ตอนที่ 9 : อ้ายโขง l บทที่ 9 เลี้ยงเชื่อง [100%]
เรื่อง: อ้ายโขง
เขียน: ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด
tag: #อ้ายโขง
บทที่ 9 : เลี้ยงเชื่อง
ปรายมองมันสลับกับมองผืนน้ำที่เต็มไปด้วยสีแดงฉาน
ถ้าเขาเองไม่เคยได้เห็นจระเข้ยักษ์กับอมนุษย์ก่อนหน้านี้ เขาอาจจะคิดว่าตัวเองคงฝันไปแล้วจริงๆ
แต่ทว่าก็ไม่ใช่เพียงแค่ตาฝาด
ปรายมองหลังมือที่คล้ายจะมีเลือดออกซิบๆกับต้นคอที่เวลานี้แทบไม่เหลือร่องรอยของบาดแผลเหวอะหวะจากการถูกกัด
ปรายค่อยๆเดินเข้าไปดูให้แน่ใจ เหมือนกับเวลาเขาสงสัยว่าผีมีจริงหรือเปล่า การเข้าไปพิสูจน์ดูให้เห็นจะๆย่อมเป็นเรื่องที่ท้าทายความเชื่องมงายไม่น้อย
แต่นี่ไม่เกี่ยวกับว่างมงายหรือไม่ ทว่าปรายก็ไตร่ตรองดูแล้วว่าเขาเองสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้
อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไป
เสียงเจื้อยแจ้วเงียบไป อย่างไม่น่าเชื่อว่าก่อนหน้านี้จะมีการปปะทะคารมกัน ชายครึ่งคนครึ่งมนุษย์หายไป เหลือไว้เพียงจระเข้ตัวกระจิดริด
ปรายใช้เท้าเขี่ยมันเบาๆ จากนั้นเมื่อไม่เห็นปฏิกิริยาใดๆเขาจึงลองจับต้นคอของมันไว้แน่นๆแล้วชูขึ้นดู
มันมองเขาตาแป๋ว
ดวงตาคู่นั้นดูไม่มีพิษมีภัยสักเท่าไรเมื่อเทียบกับเจ้าตัวโตในตอนแรก อย่างน้อยเทียบกันแล้วตัวนั้นก็อันตรายกว่าเห็นๆ
ตัวเท่าลูกแมว
ปรายล็อกคอมันแล้วเดินขึ้นมาจากน้ำอย่างทุลักทุเล เมื่อพ้นธารน้ำ เขาไม่ไว้ใจมันจึงได้ล็อกคอเอาไว้อย่างนั้นเพื่อไม่ให้มันวิ่งไปไหนเพ่นพ่านจนเขาหาไม่เจอ
ปรายลองเขย่ามันแล้วดูปฎิกริยาของเจ้าจระเข้น้อย มันทำหน้าตามึนงงอยู่สักพัก ทว่าไม่นานดวงตาก็กลับมาใสแป๋วดังเดิม
หน้าตาดูโง่ๆ ไม่เหมือนตอนตัวใหญ่สักนิด
หรือสมองของมันเล็กลงตามขนาดตัวไปด้วย
ปรายนั่งครุ่นคิดอยู่สักพัก คนกับจระเข้มองตากันไม่กระพริบ
ทันใดนั้นเองท้องของชายหนุ่มก็ร้องขึ้นมา
ปรายถึงเพิ่งตระหนักว่าตัวเองลืมหิวไปนานขนาดไหน
เขามองจิ้งเหลนที่อยู่ในมือ สลับกับท้องของตัวเอง เมื่อเงยหน้าขึ้นจึงเห็นว่ามันก็กำลังมองตามสายตาของเขาอยู่เช่นกัน
“นี่”
ปรายเรียก เขามีแผนอยู่ในหัวตั้งนานแล้ว มันขึ้นมาคร่าวๆอย่างรวดเร็ว ประการแรกเขาจะต้องหนีไป ทว่าประการที่สองข้อแม้ก็คือเขาจะต้องปลอดภัย ประการที่สามเวลานี้เขาหิวอย่างมาก
ส่วนตัวแปรเวลานี้ก็คือจระเข้ตัวนี้อาจจะเป็นอันตรายกับเขาได้ต่อให้มันตัวเล็กก็ตาม
