คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : SIX :: 100 เต็ม
ทงเฮกับชินเร !!!
ผมไม่เข้าใจซีวอนเลยจริงๆ หรือ ว่าเขาจะเริ่มสงสัยเรื่องที่ผมปิดบังเขาไว้
ช่วงนี้ซีวอนโทรมาหาผมบ่อยๆ เหมือนคอยเช็คว่าผมทำอะไรอยู่อยู่กับใคร ไปที่ไหน ??
ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกอยากจะเป็นบ้า มันไม่ใช่แค่กังวลว่าซีวอนจะรู้ความจริง
แต่มันเหมือนรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผม ผมรู้สึกรำคาญทุกครั้งที่ผมเห็นว่าเป็นเบอร์ซีวอน
แต่ผมก็ไม่อยากจะทำให้ซีวอนรู้สึกไม่ดีเพราะ ความผิดที่ผมทำต่อเขามันเยอะเกินไป
ถึงแม้ผมจะกังวลและสงสัยว่าซีวอนอาจจะรู้ความจริง แต่ผมก็ตอบรับนัดไป
อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด บางทีถ้าซีวอนรู้ความจริงเร็วเท่าไหร่ ผมก็อาจจะมีความสุขเร็วขึ้นเท่านั้น
ซีวอนมารับผมมที่บ้านแต่เช้า แต่ในขณะที่กำลังคุยกับซีวอนเรื่องนั้นเรื่องนี้
เสียงมือถือของผมก็ดังขึ้น มันเป็นเพลง Secret Garden ของ A-Pink ที่มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่เป็นเสียงนี้
อีทงเฮ นายนึกบ้าอะไรถึงโทรมาตอนนี้ทั้งที่นายควรจะรู้ว่าตอนนี้ฉันอยู่กับซีวอนแล้ว
ส่วนนายก็ควรอยู่กับแฟนนายไม่ใช่รีไง ???
ถ้าผมไม่รับมันจะยิ่งดูน่าสงสัย ผมจึงกดรับ แล้วคุยเหมือนปกติที่สุด
“นายอยู่กับซีวอนแล้วใช่ไหม”
“ใช่ ฉันอยู่กับซีวอน” ผมคิดว่าการที่ผมเอ่ยชื่อซีวอนไปมันน่าจะทำให้ซีวอนไม่น่าสงสัยมากนัก
“แหม มันไปรับนายแต่เช้าเลยนะ ฉันก็อยู่หน้าบ้านคนของฉันแล้วเหมือนกัน”
“เหรอ แล้วงั้นนายจะโทรหาฉันทำไม” ผมไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไร แต่คำว่า คนของฉัน ทำเอาอารมณ์ผมหงุดหงิด
“นายหึงรึไง นายไม่คิดจะทำเสียงให้มันดีหน่อยล่ะ เดี๋ยวไอ้ซีวอนสุดที่รักที่นั่งข้างนายก็สงสัยหรอก”
“ฉันคงไม่มีสิทธิ์นั้นหรอกมั้ง แค่นี้นะ ฉันกลัวซีวอนเขาเหงา”
“ฉันดีใจนะที่นายไม่ได้พูดว่า ไม่หึง เพราะ การที่นายไม่พูดแบบนั้นก็เท่ากับว่านายยอมรับ”
หลังจากที่ผมได้ยินประโยคนั้น หน้าผมมันก็ร้อนจนแทบอยากจะกดว่างสายไอ้คนน่าหมั่นไส้ที่อยู่ในสายจริงๆ
“แค่นี้นะ”
“แล้วเจอกัน คิสสึ”
“ใครโทรมาเหรอ ฮยอกแจ” ซีวอนถามทันทีที่ผมว่างสาย
“ซองมินนะ มันโทรมาล้อเราเพราะรู้ว่าเรามาเดทกับซีวอน”
“อ้ออออ คนที่เราเห็นอยู่กับฮยอกแจบ่อยๆใช่ไหม ว่างๆ แนะนำเขาให้เรารู้จักบ้างสิ”
“ได้เลย” ทั้งที่เราคบกันมาจะครึ่งปีแล้วแต่ซีวอนยังไม่รู้จักเพื่อนกลุ่มผมสักคน ผมไม่กล้าพอที่จะแนะนำเขาอย่างเป็นทางการ
ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมไม่ได้ปิดที่ว่าคบกับซีวอน แต่ก็ไม่เคยที่จะกล้าประกาศหรือควงซีวอนแบบออกหน้าออกตา
ถึงแม้ซีวอนจะชอบจับมือแสดงความเป็นเจ้าของผมอยู่บ่อยครั้งและแสดงออกให้ใครเห็นว่าเราเป็นอะไรกันก็ตาม
“ช่วงนี้เราดูห่างๆกันนะฮยอกแจ ฉันขอโทษที่ไม่ค่อยมีเวลาให้เท่าไหร่”
“ไม่เป็นไรหรอก เรารู้ว่าซีวอนยุ่ง ไหนจะโปรเจค ไหนจะรายงาน นู้นนี่ไปหมด เราเข้าใจนะ” ไม่ใช่แค่ซีวอนหรอกที่ไม่มีเวลาให้
ตัวผมเองก็ไม่มีเวลาให้เขาเหมือนกันเพราะมัวแต่ไปใช้เวลาอยู่กับใครบางคน ใครบางคนที่ก็เรียนคณะเดียวกับซีวอน
