ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร่างใหม่หัวใจดวงเดิม[yulsic]

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่10

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 56


         เช้าวันหนึ่งที่อากาศสดใส ยริตั้งใจไปทำงานอย่างขยันขันแข็งเพราะเธออยากจะรีบกลับบ้านไปใช้เวลาอยู่กับสิก้าให้เต็มที่ ความจริงไม่ใช่เพียงแค่วันนี้เท่านั้น แต่ตั้งแต่เธอได้สิก้ากลับมาเธอก็มักจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้าน
     

    “เอ้ารีบไปทำงานและจะได้รีบกลับยูริ” ยูริพูดกับตัวเอง
     

    แต่เมื่อเขาเปิดประตูห้องทำงานเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหญิงสาวอเมริกันนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา
     

    “เธอมาทำอะไรเหรอฟานี่ ฉันคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วซะอีก” ยูริพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจกับการปรากฏตัวของฟานี่
     

    “ใจเย็นก่อนสิคะพี่ยูริ ฟานี่มีเรื่องสำคัญเรื่องหนค่งที่ลืมบอกพี่น่ะค่ะ” ฟานี่พูด
     

    “เรื่องอะไรล่ะ เรื่องสำคัญที่ว่าหนะ”
     

    “ฟานี่ว่าพี่ฟังเองดีกว่านะคะ นี่ค่ะ” ฟานี่บอกพร้อมยื่นโทรศัพท์ให้ยูริ
     

    “หา! อำรนะ...” หลังจากยูริพูดโทรศัพท์เสร็จเธอนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “เชิญกลับได้แล้วฟานี่ เราไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องพูดกันหรอกนะ จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทั้งนั้น”
     

    “ทำไมล่ะคะ พี่ก็ได้ยินที่พ่อของพี่พูดแล้วนี่”
     

    “ได้ยินแต่ไม่ทะมีปัญหาอะไรไหม พี่คุยดีๆกับฟานี่แล้วนะแต่ถ้าฟานี่ยังมายุ่งวุ่นวายกับพี่อีก พี่คงจะไม่ใจดีแล้วนะ”
     

    “ฟานี่ไม่ยอม ยังไงพี่ยูริก็ต้องแต่งงานกับฟานี่เท่านั้น ฟานี่ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแย่งไปหรอก” ฟานี่พูดด้วยอาการค้อนๆที่ยูริไม่สนใจเธอแล้ว ทั้งๆที่เธอคือคู่หมั้นของยูริ
     

    “ฟานี่” ยูริกล่าวเตือน
     

    “ทำไมล่ะ ฟานี่ไม่เข้าใจก็ตอนเด็กๆ พี่บอกว่าถ้าฟานี่โตขึ้นพี่จะให้เป็นเจ้าสาวไง ทำไมลืมซะล่ะ”
     

    “ฟานี่พี่ขอโทษ แต่เธอก็รู้ว่าพี่จำอะไรไม่ได้ตั้งแต่อุบัติเหตุเมื่อห้าปีก่อน นี่ถ้าพ่อกับเธอไม่บอกพี่ก็ไม่รู้ ไม่รู้อไรเลย”  ยูริได้แต่เพียงขอโทษเท่านั้น ก่อนจะกล่าวต่อว่า “และที่สำคัญตอนนี้พี่มีคนที่พี่รักแล้ว”
     

    “ฟานี่ไม่อยากฟังค่ะ พี่ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ฟานี่ขอตัวกลับก่อนดีกว่า ลานะคะ” ทิฟฟานี่รีบตัดบทก่อนที่ยูริจะกล่าวถึงเจสสิก้าให้เธอช้ำใจอีก
    .

    .

    .

    “เป็นยังไงบ้างเรื่องที่ให้ไปทำ ดีมาก ส่งที่อยู่และเบอร์โทร.มาให้ด้วยนะ แล้วเรื่องนั้นล่ะ ได้แต่อย่านานนักนัก”
     

    “จอง เจสสิก้า แล้วเจอกันนะคะ”

    .

    .

    .

    “อุ๊ย ขอโทษด้วยนะคะ ฉันนี่ซุ่มซ่ามจัง” สิก้าพูด
     

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตายจริง คุณเจสสิก้าใช่ไหมคะ” ฟานี่ทำท่าทางตกใจเล็กน้อย
     

    “ค่ะ เอ่อแต่ฉันจำคุณไม่ได้หรอกนะคะ”
     

    “ก็แน่ล่ะสิคะ ถ้าจำได้พี่ยูริก็ไม่ต้องคอยดูแลคุณแบบนี้หรอกค่ะ”
     

    “คุณรู้จักยูริด้วยเหรอคะ”
     

    “ค่ะ อ่อดิฉันลืมแนะนำตัวค่ะ ดิฉันชื่อทิฟฟานี่เป็นคู่หมั้นของพี่ยูริค่ะ ฉันว่าเราไปหาที่นั่งคุยกันดีไหมคะ”
     

