[ PRODUCE 101 ] #ฟิคแหกกฎ
หากคุณอยากได้ความสุขกับเขาทั้งคู่นั้นย่อมได้ แต่ถ้าหากคุณต้องการร่างกายแล้วล่ะก็...
ผู้เข้าชมรวม
3,713
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
(อ่านฟิคเลื่อนลงไปให้สุด)
ปล. เราตัดสินใจจะทำเป็นเรื่องยาวแล้วเด้อติดตามที่ #ฟิคแหกกฎ 2 เลยจ้า
#แบคนยอน VS #ทูคัง
#ฟิคแหกกฎ
(SF) +18
โฮสต์คลับ เป็นแหล่งรวมชายหนุ่มหน้าตาดีและสิ่งที่ทุกคนมีคือความเป็นเอ็นเตอร์เทรนเนอร์ คุยเก่ง ยิ้มเก่ง หรือร้องเพลงเพราะให้ความสบายใจและความสนุกสนานต่อลูกค้าได้เป็นอย่างดี
และที่นี่คือโปรดิวซ์โฮสต์คลับ คลับระดับสูงแนวหน้าของทุกวงการ ไม่ใช่ทุกคนที่แม้จะยอมจ่ายเงินหลายหลักแล้วจะได้ใช้บริการ โฮสต์ที่นี่มีอยู่หลายสิบชีวิตหากแต่โฮสต์ระดับสูงค่าตัวเหยียบล้านมีเพียงแค่สองคนเท่านั้น
คังแดเนียลและคังแบคโฮ
หากคุณอยากได้ความสุขจากเขาทั้งคู่นั้นย่อมได้ แต่ถ้าหากคุณต้องการร่างกายแล้วล่ะก็...
.
.
.
.
.
ทุกที่จำเป็นต้องมีกฎของมันไม่เว้นแม้แต่ที่นี่...
ห้ามโฮสต์ทุกคนทำอะไรเกินเลยกับลูกค้านอกเสียจากจะให้ความสำราญทางใจเท่านั้น
ห้ามอยู่ลับตากันสองต่อสอง ต้องมีคนเห็นและอยู่ในเล้าจ์ของทางคลับ
และข้อสุดท้าย...ห้ามทำผิดกฎเป็นอันขาด
อย่างไรก็ตามคุณไม่สามารถฝืนธรรมชาติของมนุษย์ได้หรอก
เคยได้ยินไหม...กฎมีไว้แหก
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ลงแล้วเด้อจ้าาา
⬇
⬇
⬇
⬇
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ทูคัง
แบคนยอน
ที่รัก ฉันจะออกล่าเธอในคืนนี้ จะไล่ล่าเธอและกลืนกินเธอทั้งเป็นเหมือนกับเสือร้าย
เสียงพื้นรองเท้าหนังอย่างดีกระทบลงกับพื้นกระเบื้องลายครามเป็นจังหวะเชื่องช้า ชายหนุ่มร่างกายกำยำสวมเชิ้ตขาวตัวบางคอเสื้อคว้านลึกเผยให้เห็นรอยสักบนแผงอกขวาเล็กน้อยบวกกับโชกเกอร์สีดำที่คาดอยู่บนลำคอเรียวช่างดูลึกลับและน่าค้นหา เขาใช้นิ้วลูบไรหนวดบนใบหน้าคมของตนอย่างแผ่วเบาสายตากวาดมองไปรอบข้าง แสงสีในคลับส่องสว่างราวกับถนนในเวลากลางคืนเสียงดนตรีคลาสิคถูกเปิดคลอเบาๆ ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาใช้บริการกันหลายคนแล้ว เป็นภาพที่ คังแบคโฮ ไม่ได้เห็นมานานนัก เพราะไม่ใช่ทุกวันที่เขาจะเข้ามาที่นี่
โปรดิวซ์โฮสต์คลับ
