[ PRODUCE 101 ] #ฟิคแหกกฎ - [ PRODUCE 101 ] #ฟิคแหกกฎ นิยาย [ PRODUCE 101 ] #ฟิคแหกกฎ : Dek-D.com - Writer

    [ PRODUCE 101 ] #ฟิคแหกกฎ

    หากคุณอยากได้ความสุขกับเขาทั้งคู่นั้นย่อมได้ แต่ถ้าหากคุณต้องการร่างกายแล้วล่ะก็...

    ผู้เข้าชมรวม

    3,713

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    3.71K

    ความคิดเห็น


    52

    คนติดตาม


    183
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 ก.ย. 61 / 20:32 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น




    (อ่านฟิคเลื่อนลงไปให้สุด)


    ปล. เราตัดสินใจจะทำเป็นเรื่องยาวแล้วเด้อติดตามที่ #ฟิคแหกกฎ 2 เลยจ้า



    #แบคนยอน VS #ทูคัง



    #ฟิคแหกกฎ

    (SF) +18

     

              โฮสต์คลับ เป็นแหล่งรวมชายหนุ่มหน้าตาดีและสิ่งที่ทุกคนมีคือความเป็นเอ็นเตอร์เทรนเนอร์ คุยเก่ง ยิ้มเก่ง หรือร้องเพลงเพราะให้ความสบายใจและความสนุกสนานต่อลูกค้าได้เป็นอย่างดี



                   และที่นี่คือโปรดิวซ์โฮสต์คลับ คลับระดับสูงแนวหน้าของทุกวงการ ไม่ใช่ทุกคนที่แม้จะยอมจ่ายเงินหลายหลักแล้วจะได้ใช้บริการ โฮสต์ที่นี่มีอยู่หลายสิบชีวิตหากแต่โฮสต์ระดับสูงค่าตัวเหยียบล้านมีเพียงแค่สองคนเท่านั้น


    คังแดเนียลและคังแบคโฮ




    หากคุณอยากได้ความสุขจากเขาทั้งคู่นั้นย่อมได้ แต่ถ้าหากคุณต้องการร่างกายแล้วล่ะก็...


    .

    .

    .

    .

    .


    ทุกที่จำเป็นต้องมีกฎของมันไม่เว้นแม้แต่ที่นี่...



    ห้ามโฮสต์ทุกคนทำอะไรเกินเลยกับลูกค้านอกเสียจากจะให้ความสำราญทางใจเท่านั้น

    ห้ามอยู่ลับตากันสองต่อสอง ต้องมีคนเห็นและอยู่ในเล้าจ์ของทางคลับ

    และข้อสุดท้าย...ห้ามทำผิดกฎเป็นอันขาด



    อย่างไรก็ตามคุณไม่สามารถฝืนธรรมชาติของมนุษย์ได้หรอก


    เคยได้ยินไหม...กฎมีไว้แหก


    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ลงแล้วเด้อจ้าาา




    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ




      ทูคัง


      แบคนยอน








       

      ที่รัก ฉันจะออกล่าเธอในคืนนี้ จะไล่ล่าเธอและกลืนกินเธอทั้งเป็นเหมือนกับเสือร้าย



       

       

       

       

              เสียงพื้นรองเท้าหนังอย่างดีกระทบลงกับพื้นกระเบื้องลายครามเป็นจังหวะเชื่องช้า ชายหนุ่มร่างกายกำยำสวมเชิ้ตขาวตัวบางคอเสื้อคว้านลึกเผยให้เห็นรอยสักบนแผงอกขวาเล็กน้อยบวกกับโชกเกอร์สีดำที่คาดอยู่บนลำคอเรียวช่างดูลึกลับและน่าค้นหา เขาใช้นิ้วลูบไรหนวดบนใบหน้าคมของตนอย่างแผ่วเบาสายตากวาดมองไปรอบข้าง แสงสีในคลับส่องสว่างราวกับถนนในเวลากลางคืนเสียงดนตรีคลาสิคถูกเปิดคลอเบาๆ ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาใช้บริการกันหลายคนแล้ว เป็นภาพที่ คังแบคโฮ ไม่ได้เห็นมานานนัก เพราะไม่ใช่ทุกวันที่เขาจะเข้ามาที่นี่

