ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Secret room...ห้องแห่งความลับ

    ลำดับตอนที่ #7 : สถาบัน Quartz [เทศกาลประลองเวทย์]

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 52



    เทศกาลประลองเวทย์

    เรอาเรีย นาซีอัส Vs. อเมเรีย อนาโตเรีย

     

     

         ณ สวนหลังโรงเรียน (สถานที่แข่งขัน)

     

         สายลมบางเบาพัดพากลิ่นหอมของบางอย่าง...ร่างบางเจ้าเรือนผมสีชมพูสั้น ผู้เป็นเจ้าของนาม เรอาเรีย นาซีอัส ก้าวเดินมายังสวนหลังโรงเรียนด้วยท่าทีสบาย ๆ เธอใช้ดวงตาสีเดียวกับเส้นผมกวาดมองไปทั่วบริเวณ ก่อนจะส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับเด็กสาวอายุ 13 ปี เจ้าของเรือนผมยาวสีเขียวน้ำทะเลที่พึ่งก้าวเดินเข้ามา

         สวัสดีค่ะร่างบางส่งเสียงทักด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่อเมเรีย อานาโตเรียก็ส่งยิ้มตอบกลับเธอ เด็กสาวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ทำให้ทั้งสองอยู่ในท่าประจันหน้ากัน ก่อนเรอาเรียจะกวาดสายตาไปทั่วบริเวณอีกครั้ง

         คงไม่มีกรรมการหรอกค่ะ มาเริ่มกันเลยดีไหมคะ?เสียงของอเมเรียที่เอ่ยขัดสายตาเรียกให้เธอหันมามองเด็กสาว ร่างบางคลี่ยิ้มออกมาอีกครั้ง ก่อนเอ่ย

         ได้เลยค่ะ

     

         ฟิ้ว...

         สายลมกำลังโบกสะบัด ทันทีที่เรอาเรียสะบัดมือไปเบื้องหน้า ขลุ่ยไม้เล่มเรียวจากไม้เนื้อดีก็ปรากฏขึ้นมาบนมือ เช่นเดียวกับอเมเรียที่เรียกดาบเวทย์มาไว้ในมือ

         ...

         ท่ามกลางความเงียบ เรอาเรียกำลังมองดูท่าทีคนตรงหน้าอย่างชั่งใจ จากข้อมูลที่ไปหามาเธอคนนี้เป็นนักบวช ที่เธอไม่รู้ว่าจะเข้ามาโจมตีด้วยไม้ไหน

         เอาเถอะ เริ่มก่อนได้เปรียบนะ

         ร่างบางคิดอย่างไม่ต้องการเสียเวลากับเกมจ้องตาไปมากกว่านี้ เรอาเรียยกขลุ่ยไม้ขึ้นจรดริมฝีปาก เปลือกตาบางปิดลงมาอย่างไม่เกรงกลัวการโจมตีของคนตรงหน้าที่เห็นเธอเปิดช่องว่างเต็มไปหมด

         ควับ!

         เสียงสายลมดังมีดคมกริบแหวกอากาศมาเบื้องหน้าไม่ได้ทำให้เธอที่ได้ยินอย่างชัดเจนคิดหลบ เรอาเรียสะดุ้งน้อยกับความแสบที่เกิดขึ้นบนต้นแขนซ้าย ก่อนเด็กสาวจะกลั้นใจเริ่มบรรเลงเพลง...

         ควับ!

