คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter : 9
Chapter : 9
Fandom : Produce 101
Pairing : 2Kang [Baekho x Daniel]
Note : 100% มาแล้วจ้า รับไป หุหุ
⚠ : มีคำหยาบพอสมควรแต่ก็เพื่ออรรถรสจ้ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แสงไฟสีส้มสลัวจากเสาไฟทั้งสองข้างทางสาดส่องลงบนพื้นถนน ชายหนุ่มตัวหนาล้วงมือหยิบบุหรี่ในเสื้อโค้ทสีน้ำตาลตัวโคร่ง จุดไฟสีแดงด้วยไฟแช็กที่ไกล้หมดประกายไฟไปเต็มที ก่อนจะคาบมันไว้แล้วสูดควันสีหม่นเข้าปอด
ต่อหน้าความรู้สึกมากมาย ผมควรจะทำยังไงดี
นัยตาคมเปรยมองไปยังถนน แม้ใบหน้าจะเรียบนิ่งแต่ความความรู้สึกข้างในนั้นไม่ใช่เลย มันไม่ได้นิ่งเฉยอย่างที่เขาพยายามกลบเกลื่อนมันเอาไว้ เอาแต่มองขึ้นไปบนฟ้า ในใจกำลังร้อนรุ่มจนคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง ถนนข้างหน้าว่างเปล่าไม่มีรถคันไหนผ่านไปมาสักคัน
โดดเดี่ยวราวกับอยู่ตัวคนเดียวในโลกมืดๆนี่ โลกที่เขาไม่เคยชอบมันเลยสักครั้งในเวลาที่ต้องอยู่คนเดียว แต่ความเป็นจริงก็จะคอยสั่งให้เขาชินกับมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ดี และเพราะแบบนี้นั่นแหละ บางครั้งมันก็เลยทำให้เขาเริ่มเห็นแก่ตัวและอาจจะทำให้ใครต้องเสียใจ...แต่กลับกันเพราะตอนนี้แดเนียลกับคิดว่าตัวเองนั่นแหละ เป็นตัวของเขาเองที่เริ่มจะเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองได้เลือกทำลงไป...เลือกปิดกั้นตัวเอง เขาไม่รู้หรอกว่าเมื่อครู่นี้อะไรที่ทำให้ตัวเองหงุดหงิดจนแทบอยากจะชกหน้าใครสักคน แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาได้รู้และเข้าใจชัดเจนก็คือสิ่งที่แบคโฮเลือก
เลือกที่จะอยู่ต่อกับจูฮังนยอน
แน่นอนมันก็ไม่ได้ผิดอะไรเลยนี่นะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่มันต้องตามมาง้อคนอย่างเขา เหมือนอย่างทุกครั้งที่เคยทำ ยอมรับว่าเขาคิด หวังเล็กๆว่ามันอาจจะเป็นแบบนั้น แบบที่ความสัมพันธ์ของเราจะลงเอยที่แบคโฮง้อเขาและจบลงบนเตียงด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่าย เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมโดยไม่ต้องรู้สึกอะไรกัน
ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกอิจฉาอย่างน่าตลก เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้กลับเป็นคนอื่นที่อยู่ตรงนั้น
แต่มันคงไม่สำคัญแล้วล่ะ เพราะตัวเขาเองที่เป็นคนเลือก เลือกที่จะให้มันลงเอยแบบนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่แบคโฮก็สามารถจะเลือกได้เหมือนกัน
ไม่รู้สิไม่รู้ทำไม
เขาโคตรเกลียดความรู้สึกในตอนนี้เลย หวังอะไรอยู่อย่างงั้นเหรอคังแดเนียล
ลมเย็นในยามค่ำคืนพัดเข้ามาจนรู้สึกหนาวยะเยือก ทั้งที่สวมเสื้อโค้ทตัวหนาขนาดนี้ แดเนียลถอนหายใจอยู่หลายครั้ง เขาหันมองถนนทั้งสองฝั่งตั้งใจจะข้ามไปอีกฟากพอดีกับในตอนนั้นโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อโค้ทดังสั่น เขาหยิบมันขึ้นมาดูทันที ในระหว่างที่ขายาวๆกำลังจะก้าวลงจากริมฟุตบาท สายตาเหลือบไปมองหน้าจอ ข้อความที่ถูกส่งมาจากใครบางคนทำให้ฝีเท้าของเขาหยุดชะงักลง
แบคโฮ send video
แดเนียลเริ่มใจสั่นรัวในอกเมื่ออ่านชื่อของเพื่อนร่วมงาน แบคโฮทักมางั้นเหรอ?ไม่สิ ทำไมมันถึงได้ส่งวิดีโอมาทั้งที่ตอนนี้มันสมควรจะใช้เวลากับลูกค้าคนพิเศษของมัน...เขาใช้เวลาอยู่สักพักก่อนจะกลั้นใจกดเข้าไปดู อยู่ๆความเจ็บที่อกซ้ายก็เริ่มรู้สึกรุนแรงขึ้น มือเรียวสั่นเทาน้อยๆ แดเนียลไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตอนนี้ถึงได้หายใจไม่เป็นจังหวะเหมือนกับลมหายใจขาดห้วงไปเฉยๆ ความรู้สึกจุกในใจตอนนี้กำลังตีตื้นขึ้นมาจุกอยู่ในลำคอ มันจุกจนแทบอยากจะอ้วกออกมา...ภาพของคนที่เพิ่งทำให้เขาสับสนจนแทบเป็นบ้าอยู่เมื่อครู่โชว์หราอยู่บนหน้าจอ ภาพเคลื่อนไหวที่แสดงบทรักเร่าร้อนของแบคโฮกับใครบางคนในห้องพักพนักงาน...
บนโซฟาตัวนั้นที่เขานั่งรอทำงานกับมันอยู่ทุกวัน ในห้องนั้นที่เขาทำกับมันได้เพียงแค่จูบเท่านั้น
มือของเขาเริ่มกำโทรศัพท์แรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกชาวาบไปทั่วท้อง เมื่อเริ่มเห็นใบหน้าของคนใต้ร่างแบคโฮอย่างชัดเจน...
"จูฮังนยอน..."