    เมื่อสิก้าได้ยินคำว่าคู่หมั้นก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่เดินตามฟานี่ไป
     

    “เอ่อ เมื่อกี้คุณพูดว่าคู่หมั้นเหรอคะคุณทิฟฟานี่” สิก้ารวบรวมความกล้าถามฟานี่ก่อน
     

    “ใช่ค่ะ แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ ฉันจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับคุณหรอกจนกว่าคุณจะหายดี อืม..ที่จริงเราคือพี่ยูริกับฉันน่ะค่ะตั้งใจจะบอกคุณหลังจากคุณหายดีแล้ว” ฟานี่เห็นสีหน้าตกใจปนสงสัยของสิก้าเธอจึงกล่าวต่อว่า “แต่ว่าเราอาจะต้องแต่งงานกันเร็วๆนี้ก็ได้ค่ะเพราะพ่อของพี่ยูริเร่งเร้าเหลือเกิน แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะฟานี่จะบอกพี่ยูริให้เลื่อนไปก่อนรอพี่หายดีก่อนจะดีกว่า”
     

    “แล้วทำไมยูริถึงต้องหลอกฉันด้วยล่ะคะ เอ่อ..เรื่องที่เป็นแฟนกันน่ะค่ะ” สิก้าถามด้วยความสงสัย
     

    “อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ต้องโทษความขี้เล่นของพี่ยูริเค้าด้วยนะค่ะ เพราะพอคุณฟื้นขึ้นมาทำท่าทางจำอะไรไม่ได้เลยอำพี่เล่นแบบขำๆไงคะ” ฟานี่หยุดสังเกตุอาการสิก้าแล้วพูดต่อ “พอรู้ว่าคุณไม่มีใครเลยเลยสงสารเลยช่วยดูแลน่ะค่ะ และตอนนั้นพี่เค้ากำลังงอลฟานี่ด้วยเลยเป็นแบบนี้แหละค่ะ”
     

    “ขำๆเหรอคะ ฉันไม่ขำด้วยหรอกนะ” สิก้าบอก
     

    “แล้วตอนนี้คุณจำอะไรได้บ้างไหมคะ”
     

    “ก็มีบ้างค่ะ” สิก้าตอบสั้นๆ
     

    “ดีใจจัง หวังว่าคุณจะหายดีเร็วๆนะคะ  เอ่อ..ฟานี่ขอตัวก่อนนะคะพอดีมีนัดต่อน่ะค่ะ”
     

    แล้วทิฟฟานี่ก็จากไปเมื่อทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้ยูริสำเร็จ

    .

    .

    .

    ด้านยูริเมื่อทำงานเสร็จก็รีบกลับบ้านทันทีเพราะทนคิดถึงสิก้าไม่ไหว <แหมข้าวใหม่ปลามันก็แบบนี้แหละน้า> แต่เธอก็ต้องงงสับสิ่งที่เห็นเพราะสิก้ากำลังขนข้าวของของเธอมากองไว้หน้าบ้าน ซวยละยูริ ไม่จริงใช่ไหม สิก้าคงไม่จำได้เร็วแบบนี้มั้ง เอาวะวันนี้เราจะเป็นผู้ร้ายปากแข็งละกัน
     

    “กลับมาแล้วเหรอคะ นี่ของของคุณ เชิญกลับบ้านคุณเถอะค่ะท่านประธาน” สิก้าพูดพร้อมชี้นิ้วไปที่กองสิ่งของ
     

    “เกิดอะไรขึ้นเหรอสิก้า ยูริงงหมดแล้ว” ยูริแทบไม่เชื่อสิ่งที่เห็น สิก้าไล่ออกจากบ้านอ่ะ เรื่องนี้หนักชัวร์
     

    “หรือว่าคุณ เอ่อ..คุณจำอะไรได้เหรอสิก้า” ยูริถามโดยหวังว่าสิก้าจะตอบว่ายังจำไม่ได้
     

    “ทำไมเหรอคะ ถ้าฉันความจำกลับมาแล้วฉันจะไล่คุณออกไปเหรอคะ น่าแปลกนะคะ ไหนว่าเราเป็นแฟนกันไงคะ ทำไมถึงกลัวว่าจะถูกไล่ออกไปล่ะคะ” สิก้าถามด้วยเสียงแข็งๆ
     

    “เอ่อ..ก็อย่างที่บอกไงล่ะว่าเราทะเลาะกันก่อนที่คุณจะความจำเสื่อมไง” ยูริยังไม่ยอมหยุดโกหก
     

    “นี่คุณยังจะโกหกฉันอีกเหรอ ฉันอุตส่าห์ให้โอกาสคคุณสารภาพแล้วนะ” สิก้าต่อว่ายูริ
     

    “จะให้สารภาพเรื่องอะไรล่ะ คุณก็บอกมาสิ” ยูริยังไม่ยอมรับ
     

    “ฮึเป็นอย่างที่คิดไว้เลย คุณคงสนุกมากสินะคะที่โกหกว่าเป็นแฟนฉันน่ะ” สิก้าพูดด้วยความโมโห
     

