ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Unlovable

    ลำดับตอนที่ #3 : วันแรกของการเข้าทำงาน

    • อัปเดตล่าสุด 17 ส.ค. 56


        





     

     แสงตาวันของยามเช้ากำลังสาดส่องกระทบดวงตากลมหวานทั้งสองข้างของเรืองริท เป็นผลทำให้คนตัวเล็กนั้นค่อยกะพริบตาถี่ๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นมองด้วยท่าทางสลึมสหลือ พลางสำรวจมองรอบตัวดีๆก็พบว่ากำลังอยู่ในห้องของตัวเอง... ห้องที่เล็กเท่ารูหนู มีเครื่องของตกแต่งราคาถูกๆทั่วทั้งห้อง

     

    อ้าวริท ตื่นแล้วเหรอเรืองริทหันไปมองต้นเสียงที่พึ่งเปิดประตูเข้ามา เผยให้เห็นเจ้ม้ากำลังเดินตรงเข้ามาหาพอดี

     

    ครับ ผมเพิ่งตื่น เอ่อแล้วผมกลับมาอยู่ที่ห้องของตัวเองได้ไงครับ”  เอ่ยถามด้วยความงุนงง เพราะเมื่อคืนยังพอแค่จำได้ว่าออกไปเที่ยวผับกับพวกเจ้ทั้งสอง

     

    ก็เมื่อคืนตอนที่ริทหมดสติไป เจ้กับยัยพรก็บอกให้บ๊อยที่นั้น หามริทมาส่งที่ห้องนะสิ” เจ้มาอธิบายอย่างกระจ่าง...  เรืองริทเริ่มค่อยๆปะติปะต่อนึกถึงเหตุการของเมื่อคืนที่ผ่านมา

                ใช่สินะ ตัวเองนั้นหมดสติลงไปหลังจากที่เสียจูบให้กับเขาคนนั้น

     

    งั้นเหรอครับ ...

     

    "ใช่จ้า แล้วเมื่อคืน มันเป็นจูบแรกของริทใช่ไหม" เอ่ยถามพลางหลิ่วตาด้วยความอยากรู้ เอาจนคนจะเอ่ยปากตอบออกไปเกือบตั้งตัวไม่ถูก

     

    "ก็ ครับ" เรืองริทพยักหน้าตามความจริง

     

    "มีน่าล่ะ ถึงได้สลบกลางเวที.. นี่เจ้จะบอกอะไรให้นะ ริทโชคดีมากที่ได้จูบกับเขา เพราะจูบแรกมันเป็นเรื่องสำคัญ แล้วถ้าจูบแรกของริทดี มันก็มีผลต่ออนาคตด้วยนะ"

     

    จะบ้าเหรอครับ.. ผมกับเขาไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย อนาคง อนาคตอะไรกันพูดออกไปเกือบไม่เป็นเสียง เมื่อใบหน้าของอีกฝ่ายยังคงผุดขึ้นมาในความคิดยังไม่จางหายไปง่ายๆ

     

    แหม อีกไม่นานริทก็จะได้รู้จักเขานั้นแหละ

     

    พอเถอะครับ เราอย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย ว่าแต่ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ

     

    เจ็ดโมงครึ่ง

     

    ห๊ะ!! เจ็ดโมงครึ่งแล้วเหรอ!!ทวนคำถามเสียงดังด้วยความตกใจ

     

    ใช่ แล้วที่เจ้มาหาก็เพราะว่าจะมาปลุกริทเนี่ยแหละ เห็นว่ายังไม่ออกไปทำงานสักที

     

    ตายแล้ว เหลือแค่สามสิบนาทีเอง จะทันไหมเนี่ย เจ้ ผมขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะ เดี๋ยวจะไม่ทันเวลา

     

                “ยังไงก็รีบๆเข้าหน่อยก็แล้วกัน เมื่อกี้เจ้ก็ชวนคุยซะเพลิน

     

    เรื่องริทถีบผ้าห่มออกจากตัวอย่างไม่ใยดี ก่อนจะรีบพาตัวเองเข้าไปจัดการธุระประจำวันของทุกเช้า นี้คงเป็นครั้งแรกที่ร่างบางนั้นอาบน้ำยิ่งกว่าเดินผ่าน เพราะไม่มีเวลาจะใช้ให้เปลืองอะไรมากเหมือนก่อน จากนั้นไม่นาน เรืองริทก็เปลี่ยนเสื้อในชุดแบบทำงาน โดยที่ไม่ลืมจะใส่แว่นตาคู่กายแล้วค่อยรีบออกจากห้องไปด้วยการจ้างรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างในการเดินทาง

     

    แต่ดีที่บริษัทไม่อยู่ไกลจากห้องพักสักเท่าไหร่ เมื่อใช้เวลาร่วมยี่สิบนาทีขับแซงรถติดกันเป็นแถวก็เดินทางมาถึงแล้ว....

