกายเปลือยเปล่าที่แนบชิดถูกปกปิดด้วยผ้าห่มผืนเดียวกัน ร่างบางขดขดตัวในอ้อมกอดแกร่งราวกับลูกนกที่ต้องการที่ป้องกัน



                ร่างบางเป็นฝ่ายที่ลืมตาตื่นขึ้นมาก่อน ตาใสมองร่างสูงที่กำลังสวมกอดตนด้วยความรู้สึกผิดที่กระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย เขาทรยศเพื่อนตัวเองเพราะไม่สามารถกักเก็บความรู้สึกของตัวเองได้



                ฮีชอลค่อยๆขยับตัวออกจากอ้อมกอด พยายามเดินเข้าห้องน้ำอย่างเงียบเชียบ ถึงแม้ขาแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงแต่ก็ขัดฟัน ร่างบางออกจากคอนโดฮันคยองไปโดยไม่บอกกล่าว ตอนนี้ขอเวลา...เวลาที่จะตัดใจจากของที่ไม่ใช่ของตัวเอง

     

     

     

    ...

    ..

    .



     

                ร่างหนาที่นอนหลับฝันดี ควานหาหมอนข้างที่นอนกอดมาแทบทั้งคืนแต่ก็พบกับความว่างเปล่า เตียงด้านข้างไร้ร่างของฮีชอล ร่างสูงรีบถลาลงจากเตียง เสื้อผ้าข้าวของก็ไม่มีเหลือ ทั้งที่ตั้งใจจะคุยกันให้รู้เรื่องแต่กลับกลายเป็นปัญหาคาราคาซังให้เข้าใจผิดกันต่อ...



                โธ่เว้ย!!!” สบถอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะนึกอะไรได้มือหนาก็เอื้อมไปคว้าโทรศัพท์ กดเบอร์เพื่อนสนิททันที



                ซีวอน ดูเหมือนชั้นต้องให้นายช่วยอะไรหน่อยแล้วล่ะ



     

    ...~* ...~* ...~* ...~* ...~* MY CANDY *~...*~...*~...*~...*~...



     

                ครืด...ครืด



                โทรศัพท์เครื่องบางสั่นไหว บอกสถานะว่ามีข้อความส่งเข้ามา มืออวบของเจ้าของเครื่องเปิดอ่านข้อความ ก่อนจะยิ้มแก้มปริ



     

                ทำอะไรอยู่ครับ...คิดถึงผมอยู่หรือเปล่า??? ผมคิดถึงพี่จัง



     

                ข้อความน่ารักๆ จากคยูฮยอนถูกส่งมาเรียกความกระชุ่มกระชวยให้หัวใจแต่เช้า ซองมินนั่งอ่านข้อความไปก็ยิ้มไปอย่างช่วยไม่ได้ หลายวันมานี้เขากับคยูฮยอนก็คุยกันบ่อยขึ้น ไม่นึกว่าเด็กมอปลายของเขาจะมีอารมณ์โรแมนติกได้ขนาดนี้



               

                กรึก...เสียงไขประตูห้องดังขึ้น แต่ซองมินก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะคนที่มีกุญแจห้องเขาก็มีเพียงฮีชอลเท่านั้น



                ขณะที่ซองมินกำลังซึบซับความหวานอยู่ได้ไม่นาน สภาพอิดโรยของเพื่อนก็เรียกร้องความสนใจไปได้มากกว่า ฮีชอลนั่งลงข้างๆซองมินด้วยสภาพอ่อนเพลีย ไหนจะกิจกรรมเมื่อคืนที่ผ่านมาบวกกับความรู้สึกผิดทำเอาร้องไห้ไม่หยุด เลยส่งผลให้เรี่ยวแรงหดหายแทบไม่เหลือ



                ฮีชอล นายเป็นอะไรมากมั้ย? ซองมินกุมมือเพื่อนรักเบาๆ ฮีชอลเพียงฝืนยิ้มส่งให้ก่อนจะล้มตัว ลงกับโซฟา



                ชั้นขอโทษ ฮีชอลกล่าวเบาๆก่อนจะหลับไป



                ซองมินเห็นท่าทางไม่ดีของเพื่อนก็อดเป็นห่วงไม่ได้ พลันก็คิดอะไรได้รีบกดเบอร์ต้นตอปัญหาทันที



