ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    El satanas รักร้ายๆของซาตาน (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #2 : ลำดับตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 58


     

    การที่ชานยอลพักงานคยองซูเป็นเวลานาน มันไม่ได้ช่วยอะไรดีขึ้นมาเลย เมื่อไม่มีใครมานั่งสรุปงานของเขาให้มันน้อยลง ถ้าเป็นเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ป่านนี้ งานของเขาก็คงจะเสร็จไปนานแล้ว เป็นเพราะ เขายังไม่ไว้ใจให้คยองซูกลับมาทำงานตามเดิม เขาเป็นคนที่มีพอมีบทเรียนนิดๆหน่อยๆ ก็มักจะจำไว้เตือนสติตัวเองเรื่อยมา

    ชานยอลถอนใจเหนื่อยๆ เพราะเพิ่งเคลียร์เอกสารอีกหนึ่งแฟ้มเสร็จ หากก็ยังมีอีกหลายกองที่วางเรียงรายอยู่ใกล้กัน ที่เขาบ้างานขนาดนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ไม่มีมือขวามาช่วยเพียงอย่างเดียว แต่เขาต้องการจะลบภาพ ลบคำพูดของใครสักคน ที่มันยังดังก้องอยู่ในหัวใจ เขายอมรับว่า ตอนนี้ เขาเริ่มจะใจอ่อนกับคำสารภาพของคนตัวเล็กตอนเมื่อดื่มกับเขา แต่แค่คำพูดอย่างเดียวมันไม่มีน้ำหนักมากพอ เนื่องจาก เขายังปักใจเชื่อจงแดเสมอมา

    ฟิ้ว!!

    เพล้ง!!

    ชานยอลสะดุ้งโหยง หัวใจล่วงไปถึงตาตุ่ม เมื่ออยู่ๆก็มีกระแสลมแรงๆพัดผ่านหน้าต่างที่เขาลืมปิดไว้ เอกสารบนโต๊ะก็ปลิวลอยขึ้นบนกลางอากาศ กรอบรูปวาดแจกันที่ห้อยแขวนฝาผนังก็ล่นแตกลงที่พื้น เศษแก้วก็กระจัดกระจายเกลื่อนไปทั่ว ก่อนที่สายลมจะหายไปชั่วพริบตาเดียว

    “บ้า เอ๊ย!!” เสียงเข้มสบถอย่างไม่สบอารมณ์

    เพราะเขาต้องลงมือจัดแจงเอกสารให้มันเข้าทีเอง รวมทั้งเศษแก้วพวกนั้นอีกด้วย

    น่าแปลกจริงๆ อยู่ๆก็เกิดมีลมพัดเข้ามาอย่างกะทันหัน แล้วที่น่าแปลกไปกว่านั้น กรอบรูปวาดนั่น ก็มีการตอกตระปูยึดไว้เสียแน่น แต่ก็ล่นลงมาแตกได้ง่ายๆอย่างไม่น่าเชื่อ

    ชานยอลเริ่มรู้สึกใจไม่ดีขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ หน้าอกด้านซ้ายมันเต้นแรงอย่างผิดปกติ และสั่นไหว คล้ายจะมีรางร้ายเกิดขึ้น

    ก๊อกๆๆ

    “โอ๊ย!!” ชานยอลอุทานเสียงดัง เมื่อเผลอทำเศษแก้วบาดมือตัวเอง เพราะตกใจเสียงเคาประตูนั่น ชานยอลหันไปมองคนที่กำลังผลักมันเข้ามา แล้วก็ปรากฏว่า เป็นคยองซูที่อยู่ตรงนั้น

    “มือเจ้านายเลือดออกนี่ ผมว่า เจ้านายรีบไปทำแผลดีกว่านะครับ”

    “แผลแค่นี้เอง ฉันไม่ตายง่ายหรอก ว่าแต่แกเถอะ โผล่หน้ามาทำไม ฉันยังไม่ได้อนุญาตให้แกกลับมา” น้ำเสียงของเขาดูเครียดจัดทีเดียว ซึ่งก็หมายความว่าเขายังไม่หายโมโหกับวีรกรรมของคยองซูง่ายๆ

    ชานยอลลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเลือดให้แห้ง แล้วเปลี่ยนวิธีเก็บใหม่ด้วยการกวดไปทิ้งที่ถังขยะ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดแผลซ้ำสอง

    “ที่ผมกลับมาก็เพราะมีบางอย่างต้องสะสาง”

    “สะสางอะไรของแก”

    “เจ้านายจำได้ไหมครับ ที่ผมเคยพูดว่า ผมกลับจะมาอีกทีพร้อมกับหลักฐานที่ยืนยันว่าแบคฮยอนไม่ใช่คนผิด ซึ่งผมก็ทำได้แล้วครับ”

    เหอะ หลักฐานบ้าบออะไรของแกอีกคยองซู นี่ยังไม่ล้มเลิกความคิดนี้อีกหรือไง ชานยอลทำเสียงหมิ่นประมาท

    “เจ้านายลองเอาเอกสารนี่ไปดูก่อนนะครับ แล้วจะนายก็จะเข้าใจทุกอย่างเอง

    คยองซู วางเอกสารที่นำมาด้วยไปวางลงต่อหน้าชานยอล สีหน้าของคยองซูตอนนี้มันแสดงถึงความมุ่งมัน เสียจนชานยอลไม่กล้าจะปฏิเสธ จึงหยิบมันขึ้นมาดูตามคำขอ

    แค่ ชานยอลเปิดหน้าแรกขึ้นมาก็ทำเอาเขาอึ้งในทันที เขาเห็นรูปภาพ น้องชายของตัวเองที่มีความสุขการใช้ยาเสพติด โดยมี ชายหนุ่มหน้ามน ร่วมวงอยู่ด้วย ก่อนจะมีภาพคู่ของพวกเขาภายในบ่อนแห่งหนึ่ง และ ภาพต่อไป ก็ยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น กับความสัมพันธ์ระหว่างน้องชายของเขากับผู้ชายหน้าสวยคนนี้

    “ความจริง แบคฮยอนไม่ใช่คนพาคุณจงแดไปติดยา หรือเล่นการพนันจนเสียคน แต่เป็นซิ่วหมินครับ คนที่จงแดแอบคบอยู่ลับๆ แต่ถ้าเจ้านายคิดว่าหลักฐานมันไม่ไม่พอ ผมมีคลิปของพวกเขาให้ดูครับ”

    ชานยอลรีบหยิบโทรศัพท์จากคยองซูมาดู เพื่อความแน่ใจ และแล้วเขาก็เห็นภาพเคลื่อนไหวของทั้งสองบนเตียงอย่างร้อนแรง ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การตัดต่อ หรือเป็นการใส่ร้ายจากคยองซูใดทั้งสิ้น แต่มันเป็นความจริงอย่างสมบูรณ์ ความจริงที่ชานยอลไม่คาดคิดเลยว่าน้องชายของเขาจะกล้าหลอกหลวงกันถึงเพียงนี้

    “จงแด รักหมินคนเดียวใช่ไหม”

    “รักครับ ผมรักคุณคนเดียว

    “แล้วแบคฮยอน ล่ะ เขาเป็นแฟนคุณนะครับ คุณทำแบบนี้คุณไม่กลัวว่าเขาจะเสียใจหรอ”

    “เดี๋ยวอีกไม่นาน ผมจะเลิกกับเขา เพราะผมรักคุณคนเดียว”

    คลิปวิดีโอหยุดเล่น ก็ทำให้ ชานยอลนิ่งไปดั่งถูกสาปให้กลายเป็นก้อนหิน

    นี่มันเกิดอะไรขึ้น เขาเฝ้าถามตัวเอง ตอนนี้ สมองรวนไปหมด หน้าก็เหมือนถูกกระแทกด้วยของแข็งอย่างแรง

    “ทีนี้ เจ้านายก็รู้แล้วนะครับ ว่าสิ่งที่ผมกับแบคฮยอนพูดมาทั้งหมด มันคือความจริง ถ้าหาก เจ้านาย รักคุณ แบคฮยอน เจ้านายก็กลับไปหาเขาเถอะครับ ไปปรับความเข้าใจกับเขา อย่าปล่อยให้เรื่องมันคาราคาซังแบบนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว คนที่เจ็บปวด ไม่ใช่แค่แบคฮยอนคนเดียว แต่เป็นเจ้านายด้วย