เพราะการเป็นโฮสต์ระดับสูงนั้นไม่จำเป็นต้องรับลูกค้าทุกคนที่แม้จะจ่ายเงินให้อย่างงามแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าเขาไม่พอใจก็ไม่มีหวังที่จะได้ใช้บริการ เว้นเสียแต่ว่าลูกค้าของวันนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา…
ชายหนุ่มเลิกแขนเสื้อสูทขึ้นเล็กน้อยเพื่อดูนาฬิกาข้อมือ มาถึงก่อนเวลาไปหลายนาที…เขาโบกมือทักทายบาร์เทนเดอร์ของร้านเสร็จ สองเท้าเดินหน้าตรงเข้าไปในห้องพักพนักงานทันทีเพื่อจะได้เตรียมตัวรับลูกค้า คนที่พี่จีซองย้ำนักย้ำหนาว่าเป็นลูกค้าคนพิเศษ…
จากข้อมูลที่พี่จีซองดีลมาให้เมื่อคืน ลูกค้าคนนี้เป็นญาติห่างๆของผู้บริหารที่นี่หรือก็คือบอสของเขานั่นแหละ คงจะใช้เส้นสายเพราะต้องการใช้บริการเขามากถึงขนาดนี้เลยสินะ อยากจะรู้เหมือนกันว่าหน้าตาเป็นยังไง เพราะบอสไม่เคยพาคนรู้จักหรือครอบครัวมาที่นี่เลยสักครั้ง แต่เหตุผลก็คงเป็นเพราะไม่มีอะไรที่บอสจำต้องห่วงล่ะมั้ง เพราะที่นี่มีกฎ และตัวเขาที่ทำงานมาได้สองปีกว่าก็ยังไม่เคยทำผิดกฎ...ให้ใครเห็นสักครั้งเลยน่ะนะ
และถึงแม้การเป็นโฮสต์จะไม่ใช่งานที่ใครๆยอมรับแต่เขารู้ดีว่าสิ่งที่กำลังทำเพื่อหาเลี้ยงตัวเองอยู่ทุกวันนี้เป็นงานสุตจริตและโฮสต์ที่นี่ก็ไม่ใช่ผู้ชายขาย…อย่างที่ใครหลายคนคิด และความจริงแล้วการเป็นโฮสต์ในคลับที่นี่ไม่ใช่งานประจำของเขา ไม่ใช่สิ่งที่เป็นเป้าหมายในชีวิตของแบคโฮ แต่เพราะว่าได้เงินดีอย่างมหาศาลนั่นเลยเป็นสิ่งที่ปฎิเสธไม่ได้…
“วันนี้มึงก็มีคิวลูกค้าด้วยเหรอวะ?”
หลังจากที่แบคโฮหย่อนตัวลงนั่งบนโซฝาได้ไม่ถึงห้านาที เสียงทักทายของชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้าห้องพักพนักงานอีกคนดังมาจากหน้าประตู คังแดเนียล โฮสต์ระดับสูงหาตัวจับยากเช่นเดียวกับเขา…หรือในอีกสถานะแดเนียลเป็นเพื่อนร่วมงาน
แต่ในบางคืนอาจจะเป็นมากกว่านั้นอีกสักหน่อย
“มึงก็เหมือนกัน
ไม่ยักรู้ว่ามีคิววันนี้ด้วย” แดเนียลไม่ได้ตอบคำถามในทันที
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาไม่แพ้กันเดินไปหยิบขวดน้ำบนโต๊ะเครื่องแป้งใกล้ๆและยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนน้ำพร่องไปกว่าครึ่ง เขาค่อยๆใช้แขนเสื้อสูทสีดำสนิทยกขึ้นเช็ดหยดน้ำที่ไหลเลอะลงมาจากริมฝีปากอิ่มแดงของตน ช้อนสายตามองเพื่อนร่วมงานที่นั่งจ้องอยู่ไม่วาง
