ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Unlovable

    ลำดับตอนที่ #4 : หาเรื่อง

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 56









    เมื่อเข็มของนาฬิกาเดินไปถึงเวลาพักเที่ยง เรืองริทจึงเก็บอาสารให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะกฏของที่นั้นท่านประธานไม่ชอบให้โต๊ะทำงานรกรุงรัง ก่อนจะเดินลงมาทานอาหารชั้นแรกของตึก โดยที่มีนนทนันท์ เพื่อนใหม่เป็นคนเอ่ยชวน ซึ่งบริเวณดั่งกล่าวนั้นขายอาหารตามสั่งหลากหลายชนิด เพื่อความสดวกสำหรับพนักงานของบริษัท

     

    ริทชอบทานอะไรเหรอ เดี๋ยวชาจะสั่งให้นนทันนท์ปริปากถาม ในขณะทั้งสองกำลังเดินออกไปพร้อมๆกัน พอคุยกับเรืองริทกันได้แค่ไม่นานก็เริ่มรู้สึกถูกคอกันอย่างน่าประหลาด ซึ่งด้วยความที่ทั้งคู่อัธยาศัยดี เลยทำให้พวกเขาเริ่มสนิทกัน

     

    ก็หลายอย่างนะ แต่ที่ชอบมากที่สุดก็เป็นแกงจืด... คือตอนเด็กๆ แม่ทำให้กินทุกวันเลย จนเพื่อนๆชอบล้อริทไอ้หน้าจืด อื่ม.. แต่มันก็จริงเหมือนที่พวกเพื่อนริทพูดนะเรืองริทอธิบายแบบไม่ซีเรียส์ ในเมื่อชินกับคำพูดพวกนั้นแล้ว

     

    ถึงจะจืด แต่ก็อร่อยนะ ชาก็ชอบเหมือนกัน

     

    ถ้างั้นเราก็ไปสั่งกินกันนะ.. แล้วชาทำงานที่นี่นานยัง

     

    ก็ไม่นานหรอก ชาพึ่งทำงานมาที่นี้ได้แค่เดือนกว่าๆเอง เอ่อนี่ริท ชาขอถามอะไรหน่อยดิ๊ใบหน้าเรียวหวานเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจัง

     

    อะไรเหรอ

     

    คือริทรู้จักคุณเศรษฐพงศ์ได้ยังไง

     

    ก็.. พอดีริทกับพี่เต๋าป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันที่มหาวิทยาลัยน่ะ พอมีอะไรพี่เต๋าขาก็คอยช่วยเหลือตลอด ... ก็เลยสนิทกัน... ทำไมเหรอเรืองริทถามกลับ เพราะเมื่อเห็นท่าทางของไปนนทนันท์เหมือนกำลังจับผิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้

     

    ก็เปล่าหรอก ไม่มีอะไร ชาแค่ถามเฉยๆน่ะ เอ่อแล้วริทรู้จักกับท่านประธานด้วยใช่ไหม เห็นหลายคนเขาพูดกันว่าริทเดินออกมาจากลิฟกับท่านพร้อมกันเปลี่ยนคำถามๆต่อด้วยความสงสัย พลางทำหน้ารอคำตอบด้วยความอยากรู้

      

    ก็ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวหรอก พอดีช่วงเช้าริทแค่ติดลิฟมากับเขาด้วย

     

    แล้วท่านประธาน อนุญาตให้ริทขึ้นลิฟมาด้วยเหรอ

     

    เปล่าหรอก ริทก็แค่เดินเข้าไปเฉยๆ ... เอ๊ะ ที่บริษัทนี้ ต้องรอให้ท่านประธานเขาอนุญาตก่อนเหรอ ถึงจะเข้าได้เรืองริทถามด้วยความอยากรู้เช่นกัน เพราะยังไม่ทราบเรื่องอะไรเกี่ยวกับบริษัทนี้เลย