    “ขอบใจมากแกมาก คยองซู ที่ทำให้ฉันคิดได้” ชานยอลทิ้งประโยคสุดท้ายไว้อย่างซาบซึ้งใจต่อคยองซู ก่อนจะวิ่งออกจากประตูห้องไปรวดเร็ว และไม่คิดอะไรในตอนนี้ นอกจากจะคิดถึงใบหน้าสวยหวานทุกๆวินาที ที่กำลังเดินผ่านไปอย่างเชื่องช้า

     

    อาการปั่นป่วนทีท้อง ยังคงแผลงฤทธิ์เรื่อยๆ หลังจากที่แบคฮยอนนั้นทราบว่าตัวเองนั้นมีเด็ก แค่ในช่วงเช้า แบคฮยอนก็เกิดอาการแพ้ท้องถึงสามครั้งติดต่อกัน แค่ได้กลิ่นอะไรลอยติดจมูกมา ก็เริ่มมีอาการสะอิดสะเอียนในทันที แต่ดี ที่ตอนนี้ ก็ยังพอจะทุเลาลงมาบ้าง

    ร่างบางผลักประตูออกมาเพื่อจะเดินไปรับบรรยากาศข้างนอกที่หลังบ้าน ถ้าขืนยังทนอยู่ มีหวังได้อ้วกอีรอบแน่คราวนี้ เมื่อกลิ่นอ้วกก็เหม็นฟุ้งไปทั่วทั้งห้อง  แต่ไม่ทันที่แบคฮยอนจะเดินลงบันไดไป ขาเรียวสวยก็ต้องหยุดชะงักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเห็นมีคนมายืนขวางทาง พลางจ้องด้วยสายตาริษยา ซึ่งไม่มีใครแสดงอนุภาพแห่งความเกลียดชังได้มากเท่าดาเฮอีกแล้ว

    เพี๊ยะ!!

    หล่อนไม่พูดรำทำเพลงอะไร ฝ่ามือของหล่อนก็ฟาดเข้าใบหน้าแบคฮยอนจนหันไปตามแรงมือ และมีอาการชาตามมา ร่างบางตกใจกับสิ่งเกิดขึ้นกับตัวเองกะทันหัน ไม่คิดเลยว่า หล่อนจะกล้าเข้ามาหาเรื่องกันอย่างหน้าตาเฉย

    “เธอมาตบฉันทำไม” พอสติกลับคืน แบคฮยอนก็หันไปตวาดเสียงถาม ตอนนี้ แบคฮยอนก็อยู่ในอารมณ์เดียวกันกับดาเฮ เพียงแต่ไม่มีน้ำตาไหลพรากออกมาเหมือนเธอ

    “เพราะแกมันหน้าด้านไง ที่บังอาจมายุ่งกับคุณชานยอลของฉัน”

    “ดาเฮ ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว ห้ะ!! ว่าฉันไม่ได้ยุ่งกับเจ้านายของเธอเลย เขาต่างหากที่มายุ่งกับฉันเอง”

    “ฉันไม่เชื่อ แกมันมันแพศยา ให้ท่าคุณชานยอล มานี่!!”

    “โอ๊ย ฉันเจ็บนะ ปล่อยฉัน” แบคฮยอนพยายามขัดขืน แต่ความอ่อนเพลีย มันรุมเร้าอย่างหนัก จนไม่สามารถทำให้แบคฮยอนตอบโต้ได้

    “ไม่ต้องมาสำออย” ดาเฮกระชากแขนแบคฮยอนแล้วลากออกมาจนถึงบันไดขั้นแรก

    “ถ้าไม่มีแก ป่านนี้ ฉันมีความสุขกับเจ้านายไปนายแล้ว เพราะแก เพราะแกคนเดียว”

    “ดาเฮ เธอฟังฉันนะ ฉันไม่เคยให้ท่าชานยอลเลย แล้วเขาก็ไม่ได้ชอบพอฉันเลยสักนิด เธอก็รู้ว่าเขาเกลียดฉันแค่ไหน

    “หยุดพล่ามได้แล้ว ถ้าแกตกบันได กลายเป็นอัมพาตไป ดูสิ เจ้านาจะสนใจแกไหม”

    “อย่านะ!!”