“มึงเคยสนใจกูด้วยเหรอ?” แดเนียลยักไหล่ตอบกลับไปแบบไม่ได้คิดอะไร
“แล้วมึงเคยรู้ตัวมั้ยว่ากูสนใจตลอดนั่นล่ะ”
แดเนียลไม่ตอบคำถาม…เสื้อซีทรูสีดำตัวบางถูกปลดกระดุมออกไปสองเม็ดเชื้อเชิญสายตาคนมอง
เมคอัพคมเข้มและผมซอยสั้นสีอ่อนที่ถูกเซ็ตทรงอย่างดีนั้นทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มดูเซ็กซี่ขึ้นหลายเท่าตัว
ไหนจะท่าทางยั่วเย้าที่กำลังทำนั่นอีก ทุกอย่างอยู่ในสายตาของแบคโฮโดยตลอด
คิดจะยั่วเขาอีกแล้วสินะ ไอ้เพื่อนคนนี้
“มองขนาดนี้ กินกูเลยก็ได้นะ”
“ก็อยากอยู่ถ้ามันไม่ใช่เวลางาน” ตอบกลับมาหน้าตาย แดเนียลหัวเราะในลำคอส่งยิ้มเยาะราวกับจะกวนเพื่อนร่วมงานของตนด้วยสายตาอีกครั้ง “มึงมันปอด”
“แค่จริงจังกับงาน”
“กูก็จริงจังกับมึงอยู่นี่ไง”
“แดน…มึงอย่ายั่ว” แดเนียลหัวเราะร่วน เดินเข้าไปใกล้คนร่างหนาพอๆกัน สายตาอันคมกริบของแบคโฮกำลังมองสำรวจไปทั่วเรือนร่างของเพื่อนร่วมงานที่กำลังก้มหน้าลงมาอย่างเชื่องช้า มือเรียวเชยใบหน้าคมขึ้น ริมฝีปากอิ่มแดงประกบลงแล้วบดขยี้ ดูดกลืน ทั้งยังหยอกเย้าแทบไม่ให้หยุดพัก ไม่ยอมให้คนขี้ยั่วข้างบนได้ใจ แบคโฮส่งลิ้นร้อนของตนเข้าสู้กวาดต้อนความหวานไปทั่วโพรงปากอิ่ม เสียงครางเล็ดลอดออกมาทำให้แบคโฮเริ่มพอใจและรู้สึกสนุก จัดการขบเม้มริมฝีปากล่างของแดเนียล กัดกินจนรู้สึกถึงรสคาวเลือด ที่หวานกว่าน้ำผึ้งเสียอีก เขากลืนความหวานลงคอไม่หยุดหย่อน เลื่อนมือรั้งลำคออีกคนเอาไว้ไม่ยอมให้ถอยห่าง…เสียงดูดกลืนดังสะท้อนในความเงียบ
แดเนียลเป็นฝ่ายดันไหล่อีกคนออกก่อน เชาหยุดยืนพักหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปหาแบคโฮอีกครั้ง ส่งสายตาหงุดหงิดจนแบคโฮอดขำไม่ได้
“มึงแกล้งกูนี่ เลือดออกเลยไอ้สัด”
“กูเตือนมึงแล้ว” แบคโฮหัวเราะ แดเนียลทำเป็นไม่สนใจแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เขาซี้ดปากเลือดยังซึมอยู่นิดหน่อย แบคโฮจ้องมองใบหน้าของเพื่อนรวมงานแล้วลอบยิ้ม
บางคืนโดนหนักกว่านี้อีกไม่เห็นจะบ่นเป็นหมีกินผึ้งแบบนี้เลย
เขาเอี้ยวตัวเข้าไปหาใช้นิวโป้งซับเลือดบนริมฝีปากอิ่มแดงของเพื่อนร่วมงานให้อย่างแผ่วเบา “โทษที เจ็บไหมวะ?”
“ให้กูกัดคืนสิจะได้รู้”
“คืนไหนว่างๆกูจะให้มึงแก้แค้นคืนก็แล้วกัน...”
