ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ PRODUCE 101 ] #ฟิคแหกกฎ 2

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter : 3

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 61



    Chapter : 3

    Fandom : Produce 101

    Pairing : 2Kang [Baekho x Daniel]

    Note : เราจะเชียร์ใครดีคะ ไรท์เชียร์แดนนยอน ฮ่าๆๆๆ

     มีคำหยาบพอสมควรแต่ก็เพื่ออรรถรสจ้ะ

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------










    เศษกระจกหล่นกระจายอยู่ตามพื้น ร่องรอยอารมณ์จากเพื่อนทั้งสองคนถูกทิ้งเอาไว้ให้เป็นภาระเจ้าของห้อง แดเนียลอารมณ์เย็นลงพอสมควร ความจริงก็ไม่ได้โกรธพวกนั้นเท่าไหร่นักหรอก ก็แค่หงุดหงิดที่พวกมันมาอาละวาดเรื่องไม่เป็นเรื่องให้ตายสิ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังกลายเป็นของเล่นยังไงยังงั้น

     

    ช่วยทำตัวให้เป็นเหมือนเพื่อนที่คนปกติเขาทำกันสักคนเหอะ

    .

    .

    .

    พรุ่งนี้แดเนียลต้องไปช่วยงานอีเว้นท์ประจำเดือนของโฮสต์คลับเพราะบอสขอร้องมา แน่นอนว่าต้องเจอองซองอู แต่ก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้งเพราะมันเป็นคนเข้าใจง่ายพูดจารู้เรื่อง ผิดกับอีกคนชอบทำตัวล้ำเส้น

    แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันเป็นแดเนียลเองที่รู้สึกผิด คงเพราะเขาไม่เคยหงุดหงิดใส่มันขนาดนั้นมาก่อน แบคโฮน่ะเป็นคนอารมณ์ร้อนส่วนเขาเป็นน้ำเย็นมาโดยตลอด แค่ครั้งนี้มันทำตัวล้ำเส้นจนเกินไป แล้วต่อยหน้ามันซะขนาดนั้นทั้งที่ไม่เคยทำ พรุ่งนี้แบคโฮมีคิวของจูฮังนยอนสินะ เขายังไม่รู้เลยว่าจะทำตัวยังไงเหมือนกันเมื่อเจอ

     

    แต่ถ้าไม่ได้คุยกันอีก มันอาจจะเป็นทางที่ดีแล้วก็ได้...สำหรับตัวเขาน่ะ


    แดเนียลก้มเก็บเศษกระจกที่หล่นกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นแล้วกองเอาไว้ ลุกขึ้นยืนเพื่อจะไปหยิบถังขยะใบเล็กใกล้ๆ พลันถูกบางคนคว้าไหล่จากด้านหลัง ดึงเข้าไปหาจนแผ่นหลังกว้างแนบชิดตัว มือที่อยู่บนลาดไหล่เลื่อนลงรั้งเอวอย่างรวดเร็ว

    หัดดูหน่อยดิ เกือบเหยียบเศษกระจกล่ะนะ

    “...”

    แดเนียลยืนนิ่งไปเขารู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงใคร ยังไม่ทันได้ตอบอะไรกลับเขาก้มลงมองที่พื้น เกือบจะเหยียบเศษกระจกเข้าไปแล้วอย่างว่าจริงๆด้วยสิ 

    ขอโทษนะที่ก่อเรื่องทำให้ลำบากเลย

    ช่างเหอะไม่ได้โกรธอะไรขนาดนั้น ปล่อยสักที แดเนียลกำลังรู้สึกเหมือนว่าถูกรัดเอวแน่นกว่าเดิม แถมยังถูกหน้าตากวนประสาทที่ดูไม่สำนึกนั่นใช้คางเกยไหล่ไว้อีก  

    “...” 