    “ตายซะเถอะแก อย่าอยู่เลย”

    “ไม่”

    ผลั่ก

    “โอ๊ย” แบคฮยอนกลิ้งลงไปตามขั้นไดจากแรงผลักอันมหาศาล มือเรียวพยายามปกป้องหน้าท้องเอาไหวไม่ให้ถูกกระทกกระเทือน จนมาหยุดนิ่งอยู่ที่พื้นชั้นร่าง

    ทันใดนั้นเอง ขายาวของชานยอลก็ก้าวมาเห็นในจังหวะที่ร่างบางนอนจมบนกองเลือดพอดี ร่างสูงนิ่งอึ้งกับภาพที่เห็น เลือดไม่ได้ไหลออกมาจากแค่ศีรษะอย่างเดียว แต่มันไหลตามเรียวขาด้วย ก่อนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเสียจนเขาไม่รู้จะจับต้นชนปลายอย่างไรดี

    สิ่งเดียวที่เขาต้องทำที่สุดตอนนี้ก็คือ ตั้งสติ แล้ววิ่งเข้าไปหา คนที่ตนรูดดีแก่ใจแล้วว่า รักมากแค่ไหน ให้เร็วที่สุด

    “แบคฮยอน” ชานยอลรีบช้อนร่างบางขึ้นมาอ้อมแขน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเห็นดาเฮ ที่ยืนอึ้งไม่แพ้กัน  

    “ดาเฮ นี่เธอกล้าผลักแบคฮยอนหรอ”

    เปล่านะคะ ดาเฮ ไม่ได้ผลักแบคฮยอนนะคะ แบคฮยอนเดินตกบันไดเอง ดาเฮไม่เกี่ยว หล่อนวิ่งหนีไปอีกทางโดยไม่คิดชีวิต เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับอารมณ์ชานยอลตอนนี้

    ความแค้น ความพยาบาท กำลังเริ่มมีปฏิกิริยาจนถึงขีดสูงสุด ชานยอล อยากจะตามสาวใช้กลับมาแล้วฆ่าให้ตายอย่างทรมานด้วยมือตัวเองเสียตอนนี้ แต่ความปลอดภัยของแบคฮยอนสำคัญที่สุด สำคัญเท่าชีวิตของเขา จึงตะโกนหาคนที่เหลือออกรถไปยังโรงพยาบาลอย่างรีบด่วน  

     

     

    เมื่อชานยอลพาแบคฮยอนมาถึงโรงพยาบาล เจ้าของร่างที่หมดสติ ก็ถูกอุ้มขึ้นเตียงแล้วมีพยาบาลรวมทั้งหมอ จงอิน ที่เป็นเพื่อนสนิทของชานยอล ช่วยเข็นเตียงเข้าห้องไอซียูแล้วเรียบร้อย โดยมีชานยอลยืนรอคอยอยู่ข้างนอกภายใต้ใบหน้าที่สุดแสนกังวล

    แบคฮยอน อย่าเป็นอะไรนะ” ชานยอลพูดพร่ำอยู่คนเดียว ตัวสั่นระริก เหมือนคนเสียสติ ขณะที่ คยองซูก็วิ่งมาถึงที่โรงพยาบาลพอดีหลังจากได้รับข่าวร้าย

    เจ้านายครับ แบคฮยอนเป็นไงบ้าง” คยองซูถามด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก

    “ไม่รู้เหมือนกัน ไอ้หมอมันยังไม่ออกมาเลย นี่ถ้าแบคฮยอนเป็นอะไรไปนะ ฉันจะไม่ให้อภัยตัวเองได้ขาด” ชานยอลเอาแต่โทษตัวเองอย่างเดียว พลอยทำให้คยองซูใจเสียร่วมด้วย เพิ่งจะเห็นหน้ากันเมื่อกี้นี้เอง ไม่นึกเลยว่าแบคฮยอนจะได้อุบัติเหตุร้ายแรงถึงเพียงนี้

