ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Legend : Online

    ลำดับตอนที่ #24 : Chapter 22 : มุรามาสะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 30
      0
      6 เม.ย. 57

    Chapter 22 : มุรามาสะ

     

                    " ข้าแด่เหล่าภูติภรายขออาจเอื้อนยืมพลังแห่งพิสุทธิ์วาโยปัดเป่าความชั่วร้ายให้สิ้น โปรดมอบพลังเป็นดั่งคมดาบและโอบอุ้มตัวข้าดั่งโล่ < คมมีดสายลม > " บทเวทของเผ่าซิลฟีดดังขึ้นพร้อมกับคมมีดที่มองไม่เห็นมากมายเชือดเฉือนหมาป่าขนเทาจนตายไปสองถึงสามตัวแต่นั่นก็เป็นโอกาสให้วินด์ได้ถอยหนี

     

                    " หึ นายขาดพวกฉันไม่ได้จริงๆสินะ " น้ำเสียงที่คุ้นเคยดีดังออกมาจากหลังต้นไม้ เป็นน้ำเสียงที่เขารู้สึกคุ้นตั้งแต่ได้ยินบทร่ายเวท แต่ทว่าจากเรือนผมสีออกไปทางฟ้าอ่อนนั้นดูแล้วคู่สนทนาจะไม่ได้สังกัดอยู่ซิลฟิดซะด้วย แต่เพราะอะไรกันทำไมถึงสามารถใช้บทเวทระดับ 2 ของซิลฟิดได้

     

                    ถึงแม้วินด์จะเล่นเกมนี้แบบขอไปทีแต่ข้อมูลมากมายก็ถูกอลิซรวบรวมให้ในเวลาอันสั้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจโลกเลยแต่เพราะโลกถูกเค้าสนใจจนหมดแล้วต่างหาก

     

                    " นายใช้บทเวทระดับ 2 ของซิลฟิดได้ยังไง " วินด์ถามเข้ากลางปล้องเป็นเรื่องแปลกที่ผู้เล่นจะถามถึงเงื่อนไขทักษะ อาวุธ หรือความสามารถของอีกฝ่าย

     

                    " ก็เจ้านี่น่ะนะ " ชายหนุ่มคู่สนทนาทำเพียงโบกหนังสือในมือแบบชิวๆเหมือนกับไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

     

                    " แล้วยูตะล่ะ " วินด์ถามต่อพลางมองหาเพื่อนรักอีกคนที่น่าจะมาด้วย แต่แปลกที่ยังไม่โผล่มาปล่อยมุขแห้งๆหรือซุ่มโจมตีเขาเสียนี่

     

                    " หมอนั่นอยู่ตั้งซาลาแมนเดอร์ โน่นอีกฟากของซีกโลกนั่นล่ะ " ปิยะตอบพร้อมกับเปิดหนังสือในมืออ่านไปเรื่อยๆผิดกับวินด์ที่นั่งลงจุมปุกกับพื้นด้วยความเหนื่อยล้า

     

                    " แล้วนายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคุณนักเวทของอันดีน " วินด์ถามขึ้นพร้อมกับพุ่งเข้าโจมตีปิยะทันทีด้วยทักษะ < เข้าประชิด > แต่เมื่อสัมผัสอีกฝ่ายกลับกลายเป็นเพียงเงาสายหนึ่งเท่านั้น

     

                    " ยากหน่อยนะ " ปิยะกล่าวพร้อมกับใช้สันหนังสือเขกเพื่อนรักทีหนึ่งจากด้านหลังแต่มันกลับทำได้เพียงจั่วลม

     

                    " เอาเป็นว่านายต้องมาช่วยฉันซะแล้วล่ะ เพราะมันน่าสงสัยสุดๆไปเลยน่ะสิ " วินด์พูดเนือยๆก่อนจะเปิดแผนที่ระบบให้ปิยะดูแล้วเริ่มวางแผน

     