แดเนียลไม่รู้เลยว่าจะต้องรู้สึกยังไง ไม่รู้ว่าทำไมขาของเขาแทบจะยืนไม่อยู่อยู่แล้ว ในหัวมีแต่คำว่าทำไม จนในหูมันอื้ออึงไปหมด...ทำไมกันล่ะ
ทำไมมันถึงได้เจ็บจนแทบอธิบายไม่ถูกขนาดนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขารู้ถึงเรื่องที่แบคโฮมีอะไรกับลูกค้าหรือผู้หญิงคนอื่นที่เขาไม่รู้จัก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเรื่องบนเตียงของมันกำลังทำอยู่กับคนอื่น...กับตาของตัวเอง
"มึงต้องการอะไรกันแน่แบคโฮ"
ต้องการอะไรงั้นเหรอถึงได้ส่งมาให้เขาดูแบบนี้ ความรู้สึกเหี้ยอะไรไม่รู้กำลังตีกันอยู่ในหัวมันสับสนไปหมด ก้อนอะไรสักอย่างที่จุกอยู่ในลำคอ มันทรมานจนทำให้เขาหายใจไม่ออก
"ถ้ามึงทำแบบนี้เพราะต้องการให้กูเจ็บปวดล่ะก็นะ..."
"มึงทำสำเร็จแล้ว"
แล้วทำไมน้ำตามันถึงไหลออกมาแบบนี้
ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน...
แดเนียลก้าวเท้าออกมาจากริมถนนตรงนั้นทีล่ะก้าว มือที่ถือโทรศัพท์เอาไว้ยังคงนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น แต่สิ่งที่ยังเคลื่อนไหวไม่หยุดคงเป็นวิดีโอบนหน้าจอนั่น
ความเจ็บปวดอันหนาวเหน็บ
น้ำตาที่ไหลอาบแก้ม...ความรู้สึกที่โคตรแตกต่างไปจากเดิม
"มึงทำเหี้ยอะไรกับความรู้สึกกูเนี่ย!"
ขยี้หัวตัวเองเพื่อจะไล่ความคิดบ้าๆนี่ออกไปให้หมด แต่สมองแม่งยังตื้ออยู่ดี พยายามก้าวเท้าเดินข้ามถนนต่อไป แต่กลับไม่มองทางข้างหน้าเลยแม้แต่นิด ราวกับกลายเป็นคนเหม่อลอยไปแล้ว แต่ยังไม่ทันได้เดินไปถึงครึ่งทาง แสงไฟสว่างจากไฟหน้ารถยนต์คันหนึ่ง ส่องเข้ามาไกล้แดเนียล จนรถคันนั้นเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว...
"เห้ย!!!"
รถยนต์คันใหญ่ขับเฉี่ยวแดเนียลไปเพียงนิด แต่มันก็มากพอที่จะทำให้เขาล้มลงในทันที โทรศัพท์ที่กำเอาไว้แน่นก่อนหน้าหลุดกระเด็นออกไปจากมือ แขนขวาไถลงไปกับพื้นถนน
"โอ๊ย!!! แม่งเอ๊ย!!!"
เขาร้องออกมาเสียงดังเพราะความรู้สึกเจ็บแปร๊บที่แผลเก่าแล่นไปทั่วทั้งแขน ก่อนจะกุมมือตัวเองขึ้นมาและพยายามข่มความเจ็บไว้ให้ได้มากที่สุด อย่างน้อยก็ให้ลุกออกจากกลางถนนก่อนเถอะตอนนี้ ไม่งั้นคงได้เจ็บของจริงเป็นแน่
"ทำไมไม่ชนกูเลยล่ะ แม่ง!!!" แดเนียลสอดส่ายสายตามองไปทั้งสองฝั่งถนน แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ลุกขึ้นมาด้วยซ้ำ รถยนต์คันนั้น คันที่เพิ่งเฉี่ยวเขาไปเมื่อกี้จอดอยู่ข้างหน้าไม่ไกล แสงไฟจากท้ายรถสาดส่องเข้ามาแยงตาจนต้องยกมือข้างนึงขึ้นบัง แดเนียลหรี่ตาเพ่งมองไปข้างหน้าอีกครั้ง เขาชะงักงันเมื่อรถคันนั้นกำลังถอยหลังเข้ามาใกล้มากขึ้น มากขึ้นทุกที...
"เหี้ยอะไรกันวะเนี่ย?!!"
ราวกับกำลังเล่นสงครามประสาทกับใครก็ไม่รู้ที่กำลังเล่นบ้าๆ ถอยรถเข้ามาใกล้เขาที่ทำได้เพียงแค่นั่งอยู่ที่เดิม มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ อย่างช้าๆ ราวกับต้องการให้เขาหวาดกลัวถึงขีดสุดอย่างงั้นแหละ ไม่รู้เหมือนกันว่ารถคันนี้มันต้องการอะไรหรือมันเป็นใคร เขารู้แค่ว่าอยู่ตรงนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว มันคงไม่ได้ถอยรถเข้ามาเรื่อยๆแบบนั้นเพียงเพราะต้องการจะขู่แน่ๆ เขาพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นให้ได้แต่ไม่ขยับเลย มันปวดไปหมดทั้งตัว แขนก็เริ่มชาขึ้นมาไม่น้อย จนแทบจะไม่รู้สึกเลยว่ามันขยับได้
"โธ่เว้ย!!!" แดเนียลคิดอะไรไม่ออก เขายังพยายามจะลุกจนสามารถพยุงตัวขึ้นมาได้เพียงนิดเดียว พอๆกับที่รถคันนั้นถอยหลังเข้ามาใกล้ทุกที...แต่ในจังหวะที่แดเนียลคิดว่าเขาหนีไม่ทันแน่แล้ว รถยนต์อีกคันโผล่มาจากด้านหลัง ขับปาดเข้ามาขวางรถคันนั้นด้วยความเร็วสูง เสียงล้อเบรกก่อนจะชนฟุตบาดเพียงไม่กี่เซนต์ เสียดสีไปกับพื้นถนนเสียงดั่งสนั่น ไม่นานรถคันนั้นก็ขับหนีออกไปในทันที ชายร่างสูงเดินลงจากรถที่เพิ่งช่วยชีวิตแดเนียลเอาไว้ ก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาประคองเจ้าตัวให้ลุกขึ้นยืน เพราะแสงไฟจากรถคันเมื่อครู่ส่องตาของเขาอยู่นานเป็นนาทีทำให้ดวงตาของเขามืดไปชั่วขณะ
"แดเนียลเป็นอะไรไหม?" เจ้าของชื่อพยายามกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับกับแสง แล้วเพ่งมองคนตรงหน้าอีกครั้งว่าเป็นใคร แต่น้ำเสียงคุ้นๆแบบนั้น แถมยังรู้จักชื่อของเขาอีก...
