ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Legend : Online

    ลำดับตอนที่ #11 : Special Chapter : วันสบายๆของยูตะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 86
      0
      2 ก.พ. 57

    Special Chapter : สายลมแห่งใบไม้ผลิ

     

                    ลมเย็นๆพัดมาเอื่อยเฉื่อยตามฤดูกาลที่แปรผันจากฤดูหนาวสู่เดือนแห่งวสันต์ฤดู แล้วใครจะรู้กันเล่าว่าวายุนี้จะนำพาสิ่งใดมาสู่ชีวิตนักศึกษาต่างชาติที่มาเพื่อทำบางสิ่งนอกเหนือจากการเรียนรู้ในรั้วมหาลัยแห่งนี้

     

                    เรือนผมสีน้ำตาลยาวจนถึงต้นคอลู่ไปตามแรงลม นัยน์ตาสีฟ้ามองไปยังเบื้องหน้าเหมือนมีเป้าหมายใบหน้าที่ยามปกติจะแฝงไปด้วยแววสนุกสนานยามนี้มีเพียงทำงานที่รับมอบมาให้ครบถ้วน การย้ายมาในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนชั่วคราวเพียงฉากบังหน้า สายข่าวจากเพื่อนรักพบว่ามีการหนีมากบดานของผู้ก่อการร้ายของประเทศตนเอง

     

                    ที่ไหนไม่ไปดันมามหาลัยอันดับหนึ่งของโลกเนี่ยนะ ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลบ่นอุบก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งโปรแกรมมากมายเอาไว้ หนึ่งในนั้นคือการสแกนใบหน้าผ่านแว่นกรอบเหลี่ยมที่สวมใส่อยู่

     

                    ระบบเริ่มทำการสแกนแล้ว ช่วยกวาดตามองให้ทั่วๆด้วยคะ เสียง   AI   อัจฉริยะที่ขอยืมจากเพื่อนรักดังออกมาจากหูฟังสีขาวยี่ห้อชื่อดัง

     

                    ขณะกำลังเดินไปเรื่อยเพื่อกวาดตามองหาเป้าหมายที่หลบซ่อนอยู่ในฝูงชน สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิเริ่มพัดผ่านโชคชะตาให้หมุนเดินอีกครั้งหนึ่ง หมวกปีกใหญ่สีขาวถูกสายลมพัดผ่านมาตามด้วยเสียงของหญิงสาวผมดำสนิทด้านหน้า

     

                    ของเธอละมั้ง   ‘ มือซ้ายที่ว่างเปล่ากระโดดคว้าเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็นนักแล้วส่งคืนให้หญิงสาวที่คาดว่าจะเป็นเจ้าของ

     

                    ก่อนที่หญิงสาวจะได้พูดขอบคุณเสียงแจ้งเตือนจากโอเปอร์เรเตอร์ดังขึ้นทำให้เขาต้องวิ่งผ่านไปอย่างน่าเสียดายในการพบพานครั้งนี้

     

                    พบเป้าหมายแล้วคะ ด้านหน้าสามนาฬิกาบนดาดฟ้าตึก น่าจะเป็นเพราะตอนที่มองหมวกใบใหญ่นั้นปลิวมากับลมทำให้ระบบตรวจจับเจอเข้า แต่ทว่าดูเหมือนศัตรูของเขาจะรู้ตัวเสียแล้ว

     

                    เมื่อหลบเข้าตรอกหอพักด้านข้างเสร็จร่างที่สูงเกือบ 2 เมตรจึงเริ่มปีนกำแพงขึ้นไปทันที เพราะการจะรอลิฟต์หรือวิ่งขึ้นบันไดอีกฝ่ายคงหนีไปเสียก่อนเพราะฉะนั้นที่ง่ายที่สุดคือการขึ้นด้วยวิธีอื่นนอกจากนั้น

     

                    5 4 3 2 1... หลังจบการนับถอยหลังร่างสูงวิ่งเข้าหากำแพงก่อนจะยกขาซ้ายถีบแบบเต็มแรงพลิกตัวกลับไปอีกด้านพร้อมกับขาขวาที่ดันออกเพื่อตีลังกากลับมาด้านซ้ายจนในที่สุดก็ขึ้นมาถึงด้านบน