         เสียงเพลงเอื่อย ๆ ไร้ท่วงทำนองที่ชัดเจนดังขึ้นอย่างแผ่วเบาท่ามกลางสายลมมีดจากดาบเวทย์ของอเมเรียที่ฟาดฟัน เจ้าของเรือนผมสีเขียวน้ำทะเลมองคนตรงหน้าที่รับการโจมตีอย่างไม่คิดหลบด้วยความสนเท่ห์ มือเรียวตวัดดาบสร้างคมมีดสายลมฟาดฟันคนตรงหน้าต่อไปอย่างคิดลองเชิง หากบาดแผลที่เกิดมากขึ้นเรื่อย ๆ กลับไม่ได้ทำให้เธอคนนี้คิดลืมตาขึ้นเพื่อหลบ นั้นทำให้อเมเรียขมวดคิ้ว ก่อนตัดสินใจใช้ความเร็วอ้อมไปเอาดาบพาดคอร่างบางที่หลับตาบรรเลงบทเพลงอยู่

         ยอมแพ้เถอะค่ะเด็กสาวเอ่ยอย่างไม่คิดอยากทำให้ใครบาดเจ็บ หากร่างของคนที่ถูกดาบเธอจ่อคอกลับไร้การตอบรับใด ๆ นอกจากบรรเลงบทเพลงต่อไป นั้นทำให้อเมเรียมองด้านหลังคนตรงหน้าอย่างนึกลำบากใจ เธอถือดาบจ่อคออย่างมั่นคงก่อนเดินวกมาด้านหน้า และนั้นทำให้เด็กสาวกรีดร้องสุดเสียง

         กรี๊ดดดดดด~!

         ครืน

        เมื่อคนตรงหน้าตอนนี้มีเลือดไหลออกมาจากทวารทั้ง 7!

        อะไรกัน...อมเรียเอ่ยอย่างสับสน สวนที่เคลื่อนที่ได้แห่งนี้ทำให้เธอเห็นภาพของคู่แข่งตนที่ค่อย ๆ ล้มลงด้วยเลือดที่อาบชโลมทั่วร่าง ก่อนเลือนหายไปหลังต้นไม้ ต้นหญ้าที่บดบัง เด็กสาวรู้สึกมือตัวเองสั่น เธอมั่นใจว่าไม่ได้ทำการโจมตีถึงตาย ก่อนเสียงอะไรบางอย่างที่แม้แผ่วเบาหากก็ยังบรรเลงอยู่จะทำให้เด็กสาวสะดุ้ง

         เสียงขลุ่ย!” อเมเรียเอ่ยด้วยน้ำเสียงคล้ายจะตะโกน เสียงขลุ่ยยังคงบรรเลง ทั้ง ๆ ที่คนบรรเลงดูยังไงก็ตายไปแล้ว!!

         นี่มันอะไรกัน...เด็กสาวพึมพำอย่างสับสน ก่อนเสียงแผ่วเบาที่ดังขึ้นข้างหูจะทำให้เธอสะดุ้ง

        มันคือความฝันไง...

     

         เพล้ง!

         คล้ายเสียงอะไรบางอย่างแตกกระจายลงตรงหน้า ดวงตาน้ำเงินของอเมเรียมองไปรอบ ๆ ตัวอย่างมึนงง และนั้นทำให้เธอได้เห็นร่างบางของเรอาเรียที่ถือดาบของเธอ จ่อคอเธอเองอยู่

        ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?เรอาเรียถามอย่างนึกเป็นห่วงจริง ๆ ที่แขนซ้ายเธออาบชโลมไปด้วยเลือดที่เกิดจากการโจมตีของคนตรงหน้าที่แท้จริงเพียงครั้งเดียว เพราะภาพที่เหลือที่เด็กสาวตรงหน้าเห็น เกิดจากการโดนมนตราของบทเพลงเธอ

         บทเพลงลวงตาใจ บทเพลงทมิฬที่สี่...

         นี่มันอะไรกันอเมเรียถามด้วยน้ำเสียงคล้ายยังสับสน ในขณะที่คนทำให้เห็นภาพก็ทำได้เพียงส่งยิ้มเจื่อนให้อย่างไม่รู้จะตอบอะไรดี

         เอาเป็นว่ายอมแพ้เถอะค่ะร่างบางว่า พร้อมดันดาบที่จ่อคอเด็กสาวอยู่เข้าไปใกล้กว่าเดิม นั้นทำให้อเมเรียถอนหายใจ แล้วพยักหน้ายอมแพ้แม้ยังจะงง ๆ กับการต่อสู้ที่ดูจะรวดเร็วเหลือเกิน

         ครืน...