"แดเนียล โอเคไหม?เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น?"
"ครับ?"
"ไม่เป็นไรใช่ไหม?" ถูกถามย้ำอีกครั้ง เมื่อแดเนียลมองเห็นคนตรงหน้าชัดขึ้น เขาเบิกตากว้าง
"บอส..."
บนถนน
รถยนต์คันใหญ่กำลังมุ่งหน้าตรงไปยังจุดหมาย ถนนในตอนกลางคืนไม่ค่อยมีรถแล่นผ่านนัก ทำให้มินฮยอนขับรถได้เร็วและสะดวกมากขึ้น
"แน่ใจนะว่าจะไม่ไปโรงพยาบาล?"
"ครับ แค่นี้ไกลหัวใจผมไหว" แดเนียลพยักหน้ารัวไปพร้อมๆกับคำตอบ จนมินฮยอนต้องพยักหน้าตอบรับตามใป ถึงแม้ว่าใจจริงอยากให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเสียหน่อยก็เถอะ
"แผลถลอกก็มีนี่ ผมว่า..."
"บอสครับ"
"หืม?" คนถูกพูดขัดยักคิ้วเอียงหน้ามามองเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองถนนอีกครั้ง
"ขอบคุณนะครับที่ช่วยผมไว้"
"มันแน่อยู่แล้ว ก็ต้องช่วยสิ ยังดีนะที่เป็นทางผ่านบ้านผมพอดีถึงได้ช่วยไว้ทัน ไม่งั้นคุณคง...อ่า และถ้าเป็นงั้นจริงๆผมก็คงรู้สึกแย่ไปตลอดชีวิตแน่ๆ"
"คงเป็นโชคดีที่นรกยังไม่อยากรับผมมากกว่า" แดเนียลยักไหล่พลางหัวเราะแห้งๆออกมากลบเกลื่อนอารมณ์ขุ่นมัวในใจ
"อย่าพูดอย่างงั้นสิแดเนียล คุณต้องอยู่ไปอีกนานๆ เพื่อทำงานให้ผม เข้าใจไหม?" มินฮยอนพูดไปก็เอียงหน้ามองเขาไปด้วยเพื่อจะดูอาการด้วยเป็นระยะ
"ฮ่าๆ บอสมัดมือชกผมอย่างงี้ก็ได้นะ" หลุดหัวเราะออกมาจนได้
"โฮสต์ค่าตัวแพงอย่างคุณเป็นสมบัติของผมนะใครจะปล่อยให้ตายง่ายๆกัน ห้ามเลยห้าม"
"รู้สึกมีค่าขึ้นมานิดหน่อยเลยบอส"
"คนทุกคนมีค่าในตัวเองเสมอแดเนียลคุณก็ด้วย อย่างน้อยก็ค่าน้ำค่าไฟค่าใช้จ่าย ฮ่าๆๆ"
"ฮ่าๆ บอสก็ยังมีอารมณ์ตลก" พอได้หัวเราะออกมาจริงๆ ทำให้แดเนียลรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย ทำให้เขาหายใจได้ปกติสักทีอย่างน้อยแค่ในตอนนี้ ก็ยังดี...
"มีคุณมาขำให้ก็เลยชอบเล่นไง น่ารักดีออกนะคุณโฮสต์แดนตอนหัวเราะ"
"ผมคงเส้นตื้นเกินไปมั่งครับ"
"ว่าแต่คุณคิดว่านี่ใช่พวกเดียวกับคนที่โยนกระถางต้นไม้ใส่เมื่อเช้าหรือเปล่า?"
"อืม ผมก็คิดงั้นนะ แต่ไม่รู้เลยว่าเป็นใคร แล้วทำเพื่ออะไรกันแน่ หาหลักฐานยังไม่ได้สักอย่าง"
"เมื่อบ่ายองซองอูก็เข้ามาสอบปากคำผมนะ เห็นว่ายังไม่เจอหลักฐานอะไรเหมือนกัน"
"ซองอูทำอะไรนะครับ?" แดเนียลขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
"ช่างเถอะๆ เดี๋ยวผมจะพาไปแจ้งความ"
"ผมไม่ไป" แดเนียลหลุดขึ้นเสียง กำหมัดเข้าหากันแน่นโดยอัตโนมัติหันมาจ้องหน้าบอสอย่างลืมตัว มินฮยอนนิ่งไป
แต่พอรู้สึกตัวแดเนียลจึงได้หันหน้าหนีหลบสายตาของเขาที่จ้องกลับไปทันที มินฮยอนมองการกระทำของลูกน้องด้วยสีหน้างุนงงและไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรกลับ
"ถ้างั้น..."
"คือ ผมเจ็บแขน นี่ก็จะเที่ยงคืนแล้วผมอยากกลับไปพักผ่อน"
"เอางั้นนะ โอเค งั้นไปค้างบ้านผมก่อนแล้วกัน" พอได้ยินแดเนียลทำท่าจะหันมาปฎิเสธ เขาก็พูดดักทันที "ห้ามปฏิเสธ! พวกมันอาจจะตามไปรังควานคุณถึงที่นั่นอีกผมไม่ไว้ใจ ไปค้างบ้านผมก่อนแล้วพรุ่งนี้ผมจะพากลับไปเก็บของเตรียมไปทริปด้วยกันโอเคไหม?"
