ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Secret room...ห้องแห่งความลับ

    ลำดับตอนที่ #10 : สถาบัน Quartz [เทศกาลประลองเวทย์ รอบสอง]

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 52



    เทศกาลประลองเวทย์

    เรอาเรีย นาซีอัส Vs. เอลแซ็ค ซีสตริงค์

     

                    ณ วิหารเซเรนัส (สถานที่แข่งขัน)

     

                    ตึก ตัก ตึก ตัก ตุบ...

                    เรอาเรียหยุดฝีเท้าที่ก้าวเดิน เมื่อสถานที่ที่อยู่เบื้องหน้าเธอในตอนนี้คือภาพวิหารสีขาวขนาดใหญ่ ซึ่งสลักลวดลายเป็นรูปเทพต่าง ๆ มากมายแล้ว

                    สวย...เด็กสาวหลุดอุทานออกมาเพียงแค่นั้น ดวงตาสีชมพูเปล่งประกายชื่นชมสถาปัตยกรรมตรงหน้า ก่อนคิ้วเรียวจะขมวดเข้าหากันเมื่อนึกได้ว่าเธอต้องใช้ที่นี้แข่งขัน

                    แบบนี้... วิหารไม่พังแย่หรอ?เรอาเรียพึมพำกับตัวเอง ในใจนึกหวั่นค่าเสียหายที่อาจจะตามมาเป็นหลักที่เธอไม่มีเงินจ่าย

                   

                    ในที่สุดเด็กสาวก็ก้าวเข้ามาในตัววิหารหลังจากเสียเวลาทำใจพักหนึ่ง ภายในนั้นประดับตกแต่งอย่างสวยงามยิ่งกว่าภายนอกจนเธอเผลอยืนตะลึงอีกรอบ บรรยากาศความเงียบสงบที่ไร้ผู้คนทำให้เรอาเรียรู้สึกจิตใจสงบลงอย่างน่าประหลาด

                    สวัสดีครับ...เสียงทักที่ดังมาจากด้านหลังทำเอาเธอสะดุ้ง เมื่อเด็กสาวจับสัมผัสไม่ได้เลย ร่างบางตัดสินใจหันหลังกลับไปพร้อมรอยยิ้มสู้ ก่อนเอ่ยทักกลับ

                    สวัสดีค่ะเธอเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม รับรู้ถึงบรรยากาศกดดันบางอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เด็กสาวตวัดมือขลุ่ยและฟลุตก็ถูกถืออยู่ในมือทั้งสองทันที

                    เห แล้วจะบรรเลงยังไงครับนั้นเอลแซ็คถามด้วยท่าทีสนใจ เขาทำท่าสบาย ๆ ไม่ทุกข์ร้อนกลับการต่อสู้ในครั้งนี้แม้แต่น้อย

                    นั้นสินะคะร่างบางเอ่ยกลับ รอยยิ้มยังคงถูกยกมาประดับใบหน้าทั้งคู่ ขณะที่ขลุ่ยและฟลุตยังถูกกำในมือนิ่งดังเดิม

                    เอ่อ...นั้นเรามาสู้กันเลยละกันครับเด็กหนุ่มว่า ใบหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง บรรยากาศกดดันจนเหงื่อเย็น ๆ ไหลมาตามไรผม

                    ฉับ!

                    มีดสั้นตัดผ่านไปปอยผมเธอ ห่างลำคอไปเพียงหนึ่งมิลลิเมตร เรอาเรียเบิกตาโผล่ง มองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเขาเอามีดมาจากไหน ร่างบางฉีกยิ้มเครียด หนึ่งขลุ่ยจากมือซ้ายถูกโยนขึ้นฟ้า โดยมีสายลมทำให้มันลอยอยู่ได้ ขณะที่ฟลุตเงินจากมือขวาถูกยกแนบริมฝีปาก

                    ผมให้คุณเริ่มบรรเลงไม่ได้หรอกครับเสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู หากคราวนี้เรอาเรียที่ตั้งสติมั่นแล้วย่อตัวหลบฝ่ามือที่กำลังจะฟาดท้ายทอยเธออย่างรวดเร็ว เสียงขลุ่ยเริ่มบรรเลงออกมาเอื่อย ๆ ด้วยท่วงทำนองที่ไร้ความเป็นระเบียบ

                    ปี๊ด!