ปรายตบหัวมันเบาๆหลังจากเขาเขย่าตัวของมัน
“ไอ้เด็กเวร คิดว่าแน่”
ปรายว่า เขาอุตส่าห์เอ็นดูมันในตอนนั้นใครจะไปคิดว่ามันจะจับเขามาทรมานทรกรรมอยู่ที่นี่
มันมองหน้าเขา แววตาดูคล้ายจะขุ่นเคือง สองตาคู่นั้นดูแวววาวเต็มไปด้วยหยดน้ำที่ค่อยๆเอ่อขึ้นมา
ถ้าต้องแร่เนื้อเถือหนัง ปรายไม่ถนัดทำเรื่องอย่างนั้นสักเท่าไร สุดท้ายเขาจึงพับเก็บการกินเนื้อจระเข้ลงไปก่อน
เขาใช้ผ้าหุ้มตัวของมันเอาไว้ มันเองก็นิ่งไม่ขยับ ร่างแข็งค้างอยู่เฉยให้ปรายจับ
เขาเดินสำรวจรอบถ้ำ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอันตรายจึงลองเดินออกไปตามทิศทางลม
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้มันกลายเป็นร่างนี้ แต่ทว่านี่คงเป็นจุดอ่อนของมันที่เขาได้พบโดยบังเอิญพอดี
หรือมันจะควบคุมการเปลี่ยนร่างไม่ได้?
จะเพราะเลือด หรือเพราะเขาต่อยมันหนักไปหน่อย อะไรก็ช่าง เวลานี้ปรายกำลังลิงโลดอย่างที่สุดเป็นเพราะเขากำลังจะเป็นอิสระในเร็วๆนี้
อย่างน้อยย่อมมีหวังกว่าตอนที่มันยังเป็นร่างคนกับจระเข้ยักษ์
แต่เมื่อเขาเดินไปจนสุดทาง กลับพบว่าทางนั้นเป็นแค่ทางตัน ถ้ำแห่งนี้ไม่มีทางออก
ปรายเดินวนเวียนอยู่นาน กระทั่งเขาเริ่มหงุดหงิดด้วยความหิว เขาจึงชูจระเข้ในมือขึ้นแล้วถาม
“ทางออกอยู่ไหน”
มีเพียงแววตาใสๆที่ตอบกลับมา ไม่มีเสียงหรือการสื่อสารอื่นใด ปรายคิดว่าบางทีมันอาจจะเป็นสัตว์ไปโดยสัญชาตญาณแล้วจริงๆ
กระทั่งมันเริ่มขัดขืน ดิ้นไปดิ้นมาบนการจับของเขา ปรายจึงล็อกคอมันแน่นขึ้น เขากดเสียงต่ำ
“หรืออยากโดนย่าง หื้อ”
ดวงตาของมันสื่อสารได้ชัดเจนที่สุด ไม่รู้เพราะอะไร เขาจึงมองไปตามสายตาของมัน มันหันไปที่ถ้ำจุดหนึ่ง ตรงนั้นมีพุ่มหญ้าปิดลงมา ปรายลองแหวกหญ้าจุดนั้นดู จึงพบว่าด้านในมีทางเข้าไปต่อ
ในนั้นแทบจะเหมือนไว้ให้คนอยู่มาก่อน หรืออาจจะเป็นที่ที่มันใช้เวลากลายร่างเป็นมนุษย์กับหญิงสาวที่มันเกี้ยวพามา
ปรายนั่งลง เขาลองวางมันบนหินที่ดูเหมือนเป็นโต๊ะ ก่อนจะดูว่ามันหนีไปไหนหรือไม่
มันไม่หนี ทั้งยังมองหน้าเขา ดวงตาคู่นั้นกระจ่างใส
“ไปหาปลามาให้หน่อย หิว”
ปรายสั่ง เขาดูปฎิกิริยาของมัน ก่อนจะเห็นว่ามันค่อยๆเดินลงแต่ทำท่าจะเดินตกจากหินก้อนใหญ่ เมื่อเทียบกับขนาดตัวของมันในเวลานี้ เดาว่าระยะห่างดูจะสูงเกินไป ถ้ามันร่วงตกลงไปคงได้ไส้แตกซะก่อนที่เขาจะได้กินปลา