"แต่ผมว่า"
"นี่คือคำสั่งของบอสนะครับ คุณโฮสต์แดนอยากโดนตัดเงินเดือนหรือไง เอางั้นใช่ไหม?" เขาหัวเราะ
"บอสเล่นงี้เลยนะ" แดเนียลหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปมองถนนข้างหน้าอีกครั้งแล้วถอนหายใจ
"ถ้าใครสักคนอยากทำให้ผมตายขนาดนั้น หรือผมควรจะปล่อยให้มันทำสำเร็จไปเลยดีนะ..." เขาพูดทั้งที่ยังยิ้มออกมา นั่งเอนหลังพิงเบาะรถไปเต็มแรง พ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง
ความรักของผมก็เหมือนกับกุหลาบ หนามบนก้านที่มีแต่ความแหลมคม มันคอยทิ่มแทงทุกคนที่เข้ามาไกล้...ไม่เว้นแม้แต่ตัวผมเอง
"ทำไมพูดแบบนั้นแดเนียล มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?บอกผมได้นะ"
"ผมพูดเล่นครับ ไม่มีอะไรหรอก" แดเนียลหัวเราะเบาๆอีกครั้ง ทั้งที่ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ มินฮยอนไม่พูดอะไรอีกเพราะไม่อยากกดดันให้เจ้าตัวพูดอะไรที่ไม่ต้องการจะพูดออกมา แค่นี้ก็ดูย่ำแย่พอแล้ว ไม่รู้ว่าเจออะไรมาบ้าง เขาเลยคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยถามอีกรอบก็แล้วกัน
บรรยากาศในรถเงียบไปสักพัก เพราะความเพลียเลยทำให้แดเนียลปิดเปลือกตาลงได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะค่อยๆหายใจอย่างสม่ำเสมอแล้วหลับสนิทไปในที่สุด
Rrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์มือถือบนคอนโทลหน้ารถดังขึ้นมาตัดกับความเงียบภายในรถ แดเนียลขยับตัวทำท่าจะตื่น มินฮยอนเลยรีบหยิบไปกดรีบแล้วมองทางต่อ โดยไม่ได้มองหน้าจอด้วยซ้ำว่าใครโทรมา
"สวัสดีครับ"
(ผมมีเรื่องอยากจะถามบอสหน่อยสะดวกคุยไหมครับ?)
"อ่า นี่ใครครับ?"
(ทำลืม คนเคยๆกันทั้งนั้น)
"ถ้าไม่ตอบผมจะวาง" มินฮยอนทำท่าจะวางจริงๆ ดีที่ปลายสายพูดขึ้นมาก่อน
(ผมเองๆ องซองอูมือกลองคนฮอตไงครับนายท่าน)
"อ่า คุณมีอะไร" แทบจะถอนหายใจหงุดหงิดใส่โทรศัพท์กันเลยทีเดียว
(งั้นผมขอเข้าเรื่องเลยนะ บอสเห็นแดเนียลบ้างหรือเปล่า?ผมตามหาตั้งแต่บ่ายยังไม่เจอเลย)
คอนโดบอส
"กริ๊งงงง"
เสียงกดกริ๊งหน้าห้องดังติดกันสองครั้ง มินฮยอนออกมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำสักพัก ก่อนจะประมวลผลได้จึงรีบเดินออกมาทั้งที่ยังสวมเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำตัวยาวเพียงตัวเดียว ก่อนจะเปิดประตูให้คนอีกฝั่ง ที่ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าเป็นใคร
"มาแล้วเหรอคุณมือกลอง"
คนตรงข้ามลอบมองมินฮยอนตั้งแต่หัวจรดเท้า ผิวขาวเนียนที่เพิ่งถูกเช็ดให้แห้งมามาดๆ เสื้อคลุมอาบน้ำที่แหวกช่วงอกลึกลงมาจนถึงช่วงท้องเนียน หยาดน้ำบนไหปลาร้าที่ไหลหยดลงมาจากปรอยผมเพิ่งสระใหม่ๆยังไม่แห้งดีนักไหนจะกลิ่นหอมสะอาดที่ลอยแตะจมูกนั่นอีก ถึงจะเป็นบอสก็เถอะนะ แต่ทำเอาเขาแทบกลืนน้ำลายลงคอได้อย่างอย่างลำบาก...ซองอูสะบัดหัวไล่ความคิดแปลกๆก่อนจะเอ่ยถามหาคนออกไปแทน "แดเนียลอยู่ไหนครับบอส"
"นอนหลับอยู่บนโซฟาน่ะ" พอมินฮยอนบอก ซองอูก็เดินเลี่ยงเขาเข้ามาในห้อง แล้วตรงไปยังโซฟาทันที แล้วนั่งลงข้างๆร่างของเพื่อนสนิทที่ยังหลับไหลอยู่ในนิทรา ซองอูจ้องมองใบหน้าของแดเนียลแล้วก็รู้สึกราวกับหัวใจหล่นวูบ ทั้งโกรธและรู้สึกแย่ไปพร้อมๆกัน เพราะคราบน้ำตาที่ยังหลงเหลืออยู่บนใบหน้าเนียนนั่น ดวงตาที่เคยยิ้มได้อยู่ตลอดดูช้ำบวมราวกับผ่านศึกมาไม่น้อย แม้เจ้าตัวจะหลับสนิท...เขาไม่อยากเดาเลยว่าเป็นเพราะใครที่ทำให้แดเนียลเป็นแบบนี้ ร้องไห้ได้ง่ายๆทั้งที่ไม่ใช่นิสัยของมันเลย แต่จริงๆในใจก็รู้ดีอยู่แล้ว อีกอย่างคนที่มีอิธิพลกับแดเนียลได้มากขนาดนี้ ยังไงก็ไม่ใช่เขาอยู่ดี...ไอ้คังแบคโฮ
สักวัน...เขาสัญญาเลยว่าจะต้องได้ฆ่ามันสักวันแน่ๆ
มือหนาทาบลงข้างแก้มแผ่วเบา ก่อนที่ปลายนิ้วจะเกลี่ยพวงแก้มนิ่มของแดเนียล ซองอูก้มหน้าลงไปใกล้ใบหน้าของคนที่ยังหลับสนิทหวังจะจุมพิตกลีบปากอิ่มที่เขาเฝ้าโหยหามาตลอด...
"รักเขาข้างเดียวนี่มันก็เจ็บอยู่นะ"
"..."