    ยูริหน้าซีดเผือดเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว เธอจำได้แล้วสินะ หมดกันควอนยูริ
     

    “ถึงกับพูดไม่ออกเลยเหรอคะ นี่ถ้าฉันไม่บังเอิญไปเจอกับคุณทิฟฟานี่ฉันคงจะเป็นคนโง่ให้คุณหลอกตลอดไปเลยสินะ”
     

    เอ๋ ทิฟฟานี่ ประมวลผลๆๆๆๆ “สิก้าใจเย็นก่อนนะ นี่เธอไปพบกับทิฟฟานี่มาเหรอ” ยูริถาม
     

    “พบหรือไม่พบมันจะสำคัญอะไรล่ะ ไอ้คนโกหก <ไอ้ลิงดำขี้โกหก> มีคู่หมั้นแล้วยังจะมาหลอกคนอื่นเค้าอีกออกไปได้แล้ว ไป!!! สิก้าไล่ยูริอีกครั้ง
     

    “สิก้าเธอถูกหลอกแล้วล่ะ เธอไม่รู้หรอกว่าทิฟฟานี่เค้า.. เค้าคงเสียใจน่ะที่ยูริปฏิเสธเรื่องหมั้น” ยูริพยายามพูดโน้มน้าวสิก้าอีกครั้ง แต่สิก้าก็ยังทำหน้าไม่เชื่อที่ยูริพูด
     

    “ยูริยอมรับว่าฟานี่เค้าเป็นคู่หมั้นจริง แต่มันเป็นเรื่องนานมาแล้ว เขาคืออดีต ส่วนสิก้าคือปัจจุบันและอนาคต”
     

    สิก้านิ่งเงียบ ยูริจึงพูดต่อว่า
    “สิก้าเธออาจจกำลังสับสน ถ้าเธอไม่อยากเชื่อฉันเธอก็ไม่ต้องเชื่อก็ได้ แต่เธอควรเขื่อในความรู้สึกของตัวเองนะ ไม่ว่าใครจะพูดอะไรถ้าเธอเชื่อว่ามันจริงมันก็จะจริง แต่ถ้าเธอไม่เชื่อมันก็จะไม่ใช่เรื่องจริง เธอคงต้องการเวลาสินะ งั้นฉันจะไปนั่งรอคำตอบของเธอข้างนอกละกันไม่ต้องรีบหรอก จงคิดให้ดี เชื่อในความรู้สึกของตัวเองเท่านั้นก็พอนะสิก้า” เมื่อยูริพูดเธอก็ออกไปนั่งรอเจสสิก้าที่หน้าบ้าน

     

    สิ่งศักดิ์เอ๋ย พระเจ้าจ๋า ช่วยลูกด้วยเน้อยูรินั่งภาวนาจนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตู
     

    “เข้ามาข้างในสิ สิก้ามีเรื่องจะถาม”
     

    “มองตาฉันแล้วตอบคำถาม” สิก้าพูดขึ้น
     

    “คุณรักฉันไหม” สิก้าเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา
     

    “รักสิ” ยูริก็ตอบอย่างหนักแน่นและตรงไปตรงมาเช่นกัน
     

    เมื่อสิ้นเสียงของยูริทั้งสองต่างจ้องมองกัน ก่อนที่สิก้าจะเอ่ยขึ้นว่า

    “ที่จริงฉันมีคำถามมากมายเหลือเกินที่อยากรู้ แต่นั่นมันเป็นเรื่องรอง ตอนนี้ฉันไม่รู้แล้วว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องโกหก แต่ฉันอยากเชื่อในความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น ฉันเชื่อคุณค่ะยูริ”
     

    “ขอบคุณนะสิก้า”
     

    “ในอดีตไม่ว่าจะเคยเกิดอะไรขึ้นและนับจากวันนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะยอมรับมันเพราะฉันได้เลือกแล้วค่ะ” สิก้าบอกกับยูริ
     

    “ต่อจากนี้ฉันจะไม่ทำให้เธอเสียใจสิก้า ฉันรักเธอนะ” ยูริพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปคว้าสิก้ามากอด

    .

    .

    .

    ถึงแม้คุณจะหลอกฉัน แต่ฉันไนตอนนี้รักคุณค่ะยูริสิก้าคิด เธอยอมเชื่อในสิ่งที่อยากเชื่อแม้ว่าเธอจะต้องเจ็บปวดก็ตาม
     

    ส่วนยูริก็คิดว่า สิก้าฉันขอโทษนะแต่ฉันไม่อาจปล่อยเธอไป ถึงแม้ในอนาคตเธอจะเกลียดฉันก็ตามสิก้า

    .
    .
    .

    "เอ่อ ยูริค่ะ เก็บของเข้าที่ด้วยนะคะ สิก้าเหนื่อยละ เสร็จแล้วมานวดให้ด้วยนะคะ"

    "จ่ะ"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×