     

    ก็ใช่นะสิ เพราะลิฟที่ริทขึ้นมา มันเป็นลิฟสำหรับท่านประธานหรือไม่ก็สำหรับในครอบครัวเท่านั้น ส่วนลิฟของพนักงานทั่วไปมันอยู่ด้านข้าง ริทไม่ได้อ่านป้ายเลยเหรอ


                  เรืองริทเบิกตากว้างในทันที เมื่อได้ยินคำอธิบายอย่างชัดเจน

     

    จริงเหรอชา.... มิน้าล่ะ ตอนที่ริทเดินออกมาพร้อมกับท่านประธาน มีแต่คนมองกันทั้งนั้นเลยใบหน้าเรียวหวานเริ่มรู้สึกกังวล

     

    ไม่เป็นไหรหรอก เพราะริทพึ่งเข้ามาทำงานใหม่เลยไม่รู้เรื่องพวกนี้”  นนทนันท์พยายามพูดปลอบใจ เรื่องริทจึงพยักหน้ารับเบาๆ แต่ก็ยังไงคนตัวเล็กก็คลายกังวลเรื่องนี้อยู่ดี .. กลัวว่าคนอื่นจะเอาเรื่องไปนินทาเกินเลย ที่ถือโอกาสใช้ลิฟร่วมกับเขา ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเลยสักนิด

     

     

    จากพูดคุยถามไถ่กันไม่นาน ทั้งสองก็เดินมาถึงคอนทีนในที่สุด เรืองริททอดมองอาหารน่ากินหลากหลายเมนู รวมทั้งแกงจืดสาร่ายที่ตนนั้นชอบและเมื่อหันกลับมามองกระเป๋าตังค์ของตัวเอง มันก็เกินจำนวนเงินไปนิด เรืองริทจึงหันไปมองอาหารที่มีป้ายราคาติดไว้ถูกที่สุดแทน

     

    ป้าครับ ผมเอาเขนมจีนแกงไก่หน่อยนะครับนนทนันท์ชีนิ้วไปยังเมนูที่ตนชอบเป็นพิเศษ แต่ทว่า

     

    หมดแล้วละจ๊ะ เหลือแต่ตีนไก่เท่านั้น

     

    “โห เซ็งเลยอ่ะ” ร่างบางทำหน้าครวญอย่างน่าเสียดาย เพราะของที่ชอบที่สุดดันหมดซะก่อนทั้งยังไม่แพง ยิ่งช่วงนี้ต้องประหยัดไว้อยู่ด้วย ก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อนเมื่อเห็นว่ายืนนิ่งมองอย่างเดียว อ้าวริททำไมไม่สั่งแกงจืดล่ะ ชอบก็สั่งซะสิ

     

    คือพอดีมันเกินงบไปหน่อยน่ะ ริทเอาตังค์มาไม่มากเท่าไหร่

     

    แหม มาสั่งเอาตอนนี้ก็เหลือแต่ของเหลือเดนแล้วจ๊ะ

     

    อยู่ๆเสียงที่ไม่มีความเป็นมิตรก็พูดแทรก เรืองริทหันหน้าไปมองอย่างเลี่ยงไม่ได้ เผยให้เห็นรุ่นพี่แผนกเดียวกัน ซึ่งก็เป็นคนที่ยิ้มเยียดๆให้เมื่อเช้าก่อนจะตามมาด้วยชายร่างผอมบาง และอีกคนรูปร่างอ้วนท้วมยืนสมทบอยู่ข้างๆ พอเห็นสถานะการณ์ก็เริ่มไม่ค่อยสู้ดี นนทนนท์เลยคงต้องออกโรงปกป้องคนตัวเล็กเสียแล้ว ยิ่งท่าทางของเรืองริทคงจะไม่สู้คนอยู่ด้วย เมื่อรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยถูกชะตากันสักเท่าไหร่

     