                    เสียงเพี้ยนดังขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อขายาวยังเตะตวัดขาเธอให้ร่างบางล้มลง เรอาเรียเอาขลุ่ยออก ดวงตาคู่กลมจับจ้องมองไปยังร่างสูงที่บัดนี้เรียกธนูของตัวเองออกมาแล้ว

                    รีบมาทำให้จบดีกว่าครับเอลแซ็คยังเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อนตามเดิม ขณะที่เด็กสาวก็ยันกายตัวเองลุกขึ้น แขนข้างหนึ่งที่แอบไพล่ไปข้างหลังขยับนิ้วไปมาดั่งบังคับอะไรบางอย่างอยู่

                    คันธนูถูกเล็งมาทางเธอ ก่อนลูกธนูสายฟ้าจะพุ่งมาอย่างรวดเร็ว

                    ...เรอาเรียฉีกยิ้มอย่างไม่คิดหลบ นั้นทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกติดใจ ลูกธนูเฉี่ยวหัวไหล่

    และขาเธอไป เดาเจตนาได้ชัดว่าไม่ได้ต้องการให้เธอบาดเจ็บ

                    ใจดีจังเด็กสาวเอ่ย ดวงตาสีชมพูพราวระริก ก่อนเสียงบรรเลงดนตรีจะดังขึ้นทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้ทำอะไร

                    ฟลุต!” เอลแซ็คตะโกนออกมาเมื่อคาดการได้ ดวงตาสีเทากวาดมองไปรอบเพื่อมองหาที่มา แต่กระนั้นก็ไม่ปรากฏเครื่องดนตรีที่ว่าตรงไหนเลย

                    เด็กสาวคลี่ยิ้มเมื่อเห็นท่าทีนั้น ก่อนเธอจะต้องแปรเปลี่ยนยิ้มตัวเองให้เป็นรอยยิ้มเครียดอีกครั้ง เมื่อเลือดที่ไหลอกมาจากหัวไหล่เธอเป็นสีม่วง!

                    อย่าลืมสิครับ... ว่าผมเรียนสาขาอะไรเด็กหนุ่มเอ่ยด้วยท่าทีสงบตามเดิม คล้ายสิ่งที่แสดงออกเมื่อครู่เป็นการเสแสร้ง

                    เรอาเรียยังคงมีรอยยิ้มประดับหน้า ก่อนเธอจะเอ่ยบ้าง

                    นั้นก็อย่าลืมเหมือนกันสิ ว่าเราเรียนสาขาอะไร ร่างบางจางหายไปดั่งหมกควันทันทีที่เอ่ยเสร็จ นั้นทำให้เด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างเริ่มเครียดจริง ๆ ดวงตาตวัดมองไปทั่วเมื่อหาร่างบาง หากเสียงเพลงที่บรรเลงอยู่ก็ช่างรบกวนประสาทเขาจริง

                    ถ้าอย่างนั้น... ผมคงต้องทดสอบกับตัวเอง ว่านี้คือของจริงของปลอม เอลแซ็คว่าด้วยรอยยิ้มนุ่ม มีดสั้นสลักลายวิจิตรถูกยกขึ้นกรีดข้อมือตัวเองบาง ๆ ทันที

                    เพล้ง!