เอกก็เอกเดียวกัน แต่ไหงมีเวลามาหาผมบ่อยครั้ง ทั้งที่ตัวเองก็ต้องคอยดูแลแฟนตัวเองไปด้วย
แล้วยังแบ่งเวลามาหาผมบ่อยๆได้คิดดูแล้วเขาก็ช่างสุดยอดจริงๆ
ผมไม่เคยถามทงเฮว่าทำไมเขาถึงไม่เอาเวลาไปอยู่กับแฟนตัวเองอันที่จริงผมแทบจะไม่เคยพูดถึงชินเรเลยสักครั้ง
ผมอยากให้เวลาของผมกับทงเฮเป็นเวลาของเรา คือ แค่ของเราจริงๆ ไม่อยากจะคิดถึงคนอื่น แม้คนนั้นจะเป็นเจ้าของทงเฮก็ตาม
----------------------------------------
***
“ฮยอกแจยังจำได้ไหม วันแรกที่เราเจอกัน เราคิดกี่ครั้งก็ประทับใจไม่เปลี่ยน ทำไมวันนั้นฮยอกแจถึงได้เข้าไปช่วยเราละ ทั้งที่ฮยอกแจอาจจะเป็นอันตรายได้”
“แล้วทำไมเราถึงจะไม่ช่วยล่ะ วันนั้นนายโดนซ้อมนะ แล้วอีกอย่างจริงๆเราก็ไม่ได้ทำอะไรเลย คนที่ช่วยจริงๆน่าจะเป็นตำรวจมากกว่า”
“อย่างน้อยฮยอกแจก็ไปตามตำรวจมาช่วยเราไง ทั้งที่มีคนอยู่ตั้งเยอะ แต่ทุกคนกลับดูเฉยๆ มีแต่ฮยอกแจที่ไปเรียกตำรวจมาให้ มีแต่ฮยอกแจที่ช่วยเราทำแผล”
“เอ่อ เราขอเปลี่ยนไปฟังวิทยุนะ” ผมไม่อยากพูดถึงเหตุการณ์ในวันนั้นสักเท่าไหร่ เพราะจริงๆแล้วที่ผมเข้าไปช่วยซีวอนเพราะมันมีเหตุผลอื่น มันไม่ใช่เหตุผลที่ผมบอกซีวอนไป ผมไม่สามารถบอกความจริงเขาได้จริงๆว่าทำไมผมถึงเข้าไปช่วยเขาวันนั้น
ในขณะที่ผมกำลังเปลี่ยนจากฟังเพลงในซีดี มาเป็นฟังวิทยุ มือถือของผมก็สั่น ผมจึงเปิดมือถือขึ้นมาเพื่อเช็คว่าใครส่งอะไรมาปรากฏว่าเป็น ผู้ชายคนเดิมที่โทรเข้ามากวนเวลาของผมกับซีวอน เขาไลน์มาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แต่มันก็สมกับคนแบบเขานะ
“ไปกก กันถึงไหน ถึงได้ยังไม่มา”
“ไม่จำเป็นต้องบอกนายหรอกมั้ง”
“แน่ใจนะว่าไม่ต้องบอก”
“ทำไมต้องบอก นายเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบ”
“กล้ากวนฉันนะ แต่เห็นพอเจอกันจริงๆ ไม่เห็นกล้าแบบนั้กที แล้วถ้าจะให้ฉันบอกว่าเกี่ยวอะไร
มันก็เกี่ยวหลายอย่างเลยล่ะ เกี่ยวทั้งตัว เกี่ยวทั้ง......”
“ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับนายทั้งนั้นแหละ ไลน์มาแบบนี้แฟนนายไม่ได้นั่งอยู่ด้วยเหรอไง”
“เขาไปเข้าห้องน้ำ สรุปถึงไหนแล้วถ้าไม่อยากให้ฉันโมโหก็บอกมา”
“ใกล้แล้ว อย่าลืมลบข้อความล่ะเดี๋ยวมีคนมาแอบเช็ค”
ผมไม่เคยเก็บไลน์หรือข้อความจากทงเฮเอาไว้ ผมกลัวว่าสักวันจะมีใครมาเปิดเจอเข้า ผมจะลบทุกครั้ง
แต่ต่างจากทงเฮที่เขาไม่เคยลบเลย ผมเคยถามเขาว่าไม่กลัวแฟนเช็คเหรอ
เขาบอกว่าชินเรไม่เคยเช็ค ผมไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่ ผู้หญิงมีเหรอจะไม่เช็ค ทุกครั้งผมเลยต้องแอบเอาโทรศัพท์ของทงเฮมาลบเอง ตอนแรกทงเฮเขาก็โกรธที่ผมทำแบบนั้นแต่ผมก็ไม่ยอมยังคงลบต่อไป จนสุดท้ายช่วงหลังทงเฮเขาก็เลยบอกว่า ถ้านายคิดว่าลบได้ทุกครั้งก็ลองงดู ถึงทงเฮจะพูดแบบนั้นแต่เขาก็มักจะซ่อนมือถือตัวเอง หรือ ถือติดตัวเสมอ ยากที่ผมจะแอบเอามาลบได้ทุกครั้งที่เราเจอกันผมเลยพยายามอย่างยิ่งที่จะลบถ้ามีโอกาส ผมก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ใครอย่ามาเปิดเจอ ขอให้ผมได้ลบก่อนที่จะมีคนมาเปิดอ่าน
มันเหมือนเกมส์ซ่อนหา ที่น่าสนุกและอันตราย
ความคิดเห็น