                    หลังจากพูดคุยตกลงกันไม่นานนักพร้อมกับสอบถามไปด้วยทำให้รู้ว่าปิยะระดับ 20 กว่าๆแล้วถือว่าเป็น 1 ใน 10 ทำเนียบผู้เล่นระดับสูงสุด แล้วยังเป็นอันดับ 1 ของนักเวททั้งหมดในโลกตอนนี้ด้วย

     

                    " ฉายา จตุรธาตุ นี่มันเท่ห์ดีจริงๆนะ " วินด์พูดแกมประชด ก็เจ้าเพื่อนรักคนนี้ดันใช้ความสามารถของผู้ดูแลระบบอย่างไม่อั้นเลยนี่สิ เพราะเจ้าหนังสือบันทึกถ้อยคำเวทที่ถืออยู่ในมือคือสิ่งที่ได้จากกล่อง GM-002 เหมือนๆกับเขาที่ได้ดาบยาวขนาดกลางมีเล่มหนึ่งแต่ไม่เคยคิดจะหยิบมันใช้เลยมากกว่า

     

                    หลังสอบถามอยู่ครู่หนึ่งทำให้รู้ว่าที่ปิยะสามารถมาโผล่ที่นี่ได้นั่นเป็นเพราะเขาใช้ทักษะ < เคลื่อนย้ายมิติ > แต่มันก็มีเงื่อนไขอยู่มากมาย โดยพื้นฐานแล้วคือ ต้องเคยมีผู้เล่นเป็นผู้บุกเบิกในพื้นที่นั้น และยังกินเวลาในการใช้งานกว่า 2 วันอีกด้วย แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นทักษะที่โกงมากอยู่ดี

     

                    " เนี่ยน่ะหรอดาบของฉัน " วินด์หยิบดาบที่ได้จากกล่องผู้ดูแลขึ้นมาถือมันเป็นเหมือนคาตานะสีขาวสะอาดขลิบลายดำทมิฬ โก่งดาบที่เป็นวงกลมลวดลายสวยงามพร้อมด้ามจับผ้าสีแดงเหมือนโลหิต

     

    ตราผู้แทน GM-001 : มุรามาสะ

    ดาบคาตานะระดับกลางที่เกิดจากจิตอาฆาตรุนแรงของนักรบในอดีตมากมาย 1 ในสมบัติตกทอดของสงคราม 3 โลกมีทักษะแฝงมากมาย แต่อาศัยพลังชีวิตของผู้ถือในการใช้งาน

     

     

     

     

     

     

                   
                    วินด์ทดลองหวดมันเบาๆครั้งหนึ่งไปยังต้นไม้ 3 เมตรด้านแต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นปิยะเห็นแบบนั้นเลยอมยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินไปทำเพียงสะกิดเบาๆ พฤกษาแถวนั้นต่างล้มระเนระนาดเหมือนถูกอะไรสักอย่างตัด แต่นั่นก็แลกกับพลังชีวิตกว่า 20% ของผู้ใช้จนวินด์รู้สึกว่าต้องรอให้มีค่าพลังที่สูงกว่านี้ถึงจะเสี่ยงใช้งานมันได้จึงทำเพียงเก็บมุรามาสะเข้าปลอกดาบที่เปล่งแสงสีแดงเลือดพันด้วยผ้าเก่าๆคาดไว้ที่ข้างเอว

     

                    " สรุปนายก็จะใช้เจ้าดาบไม้นั่นในการลุยฝ่าฝูงหมาเป่าขนเทางั้นสิ " ปิยะถามพร้อมกับเปิดหนังสือในมือไปยังหน้าที่ระบุเวทพื้นฐานของเผ่าซาลาแมนเดอร์เอาไว้เพราะในพื้นที่แห่งนี้ที่มีพลังธรรมชาติของลมอยู่นั้นเอื้อต่อธาตุเปลวเพลิงเป็นอย่างมาก

     

                    วินด์ไม่ตอบคำถามนั้นแต่กลับเดินกลับไปยังทางเดิมที่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนมาสดๆ โดยมีปิยะเดินตามหลังมาติดๆด้วยท่าทีหน่ายๆกับนิสัยของเพื่อนตนเอง

