ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Conjunction [ตัวเชื่อม]
จะไม่ขยายความมากเพราะคิดว่าหลายๆ คนคงได้เรียนกันไปแล้วว่ามันคืออะไร แต่จะขอสรุปเป็นคำพูดของพายเองแล้วกัน เผื่อว่ามันจะทำให้เข้าใจมากขึ้น หรือเตือนความจำสำหรับคนที่ลืมเลือนกันไปแล้ว
Conjunction คือคำที่เอาไว้เชื่อมประโยคสองประโยคเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดความสละสลวยและลดการใช้คำซ้ำๆ กันในประโยคนั้นๆ
1. And
Definition : เป็นตัวเชื่อมที่เอาไว้เชื่อมประโยคสองประโยคที่มีความหมายสอดคล้องไปในทางเดียวกัน
Example : Charlie likes eating chocolate. Charlie likes eating ice-cream.
ถ้าเอาสองประโยคนี้มาเชื่อมเป็นประโยคเดียว ก็จะได้เป็น
Charlie likes eating chocolate and ice-cream.
2. Or
Definition : ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างสองอย่าง
Example : Do you want to eat lunch here? Do you want to eat lunch at the restaurant?
เชื่อมทั้งสองประโยคด้วยกัน ได้เป็น
Do you want to eat lunch here or at the restaurant?
3. But
Definition : สองประโยคขัดแย้งกัน
Example : Laura was trying to solve this math equation. It was too hard for her.
เมื่อเชื่อมเข้าหากันแล้ว
Laura was trying to solve this math equation, but it was too hard for her.
4. So
Definition : ตัวเชื่อมตัวนี้มีความหมายว่า 'ดังนั้น'
Example : It's raining. I'm not going to school today.
นำทั้งสองประโยคมาเชื่อมด้วย so
It's raining, so I'm not going to school today.
เราจะเห็นได้ชัดว่าประโยคกระชับและน่าอ่านมากขึ้นเมื่อเทียบกับประโยคที่ยังไม่ได้เชื่อมเข้าหากัน
ซึ่ง 4 ตัวนี้ ที่โรงเรียนคงจะสอนกันมาแล้ว แต่ความจริงนั้น Conjunction ยังมีอีกหลายตัว ซึ่งจะมาอัพในภายภาคหน้าค่ะ เกรงว่าจะเยอะเกินไป
Conjunction คือคำที่เอาไว้เชื่อมประโยคสองประโยคเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดความสละสลวยและลดการใช้คำซ้ำๆ กันในประโยคนั้นๆ
1. And
Definition : เป็นตัวเชื่อมที่เอาไว้เชื่อมประโยคสองประโยคที่มีความหมายสอดคล้องไปในทางเดียวกัน
Example : Charlie likes eating chocolate. Charlie likes eating ice-cream.
ถ้าเอาสองประโยคนี้มาเชื่อมเป็นประโยคเดียว ก็จะได้เป็น
Charlie likes eating chocolate and ice-cream.
2. Or
Definition : ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างสองอย่าง
Example : Do you want to eat lunch here? Do you want to eat lunch at the restaurant?
เชื่อมทั้งสองประโยคด้วยกัน ได้เป็น
Do you want to eat lunch here or at the restaurant?
3. But
Definition : สองประโยคขัดแย้งกัน
Example : Laura was trying to solve this math equation. It was too hard for her.
เมื่อเชื่อมเข้าหากันแล้ว
Laura was trying to solve this math equation, but it was too hard for her.
4. So
Definition : ตัวเชื่อมตัวนี้มีความหมายว่า 'ดังนั้น'
Example : It's raining. I'm not going to school today.
นำทั้งสองประโยคมาเชื่อมด้วย so
It's raining, so I'm not going to school today.
เราจะเห็นได้ชัดว่าประโยคกระชับและน่าอ่านมากขึ้นเมื่อเทียบกับประโยคที่ยังไม่ได้เชื่อมเข้าหากัน
ซึ่ง 4 ตัวนี้ ที่โรงเรียนคงจะสอนกันมาแล้ว แต่ความจริงนั้น Conjunction ยังมีอีกหลายตัว ซึ่งจะมาอัพในภายภาคหน้าค่ะ เกรงว่าจะเยอะเกินไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น