[จบ] เกิดใหม่เป็นน้องชายนางร้าย [BL]
ตอนที่ 34 : Act III : ตอนที่ 14 ไม่มีทางเลือกแล้ว
กลางฤดูร้อน หลังเสร็จสิ้นพิธีฉลองปีใหม่ที่เมืองลีล และไปเป็นประธานงานเปิดเมืองใหม่อีก 2 เมือง กำหนดการภายในประเทศในฐานะ 'ผู้นำ' ของผมก็ยุติลง
ผมไม่ได้ใช้ชื่อตำแหน่งของตัวเองว่า 'ราชา' หรือ 'กษัตริย์' หรอกนะ เพราะประกาศไปแล้วว่ารัฐอิสระลาน่าจะปกครองด้วยรูปแบบใหม่ ซึ่งจะเริ่มหลังเสร็จสิ้นสงครามแล้ว แต่ว่าในความเป็นจริง ผมยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าตัวเองควรจะเป็นอะไรดี... ประธานาธิบดี? หรือนายก? ต้องลงเลือกตั้งไหม? ในเกมก็ไม่เคยพูดถึงชื่อตำแหน่งของ ลัวร์ ฟา ลังค์ เสียด้วยสิ มาแต่ประวัติความ OP ย่อๆ ที่เจ้าชายยกเอามาพูดชมต่อหน้าคุณพี่สาวเฉยๆ
ถ้าถามว่าหลังฉลองปีใหม่มีอะไรน่าสนใจ ก็ต้อง 'ไอ้นั่น' ล่ะนะ
'ไอ้นั่น' ไง
การเปิดตัวไอ้หนูมหาประลัยของตระกูลลังค์สายหลักไง
เมื่อเรียกพลทหารที่กลับบ้านไปฉลองปีใหม่กลับมา ก็เริ่มจัดทัพตามที่เตรียมการไว้ทันที ตาม story ดินแดนสุดท้ายที่ ลัวร์ ฟา ลังค์ ในเกมยึดได้มีชื่อว่า ลอแรน มีขนาดใหญ่กว่าดินแดนลาน่าสามเท่า แถมยังอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของราชรัฐไพม์ เป็นดินแดนที่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้าน เจ้าเมืองเองก็ฉลาด มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งราชวงศ์และขุนนางคนอื่นๆ แถมทางฝั่งไพม์ก็เริ่มอ่านเกมการเดินทัพแบบ sneak+rush ของผมออกแล้ว เพราะงั้นงานนี้ก็เลยค่อนข้างลำบากอยู่สักหน่อย เวรยามแน่นหนาดีเหลือเกิน...
ถ้าซัมมอนพี่ชายมาได้สักสองชั่วโมงก็ดีน่ะสิ หรือใครก็ได้ที่อ่านสามก๊กจบเกินสิบรอบน่ะ เฮ้อ...
สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้ คงมีแค่เชื่อในความสามารถของลูกน้องล่ะนะ
และตอนนี้พวกเรากำลังประชุมแผนการครั้งสุดท้ายอยู่ เพราะว่าความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วมาก ก็เลยต้องมีข้อมูลคร่าวๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถตัดสินใจได้เองในสถานการณ์ฉุกเฉินตอนออกรบได้ ภายในห้องประชุมใหญ่ของที่ทำการเมืองลีลจึงเต็มไปด้วยทหารที่ทำหน้าที่นำทัพเกือบร้อยคน หลากหลายเพศและวัย เก้าอี้ได้วางเรียงชิดกันอย่างเบียดเสียด กระทั่งที่นั่งข้างๆ ผมก็ไม่ว่างเว้น
"สายสืบที่ลอบเข้าไปในลอแรนรายงานมาว่า สหพันธ์ไวมาร์ส่งหุ่นรบเวทใหม่จำนวน 200 ตัวมาที่ลอแรน" หัวหน้าหน่วยสายสืบกล่าวรายงานเป็นคนแรก
ว่าแล้วเชียว... ไม่ได้ขายหุ่นรบเวทให้แค่ประเทศผมสินะ?! ถึงได้สั่งซื้อเพิ่มยากเย็นนัก!!