     

                    คราวนี้ไม่มีการเตือนอีกเมื่อขาก้าวผ่านเข้าเขตโบราณสถานฝูงหมาป่าขนเทาก็เริ่มจู่โจมวินด์ทันทีในช่วงแรกนั้นพวกมันค่อยๆจู่โจมวินด์อย่างระแวดระวังแต่ก็ถูกบทเวทเพลิงหลากหลายรูปแบบจนต้องพลาดท่าตายไปในที่สุด  ส่วนที่พอหลุดรอดมาได้ก็จะถูกดาบไม้ของวินด์แทงทะลุจนมิดส่งให้กลายเป็นแสงหายไปที่สุด

     

                    หมาป่าขนเทาถูกจัดการไปเป็นจำนวนมากจนนับแทบไม่หวาดไม่ไหว แต่มันก็เท่านั้นเมื่อพวกมันมาเพิ่มเรื่อยๆจนวินด์เริ่มรู้สึกล้า ส่วนปิยะเองก็เริ่มสนับสนุนช้าลงอย่างรู้สึกได้

     

                    ไม่ไหวแล้วสินะ วินด์เปรยๆพลางเหลือบมองไปทางปิยะที่แอบอยู่ด้านหลังเป็นโอกาสให้หมาป่าขนเทาตัวหนึ่งกัดเข้าที่ขาของเขาจนจมเขี้ยว และก็เป็นอีกครั้งที่ปิยะได้ใช้เวทบทใหญ่ที่มีคูลดาวน์ถึง 1 วันเต็มๆ

     

                    " ข้าแด่จ้าวแห่งท้องนภาโปรดมอบเปลวเพลิงแห่งการริเริ่มเพื่อเป่าผ่านเหล่าอสูรที่ชั่วร้ายเบื้องหน้าข้าเทอญ " < Meteor Assult > ท้องฟ้าค่อยๆมีเขม่าควัญมากมายก่อนจะมีวัตถุก้อนใหญ่ที่กำลังลุกไหม้กระหน่ำตกลงมาโดยไม่มีท่าทีจะหยุดพัก หากมองจากที่ไกลๆแล้วก็เหมือนกับพลุไฟขนาดยักษ์นั่นละ

     

                    " โว้ยจะฆ่ากันด้วยรึไง " วินด์ตะโกนขึ้นขณะหลบอุกกาบาตที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องถึงจะเป็นทีมเดียวกันทำให้ไม่ได้รับค่าความเสียหายก็ตามแต่บรรดาเศษหินก้อนเล็กใหญ่นั้นถ้าถูกเข้าก็เจ็บไม่น้อยเลยทีเดียว

     

                    " จะช่วยต่างหาก " ปิยะพูดพลางหัวเราะเบาๆ และดูเหมือนพี่บิ๊กของทางโน้นเองก็เริ่มโจมตีแล้วเหมือนกันเพราะหลังจากอุกกาบาตขนาดยักษ์นั้นตกลงมาจบลูกธนูสีเงินสะท้อนแสงจันทร์ก็พุ่งมาจากความมืดมิดเฉียดๆหน้าเขาไปนิดหน่อย

     

                    ดูเหมือนเพราะการลงเวทใหญ่ของปิยะทำให้หมาป่าขนเทาเกือบทั้งฝูงถูกกวาดไปในทีเดียวก็ตาม แต่มันก็ยังคงมีบางส่วนที่มีชีวิตรอดและเริ่มหันไปสนใจกับการปรากฏตัวของปิยะมากกว่า ที่น่าแปลกใจก็คือปิยะสามารถหลบการโจมตีแทบทั้งหมดของเหล่าหมาป่าได้แถมยังสวนกลับไปด้วยบทเวทระดับต่ำอย่างศรเพลิงสบายๆ

     