ปรายคว้าคอของมันไว้ทัน ก่อนจะพามันเดินออกไปที่ด้านนอก ตรงจุดธารน้ำที่เขากับมันมีเรื่องกันก่อนหน้านี้
เวลานี้น้ำด้านนอกใสสะอาด ราวกับไม่เคยมีกลิ่นคาวเลือดใดๆมาก่อน
ปรายรู้สึกว่าเรื่องนี้อัศจรรย์เกินไป แต่การที่ได้เห็นจระเข้เปลี่ยนเป็นคน เรื่องที่น้ำจะใสไม่ใสนั้นก็คงเกิดขึ้นได้อยู่แล้วสำหรับที่แห่งนี้
เขาค่อยๆปล่อยมันลงน้ำ มันหันมามองหน้าเขา มีเพียงดวงตากับช่วงหัวที่พ้นเหนือน้ำ
หน้าตาของมันดูโง่ๆอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ เหมือนฝากหมาไปซื้อเหล้าหน้าปากซอย หวังว่ามันจะฉลาดเหมือนกับกี้กี้ของเขา
“จับปลามา”
ราวกับมันรับฟัง ก่อนจะมุดหายไปใต้ธารน้ำ ปรายลองดูว่ามันจะว่ายไปทางไหน เขาจึงค่อยๆลอบมองเพื่อจำทาง ทว่าจุดที่มันไปกลับลึกมาก ปรายจึงไม่คิดจะตามมันเข้าไปเพราะกลัวอันตราย
อีกทั้งเขาอาจจะเป็นตะคริว หรือหมดแรงซะก่อนก็ได้
ปรายกลับไปในถ้ำที่มีเครื่องนอน สักพักเขาก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย มีเรื่องมากมายที่ดูดพลังของเขาไปเกือบหมด ที่ยังยืนอยู่ได้ก่อนหน้านี้คงเป็นเพราะการอยากมีชีวิตรอดเท่านั้น
กระทั่งรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นบางอย่างหยดลงบนใบหน้า ทำให้เขาสะดุ้งตื่นขึ้น
ไอ้เปี๊ยกที่เขาสั่งไปก่อนหน้านี้กลับมา เขาเห็นปลาวางอยู่บนหินหลายตัว ส่วนมันอยู่บนตัวของเขา เท้าของมันเปียกน้ำเล็กน้อย ดวงตากำลังจ้องมองเขาอยู่ ใบหน้าระหว่างเขากับมันไม่ห่างกันมากนัก
ในทีแรกปรายเกือบปัดมันออกไปด้วยความตกใจ ทว่าเขากลับชะงักอย่างที่ไม่ได้ตอบสนองนอกจากนิ่งค้าง กระทั่งสุดท้ายจึงลองยื่นมืออกไปตบบนหัวของมันเบาๆ
ดวงตาของมันปรือขึ้น คล้ายกับรอเวลานี้ กระทั่งปรายลองบางอย่างอย่างอดใจไม่อยู่
เขาเกาคางของมันเบาๆ มันหลับตาเล็กน้อย ใบหน้าเชิดขึ้นเข้าหาสัมผัสของปราย
ดูเหมือน 'มัน' จะชอบใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ปรายกำลังคิดว่านี่เป็นการเสแสร้งหรือไม่
เขายังไม่เชื่ออย่างสนิทใจ
เมื่อเห็นอีกฝ่ายดูจะทิ้งสามัญสำนึกอื่นๆไปโดยปริยาย ปรายจึงลองหยั่งเชิงเจ้าจระเข้ตัวนี้ไปเรื่อยๆ
“ชอบให้เกาคางเหรอ” ปรายถาม เขาอุ้มมันขึ้นจากตัวเองก่อนจะเดินไปดูปลาที่มันนำมาให้