     

                    สุนัขของทางการงั้นหรอ ดูเหมือนเป้าหมายจะรู้ตัวแล้วว่าถูกใครจ้องเล่นงาน และสัญญาณเตือนในหูฟังยังคงดังอย่างต่อเนื่องพร้อมกับแว่นตาที่แสดงข้อมูลของศัตรูตรงหน้าทั้งหมดที่มีทั้งทหารรับจ้างและทหารผ่านศึก

     

                    การต่อสู้เริ่มขึ้นทันทีโดยไม่ต้องทักทายอะไรให้มากความ ศัตรูมีเพียง 3 คน เมื่อเห็นแบบนั้นมือขวาที่เคยว่างเปล่ากลับปรากฎดาบญี่ปุ่นยาวเมตรหนึ่งออกมาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบ เงาของผู้ถูกกล่าวว่าเป็นสุนัขพาดผ่านเหยื่อทั้งสองตรงไปสู่คนตรงกลางที่เป็นดั่งคนคอยบงการพร้อมๆกับหันหลังให้แล้วเก็บดาบ

     

                    เป็นแค่สุนัขแท้ๆ เจ้าตัวหัวหน้าตะโกนออกมาพลางหันหลังวิ่งหนี เมื่อเห็นว่าบอดี้การ์ดทั้งสองที่จ้างมาล้มลงไปจมกองเลือดภายในเสี้ยววินาทีแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ชะตากรรม

     

                    ขอโทษนะครับ ผมไม่ใช่สุนัขของทางการหรอก แต่เป็นหมาล่าเนื้อต่างหาก  “ เพียงสิ้นคำกล่าวแขนขวาของทรราชผู้นั้นกระเด็นหลุดออกจากไหล่โดยที่ไม่อาจรู้ตัวได้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ที่มันเห็นก็คือแขนข้างนั้นลอยลิ่วไปเบื้องหน้าพร้อมกับความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาหาเหมือนฟ้าผ่า

     

                    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก เหยื่อครั้งนี้ได้แต่ร้องอย่างน่าสมเพศพลางดิ้นทุรนทุรายเมื่อทนรับความเจ็บปวดไม่ได้ผิดกับใบหน้าเย็นยะเยือกของผู้ลงมือ

     

                    บอสสั่งมาว่าให้แกกลับไปมอบตัวเองเสียดีๆ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีครั้งที่สองถ้าอยากใช้ชีวิตต่อก็กลับไปซะ แต่หากจะตายฉันก็จะยำแกให้เละแล้วเตะส่งขึ้นเครื่องบินกลับประเทศเอง   ยูตะแค่นเสียงออกมาตามที่ได้รับคำสั่งก่อนจะกระโดดลงจากดาดฟ้าตึกสูง 5 ชั้นแล้วหายไปในตรอกข้างๆในที่สุด

     

                    ....

     

                    วินด์ฉันทำงานเสร็จแล้วนะแต่จะขอลาพักร้อนอยู่ที่นี่พักหนึ่งน่ะติดใจอะไรนิดหน่อย   แม้จะเป็นคนเดียวกันกับที่ลงมือบั่นแขนศัตรูของชาติทิ้งไปเมื่อครู่ แต่ใบหน้ายามนี้แตกต่างนักรอยยิ้มที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นปรากฎออกมาอย่างเปิดเผยในร้านกาแฟริมทาง

     

                    ตามสบายเลยที่ฉันทำเรื่องไปนานๆก็กะแบบนี้อยู่แล้ว เสียงปลายสายตอบกลับมาหากแต่ไม่ใช่ของชายที่ชื่อว่าวินด์ แต่เป็นปิยะเพื่อนสนิทอีกคนของเขากำลังนั่งอ่านอะไรสักอย่างบนเก้าอี้หนังอย่างดี

     

                    แล้วแต่นายละกัน แต่ถ้ามีปัญหาอะไรจะติดต่อไปอีกทีนะ วินด์ตอบกลับมาก่อนจะตัดสายออกไปเป็นคนแรกตามด้วยปิยะที่ทำเพียงโบกมือลาแล้วปิดการสนทนาไปอีกคน

     