     

    เรืองริทรีบก้าวขาเดินเข้าไปข้างในตึกบริษัทขนาดใหญ่ในทันที เพราะเวลามันก็เหลือเพียงนิดเดียวเท่านั้น.. และเมื่อจะเดินขึ้นไปที่แผนกฝ่ายบุคคลนั้น มันก็คงต้องใช้เวลานานพอสมควรเช่นกัน เมื่อมันอยู่บนชั้นแปด หากจะใช่ทางบรรไดหนีไฟคนไม่ทันแน่นอน ร่างบางจึงเลือกตัดสินวิงตรงเข้าไปลิฟ ซึ่งในขณะที่กำลังใกล้จะปิดอยู่พอดี

     

    รอ ด้วยครับ!!" เรืองริทรีบยื่นมือเล็กๆคั้นประตูไวลิฟไว้ทัน ก่อนที่คนตัวเล็กจะก้าวขาเดินแทรกเข้าไป โดยที่ไม่รู้ว่าหน้าลิฟนั้นมันมีป้ายหนึ้งที่เขียนไว้ว่า ลิฟสำหรับผู้บริหาร.. พอเงยหน้าไปมองคนร่างสูงที่อยู่ข้างๆดีๆที่กำลังอยู่ในชุดสูทราคาเหยียบแสนสีเท่าอ่อนๆ ก็ทำให้ร่างบางนั้นเบิกตาก้วางขึ้นไข่ห่านด้วยความอึ้ง ไม่คิดเลยว่าจะบังเอีญอะไรขนาดนั้น เพราะเขาคือ ท่านประธานบริษัท

     

    อะ เอ่อ สวัดดีครับ คุณภาคินเรืองริทพยายามพูดทักทายให้เป็นเสียงปกติ เพราะหัวใจของตัวเองตอนนี้มันเต้นรัวจนแทบจนหลุดออกจากอกเสียให้ได้ ยิ่งเมื่ออยู่ไกล้ๆกัน ก็ยิ่งหวั่นไหวจนเริ่มรู้สึกแปลกๆ

     

    ครับ สวัดดีครับร่างสูงผินหน้าตอบด้วยสีหน้าเรียบๆ ก่อนจะหันกลับไปเช่นเดิม

     

    คือ ผมเป็นพนักงานใหม่นะครับ ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยครับ ถ้าผมทำผิดพลาดอะไรก็บอกด้วยนะครับ

     

    ครับ.. ผมบอกคุณแน่ เพราะครั้งแรกที่คุณเดินเข้ามาบริษัทมา คุณก็ทำผิดพลาดแล้วชายหนุ่มยังคงกล่าวออกไปเรียบๆ


                  ทำผิดพลาดงั้นเหรอ เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนิ เพราะเมื่อมองการแต่งตัวก็เรียบร้อยดีทุกอย่าง ส่วนเวลาเข้าทำงานก็ยังเหลืออีกตั้งห้านาที

     

    ติ๊ง

     

    ผมขอตัวก่อนนะครับภาคินบอก หลังจากที่ลิฟถูกเปิดออก ก่อนจะก้าวขาเดินเลี่ยงออกไปที่ห้องทำงานของตัวเอง เรืองริทจึงก้าวออกไปตามๆกัน แต่พอหันหน้าไปมองข้างหน้า ใครต่อใครในบริษัทแล้ว ทุกคนต่างก็ลุมมองเป็นสายตาเดียว ในเมื่อไม่มีใครกล้าเดินออกมาจากลิฟพร้อมกับท่านประธานเด็ดขาด ถ้าหากคนนั้นๆไม่มีความสำคัญ เรืองริทเลยเริ่มทำตัวไม่ถูก เมื่อมีบางกลุ่มแอบเก็บเอาเรื่องของตัวเองไปซุบซิบนินทา.... คนตัวเร็กเลยต้องรีบๆเร่งฝ่าเท้าเดินเลี่ยงจากบริเวณนี้ไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั้งพาตัวเองมาถึงห้องของหัวหน้าฝ่ายบุคคล ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตูเป็นเชิงมารยาท

