คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ลำดับตอนที่ 4
“แฮกๆ หมะ หมอ จงอินอยู่ไหนครับ” ชานยอลถามพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์พลางหายใจหอบหนักๆ
“เอ่อ อยู่ที่ห้องทำงานค่ะ”
“ครับ ขอบคุณครับ” เมื่อได้คำตอบชานยอลก็รีบพาตัวเองวิ่งมาหยุดอยู่ต่อหน้าห้องของจงอิน แล้วจึงเปิดประตูเข้าไปดังๆ
“ปั้ง!!” ในทันที จากที่จงอินกำลังนั่งสนใจในงานของตัวเองอย่างเคร่งเครียด เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาคนที่ใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“อ้าว ไอ้ชานยอล ห้องนี้ไม่ใช่ห้องของลู่หานนะ”
“ผมรู้ครับ แต่ตอนนี้ ลู่หายตัวไป”
“ว่าไงนะ แบคหายตัวไปหรอ” จงอินผลออุทานออกมาดังๆ “แล้วหาทั่วแล้วหรือยัง”
“หาหมดแล้วครับ แต่ลู่หาน เขาทิ้งจดหมายนี้ไว้ให้ผม” เซฮุนยื่นจดหมายให้เฉินดู เขาจึงเปิดมันขึ้นอ่านอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยสีหน้ายุ่งๆ
“เดี๋ยวพี่จะลองบอกให้คนในโรงพยาบาลหาให้ทั่วก็แล้วกัน ลู่พึ่งจะออกไปได้ไม่นาน เพราะพี่พึ่งเขาไปหาลู่เมื่อกี้เอง ถ้าไม่พบเดี๋ยวเราค่อยโทรถามเพื่อนของลู่อีกที”
“ครับ” เซฮุนนำพยักหน้ารับจึงพาตัวเองเดินตามหลังเฉินไป งานที่กองอยู่ตรงหน้าเขาปล่อยทิ้งไว้ทันที เพื่อตามหาลู่หานเพียงอย่างเดียว
เฉินสั่งคนตามหาคนที่หายตัวไปเกือบทั่วโรงพยาบาลแต่ก็ยังไม่พบแม้แต่เงา เซฮุนจึงขอแยกตัวออกตามหาด้วยตัวเอง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์กดโทรหาลู่หานหลายๆครั้ง หากเจ้าตัวก็ยังไม่รับสาย ปล่อยให้สายมันติดอยู่แบบนั้น เซฮุนจึงตัดสินใจเปลี่ยนไปโทรหาเพื่อนๆ หากคำตอบก็ยังชักหน้าไม่ถึงหลัง เมื่อแต่ละคนไม่มีใครทราบว่าร่างบางนั้นอยู่ที่ไหน
แต่เขายังเหลือเบอร์สุดท้ายที่ยังไม่ทันโทรถาม นั่นก็คือเบอร์ของแบคฮยอน เขาจึงรีบโทรหาทันที จากนั้นไม่นาน เจ้าตัวก็รับสาย
“ฮัลโหล มีอะไรเหรอเซฮุน”
“พี่พอจะรู้ไหมว่าลู่อยู่ไหน คือตอนนี้ลู่หายไป”
“หา ลู่หายไปเหรอ” ปลายสายอุทานออกมาดังๆด้วยความตกใจ เลยทำให้เซฮุนรู้ได้ว่าแบคฮยอนก็คงจะไม่ทราบเรื่องนี้เช่นกัน ยิ่งทำให้เขาเครียดหนักกว่าเดิม
“ใช่ครับ คือลู่หายไปตั้งแต่เช้าแล้ว ตามหาก็ยังไม่เจอตัวเลย นี่ก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว”
“แล้วฮุนโทรถามยุริหรือจีซกหรือยัง”
“โทรแล้วครับ แต่ก็ไม่มีใครรู้เลยสักคนแล้วผมก็ไม่รู้จะตามหาที่ไหนดี พี่พอจะรู้ไหมเวลาที่ลู่ไม่สบายใจ เขามักจะไปที่ไหน” เซฮุนถามก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า
.