      โปรดิวซ์โฮสต์คลับ

      เพราะการเป็นโฮสต์ระดับสูงนั้นไม่จำเป็นต้องรับลูกค้าทุกคนที่แม้จะจ่ายเงินให้อย่างงามแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าเขาไม่พอใจก็ไม่มีหวังที่จะได้ใช้บริการ เว้นเสียแต่ว่าลูกค้าของวันนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา


                ชายหนุ่มเลิกแขนเสื้อสูทขึ้นเล็กน้อยเพื่อดูนาฬิกาข้อมือ มาถึงก่อนเวลาไปหลายนาทีเขาโบกมือทักทายบาร์เทนเดอร์ของร้านเสร็จ สองเท้าเดินหน้าตรงเข้าไปในห้องพักพนักงานทันทีเพื่อจะได้เตรียมตัวรับลูกค้า คนที่พี่จีซองย้ำนักย้ำหนาว่าเป็นลูกค้าคนพิเศษ

      จากข้อมูลที่พี่จีซองดีลมาให้เมื่อคืน ลูกค้าคนนี้เป็นญาติห่างๆของผู้บริหารที่นี่หรือก็คือบอสของเขานั่นแหละ คงจะใช้เส้นสายเพราะต้องการใช้บริการเขามากถึงขนาดนี้เลยสินะ อยากจะรู้เหมือนกันว่าหน้าตาเป็นยังไง เพราะบอสไม่เคยพาคนรู้จักหรือครอบครัวมาที่นี่เลยสักครั้ง แต่เหตุผลก็คงเป็นเพราะไม่มีอะไรที่บอสจำต้องห่วงล่ะมั้ง เพราะที่นี่มีกฎ และตัวเขาที่ทำงานมาได้สองปีกว่าก็ยังไม่เคยทำผิดกฎ...ให้ใครเห็นสักครั้งเลยน่ะนะ

      และถึงแม้การเป็นโฮสต์จะไม่ใช่งานที่ใครๆยอมรับแต่เขารู้ดีว่าสิ่งที่กำลังทำเพื่อหาเลี้ยงตัวเองอยู่ทุกวันนี้เป็นงานสุตจริตและโฮสต์ที่นี่ก็ไม่ใช่ผู้ชายขายอย่างที่ใครหลายคนคิด และความจริงแล้วการเป็นโฮสต์ในคลับที่นี่ไม่ใช่งานประจำของเขา ไม่ใช่สิ่งที่เป็นเป้าหมายในชีวิตของแบคโฮ แต่เพราะว่าได้เงินดีอย่างมหาศาลนั่นเลยเป็นสิ่งที่ปฎิเสธไม่ได้


      วันนี้มึงก็มีคิวลูกค้าด้วยเหรอวะ?”

      หลังจากที่แบคโฮหย่อนตัวลงนั่งบนโซฝาได้ไม่ถึงห้านาที เสียงทักทายของชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้าห้องพักพนักงานอีกคนดังมาจากหน้าประตู คังแดเนียล โฮสต์ระดับสูงหาตัวจับยากเช่นเดียวกับเขาหรือในอีกสถานะแดเนียลเป็นเพื่อนร่วมงาน


      แต่ในบางคืนอาจจะเป็นมากกว่านั้นอีกสักหน่อย


      มึงก็เหมือนกัน ไม่ยักรู้ว่ามีคิววันนี้ด้วย” แดเนียลไม่ได้ตอบคำถามในทันที

      เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาไม่แพ้กันเดินไปหยิบขวดน้ำบนโต๊ะเครื่องแป้งใกล้ๆและยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนน้ำพร่องไปกว่าครึ่ง เขาค่อยๆใช้แขนเสื้อสูทสีดำสนิทยกขึ้นเช็ดหยดน้ำที่ไหลเลอะลงมาจากริมฝีปากอิ่มแดงของตน ช้อนสายตามองเพื่อนร่วมงานที่นั่งจ้องอยู่ไม่วาง