                ฮันคยอง นายทำอะไรเพื่อนชั้น น้ำเสียงเอาเรื่องไม่น้อย กล่าวลงกระบอกโทรศัพท์อย่างขุ่นเคืองใจ แต่พอได้รับคำตอบแบบหมดไส้หมดพุงอารมณ์ก็กลับผลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ



                อ่า...งั้นชั้นก็เอาใจช่วยนะ ชั้นว่าอย่างไงเพื่อนชั้นก็คงไม่ใจร้ายกับนายหรอก ซองมินกล่าว หลังจากวางสายฮังคยองเรียบร้อย ก็เริ่มดำเนินตามแผน




                ขอให้สมหวังกันซะทีเถอะ กล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องเงียบๆ


     

    ..

    .



     

                ร่างบางขยับตัวลุกขึ้นจากโซฟา หลังจากได้นอนพักก็ดูเหมือนจะดีขึ้น สายกลมมองไปรอบๆห้องก็ไม่พบเพื่อนสนิท แต่กับสะดุดตากับดอกกุหลาบสีแดงที่วางเรียงไปตามทางเดินห้อง



                ฮีชอลก้าวลงเดินเก็บดอกกุหลาบนั้นไปเรื่อยๆ จนดอกสุดท้ายที่มาหยุด ณ ระเบียงของห้อง ร่างบางเดินผ่านออกไปยังระเบียงที่ยื่นออกไป อพาร์ทเม้นท์ที่ซองมินพักอยู่เป็นหอที่ค่อนข้างดีเพราะพื้นฐานนั้นซองมินก็เป็นคนที่ค่อนข้างมีฐานะ เพียงแค่อยากแยกออกมาอยู่คนเดียว ร่างบางยืนเกาะกับราวระเบียง ก่อนจะมองลงไปยังลานกว้างหน้าอพาร์ทเม้นท์ ตอนนี้ดูเหมือนจะมีงานอะไรซะอย่างเพราะมีวงดนตรีจัดเอาไว้ โชคดีที่ห้องของซองมินอยู่เพียงชั้นสาม ถึงมองเห็นอะไรด้านล่างได้อย่างชัดเจน



                อะไรน่ะ เพราะความชัดเจนนั่นเป็นเหตุให้ฮีชอลต้องร้องอย่างตกใจ เพราะด้านล่างที่เขาเห็นเป็นวงดนตรีตั้งอยู่นั้น กลับเป็นคนที่เขาคุ้นเคย ฮันคยอง



                วันนี้ ตอนนี้ ถึงเวลาที่ชั้นต้องพูดกับนายซักที ร่างสูงกล่าวใส่ไมค์ สายตาจับจ้องมายังร่างบางที่ยืนอยู่ริมระเบียงอย่างแน่วแน่



                ชั้นไม่รู้ว่านายคิดอย่างไง แต่ชั้นมีเรื่องอยากจะบอกกับนายและอยากจะบอกมานานแล้วด้วย ฮันคยองกล่าว ก่อนจะหันไปให้สัญญาณกับซีวอน



                เสียงดนตรีประกอบจังหวะค่อยๆดังเป็นถ้วงทำนอง ฮันคยองจับไมค์สายตายังคงจับจ้องไปยังร่างบางที่รักใคร่

     

    저녁 노을이 지고
    หลังจากที่แสงสว่างมันสาดส่องมาแล้ว
    하나 둘 켜진 불빛을 따라서
    ผมจะเดินทางไปหาคุณ
    너에게 가고 있어
    โดยอาศัยเพียงแสงที่ส่องสว่างทีละนิด
    차가운 바람에 움추린 니 어깨가 내려앉기전에
    ผมจะโอบกอดคุณ
    หลังจากสายลมเหน็บหนาว
    내가 감싸줄까
    ทำให้ไหล่ของคุณสั่นไหว
    날 봐 Love You 바보같은 그대
    ผมรักคุณนะ
    แม้ว่ามันอาจจะดูโง่เขลา
    모든 것이 나에게는 소중한 걸
    แต่คุณก็เป็นสิ่งที่มีค่าในชีวิตของผม
    그대 위로 떠오른 태양만큼
    ตราบใดที่พระอาทิตย์ยังส่องแสงมาที่คุณ
    눈이 부신 이 가슴으로
    ผมจะปกป้องคุณให้เท่ากับที่คุณรอคอยผม

