คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Fifth : Hurt 100%
เสียงมือถือที่ผมจำได้ว่าไม่ใช่เสียงจากเครื่องของผมมันดังจนปลุกผมลืมตา ทั้งที่ใจยังไม่พร้อมและร่างกายก็ไม่อำนวยให้ตื่นเลย มันปวดเมื่อยล้าตัวไปหมด ผมเพลียมากจริงๆ คนที่นอนกอดผมอยู่ข้างๆ ก็ดูเหมือนจะไม่อยากตื่นเช่นกัน แต่มันเป็นเสียงมือถือของเขา
“พี่มาร์คตื่นฮะ โทรศัพท์พี่ดัง”ผมพยายามปลุกคนที่อยู่ข้างๆ แต่มันก็เหมือนจะไม่ช่วยอะไร ผมเลยหยิกไปที่แก้มของเขาให้รู้จักเจ็บซะบ้าง ผมง่วงจะตายอยู่แล้วถ้าพี่ไม่รับเสียงโทรศัพท์มันก็จะดังอยู่แบบนี้แล้วผมจะนอนต่อได้ไง เสียงมือถือก็ยังดังไม่หยุด คือประมาณว่าถ้าไม่รับก็จะโทรซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ผมเลยตัดสินใจหยิบโทรศัพท์พี่เขามา พอดูชื่อที่โทรมาเท่านั้นแหละ ตาผมสว่างเลย พี่จินยองโทรมา
“พี่มาร์คคคค พี่จินยองโทรมาตื่นเร็ว” เหมือนชื่อนี้จะทำให้พี่มาร์คตื่นขึ้นมาเต็มตาเหมือนกัน เขารีบคว้าโทรศัพท์ไปจากผมแล้วรับสายทันที
“ว่าไงจินยอง ขอโทษทีเรานอนเพลินไปหน่อย”
“...................”
“ได้ๆ เดี๋ยวเราจะรีบไปหานะ แต่เราคงต้องกินข้าวกับครอบครัวเราก่อน”
“...................”
“เดี๋ยวเจอกันครับ”
พี่มาร์คหันมามองหน้าผม เขาค่อยๆ เอี่ยวตัวมาหอมแก้มผม
“Good Morning Baby เจ็บมากไหมครับ เมื่อคืนขอโทษทีที่รุนแรงไปนิด แต่ทำไงได้เด็กน้อยของพี่เล่นน่ารักซะขนาดนั้น”
“ผมว่าเรารีบออกกันเถอะฮะ เดี๋ยวพี่มาร์คต้องไปหาพี่จินยองอีกไม่ใช่เหรอ”
“เราไหวแน่เหรอ พี่กะว่าเดี๋ยวอีกสักพักจะโทรไปบอกจินยองว่าไปหาไม่ได้”
“ผมไหวฮะ พี่มาร์คไปอาบน้ำเถอะ พออาบเสร็จไปเอาชุดนักเรียนที่ซักเมื่อวานกลับมาให้ผมด้วย” พี่มาร์คดูลังเลเล็กน้อยแต่สุดท้ายเขาก็ลุกไปทำตามคำแนะนำของผม ผมไม่อยากให้พี่จินยองรู้สึกเหมือนผม ที่รอแล้วเขาก็ไม่มา ถึงสุดท้ายวันนั้นพี่มาร์คจะมา แต่เวลาแห่งการรอคอยมันน่าเศร้ามากๆ สำหรับคนที่เฝ้ารอ คนบางคนเขาให้ความสำคัญกับคำสัญญามากกว่าที่ใครอีกคนหนึ่งคิด
ผมรู้สึกเพลียไปหมด เหมือนจะมีไข้นิดๆ แต่ก็ไม่อยากแสดงความอ่อนแอ่ให้คนตรงหน้าได้เห็น เพราะผมไม่อยากได้รับความสงสาร หรือ ความเห็นใจจากใครทั้งนั้น สิ่งที่ผมทำผมจะรับผิดชอบกับมันด้วยตัวผมเอง