    พอเห็นอีกฝ่ายเริ่มไม่พูดแถมยังไม่ขัดขืนอะไรอีก ถ้ายังกวนมากกว่านี้คงได้ถูกโกรธมากกว่าเดิม ซองอูรีบปล่อยเอวเพื่อนสนิทก่อนจะเดินไปหยิบถังขยะแล้วจัดการเก็บกวาดเอง ปากก็พูดเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย ทำเหมือนก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น

    แดเนียลก้มลงไปช่วย เขารู้อยู่แล้วซองอูเป็นคนแบบนี้เสมอนั่นแหละถึงไม่ได้โกรธอะไรมันจริงจัง ที่ต่อยกับแบคโฮไปก็เพราะเห็นมันมาอาละวาดใส่เขาล่ะมั้ง

    พรุ่งนี้มีอีเว้นท์ที่ร้านฉันต้องไปเล่นดนตรีงานแรกตื่นเต้นฉิบหาย ว่าแต่นายก็ไปใช่ไหม?” ซองอูเอ่ยถามมือก็เก็บถุงเศษแก้วไปวางไว้ ทำทุกอย่างกันเสร็จหมดแล้วพอดี แดเนียลเดินไปนั่งลงบนโซฟาใกล้ๆแล้วหยิบรีโมทกดหาช่องไปเรื่อย ปากก็ตอบเพื่อนสนิทโดยไม่ได้หันไปมอง

    อืม มีโปรเจคโชว์กับโฮสต์คนอื่นอีกสองสามคน

    เห้ย พูดเป็นเล่นอยากเห็นแล้วนะเนี่ยทำน้ำเสียงหน้าตาดีใจจนออกนอกหน้า โชว์ให้ดูหน่อยสิ

    โชว์ตีนมั้ย? ไม่ได้มีอะไรน่าดูหรอกน่ะ” ตอบกลับทันควันทำซองอูหัวเราะ เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆหันหน้าไปมองเพื่อนสนิทที่ยังไม่ล่ะสายตาออกไปจากจอโทรทัศน์ 

    แค่เสี้ยวหน้าก็ทำให้ซองอูใจกระตุก ดวงตาดูเป็นประกายเมื่อกำลังจอจ่ออยู่กับบางสิ่ง ร่างกายที่ดูดีกว่าเมื่อก่อนจนผิดหูผิดตา ริมฝีปากอิ่มแดงกำลังเผยอขึ้นอย่างลืมตัว ใบหน้าได้รูปเข้ากันได้ดีกับทรงผมซอยสั้นสีอ่อนที่ถูกปล่อยตามธรรมชาตินั่นอีก


    โคตรมีเสน่ห์ 


    คำนี้กำลังวิ่งวนอยู่ในหัว เพราะแบบนี้ล่ะมั่งก่อนหน้านี้เขาถึงห้ามใจหรือระงับตัวเองไม่ได้เลย...เพราะคนๆนี้มีอิทธิพลกับตัวเขามาโดยตลอด ตั้งแต่ที่บ้านเกิดจนถึงตอนนี้ 

    ถ้าตอนนั้นเขารั้งแดเนียลเอาไว้ที่ปูซานได้ แล้วบอกความรู้สึกตัวเองไปซะ เจ้าตัวคงไม่หายไปจากชีวิตของเขาเกือบสามปีและคงไม่ต้องมาเจอกับมัน...

    ไอ้เหี้ยนั่น 

    หวงก้างไม่พอยังทำตัวเหมือนกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทั้งที่ไม่ใช่ ถ้าทำได้เขาอยากพาแดเนียลกลับปูซานซะตอนนี้เลยจริงๆ

    .

    .

    .

    นายคิดจะกลับปูซานบ้างไหม?”

    “…” 

    ซองอูเอ่ยแทรกเสียงโทรทัศน์ คนถูกถามนิ่งงันไปในทันที สายตาที่กำลังจ้องมองจออยู่ในตอนแรกหลุบต่ำลง   

    หรือนายยังรู้สึกผิดกับเธอ นี่มันผ่านไปหลายปีแล้วนะ

    แดเนียลขึ้นเสียงสวนกลับไปทันที “ซองอูหุบปากซะ อย่าพูดถึงเรื่องนี้มือเรียวกำลังสั่นระริก เขาพยายามสะกดกั้นอารมณ์เอาไว้ แม้จะยังลืมเรื่องนั้นไม่ได้...ไม่สิไม่เคยลืม แต่ก็ใช่ว่าเขาอยากจะได้ยินใครพูดถึงมันอีก  