อย่างที่บอกแบคโฮไม่เคยหิ้วลูกค้าขึ้นเตียง
แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยพาคนอื่นขึ้นไป
ซึ่งส่วนมากคนๆนั้นจะเป็นเพื่อนร่วมงานของเขาเอง...มันอาจจะพูดยากไปสักหน่อยในสายตาของคนอื่น
เพราะระหว่างเขากับแดเนียลนั้นมันเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ได้เรียกว่าความสัมพันธ์...เรื่องแบบนั้นมันไม่ได้สำคัญกับเขาทั้งคู่
ก็แค่ขึ้นเตียงในบางคืน
เช้าวันรุ่งขึ้นแยกย้ายกันไปอยู่ในที่ของตน
ไม่มีสถานะอะไรทั้งนั้น
ทั้งคู่พอใจให้มันเป็นแบบนี้…
ผ่านมาได้ไม่นานนักลูกค้าคนพิเศษของเขาก็เดินทางมาถึงหน้าประตูร้าน แบคโฮนั่งรออยู่แล้วที่โต๊ะมุมสุดถัดจากบาร์เครื่องดื่มไปไม่ไกล แสงไฟจากโคมระย้าส่องสว่างเป็นสีส้มอ่อนๆสะท้อนกับใบหน้าคมคายของเขาที่กำลังเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง ดูดีเสียจนลูกค้าของโฮสต์คนอื่นยังต้องหันมอง
เสียงเลื่อนเก้าอี้ดังใกล้ๆ
แบคโฮหันกลับมาให้ความสนใจกับลูกค้าที่เพิ่งนั่งลงข้างหน้าเขา
สายตาคมสะดุดลงหยุดอยู่กับร่างบางตรงหน้าทันที
ไม่อาจล่ะสายตา
“มีอะไรติดอยู่ที่หน้าผมเหรอครับ?” เสียงหวานเรียกสติของแบคโฮกลับคืน เขาปรับสีหน้าของตนให้เป็นปกติแล้วยิ้มให้คนตรงหน้า
“ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณก็แค่ดูดีมากจนผมมองเพลินไปหน่อย” ใบหน้าหวานยิ้มขำให้กับคำป้อยอของโฮสต์หนุ่ม
“ที่ชมเพราะเป็นงานหรือเปล่าครับ” เขาหัวเราะ
“ผมไม่ใช่คนที่จะโกหกต่อหน้าลูกค้าหรอกนะครับ
คุณ…จูฮังนยอน คุณดูดีมากจริงๆ”
คนตัวเล็กกว่าไม่เถียงอีกเขายิ้มตอบโฮสต์หนุ่มกลับไปแสดงความเขินอายในแววตา
รอยยิ้มสวยๆของเขากำลังดึงดูดให้แบคโฮอยากเข้าไกล้ให้มากขึ้น
มากกว่านี้อีก…
“คุณดูคล้ายกับคนที่ผมเคยรู้จัก คุณสวยเหมือนกันกับเขา…ไม่สิคุณดูดีมีเสน่ห์มากกว่าเสียอีกนะครับ” แบคโฮพูดจากใจจริงจนฮังนยอนยิ้มขำและพยักหน้าตอบ
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ว่าแต่คนนั้นเขาเป็นใครกันผมถามได้หรือเปล่า”
“อ่า ช่างเถอะเรื่องมันผ่านไปแล้วคุณอยากดื่มอะไรรึเปล่า?” แบคโฮทำท่าจะลุกไปเอาเครื่องดื่มที่บาร์
“เดี๋ยวสิคุณ…” ฮังนยอนยกยิ้มมุมปากมือเรียวทาบทับลงบนหลังมือหนา ก่อนจะส่งยิ้มสวยๆที่แบคโฮชอบตั้งแต่แรกเห็นกลับไปอีกครั้ง ร่างบางขยับลุกขึ้นยืนก่อนจะเอียงแก้มเข้าไปหาสันกรามของอีกคน…
“เรียกผมว่าฮังยนอนเฉยๆก็ได้นะครับ เราจะได้สนิทกันไวขึ้น”
เสียงกระซิบแผ่วดังอยู่ข้างหู จนได้ยินเสียงลมหายใจของฮังนยอนรดอยู่บนต้นคอ
ลมหายใจเสียวซ่านของคุณ…กำลังทำผมใจเต้น
พูดคุยกันอย่างถูกคออยู่ร่วมชั่วโมงทั้งเรื่องสัพเพเหระหรือแม้แต่เรื่องความชอบ งานอดิเรกของคนทั้งคู่ อีกทั้งแบคโฮยังทำหน้าที่โฮสต์ดูแลฮังนยอนได้เป็นอย่างดี บางทีอาจจะมากกว่าลูกค้าหลายๆคนที่เคยผ่านมาด้วยซ้ำ คนทั้งคู่ดูถูกใจกันและกันอยู่ไม่น้อย
“ผมเคยได้ยินว่าคุณร้องเพลงเพราะมากเลย” ฮังนยอนเอ่ยขึ้นในขณะที่เขากำลังดื่มพั้นช์แก้วที่สอง
“อยากฟังไหมล่ะครับ?”