สภาพหน้าบ้าน เหมือนถูกปล่อยทิ้งร้างเป็นปี หญ้าขึ้นเต็มจวนจะบังชั้นแรกของบ้าน นี่ พ่อคงยังไม่กลับมาสินะ พอได้เงินสินสอดจากเสียยองมินคราวนั้น ก็คงจะไปเที่ยวเล่น ลงทุนที่บ่อนเป็นแน่
อ้าว แบคฮยอน หายไปไหนมาเนี่ย ป้าไม่เห็นแกมาหลายเดือนแล้ว
ผมไปทำงานที่ต่างจังหวัดมาครับ แต่ตอนนี้ลาออกแล้ว ก็เลยกลับบ้าน เอ่อ แล้วป้าเห็นพ่อผมไหม
มันไม่ได้กลับมาบ้านหลายเดือนแล้ว ไม่รู้ว่ามันหายไปไหน ปล่อยให้หญ้าขึ้นเต็มบ้านเลย เมื่อเดือนก่อน ฉันก็จ้างคนมาถางหญ้าให้ ป้ากะว่าอีกอาทิตย์หน้าจะจ้างคนมาถางให้อีก เพราะเห็นมันรกเหลือเกิน
ขอบใจป้ามากเลยนะครับ เดี๋ยวผมจะ เอาเงินค่าแรงที่ป้าจ้างคืนให้นะครับ
ไม่เป็นไรหรอก เล็กๆน้อยๆ แกก็น่าจะติดต่อมาหาฉันบ้างนาย เล่นหายไปนานแบบนี้ ฉันนึกว่าแกจะไม่กลับมาแล้วซะอีก
พอดี ผมยุ่งกับงานจริงๆ ขนาดพ่อ ผมยังไม่ค่อยได้ติดต่อเลย
ดูหน้าแก ซีดๆนะ ไม่สบายหรือเปล่า
เปล่าหรอกครับ ผมดีผมนั่งรถมาไกล เมารถนิดหน่อย
งั้นก็ดีแล้ว ฉันนึกว่าแกจะไม่สบายซะอีก ว่าแต่ แกจะมาอยู่ที่ไหนเลยใช่ไหม
ใช่ครับ จะมาอยู่ที่นี่เลย ตลอดทั้งชีวิต เดี๋ยวผมขอตัวเข้าบ้านก่อนนะครับ เหนียวตัวมาก
ร่างบางเลื่อนมือไปไขลูกบิดประตูออกก็เห็นว่ามันยังไม่ล็อกแต่อย่างใด ข้าวของทุกอย่าง ยังคงวางเป็นระเบียบเช่นเดิม เพียงแต่มีฝุ่นเกาะขึ้นเต็มไปหมด อยากจะทำความสะอาดเสียตอนนี้ เพราะเป็นคนไม่ชอบความสกปรก พอเป็นอะไรไม่เป็นระเบียบก็อยากจะรีบจัดแจง หากร่างกายก็ไม่เป็นใจ เหนื่อยมาทั้งวัน จึงพาตัวเองขึ้นไปข้างบนห้องนอน
ร่างบางไม่รออะไรอีกทั้งนั้น ก็หงายตัวลงนอนทันที แล้วหลับตาลงสนิท พยายามจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้น ลบความทรงจำอันโหดร้ายนั้นทิ้งไปให้หมด แล้วพรุ่งนี้จึงเริ่มต้นใหม่
เช้าของวันใหม่
แบคฮยอนตื่นมาตั้งตะวันยังไม่ขึ้นสู่ท้องฟ้า เพราะจำได้ว่า บ้านนั้นรกร้างมากแค่ไหน จึงลุกไปทำความสะอาดทั้งหมด เช็ดกวาดและถูตรงบริเวณระเบียงหน้าบ้านอันดับแรก พอเห็นว่าไม่มีฝุ่นมาเกาะเยอะแล้วก็กลับไปทำความสะอาดข้างในห้องนอน หยิบผ้าปูที่นอนไปซักแล้วนำมันไปตากให้แห้งที่ราวตากผ้าตรงหลังบ้าน... จากนั้นก็ไปที่ห้องเก็บของมีรถตัดหญ้าอยู่คันหนึ่งเป็นแบบใช้แบตฯ ใช้เวลาอีกไม่นานแบคฮยอนก็พบกับรถตัดหญ้าที่ต้องการ ร่างบางจัดการถางหญ้าที่หน้าบ้านด้วยตัวเอง จนไม่ให้มันรกหูรกตาอีกต่อไป