    ทำไม? ทั้งที่นายไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิดสิ้นเสียงพลันซองอูชะงักถูกเพื่อนสนิทกระชากคอเสื้อเข้าไปใกล้จนใบหน้าห่างกันเพียงคืบ

    ขอร้องเถอะ หยุดพูดถึงเรื่องนี้แต่น้ำเสียงกลับแผ่วลงดวงตาสั่นไหวนั่นจากที่จ้องเขาอยู่ก็หันหน้าหนีไปอีกทาง...เขาเกลียดชะมัดเวลาที่แดเนียลเป็นแบบนี้ ชอบเก็บทุกอย่างไว้คนเดียวภายใต้ใบหน้านิ่งเรียบและไม่เคยคิดจะทำตัวอ่อนแอต่อหน้าใคร  

     

    ทั้งที่สุดท้ายก็ปิดมันไม่มิด

     

    ซองอูคิดไม่ผิด แดเนียลยังฝังใจเรื่องเมื่อครั้งนั้น ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาจะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแน่ เขาจะทำทุกอย่างให้แดเนียลมองเขามองกว่าเพื่อนคนนึง เขาจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้แดเนียลต้องรู้จักกับผู้หญิงคนนั้น 


    เขาทำแน่ แต่คิดไปมันก็เท่านั้นในเมื่อเขาย้อนกลับไปทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว


    นอกเสียจากจะทำมันซะตอนนี้ ตอนที่ยังมีโอกาส ในเมื่อโชคชะตาทำให้เขาโคจรมาพบกับแดเนียลได้อีกครั้ง ทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีหวังเลยด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นเขาจะต้องได้แดเนียลมาครอบครอง แม้จะมีไอ้หมาหวงก้างนั่นคอยเห่าอยู่ข้างหลัง 


    แล้วยังไงล่ะ?ก็ลองดูกันสักตั้ง



    ขอโทษแล้วกันปากพล่อยไปหน่อย

     

    เออช่างเหอะ ชักจะชินที่นายพูดมากแบบนี้แล้ว เมื่อไหร่ที่พูดน้อยคงไม่ใช่องซองอูแดเนียลโบกไม้โบกมือไปเชิงว่าไม่เป็นไร เขาถอนหายใจแล้วพยายามปรับสีหน้าอารมณ์ของตัวเองให้เป็นปกติ ก่อนจะเอนตัวลงนอนเอาหัวหนุนขอบโซฟา ไม่ได้เอาขาขึ้นเพราะซองอูยังนั่งอยู่ข้างๆ อีกฝ่ายเอียงหน้ามามอง

    อยากให้เงียบก็หุบปากฉันสิซองอูยิ้มกริ่ม แดเนียลไม่ได้สนใจอะไรนัก 

    ใครจะไปอุดปากคนอย่างนายได้ แต่จู่ๆก็รู้สึกถึงเงาคนคร่อมอยู่บนร่าง หน้าตาโรคจิตขององซองอูนี่นะ...

    “จะทำอะไร ลง…” เสียงถูกกลืนไปพร้อมๆกับริมฝีปาก ไม่มีการรุกล้ำซองอูเพียงกดทับริมฝีปากอิ่มลงบางเบา ถึงจะเพียงเท่านั้นมันกลับรู้สึกหอมหวานอย่างบอกไม่ถูกซองอูเป็นฝ่ายผละออกทั้งที่แดเนียลยังคงนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น

    เห็นมั้ย หยุดพูดได้ตั้งหลายวิว่าจบเขาก็คว้ากระเป๋าของตนแล้ววิ่งออกจากห้องไปทันทีทั้งที่หน้าตายิ้มระรื่นแน่นอน ถ้าซองอูมันไม่หนีไปก่อนแดเนียลอาจจะเอาเท้ายันมันติดกำแพงห้องไปแล้วก็ได้ เรื่องเมื่อเช้าก็อุตส่าห์ไม่ด่าแล้วนะ 


    เฮ้อให้ตายสิวะ ทำไมรอบตัวถึงได้มีแต่เพื่อนที่จ้องจะงาบเขาอยู่ตลอดเวลา 


    แล้วแดเนียลก็เพิ่งฉุกคิดได้ว่า เขาคงต้องหัดล็อคประตูบ้างแล้ว




    เช้าวันต่อมา

     

