คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : สถาบัน Quartz [เทศกาลประลองเวทย์]
เทศกาลประลองเวทย์
เรอาเรีย นาซีอัส Vs. อเมเรีย อนาโตเรีย
ณ สวนหลังโรงเรียน (สถานที่แข่งขัน)
สายลมบางเบาพัดพากลิ่นหอมของบางอย่าง...ร่างบางเจ้าเรือนผมสีชมพูสั้น ผู้เป็นเจ้าของนาม เรอาเรีย นาซีอัส ก้าวเดินมายังสวนหลังโรงเรียนด้วยท่าทีสบาย ๆ เธอใช้ดวงตาสีเดียวกับเส้นผมกวาดมองไปทั่วบริเวณ ก่อนจะส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับเด็กสาวอายุ 13 ปี เจ้าของเรือนผมยาวสีเขียวน้ำทะเลที่พึ่งก้าวเดินเข้ามา
“สวัสดีค่ะ” ร่างบางส่งเสียงทักด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่อเมเรีย อานาโตเรียก็ส่งยิ้มตอบกลับเธอ เด็กสาวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ทำให้ทั้งสองอยู่ในท่าประจันหน้ากัน ก่อนเรอาเรียจะกวาดสายตาไปทั่วบริเวณอีกครั้ง
“คงไม่มีกรรมการหรอกค่ะ มาเริ่มกันเลยดีไหมคะ?” เสียงของอเมเรียที่เอ่ยขัดสายตาเรียกให้เธอหันมามองเด็กสาว ร่างบางคลี่ยิ้มออกมาอีกครั้ง ก่อนเอ่ย
“ได้เลยค่ะ”
ฟิ้ว...
สายลมกำลังโบกสะบัด ทันทีที่เรอาเรียสะบัดมือไปเบื้องหน้า ขลุ่ยไม้เล่มเรียวจากไม้เนื้อดีก็ปรากฏขึ้นมาบนมือ เช่นเดียวกับอเมเรียที่เรียกดาบเวทย์มาไว้ในมือ
...
ท่ามกลางความเงียบ เรอาเรียกำลังมองดูท่าทีคนตรงหน้าอย่างชั่งใจ จากข้อมูลที่ไปหามาเธอคนนี้เป็นนักบวช ที่เธอไม่รู้ว่าจะเข้ามาโจมตีด้วยไม้ไหน
เอาเถอะ เริ่มก่อนได้เปรียบนะ
ร่างบางคิดอย่างไม่ต้องการเสียเวลากับเกมจ้องตาไปมากกว่านี้ เรอาเรียยกขลุ่ยไม้ขึ้นจรดริมฝีปาก เปลือกตาบางปิดลงมาอย่างไม่เกรงกลัวการโจมตีของคนตรงหน้าที่เห็นเธอเปิดช่องว่างเต็มไปหมด
ควับ!
เสียงสายลมดังมีดคมกริบแหวกอากาศมาเบื้องหน้าไม่ได้ทำให้เธอที่ได้ยินอย่างชัดเจนคิดหลบ เรอาเรียสะดุ้งน้อยกับความแสบที่เกิดขึ้นบนต้นแขนซ้าย ก่อนเด็กสาวจะกลั้นใจเริ่มบรรเลงเพลง...
ควับ!
