love level No.2 - love level No.2 นิยาย love level No.2 : Dek-D.com - Writer

    love level No.2

    ความรักของคุณอยู่ไหนระดับไหน เช็คได้ที่ Love level

    ผู้เข้าชมรวม

    69

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    69

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 ส.ค. 56 / 22:06 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    พบเจอกันอีกแล้วใน Love level No.2 หลายคนคงคิดว่า ทำไมไม่ให้จบไปตั้งแต่ No.1 คือผู้เขียนบ่องตงว่า เขียนไม่หมด จินตนาการมันแล่นเร็วกว่าที่คิด อีกอย่างภาคต่อนี้ จะค่อนข้างยาวเป็นพิเศษ ผู้เขียนจึงไม่สามารถที่จะเขียนให้จบด้วย ด้วยความรีบเร่งของผู้อ่านอันน้อยนิด ยังไงต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่เข้ามาอ่านกันเล่นๆ นะขอรับ ยังไงภาคต่อไปขอให้สนุกและฟินกันถ้สนหน้าเน้ออ >
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ความเดิมตอนที่แล้ว...
      เอิ่ม..OoO/// นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ฉันอ้าปากค้าง พาย นี่เธอแบบ สุดๆไปเลยอ่ะ ยิ่งฟังมันยิ่งทำให้ฉันอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ใจมันเริ่มเต้นรัวจนเพื่อนทุกคนแซวว่า โห พญายม นี่เธอขนาดนี้เลยหรอ อ้าากก!! นีเรียงลำดับความแรงนะ แต่ไอคนสุดท้ายที่คือฉันเนี่ย ไม่ได้แรงแบบนั้นนะ ไม่จริงอ่ะ ไม่จริงงงง อ๊ายยยยยยยย >