      มึงเคยสนใจกูด้วยเหรอ?” แดเนียลยักไหล่ตอบกลับไปแบบไม่ได้คิดอะไร


      “แล้วมึงเคยรู้ตัวมั้ยว่ากูสนใจตลอดนั่นล่ะ


      แดเนียลไม่ตอบคำถาม…เสื้อซีทรูสีดำตัวบางถูกปลดกระดุมออกไปสองเม็ดเชื้อเชิญสายตาคนมอง เมคอัพคมเข้มและผมซอยสั้นสีอ่อนที่ถูกเซ็ตทรงอย่างดีนั้นทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มดูเซ็กซี่ขึ้นหลายเท่าตัว ไหนจะท่าทางยั่วเย้าที่กำลังทำนั่นอีก ทุกอย่างอยู่ในสายตาของแบคโฮโดยตลอด

       

      คิดจะยั่วเขาอีกแล้วสินะ ไอ้เพื่อนคนนี้

       

              “มองขนาดนี้ กินกูเลยก็ได้นะ

       

              “ก็อยากอยู่ถ้ามันไม่ใช่เวลางาน” ตอบกลับมาหน้าตาย แดเนียลหัวเราะในลำคอส่งยิ้มเยาะราวกับจะกวนเพื่อนร่วมงานของตนด้วยสายตาอีกครั้ง “มึงมันปอด


              “แค่จริงจังกับงาน


             “กูก็จริงจังกับมึงอยู่นี่ไง


               แดนมึงอย่ายั่ว” แดเนียลหัวเราะร่วน เดินเข้าไปใกล้คนร่างหนาพอๆกัน สายตาอันคมกริบของแบคโฮกำลังมองสำรวจไปทั่วเรือนร่างของเพื่อนร่วมงานที่กำลังก้มหน้าลงมาอย่างเชื่องช้า มือเรียวเชยใบหน้าคมขึ้น ริมฝีปากอิ่มแดงประกบลงแล้วบดขยี้ ดูดกลืน ทั้งยังหยอกเย้าแทบไม่ให้หยุดพัก ไม่ยอมให้คนขี้ยั่วข้างบนได้ใจ แบคโฮส่งลิ้นร้อนของตนเข้าสู้กวาดต้อนความหวานไปทั่วโพรงปากอิ่ม เสียงครางเล็ดลอดออกมาทำให้แบคโฮเริ่มพอใจและรู้สึกสนุก จัดการขบเม้มริมฝีปากล่างของแดเนียล กัดกินจนรู้สึกถึงรสคาวเลือด ที่หวานกว่าน้ำผึ้งเสียอีก เขากลืนความหวานลงคอไม่หยุดหย่อน เลื่อนมือรั้งลำคออีกคนเอาไว้ไม่ยอมให้ถอยห่างเสียงดูดกลืนดังสะท้อนในความเงียบ

       

      แดเนียลเป็นฝ่ายดันไหล่อีกคนออกก่อน เชาหยุดยืนพักหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปหาแบคโฮอีกครั้ง ส่งสายตาหงุดหงิดจนแบคโฮอดขำไม่ได้

       

      มึงแกล้งกูนี่ เลือดออกเลยไอ้สัด”

       

      กูเตือนมึงแล้ว” แบคโฮหัวเราะ แดเนียลทำเป็นไม่สนใจแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เขาซี้ดปากเลือดยังซึมอยู่นิดหน่อย แบคโฮจ้องมองใบหน้าของเพื่อนรวมงานแล้วลอบยิ้ม


      บางคืนโดนหนักกว่านี้อีกไม่เห็นจะบ่นเป็นหมีกินผึ้งแบบนี้เลย 


      เขาเอี้ยวตัวเข้าไปหาใช้นิวโป้งซับเลือดบนริมฝีปากอิ่มแดงของเพื่อนร่วมงานให้อย่างแผ่วเบา                      โทษที เจ็บไหมวะ?”

