ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Secret room...ห้องแห่งความลับ

    ลำดับตอนที่ #2 : F.F. :: หากโลกนี้มีเพียงราตรีกาล [อินโทร]

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 52


    Intro

     

                    ท่ามกลางม่านหมอกสีขาวที่เลื่อนลอย...

                    ที่นี่คือ... ที่ไหนกัน...?

                    หญิงสาวที่กำลังยืนอยู่เพียงลำพังนึกถามแล้วหันไปมองรอบตัว ก่อนม่านหมอกสีขาวจะเปลี่ยนไปเป็นภาพหมู่บ้านแห่งหนึ่ง...

                    อ่ะ...นี่มัน...

                    เสียงใส ๆ ดั่งระฆังแก้วหลุดออกมาเพียงแผ่วเบา ก่อนแสงสีขาวสว่างจ้าจะกลืนกินเธอไป

                    ในความฝันเดิม ๆ นี่เอง...

     

                    จิ๊บ จิ๊บ...

                    แสงอาทิตย์กำลังส่องสว่างจ้าเหนือหัว ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ทุกคนมีหูกระต่ายโผล่ขึ้นมาบนศีรษะเด็กสาวร่างบางอายุราว 13 - 14 ปีกำลังเล่นโยนบอลไปมาอยู่บริเวณลานหญ้าใกล้หมู่บ้าน พร้อม ๆ กับเพื่อน ๆ ของเธอตามประสา

                    อ๊า~ ไปนู่นแล้ว!” เสียงเด็กสาวคนหนึ่งร้องตะโกนขึ้น หลังจากลูกบอลที่กำลังเล่นโยนรับกันถูกเพื่อนอีกคนโยนแรงไปนิดพุ่งเข้าไปในป่า

                    ข้าไปเอาเอง!” เด็กสาวเจ้าของเรือนผมยาวประบ่าสีน้ำเงินเข้มดั่งห้วงสมุทรขันอาสา ร่างบางวิ่งเข้าไปในป่าอย่างชำนาญทาง มือบางขยับกิ่งไม้ที่ลงมาขวางทางออกก่อนดวงตาสีเดียวกับเส้นผมจะมองหาลูกบอลเจ้าปัญหาที่ลอยหลุดเข้ามาในนี้

                    เอ... ไปไหนน้า... เด็กสาวพึมพำแล้วขมวดคิ้ว พลันดวงตาคู่กลมจะเป็นประกายเมื่อเห็นสิ่งที่เข้ามาหา

                    อยู่นั้นเอง!” เด็กสาวยิ้มร่า ร่างบางรีบเดินเข้าไปหยิบ ก่อนสายตาจะหันไปสะดุดกับร่างของอะไรบางอย่าง

                    ท่ามกลางธรรมชาติ... เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังนอนหลับตานิ่งหลังพิงต้นไม้ เรือนผมสีเขียวอ่อนของเขาเป็นประกายล้อแสงแดด หากใบหน้านั้นซีดเซียว และเสียงลมหายใจแลดูอ่อนแรงเหลือเกิน

                    นั้นมัน... มนุษย์สินะ?

     

                    แสงสีขาวสว่างกลืนกินภาพต่าง ๆ ก่อนหมอกหนาจะค่อย ๆ โรยตัวลงมาอีกครั้ง

                    ในท่ามกลางสิ่งที่เกิดขึ้น หญิงสาวคนเดิมได้ปรากฏตัว...

                    เธอยืนมองภาพนั้นด้วยดวงตาเฉยชา หากฉายแววโศก... ริมฝีปากสีชมพูอ่อนขยับเอ่ยแผ่วเบา

                    ในวันนั้น... ถ้าเราไม่ได้พบกัน... ถ้าข้าไม่ได้ช่วยเขา... คงจะดีกว่า

                    แล้วภาพหมู่บ้านเดิมก็กลับมาอีกครั้ง ในกาลเวลาที่ต่างกันออกไป...