                    “ คนเมื่อกี้คุ้นๆจังนา ยูตะเก็บโทรศัพท์หลังจากนั้นก็ครางในลำคออย่างสงสัย

     

                    เสียงระฆังดังบอกเวลาเริ่มชั่วโมงเรียน รอบๆนี้นักศึกษาค่อยๆหายไปจนหมดแล้วเหลือเพียงเขาคนเดียว แต่จากที่นี่ไปถึงอาคารเรียนนั้นก็นานพอดี หากเดินตามทางนั่นละนะ

     

                    ยูตะวางเงินทิ้งไว้บนโต๊ะแล้วลุกขึ้นเดินออกจากร้านพลางมองหาต้นไม้แล้วปีนขึ้นไปเพื่อกระโดดเข้าทางหน้าต่างด้านหลังอันเป็นระเบียงทางเดินของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ซึ่งบริเวณนั้นก็คงไม่มีคนอยู่แล้ว

     

                    ลัคกี้ ยูตะยิ้มกริ่มกับการคาดเดาของตนเอง แล้วเปิดประตูเดินเข้าห้องไปพลางเสแสร้งทำท่าทีเหนื่อยหอบจนยากจะจับได้

     

                    สายตาที่ยามนี้ซุกซนเหมือนเด็กๆกวาดมองไปทั่วห้องเรียนอย่างจดจ่อจนมากกว่าที่จะสนใจสิ่งที่ดอกเตอร์แก่ๆหัวล้านคนหนึ่งขีดเขียนอยู่บนกระดานดำมากนัก

     

                    มองหาใครอยู่หรอคะ เสียงเรียกใสเหมือนเครื่องดนตรีบรรเลงดังขึ้นจากด้านหลังของเขา

     

                    อ๋อก็คนที่ผมเจอเมื่อกลางวันนั่นละ ใส่หมวกปีกใหญ่สีขาวคุณพอจะเห็นบ้างไหมครับ  “ ยูตะยังคงตอบพลางชะเง้อคอมองไปทั่วห้องอีกรอบอย่างเผลอตัว

     

                    ก็ไม่เห็นที่ไหนนะคะ เสียงของสตรีตอบเขามาอีกครั้งหนึ่ง

     

                    ผมว่าคุ้นๆในคลาสนี้นะครับ ยูตะถอนหายใจก่อนจะหันหน้าไปมองยังคู่สนทนาที่กำลังคุยกันอยู่แต่ก็ทำเอาเกือบตกเก้าอี้เมื่อพบว่าคนที่ตนเองพูดถึงคือหญิงสาวที่นั่งคุยกันอยู่ แถมหมวกสีขาวที่ว่ายังวางอยู่ข้างๆคุณเธอซะด้วย

     

                    เสียงหัวเราะคิกคักดังออกมาเมื่อเห็นท่าทีตกใจเกือบตกเก้าอี้ของยูตะ ดูเหมือนความประทับใจครั้งแรกจะออกมาดีนั่นละ

     

                    การเรียนยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนเวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมงเสียงกระดิ่งที่บอกเวลาเลิกก็ดังขึ้นในที่สุด จริงๆเขายังเหลือเวลาพักร้อนครั้งนี้อีกนานน่าดู แต่จะให้ใช้เวลาหาความสุขส่วนตัวแบบนี้มันไม่ใช่รูปแบบชีวิตที่เขาชอบนัก

     

                    ลาก่อนนะครับคุณ …. “ ยูตะพูดพลางพยายามนึกชื่ออีกฝ่ายขณะมองดูหญิงสาวเก็บอุปกรณ์ต่างๆเข้ากระเป๋าสะพายสีเทา

     

                    มิเนอร์ว่าคะ เธอหันหน้ากลับมาตอบก่อนจะสะพายกระเป๋าแล้วลุกขึ้นเตรียมเดินออกจากห้อง

     

                    ผมยูตะนะครับ ชายหนุ่มทำเพียงตะโกนตอบไปแล้วนั่งอยู่อย่างนั้นจนคนอื่นๆออกไปจนหมดในที่สุด




    ______________________________________________________________



    ยูตะ x มิเนอร์ว่า

    คู่นี้เป็นไง ?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×