ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 2 สุราก่อกำเนิดเจ้าหนี้ 80%
ตอนที่ 2 สุราก่อกำเนิดเจ้าหนี้ 80%
คุณพัส เปียโน
ตอนนี้เวลา 00:00น.
เปียโน:
ฉันถึงหอแล้วละก่อนที่จะเดินเข้าหอจินนี่เอ๋ยปากถามฉันเมื่อเห็นพฤติกรรมการเดินของฉันที่ไปเปลี่ยนไปราวกับลูกแมวพึ่งหัดเดิน
"ไหวไหมเปียโน ให้ไปส่งไหม"ฉันหันหน้าไปตอบจินนี่พร้อมฉีกยิ้มตาหวานใส่ยัยจินนี่
"ไหว..ไม่เป็นไร โอเค นะ"ฉันพร้อมกับสบัดข้อมือแสดงให้จินนี่กลับได้แล้ว ฉันพูดจบจินนี่มองหน้าฉัน พร้อมฉีกยิ้มขำอยู่ในลำคอกับการพูดและพฤติกรรมของฉัน จินนี่ตอบกลับมาว่า
"ตอนไปกับตอนกลับนี่คนละคนเลยนะเปียโน"จินนี่พูดจบฉันฉีกยิ้มที่มุมปากแล้วพูดออกไปว่า
"เออ กลับได้แล้วโชคดี พรุ่งนี้เจอกันที่ทำงาน"จินนี่ยกมือบอกลาแล้วขับรถเก๋งขันโปรดออกไป
ตอนนี้บอกได้คำเดียวว่ามึน พอถึงห้องได้ฉันถึงกับโยนตัวลงบนที่นอนทันที ตอนนี้ห้องมันหมุนเหมือนม้าหมุนจนเวียนหัวจะอวกแล้วเนี่ย ฉันลุกนั่งลงบนที่นอนหาโทรศัพท์จะดูเวลาว่ากี่โมงกี่ยามแล้ว แต่หายังไงก็หาไม่เจอกะว่าจะไปอาบน้ำคงไม่ได้อาบแล้วละ
พอนึกไปนึกมาที่ไหนได้ฉันลืมไว้ที่ร้านนาวาสะงั้นต้องรีบขับรถออกไปเอา แย่จังทำไมต้องลืมด้วยนะฉันตั้งสติพักหนึ่งแล้วขับรถออกไปเลย พอไปถึงร้านเขาเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว ยังมีคนอยู่ร้านเกือบไม่ทันแล้ว ฉันเดินตรงไปหาน้องเขาทันที
"น้องคะ พอดีพี่ลืมโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะนี้ได้เก็บไว้ให้หรือป่าวคะ"น้องเขาเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วเดินตรงมายื่นตรงหน้าฉันพร้อมกับ
"ใช้เครื่องนี้หรือป่าวครับ"น้องเขาพร้อมกับส่งโทรศัพท์ให้ ริมฝีปากฉีกยิ้มเมื่อเห็นโทรศัพท์พร้อมกับพูดออกไปว่า
"ใช่คะนึกว่าจะไม่ได้คืนแล้ว ขอบคุณนะคะ"
"ไม่เป็นไรครับผม"ฉันส่งยิ้มหวานให้น้องเขาก่อนเดินออกไป ขับรถตรงไปห้องนอนทันที ตอนนี้เวลานี้มันดึกมาก มากจนน่ากลัวบนท้องถนนไม่มีแม้แต่เสียงรถวิ่งเลยสักคันนอกจากรถของฉันกับแสงไฟสีส้มจ้างๆบนท้องถนนอันประปรายที่มาพร้อมกับบรรยากาศที่เยือกเย็นกับสายลมที่พัดกระทบใบหน้าอันแดงก่ำของฉันในขณะที่ขับรถกลับห้อง
ฉันขับรถอย่างใจเย็นเมื่อใกล้ถึงห้องเต็มที ก่อนจะถึงห้อง จะมีซอยเล็กๆอยู่ในขณะที่ขับรถไปดีๆอยู่นั้นฉันว่าฉันระวังแล้วนะ รถเก๋งสีขาวโพล่ออกมาอย่างประชันชิดด้วยความตกใจฉันหักรถหลบคิดว่าพ้นแล้วแต่ที่ไหนได้ เข้าเต็มๆตอนนี้เวลานี้หัวใจฉันเต้นรัวราวกับรางตัวเองตกลงไปในเหวลึกมือไม้สั่นด้วยความตกใจ โชคดีที่ฉันไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทำไมถึงได้ซวยอย่างนี้เขาจะเรียกค่าเสียหายเท่าไรเนี่ยยิ่งไม่ค่อยมีกะตังอยู่