       

      ให้กูกัดคืนสิจะได้รู้

       

      คืนไหนว่างๆกูจะให้มึงแก้แค้นคืนก็แล้วกัน...


                อย่างที่บอกแบคโฮไม่เคยหิ้วลูกค้าขึ้นเตียง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยพาคนอื่นขึ้นไป ซึ่งส่วนมากคนๆนั้นจะเป็นเพื่อนร่วมงานของเขาเอง...มันอาจจะพูดยากไปสักหน่อยในสายตาของคนอื่น เพราะระหว่างเขากับแดเนียลนั้นมันเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ได้เรียกว่าความสัมพันธ์...เรื่องแบบนั้นมันไม่ได้สำคัญกับเขาทั้งคู่

       

              ก็แค่ขึ้นเตียงในบางคืน

      เช้าวันรุ่งขึ้นแยกย้ายกันไปอยู่ในที่ของตน 

              ไม่มีสถานะอะไรทั้งนั้น

      ทั้งคู่พอใจให้มันเป็นแบบนี้

       

       

       

       

       

       

       

       

                ผ่านมาได้ไม่นานนักลูกค้าคนพิเศษของเขาก็เดินทางมาถึงหน้าประตูร้าน แบคโฮนั่งรออยู่แล้วที่โต๊ะมุมสุดถัดจากบาร์เครื่องดื่มไปไม่ไกล แสงไฟจากโคมระย้าส่องสว่างเป็นสีส้มอ่อนๆสะท้อนกับใบหน้าคมคายของเขาที่กำลังเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง ดูดีเสียจนลูกค้าของโฮสต์คนอื่นยังต้องหันมอง

              เสียงเลื่อนเก้าอี้ดังใกล้ๆ แบคโฮหันกลับมาให้ความสนใจกับลูกค้าที่เพิ่งนั่งลงข้างหน้าเขา สายตาคมสะดุดลงหยุดอยู่กับร่างบางตรงหน้าทันที


      ไม่อาจล่ะสายตา


      มีอะไรติดอยู่ที่หน้าผมเหรอครับ?” เสียงหวานเรียกสติของแบคโฮกลับคืน เขาปรับสีหน้าของตนให้เป็นปกติแล้วยิ้มให้คนตรงหน้า 

      ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณก็แค่ดูดีมากจนผมมองเพลินไปหน่อย” ใบหน้าหวานยิ้มขำให้กับคำป้อยอของโฮสต์หนุ่ม

      ที่ชมเพราะเป็นงานหรือเปล่าครับ” เขาหัวเราะ

      ผมไม่ใช่คนที่จะโกหกต่อหน้าลูกค้าหรอกนะครับ คุณจูฮังนยอน คุณดูดีมากจริงๆคนตัวเล็กกว่าไม่เถียงอีกเขายิ้มตอบโฮสต์หนุ่มกลับไปแสดงความเขินอายในแววตา

       

      รอยยิ้มสวยๆของเขากำลังดึงดูดให้แบคโฮอยากเข้าไกล้ให้มากขึ้น มากกว่านี้อีก

       

      คุณดูคล้ายกับคนที่ผมเคยรู้จัก คุณสวยเหมือนกันกับเขาไม่สิคุณดูดีมีเสน่ห์มากกว่าเสียอีกนะครับแบคโฮพูดจากใจจริงจนฮังนยอนยิ้มขำและพยักหน้าตอบ

      ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ว่าแต่คนนั้นเขาเป็นใครกันผมถามได้หรือเปล่า

      อ่า ช่างเถอะเรื่องมันผ่านไปแล้วคุณอยากดื่มอะไรรึเปล่า?” แบคโฮทำท่าจะลุกไปเอาเครื่องดื่มที่บาร์