    เอ่อ ดูสิริท แกงจืดที่ริบบอกว่าชอบทานเนี่ยนะ พึ่งจะเอามาขายสดๆ!! ใหม่ๆ!! น่าทานมากเลย!!นนทนันท์ประชดใส่ พลางตีสีหน้าใส่อารมณ์ร่วมด้วย

     

    หึ มีแต่ของจืดๆไร้รดชาติชายร่างท้วมไม่พูดธรรมดา เล่นหน้าเล่นตาคล้ายๆจะเป็นการประชดใส่อย่างไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

     

    แต่ก็อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร!!นันทนนท์ตอกกลับออกไปอย่างไม่รู้สึกกลัว เรืองริทที่อยู่ข้างก็แค่ยืนเฉยๆ ไม่รู้จะห้ามหรือจะเอ่ยอะไรออกไปดี

     

    แหม สมัยนี้เนี่ยนะจ๊ะ มันต้องเป็นส้มตำจ้า เพราะมันเผ็ดร้อนแรง และแซ่บอย่างมีสีสัน ป้าตำส้มตำให้ฉันจากนึงหญิงหัวหน้ากลุ่มพูดสั่งเสียงดัง ก่อนจะเหลียวหน้าไปมองเมนู

     

    มะละกอหมดแล้วจ้าเพียงคำตอบของป้าคนขายไม่ก็คำ ก็ทำเอาจนเธอหน้าเสียจนกู่ไม่กลับ นันทนนท์เลยมีโอกาสได้ตอกกลับอย่างเจ็บแสบอีกครั้ง

     

    โอ๊ย น่าสงสารจังเลยนะครับ ขนาดของเหลือเดนยังไม่ได้กินเลย ฮาๆๆเจ้าของร่างบางปล่อยขำออกมาอย่างจงใจแบบไม่กั๊ก ยิ่งเป็นการตอบย้ำให้อีกฝ่ายอารมณ์เดือดขึ้น

     

    นี่ อย่ามหาเรื่องฉันนะ!!

     

    ก็เปล่าหาเรื่องหรอกครับ แต่แค่จะแบ่งตีนให้ จะเอาหรือเปล่าครับ  แทนส้มตำที่พึ่งหมดเมื่อต่ากี้นี้!!” นนทนันท์กระดิกเท้าไปมาเหมือนเป็นท่าประกอบ

     

    กรี๊ด อี่บ้า!!เธอสบัดหน้าหนี เพราะไม่มีคำตอกกลับก่อนที่ลูกสหมุนจะเดินตาม ปล่อยให้เรืองริทและผู้เป็นเพื่อนนั้นเลือกสั่งอาหารตามสบาย แล้วจึงเดินหาที่นั่งทานข้าวกันอย่างเงียบๆ.. แค่วันแรกของการทำงานก็เริ่มอึดอัดมากพอเหลือเกิน วันต่อไปคงต้องเตรียมมือรับกับคนพวกนั้นอย่างหนักเป็นแน่

     

    คชา คือสามคนนั้นเป็นใคร แล้วชื่ออะไรเหรอเปิดฉากถามด้วยความอยากรู้ เมื่อมาหาเรื่องกันถึงขนาดนี้แล้ว

     

    ยัยผู้หญิงคนที่มาหาเรื่อง ชื่อ ยัยต้นหอม ส่วนผู้ชายตัวอ้วนๆนั้นชื่อบุคโก๊ แล้วคนสุดท้ายนั้นชื่อ นุ้ย เป็นกองหลังให้ ยัยเบล ว่าที่คู่หมั้นของท่านประธานน่ะ”  

     

    ริทรู้สึกว่าพวกเขาไม่ค่อยชอบหน้าริทเลย

     

    ก็สาเหตุ มันมาจากที่ริทเดินออกจากลิฟมาพร้อมกับท่านประธานนั้นแหละ เพราะพวกนั้นคงคิดว่าริทกำลังมีความสัมพันธ์กับท่านประธานอยู่นะสิ