“แน่นอนสิครับ ผมมาเพื่อเรื่องนี้เลยล่ะ” ฮังนยอนยิ้มขำจนแบคโฮแทบยิ้มตาม เขาพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ ขยับปกเสื้อให้เข้าที่แล้วเดินอย่างมาดมั่นตรงไปที่หน้าเวทีกลางคลับ แบคโฮหันไปพูดกับพี่ๆนักดนตรีนิดหน่อยรับไมค์มาแล้วขึ้นไปยืนบนเวที
แบคโฮดูดีมากขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อขึ้นไปยืนบนนั้น
แสงสีขาวของสปอตไลท์ส่องลงมาที่ชายหนุ่มร่างกำยำ ทำให้แขกในร้านแทบจะทุกสายตาหันมามองเขาผู้เจิศจรัสอยู่บนเวที
แม้จะมีลูกค้าสาวสวยปรบมือให้ดังคับคั่งร้านแค่ไหน แต่กลับมีเพียงบางคนที่โดดเด่นกว่าใครทั้งหมด
เป็นเพียงคนเดียวที่ดึงดูดสายตาของแบคโฮจนอยู่หมัด เพียงคนเดียวที่ได้รับรอยยิ้มจากเขา
รอยยิ้มอันอบอุ่นจริงใจไม่ใช่แสแสร้งเพราะเรื่องงาน …
ฮังนยอนยิ้มตอบพร้อมๆกับชูแก้วเครื่องดื่มในมือ
แล้วเสียงดนตรีก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมืออย่างต่อเนื่อง แบคโฮเริ่มขยับท่าทางไปตามจังหวะเพลง สปอตไลท์เปลี่ยนเป็นสีแดงหม่นโดยชับพลัน
“ตอนที่ผมเห็นคุณหัวใจมันก็สั่นไหว
วิ่งไปหาคุณจนแทบไม่มีเวลาหายใจ”
“เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณก้าวเข้ามา
ผมจะอยู่ไกล้ๆและคอยปกป้องคุณ…”
ทุกสายตาไม่อาจล่ะไปจากชายหนุ่มบนเวที ลวดลายการเต้นและเสียงร้องอันไพเราะทั้งทุ้มหวานลงตัวจนไม่มีที่ติ…
“เปิดออกสิ…เปิดสิ…เปิดออกสิ…
คุณคนเดียวที่อยู่ในใจผม
เติมเต็มผมด้วยสีสันของคุณ
…ด้วยปลายนิ้วของคุณ”
เสื้อสูทสีดำถูกสะบัดออกจากไหล่หนาเผยให้เห็นรอยสักของแบคโฮชัดเจน เขาขยับตัวพลิ้วไหวไปตามเสียงเพลงที่กำลังเร่าร้อนขึ้นเพราะและเสียงร้องและท่าเต้นอันเซ็กซี่ละลายใจของเขา สายตาคมกริบดุดันเข้ากับอารมณ์ของเสียงดนตรี หญิงสาวกรีดร้องชื่นชมเสียงดังสนั่นอยู่ข้างล่างเวที