     

    ขออนุญาตเข้าไปข้างไหนหน่อยนะครับเรืองริทเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ พลางไขประตูเข้าไปข้างใน

     

    มาแล้วเหรอคุณเรืองริทเสียงใหญ่พูดทักทายก่อนจะหมุนเก้าอี้หันมามองคนที่เข้ามาไหม่ เผยให้เห็นชายหนุ่มผิวขาวในชุดสูทราคาแสนแพง ใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราระดับประเทศ เลยทำให้เรืองริทเบิกตาขึ้นในทันทีเมื่อรู้ว่าเป็นใครที่อยู่ต่อหน้า

     

    พี่เต๋า

     

    ใช่จ๊ะ พี่เองเศรษฐพงศ์พูดยิ้มๆ

     

    ไม่คิดเลยนะครับว่าพี่จะทำงานที่นี่ แถมยังเป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคลด้วยเรืองริทยิ้มจนเต็มมุมปาก เมื่อคนร่างสูงที่อยู่ต่อหน้านั้นเคยเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยมาก่อน ทั้งยังคอยช่วยเหลือเรืองริททุกครั้งเมื่อมีปัญหา และยังไม่ได้รู้สึกลังเกียจคนจนๆแถมยังหน้าตาเฉยเฉิ่มอย่างคนตัวเล็กเลยสักนิด จึงทำให้ทั้งสองคนสนิทสนมกันอยู่พอสมควร... แต่หลังจากที่เศรษฐพงศ์เรียนจบปริญญาตรี ทั้งสองก็ไม่ได้พบกันอีกเลย เมื่อคนร่างสูงนั้นต้องบินไปเรียนต่อโทที่อาเมริกาเป็นเวลาร่วมสองปี

     

    พี่สบายดีไหมครับ

     

    ก็ดี แล้วริทล่ะ

     

    สบายดีมากเลยครับ เพราะริทมีงานทำแล้ว หลังจากที่ตะเวนหางานทำตั้งหลายเดือน เอ่อแล้วพี่กลับมาทำไมไม่บอกล่ะครับ ผมนึกว่าจะลืมกันซะแล้ว

     

    ไม่หรอกนา พี่ยังจำริทได้เสมอแหละ เพราะริททั้งขยันทั้งเรียนเก่งแบบนี้

     

    แต่ตอนที่พี่กลับมา ก็น่าจะติดต่อมาหาผมบ้างนะครับสีหน้าร่างเล็กเริ่มงอนนิดๆ

     

    ก็ช่วงนั้นพี่ไม่ค่อยว่างน่ะ อีกอย่างพี่ก็เพิ่งกลับมาได้ประมาณเดือนกว่าๆเอง อะไรๆก็ยุ่งวุ่นวายไปหมด แล้วตอนที่ริทมาสมัครงานวันนั้นพี่ก็ไม่อยู่เพราะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ไม่งั้น พี่ก็ได้สัมภาษณ์งานริทแล้ว

     

    โห ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงจะไม่ได้เข้าทำงานแล้วแน่ๆ... เพราะพี่คงจะถามอะไรที่ผมต้องตอบไม่ได้แน่นอนเลย

     

    มันก็มีบ้างแหละ แต่ยังไงพี่ก็ดีใจนะที่ริทเข้ามาทำงานที่บริษัทของพี่

     

    นี่เป็นบริษัทของพี่เหรอครับเรืองริทขมวดคิ้วถาม

     

    ใช่แล้วจ๊ะ

     

    งั้นพี่ก็เป็นน้องชายของท่านประธานน่ะสิ

     

    อันนี้ก็ใช่อีกเหมือนกันเขาตอบยิ้มๆ.......  เอาจนเรืองริทอึ้งนิดๆ ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญอะไรซ้ำซ้อนขนาดนั้น

     