      ฉันนั่งฟังเพื่อนทั้งสองพูดด้วยความตั้งใจ คือความจริงก็แบบ อยากรู้อยากเห็นนั่นแหละ ก็แหมคนมันไม่เคยอ่ะนะ ขนาดพวกรักสงบๆอย่างฉันได้มาฟังเรื่องพวกนี้แล้ว มันยิ่งทำให้ใจฉันเต้นแรงขึ้น ยิ่งฟังเหมือนยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ต่อมความอยากเริ่มทำงาน จิตใจที่แสนสงบของฉันกลับเร่าร้อนขึ้นมาแปลกๆ ความรู้สึกที่บอกไม่ถูกมันทำให้จิตใจเต้นแรงและเร็วจนผิดปกติ ฮ่าๆ คนมันตื่นเต้นเนอะ แต่ก็น่าเสียดาย เพราะแค่เล่าประสบการณ์ของสองคนนี้ ยังทำให้เวลาล่วงเลยมาเกือบสองชั่วโมง และแน่นอน ฉันต้องกลับบ้านแล้วล่ะ ทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า วันนี้พอแค่นี้ แยกย้ายกันกลับบ้านแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเล่ากันต่อ ซึ่งจะเป็นคิวของ นิน เต้ และฉันเอง
      ฉันและเพื่อนๆแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ก็ยังคงล้อเลียนกันไม่เลิก อย่างฮิว ก็จะโดนล้อว่า ผู้ชาย 6 แฉก ฉันฟังแรกๆก็งงๆนะ แต่พอนึกถึงเรื่องที่ฮิวเล่า ฉันก็พอคิดได้ว่ามันหมายถึงอะไร ส่วนพาย เพื่อนถึงกับยกตำแหน่งให้เธอเป็นถึงผู้พัน เรียกสั้นๆว่า พันคาย (ผวนๆ) ฮ่าๆ ระหว่างพากันเดินกลับบ้าน พายกับฮิวก็โดนพวกเราล้อจนแยกทางกัน
      ฉันเดินมาถึงบ้านเกือบ 1 ทุ่ม พ่อและแม่ไม่อยู่ทั้งคู่ทำงานเลิกดึกมาก ฉันเป็นลูกคนเดียวจึงต้องอยู้บ้านคนเดียวมาตลอด ตั้งแต่เด็กจนโต กลายเป็นความชินชาซะแล้วสิ ครอบครัวฉันเจอกันทุกวันอาทิตย์ บางอาทิตย์คุณพ่อก็พาออกไปทานข้าวนอกบ้าน แต่ถ้าวันไหนคุณพ่อคุณแม่ติดธุระ ฉันก้ต้องอยู่บ้านคนเดียว ไปเดินเล่นที่สนามหญ้าบ้าง อ่านหนังสือ ฟังเพลงบ้าง ฉันเพิ่งเข้าใจว่า การเป็นลูกคนเดียวมันเหงาแบบนี้นี่เอง ได้ในสิ่งที่ต้องการ ยกเว้น........... ฉันเดินขึ้นบ้าน อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ทานข้าว และขึ้นห้อง ทำการบ้าน ชีวิตฉันเป็นแบบนี้ในทุกๆวัน ก็อย่างที่ฉันเป็น ฉันชอบความสงบ เวลาเพื่อนชวนไปเที่ยวฉันก็ไปบ้าง แต่ส่วนมากจะนอนอ่านหนังสืออยู่บ้านนั่นแหละ ชีวิตไร้สีสันเนอะ ... แต่ฉันชินซะแล้ว
      'ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง'
      เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น สงสัยจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ แต่ว่าท่านไม่เคยกดออดนี่ กุญแจบ้านก็มีจะกดทำไม - -* ฉันเดินลงไปดูว่าใครมา ผลปรากฏว่า เกรซกับชิน มานั่นเอง เขาทั้งสองเป็นเพื่อนฉันตอนอยู่มัธยมต้น ตอนนี้ทั้งคู่ย้ายออกไปแล้ว ไปเรียนที่โรงเรียนอื่นและที่สำคัญ ทั้งคู่กำลังคบกัน ฉันเชิญทั้งคู่เข้ามาในบ้าน และถามไถ่ว่าสบายดีมั๊ย ทั้งคู่บอกว่าสบายดี คือตอนนี้ทั้งคู่มีปัญหา เพราะแม่ของเกรซไม่ยอมให้เธอคบกับชิน ทั้งคู่จึงพากันแอบหนีออกมา เฮ้อ.. อยากจะบอกว่าคิดได้แค่นี้หรอ แล้วหนีไปบ้านใครไม่ไป มาบ้านฉันอีกนะ พวกนี้นี่ แต่ด้วยความเป็นเพื่อนและปฏิเสธคนไม่เก่งอย่างฉัน ฉันจึงต้องยอม ฉันโทรบอกคุณพ่อคุณแม่ก่อนว่ามีเพื่อนสองคนมาขอพักที่บ้านซัก 2-3 คืน คุณพ่อตอบกลับมาว่า งั้นดีเลย พอดีพ่อกับแม่มีประชุมต่างจังหวัด 2-3 วัน ให้เพื่อนอยู่เป็นเพื่อนแล้วกัน ส่วนเรื่องเงินจะโอนมาให้ในวันพรุ่งนี้ เฮ้อ.. ชีวิตฉัน ควรจะดีใจหรือเสียใจดี อ่อนล้าจริงๆ