เขายังคงไม่ไว้ใจจึงจับที่คอของมันเพื่อไม่ให้มันหันมาแว้งกัดได้ ปรายวางมันลงบนโต๊ะหิน เขามองดูปลาที่มันจับมา สภาพมีรอยกัดเล็กๆแต่ไม่ได้เสียเนื้อปลาไปเท่าไร สุดท้ายเมื่อมองไปที่มันอีกครั้งเขาก็ทำเป็นว่ามันอาจจะไว้ใจได้ในระดับหนึ่งเพื่อไม่ให้มันสงสัยเขาเช่นกัน
ถ้ามันยังคงไม่กลับร่างเร็วๆนี้ย่อมดีกว่า
ปรายไม่แน่ใจว่าสิ่งไหนจะไปกระตุ้นการกลับร่างเดิมของมัน หรือจริงๆแล้วเขายังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าร่างไหนกันแน่ที่เป็นร่างที่แท้จริงของมัน
ยังไงซะเขาชอบให้มันตัวเท่านี้จะดีกว่า
ปรายเดินไปหยิบคบไฟด้านนอกมาจุดเพื่อย่างปลา ทุกอย่างทำไปอย่างไม่สะดวกนัก เอาแค่ให้เขาอิ่มก็พอ หลังจากนั้นน่าจะคิดอะไรออกได้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
ระหว่างที่เขากำลังจะกิน มันก็กำลังนอนจ้องขายหนุ่มอยู่
สายตาเช่นนั้นออกจะโจ่งแจ้ง ปรายรับรู้ได้ทันทีที่ว่ามีตัวอะไรสักอย่างกำลังให้ความสนใจแก่เขาอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้เขาว่ามันก็ได้กินไปไม่น้อยแล้ว แทบเอาเขาหมดตัวทีเดียว มันยังจะตะกละ
“จะกินด้วยเหรอ ยังไม่อิ่มหรือไง”
ปรายถาม เขาแกะเนื้อปลาเป็นชิ้นเล็กๆให้มันอย่างไม่ใส่ใจ
ถ้าอยากกินก็กิน ปรายแบ่งให้มันไปเล็กน้อยเพราะเขารู้สึกว่าไม่ควรปล่อยให้มันหิวจนมาระรานเขาในด้านอื่น
ไม่ว่าคนหรือสัตว์เวลาหิวมักจะขาดสติทั้งนั้น
จริงๆแล้วเขาควรฆ่ามันเพื่อไม่ให้มันกลับมาทำร้ายเขาได้อีก
ทว่าพูดถึงเรื่องการฆ่าชีวิตสักชีวิต พอมาถึงสถานการณ์จริงกลับไม่ง่ายดายอย่างนั้นหากไม่ไม่ใช้ความขาดสติหรือยามคับขันเข้าช่วยเพื่อจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ทว่าเวลานี้มันกลับกลายเป็นแค่ลูกจระเข้โง่ๆเท่านั้น
ก็ฆ่าเลยถ้าตัวแค่นี้
ปรายมองมันที่กำลังจ้องตัวเองหลังจากกินเศษเนื้อปลาเสร็จ มันเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆด้วยขาสั้นๆของมัน เมื่อเห็นว่าเขากำลังมองตอบ มันก็ใช้หัวของมันไถเข้ากับมือของเขา
ปรายเลิกคิ้ว เขามองท่าทีของมันด้วยความรู้สึกบางอย่าง ถ้าไม่ใช่เขายังจำได้ว่าตอนที่มันตัวใหญ่มันทำอะไรกับเขาไว้บ้าง เขาคงยีหัวเจ้าเปี๊ยกนี่ไปหลายๆทีแล้ว
แต่เป็นเพราะยังจำได้ ไอ้อาการออเซาะที่เห็นอยู่ปรายจึงกัดฟันอดทน ไม่ให้พ่ายแพ้กับความตอหลดตอแหลของมัน
ตอแหล ดูยังไงก็กำลังตอแหล
เหมือนเจ้ากี้กี้ หมาที่บ้านของเขา