     

                    1 ปีต่อมา

                    พระอาทิตย์ยังคงสาดแสงอย่างเจิดจ้าตามเดิม ในขณะที่เด็กสาวคนเดิมในวันพรุ่งนี้จะไม่ได้เป็นเด็กสาวอีกต่อไป เธอกำลังจะได้กลายเป็นหญิงสาว... ผู้ที่ถือว่าเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์ตามกฎของเผ่าพันธุ์

                    และในวันนี้ได้มีตำนานเล่าขาน ถ้าหากในวันเกิดอายุครบ 15 ปีหญิงสาวคนใดได้นำดอกกุหลาบสีน้ำเงินไปมอบให้ชายหนุ่มที่ตนชอบได้ แล้วเขาตอบรับ

                    ...ทั้งคู่ก็จะถือว่าได้หมั้นหมายกันโดยสมบูรณ์ และจะอยู่ด้วยกันไปตลอดไป

                    ดังนั้นในวันนี้เธอ ยาเรน่า เวทิคัส เด็กสาวผู้กำลังจะได้ผ่านวันเกิดอายุครบ 15 ปีย่อมกำลังออกเดินทางไปเก็บดอกกุหลาบสีน้ำเงินที่ทุ่งดอกไม้ทางตอนเหนือของหมู่บ้าน สถานที่ที่มีดอกไม้ทุกชนิดเบ่งบานอยู่

                    คิกคิก...ถ้าเราเอาไปให้เขา เขาจะตอบรับไหมนะ...?

                    เด็กสาวคิดในใจอย่างเป็นสุข ขณะกำลังเดินทางไปตามทางเดินดินโดยในมือถือตระกร้าสานหนึ่งใบที่มีอุปกรณ์สำหรับปิกนิกเตรียมพร้อม

                    เขา ที่เธอกำลังนึกถึงก็คือเด็กหนุ่มที่เธอได้เจอเมื่อ 1 ปีก่อน ที่พวกเธอได้มาสนิทกันหลังจากวันนั้นที่เด็กสาวได้ไปเรียกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านมาช่วยเหลือ โดยเธอเรียกเขาว่า เซนิทที่มีความหมายว่า ผู้หลงมา เนื่องจากว่าหลังจากเด็กหนุ่มฟื้น เขาจำอะไรไม่ได้เลย เด็กสาวจึงอาสาตั้งชื่อให้เขา และเป็นเพื่อนเล่นเขาเอง

                    แต่หลังจากเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน มิตรภาพที่เปรียบดั่งพี่น้อง เพื่อน ก็เปลี่ยนเป็นความรักเมื่อไหร่ไม่รู้ เด็กสาวรู้เพียงรักเขามาก และคิดว่าเขาก็คงรักเธอด้วยเหมือนกันจากการแสดงออก (สัญชาตญาณสัตว์มันบอก)

                    เอาล่ะ จบ ๆ

                    ยาเรน่านึกในใจ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเหมือนเธอหลงตัวเอง แต่มันก็เป็นความจริงนะ!

                    เด็กสาวยังไม่วายว่าในใจต่อก่อนจะอมยิ้มน้อย ๆ กับตัวเอง วันนี้เธอแอบหนีเขามาเพื่อจะเซอร์ไพรเขาพรุ่งนี้ อ๊าย ~ คิดแล้วก็ตื่นเต้นจริง ๆ!

                    ยาเรน่าคิดอย่างร่าเริง เธอเดินไปตามทางอย่างสบายใจ อากาศในวันนี้ช่างสดชื่น และนั้น! เธอเห็นทุ่งดอกไม้หลากสีอยู่ไม่ไกลแล้ว

     

                    แสงสว่างสีขาวพุ่งมากลืนกินภาพทั้งหมด รวมถึงม่านหมอกสีขาวที่เคลื่อนกายมาบดบังเป็นครั้งที่สาม...