ฉันยืนมองคนในรถเพื่อจะพูดคำขอโทษ ที่ฉันขับรถชนเขา เขาเปิดประตูรถลงมาด้วยชุดสูทสีดำท่าทางจะรวยน่าดู เป็นผู้ชายสะด้วยหวังว่าเขาคงจะใจดีไม่เอาเรื่องฉันนะต้องใชมารยาหญิงที่มี เขาเดินตรงมายืนอยู่เบื่องหน้าฉัน เขาหันหน้าไปมองรถเก๋งคันหรูของเขาแล้วหันหน้ากลับมาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจเอามากๆ ฉันเลยพูดออกไปว่า
"ฉันขอโท.."ฉันไม่ทันได้พูดจบประโยคเลยเขาพูดสวนกับมาด้วยอารมณ์ที่โกรธมากเหมือนกับโดนใครหยีบเท้าอย่างงันแหละ ไม่สิยิ่งกว่านั้นสะอีก
"นี่คุณนี่ยังไงไม่มีตาหรือไงรถคันยังใหญ่ขับชนเข้ามาได้ ไม่ดูตาม้าตาเรือเอาสะเลย รู้ไหมว่ารถคันนี้มันราคาเท่าไร แล้วรู้ไหมว่าผมไม่เคยให้รถมีรอยขีดข่วนเลย คุณเป็นใครมาจากไหนกล้าดียังไงมาทำรถผมบุบขนาดนี้"ฉันยืนอ้าปากค้างเลยทีเดียว ฉันอยากจะถามเขาว่าคุณหายใจทันไหมพูดเร็วมาก ที่เขาพูดมาฉันหมดคำพูดเลย มารยาหญิงของฉันหายไปไหนหมดทำไมมันนิ่งแบบนี้ละ ได้แต่
"ฉันขอโทษค่ะ"ฉันพร้อมกับชำเรียงมองไปที่รอยชนว่ามันอาการหนักมากไหม บอกได้คำเดียวว่า บุบคะ จะทำไงดีตายแน่ๆเหมือนเขาจะเอาเรื่องสะด้วย ไม่เหมือนหรอกแต่จะเอาเรื่องจริงๆ ชายหนุ่มพูดต่อเลยว่า
"พูดได้คำเดียวว่าขอโทษงันเหรอ ไม่คิดจะรับผิดชอบเลยใช่ไม"ฉันตอบกลับไปแบบอ้ำอึ้ง
"เอ่อ รับผิดชอบเหรอคะแต่ว่า..."เขาพูดสวนขึ้นมาทั้งที่ฉันยังพูดไม่จบเป็นผู้ชายที่ไม่มีมารยาทในการพูดเอาสะเลยชอบแทรกระหว่างคนอื่นยังพูดไม่จบ
"ผมจะเรียกค่าเสียหายจากคุณ สามหมื่น"ฉันก้มหน้ายอมรับความผิดอยู่ ถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขากับประโยคท้าย
"สา...สามหมื่นเลยเหรอ"ฉันอึ้งอ้าปากค้างกับจำนวนเงินที่ได้ยินเมื่อสักครู่ เขาพูดต่ออีกว่า
"ใช่ สามหมื่นนี่ยังน้อยไปจะเรียกสักแสนด้วยซ้ำ เห็นสภาพคุณแล้วคงไม่มีปัญญาจ่ายหรอก"จากที่เมามึนอยู่ถึงกับหายเป็นปิดทิ้งตาสว่างทันที มารยงมารยาไม่ต้องใช่มันแล้ว ฉันรีบสวนกลับทันที
"ใช่ ฉันยอมรับว่าไม่ได้รำรวยเหมือนคุณ แต่นี้มันมากเกินไปนะคุณ แสนหนึ่งแค่สามหมื่นนี้ก็มากเกินพอละ นี้คิดจะขูดเลือดขูดเนื้อกินกันเลยใช่ไหม แล้วอีกอย่างคุณก็เป็นฝ่ายผิดด้วยเหมือนกัน ฉันเป็นทางตรงคุณควรที่จะให้ฉันไปก่อนไม่ใช่ออกมาแบบนี้ คุณควรที่จะจ่ายค่าเสียฉันด้วยเหมือนกัน คุณก็ผิดเหมือนกันนิ"ฉันขึ้นเสียงเพราะความโมโหจนควันออกหู เขายังนิ่งเชยไม่รู้สึกผิดแต่อย่างใด แต่กับกวาดสายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดออกมาว่า
"คุณก็ไม่ได้เป็นอะไรนิ จะเรียกทนายก็ได้นะผมไม่ห้ามหรอก"เขากล้าพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง ทนายเหรอ แค่สามหมื่นฉันยังไม่มีปัญญาจ่ายเลย แล้วจะเอาเงินไหนไปจ้างทนาย หน้าตาก็ดีฐานะก็รำรวยทำไมขี้งกจังว่ะ ฉันตัดสินใจพูดออกไปว่า
ขอบคุณค่ะ ที่เข้ามาอ่าน กดติดตามกดไลค์กดแชร์
ประพันธ์โดย
G P Y
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น