ไม่ใช่ว่าสัตว์จะโกหกหรือแสดงละครไม่เป็น เขาเลี้ยงหมามา พอจะได้เห็นการแสดงละครของพวกมันอยู่บ้าง ต่อหน้าก็เป็นอีกอย่าง พอลับหลังเราก็เป็นอีกอย่าง เจ้าพวกนี้มันร้ายเกินกว่าที่มนุษย์อย่างเราจะรู้
แต่ถึงอย่างนั้นปรายก็ยังแอบตบหัวมันเบาๆ
เห็นหน้ามันเคลิ้มๆ คอเชิดขึ้นในขณะที่ดวงตายังคงปรือขึ้น ปรายเห็นดังนั้นก็รู้สึกว่ามันดูจะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเกินไปจนหน้าเกินตาจนหมั่นไส้ ทีตอนเขามันกลับระรานอย่างหน้าไม่อาย
ปรายกินอิ่มแล้ว เขาเดินไปล้างมือพร้อมกับล้างตัว หลังจากนั้นจึงมองไปรอบๆเพื่อสำรวจ เป็นไปได้ว่าทางออกอาจจะอยู่ใต้น้ำที่เจ้าจระเข้ตัวนั้นมันดำลงไปหาปลามาให้เขา
ปรายสะบัดมือก่อนจะยืดตัว เขาเดินอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจลงไปในธารน้ำอีกครั้งเพื่อมองหาทางออก
ในนี้มีทางจริงๆ ทว่าเหมือนเป็นถ้ำน้ำที่มีอุโมงค์ให้ไปต่อ แต่กลับมีหลากหลายทาง
ปรายไม่กล้าไปต่อ เขารู้ตัวดีว่าตนเองไม่อาจจะกลั้นหายใจจนว่ายเพื่อเข้าไปมากกว่านี้แน่ๆ
ถึงในนั้นจะดูมีทางไป แต่ปรายไม่รู้ว่ามันลึกขนาดไหน
เขารีบกลับขึ้นมาเมื่ออากาศหายใจกำลังจะหมดลง เขานอนฟุบอยู่ข้างธารน้ำ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นชันคางอย่างครุ่นคิด
ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นก็เจอกับเจ้าจระเข้ตัวน้อยที่กำลังยืนจ้องอยู่ใกล้ๆ
ปรายสะดุ้ง เขามัวแต่อยู่กับตัวเองและหาทางขบคิดมากเกินไปจนลืมไปว่ามีมันอยู่ด้วยอีกตัวหนึ่ง
“คุณนี่ว่ายน้ำเก่งจริงๆ” ปรายเอ่ย เขายังคงอยู่ในน้ำเพราะรู้สึกคุ้นชินกับอุณหภูมิด้านล่างจึงยังไม่อยากขึ้นไป
“ถามอะไรหน่อย” ปรายว่า เขาเท้าคาง มองจระเข้ตัวเล็กที่ขณะนี้ดูไร้พิษภัย “ทางออกอยู่ไหน”
เขาทำเป็นลืมไปว่ามันเป็นคนที่ขย้ำคอของเขา ทั้งยังเตะต่อยกันมายกใหญ่ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ไอ้เปี๊ยกนี่เป็นแค่ลูกตะเข้ตัวนิดเดียวที่ดูยังไงก็ไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงสักเท่าไร
เขาลอบสังเกต ดูแววตาของมันที่คล้ายกับจะไม่เข้าใจในคำถามของเขาแม้แต่น้อย ดูเหมือนมันเลือกคำถามที่จะเข้าใจซะด้วย
“แล้วอย่างนี้เวลาผมหิว ผมก็ต้องรอคุณอย่างเดียวเหรอ” ปรายบอก เขารู้ว่ามันตอนที่เป็นมนุษย์ มีมนต์ขลังบางอย่างที่ไม่อาจมองข้ามได้ ขนาดแค่เรื่องที่เขาไม่ควรเกิดอารมณ์สุ่มสี่สุ่มห้า เขายังห้ามตัวเองไม่ได้