พอผ่านไปหลายร่วมชั่วโมง ในที่สุดผลงานของทั้งสามก็ออกมาดูดีพอสมควรโดยที่ไม่ค่อยจะเหนื่อยเท่าไหร่ คงเป็นเพราะเคยถูกจิกหัวใช้งานมาตลอด งานทำความสะอาดแค่นี้มันเลยกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับแบคฮยอนไปแล้ว
ชีวิต นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกอย่างจะต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะอีกเดี๋ยวสักพัก แบคฮยอนก็จะกลับขึ้นไป อาบน้ำ แต่งตัว แล้วสมัครหางานทำ ตามหนังสือพิมพ์ที่แจ้งหาพนักงานใหม่
ชีวิต ภายในกรุงโซล ยังคงดูวุ่นวายอยู่เสมอ ตามท้องถนน พลุกพล่านไปด้วยยานพาหนะนาๆชนิด ขับแล่นสวนกันไปมาจนทำให้ตาลายได้เลยทีเดียว
ก้าวแรกของวันนี้ ก็คือ สมัครงานที่บริษัท ออกแบบก่อสร้างรายใหญ่ระดับกรุงโซลเลยทีเดียว คนที่จบปริญญาตรีอย่างแบคฮยอน แน่นอน มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะรับเข้าทำงาน แต่ร่างบางก็อยากจะลองสักครั้ง ถือว่า มันเป็นเรื่องที่ท้าทายดี ร่างบางเข้าไปกรอกใบสมัครงานแล้วเข้าไปสัมภาษณ์งานในทันที ซึ่งฝ่ายบุคคลก็ตอบรับกลับมาว่า แล้วทางเราจะติดต่อกลับไปค่ะ
หวังว่า แบคฮยอนคงจะได้ยินข่าวดีจากบริษัทนี้นะ แต่ถ้าให้เดา เปอร์เซ็นที่แบคฮยอนจะได้เข้ามาร่วมที่บริษัทแห่งนี้ ก็ถือว่า มีสูงพอสมควร เพราะเห็นหัวหน่ายฝ่ายบุคคลจะชอบพอกับการตอบคำถามของแบคฮยอนเป็นเศษ รวมทั้ง เจ้าของบริษัทด้วย มองแบคฮยอน ตาเป็นมัน เหมือนว่าเขาคิดอะไรอยู่ในใจอย่างไรก็ไม่ทราบ หน้าตาของก็ถือว่าดีพอสมควร รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวตามประสาผู้ชายทำงานในร่ม แต่แบคฮยอนกลับจำชื่อเขาไม่ได้ เพราะคิดว่า มันไม่ใช่เรื่องที่น่าใส่ใจเท่าใดนัก
พอเดินออกจากตึกมา ฝนชุดใหญ่ก็ร่วงโรยลงมาแบบไม่เกรงใจกันเลย ร่างบางได้แต่ถอนหายใจเหนื่อยๆคงต้องรอให้ฝนซาลงจึงจะเดินไปรอรถเมล์ที่หน้าป้ายรถเมล์เพราะไม่อยากจะวิ่งแข่งฝนในขณะที่ตัวเองไม่ได้ถือร่มมาด้วย เลยต้องยืนรอที่หน้าตึกอย่างเช็งจัด
“ปี้นๆๆ” อยู่ๆเสียงแตรรถดังขึ้นพร้อมๆกับขณะที่รถ เฟอร์ รา รี่ราคาหลายล้านขับเคลื่อนมาหยุดอยู่ต่อหน้าร่างบาง ก่อนที่เขาขับรถจะเปิดประตูกางร่มมุ่งตรงมาหา
“ให้ผมไปส่งมั้ย” เสียงเข้มๆเอ่ยถามหลังจากที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆร่างบาง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” แบคฮยอนโบกมือตอบเป็นการปฏิเสธ