    แดเนียลมาถึงโปรดิวซ์โฮสต์คลับเช้ากว่าปกติ เพราะถูกพี่จีซองโทรปลุกให้มาซ้อมโชว์ก่อนเริ่มงาน เขาเดินเข้ามาในร้าน พาดเสื้อสูทลายขาวไว้บนหัวไหล่ ใส่เพียงเสื้อเชิ้ตสีม่วงอ่อนปลดกระดุมเผยแผงอกกว้าง กางเกงสเลทสีดำพร้อมกับรองเท้าหนังขัดมันอย่างดี แค่เพียงเท่านั้นแต่เขากลับดูดีไม่หยอก ทรงผมซอยสั้นสีอ่อนลงมากกว่าปกติถูกเซตทรงขึ้น เมคอัพบนใบหน้าทำให้ยิ่งดูเซ็กซี่มากเป็นเท่าตัว ทำเอาพนักงานแทบทุกคนที่เดินผ่านต้องหันมองตามจนสุดสายตา

     

    ไม่มีใครแปลกใจเลยสักนิดที่คังแดเนียลได้เป็นหนึ่งในโฮสต์ระดับสูงที่มีเพียงแค่สองคนในโปรดิวซ์โฮสต์คลับ

     

    และหนึ่งในโฮสต์ระดับสูงอีกคนหนึ่ง ก็กำลังเดินตรงมาข้างหน้าเขา แบคโฮอยู่ในชุดสูทตัวยาวสีแดงสด กางเกงผ้าสีดำเนื้อดีบวกกับรองเท้าหนังคู่เก่งและเมคอัพที่ไม่ได้หนาจนเกินไป เขาดูดีและเปล่งประกายไม่ต่างกัน ถึงจะห่างกันเพียงแค่ก้าวเดิน แต่ทั้งคู่ก็ไม่แม้แต่จะมองหน้ากัน ต่างเดินสวนไปเหมือนคนไม่รู้จัก ช่วงจังหวะที่หัวไหล่เฉียดกันไปเพียงเล็กน้อย กลิ่นน้ำหอมคุ้นชินลอยแตะจมูก แบคโฮลอบกำมือแน่นเพียงเสี้ยวนาทีที่แดเนียลเลื่อนสายตามามองคนที่กำลังเดินผ่านไป ถึงสายตาจะนิ่งเรียบแค่ไหน

     

    แต่เขาก็กำลังกำหมัดจนมันแทบชาไม่ต่างกัน


    บนเวทีและบริเวณโดยรอบกำลังถูกจัดเตรียมเพื่องานอีเว้นท์ที่ว่า ความจริงมันก็แค่งานเลี้ยงประจำวันครบรอบเปิดร้านเท่านั้นแหละนะ บอสจัดขึ้นเพื่อคืนกำไรให้ลูกค้าที่จ่ายเยอะกระเป๋าหนักและมักจะเป็นขาประจำ คนจึงไม่เยอะเท่าไหร่

    แดเนียลเดินไปทักทายพี่จีซองที่กำลังยืนสั่งงาน เขาเห็นซองอูง่วนอยู่กับกลองชุดของตัวเองบนเวที รู้สึกได้ถึงความแปลกตาในทันที ลุคต่างจากเมื่อวานโดยสิ้นเชิง แดเนียลไม่เคยคิดว่าเพื่อนสนิทที่เห็นกันมานาน เด็กผู้ชายธรรมดาที่ปูซานในวันนั้น ตอนนี้จะดูดีได้มากถึงขนาดนี้แถมเวลาจับไม้กลองยังมีเสน่ห์ขึ้นจนผิดหูผิดตา






    ผมไปรอที่ห้องพักนะพี่” เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อวาน แดเนียลรีบหาที่เลี่ยงก่อนที่ซองอูจะเห็นเขาเสียก่อนดีกว่า ถ้ามันเห็นคงไม่เป็นอันได้ทำงาน