อะไรที่ดูไม่เข้าท่า มันก็ดันเกิดขึ้นมา
แต่ตอนนี้มันถอดเขี้ยวเล็บอยู่ ฉะนั้นปรายจะยอมคุยกับเจ้าจระเข้ตัวนี้ดีๆสักรอบ
มันอ้าปาก สะพักก็หุบปาก จากนั้นก็เดินเข้ามาต้อยๆมองหน้าของปรายอย่างใกล้ชิด
“ถ้าจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้” ปรายดันคางของมันออก ผิวหนังของจระเข้ให้ความรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยสักเท่าไร อาจจะเพราะรูปลักษณ์ของมัน
ชายหนุ่มมองมันอย่างเฉยชา เขาเอนหลังพิงกับขอบดิน ร่างกายท่อนล่างแช่น้ำจนคุ้นชิน คล้ายกับว่ากำลังพักผ่อนในสถานการณ์เช่นนี้
เมื่อปรายไม่สนใจ สายตายังทอดมองวิวทิวทัศน์เท่าที่มีอยู่ ภายในใจไม่อาจทราบว่ากำลังครุ่นคิดสิ่งใด
เจ้าจระเข้น้อยเมื่อเห็นเพียงแผ่นหลังของชายหนุ่ม มันจึงเดินมาข้างๆ ก่อนจะงับปากลงที่แขนเสื้อของชายหนุ่ม แรงงับนั้นไม่รุนแรง แทบไม่รู้สึกอะไร นอกจากจะรู้สึกว่ามีฟันแข็งๆนิดหน่อยแตะกับผิวเนื้อของเขา
ปรายไม่ได้สนใจ กระทั่งมันเดินไปทางขวาของเขา จากนั้นก็ใช้ปากงับที่แขนเสื้ออีกข้าง ก่อนจะปล่อย
“ว่าไง”
หางตาของชายหนุ่มมองไปเล็กน้อย เขาเห็นมันกำลังพยายามทำอะไรสักอย่าง เหมือนตอนที่หมาของเขามักจะทำเวลาที่เขากำลังเล่นเกมหรือไม่ก็ทำงานอยู่หน้าจอคอม
มันมองตอบ รออยู่นานเพื่อที่จะให้ปรายมองตนเอง แววตาเช่นนั้นทำให้ปรายสงสัยว่ามันกำลังต้องการอะไร เขาลองเดาสุ่ม แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เขาจึงอุ้มมันขึ้นมาก่อนจะค่อยๆปล่อยมันลงในน้ำ ตรงตักที่เขากำลังแช่อยู่
สิ่งนี้เป็นการทดสอบ เขาแค่กำลังทดสอบว่ามันกำลังหลอกลวงหรือไม่ก็เท่านั้น
ทนได้ก็ทนไป ดูสิว่าจะทนได้สักเท่าไร
ปรายลูบลำคอของมัน เขารู้ว่ายิ่งลูบผ่านตรงนี้มันจะยิ่งเงยหน้าขึ้นมองเขาเท่านั้น
“ไม่เบานี่”
ปรายว่า ก่อนจะจุปากเหมือนตอนเล่นกับหมาที่บ้าน เสแสร้งหรือไม่ ไม่รู้ เขาเกาคางของมัน พักยกเรื่องที่เคยต่อยตีกับมันไปก่อน ด้วยความที่มันตัวเล็กไปหน่อย ทั้งยังหน้าตาซื่อบื้อจนน่าบี้เล่นอยู่เหมือนกัน
มันลอยอยู่เหนือร่างของเขา ดวงตาปรือขึ้นเล็กน้อยจนดูเหมือนจะหลับไป
ขณะที่ใต้ผิวน้ำสี่ขาสั้นๆกำลังพยายามกวัดแกว่งไปมาเพื่อลอยตัว
TBC
1 คอมเม้นต์เท่ากับ 1 กำลังใจ
tag:#อ้ายโขง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ว้าว ดีใจมาแย้ววววววววววว แต่ แล่เนื้อ นะ