สายตาพอใจของฮังนยอนส่งไปถึงชายหนุ่มผู้กำลังทำให้เวทีลุกเป็นไฟ เช่นเดียวกับสายตาของแบคโฮกำลังจ้องลึกมาที่เขาอยู่เช่นกัน ฮังนยอนเผลอเลียริมฝีปากของตัวเอง สายตาของทั้งคู่ยังคงผสานกันจนกระทั่งเสียงเพลงได้จบลง แบคโฮหอบเหนื่อยเหงื่อไหลซึมที่ต้นคอและใบหน้าไปไม่น้อยแต่นั่นยิ่งทำให้เขาดูเซ็กซี่มากขึ้นกว่าเดิม เขาลงจากเวทีและตรงมาหาลูกค้าคนพิเศษ
“คุณสุดยอดมากๆเลย” ฮังนยอนเอ่ยชม แบคโฮโค้งเล็กน้อยเป็นคำขอบคุณ “เหงื่อออกเต็มเลย…แบคโฮคุณไปพักก่อนก็ได้นะ ผมไม่ว่าอะไรหรอก”
“แค่นี้เอง ผมสบายมาก”
“มาเถอะน่า” ถูกฮังนยอนดึงมือออกไปจากโต๊ะ มือเล็กกำลังพาเขาเดินตรงไปยังห้องน้ำ แบคโฮไม่ขัดอะไรเขาเดินตามไปอย่างว่าง่าย อาจเป็นเพราะเวลานี้ร้านใกล้ปิดแล้วในห้องน้ำไม่เหลือใครสักคน ฮังนยอนจูงมือคนตัวสูงกว่าดันให้เข้าไปก่อน แล้วหันไปล็อคกลอนลง แบคโฮเดินตรงไปที่อ่างล้างหน้ายืนมองการกระทำของอีกคนแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์…ลูกค้าคนพิเศษเริ่มแผงฤิทธิแล้วสิ
“คุณล็อคประตู?”
ไม่ยอมตอบคำถามฮังนยอนไหวไหล่แล้วยกยิ้ม “คุณล้างหน้าล้างตัวสิครับ”
“ผมรอคนมาถอดเสื้อให้อยู่นี่ไง” ฮังนยอนแค่นหัวเราะเขาค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ มือเล็กดันอกแบคโฮจนหลังชิดขอบอ่าง ก่อนจะลูบไล้ไปทั่วหัวไหล่ของเขาแล้วเลื่อนเสื้อสูทออกจากร่างหนา
“จะผิดกฎของร้านหรือเปล่านะ ถ้าเรามาอยู่กันสองต่อสองที่นี่นานๆ” ฮังนยอนช้อนตามองคนตัวสูงกว่า ท่าทางไม่ยีระนั้นขัดกับคำถามนัก…ดูก็รู้ว่าฮังนยอนกำลังต้องการอะไรจากเขา ไม่มีคนโง่ที่ไหนจ่ายเงินมหาศาลแถมยังใช้เส้นสายสารพัดเพื่อมานั่งมองหน้าเขาอย่างเดียวหรอก…แต่ถึงอย่างนั้นมีอีกสิ่งนึงที่แบคโฮกำลังรู้สึก
ว่าเขาก็ปรารถนาจะสนองความต้องการนั้นให้เช่นกัน
“จะผิดก็ต่อเมื่อคนอื่นรู้ แต่ตอนนี้คงไม่มีใครนอกจากคุณกับผม...ใช่ไหมล่ะครับ?”