                    เสียงของตกแตกดังขึ้นพร้อมแสงสว่างสีขาวที่เรียกให้เด็กหนุ่มหรี่ตา ก่อนภาพที่เห็นเบื้องหน้าอีกครั้งจะเป็นร่างของเรอาเรียที่ลืมตาบรรเลงฟลุตอยู่อย่างไม่ชอบใจนัก

                    เพราแบบนี้ไง... ถึงไม่อยากสู้กับสาขาพวกนี้เด็กสาวพึมพำกับตัวเอง เธอตวัดมือเรียกฟลุตให้หายไป แบบนี้ใช้กลลวงเดิม ๆ ไปก็คงไม่มีทางชนะ

                    พิษคำเอ่ยจากเด็กหนุ่มทำให้ร่างบางมองหัวไหล่ตัวเอง ก่อนตอบ

                    ตอนนั้นคือภาพลวงตาไปแล้วเธอเอ่ยตอบอย่างเซ็ง ๆ

                    หรอครับเอลแซ็ครับคำด้วยท่าทางผิดหวังน้อย ๆ ก่อนเอ่ยขึ้นมาใหม่

                    แบบนี้ก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่สินะครับ

                    เรอาเรียเผยรอยยิ้มกับคำพูดนั้น

                    นั้นสินะ

                    ไลท์นิ่ง สไตรค์!! มนตร์เรียกฟ้าผ่าถูกเอ่ยทันทีหลังจากสัญญาณการต่อสู้ใหม่เริ่มขึ้น เรอาเรียกระโดดหลบอย่างไม่ประมาท เธอพึมพำอะไรบางอย่าง ดาบเล่มงามก็ปรากฏในมือ

                    ไม่ยักรู้ว่าคุณมีดาบ เด็กหนุ่มว่าอย่างสงสัย ในขณะที่เรอาเรียขยับดาบรุกอย่างรวดเร็ว

                    นั้นสินะ

                    วืด

                    เด็กสาวย่อตัวหลบเอลแซ็คที่ใช้ความเร็วอ้อมไปข้างหลังเธออีกครั้งอย่างรวดเร็ว คราวนี้เธอดีดขาตัวเองให้พุ่งไปข้างหน้าด้วยเพื่อไม่โดนเตะขาเหมือนเก่า

                    ไม่เร็วพอนะครับเด็กหนุ่มว่า เมื่อเขาพาร่างตัวเองมาดักหน้าเธอได้อย่างง่ายดาย

                    ก็คิดอย่างนั้น...เรอาเรียตอบกลับ และเพราะคิดอย่างนั้น เลยไม่คิดทำไง

                    ฉับพลัน ร่างของเธอก็จางหายไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

                    เอาล่ะ... ที่นี้ผมโดนมนตร์ตอนไหนเนี้ยเด็กหนุ่มว่าด้วยท่าทีเซ็ง ๆ อีกครั้ง เขากลอกลูกตาไปมาอย่างไม่หวังจะเจอร่างเธอ แต่กลับต้องขมวดคิ้วเมื่อตอนนี้ร่างเด็กสาวไปนั่งอยู่บนแกรนเปียโนของวิหารเรียบร้อยแล้ว

                    ♪♫~

                    เสียงเพลงบรรเลงขึ้นอย่างเศร้า ๆ เอลแซ็คยกธนูเล็งไปทางเธออย่างไม่ประมาท

                    ออกมาดีกว่าครับ... ผมไม่อยากทำของมีค่าพังหรอกนะเด็กหนุ่มเอ่ย ทั้ง ๆ ที่ สายฟ้าของเขาทำพื้นเป็นรูหลายรูแล้ว

                    ช่วยไม่ได้นะ เฮ้อเอลแซ็คถอนหายใจ เมื่อเห็นร่างของคนที่เขาเตือนยังฝืนเล่นเปียโนต่อไป

                    ไลท์นิ่ง สไตรค์ !!”

                    ตูม!!