                    " พลิ้วดีนะ " วินด์พูดขึ้นพร้อมๆกับใช้ดาบไม้ในมือหวดไปยังหมาป่าที่กำลังกระโจนเข้ามากัดอีกทั้งใช้มือขวาคว้าลูกธนูที่ถูกยิงมาจนเลือดอาบ

     

                    < ก้าวย่างสายลม > เวทมนตร์เสริมพลังด้านความเร็วถูกใช้พร้อมกับวินด์ที่รู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มมากขึ้นและลมใต้ฝ่าเท้าทุกๆก้าวที่ย่างเดินออกไปเหมือนกับมีสายลมอ่อนมาโอบอุ้มเอาไว้

     

                    " สารพัดประโยชน์ดีนะเจ้าหนังสือเล่มนั้นน่ะ " วินด์เริ่มอยากรู้ถึงความสามารถของดาบตัวเองบ้างแล้ว แม้มือขวาจะยังคงฟันต่อเนื่องไปยังฝูงหมาป่าด้วยดาบไม้แต่มือซ้ายกลับอยู่ไม่ซนจับไปที่มุรามาสะแล้วจังหวะที่รอก็มาถึง

     

                    หมาป่าขนเทา 4 ตัวกระโจนเข้ามาทางด้านหน้าในจังหวะเดียวกับที่วินด์ชักมุรามาสะออกจากฝักดาบอย่างรวดเร็วและฟันฉับออกไปที่หมาป่าทั้ง 4 ก่อนจะเก็บดาบแล้วหันหลังให้

     

    อิไอ(-)

    ทักษะการฟันดาบของประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย ด้วยการฟันที่รวดเร็วและเฉียบคมจนศัตรูไม่ได้เห็นแม้แต่คมดาบ

                   







                    < อิไอ > ทักษะฟันดาบอย่างรวดเร็วที่มีอยู่ในระบบถูกเรียกใช้ทันทีรังสีดาบสีแดงถูกปล่อยออกไปอย่างรวดเร็วและหายไปกับสายลม ความเงียบเกิดขึ้นหมาป่าขนเทาที่หลบอยู่ในป่าต่างสงบเงียบไร้ซึ่งซุ่มเสียง หมาป่าทั้ง 4 ที่กระโจนเข้ามาตกลงไปกับพื้นพร้อมกับร่างที่แยกออกไป 2 ส่วน


                    " สุดยอดเลย " ปิยะพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนจะบอกว่าไม่อยากเชื่อ ตัวเขาเองตั้งแต่เริ่มเกมมาวันนี้ก็เป็นวันที่ 5 แล้วเหมือนกันสำหรับเขาซึ่งก่อนจะมาหาวินด์ก็ได้ไปทางเมืองซาลาแมนเดอร์เพื่อทักทายยูตะ ซึ่งทางนั้นเองก็ขึ้นชื่อเรื่องทักษะที่รุนแรงและทรงพลัง แต่นี่ก็เพิ่งเห็นครั้งแรกเหมือนกันสำหรับทักษะฟันที่สามารถตัดแบ่งสัตว์อสูรออกเป็น 2 ส่วนในพริบตา

     

                    วินด์มองไปที่แถบพลังของตนเองพบว่าพลังชีวิตได้หายไปเกือบ 20% ของทั้งหมดแต่ก็มีค่าสถานะบางอย่างเสริมเข้ามาสถานะ < ปิศาจกระหายเลือด > ซึ่งมันเองก็ไม่มีคำอธิบายอะไรไว้เหมือนกัน

     

                    ท่ามกลางความมืดมิดของป่านั้นก็ได้ปรากฏร่างของหญิงสาวเรือนผมสีเงินนัยน์ตาสีดำดั่งรัตติกาลที่เห็นเพียงครั้งเดียวก็ไม่อาจลืมบนไหล่มีผ้าพันคอขนหมาป่าสีเทานุ่มสลวยอยู่

     

                    การปรากฏตัวของเธอสร้างบรรยากาศเงียบขรึมมากขึ้นไปอีกเมื่อความรู้สึกของวินด์บอกว่าหมาป่าขนเทาหลายร้อยตัวเมื่อครู่ค่อยๆล่าถอยไปก่อนจะมีสายลมหอบหนึ่งพัดมา