    เอาสิ เดี๋ยวจินยองจีฮุนแดฮวี มาถึงพี่จะให้เด็กไปเรียกมาซ้อมแล้วกันจีซองว่าพลางโบกมือไล่แล้วหันไปทำงานต่อ แดเนียลกำลังจะเดินตรงไปที่ห้องพักพนักงาน พลันสายตาเหลือบไปเห็นผู้ชายคนนึงเดินเข้าไปก่อนเขาไม่นานจูฮังนยอน ขาทั้งสองข้างรีบก้าวเดินตามอัตโนมัติ เปิดประตูเข้าไปก็พบร่างเล็กกำลังเดินสำรวจไปรอบๆห้อง ทั้งที่เป็นห้องพักพนักงาน ลูกค้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาแถมตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเปิดร้านเสียด้วยซ้ำ

    คุณเข้ามาได้ไง?”

    ผมเหรอ?ก็ไม่เห็นแปลกนี่คนตัวเล็กกว่ายิ้มมุมปาก เอียงคอมองคนถามแล้วหยิบบางอย่างจากโต๊ะเครื่องแป้งมาไว้ในมือ ผมก็แค่เดินตามแบคโฮมา

    ที่นี่ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามา อีกอย่างวางของผมลงซะ

    ทำหน้าเครียดเชียว แค่แหวนเองผมเห็นว่ามันสวยดี…” ร่างบางถูกประชิดโดยไม่ทันตั้งตัวถูกเบียดโดยคนตัวสูงกว่าจนหลังไปชิดโต๊ะเครื่องแป้ง ข้อมือถูกตรึงเอาไว้ทั้งสองข้าง ฮังนยอนชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะช้อนตาเงยมอง


    แหวนนี่ ถ้าเทียบกันแล้วมันคงไม่สวยเท่าคุณหรอกครับ จากที่แสดงสีหน้าเรียบเฉย แดเนียลก็เปลี่ยนมายกยิ้มให้ทันที จะให้หงุดหงิดใส่เพราะแตะของๆเขาก็คงทำไม่ได้ยังไงก็เป็นลูกค้า แต่รอยยิ้มนั้นกลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์อย่างที่ไม่เคยเป็น...ญาติห่างๆของบอสผู้ได้รับสิทธิพิเศษใช้บริการโฮสต์ระดับสูงได้ถึงสองครั้งติด ทั้งยังเที่ยวเดินไปไหนมาไหนหยิบของใครมาดูก็ได้ทำเหมือนเป็นบ้านตัวเองขนาดนี้คงจะเป็นลูกค้าคนพิเศษมากเลยสินะ

     

    แถมมีแบคโฮสปอยอยู่ข้างหลังอีกหึ คงต้องเล่นด้วยซะหน่อยแล้ว

     

    ได้ข่าวว่าซื้อคิวแบคโฮอีกเหรอครับ?คงจะเหงามากคุณอาจจะยังไม่ทราบแต่ผมน่ะคิวยังว่างนะก้มหน้าลงมาใกล้ทั้งยังไม่ยอมขยับตัวไปไหน ฮังนยอนเชิดหน้าขึ้น แล้วเผยยิ้มอย่างไม่ยีระกับท่าทีเปลี่ยนไปไวของอีกคน เหมือนรู้ว่าแดเนียลกำลังพูดกวนประสาทตนเล่นเท่านั้น


    แต่ถ้าอยากเล่นนักล่ะก็...ด้


    งั้นผมซื้อสดซะตอนนี้เลยก็ได้สินะมือเล็กเลื่อนไปคว้ามืออีกคนวางทาบไว้ที่บั้นเอวของตน มืออีกข้างรั้งคอแดเนียลลงมาจนริมฝีปากแทบแตะกัน เป็นแดเนียลที่รั้งตัวเองเอาไว้ไม่ให้เบียดร่างคนในอ้อมแขนมากกว่าเดิม