      ฉันบอกเกรซกับชินว่าพักได้ คุณพ่อคุณแม่อนุญาติแล้ว แต่อยู่ได้แค่ 2-3 วันเท่านั้นนะ ทั้งคู่ตอบตกลงและขอบคุณฉันเป็นอย่างมาก ฉันบอกทั้งคู่ว่าคืนนี้ให้ไปนอนที่ห้องของฉันแล้วกัน เดี่๋ยวฉันไปนอนที่ห้องของคุณพ่อคุณแม่เอง ทั้งคู่บอกขอบคุณฉันอีก ฉันจึงบอกว่าไม่เป็นไร ส่วนอยากกินอะไรก็หาเอาในตู้เย็นเอง เกรซเดินเข้ามากอดฉันแล้วน้ำตาคลอา ฉันกอดเธอตอบเบาๆแล้วบอกว่า 'ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง' เกรซถึงกับร้องไห้โฮออกมา นานเท่าไหร่แล้วนะที่เราไม่ได้เจอ ไม่ได้คุยกัน
      เกรซเคยเป็นเพื่อนฉันตอนมัธยมต้น เราเคยสนิทกันมาก แต่ก่อนฉันเป็นเด็กร่าเริงนะ ผิดกับตอนนี้ เงียบขนาดที่ว่าป่าช้ายังเรียกพี่เลยแหละ ส่วนชินเป็นเพื่อนร่วมห้องเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างป๊อบเลยทีเดียว ฉันเองยังเคยแอบปลื้มๆเลย จนเกือบจะบอกชอบซะละ ฮ่าๆ แต่ว่าประเด็นคือ ... ไม่กล้า จนจะจบม.3 ฉันคิดว่าไม่เห็นต้องบอกเลย แค่ปลื้มๆ ชอบๆ ไม่ได้รักซักหน่อย แต่พอวันสุดท้ายคิดว่าจะบอก เกรซเพื่อนฉันดันไปบอกซะก่อน ฉันเลย .. ช่างมันเถอะ แล้วทั้งคู่ก็ตัดสินใจคบหากัน ชินจะไปเรียนต่อที่โรงเรียนอื่น เกรซก็ตามไปเรียนด้วย ถึงแม้ว่าจะอยู่คนละห้องก็ตาม นี่แหละ ความรักที่เค้าเรียกว่า ความรักทำให้คนตาบอด มันก็จริง ยิ่งเกรซเพื่อนฉันนี่ บอดสนิทเลย ฮึๆ
      ฉันดูทีวีอยู่ข้างล่าง เกรซกับชินก็เดินมานั่งด้วย ฉันกำลังดูหนังฝรั่งพากย์ไทย เป็นแนวสืบสวนสอบสวน ไม่เข้าใจว่าทำไมหนังฝรั่งต้องมีเรื่อง sex เข้ามาอยู่ด้วยนะ ฮึ่ยๆ เพราะตอนทั้งคู่มา มันถึงตอนนั้นพอดีเลย เลยโดนแซวไปนึงดอก มะยมบ้ากาม =[]= มันช่างไม่จริงเอาเสียเลย อยากจะบ้าตายละลายลงกับพื่นจริงๆ ฉันนั่งดูหนังซักพักแล้วขอตัวขึ้นไปนอน ทั้งคู่จึงตามไปด้วย ต่างคนต่างเข้านอน แต่พอฉันกำลังจะนอน เสียงประตูก็ดังขึ้น พอเปิดมา คนที่อยู่ตรงหน้า คือ ชินจัง นี่เอง เขามาบอกขอบคุณฉันสำหรับทุกเรื่องและขอโทษที่ทำให้วุ่นวายไปด้วย ฉันบอกเขาว่า เรื่องแค่นี้เอง จิ๊บๆ เขายิ้มให้ฉันแล้วเดินกลับห้องไป ฉันก็เข้าห้องไปนอนด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนนอนฉันคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ ยิ่งมานอนห้องของท่านยิ่งคิดถึง รู้สึกเหมือนขาดความอบอุ่นมานานเหลือเกิน ฉันร้องไห้แล้วหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้
      ฉันเดินมาโรงเรียนคนเดียว พอตกเย็นพวกเราก็ไปที่สนามหญ้าซึ่งเป็นที่นัดกันตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อที่จะแชร์ประสบการณ์กันต่อ ฉันไม่ค่อยตื่นเต้นแล้วล่ะ อาจเพราะเมื่อวานเจอหลายๆเรื่อง เลยทำให้เพลียๆจนฮิวทักว่า เมื่อคืนได้นอนรึป่าว หรือเก็บเอาไปฝัน แล้วช่วย... ฉันเอากระเป๋าฟาดมันไปทีนึง แล้วบอก ลองพูดมาสิ จะเอารองเท้ายัดปากเลย คอยดู! ฮิวแลบลิ้นใส่แล้ววิ่งไปนั่งตรงที่เรานั่งกันเมื่อวาน วันนี้เป็นคิวของนิน ตามด้วยเต้ และสุดท้าย ฉันเอง - -// เรานั่งคุยเล่นกันซักพัก พายจึงเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมา แล้วนินจึงเริ่มเล่า..
      * นินจา แห่งสตาร์วอล *