จริงอยู่เขาไม่หิ้วลูกค้าคนไหนขึ้นเตียง แต่ถ้าหากไม่มีใครเห็นและใช้เวลาไม่นานสักเท่าไหร่เพื่อจัดการสนองให้ลูกค้าที่เขาถูกใจ…ก็อาจมีบ้างในบางครั้ง
ก็แค่อย่าให้ถูกจับได้มันจะยากอะไร เขาไม่ใช่คนดีคนซื่อสัตว์ต่องานทุกเวลาอะไรขนาดนั้น แม้จะมีกฎอยู่ในทุกๆที่ของการใช้ชีวิตแต่ใช่ว่าคนเราจะยอมปฎิบัติตามมันไปเสียทุกอย่าง ทุกคนย่อมรู้ดียังไงเราก็ฝืนธรรมชาติความอยากของมนุษย์ไปไม่ได้หรอก
เคยได้ยินไหม...กฎมีไว้แหก
.
.
.
“อื้ออ…” มือเรียวขยุ่มกลุ่มผมไปตามอารมณ์ที่กำลังครุกรุ่นอยู่ภายใน
แขนแกร่งอุ้มร่างบางขึ้นนั่งบนขอบหินของอ่างล้างหน้า พลันแยกขาเรียวออก โถมตัวเองแนบชิดร่างบางจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน
ริมฝีปากหนาไม่ยอมอยู่นิ่ง ดูดคลึงไปตามซอกคอขาวจนขึ้นสี มือซนล้วงเข้าใต้เสื้อตัวบาง
ลูบไล้อย่างเบามือจนฮังนยอนครางเสียงสั่น…
“เด็กน้อย คิดจะเล่นกับเสือมันก็จะเสียวหน่อยนะครับ”
แบคโฮหัวเราะในลำคอมุมปากยกยิ้มพอใจ ก่อนจะค่อยๆเลื่อนริมฝีปากของตนขึ้นไปประกบจูบปากอิ่มที่เผยอรออยู่ด้านบน
แลกลิ้น ดูดกลืนกินความหวานกันอย่างเร้าร้อน
ราวกับบทเพลงที่เขาเพิ่งบรรเลงให้ลูกค้าคนพิเศษได้ฟังไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว…
.
.
.
“แกรก…” เสียงลูกบิดประตูขยับหยุดการกระทำของทั้งคู่ลงทันที ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกช้าๆก่อนที่จะมีบางคนเดินเข้ามา ฮังนยอนลงจากอ่างล่างหน้ามายืนอยู่ข้างแบคโฮและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ขอโทษทีครับเห็นประตูมันล็อคเลยใช้กุญแจสำรองเปิดเข้ามา
ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ในนี้” ชูกุญแจสำรองในมือให้ดูทันทีเขาไม่รอให้ใครเอ่ยอะไรขึ้นมาอีกเพราะคงไม่มีใครอยากตอบ แดเนียลหันไปพูดกับฮังนยอนด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“อ่อคุณฮังนยอน ร้านจะปิดแล้วนะครับ เชิญคุณลูกค้าเช็คบิลและกลับไปได้แล้ว” ลูกค้าคนพิเศษพยักหน้ายิ้มตอบเล็กน้อยคว้าเอาเสื้อสูทของตนที่กองอยู่บนพื้นแล้วเดินเลี่ยงแดเนียลออกไปทันทีโดยไม่ได้พูดตอบอะไร
ความเงียบเข้าปกคลุม
“แดน” แบคโฮเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เจ้าของชื่อส่งสายตาเรียบนิ่งให้เพื่อนร่วมงาน
“ทำเหี้ยอะไรก็ให้มันระวังหน่อย ถ้าเป็นคนอื่นมาเห็นมึงโดนไล่ออกไปแล้ว”
“มึงโกรธทำไม?”