    เฮอะ ร้ายไม่เบาเลยนะ


    สายตาคมของคนตัวสูงกว่ากวาดมองไปทั่วร่างเล็กทั้งหุ่นทั้งหน้าตาก็ต้องยอมรับว่าไม่เลวเลย เชิ้ตสีขาวบางที่สวมตกแต่งด้วยริบบิ้นสีฟ้าเพียงอันเดียว บางเสียจนมองเห็นภายใน ทั้งใบหน้าหวานและรอยยิ้มยั่วยวนดึงดูดอารมณ์ได้ไม่ยาก ไม่แปลกใจที่แบคโฮเกือบจะโง่พาตัวเองแหกกฎของร้านเมื่อคราวที่แล้ว แดเนียลก็อยากจะลอง...ของสวยๆงามๆที่หาไม่ค่อยได้แถมยังเสนอตัวมาให้เล่นถึงที่แบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่ติดอยู่เพียงว่าเขาจะไม่ทำผิดกฎในร้าน

    ดูเหมือนว่าคุณไม่กล้ารับนะ? ผมนึกว่าคุณจะใจถึงกว่าแบคโฮเสียอีกฮังนยอนแค่นหัวเราะ รู้สึกเหมือนกำลังชนะเมื่อเห็นสายตาของเขา พลันสายตาเหลือบไปเห็นบางคนยืนอยู่หน้าประตูตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ได้ แบคโฮดูยืนมองพวกเขาทั้งคู่ที่ยังยืนอยู่ในท่าล่อแหลมด้วยสายตาขุ่นมัว มีเพียงฮังนยอนที่เห็น

    คงไม่กล้าหรอกครับ เพราะคนอย่างมันคงถนัดแค่ที่ลับตาคนแดเนียลชะงักไปแต่ก็ไม่ได้ขยับออกจากตัวฮังนยอน น้ำเสียงและคำพูดประชดประชันนั่นกำลังยั่วโมโหเขา 

    มันเรื่องของกู มึงมายุ่งอะไร?”

    นั่นลูกค้าของกู อยากอยู่ที่ลับตาคนมาไม่ใช่เหรอ?ก็ไปหามันสิ

    แดเนียลคิ้วกระตุกเมื่อได้ยิน แบคโฮกำลังทำให้เขาหมดความอดทน ฮังนยอนที่ยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรนักในตอนแรก แต่พอได้ฟังโฮสต์ทั้งคู่คุยกันด้วยประโยคแบบนั้น เขาก็พอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว


    ความสัมพันธ์ของสองคนนี้...เป็นแบบนี้เองสินะ

     

    โฮสต์แดเนียล ถ้าคุณ…”

    ผมรับข้อเสนอแน่นอนอยู่แล้วคุณลูกค้า อยากได้โปรโมชั่นพิเศษสักหน่อยไหมล่ะครับ?” สิ้นเสียงพลันใบหน้าเรียวซุกลงบนลาดไหล่เล็ก มือนึงไล่คลึงเอวมน เบียดกายเข้าแนบชิดมากกว่าเดิม ดูดคลึงเนื้อนิ่มด้วยอารมณ์ที่กำลังขุ่นมัว ไม่สนใจแม้จะมีคนที่ทำให้เขาหงุดหงิดยืนอยู่ไม่ไกล

    อื้อ...” ฮังนยอนไม่ทันได้ตั้งตัว เหมือนกันกับแบคโฮที่กำลังอึ้งอยู่ไม่น้อย


    มันจะมากไปแล้ว 


    เขาเดินตรงเข้ามาคว้าเอวฮังนยอนจากด้านหลัง สอดมือเข้าใต้เสื้อลูบไล้อยู่บนหน้าท้อง ไหล่อีกฝั่งถูกครอบครองด้วยปลายลิ้นร้อน ร่างเล็กถูกรุกล้ำทั้งข้างหน้าและข้างหลัง สัมผัสอันร้อนแรงถูกปรนเปรอโดยชายทั้งสองคนมันทำได้เขาก็ทำได้เหมือนกัน 

    ทั้งคู่ไม่ยอมแพ้ ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดต่อกันมากเท่าไหร่ฮังนยอนยิ่งถูกปลุกเร้าทวีคูณ แดเนียลไล่เลียซอกคอ กระดุมเสื้อถูกปลดออกทีล่ะเม็ดไปพร้อมๆกับเลื่อนใบหน้าลงมาละเลียดบนแผงอกขาว พลางบีบคลึงส่วนที่อ่อนไหวเรียกเสียงครางได้ไม่ยาก ลิ้นร้อนละแลงไปทั่วจนมาถึงหน้าท้องเนียนดูดคลึงจนมันขึ้นสี...ฮังนยอนแทบหอบหายใจไม่เป็นจังหวะ