     

                    ต้นไม้ในรัศมีฟันอิไอของมุรามาสะก็หักโค่นลงดื้อๆเสียอย่างนั้นสร้างความตกใจให้หญิงสาวที่เดินมาหาเขาทีเดียวจนเธอทำอะไรไม่ถูก

     

                    < เข้าประชิด > ทักษะที่มีไว้เพื่อพุ่งโจมตีศัตรูอย่างรวดเร็วถูกเรียกใช้นั่นแปลว่าเป้าหมายของเขาเป็นสัตว์อสูรนั่นเองและดูเหมือนเธอคือผู้คุมหมาป่าเงาจันทร์แน่นอน วินด์ที่เผลอทำอะไรไปตามความรู้สึกก็คว้าเธอไว้ก่อนจะถอยหลังกลับด้วยก้าวย่างสายลมที่ปิยะเสริมสถานะให้

     

                    " ปล่อยข้านะ " หญิงสาวพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของชายที่ช่วยเธอเอาไว้ และมันก็ช่างง่ายดายเพราระดับของวินด์นั้นเพียงแค่ 10 เท่านั้นสัตว์อสูรระดับราชาอย่างเธอจึงไม่ต้องใช้แรงมากมายด้วยซ้ำในการฝืนอ้อมกอดของชายคนนี้

     

                    " ออกมาเจรจาดีๆสินะครับ " ปิยะถามขึ้นขณะดึงให้วินด์ลุกขึ้นพร้อมกับมองไปยังหญิงสาวที่ตนเองช่วยไว้ด้วยสายตาเหมือนจะบอกว่า ' ไม่ขอบคุณไม่ว่า ดันมาทำร้ายกันอีก '

     

                    " รู้แบบนี้ใช้มุรามาสะแต่แรกก็จบ " วินด์บ่นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆแล้วนั่งลงกับพื้นก่อนจะมองไปยังสัตว์อสูรระดับราชาที่เพิ่งเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย

     

                    " เจ้ามาที่นี่เพื่ออะไร ในยามวิกาลเช่นนี้ " เธอเปล่งน้ำเสียงที่เหมือนดนตรีบรรเลงเพื่อถามถึงจุดประสงค์ของวินด์ แต่ถ้าจะให้ตอบละก็คงต้องบอกว่า ' ไพเราะจริงๆ ไม่สิ ที่มาก็เพราะต้องการเก็บระดับต่างหาก '

     

                    " แค่อยากเดินเล่น " วินด์ตอบด้วยน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความกวนอย่างเห็นได้ชัด แต่ดูเหมือนหญิงสาวที่สนทนาด้วยอยู่เองก็สามารถเก็บความรู้สึกได้ในระดับหนึ่ง

     

                    " แต่สถานที่นี้ไม่เหมาะเท่าไรท่านนักผจญภัย " เธอตอบออกมาด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่ความหมายกลับตรงข้ามเหมือนจะบอกว่าให้เขาไปไกลๆจากที่นี่เสียดีกว่าซึ่งแน่นอนคำตอบของวินด์คือ

     

                    " ไม่ล่ะ ผมอยากไปสำรวจในโบราณสถานนั่นสักนิด " วินด์ตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดเพราะเขารู้สึกแปลกๆกับสถานที่นั้นมาตั้งแต่แรกเห็น ยิ่งได้เข้าใกล้ยิ่งเหมือนเลือดลมภายในตัวร้อนรุ่มไปหมดแล้วยิ่งเห็นฝูงหมาป่านี่แถมด้วยสัตว์อสูรระดับราชาปกป้องมันด้วยแล้ว ยิ่งน่าสนใจไปใหญ่

     