                    แกรนเปียโนหลังงามพังเป็นเศษชิ้นส่วนทันที ขณะที่ร่างของเรอาเรียซึ่งโดนแรงกระแทกก็กระเด็นไปอีกทาง

                    ไลท์นิ่ง เชน!! เด็กหนุ่มร่ายเวทย์ต่ออย่างไม่คิดประมาท ประมาณว่าท่าจะเป็นตัวปลอมก็ขอให้หายไปก่อนเขาจะเดินไปถึงเลยละกัน

                    แต่คราวนี้ร่างของเรอาเรียกลับไม่หายไป เมื่อเอลแซ็คเดินไปดูถึงที่ ก็ดูเหมือนเด็กสาวจะสลบไปแล้วด้วยซ้ำ

                    นี่เราต้องกรีดข้อมืออีกไหมนิเด็กหนุ่มพึมพำอย่างไม่ค่อยอยากเชื่อ ดวงตามองดูข้อมือตัวเองที่เลือดพึ่งหยุดไหลไปไม่นาน หากภาพโฮโลโปรแกรมที่ปรากฏขึ้นก็ทำให้เอาเขาขมวดคิ้ว

                    ผู้ชนะการแข่งขัน คู่ที่ 2 เอลแซ็ค ซีสตริงค์ ค่ะ!!” ผอ.ซิลวิเลียเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม ทำเอาเขาต้องก้มลงไปมองร่างที่สลบไปของเด็กสาวอีกที ก่อนยักไหล่

                    คงชนะจริง ๆ แล้วมั้ง? เด็กหนุ่มว่า เขาตั้งท่าจะอุ้มร่างของเรอาเรียไปนอนพักดี ๆ อย่างไม่ให้ดูใจร้ายไป หากทันทีที่ก้มลง เด็กหนุ่มก็รู้สึกเวียนหัวอย่างประหลาด

                    เหอะ... คิดแล้ว... มันยังไม่จบ...เอลแซ็คเอ่ยอย่างอ่อนแรง ก่อนร่างของเขาจะสลบลงไปทันที

     

                    แปะ แปะ แปะ ๆ

                    ทันทีที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งแรกที่เอลแซ็คได้ยินคือเสียงปรบมือ ดวงตาที่พึ่งได้รับแสงหรี่ลงน้อย ๆ เพื่อปรับสายตา ก่อนร่างของเรอาเรียคือสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า

                    นี่มัน... เด็กหนุ่มเอ่ยได้แค่นั้น เมื่อพบว่าตัวเองขยับแขนไม่ได้เนื่องจากถูกโซนเงินรัดอยู่อย่างแน่นหนา

                    30 นาที... คือเวลาที่คุณมีสติอยู่โดยโดนมนตร์จากเราค่ะ คุณโจมตีอย่างรุนแรงซะจนเรายังเครียดเลยว่าคุณจะสลบไปก่อนเราหมดแรงไหมเรอาเรียว่าเสียงแผ่ว ตามลำตัวมีรอยแผลเล็ก ๆ จากการหลบสะเก็ดหินที่เกิดจากแรงระเบิด

                    นี่เป็นความจริงใช่ไหมเอลแซ็คถามอย่างยังไม่แน่ใจ

                    อา... คราวนี้เป็นความจริงแน่นอนค่ะ เด็กสาวตอบกลับ เธอเดินเข้ามาใกล้ร่างเด็กหนุ่มที่ถูกมัดติดกับเก้าอี้ ในมือถือกุญแจเงินเพื่อนำมาปลดโซ่

                    แล้วการแข่ง...

                    เราพึ่งถูกประกาศชนะไปเมื่อ 5 นาทีที่แล้วค่ะ คุณสลบไปแค่แปปเดียวเองเรอาเรียตอบโดยไม่รอฟังคำถามให้จบ มือเรียวขยับไขกุญแจ และทันทีที่โซ่ถูกปลด เด็กสาวก็ยื่นมือไปข้างหน้า

                    ยินดีที่ได้สู้ด้วยค่ะ

                    อ่า...ครับเอลแซ็คยื่นมือไปจับอย่างงง ๆ และยังคงมึนอยู่จนเด็กสาวเดินไปไกลแล้วจึงรู้ตัว ดูท่าตอนนี้เขาคงมึนว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริง เรื่องลวงไปอีกนาน

     

    จบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×