      เดี๋ยวสิคุณ…” ฮังนยอนยกยิ้มมุมปากมือเรียวทาบทับลงบนหลังมือหนา ก่อนจะส่งยิ้มสวยๆที่แบคโฮชอบตั้งแต่แรกเห็นกลับไปอีกครั้ง ร่างบางขยับลุกขึ้นยืนก่อนจะเอียงแก้มเข้าไปหาสันกรามของอีกคน

      เรียกผมว่าฮังยนอนเฉยๆก็ได้นะครับ เราจะได้สนิทกันไวขึ้นเสียงกระซิบแผ่วดังอยู่ข้างหู จนได้ยินเสียงลมหายใจของฮังนยอนรดอยู่บนต้นคอ

       

      ลมหายใจเสียวซ่านของคุณกำลังทำผมใจเต้น


      พูดคุยกันอย่างถูกคออยู่ร่วมชั่วโมงทั้งเรื่องสัพเพเหระหรือแม้แต่เรื่องความชอบ งานอดิเรกของคนทั้งคู่ อีกทั้งแบคโฮยังทำหน้าที่โฮสต์ดูแลฮังนยอนได้เป็นอย่างดี บางทีอาจจะมากกว่าลูกค้าหลายๆคนที่เคยผ่านมาด้วยซ้ำ คนทั้งคู่ดูถูกใจกันและกันอยู่ไม่น้อย

                ผมเคยได้ยินว่าคุณร้องเพลงเพราะมากเลยฮังนยอนเอ่ยขึ้นในขณะที่เขากำลังดื่มพั้นช์แก้วที่สอง

                อยากฟังไหมล่ะครับ?”

                “แน่นอนสิครับ ผมมาเพื่อเรื่องนี้เลยล่ะฮังนยอนยิ้มขำจนแบคโฮแทบยิ้มตาม เขาพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ ขยับปกเสื้อให้เข้าที่แล้วเดินอย่างมาดมั่นตรงไปที่หน้าเวทีกลางคลับ แบคโฮหันไปพูดกับพี่ๆนักดนตรีนิดหน่อยรับไมค์มาแล้วขึ้นไปยืนบนเวที

                แบคโฮดูดีมากขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อขึ้นไปยืนบนนั้น แสงสีขาวของสปอตไลท์ส่องลงมาที่ชายหนุ่มร่างกำยำ ทำให้แขกในร้านแทบจะทุกสายตาหันมามองเขาผู้เจิศจรัสอยู่บนเวที แม้จะมีลูกค้าสาวสวยปรบมือให้ดังคับคั่งร้านแค่ไหน แต่กลับมีเพียงบางคนที่โดดเด่นกว่าใครทั้งหมด เป็นเพียงคนเดียวที่ดึงดูดสายตาของแบคโฮจนอยู่หมัด เพียงคนเดียวที่ได้รับรอยยิ้มจากเขา รอยยิ้มอันอบอุ่นจริงใจไม่ใช่แสแสร้งเพราะเรื่องงาน

       

      ฮังนยอนยิ้มตอบพร้อมๆกับชูแก้วเครื่องดื่มในมือ

       

                แล้วเสียงดนตรีก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมืออย่างต่อเนื่อง แบคโฮเริ่มขยับท่าทางไปตามจังหวะเพลง สปอตไลท์เปลี่ยนเป็นสีแดงหม่นโดยชับพลัน

       

      ตอนที่ผมเห็นคุณหัวใจมันก็สั่นไหว

      วิ่งไปหาคุณจนแทบไม่มีเวลาหายใจ 

      เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณก้าวเข้ามา

      ผมจะอยู่ไกล้ๆและคอยปกป้องคุณ…”

       

                ทุกสายตาไม่อาจล่ะไปจากชายหนุ่มบนเวที ลวดลายการเต้นและเสียงร้องอันไพเราะทั้งทุ้มหวานลงตัวจนไม่มีที่ติ 


      เปิดออกสิเปิดสิเปิดออกสิ

      คุณคนเดียวที่อยู่ในใจผม

      เติมเต็มผมด้วยสีสันของคุณ

      ด้วยปลายนิ้วของคุณ

       