“โกรธเหี้ยอะไร กูรำคาญ”
“ให้พูดอีกที” แดเนียลไม่ยอมตอบสีหน้าเขายังเรียบนิ่งเหมือนเดิมแต่ไอ้น้ำเสียงแบบนั้น แบคโฮรู้ดีว่าเพื่อนร่วมงานของเขากำลังโกรธอยู่…แต่ทำไมวะ?ทั้งที่มันก็รู้เรื่องแบบนี้แทบทุกครั้งที่เขาแอบกินกับลูกค้าในห้องน้ำนั่นแหละ
ไวกว่าความคิดแบคโฮดันไหล่กว้างอีกคนจนหลังไปชิดกับผนังใช้แขนซ้ายกันไว้ไม่ให้ไอ้เพื่อนดื้อคนนี้หนี ประกบจูบปากอิ่มแดงของคนตรงหน้า ลิ้นร้อนทำหน้าที่ของมันได้อย่างชำนาญควานหาความหวานไปทั่วโพรงปาก คนถูกรุกล้ำส่งเสียงฮึดฮัดอยู่ในลำคอ แดเนียลไม่ยอมแพ้ดันไหล่หนาออกจากตัวได้พลันผลักแบคโฮจนแผ่นหลังแกร่งกระแทกผนังอีกฝั่งอย่างจัง
เสียงหอบกระเส่าของคนทั้งสองดังแผ่วอยู่ชั่วครู่ คราวนี้แดเนียลเป็นฝ่ายโผเข้าใส่ก่อนกัดคลึงริมฝีปากหนานั่นทั้งบดขยี้กัดกินราวกับเป็นเนื้อเสือรสชาติดี มือหนาสอดเข้าใต้เสื้อซีทรูสีดำตัวบาง ลูบไล้เชื่องช้าอยู่บนหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม เลื่อนมือลงบีบคลึงบั้นท้ายอีกคนผ่านเนื้อผ้ากางเกงสเลท ทั้งที่ริมฝีปากร้อนของทั้งคู่ยังกลืนกินกันและกันอยู่ไม่ลดล่ะ
น้ำใสๆลินไหลลงมาจากปากอิ่มแดงที่กำลังบวมช้ำไม่ต่างจากอีกคน แบคโฮเป็นฝ่ายผละริมฝีปากออกมาก่อนแต่ทั้งคู่ยังโถมตัวแนบชิดกันราวกับจะเป็นเนื้อเดียว มือหนาของแบคโฮยังคงบีบขย้ำอยู่ที่ก้นของเพื่อนร่วมงาน ผลัดกันหอบหายใจเสียงกระเส่า
เลือดซึมอยู่บนริมฝีปาก...เขาโดนแก้แค้นคืนสินะ
ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง...
แบคโฮใช้แขนเสื้อเช็ดเลือดที่มุมปากของตนอย่างลวกๆ แดเนียลยังไม่ยอมพูดอะไร แต่ก็ไม่ได้ขยับตัวออกไปไหนแม้สองร่างจะแนบชิดจนแทบไม่เหลือช่องว่างให้หายใจ ค่อยๆเอียงหน้าเข้าไปใกล้ริมฝีปากบวมแดงของแดเนียลอย่างเชื่องช้า จูบซับน้ำใสๆที่มุมปากอิ่มจนหมด...
“หายโกรธได้หรือยัง?”
“นี่เหรอวิธีง้อของมึง” แดเนียลสวนกลับทันควัน
“นั่นไง มึงโกรธจริงๆด้วย”
คนถูกจับได้จิ๊ปากใส่ ยกเข่าข้างนึงดันหน้าท้องแข็งของอีกคนที่กำลังใช้เป้าตัวเองเบียดเข้ามาใกล้มากเกินไป ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำให้มันจบๆ แต่นี่ที่ทำงานเขาไม่ยอมซวยไปกับมันหรอก
“งั้นคืนนี้กูขอค้างห้องมึงแล้วกันนะ”
“…”
“แดน”
“เออ”
อ่าน
⬇
⬇
⬇
-TALK-
ปล. เราตัดสินใจจะทำเป็นเรื่องยาวแล้วเด้อ ตามแท็กนี้เลย #ฟิคแหกกฎ
ผลงานอื่นๆ ของ Thebang ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Thebang
ความคิดเห็น