"แต่คงไม่เท่าเขาไม่ยอมรักตอบ"
"อย่าทำเหมือนเข้าใจหน่อยเลยบอส" ซองอูล่ะใบหน้าออกมาจากแก้มขาวของคนที่ยังหลับ กระชับผ้าห่มให้คุมร่างของแดเนียลจนมั่นใจว่ามิดชิดหมดทั้งตัวแล้วจึงลุกขึ้นยืน "ผมอาจจะไม่ได้คิดข้างเดียวก็ได้ใครจะรู้" ตอบกลับไปส่งๆอย่างนั้น ทั้งที่ในใจก็รู้ดี
"แต่น้ำเสียงคุณดูไม่มั่นใจเลยนะ"
ซองอูครางหึอยู่ในลำคอให้กับประโยคที่ฟังไม่ค่อยเข้าหูนั่น จ้องหน้าคนที่ยังยืนกอดอกมองเขาอยู่ข้างหลังโซฟา เจ้าของเรือนผมที่ยังเช็ดได้ไม่แห้งสนิทดี สวมเพียงเสื้อคุมอาบน้ำสีขาวเพียงตัวเดียว มองเขาด้วยสายตานิ่งเฉย
"ผมผ่านโลกมามากกว่าคุณเยอะ ซองอู"
"ใช่เหรอ? ไม่ใช่ว่าแอบชอบใครอยู่หรือไงครับบอส" ซองอูยิ้มมุมปาก
"..."
คนโดนถามเอียงคอแล้วเฉมองไปทางอื่น ยังไม่ยอมตอบอะไร ก่อนจะเดินไปที่โซนครัวใกล้ๆ
"ก็นะ ผมอาจจะแอบชอบลูกน้องอยู่ได้ใครจะรู้ล่ะ" เขาหัวเราะในขณะที่เปิดลิ้นชักชั้นบนของซิ้งค์ทำครัวหยิบขวดวอดก้าลงมาตั้งบนโต๊ะ
"ห้ะ หมายความว่ายังไง?"
"..."
มินฮยอนไม่ยอมตอบอะไรอีกครั้ง หยิบถาดน้ำแข็งในตู้เย็นมาใส่แก้วทีล่ะก้อนอย่างใจเย็น เห็นดังนั้นซองอูเลยเดินตามมาหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะอีกฝั่ง วางแขนลงกับโต๊ะแล้วเอามือเท้าคาง สายตาคมจ้องมองคนตรงหน้าไม่ล่ะ พยายามจะกวนใจด้วยการส่งยิ้มกวนให้ได้ แต่มินฮยอนก็ยังไม่หลงกล ดวงตามนยังไม่ยอมล่ะออกจากแก้วตรงหน้า แต่ซองอูกลับไม่รู้เลยว่าตัวเองเผลอมองหน้าบอสเพลิน จนกินเวลาไปเป็นนาทีแล้วก็ยังไม่หยุดมอง
"สักหน่อยไหม" จนมินฮยอนเงยหน้าขึ้นมาจากแก้ว ยื่นวอดก้าเพียวๆที่เพิ่งเทใส่แก้วเสร็จสรรพให้กับเขานั่นแหละถึงได้หลบมองไปทางอื่น แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว ซองอูรีบยิ้มแห้งๆแก้เขินที่โดนจับได้ ก่อนจะรับแก้วมาดื่มอย่างว่าง่าย
"อ่า ถ้าขอเติมนี่จะโดนหักเงินเดือนไหมครับ" เขายิ้มขำแล้ววางแก้วเอาไว้ที่เดิม มินฮยอนรับไปเติมอย่างรู้งาน
"ผมก็ไม่ได้งกขนาดนั้น" จัดการกับแก้วน้ำแข็งเปล่าแล้วเทน้ำสีอำพันลงไปอีกครั้ง "คุณคงจะเครียดมากเลยสินะ"
"ครับ?"
"ผมเห็นแดเนียลแอบร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ คงไม่น่าจะใช่เรื่องที่โดนลอบทำร้ายวันนี้..."
"..."
"แย่หน่อยนะ คนร้ายเมื่อเช้าก็ยังจับไม่ได้ ปัญหาใหม่ก็มาอีกเป็นพวน คุณคงเป็นห่วงแดเนียลมากเลยล่ะสิ"
"อืม คงใช่ผมอาจจะเครียดเรื่องนั้น...มากไปจริงๆล่ะนะ" ซองอูรับแก้วจากมินฮยอนมาดื่มโดยไม่สนใจจำนวนครั้งเลย ไม่แคร์ด้วยว่าบอสตรงหน้านี่จะรู้สึกยังไงกับสีหน้าเหมือนคนเก็บอะไรหลายอย่างไว้ในใจ จนดูแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว ซองอูรู้แค่ว่าตอนนี้เขาอยากจะลืมเรื่องที่เครียด สิ่งที่คิดหนักลงไปบ้าง สักนิดก็ยังดี...
"บอสเคยเผลอใจไปชอบใครแล้วรู้ในทันว่ามันไม่มีทางสมหวังไหม?"
"ก็อาจจะ...แต่ผมเข้าใจคุณนะ"
"ไม่หรอกครับ บอสไม่เข้าใจหรอก" บาเทนเดอร์จำเป็นเงยมองคนตรงหน้าที่ยังคงกระน้ำเมาลงคอเรื่อยๆ ก่อนจะคว้าแขนซองอูเอาไว้จนเจ้าตัวหยุดมือ แล้วมองมาที่เขาเช่นกัน
"ผมไม่เข้าใจอะไรล่ะ คุณเล่าได้นะ"
"..."
"ผมมันขี้แพ้เนอะ ช่วยแดเนียลลบลืมความทรงจำในอดีตไม่ได้ แถมยังเข้าไปอยู่แทนที่คนในใจมันไม่ได้อีก น่าขำนะถึงจะรู้ว่าไม่มีทางแต่ผมก็ยังพยายามดันทุรังอยู่ได้ งี่เง่า..."
ยังคงอยู่ตรงที่เดิมและบอกไปไม่ได้ว่ารักคุณ...