                เสื้อสูทสีดำถูกสะบัดออกจากไหล่หนาเผยให้เห็นรอยสักของแบคโฮชัดเจน เขาขยับตัวพลิ้วไหวไปตามเสียงเพลงที่กำลังเร่าร้อนขึ้นเพราะและเสียงร้องและท่าเต้นอันเซ็กซี่ละลายใจของเขา สายตาคมกริบดุดันเข้ากับอารมณ์ของเสียงดนตรี หญิงสาวกรีดร้องชื่นชมเสียงดังสนั่นอยู่ข้างล่างเวที 

                สายตาพอใจของฮังนยอนส่งไปถึงชายหนุ่มผู้กำลังทำให้เวทีลุกเป็นไฟ เช่นเดียวกับสายตาของแบคโฮกำลังจ้องลึกมาที่เขาอยู่เช่นกัน ฮังนยอนเผลอเลียริมฝีปากของตัวเอง สายตาของทั้งคู่ยังคงผสานกันจนกระทั่งเสียงเพลงได้จบลง แบคโฮหอบเหนื่อยเหงื่อไหลซึมที่ต้นคอและใบหน้าไปไม่น้อยแต่นั่นยิ่งทำให้เขาดูเซ็กซี่มากขึ้นกว่าเดิม เขาลงจากเวทีและตรงมาหาลูกค้าคนพิเศษ

       

                คุณสุดยอดมากๆเลย ฮังนยอนเอ่ยชม แบคโฮโค้งเล็กน้อยเป็นคำขอบคุณ เหงื่อออกเต็มเลยแบคโฮคุณไปพักก่อนก็ได้นะ ผมไม่ว่าอะไรหรอก         

                แค่นี้เอง ผมสบายมาก

                “มาเถอะน่าถูกฮังนยอนดึงมือออกไปจากโต๊ะ มือเล็กกำลังพาเขาเดินตรงไปยังห้องน้ำ แบคโฮไม่ขัดอะไรเขาเดินตามไปอย่างว่าง่าย อาจเป็นเพราะเวลานี้ร้านใกล้ปิดแล้วในห้องน้ำไม่เหลือใครสักคน ฮังนยอนจูงมือคนตัวสูงกว่าดันให้เข้าไปก่อน แล้วหันไปล็อคกลอนลง แบคโฮเดินตรงไปที่อ่างล้างหน้ายืนมองการกระทำของอีกคนแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ลูกค้าคนพิเศษเริ่มแผงฤิทธิแล้วสิ

                คุณล็อคประตู? 

      ไม่ยอมตอบคำถามฮังนยอนไหวไหล่แล้วยกยิ้ม คุณล้างหน้าล้างตัวสิครับ

      ผมรอคนมาถอดเสื้อให้อยู่นี่ไงฮังนยอนแค่นหัวเราะเขาค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ มือเล็กดันอกแบคโฮจนหลังชิดขอบอ่าง ก่อนจะลูบไล้ไปทั่วหัวไหล่ของเขาแล้วเลื่อนเสื้อสูทออกจากร่างหนา

      จะผิดกฎของร้านหรือเปล่านะ ถ้าเรามาอยู่กันสองต่อสองที่นี่นานๆฮังนยอนช้อนตามองคนตัวสูงกว่า ท่าทางไม่ยีระนั้นขัดกับคำถามนักดูก็รู้ว่าฮังนยอนกำลังต้องการอะไรจากเขา ไม่มีคนโง่ที่ไหนจ่ายเงินมหาศาลแถมยังใช้เส้นสายสารพัดเพื่อมานั่งมองหน้าเขาอย่างเดียวหรอกแต่ถึงอย่างนั้นมีอีกสิ่งนึงที่แบคโฮกำลังรู้สึก


      ว่าเขาก็ปรารถนาจะสนองความต้องการนั้นให้เช่นกัน


      จะผิดก็ต่อเมื่อคนอื่นรู้ แต่ตอนนี้คงไม่มีใครนอกจากคุณกับผม...ใช่ไหมล่ะครับ?