     


    기다려준 시간 만큼 널 내가 지켜줄게
    ด้วยหัวใจที่ส่องสว่างเพื่อคุณเท่านั้น
    기도한 모든 꿈이 간절한 내 향기로 남아
    ในความฝันทุกๆครั้ง ผมอธิฐานเพื่อคุณนะ
    우릴 향해 있어(영어)
    เราจะเดินไปข้างหน้าด้วยความจริงใจของผม
    More than the air I breathe.
    밝아 올 아침에 함께 웃을 수 있는
    ผมหวังที่จะเห็นรอยยิ้มของคุณในทุกๆเช้า
    나의 바램들이 이뤄질 수 있도록
    มันสามารถจะเป็นจริงได้มั้ย?
    내가 기다릴게 네 손 놓지 않을게
    ผมจะรอคอยคุณ
    และจะไม่หนีไปจากมือของคุณ
    눈물뿐이라해도 내가 닦아줄게
    ถึงแม้ว่ามันจะมีน้ำตา
    ผมจะเป็นคนเช็ดน้ำตาให้คุณเองนะ
    그 빛이 보이지 않아도 아무리 험한 길일지라도
    แม้ว่าเราไม่สามารถที่จะมองไปถึงจุดสิ้นสุดของเราได้
    มันไม่สำคัญเลย ที่จะรู้ว่าหนทางข้างหน้าของเราจะเป็นอย่างไง
    약속할게my my my my (영어)
    ผมสัญญา คุณเป็นของผมนะ
    Please be mine.
    사랑한다고 이제 그대뿐이라고
    "ผมรักคุณ" แค่คุณเพียงคนเดียวเท่านั้น
    저 하늘 끝에 소리쳐 전하고 싶어
    ผมอยากจะตะโกนคำพวกนี้บอกไปยังท้องฟ้า
    Love you 터질듯한 가슴이 그대를 부르고 있어
    ผมรักคุณ หัวใจของผมรู้สึกคล้ายจะระเบิดและมันร่ำร้องเรียกหาแต่คุณ





                ผมรักคุณ ถ้อยคำสั้นง่ายๆถูกกล่าวจากด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ฮีชอลที่ได้ยินคำๆนั้นก็แทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ สองขาบางรีบก้าวลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว



                พอถึงบันไดชั้นสุดท้ายก็พบกับร่างสูงที่คุ้นตายืนรอรับอยู่ตรงหน้า ฮีชอลกระโจนเข้าอยู่อ้อมกอดที่รอรับเขาอยู่ทันที


                ชั้นก็รักนายเหมือนกัน” ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไร ขอแค่เขาสองคนรักกัน...


    ...~* ...~* ...~* ...~* ...~* MY CANDY *~...*~...*~...*~...*~...








    THE AOF AP
    ----------------------------------->>>

    เป็นการอัพส์ที่ยาวที่สุดเท่าที่ทำมา โว้ว...เมื่อคืนอารมณ์มันพาไป

    กว่าจะได้นอนก็ปาไปตีสี่ = =" ยากที่สุดก็ตอนฉากหวือหวา ขอโทษ...เพราะทำได้แค่นี้

    ไม่อยากแต่งอะไรมากมาย (หนูยังเด็ก[โขล่ง]อยู่)




    ถ้ามีเวลาว่างๆอีก ก็จะมาอัพส์อีก เพราะตอนนี้ออฟได้กลับบ้านอาทิตย์ละครั้ง

    อดใจรอกันก่อนนะ...อย่าเพิ่งทิ้งเขาไปไหนนะ T^T



    *ตอนนี้ยกให้ฮันซิน ทั้งตอน วู้!!!~

    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้น...กำลังใจมากมายมหาศาส ^^


    อ่า...ลืมไม่ได้เลย...




    รักโอปป้ามากมาย...~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×