"พอเห็นตัวเองในกระจก ผมก็แค่ไอ้คนขี้ขลาดคนนึงที่แกล้งทำเป็นอวดเก่ง เพราะถึงจะโดนปฎิเสธหรือแยกกันไปอีกกี่ครั้งกี่หน ยังไงผมก็ปล่อยมือแดเนียลไปไม่ได้อยู่ดี ไม่ว่าจะให้ผมได้ในฐานะอะไรหรือให้ได้มากแค่ไหนก็ตาม ผมก็เป็นห่วงเขาอยู่ดี"
"ไม่ไหวก็ถอย นั่นแหละสัจธรรม"
"ถ้ามันทำได้ง่ายอย่างที่พูด ผมคงไม่ยืนพ่นความอ่อนแอทั้งที่ปากดีให้บอสเห็นแบบนี้หรอก"
"ใช่ คุณมันปากดี"
"เอ้า..." ซองอูขมวดคิ้วเข้าหากันทันควัน
"แต่คุณไม่ได้อ่อนแอหรอกซองอู คุณก็แค่ต้องคิดที่จะเริ่มใหม่บ้าง..." มินฮยอนปล่อยมือออกจากแขนซองอู
"ผม ไม่รู้สิครับ..." ซองอูมองหน้าบอสของตนแล้วยิ้มให้แต่ก็ไม่ยอมตอบอะไรกลับไปอีก ก่อนจะหันไปดื่มต่ออีกรอบ
"กระดกอย่างกับน้ำเปล่า" มินฮยอนพูดแทรกความเงียบขึ้นมา เมื่อเขากระดกเหล้าแก้วที่เท่าไหร่ไม่รู้พร่องไปกว่าครึ่ง
"ผมคอแข็ง" ตอบกลับทันควัน
"เอาเวลาอวดนี่ไปนอนบ้างเถอะคุณเห็นวิ่งวุ่นทั้งวัน"
"เป็นห่วงผมเหรอ?" ซองอูหัวเราะ ช้อนตามองคนตรงหน้าด้วยสายตากวนๆกลับ แต่มินฮยอนก็ยังยิ้มรับกรอกตากลับไปเช่นกัน
"เผื่อบ้านคุณไม่มีกระจกนะ ไปดูที่ห้องผมก็ได้ว่าหน้าคุณโทรมแค่ไหน อย่างน้อยคนเราก็ควรนอนให้ได้เก้าชั่วโมง"
"แค่ผมมีไอ้นั่นยาวเก้านิ้วก็ไม่จำเป็นต้องนอนให้เสียเวลาแล้ว"
"..." มินฮยอนแทบอยากจะเบะปากให้กับความมั่นหน้าของเขา ถอนหายใจเฮือกใหญ่ไว้อาลัยให้กับมุกพรรค์นั้นเสียเลย
"เก้าเซ็นต์หรือเปล่า ขี้คุยว่ะ"
"ทำไมบอสไม่ลองมาดวลเก้านิ้วของผมหน่อยล่ะครับบบ จะได้รู้" ซองอูลากเสียงยาวอย่างกวนประสาท มินฮยอนยังไม่ได้ตอบอะไรกลับแล้วหันไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรสักอย่างในช่องแช่เย็น ผ่านมาเป็นสิบนาทีแล้วมินฮยอนกับดื่มไปแค่แก้วเดียวส่วนมากจะเป็นเจ้ามือกลองนี่มากกว่า พูดมากไม่พอยังจะขี้เมา
"แล้วคุณคิดว่ายังไงดีล่ะ?" ทันทีที่มินฮยอนพูดจบแล้วหันกลับมาพร้อมกับถุงน้ำแข็งในตู้เย็น ซองอูก็พูดขึ้น
"คิดว่าบอสชอบผม"
"..." มินฮยอนชะงักมือที่กำลังคีบน้ำแข็งใส่แก้วให้เขา สายตายังก้มมองโต๊ะอยู่อย่างงั้นจนสักพักถึงได้เงยขึ้นมามองคนตรงข้าม
"เฮอะ คุณเมาหรือไงองซองอู?ถึงได้คิดเข้าข้างตัวเองได้เก่งขนาดนี้"
"จะเมาหรือไม่ได้เมาผมก็เป็นพวกชอบหลงตัวเองอยู่แล้ว" เขายิ้มขำ วางแก้วลงกับโต๊ะก่อนจะถอดแจ็คเก็ตออกแล้ววางไว้ใกล้ๆแล้วดื่มต่อ จนไม่ทันรู้ตัวว่ามีหนึ่งสายตามองเขาอยู่ตลอดเวลา
"องซองอู"
เจ้าของชื่อเงยหน้าจากแก้วขึ้นมองอีกฝ่ายเพื่อรอคำถาม มินฮยอนเดินออกมายืนข้างๆเขา ก่อนจะเอาแขนเท้ากับโต๊ะแล้วเอียงหน้ามอง
"คุณรู้จัก..."
"วันไนท์แสตนไหม?"
คำถามทำเอาคนฟังเงียบไปสักพัก ซองอูเอียงหน้ามองแล้วยิ้มตอบ เขาไม่ค่อยเเข้าใจเท่าไหร่ที่อยู่ๆบอสก็ถามเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะตอบไปหรอกนะ เขาวางแก้วลงแล้วเอ่ยตอบ
"รู้ครับ จริงๆผมก็เคยมีบ้าง"
"แต่ผมไม่"
"อ่าว แล้วบอสทำไมถึงถาม"
"แค่อยากลองดู" มินฮยอนค่อยๆยืนขึ้นจนเต็มความสูง เลื่อนมือไปปลดสายผ้าคลุมอาบน้ำบนตัวที่คาดอยู่ที่เอว เนื้อผ้าเปิดออกอย่างหมิ่นเหม่ทำเอาคนมองต้องลอบกลืนน้ำลาย
"..." ซองอูค่อยๆยืนขึ้นเช่นกันเขาวางแก้วในมือไว้โดยที่ไม่ได้สนใจมันอีก เพราะกลิ่นหอมจากครีมอาบน้ำนั่นลอยแตะจมูกหรือไงกัน หรือเพราะผิวกายขาวที่โผล่พ้นจากชายผ้าออกมาเพียงนิดนั่นราวกับกำลังจะยั่วยวนเขา
"กับคุณ"
เมื่อได้ยินประโยคนั้นทำเอาซองอูแทบส่าง แปลกเหมือนกันเขาคิดว่าบอสจะดูเป็นคนที่ดีแต่กวนตีนเสียอีก แต่ผิดคาด...
"แค่วันไนท์แค่คืนนี้ และที่นี่ไม่ใช่โฮสต์คลับไม่มีกฎอะไรทั้งนั้น มีแค่ผมกับคุณ" ขายาวก้าวเข้ามาใกล้ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นบอสแล้วยกยิ้มขึ้นมุมปาก
"หึ บอสอยากเล่นเกมหรือไง?" ซองอูถอดเสื้อยืดออกแล้วโยนลงพื้น สายตายเหลือบไปมองเพื่อนที่สนิทที่ยังนอนหลับอยู่ไม่ไกล แม้จะรู้ใจกระตุกอยู่เล็กๆแต่เขาก็แค่อยากมีที่ระบาย...อาจจะฟังดูเลวไปสักหน่อย แต่คนอย่างองซองอูก็ไม่ใช่คนดีอะไรอยู่แล้ว และเพื่อนสนิทยังเป็นคนสำคัญของเขาอยู่เสมอในตอนนี้...