      จริงอยู่เขาไม่หิ้วลูกค้าคนไหนขึ้นเตียง แต่ถ้าหากไม่มีใครเห็นและใช้เวลาไม่นานสักเท่าไหร่เพื่อจัดการสนองให้ลูกค้าที่เขาถูกใจก็อาจมีบ้างในบางครั้ง

      ก็แค่อย่าให้ถูกจับได้มันจะยากอะไร เขาไม่ใช่คนดีคนซื่อสัตว์ต่องานทุกเวลาอะไรขนาดนั้น แม้จะมีกฎอยู่ในทุกๆที่ของการใช้ชีวิตแต่ใช่ว่าคนเราจะยอมปฎิบัติตามมันไปเสียทุกอย่าง ทุกคนย่อมรู้ดียังไงเราก็ฝืนธรรมชาติความอยากของมนุษย์ไปไม่ได้หรอก


      เคยได้ยินไหม...กฎมีไว้แหก

      .

      .

      .

       “อื้ออ…” มือเรียวขยุ่มกลุ่มผมไปตามอารมณ์ที่กำลังครุกรุ่นอยู่ภายใน แขนแกร่งอุ้มร่างบางขึ้นนั่งบนขอบหินของอ่างล้างหน้า พลันแยกขาเรียวออก โถมตัวเองแนบชิดร่างบางจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ริมฝีปากหนาไม่ยอมอยู่นิ่ง ดูดคลึงไปตามซอกคอขาวจนขึ้นสี มือซนล้วงเข้าใต้เสื้อตัวบาง ลูบไล้อย่างเบามือจนฮังนยอนครางเสียงสั่น

       “เด็กน้อย คิดจะเล่นกับเสือมันก็จะเสียวหน่อยนะครับแบคโฮหัวเราะในลำคอมุมปากยกยิ้มพอใจ ก่อนจะค่อยๆเลื่อนริมฝีปากของตนขึ้นไปประกบจูบปากอิ่มที่เผยอรออยู่ด้านบน แลกลิ้น ดูดกลืนกินความหวานกันอย่างเร้าร้อน ราวกับบทเพลงที่เขาเพิ่งบรรเลงให้ลูกค้าคนพิเศษได้ฟังไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว

      .

      .

      .

      แกรก…” เสียงลูกบิดประตูขยับหยุดการกระทำของทั้งคู่ลงทันที ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกช้าๆก่อนที่จะมีบางคนเดินเข้ามา ฮังนยอนลงจากอ่างล่างหน้ามายืนอยู่ข้างแบคโฮและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

      ขอโทษทีครับเห็นประตูมันล็อคเลยใช้กุญแจสำรองเปิดเข้ามา ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ในนี้ชูกุญแจสำรองในมือให้ดูทันทีเขาไม่รอให้ใครเอ่ยอะไรขึ้นมาอีกเพราะคงไม่มีใครอยากตอบ แดเนียลหันไปพูดกับฮังนยอนด้วยสีหน้าเรียบเฉย

      อ่อคุณฮังนยอน ร้านจะปิดแล้วนะครับ เชิญคุณลูกค้าเช็คบิลและกลับไปได้แล้วลูกค้าคนพิเศษพยักหน้ายิ้มตอบเล็กน้อยคว้าเอาเสื้อสูทของตนที่กองอยู่บนพื้นแล้วเดินเลี่ยงแดเนียลออกไปทันทีโดยไม่ได้พูดตอบอะไร

       

      ความเงียบเข้าปกคลุม

       

      แดนแบคโฮเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เจ้าของชื่อส่งสายตาเรียบนิ่งให้เพื่อนร่วมงาน      

      ทำเหี้ยอะไรก็ให้มันระวังหน่อย ถ้าเป็นคนอื่นมาเห็นมึงโดนไล่ออกไปแล้ว

      มึงโกรธทำไม?”