    เสื้อเชิ้ตค่อยๆหลุดลงจากไหล่บาง ริ้บบิ้นสีสวยหล่นหลุ่ยไม่ต่าง ผิวกายถูกทำรอยไว้ทั่ว เสียงครางกระเส่าเล็ดลอดออกมาได้ไม่นานก็ถูกกลืนหายไป เพราะริมฝีปากถูกแบคโฮประกบจูบทาบทับ เรียวลิ้นดูดกลืนจนน้ำใสๆไหลลิน มือข้างนึงของคนข้างหลังรั้งใบหน้าหวานให้หันมาใกล้ มอบจูบหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม มืออีกข้างเลื่อนขึ้นสัมผัสแผ่นอกผ่านเสื้อเชิ้ตตัวบาง แกล้งสะกิดยอดอกจนคนตัวเล็กสั่นสะท้าน กระดุมกางเกงกำลังจะถูกปลดออก


    พี่แดเนียลพี่จีซองให้มาตามไปซ้อม!!!

    เสียงตะโกนมาจากด้านนอกประตูทำให้ทั้งคู่หยุดการกระทำลง แดเนียลลุกขึ้นยืน ค่อยๆเลื่อนเสื้อเชิ้ตที่หลุดจากไหล่ของฮังนยอนขึ้นมาคุมไหล่ไว้ที่เดิมแล้วติดกระดุมให้เพียงไม่กี่เม็ด พลางยกยิ้มมุมปาก คนตัวเล็กยังหอบใจอยู่ไม่น้อยเอนตัวไปพิงอกคนข้างหลังที่กำลังรั้งเอวประคองเขาเอาไว้

    อาจจะน้อยไปหน่อย แต่หวังว่าคุณจะพอใจกับบริการของผมนะครับ...คุณลูกค้าคนพิเศษ” เขายกยิ้ม แต่มันก็หายไปเมื่อเผลอสบสายตากับแบคโฮที่กำลังจ้องลึกมาด้วยสายตาที่ไม่อาจคาดเดา สังเกตเห็นรอยหมัดที่เขาฝากเอาไว้บนใบหน้า ริมฝีปากอิ่มกระตุกขึ้นความรู้สึกแปลกๆผุดขึ้นมาในใจ 

    ทั้งที่ไม่มีใครเอ่ยพูดอะไร แต่บรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่กลับแย่ลง ไม่นานนักเป็นแดเนียลที่หลบสายตาไปเอง เขาหันไปหยิบเสื้อสูทของตนแล้วเดินออกไปในทันที

    .

    .

    .

    ผม...โอเค” ฮังนยอนหันหน้าไปหาแบคโฮ ทำท่าจะดันอกอีกคนออกเพื่อจะยืนเอง แต่คนสูงกว่าช้อนขาฮังนยอนขึ้นมาแล้วอุ้มไปนั่งไว้บนโซฟา ก่อนจะคุกเข่าลงข้างๆ

    ผมขอโทษที่เมื่อ...” ยังไม่ทันพูดจบ แบคโฮถูกร่างเล็กรั้งคอเข้าไปใกล้ 

    ผมต้องการคุณมากกว่าเขานะ แบคโฮ” สายตาเว้าวอนถูกส่งมาหาเขา ดวงตาช่ำเยิ้มกำลังทำให้ใจของแบคโฮกระตุกวาบ ความรู้สึกก่อนหน้าค่อยๆขาวโพลนลง 

     

    ฮังนยอนน่ะสวยมากจริงๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอสวยจนเขารู้สึกระทวยใจ 


    แม้แบคโฮกำลังสับสนเพราะอยู่ๆกลิ่นของเพื่อนร่วมงานก็ลอยเข้ามาอยู่ในความรู้สึก แต่ก็ไม่อาจล่ะสายตาออกไปจากคนตรงหน้าได้เลย

     