                    วินด์พูดจบเพียงเท่านั้นหญิงสาวที่เป็นสัตว์อสูรระดับราชาก็จู่โจมเขาทันทีมือขวาที่ตอบสนองไวกว่ายกดาบไม้ขึ้นรับไว้แต่ก็เพียงเท่านั้นเมื่ออีกฝ่ายก็สามารถใช้ทักษะ < โจมตีผกผัน > เบนเป้าหมายมายังด้านซ้ายที่เปิดโล่งวินด์ที่รู้ตัวรีบชักดาบที่เหน็บไว้ขึ้นรับแต่ก็ส่งผลให้เสียหลักเหมือนกัน

     

                    ปิยะที่เห็นท่าไม่ดีส่งศรเพลิงออกไปเพื่อหวังจะทำให้หมาป่าสาวเสียจังหวะนั่นก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นจังหวะเพียงเล็กน้อยทำให้วินด์สามารถตั้งหลักและโจมตีสวนได้บ้าง

     

                    อลิซที่รู้หน้าที่เก็บดาบไม้เข้าหน้าต่างของระบบไปในขณะที่วินด์ส่งดาบจากมือซ้ายที่ฟันลงไปไว้ในมือขวาแล้วฟันขึ้นแทน สัตว์อสูรระดับราชาเองก็ใช่ว่าจะพลาดพลั้งได้โดยง่ายยกมีดโค้งจันทราขึ้นต้านไว้จนกระเด็นหลุดมือไป

     

                    ดาบในมือกำลังส่งเสียงเสียดสีกับอากาศลั่นเหมือนเป็นการประกาศถึงความต้องการสังหารศัตรูที่บัดนี้ไร้ซึ่งอาวุธและทางป้องกัน ชายหนุ่มเองก็รู้สึกแบบนั้นจึงเสือกแทงไปที่กลางหน้าอกของอสูรสาว

     

                    " โทษที " วินด์พูดเสียงเบาเก็บดาบมุรามาสะแล้วหยิบมีดมายาขึ้นมาเพื่อกรีดมือตนเองจนเลือดไหลก่อนจะหยดลงไปที่รอยแผลบริเวณกลางอกของหมาป่าสาว

     

                    " โห้ " ปิยะยืนเงียบมองการกระทำของเพื่อนรัก เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไรและในยามนี้ 100 ทั้ง 100 สัตว์อสูรแทบทุกประเภทจะยอมรับมันโดยดีฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยมันไม่ให้ต้องแตกดับไป

     

                    ดูเหมือนสัตว์อสูรระดับราชาตนนี้เองก็รู้ดี เรือนหน้าที่ขาวซีดเพราะเสียเลือดมากมองมายังวินด์ที่กำลังจ้องมองตอบ มองลึกลงไปในนัยน์ตาที่บัดนี้แสดงถึงความแน่วแน่และจริงจัง

     

                    " ข้าแฟร์ผู้อยู่เหนือเหล่าหมาป่าทุกตน ผู้ถึงครองอำนาจบัญชาเหล่าสัตว์ร้ายยามรัตติกาล ขอทำสัตย์สาบานนายบ่าว ชีวิตของข้าจักเป็นของท่าน วิญญาณของข้าจักเป็นของท่าน ลมหายใจของข้าจักเป็นของท่าน เขี้ยวและเล็บดั่งดาบไว้เพื่อกวัดแกว่งร่างและอาภรณ์ดั่งโล่เพื่อปัดป้อง " แฟร์ที่อยู่ในสภาพหายใจรวยรินเต็มทีหากยังไม่ตอบรับคำสัตย์นี้อีกไม่นาน เธอก็จะตายและรอเวลาเพื่อเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่งโดยที่เหลือเพียงภาชนะอันว่างเปล่าเหมือนเดิม

     

                    " ข้ารีเวนจ์ผู้มีชัยเหนือเจ้า ขอตอบรับคำสัตย์นั้นด้วยใจ ชีวิตของเจ้าจักเป็นของข้า วิญญาณของเจ้าจักเป็นของข้า ลมหายใจของเจ้าจักเป็นของข้า จงมอบทั้งเขี้ยวและดาบเพื่อเอาชนะมวลหมู่ศัตรูและปกป้องข้าด้วยร่างกายและวิญญาณ จงทลายเหล่าอริให้สิ้น " เพียงแค่วินด์นึกจะตอบตกลงคำพูดมากมายเหมือนซักซ้อมไว้ก่อนแล้วค่อยๆไหลออกมา เรียกว่าเป็นอีกสิ่งที่ทำให้เกมนี้น่าสนใจมากๆ