    ผ่านไปหลายร่วมชั่วโมง แต่พวกเขายังไม่เห็นหมอหรือพยาบาลออกมาจากห้องผ่าตัดแม้แต่คนเดียว ชานยอลเดินกระสับกระส่ายไปมาตรงบริเวณหน้าห้อง พลางยกมือทั้งสองกุมเข้ากัน ภาวนาขอให้แบคฮยอนปลอดภัย

    แต่ในขณะเดียวกันประตูของห้องไอซียูก็ถูกผลักออกมา ทำให้พวกเขาทั้งหมดรีบหันไปมองเป็นสายตาเดียวอย่างรวดเร็ว

    ไอ้หมอ เมียกูเป็นยังไงบ้าง” ชานยอลรีบเข้าไปถามเพื่อนทันที

    ใจเย็นๆก่อนสิ

    แต่กูไม่มีเวลาใจเย็นมากนะ บอกกูมาเดี๋ยวนี้ว่าแบคฮยอนเป็นยังไงบ้าง” ชานยอลเอ่ยถามต่ออย่างใจร้อน ใบหน้ากำลังรอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

    คือตอนนี้ อาการของคนไข้เริ่มทรงตัวแล้ว ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก แค่หัวแตกนิดหน่อย”

    ได้ยินแค่นั้น ชานยอลก็โล่งใจเป็นปลิดทิ้งทันที

    “แต่ฉันช่วยชีวิตของอีกคนไม่ได้”

    “ชีวิตใคร” ชานยอลตีสีหน้ามึนงง ไม่เข้าใจความหมายของเพื่อน

    “ลูกในท้องของแบคฮยอน ฉันช่วยเขาไว้ไม่ได้”

    “อะไรนะ แบคฮยอนท้องอย่างนั้นหรอ” ใจหายวูบทันทีที่สิ้นประโยคจากเพื่อน ชานยอลแทบล้มทั้งยืน เมื่อได้ยินคำตอบจนเต็มสองรูหู

    “ใช่ กูโทษจริงๆ ที่ช่วยลูกมึงไม่ได้ กูขอตัวก่อนนะ เมื่อกล่าวเสร็จ หมอก็เดินออกจากบริเวณนี้ไปด้วยสีหน้าซีดๆ

    คยองซูมองเจ้านายด้วยความรู้สึกสงสารและเจ็บปวดไปพร้อมกัน ร่างสูงทรุดลงไปกองกับพื้น ดั่งคนหมดสิ้นทุกอย่าง คยองรีบปรี่เข้ามารับร่างเจ้านายเอาไว้ แล้วนั่งลงที่พื้นพร้อมๆกัน

    “ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ ทำไม” ชานยอลกุมขมับทั้งน้ำตา ก่อนจะโตนร้องก้องไปทั่วทั้งโรงพยาบาล ไม่สนใจแล้วว่าใครจะมองมา และแสดงสีหน้าเหมือนเห็นคนบ้ากำลังมีอาการบ้าคลั่ง

    “ไอ้ชานยอล มึงมันเลว มึงทำแบบนี้กับคนรักของมึงได้อย่างไง”

    “ไอ้โง่ ไอ้ควาย ผลักๆๆ!!” หมัดหนักซัดเข้าพื้นกระเบื้องด้วยแรงโมโห หลายครั้งติดต่อกัน จนถลอกปอกและเกิดมีเลือดไหลออกมา  

    “เจ้านาย พอได้แล้วครับ อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้”

    “ปล่อยกู คยองซู ฮึก มึงเห็นหรอว่ากูเสียลูกไปทั้งคน จะให้กูทำใจได้ยังไง ฮือๆ”

    ชานยอลร้องไห้ปานจะขาดใจ พยายามข่มเสียงร้องทั้งๆ ที่น้ำตาไหล่บ่าไม่หยุด มือข้างหนึ่งกุมจิกที่เหนืออกซ้ายราวกับจะสั่งให้หัวใจนี้หยุดเจ็บปวดเสียที จนคยองซู ทนไม่ไหวดึงร่างของเจ้านายเข้ามากอดปลอบ อยากจะให้เจ้านายลืมทุกอย่าง อยากจะให้เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงฝันร้าย แต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะปฏิเสธความเป็นจริง เพราะหัวใจของชานยอลเหมือนจะขาดรอนๆลงไปทุกที จนแน่นไปทั่วทั้งอก







     

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×