“รีบขึ้นรถมาเหอะ เดี๋ยวจะพาไปส่ง”
“ไม่เป็นไรจริงๆครับ ผมรอรถเมล์ดีกว่า” เจ้าของร่างเล็กยังคงตอบปฏิเสธด้วยความเกรงใจ อีกอย่างมันคงไม่เหมาะสมที่ตัวเองต้องขึ้นรถไปกับเขาสองคนแบบนี้
“มาเหอะน่า ยืนอยู่แบบนี้มันอันตรายนี่ใกล้จะมืดแล้วด_”
เปรี้ยง
ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะจบประโยค ก็มีเสียงฟ้าร้องสะนั่นไปทั่วท้องนภาจนทำให้แบคฮยอนสะดุ้งด้วยความตกใจ และเผลอกระโดดเข้าไปใกล้เขาจนสัมผัสเข้าที่ตัวเขา พอได้สติ ร่างบางก็ถอยกลับออกมา ทันที
ขอโทษครับ
นี่คุณกลัวเสียงฟ้าร้องหรอ
ก็นิดหน่อย
ไม่นิดหน่อยแล้วมั้ง ผมว่า ขึ้นรถไปกับผมเถอะครับ ผมรับรองว่าจะไม่พาคุณไปทำเรื่องไม่ดีไม่ร้ายแน่นอน คุณเชื่อใจผมเถอะ
“ก็ได้ครับ” และแล้ว แบคฮยอนก็พยักหน้ารับ เดินไปเปิดประตูรถเฟอร์รารี่สีขาวคู่ใจของร่างสูงก่อนจะหย่อนกายนั่งบนเบาะข้างๆคนขับ
สักพัก รถเบนซ์ของชายหนุ่ม ก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากบริเวณนั้นไป แต่พอผ่านไปไม่กี่นาที อยู่ๆก็มาเจอสภาวะรถติดแบบกะทันหัน ร่างสูงแอบลอบมองคนตัวเล็กตลอดระยะทาง ใบหน้าเรียวเล็กนั้น ช่างตราตรึงหัวใจของเขาได้อย่างง่ายดาย รอยแผลเป็นนั่น ไม่สามารถลบความงามของแบคฮยอนได้เลย
รู้แล้ว ถ้าไม่ใช่แก แล้วฉันจะโทรหาใครล่ะ
แบคฮยอน นั่นแกใช่ไหม
ใช่ฉันเอง
แกหายไปไหนมา รู้ไหม ฉันติดต่อแกไปเป็นล้านครั้ง ฮึก ทำไมหายไปไม่บอกไม่กล่าวสักคำ
เป็นไงบ้าง แกสบายดีไหม
อื้ม ก็เรื่อยๆ ฉันดีใจมากที่มีโอกาสได้เจอแกอีกครั้ง
ฉันก็เหมือนกัน
ดูแกอวบขึ้นนะเดี๋ยวนี้
หรอ ก็ไม่นะ ฉันว่าฉันผอมจะตาย ว่าแต่แกเหอะ หน้าไปโดนอะไรมา ทำไมถึงมีรอยแผลเป็นยาวซะขนาดนั้น
เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ
ไม่หน่อยแล้วล่ะแก ไปทำหน้าไหม ฉันมีเพื่อนเป็นหมอเก่งๆเยอะแยะเลย รับรอง กลับมาสวยเหมือนเดิมแน่
ไม่เป็นไรหรอกแก ปล่อยมันไว้อย่างนี้แหละ ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอก
แกยืมฉันก่อนก็ได้
คราวที่แล้ว ฉันยังไม่ได้ใช้หนี้แกเลย ฉันไม่อยากจะเพิ่มหนี้ขึ้นมาอีก
ถ้างั้นก็แล้วแต่แกเหอะ เพราะไม่ว่าหน้าแกจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ฉันก็จะคบแกไปเรื่อยๆ เพราะแกคือเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน
แกก็เหมือนกัน แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน แกรู้ไหม เวลาแค่ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาที่ไม่ได้เจอหน้าแก ฉันรู้สึกว่าเราไม่เจอกันเป็นสิบๆปี
ฉันก็รู้สึกเหมือนอย่างแก เวลา แค่ไม่กี่เดือน แต่ต้องเจออะไรตั้งมากที่ไม่สามารถจะตั้งกับมันได้ และกว่าจะผ่านมันมาได้ ก็แทบกระอักเลือด
เลย์วิ่งไป อ้วก
เลย์ แกเป็นอะไรมากไหม ไม่สบายหรือเปล่า
ไม่เป็นไรหรอก ฉันแค่เครียดลงกะเพราะน่ะ
แน่ใจหรอ ว่า แค่เครียดลงกะเพราะ แบคฮยอนถามด้วยความไม่แน่ใจ เนื่องจากแบคฮยอนก็เคยตกอยู่สภาพเหมือนเพื่อนมาก่อน
ก็ใช่น่ะสิ ทำไมหรอ หรือว่าแกไม่เชื่อฉัน คล้ายว่าเลย์จะกลัวอะไรสักอย่าง เลยเผลอพูดอะไรออกที่แสดงให้เห็นความพิรุธ
เปล่าหรอก ยังไง ก็ลองไปหาหมอซะ
แกลืมไปหรือเปล่า ว่าฉันก็เป็นหมอเหมือนกันนะ ฉันรู้จักอาการของตัวเองดี ไม่จำเป็นต้องไปหา
อยู่ๆก็เป็นลม
ไอ้เลย์ ไอ้เลย์
สุดท้ายแบคฮยอนก็พาเพื่อนมาส่งโรงพยาบาลใกล้ๆ
แบคฮยอนเห็นคนตัวสูง หล่อๆ หน้าดุ วิ่งเข้ามาในห้อง
คุณเป็นใคร คริสถามเสียงโทนดุๆ
ผมเป็นเพื่อนของ เลย์ ครับ ชื่อ แบคฮยอน แล้วคุณล่ะ เป็นใคร
ผม อี๋ อู๋ฟาน หรือคริส เป็นสามีของ เลย์
อะไรนะครับ
คุณฟังไม่ผิดหรอก ผมเป็นสามี ของเลย์ เราแต่งงานเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ยังไงก็ขอบคุณนะครับ ที่พาภรรยาผมมาส่งโรงพยาบาล
ไม่เป็นไร หรอกครับ
คุณกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมจะดูแลภรรยาของผมเอง
ผมขอดูอาการของเลย์ไม่ได้หรอ หมอยังไม่ได้บอกเลยว่าอาการของเลย์เป็นยังไง
ผมบอกให้ออกไป ก็คือ ออกไป ถ้าเขาฟื้นมาเมื่อไหร่ แล้วคุณค่อยมาดูอาการของเขาไหม ตอนนี้ ผมอยากดูแลเขาเพียงลำพัง
ก็ได้ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ
แบคฮยอนออกจาก โรงพยาบาลไปได้สักพัก ก็ต้องมาเจอกับเสี่ยยองมินผ่านมา ร่างต้องหลบเข้าไปซ่อนตัวที่มุมหนึ่งของเสา น่า แปลก เสือสองตัวเข้าถ้ำเดียวกัน แต่กลับไม่ได้กลิ่นของฝ่ายศัตรู ร่างบาง ชะโงกหน้าออกไปดูสถานการณ์ครั้ง เพื่อจะหาทางหลีกเลี่ยงเสียยองมินไปอีกทาง จะได้ไม่ต้องมาเจอกัน แต่คราวนี้ กลับยิ่งสร้างความประหลาดใจ เมื่อ ร่างบาง เห็นผู้เป็นบิดา เดินขึ้นรถตู้ไปพร้อมๆกับเสี่ยด้วย
ความคิดเห็น