ก็แค่วันไนท์แสตนเขาเคยมาเยอะแล้ว และในคืนนี้กับบอสมันจะเป็นแค่เกมสิ้นสุดในคืนเดียวอย่างที่บอสต้องการและเขาก็เช่นกัน
"จะมาเสียใจทีหลังไม่ได้นะครับ บอส"
ฉาก CUT #องมิน (ที่เป็นองมินจริงๆ อีกครั้งนะคะ อ ง มิ น เข้าใจ๋?) 5555555
ตามลิ้งค์ที่ในใบโอทวิต @2kshipper_
"อั่กกก! โอ๊ย!!!ถีบผมทำไมเนี่ย?!!"
"ไปไกลๆเลยไป" มินฮยอนค่อยพยุงตัวเองให้นั่งพิงหัวเตียงเอาไว้ แต่ยังเบ้หน้าด้วยความเจ็บไม่ยอมหาย ซองอูลอบมองคนตรงหน้า ผ้าปูที่นอนที่บอสของเขานั่งทับยับยู่ยี้อยู่นั้น มีเลือดเปื้อนอยู่หลายจุด ไหนจะเลือดตรงหว่างขาของเขาอีก...
นี่บอสเพิ่งเคยโดนครั้งแรกจริงๆเหรอวะ
องซองอูเริ่มรู้ผิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แต่ถ้าให้พูดตามความเป็นจริง บอสก็เป็นฝ่ายเริ่มเกมนี้เอง เขาไม่ได้บังคับสักนิดและอีกอย่างเขาก็ไม่ได้เมาด้วยก็เลยอาจจะไม่ยั้งมือไปนิดหน่อย...หรือว่าบอสจะเมาวะ? แต่กินไปแค่สองแก้วเนี่ยนะ
"บอสไหวไหม?"
"ผมจะนอน" โปกมือไล่ซองอูให้ออกไป แต่เจ้าตัวก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟังอะไรเลยยังเขยิบเข้ามาใกล้เขาอีก
"คนจะนอนแบบไหนกันทำหน้าแบบนั้น" ซองอูหัวเราะเย้ย
"ออกไปเถอะ ผมได้ยินเสียงแดเนียลผมรู้ว่าคุณอยากออกไปดู" ซองอูเงียบไปก่อนจะเงี่ยหูฟังเสียงข้างนอกอีกที ได้ยินเสียงแดเนียลกำลังร้องละเมออยู่จริงๆ เขาชั่งใจแล้วหันมองหน้าบอสที่พยายามจะยิ้มแบบนั้น ทำไมมันทำให้ข้างในใจเขารู้สึกสั่นกระตุกแปลกๆ แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืนใส่กางเกงเข้าที่แล้วก็รีบเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรอยู่ดี
ทุกคนต่างก็ฝืนยิ้ม ยิ้มเพื่อซ่อนตัวตน เพื่อปิดบังความจริง แสร้งทำเหมือนตัวเองมีความสุขซะเต็มประดา มินฮยอนได้แต่ยกยิ้มที่ราวกับแสแสร้งกับตัวเอง และหัวเราะแห้งๆออกมาอยู่คนเดียวในห้องนั้น...
ได้แค่ไหนก็แค่นั้นส่วนความรู้สึกน่ะเหรอ? ผมรับผิดชอบเองได้
8 AM
"ฟังเราก่อนนะอึยกอน เราไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้เลยนะ เรา...เราผิดเองคนเดียว เขาไม่..."
"พอที อย่าเข้ามาไกล้!!!"
"อึยกอน เราขอร้องอย่าทำแบบนี้!"
"หยุดโกหกตอแหลผมสักทีจูฮันนา!"
"เฮือก!"
แดเนียลสะดุ้งตัวโยนแดเนียลลุกขึ้นนั่งโดยอัตโนมัติ หอบหายใจรับอากาศเข้าปอดแทบไม่ทัน เหงื่อไหลโทรมไปทั่วใบหน้าเนียน ราวกับเขาเพิ่งหลุดออกมาจากฝันร้ายอะไรสักอย่าง ฝันร้ายที่มันเป็นเรื่องจริง...เรื่องจริงคอยตามหลอกหลอนแม้แต่ตอนที่เขาหลับ ไม่เคยจะชินกับมันเลยสักนิด สำหรับเขามันน่ากลัวจนไม่อยากแม้จะนึกถึงอะไรหรือใครทั้งนั้น เปลือกตาที่หนักอึ้งไปด้วยคราบน้ำตาเมื่อคืน ยังไม่รู้สึกเจ็บปวดเท่าใจที่กำลังสั่นระรัวอยู่ตอนนี้
บางทีสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าฝันร้าย ก็คงจะเป็นความฝังใจของผมเอง
แดเนียลขยี้ตาเบาๆ ค่อยเปรยมองไปรอบห้อง แสงแดดยามเช้าลอดผ่านหน้าตาเข้ามาแยงตาเล็กน้อย แต่กลับทำให้รู้สึกคลายความว้าวุ่นใจกับฝันร้ายเมื่อครู่ไปได้อยู่ไม่น้อย สูดหายใจอีกครั้ง แล้วสายตาก็มาหยุดลงที่คนคุ้นเคยของเขา...ซองอูนั่งกอดอกหลับสนิทอยู่บนโซฟาใกล้ๆ แดเนียลแปลกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อเห็นเพื่อนสนิท แต่สักพักก็เลิกคิดเรื่องนั้นไป เพราะนึกได้ว่าใครที่จะสามารถบอกซองอูว่าเขาอยู่ที่ไหนได้อีกนอกจากเจ้าของคอนโด
มินฮยอนตื่นขึ้นมาต่อจากนั้นได้สักพัก พอยืดแขนขึ้นเพื่อนจะบิดขี้เกียจ ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วทั้งร่าง รู้สึกเหมือนกับร่างร้าวก้นจะพังยังไงยังงั้น แทบจะขยับส่วนล่างไม่ได้เลยจริงๆเขาพ่นลมหายใจ ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วแยกขาออก งอตัวก้มมองปากทางด้วนล่างของตัวเอง ช่องทางแดงช้ำอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับไม่มีคราบน้ำกามอีกคนเหลืออยู่ หรือแม้แต่เลือดเป็นจุดๆบนร่องขา มินฮยอนหันไปมองโต๊ะโคมไฟใกล้ๆ เจอแก้วน้ำอุ่นและยาเม็ดที่วางอยู่ข้างกัน แสดงว่าเขาทำความสะอาดร่างกายให้อย่างงั้นสินะ...คนอย่างองซองอูน่ะเหรอ?