     

    ขนาดนั้นเลยเหรอขมวดคิ้วถามในทันที

     

    ถ้าไม่ขนาดนั้น ก็คงไม่เอาปากราน้ำมาตามราวีอย่างงั้นหรอก แต่ริท ก็อย่าไปสนใจเลยนะ ใครที่เข้ามาทำงานใหม่พวกนั้นก็ชอบวางอำนาจใส่แบบนั้นแหละ

     

    เหตุผลจากปากนนทนันท์ถูกชี้แจงอย่างละเอียด.. เอาจนคนฟังแทบไม่จะเชื่อตัวเองด้วยซ้ำแค่ความรู้ถึงไม่เท่าทันนั้นส่งผลให้คนอื่นคิดไปไกลได้ขนาดนี้.. และดูเหมือนว่าฝ่ายคงจะไม่ยอมหยุดหาเรื่องอีกแน่.. เรืองริทจึงทำได้แค่ถอนหายใจเหนื่อยๆ

     

    ขอนั่งด้วยคนได้ไหมเสียงทุ่มหนาของคนที่มาใหม่นั้นเป็นเศรษฐพงศ์ พลางถือถาดที่เต็มไปด้วยอาหารน่าทาน

     

    ได้สิครับเรื่องริทพูดยิ้มๆพร้อมทั้งผายมือเป็นการเชื้อเชิญ ก่อนที่คนร่างสูงจะลากเก้าอี้ออกมาหย่อนตัวลงนั่ง

     

    ทำงานวันแรกเป็นไงบ้าง

     

    ก็ดีครับ... ดีมากๆเลย ดีกว่าอยู่เฉยๆเหมือนเมื่อก่อนจำใจพูดโกหกออกไป ทั้งที่เรื่องจริงกลับไม่ใช่เลยสักนิด

     

    แต่ก็คงไม่ดีร้อยเปอร์เซ็นหรอกครับ... น้ำเสียงที่แสดงความไม่พอใจของนนทนันท์พูดแทรกขึ้น คนฟังจึงเลิกคิ้วก่อนจะเอ่ยถาม

     

    ทำไมเหรอ

     

    ก็เมื่อกี้ มีคนเข้ามาต่อว่าริทนะสิ... แต่ดีที่ผมอยู่ด้วย ก็เลยจัดการพวกนั้นคืน”..

     

    แล้วคนที่เข้ามาต่อว่าริท เขาเป็นใครล่ะครับ

     

    ก็เป็นพวกยัยพี่ต้นหอมนั้น ที่เคยหาเรื่องผมมาก่อนตอนที่เข้ามาทำงานใหม่ๆ ยังไงก็ผมก็ฝากพูดตักเตือนสั่งสอนกันหน่อยนะครับ อย่าปล่อยให้มาพูดทำร้ายใครคนอื่นแบบนี้อีกร่างบางกำชับหนักแน่น

     

    ครับ เดี๋ยวผมจะพูดตักเตือนให้ก็แล้วกัน

     

    เอ่อ ริทว่าเราทานอาหารดีกว่านะครับ อย่าเสียเวลาพูดถึงคนอื่นเลย รีบๆทาน แล้วก็รีบไปทำงานกันเมื่อเห็นว่าเรื่องไม่จบง่ายๆเลยตัดความดีกว่า เศรษฐพงศ์จึงพยักหน้ารับฟังเป็นการเข้าใจ เหลือเพียงแค่นนทนันท์กำลังจ้องมองทั้งสองด้วยแววตาที่เรียบเฉย เหมือนรู้สึกไม่พอใจที่พวกเขาสนิทสนมกันจนเกินไป

     

    .
    ไฟไม่มาเมื่อคืนนั่งร้องไห้เกือบอัพฟิคไม่ได้
    ยังไงก็ฝากด้วยนะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×