                    ในที่แห่งนี้ยังคงมีหญิงสาวคนเดิมที่ยืนอยู่อย่างเดียวดายอีกครั้ง เธอเผยรอยยิ้มที่มุมปากน้อย ๆ กับภาพที่พึ่งเลือนหายไป ทั้ง ๆ ที่ดวงตาฉายแววเศร้าโศกยิ่งกว่าเดิม

                    รีบพาข้าไปถึงตอนจบเสียทีเถอะ... ไนท์แมร์เอ๋ย

                    หญิงสาวคิดในใจ ก่อนภาพในฉากสุดท้ายของฝันร้ายจะปรากฏ

     

                    ท้องฟ้ากำลังจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม... นั้นนับเป็นเวลานานมากแล้วที่เด็กสาววนเวียนหาดอกกุหลาบสีน้ำเงินจากดอกไม้นับพันชนิดและหลากสี โดยจากที่ฟังจากท่านแม่ เด็กสาวจำได้แม่นว่าดอกกุหลาบสีน้ำเงินนั้น จะเป็นดอกที่จะปรากฏจากหัวใจที่มีรักจริง และเมื่อถึงเวลาอันสมควร

                    แต่ที่เธอยังหาไม่เจอ แสดงว่าความรักของเธอที่มีต่อเขายังไม่เพียงพอต่อเจ้ากุหลาบดอกน้อยหรือ?

                    ยาเรน่าคิดในใจอย่างเริ่มท้อแท้ เด็กสาวทรุดกายลงนั่งบนทุ่งหญ้าที่ไร้ดอกไม้ เสบียงอาหารในตะกร้าสานเธอหมดไปนานแล้ว และในตอนนี้เธอกำลังเริ่มโหยหาถึงอาหารเย็น

                    ยาเรน่า!’

                    เสียงหนึ่งลอยแว่วมาในหูของเด็กสาว หูกระต่ายสีน้ำเงินเข้มเกือบดำของยาเรน่ากระดิกไปมา เธอรู้สึกเหมือนได้ยินคนเรียกชื่อเธอ

                    จากทางหมู่บ้าน...

                    เด็กสาวพึมพำ จากที่นั้นถึงที่นี่ค่อนข้างไกล แต่ก็ไม่ได้ไกลเกินประสาทหูของเธอ และนั้นทำให้เด็กสาวรู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างประหลาด

                    รีบกลับดีกว่าเรา

                    ยาเรน่าตัดใจ ร่างบางยันตัวลุกขึ้นแล้วมองสำรวจสัมภาระที่นำมา เตรียมหันหลังเดินทางกลับหมู่บ้าน หากในพริบตานั้น หางตาเด็กสาวแว่วเห็นดอกไม้ที่น้ำเงินที่บานสวยงามที่สุดท่ามกลางดอกไม้ทั้งหลาย

                    นั้นมัน!” เด็กสาวอุทานเสียงเบา เธอรีบเดินเข้าไปยังตรงที่ที่เธอเห็นทันที ก่อนรอยยิ้มกว้างจะปรากฏออกมา ดอกกุหลาบจริง ๆ ด้วย!”

                    ยาเรน่าว่าอย่างดีใจ มือบางเตรียมจะเด็ดออกมา แล้วใช้พลังของเผ่าในการอวยพรให้ดอกไม้เติบโตขึ้นในสภาพดีตามเดิม

                    ยาเรน่า!”

                    เสียงคุ้นหูที่ดังเรียกเธออีกครั้ง ชะงักมือของเด็กสาวที่กำลังจะเอื้อมไป ยาเรน่าเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก ก่อนเธอจะพบว่าคนที่ตะโกนเรียกจะเป็นเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเขียวอ่อนคนคุ้นเคย ที่ในตอนนี้มีเศษดิน เศษใบไม้ติดอยู่ตามร่าง สกปรกมอมแมมไปทั้งตัว

                    เซนิท มาที่นี่ได้ยังไงน่ะ?

                    ยาเรน่าเอ่ยถามอย่างสงสัย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อคิดว่าเธอบอกแม่แล้วว่าห้ามบอกเขา

                    หากเด็กหนุ่มผู้ถูกเรียกไม่ได้ใส่ใจตอบคำถาม เขารีบก้าวเข้ามาหาเธอในทุ่งดอกไม้ ก่อนสวมกอดอย่างรวดเร็ว

                    อ่ะ...อะไรกัน...