    “ครับ เอ่อ แล้วริทต้องเริ่มทำงานตอนนี้เลยหรือเปล่า

     

    ใช่แล้วจ้า ริทต้องเริ่มทำงานตอนนี้เลย เดี๋ยวพี่จะพาริทไปที่โต๊ะทำงานของริทนะ

     

    ครับเรืองริทพยักหน้ารับ..ก่อนเดินตามคนร่างสูงไปหลังจากนั้น รู้สึกดีมากที่มีคนรู้จักที่ทำงานด้วยแถมยังเป็นพี่ชายที่แสนดีคอยช่วยเหลือตลอด เมื่อก่อนถ้าเรืองริทโดนใครกลั่นแกล้งหรือโดนคนอื่นพูดจาถากถางหรือดูถูกก็มีเพียงเเศรษฐพงศ์เท่านั้น เป็นคนคอยปกป้องเสมอมา... จากนั้นไม่นานทั้งสองก็เดินมาถึง

     

    นี่เป็นโต๊ะทำงานของริทนะ ถ้าขาดเหลืออะไรหรือคอมไม่ทำงานก็บอกพี่ได้

     

    ครับ เอ่อ แต่ว่า พี่ต_ เอ๊ย คุณเศรษฐพงศ์ไม่ต้องแทนตัวเองว่าพี่หรอกนะครับ คือตอนนี้เราอยู่ในที่ทำงานกันแล้ว คงไม่เหมาะสมเรืองริทพูดตามความคิด เพราะกลัวว่าคนอื่นจะหาว่าตัวเอง เหลิงตัวที่ให้น้องชายของท่านประธานแทนตัวเองแบบนั้น

     

    ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่มีใครเขาถือกันหรอกหน่า... เอ่อนี่ทุกคน ช่วยฟังทางนี้หน่อยนะครับ คนนี้ชื่อริท เรืองริท ศริภานิช เป็นพนักงานใหม่ ยังไงก็ช่วยแนะนำน้องเขาด้วยหน่อยแล้วกัน” เศรษฐพงศ์กำชับก่อนจะตามมาด้วยเสียงที่ตอบตกลง

     

    ครับ /ค่ะ”

     

    "งั้นพี่ขอตัวก่อนก็แล้วกัน ตั้งใจทำงานนะ" เศรษฐพงศ์ยกมือขึ้นลูบหัวอย่างเบาๆก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปห้องทำงานเช่นเดิม... ส่วนเรืองริทก็หย่อนกายลงนั่งหลังจากนั้น ก่อนที่จะมีหญิงสาวแต่งตัวเปรี้วยๆผมสั้นๆใบหน้าเติ่มแต่งด้วยความสำอางหนาๆ คนหนึ่ง นำเอกสารให้เรืองริทพิมส์เป็นงานแรก แต่พอเงยหน้าสังเกตมองเธอดีๆ สายตาที่ถูกส่งมาเหมือนจะไม่มีความเป็นมิตรเอาซะเลย ก่อนที่เธอจะเดินสบัดตัวหายไป ต่างกับชายหนุ่มหน้าหวานราวผู้หญิงอีกคนที่อยู่โต๊ะข้างๆ กำลังส่งยิ้มจางๆมาให้

     

    "ชื่อเรืองริทเหรอ"

     

    ใช่ครับ ผมชื่อเรืองริท แล้วพี่ล่ะครับ" หันไปพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ

     

    เราชื่อคชานะ ริทไม่ต้องแทนเราว่าพี่หรอก ชาว่าอายุของเราก็เท่าๆกัน ยังไงก็ ยินดีที่ได้รู้จักนะ

     

    อืม... ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน

    .
    .
    .
    ฟินข้ามค้าย คือจริงๆอยากจะบอกว่า
    ชอบคู่นี้เหมือนกัน แล้วก็ชอบมากด้วย
    ที่จริงเป็นคนดูเอเอฟก่อนจะมาดูเดอะสตาร์
    ด้วยซ้ำ ดูตั้งแต่ ซีซั่นสองนู้น จนมาถึงตอนนี้
    แต่เดอะสตาร์ก็ชอบเหมือนกันโดยเฉพาะซีซั่นหก
    ฟินมาก รักมากๆด้วย ฝากด้วยนะเอามาลงพร้อมกันเลยวันนี้
     

        

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×