เสียงเพลงเอื่อย ๆ ไร้ท่วงทำนองที่ชัดเจนดังขึ้นอย่างแผ่วเบาท่ามกลางสายลมมีดจากดาบเวทย์ของอเมเรียที่ฟาดฟัน เจ้าของเรือนผมสีเขียวน้ำทะเลมองคนตรงหน้าที่รับการโจมตีอย่างไม่คิดหลบด้วยความสนเท่ห์ มือเรียวตวัดดาบสร้างคมมีดสายลมฟาดฟันคนตรงหน้าต่อไปอย่างคิดลองเชิง หากบาดแผลที่เกิดมากขึ้นเรื่อย ๆ กลับไม่ได้ทำให้เธอคนนี้คิดลืมตาขึ้นเพื่อหลบ นั้นทำให้อเมเรียขมวดคิ้ว ก่อนตัดสินใจใช้ความเร็วอ้อมไปเอาดาบพาดคอร่างบางที่หลับตาบรรเลงบทเพลงอยู่
“ยอมแพ้เถอะค่ะ” เด็กสาวเอ่ยอย่างไม่คิดอยากทำให้ใครบาดเจ็บ หากร่างของคนที่ถูกดาบเธอจ่อคอกลับไร้การตอบรับใด ๆ นอกจากบรรเลงบทเพลงต่อไป นั้นทำให้อเมเรียมองด้านหลังคนตรงหน้าอย่างนึกลำบากใจ เธอถือดาบจ่อคออย่างมั่นคงก่อนเดินวกมาด้านหน้า และนั้นทำให้เด็กสาวกรีดร้องสุดเสียง
กรี๊ดดดดดด~!
ครืน
เมื่อคนตรงหน้าตอนนี้มีเลือดไหลออกมาจากทวารทั้ง 7!
“อะไรกัน...” อมเรียเอ่ยอย่างสับสน สวนที่เคลื่อนที่ได้แห่งนี้ทำให้เธอเห็นภาพของคู่แข่งตนที่ค่อย ๆ ล้มลงด้วยเลือดที่อาบชโลมทั่วร่าง ก่อนเลือนหายไปหลังต้นไม้ ต้นหญ้าที่บดบัง เด็กสาวรู้สึกมือตัวเองสั่น เธอมั่นใจว่าไม่ได้ทำการโจมตีถึงตาย ก่อนเสียงอะไรบางอย่างที่แม้แผ่วเบาหากก็ยังบรรเลงอยู่จะทำให้เด็กสาวสะดุ้ง
“เสียงขลุ่ย!” อเมเรียเอ่ยด้วยน้ำเสียงคล้ายจะตะโกน เสียงขลุ่ยยังคงบรรเลง ทั้ง ๆ ที่คนบรรเลงดูยังไงก็ตายไปแล้ว!!
“นี่มันอะไรกัน...” เด็กสาวพึมพำอย่างสับสน ก่อนเสียงแผ่วเบาที่ดังขึ้นข้างหูจะทำให้เธอสะดุ้ง
“มันคือความฝันไง...”
เพล้ง!
คล้ายเสียงอะไรบางอย่างแตกกระจายลงตรงหน้า ดวงตาน้ำเงินของอเมเรียมองไปรอบ ๆ ตัวอย่างมึนงง และนั้นทำให้เธอได้เห็นร่างบางของเรอาเรียที่ถือดาบของเธอ จ่อคอเธอเองอยู่
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?” เรอาเรียถามอย่างนึกเป็นห่วงจริง ๆ ที่แขนซ้ายเธออาบชโลมไปด้วยเลือดที่เกิดจากการโจมตีของคนตรงหน้าที่แท้จริงเพียงครั้งเดียว เพราะภาพที่เหลือที่เด็กสาวตรงหน้าเห็น เกิดจากการโดนมนตราของบทเพลงเธอ
บทเพลงลวงตาใจ บทเพลงทมิฬที่สี่...
“นี่มันอะไรกัน” อเมเรียถามด้วยน้ำเสียงคล้ายยังสับสน ในขณะที่คนทำให้เห็นภาพก็ทำได้เพียงส่งยิ้มเจื่อนให้อย่างไม่รู้จะตอบอะไรดี
“เอาเป็นว่ายอมแพ้เถอะค่ะ” ร่างบางว่า พร้อมดันดาบที่จ่อคอเด็กสาวอยู่เข้าไปใกล้กว่าเดิม นั้นทำให้อเมเรียถอนหายใจ แล้วพยักหน้ายอมแพ้แม้ยังจะงง ๆ กับการต่อสู้ที่ดูจะรวดเร็วเหลือเกิน
ครืน...