                    เด็กสาวเอ่ยตะกุกตะกักอย่างตกใจ ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อขณะที่คนทำยังคงกอดเธอแน่นคล้ายกลัวว่าเธอจะหายไป ก่อนเอ่ยออกมาเบา ๆ

                    ดีจริง ๆ ที่เธอยังไม่เป็นอะไร

                    เอ๋?ยาเรน่าเอ่ยออกมาได้เพียงเท่านั้น ก่อนร่างของเด็กหนุ่มจะผละออกจากเธอ ดวงตาคู่เรียวสีเขียวเข้มของเขามองมาที่เธออย่างแน่วแน่ แล้วถอดแหวนวงหนึ่งที่เธอเห็นเขาใส่มาตลอดส่งมาให้เธอ

                    อะไรหรอเซทเด็กสาวเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ หากก็ยอมรับแหวนนั้นมา

                    ใส่มันเยร์ ใส่มัน...มันจะช่วยปกป้องเธอเซนิทว่าอย่างเร่งรีบ และนั้นทำให้ยาเรน่ายอมใส่มันด้วยใจคอไม่ดี

                    กรี๊ด!!’

                    อีกเสียงดังแว่วมาทางหมู่บ้าน เรียกให้หูเด็กสาวกระดิกอีกครั้ง ตอนนี้เด็กสาวเริ่มวิตก สัญชาตญาณเธอเตือนชัด มีเรื่องไม่ดีเกิดที่หมู่บ้าน!

                    เกิดอะไรขึ้นกับหมู่บ้านเซท! ยาเรน่าเอ่ย ในขณะที่เซนิทไม่ตอบอะไร เด็กหนุ่มหลบสายตา แล้วทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ เมื่อสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

                    กุหลาบสีน้ำเงิน... เธอเจอมัน

                    อ่ะ อือเด็กสาวตอบสั้น ๆ อย่างไม่รู้จะว่าอะไรดี ใบหน้านวลเริ่มขึ้นสีเรื่ออีกครั้ง

                    ผมจะรับมันไว้เซนิทเอ่ยอีกครั้ง หลังจากเหม่อมองดอกไม้เนิ่นนาน และแทนคำสัญญาของเรา ดวงตาสีเขียวเข้มของเขามองสบตาเธออย่างแน่วแน่ด้วยแววตาที่เด็กสาวไม่เข้าใจ ก่อนในพริบตาที่เขาลุกขึ้นยืน ฝ่ามือหนาก็ฟาดลงมาที่ท้ายทอยเธอ

                    ซะ...เซท...ยาเรน่าเอ่ยได้แค่นั้น ก่อนสติจะดับวูบลงไป              

                    โดยที่ดวงตาของเซนิทฉายแววเศร้าโศกเต็มที่...

     

                    เช้าวันต่อมา... เด็กสาวตื่นขึ้นในยามเช้าที่บอกไม่ได้ว่ากี่โมงเมื่อท้องฟ้านั้นแสนอึมครึมคล้ายจะมีฝนตก ยาเรน่ารีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแม้ยังมึนอยู่บ้าง ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งที่เธอจำได้ว่ามันอยู่ทางตะวันตกของหมู่บ้าน บนตัวของเด็กสาวมีเสื้อคลุมอยู่ตัวที่เธอคิดว่าเป็นของเซนิท และในทันทีที่เยเรน่าคิดว่าเธอหายมึน เด็กสาวก็รีบออกวิ่งกลับหมู่บ้านทันที

                    เด็กสาวแปลงกายกลับเป็นกระต่ายสีขาวปลอดตามเผ่าพันธุ์ของตนซึ่งเป็นภูตด้วยรู้สึกว่ามันสะดวกและเดินทางได้เร็วกว่า ร่างเล็กขนปุยรีบวิ่งกระโดดไปตามทางที่คุ้นเคย และในเวลาไม่นาน เธอก็ได้กลับเข้ามาในหมู่บ้าน...

                    ที่หลงเหลือเพียงตอตะโกและซากศพที่ไหม้เกรียมเท่านั้น!