"ทหารเรือทั้งหมดที่ประจำการอยู่ในดินแดนทางเหนือของราชรัฐไพม์ เดินเรือออกมาสมทบกับกองเรือหลักที่ไพม่า รวมทั้งดินแดนโพ้นทะเลที่อยู่ใต้อำนาจของราชรัฐไพม์ ต่างส่งกองเรือติดอาวุธและทหารมีฝีมือจำนวนมากออกมา คิดว่าเป้าหมายน่าจะเป็นพื้นที่ชายฝั่งทั้งหมดของดินแดนลาน่า"
ไพม่าคือชื่อดินแดนในปกครองของราชวงศ์ไพม์ พูดง่ายๆ ก็คือเมืองหลวงและปริมณฑลยังไงล่ะ ส่วนเหตุผลที่ทหารเรือส่วนใหญ่ของไพม์อยู่ทางเหนือ ก็เพราะว่ามีทะเลคั่นระหว่างราชรัฐไพม์กับอาณาจักรเดรสเดินที่อยู่ทางเหนือ พวกเขาทำสงครามกันตลอดนั่นแหละถ้าเดรสเดินกับไวมาร์ขาดแคลนอาหาร พูดง่ายๆ ก็คือออกมาปล้น
พวกเดรสเดินตัวใหญ่มากเลยล่ะ หนังเหนียวแล้วก็ตายยาก แถมยังอยู่ติดกับสหพันธ์ไวมาร์ที่มีเทคโนโลยีการรบขั้นสูง และมีความสัมพันธ์ดี๊ดีจนน่าจะรวมประเทศได้แล้ว ...ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากยุ่งกับพวกนี้เท่าไหร่ แบบว่ามีปัญหา 1 แต่ได้ถึง 2 เป็นโปรแถมที่ไม่อยากได้สักนิด
"กองกำลังจากรัฐอื่นๆ ภายในภาคพื้นทวีปเองก็เริ่มเคลื่อนไหว คิดว่าคงส่งคนมาช่วยราชรัฐไพม์ทำสงคราม ช่วงวันปีใหม่ มีนกส่งสาส์นของกษัตริย์แห่งไพม์บินออกไปพร้อมๆ กันหลายสิบตัว ...สำหรับตอนนี้ ทั้งหมดที่ฝ่ายสายสืบจะรายงานมีเพียงเท่านี้" หัวหน้าหน่วยสายสืบจบรายงานของเขา
พวกผมแค่หยุดฉลองปีใหม่ไม่กี่วันเองนะเฟ้ย อะไรจะมาเลือกเวลาได้ดีขนาดนี้ฟะ?!
สีหน้าทหารทุกคนที่ได้รับฟังดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันตา พวกเขาคงไม่คิดว่าจะกลายเป็นศัตรูร่วมของดินแดนอื่นๆ ทั้งหมดภายในทวีปนี้ เป็นขนาดการรบที่ใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาสามารถจินตนาการถึง
แต่ว่า... ในเกม... ลัวร์ ฟา ลังค์ ทำได้... ผมเองก็ควรจะทำได้
ทำไม่ได้มันก็ต้องทำให้ได้ล่ะฟะ มาไกลขนาดนี้แล้ว!!
"ศัตรูมากเกินกว่าที่เราจะรับมือพร้อมๆ กันไหว พวกเราไม่มีทางเลือกแล้ว..." ผมกุมมือที่เริ่มสั่นๆ ไม่อยากพูดคำนี้ออกมาเลย "คงมีแต่ต้องใช้วิธีสกปรกเท่านั้น ไม่อย่างนั้นพวกเราคงไม่รอดแน่"
ทหารทุกนายหันขวับมามองผมด้วยสายตาตั้งคำถาม 'ที่ผ่านมาเราก็ใช้แต่วิธีสกปรกตลอดไม่ใช่หรือ?' อะไรแบบนั้น ...เดี๋ยวเหอะ!
.....ลั่นเลย
ลูกน้องตาดำๆมิได้กล่าว 555
5555 ต้องใช้วิธีสกปรกแล้ว คำพูดนี้แสดงว่าสกปรกกว่าที่ผ่านมา