      "อร๊ายย วันนี้คิวฉันแล้วอ่ะ รุ้สึกเหมือนพอยัยพายเปิดประเด็นแล้วหัวใจมันทำงานเร็วจุงเบยย ตื่นเต้วแบบฝุดๆ เอาล่ะๆ ประสบการณ์ความรักแบบที่สุดของที่สุดของฉันมันก็มีอยู่ว่า.. คือพวกเธอก็รู้ใช่ป้ะวันฉันสวย ออร่ามาก ใครก็ชอบฉันไปซะหมด(ทุกคนทำหน้าเอือม) คืออย่างนี้ ฉันกับแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดมา ฉันเจอผู้ชายคนนึงแบบ หล่อมาก หล่อน่าลากอ่ะแก ฉันแบบทั้งจ้องทั้งมองอ่ะแก แต่น่าเสียดาย He มากับ girlfriend ฉันน่ะนะ หู้ววว เซงเลยอ่ะ แต่ไม่นานตอนนั่งกินข้าวอยู่ บังเอิญแม่ฉันไปเข้าห้องน้ำ ผู้ชายโต๊ะตรงข้ามหันมายิ้มให้ฉัน ฉันเนี่ยเขินหน้าแดงเลยแหละแก หล่อ ล่ำ แฮนซั่มๆๆๆๆๆๆๆ มากกกกก ฉันชอบอ่ะแก ฉันเลยยิ้มกลับให้เขา แบบน่าเสียดาย ทำไมไม่เจอตอนอยู่กรุงเทพนะ คงได้ทำความรู้จักกันแบบ... กรี๊ดๆ แล้วทีนี้ฉันขึ้นก็ขึ้นห้องมาพักกับแม่นั่นแหละ ฉันนอนเล่นดูทีวี คุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่ หยิงแม่ของฉันก็สวยเด็ดมาแต่ไกลบอกจะไปปาร์ตี้กับเพื่อนที่นัดกันมา ฉันอยากไปมาก มาก มากกก แต่แม่บอกว่า เป็นเด็กอยู่บ้าน อายุไม่ถึงเข้าไม่ให้เข้า ฉันเซ็งมากเลยนอนเล่นจนหลับไป ตื่นมาอีกทีเที่ยงคืน แม่ยังไม่กลับมาอีก จนซักพักมีคนมาเคาะประตู ฉันนึกว่าแม่เลยไปเปิด พอเปิดมันไม่ใช่อ่ะแก มันคือดอกกุหลาบอ่ะแก >
      เอิ่ม.. อ่อม.. ฉันไม่รู้จะอธิบายมันออกมายังไง เรื่องแบบนี้ มันง่ายขนาดนี้เลยหรอ OoO ใช่.. มันง่ายจริงๆแหละ แค่อารมณ์พาไปป้ะ ยังไงก็ได้หมด ฮ่าๆ ฉันที่แรกๆนิ่งๆเหมือนจะไม่ใส่ใจพอฟังได้แปปนึงเท่านั้นแหละ แหม ฟิลลิ่งมันได้ อะไรมันได้ บรรยากาศตอนเย็นๆ ลมพัดโชยไปมา ใช่เลยค่ะ! หู้ววว ยิ่งฟังใจยิ่งเต้น อะไรก็ไม่รู้ อารมณ์แปรปรวนง่ายเหมือนคนเม็นกำลังมา โอ๊ย ชีวิตฉันจะบ้าตาย
      'รักเธอ รักเธอ รู้เพียงแค่นั้น....'
      เสียงโทรศัพท์เต้ดังขึ้น เต้ออกไปรับโทรศัพท์แล้วเดินกลับมาพร้อมกับบอกว่า 'เสียใจด้วยว่ะ พ่อเรียกไปทำธุระด่วน วันนี้ฉันคงไม่ได้แชร์ปราาาสบการณ์ว่ะ คิๆ' ทุกคนที่ได้ยินต่างพากันโห่ แต่ว่าฉัน.. ถ้าเต้ไม่อยู่ ต่อไปก็ฉันน่ะสิ อ้ากกก! T[]T แต่ว่าฮิวบอกว่าถ้าคนไม่ครบ ไม่ตามคิว ก็ไม่สนุกดิ ฉันรอฟังเรื่องมะยมนะเว้ยย เห็นห้าวๆ เงียบๆ อาจโดนเสียบมาแล้วว ฮ่าๆๆๆๆ --* อีสลัดฮิว เดะแม่โบกติดขอบสระเลย ดุมันพูด ฉันยังบริสุทธิ์นะยะ ไอบ้า! เดะปั๊ด - -* เฮ้อ..โล่งอก นึกว่าคิวฉัน ฉันไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆนะเนี่ย นึกไม่ออกอ่ะ ถือว่าเป็นวันดีไปละกัน โอ้ว... ^^
      ฉันและเพื่อนๆแยกย้ายกลับบ้านกัน ก่อนกลับฉันแวะ 7-11 เพื่อซื้อของกินไปฝากเพื่อนร่วมบ้านสองคนนั้นด้วย ฉันไม่รู้จะซื้ออะไรก็ข้าวกล่องนั่นแหละ ดูเหมือนจะเป็นภาระ แต่ก็เป็นเพื่อนอ่ะนะ ฉันได้แต่คิดว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เท่านั้นแหละ แต่ก็ดี เผื่อฉันจะได้ไม่เหงาตอนที่พ่อและแม่ไม่อยู่ ว่าแล้วฉันก็เดินเลือกซื้อของไปตระกร้านึง ส่วนมากก็ของกินทั้งนั้นแหละ
      ฉันเดินกลับบ้านพลางคิดถึงเรื่องของฮิว พายและนินที่เล่าให้พวกฉันฟัง บางทีก็ตลก บางทีก็เหมือนดราม่าแบบนิดๆ แต่ก็ช่างเถอะ ฉันไม่ชอบยุ่งเรื่องของใครอยู่แล้วล่ะนะ วันนี้อากาศดีจัง คืนนี้มีหนังฝรั่งร่วงโปรดมาด้วย ฉันต้องรีบไปทำการบ้านให้เสร็จซะแล้ว >< ว่าแล้วก็รีบเดินดีกว่า ล๊าลา..


      ปล.อยากจบเรื่องนี้เร็วๆจุงเบย แต่แบบมันดึกแล้วอ่า ไว้จะมาอัพเรื่อยๆนะจ๊ะ ยังไงฝากอ่าน ฝากแชร์ ฝากคอมเม้นท์ด้วยนะ เรื่องราวจะเป็นยังไง โปรดติดตาม เหลืออีกแค่ไม่กี่ตอนเท่านั้น >
      theendnovel

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×