                    นี่มันอะไรกัน...ยาเรน่าพึมพำอย่างไม่อย่าเชื่อสายตา ร่างกายกลับมาเป็นมนุษย์ตามเดิมทันทีเมื่อไม่มีแรงรั้งให้อยู่ในร่างกระต่ายต่อไปได้ ร่างบางลุกขึ้นเดินโซเซไปตามทางที่ไร้ผู้คนที่มีชีวิต ดวงตาคู่กลมฉายแววตะลึงเสียจนไม่อาจมีน้ำตา

                    ท่านพ่อ...ท่านแม่... เด็กสาวพึมพำเสียงแผ่ว ร่างบางทรุดกายลงอดีตหน้าบ้านตนที่หลงเหลือเพียงตอม่อไม้สีดำเป็นตอตะโก และตรงกลางบ้านนั้น... มีร่างไหม้ ๆ หงิกหงอที่เธอจำได้แม่นว่าเป็นพ่อและแม่ตน

                    และเพียงแค่นั้น... น้ำตาที่อาจไหลในตอนแรกก็พรั่งพรูออกมาทันที...

                    เด็กสาวจำไม่ได้ว่าร้องไห้นานเท่าไหร่ หรือร้องไห้ไปกี่วัน เธอรู้เพียงว่าเธอร้องไห้จนไม่เหลือน้ำตา และไม่เหลือแววแห่งชีวิตในดวงตา ก่อนสุดท้ายเธอจะพยายามรวบรวมกำลัง สร้างหลุมศพให้กับทุกคนในหมู่บ้านด้วยดวงตาสีแดงก่ำ...

     

                    ภาพทั้งหมดถูกแสงสีขาวกลืนกินอีกครั้ง คราวนี้มันสว่างจ้ามาก... จนหญิงสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้น

                    ร่างบางเจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินเข้มดั่งห้วงสมุทรสะบัดหน้าไปมาเพื่อให้รู้สึกตัว ก่อนดวงตาสีเดียวกับเส้นผมจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ

                    เธอ... กำลังนั่งอยู่ที่หลุมศพ

                    หญิงสาวนึก เธอดันเผลอหลับไปบนหลุมศพหลังจากกลับมาเยี่ยมเป็นปีที่สามเสียไม่ได้จนถูกไนท์แมร์ทำให้ฝันร้ายเสียอย่างนั้น

                    ยาเรน่าคิดอย่างไม่พอใจ เทพแห่งฝันร้ายช่างชื่นชอบความฝันของเธอนักจนเธอต้องฝันถึงมันทุกปีที่ได้กลับมายังหมู่บ้าน

                    แต่ก็ช่างมันเถอะ...

                    หญิงสาวคิดในใจอย่างเฉยชา เวลาที่ผ่านมา 3 ปีเยียวยาหัวใจเธอไปได้มาก และมันทำให้เธอได้อะไรหลาย ๆ อย่าง

                    จากสามปีที่ผ่านมานั้น... เธอได้กลายเป็นเผ่าภูตกระต่ายเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ และเป็นเผ่าที่ไม่มีมนุษย์คนไหนรู้จักเสียด้วยซ้ำ

                    และเป็นเวลาสามปีที่ผ่านมา ที่เธอได้พยายามตามหาเด็กหนุ่มคนเดียวที่ยังคงอยู่ในหัวใจ และจะอยู่เรื่อยไปตลอดมา...

                    เด็กหนุ่มเจ้าของแหวนที่นิ้วนางข้างขวา... คนเดียวที่จะไขปริศนาทุกอย่างให้เธอได้

                    แปะ...

                    เสียงบางอย่างหล่นมาที่พื้นเรียกให้หญิงสาวหันไปมอง ก่อนคิ้วเรียวจะเลิกขึ้นน้อย ๆ

                    บนกระดาษสีขาวนั้นเขียนว่าการแข่ง NF ที่มีของรางวัลคือ...

                    พรหนึ่งข้อที่จะขออะไรก็ได้

                    บางที การเดินทางของเธออาจได้จบลงถ้าได้ร่วมแข่งในครั้งนี้...

                    แล้วเราจะได้พบกัน... เซท

     

    END

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×