     

                    " ยอดเลยนี่นายเพิ่งระดับ 10 แต่ได้สัตว์อสูรราชาระดับ 30 ทำสัญญาติดตามเชียวนะ " ปิยะพูดขำๆแล้วนั่งลงกับพื้นเพื่อพักเหนื่อย

     

                    " ว่าแต่ตกลงเธอเป็นมนุษย์หรือหมาป่ากันแน่ " พูดจบปุ๊ปแฟร์ที่แผลหายแล้วจากการทำพันธะสัญญาอสูรติดตามก็หันมามองขวับพร้อมตีไหล่ชายหนุ่มเบาๆ แต่ที่ว่าเบาๆนั้นก็เป็นความต่างชั้นของระดับ 10 กับ 30 อยู่ดีเล่นเอาเกือบหน้าทิ่ม

     

                    ปิยะที่นั่งมองอยู่ทอดถอนใจพลางเปิดหน้าต่างของระบบให้วินด์ดูซึ่งจะระบุความสามารถของสัตว์อสูรที่ตนเองเคยเจอได้

     

                    " ภูติ งั้นหรอ " วินด์มองไปยังหญิงสาวที่จะบอกว่าสวยก็ไม่ใช่ออกไปทางน่ารักมากกว่า เส้นผมสีขาวถึงกลางหลังเขี้ยวที่มุมปากนัยน์ตาสีดำชุดมิโกะสาวกระโปรงสั้นมีผ้าพันคอขนหมาป่าสีเทาสวยงามประดับอยู่

     

                    " จะมองข้าอีกนานแค่ไหนกัน " หลังรู้ตัวว่าถูกจ้องมองอยู่ก็แสดงท่าทีเขินอายออกมาเล็กน้อยพวงแก้มสีเริ่มออกชมพูระเรื่อเบนหน้าไปทางอื่น

     

                    " งั้นก็ไปโบราณสถานต่อนั่นล่ะ " วินด์ลุกขึ้นยืนแล้วออกเดินนำไปตามด้วยปิยะผิดกับแฟร์ที่อึ้งพักหนึ่งก่อนจะรีบวิ่งไปดักหน้าชายหนุ่มเอาไว้

     

                    " ไม่ได้นะค่ะ ไม่ได้เด็ดขาดเฉพาะที่นั่นเท่านั้นที่ฉันจะตามใจคุณไม่ได้ " เธอยื่นคำขาดเหมือนมันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเสียอย่างนั้น

     

                    " แปลว่าอย่างอื่นให้ได้หมดเลยงั้นหรอ " วินด์อาศัยประโยชน์จากคำพูดของแฟร์เล่นเอาอสูรสาวถึงกับก้มหน้าคุดคู้ด้วยความเขินอาย

     

                    วินด์ยังคงไม่สนใจในคำเตือนของหมาป่าสาวเดินไปเรื่อยๆจนถึงโบราณสถานในที่สุด ซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างในที่โล่งแจ้งหากแต่มันไม่เคยเป็นจุดสนใจเพราะภายในนั้นเป็นเพียงแท่นบูชาโบราณๆเท่านั้นไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น แต่ไม่ใช่สำหรับวินด์บัดนี้เลือดในกายร้อนรุ่มไปหมด

     

                    ' กรีดข้อมือของเจ้าสิ ' เสียงหนึ่งดังขึ้นในห้วงความคิดพร้อมกับวินด์ที่หยิบมีดมายาขึ้นมากรีดแขนตนเองให้เลือดไหลไปตามทางแท่นบูชา เป็นเวลานานแล้วยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจนตัวของเขาค่อยๆกระพริบสีแดงบ่งบอกถึงอาการบาดเจ็บสาหัสรุนแรงที่อาจส่งผลถึงชีวิตได้