    ราวกับเด็กน้อยที่กำลังหลงทาง

    ทั้งที่กำลังรู้สึกถึงแดเนียลเขาก็ถูกฮังนยอนดึงดูดไปได้พร้อมกัน

     

    แล้วร่างกายมันเริ่มก็ขยับไปเอง แบคโฮประกบจูบริมฝีปากอิ่มของคนตรงหน้า ขยับกายลุกขึ้นดันแผ่นหลังฮังนยอนให้นอนราบลงไปกับโซฟา ลิ้นร้อนยังเกี่ยวกระหวัดกันไม่ลดล่ะ มือเรียวคล้องคออีกคนเอาไว้ เสียงที่เกิดจากความชื้นของริมฝีปากดังไปทั่วห้อง ริมฝีปากเลื่อนต่ำลงมาจนถึงลำคอขาวก่อนจะขบเม้มดูดดึงจนเกิดรอยแดงไปทั่ว ไม่นานเรือนร่างขาวเนียนข้างใต้นั้นถูกเล้าโลมแทบทุกตารางนิ้ว เสียงครางหวานดังระงม ร่างกายทุกส่วนแนบสัมผัสกัน มือใหญ่สัมผัสที่ขอบกางเกงทำให้ฮังนยอนสั่นระริก แบคโฮยื่นมือมาจับบางอย่างที่เริ่มจะแข็งขืนผ่านเนื้อผ้าสีขาวบางๆ

    อ๊ะอึก

    กางเกงถูกถอดออกอย่างง่ายดาย เข่าทั้งสองข้างถูกแยกกว้างแบคโฮส่งนิ้วสอดเข้าไปภายในทำให้คนใต้ร่างกระตุกเกร็งส่งเสียงครางด้วยความเสียวซ่าน แผ่นหลังแบคโฮถูกจิกเอาไว้ด้วยมือเล็กของคนถูกปลุกเร้าด้วยปลายนิ้ว


    เสียงครางหวานของฮังนยอนดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน


    ก่อนที่ความอุ่นร้อนจะแทรกเข้ามาภายในกายเสียงคำรามแหบพล่าผสานไปกับเสียงหวานกระเส่า แม้จะถูกกลบด้วยเสียงเพลงบนเวทีข้างนอก

     

     

    Lay  your hands on me…

    …Ah don’t break it

     

     

    ร่างบางถูกโยกไปตามจังหวะที่ถูกเร่งขึ้นตามอารมณ์ แรงเสียดสีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเร่าร้อน ที่ไม่มีใครสามารถฉุดมันลงได้ และเมื่อถูกปลดปล่อยสันกรามคมเชิดขึ้นสูงส่งเสียงคำรามเสียงต่ำ คนใต้ร่างหายใจเสียงกระเส่าเหงื่อชะโลมไปทั่วผิวกายขาว แบคโฮลอบมองใบหน้าหวานนั่นกำลังส่งยิ้มที่เขาชอบมาให้ ทั้งที่ยังไม่หยุดหอบหายใจ

     

    คุณช่างสวยเหลือเกิน

    พอมองไปเรื่อยๆคุณยิ่งเปล่งประกายเข้าไปใหญ่

    แต่ทำไม...ทำไมกันล่ะ


    สมองของเขากลับรู้สึกถึงคนอื่น กลิ่นหอมคุ้นเคยนั่นอีกแล้ว ทั้งที่ตอนนี้เขากำลังอยู่กับฮังนยอน...เหมือนกำลังจะเป็นบ้าอยู่ แบคโฮรู้สึกเจ็บทั้งที่เพิ่งทำให้คนๆนึงมีความสุข 

     

    อีกแล้ว...ตลอดทั้งวันเขาสะบัดใบหน้าของมันออกไปไม่ได้เลย


    พอทีเหอะ! คังแดเนียล มึงกำลังทำให้กูเป็นบ้า




















    ทูบีคอนตินิวววววววววววววววววววววววว









    -TALK-

    เอ้า ตายแล่ว คือเป็นจั๋งซี่ล่ะสู #โดนตบ

    ตอนแรกว่าจะลง50% แต่ยกยอดไปตอนหน้าเลยดีกว่า ถถถถถ

    คอมเม้นติชมได้นะคะ ขอบคุณค่ะ



     















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×