เสียงสวนทำการเคลื่อนที่อีกครั้ง ทำให้เรอาเรียที่ยืนอยู่อย่างไม่มั่นคงเซล้มลงพร้อมปล่อยดาบหลุดมือ และในวินาทีนั้นมือของอเมเรียก็เอื้อมมาหยิบ ก่อนแทงใส่คนตรงหน้ามิดด้ามดาบอย่างรวดเร็ว!
“อ่ะ...”
เรอาเรียหลุดเสียงร้องได้เพียงเท่านั้น ดวงตาคู่สวยสีชมพูก็เบิกค้างแล้วไม่มีประกายของชีวิตอีกเลย เด็กสาวเจ้าของคมดาบปลิดชีพยืนนิ่ง งุนงงสุดชีวิตกับสิ่งที่ทำลงไปเมื่อเธอกล้าสาบานว่าดาบเมื่อครู่ เธอแทงลงไปอย่างไม่รู้สึกตัว!
“อะไรกัน...” อเมเรียพึมพำอย่างไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น หากร่างศพของคนตรงหน้าก็ยิ่งย้ำความจริง
เธอ... ฆ่าคนหรือ????
ก๊า ก๊า ~
อีกาส่งเสียงร้องดังก้องทั่วสวนอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ก้อนเมฆสีดำทะมึนเข้าครอบครองทั่วท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว อเมเรียที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนั่งมองอย่างไม่ทันตั้งตัว และไม่ทันเห็นมือของเรอาเรียที่ขยับอีกครั้ง!
....♪
เสียงเพลงบรรเลงขึ้นอย่างช้า ๆ ปลุกอเมเรียจากภวังค์ เธอมองไปรอบด้านอย่างนึกแปลกใจ ก่อนเด็กสาวที่สติกำลังแตกกระเจิงจะหลุดเสียงร้องอีกครั้ง
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด....
...
เรอาเรียมองร่างของเด็กสาวเจ้าของเรือนผมยาวสีเขียวน้ำทะเลที่นอนหลับสลบอยู่ตรงหน้าด้วยความเหนื่อยอ่อน ร่างบางค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งบนพื้นหญ้าสีเขียว ในมือถือขลุ่ยไม้ก่อนนึก
บทเพลงที่เธอบรรเลงมีเพียงเพลงเดียวจริง ๆ... บทเพลงลวงตาใจหรอ? เธอไม่เคยได้ยินชื่อนั้นเลย ในเมื่อบทเพลงทมิฬก็คือบทเพลงทมิฬ ดังนั้นบทเพลงที่เธอบรรเลงตลอดการแข่งขันเมื่อครู่คือ
บทเพลงทมิฬที่ 4 เท่านั้น
ดวงตาสีชมพูเลื่อนไปมองคนตรงหน้า ครั้งนี้เธอถือว่าโชคดีได้คู่แข่งเป็นนักบวช เพราะบาดแผลของการฆ่าคนตายกับมือคงเป็นอะไรที่ร้ายแรงมาก แต่ในครั้งหน้า... เธอคงเหนื่อยกว่านี้มากจนเกินจะเอ่ยจริง ๆ
จบ
แถมท้าย ไม่รู้ว่าจะงงหรือเปล่า แต่สิ่งที่เรอาเรียใช้ในการต่อสู้คือการสะกดจิตนะคะ ทำให้เห็นภาพที่คิดว่าจะเกิดบาดแผลในใจ แล้วทำให้กลายเป็นฝันซ้อนฝัน สรุปว่าเรื่องเกิดขึ้นจริง ๆ มีแค่ช่วงแรกก่อนเริ่มบรรเลงเพลง กับตอนสุดท้ายที่อเมเรียสลบไปแล้วเท่านั้น
ความคิดเห็น