     

                    ในที่สุดก็เริ่มมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงพื้นกลางห้องที่เดิมเป็นพื้นเรียบทำจากอิฐก้อนวางไว้อย่างเป็นระเบียบค่อยๆขยับออกพร้อมกับเสียงกลไกที่ทำงานจนกลายเป็นทางเดินลงสู่ใต้ดิน ตอนนี้แฟร์ยืนนิ่งไปเสียแล้ว

     

                    " เธอรออยู่ข้างบนนี่ก็ได้ ปิยะด้วย " วินด์หันกลับมาบอกก่อนจะเดินลงไปด้านล่างของโบราณสถานแห่งนี้ผู้เดียว ซึ่งปิยะเองก็อยากจะเดินตามไปด้วยความเป็นห่วงอยู่หรอกทว่า

     

                    " กำแพงโปร่งใสนี่มัน " เขาไม่สามารถทำได้มีบางสิ่งกั้นเอาไว้ไม่ให้เข้าไปในขอบเขตของโบราณสถาน

     

                    วินด์เดินลงมาเรื่อยๆจนในที่สุดก็ถึงพื้นด้านล่างเป็นลานโล่งๆที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากแท่นๆหนึ่งด้านในสุดประมาณจากสายตาแล้วต้องบอกว่าด้านล่างนี้กว้างใหญ่กว่าข้างบนหลายเท่านัก ดูแล้วออกจะได้รับการดูแลรักษาอย่างดีด้วยซ้ำ

     

                    " แล้วไงต่อละ " เขาพูดขึ้นลอยๆแต่ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับจากอลิซเหมือนทุกที ... ทว่ามีเสียงหนึ่งของผู้ชายดังขึ้นในโสตความคิดของเขา

     

                    " ด้านในสุดนั่น ลองเดินไปดูสิ " วินด์ที่ได้ยินแบบนั้นก็เดินเข้าไปเหมือนกับไม่เกรงกลัวต่อคำพูดนั้นสักนิด ทั้งที่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความท้าทายด้วยซ้ำ พลังชีวิตเองก็มากขึ้นมาระดับหนึ่งหลังจากจัดการหมาป่าขนเทาได้แล้วระดับก็เด้งขึ้นมาอยู่ที่ 17 ทำให้สามารถใช้มุรามาสะได้นานขึ้น

     

                    ยิ่งเข้าใกล้เท่าใดก็ยิ่งเห็นสิ่งที่อยู่บนแท่นนั่นชัดมากขึ้นเท่านั้น หอกสีขาวสะอาดถูกปักเอาไว้บนพื้นมีแสงส่องขึ้นมาจากด้านบนสะท้อนคมของมันเป็นประกาย ลวดลายขลิบทองดูปราณีตเกินกว่าจะมาตั้งอยู่ในโบราณสถานเก่าๆธรรมดาแบบนี้ หากแต่ถ้ามันธรรมดาละก็นะ

     

                    " สัตว์อสูรระดับราชา Satanackia & Agalierap ระดับ 200 ปรากฏตัว ขอมาสเตอร์กรุณาระวังตัวอย่างมากด้วยค่ะ " เสียงของอลิซแจ้งเตือนการมาของสัตว์อสูรระดับสูงทั้ง 2 แต่หากพูดให้ถูกแล้วเขาทั้ง 2 คือผู้ดูแลที่นี่มากกว่า

     

                     
    ______________________________________________________________

    อาจจะลงไม่บ่อยนะครับเนื่องด้วยเก้าอี้ที่ใช้นั่งตอนนี้มันสูงกว่าจออย่างมาก (เก้าอี้ปกติขาหักไปแหล่วเค้าหนัก 57 เองนะ) 

    จึงไม่อยากจะใช้คอมพิวเตอร์นานนักอาจจะทำให้สายตาเสียได้ ; w ;


    ______________________________________________________________

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×