         เสียงสวนทำการเคลื่อนที่อีกครั้ง ทำให้เรอาเรียที่ยืนอยู่อย่างไม่มั่นคงเซล้มลงพร้อมปล่อยดาบหลุดมือ และในวินาทีนั้นมือของอเมเรียก็เอื้อมมาหยิบ ก่อนแทงใส่คนตรงหน้ามิดด้ามดาบอย่างรวดเร็ว!

         อ่ะ...

         เรอาเรียหลุดเสียงร้องได้เพียงเท่านั้น ดวงตาคู่สวยสีชมพูก็เบิกค้างแล้วไม่มีประกายของชีวิตอีกเลย เด็กสาวเจ้าของคมดาบปลิดชีพยืนนิ่ง งุนงงสุดชีวิตกับสิ่งที่ทำลงไปเมื่อเธอกล้าสาบานว่าดาบเมื่อครู่ เธอแทงลงไปอย่างไม่รู้สึกตัว!

         อะไรกัน...อเมเรียพึมพำอย่างไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น หากร่างศพของคนตรงหน้าก็ยิ่งย้ำความจริง

         เธอ... ฆ่าคนหรือ????

         ก๊า ก๊า ~

         อีกาส่งเสียงร้องดังก้องทั่วสวนอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ก้อนเมฆสีดำทะมึนเข้าครอบครองทั่วท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว อเมเรียที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนั่งมองอย่างไม่ทันตั้งตัว และไม่ทันเห็นมือของเรอาเรียที่ขยับอีกครั้ง!

         ....

         เสียงเพลงบรรเลงขึ้นอย่างช้า ๆ ปลุกอเมเรียจากภวังค์ เธอมองไปรอบด้านอย่างนึกแปลกใจ ก่อนเด็กสาวที่สติกำลังแตกกระเจิงจะหลุดเสียงร้องอีกครั้ง

         กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด....

     

         ...

         เรอาเรียมองร่างของเด็กสาวเจ้าของเรือนผมยาวสีเขียวน้ำทะเลที่นอนหลับสลบอยู่ตรงหน้าด้วยความเหนื่อยอ่อน ร่างบางค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งบนพื้นหญ้าสีเขียว ในมือถือขลุ่ยไม้ก่อนนึก

         บทเพลงที่เธอบรรเลงมีเพียงเพลงเดียวจริง ๆ... บทเพลงลวงตาใจหรอ? เธอไม่เคยได้ยินชื่อนั้นเลย ในเมื่อบทเพลงทมิฬก็คือบทเพลงทมิฬ ดังนั้นบทเพลงที่เธอบรรเลงตลอดการแข่งขันเมื่อครู่คือ

         บทเพลงทมิฬที่ 4 เท่านั้น

         ดวงตาสีชมพูเลื่อนไปมองคนตรงหน้า ครั้งนี้เธอถือว่าโชคดีได้คู่แข่งเป็นนักบวช เพราะบาดแผลของการฆ่าคนตายกับมือคงเป็นอะไรที่ร้ายแรงมาก แต่ในครั้งหน้า... เธอคงเหนื่อยกว่านี้มากจนเกินจะเอ่ยจริง ๆ

     

    จบ

     

     

         แถมท้าย ไม่รู้ว่าจะงงหรือเปล่า แต่สิ่งที่เรอาเรียใช้ในการต่อสู้คือการสะกดจิตนะคะ ทำให้เห็นภาพที่คิดว่าจะเกิดบาดแผลในใจ แล้วทำให้กลายเป็นฝันซ้อนฝัน สรุปว่าเรื่องเกิดขึ้นจริง ๆ มีแค่ช่วงแรกก่อนเริ่มบรรเลงเพลง กับตอนสุดท้ายที่อเมเรียสลบไปแล้วเท่านั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×