      โกรธเหี้ยอะไร กูรำคาญ       

                 ให้พูดอีกที” แดเนียลไม่ยอมตอบสีหน้าเขายังเรียบนิ่งเหมือนเดิมแต่ไอ้น้ำเสียงแบบนั้น แบคโฮรู้ดีว่าเพื่อนร่วมงานของเขากำลังโกรธอยู่แต่ทำไมวะ?ทั้งที่มันก็รู้เรื่องแบบนี้แทบทุกครั้งที่เขาแอบกินกับลูกค้าในห้องน้ำนั่นแหละ

      ไวกว่าความคิดแบคโฮดันไหล่กว้างอีกคนจนหลังไปชิดกับผนังใช้แขนซ้ายกันไว้ไม่ให้ไอ้เพื่อนดื้อคนนี้หนี ประกบจูบปากอิ่มแดงของคนตรงหน้า ลิ้นร้อนทำหน้าที่ของมันได้อย่างชำนาญควานหาความหวานไปทั่วโพรงปาก คนถูกรุกล้ำส่งเสียงฮึดฮัดอยู่ในลำคอ แดเนียลไม่ยอมแพ้ดันไหล่หนาออกจากตัวได้พลันผลักแบคโฮจนแผ่นหลังแกร่งกระแทกผนังอีกฝั่งอย่างจัง

      เสียงหอบกระเส่าของคนทั้งสองดังแผ่วอยู่ชั่วครู่ คราวนี้แดเนียลเป็นฝ่ายโผเข้าใส่ก่อนกัดคลึงริมฝีปากหนานั่นทั้งบดขยี้กัดกินราวกับเป็นเนื้อเสือรสชาติดี มือหนาสอดเข้าใต้เสื้อซีทรูสีดำตัวบาง ลูบไล้เชื่องช้าอยู่บนหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม เลื่อนมือลงบีบคลึงบั้นท้ายอีกคนผ่านเนื้อผ้ากางเกงสเลท ทั้งที่ริมฝีปากร้อนของทั้งคู่ยังกลืนกินกันและกันอยู่ไม่ลดล่ะ

      น้ำใสๆลินไหลลงมาจากปากอิ่มแดงที่กำลังบวมช้ำไม่ต่างจากอีกคน แบคโฮเป็นฝ่ายผละริมฝีปากออกมาก่อนแต่ทั้งคู่ยังโถมตัวแนบชิดกันราวกับจะเป็นเนื้อเดียว มือหนาของแบคโฮยังคงบีบขย้ำอยู่ที่ก้นของเพื่อนร่วมงาน ผลัดกันหอบหายใจเสียงกระเส่า 



      เลือดซึมอยู่บนริมฝีปาก...เขาโดนแก้แค้นคืนสินะ


      ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง...


      แบคโฮใช้แขนเสื้อเช็ดเลือดที่มุมปากของตนอย่างลวกๆ แดเนียลยังไม่ยอมพูดอะไร แต่ก็ไม่ได้ขยับตัวออกไปไหนแม้สองร่างจะแนบชิดจนแทบไม่เหลือช่องว่างให้หายใจ ค่อยๆเอียงหน้าเข้าไปใกล้ริมฝีปากบวมแดงของแดเนียลอย่างเชื่องช้า จูบซับน้ำใสๆที่มุมปากอิ่มจนหมด...

       

                “หายโกรธได้หรือยัง?”

      นี่เหรอวิธีง้อของมึงแดเนียลสวนกลับทันควัน

      นั่นไง มึงโกรธจริงๆด้วย

      คนถูกจับได้จิ๊ปากใส่ ยกเข่าข้างนึงดันหน้าท้องแข็งของอีกคนที่กำลังใช้เป้าตัวเองเบียดเข้ามาใกล้มากเกินไป ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำให้มันจบๆ แต่นี่ที่ทำงานเขาไม่ยอมซวยไปกับมันหรอก

      งั้นคืนนี้กูขอค้างห้องมึงแล้วกันนะ

      “…”

      แดน

      เออ




      อ่าน

      -TALK-


      ปล. เราตัดสินใจจะทำเป็นเรื่องยาวแล้วเด้อ ตามแท็กนี้เลย #ฟิคแหกกฎ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×