"ขอบคุณบอสมากนะครับสำหรับเมื่อคืน วันนี้ผมคงต้องกลับไปห้องไปเก็บของแล้ว"
"ไม่เป็นไรหรอกน่าคนกันเอง เมื่อคืนเห็นคุณปลอดภัยและดีขึ้นแล้วผมก็โล่งใจไปด้วย" มินฮยอนยืนชงกาแฟหน้าเคาท์เตอร์ในโซนครัวกับแดเนียลที่นั่งดื่มน้ำเปล่าอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะ เขาเอ่ยยิ้มๆให้กับลูกน้อง "แล้วคุณจะกลับยังไงให้ผมไปส่งไหม?" มินฮยอนเสนอ
"ไม่เป็นไรครับบอส ผมจะพากลับเอง" บุคคลที่สามเดินออกมาจากห้องน้ำส่งเสียงมาก่อนตัวเสียอีก ก่อนจะเดินมาหยุดยืนข้างแดเนียลแล้วยิ้มให้ทั้งคู่
"อ่า ฝากด้วยล่ะคุณมือกลองกลับคอนโดกันดีๆนะ"
"ครับ แน่นอนบอสดูแลตัวเองด้วยนะ"
มินฮยอนยิ้มตอบพยักหน้ารับความหวังดีของซองอู แต่กลับไม่ยอมเงยมองหน้าเขา แสร้งจิบกาแฟไม่หยุดปาก
"เอ้อ บอสครับ" แดเนียลขมวดคิ้วเอ่ยถาม "บอสเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?เห็นเดินกระเผกๆตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว" สีหน้าสงสัยไขร่รู้เรื่องที่ไม่อยากให้รู้ของแดเนียลยังไม่น่าหงุดหงิดเท่ากับสีหน้ากวนประสาทของอีกคน ที่ดูจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่เสียเต็มประดา
ฝากไว้ก่อนเหอะองซองอู
"ผมเดินเตะโต๊ะน่ะไม่ทันระวัง"
"แย่เลย อย่าลืมทายานะครับบอส" มินฮยอนยิ้มและพยักหน้าให้แดเนียลแต่มันก็ต้องหยุดลงเพราะคนบางคนอีกรอบ
"บอสนี่ซุ่มซ่ามจังนะ เตะโต๊ะไหนอ่ะครับบอส โต๊ะใหญ่มากเลยใช่ไหมเตะทีนี่เดินแทบไม่ตรงเลยนะ" เขาหัวเราะ มินฮยอนพยายามกัดฟันข่มใจไม่ให้หงุดหงิดมากกว่านี้ สิ่งที่เขาเห็นซองอูทำให้เขาเมื่อเช้า ขอเอาคำขอบคุณในใจคืนได้ไหม...กวนตีนยังไงก็ยังงั้น น่าโมโมชะมัด
"เลือกได้ก็อยากเตะหมามากกว่าเตะโต๊ะอยู่หรอกคุณมือกลอง" มินฮยอนสวนกลับแต่ก็ยังไม่ยอมมองหน้าเขาตอบอยู่ดี แม้แดเนียลจะไม่เคยเข้าใจสถานการณ์เท่าไหร่แต่ก็รู้สึกว่ามันอึมครึมแปลกๆ ความจริงแล้วซองอูก็ไม่ได้อยากจะกวนบอสตัวแสบนี่เท่าไหร่นักหรอกนะ แล้วใช่ว่าเมื่อคืนเขาจะไม่รู้สึกผิดที่เผลอไม่ยั้งแรงทำให้บอสเจ็บไปทั้งตัวแถมยังเลือดออกขนาดนั้น แต่เพราะบอสดื้อนี่ไม่ยอมมองหน้าไม่ยอมคุยกับเขาตรงๆสักที เลยแกล้งเหย่เพื่อให้มีปฎิกิริยาตอบกลับบ้างแต่ก็อย่างที่เห็น แค่หน้าก็ยังไม่ยอมเงยมอง เป็นอะไรของเขา...หรือว่าจะอาย ไหนบอกว่าอยากลองเองไงพอโดนหนักหน่อยแล้วมาทำเป็นเงียบใส่
ใครกันแน่ที่น่าโมโห
"จะกลับเลยไหมแดเนียล" ซองอูเอ่ยถามเพื่อนสนิทแต่ตัวเองก็สะพายกระเป๋ารอแล้ว
"งั้นผมกลับแล้วนะครับบอส รูนี่ย์อยู่ที่คอนโดตัวเดียวยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อคืนต้องรีบไปล่ะ" แดเนียลลุกขึ้นยืนเพื่อจะบอกลาบอสอีกครั้ง พอดีกับที่โทรศัพท์ของเขาดังสวนขึ้นมา มินฮยอนรีบควักจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดู มองหน้าจออยู่3วินาทีก็เงยหน้าขึ้นมามองแดเนียล เจ้าตัวเลิกคิ้วไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ยังยืนรอให้มินฮยอนรับสายให้เสร็จเสียก่อน
"สวัสดีครับ" มินฮยอนทักทายไปในทันที พอคนปลายสายพูดสวนกลับมา มินฮยอนค่อยๆเชยสายตามามองแดเนียลอีกครั้งและยื่นโทรศัพท์ให้เขา
"แบคโฮขอสายคุณน่ะ แดเนียล"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ทูบีคอนตินิววววววววววววววว
-Talk-
ก็ไม่มีอะไรมาก คิดถึงคนอ่านทุกคนนะคะ
คิดถึงแท็กด้วยเงียบมาก ห้าห้าห้า ㅠ_ㅠ
สำหรับคนที่อยากให้คุณองจบดี
เราก็หาสิ่งดีๆมาให้คุณองแล้ว555555
มาเดากันว่าปมคืออะไร5555
คอมเม้นเป็นกำลังใจเค้าด้วยนะตะเอง
ความคิดเห็น