พี่มาร์คชวนให้เราหาอะไรกินรองท้องก่อนที่จะกลับ ผมเห็นด้วยเพราะตอนนี้หิวมาก แต่ทันทีที่เราเลี้ยวเข้าร้านอาหารร้านหนึ่ง พี่จินยองก็โทรเข้ามาอีก ผมได้ยินพี่มาร์คบอกว่าอีกไม่นานก็ออกจากบ้านพ่อแม่แล้ว หลังกจากว่างสายเขาดูลำบากใจขึ้นมา จนผมต้องบอกเขาว่า เราเข้าเซเว่นแล้วกินอะไรกันบนรถดีกว่า เพราะเดี๋ยวจะเสียเวลา
พี่มาร์คตอบตกลงทันที แต่เสียดายที่หลังจากออกจากร้านอาหารร้านนั้นแล้วระหว่างทางก็ไม่มีร้านสะดวกซื้ออะไรอีกจนถึงขึ้นทางด่วน ผมรู้สึกหิวแต่ก็ไม่บ่นอะไรทั้งสิ้นอย่างมากก็แค่ไม่ได้กินไปมื้อหนึ่งเท่านั้น
เวลาที่เรายิ่งอยากรีบเท่าไหร่ สวรรคค์กลับชอบทำให้เรายิ่งช้า ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีอุบัติเหตุรถชนบนทางด่วน ทำให้รถค่อยๆไปได้ทีละนิด ละนิดเท่านั้น
พอรถติด พี่มาร์คก็จะเอาแต่เข้าไลน์ ไม่ต้องดูก็รู้ว่าเขากำลังคุยอยู่กับใคร มันน่าเศร้าจนทำให้ผมอยากจะร้องไห้ออกมา ผมนั่งอยู่ข้างๆ เขา แต่เขาไม่แม้แต่จะมองผม ไม่แม้แต่จะคุยกับผม ผมไม่มีตัวตนอยู่เลยใช่ไหมตอนนี้ เขาเอาแต่สนใจคุยไลน์กับคนที่อยู่ไกลตัวตอนนี้ ใครว่ายิ่งไลน์ยิ่งใกล้ ผมว่าไลน์ทำให้เรายิ่งไกลต่างหาก แต่ผมก็ไม่ได้บ่นอะไร พยายามเก็บอารมณ์บ้าบอคอแตกนี้เอาไว้ ผมสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้ต่อหน้าผู้ชายคนนี้อีกเป็นครั้งที่ 2
เมื่อเราลงทางด่วนผมเลยตัดสินใจถามสิ่งที่อยากรู้ออกไป
“พี่มาร์คต้องไปรับพี่จินยองที่ไหนครับ”
“ที่........”
“งั้นพี่มาร์คปล่อยผมลงตรงแถวนีดีกว่า เดี๋ยวผมนั่งรถใต้ดินกลับเอง จากตรงถนน XX ถ้าขึ้นไปทาง YY ก็ถึงบ้านพี่จินยองแล้ว แต่ถ้าพี่มาร์คต้องไปส่งผมมันคนละทางกันเลย เดี๋ยวจะเสียเวลานะครับ”
“ไม่เป็นไรพี่ไปส่งได้ เดี๋ยวส่งแบมแล้วค่อยไปหาจินยอง”
“พี่มาร์คผมพูดจริงๆ ส่งผมลงตรงสถานีใต้ดินข้างหน้า ผมกลับเองได้ ไม่ต้องเป็นห่วงผม พี่มาร์คห่วงแค่พี่จินยองก็พอครับ ผมไม่อยากนั่งรถกับคนที่เอาแต่คิดถึงคนอื่นอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ ผมขอร้องให้ผมลงซะ”
“พี่ขอโทษ” ขอโทษอีกแล้ว แค่ไม่กี่วันที่เรารู้จักกันมา เขาทำให้ผมเสียใจแล้วค่อยขอโทษแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว
“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ผมควรรู้ตัวเองดีว่าผมเป็นใคร แล้วพี่จินยองเป็นใคร ผมไม่ได้โกรธอะไร แต่ให้ผมลงตรงข้างหน้านี้แหละนะ พี่มาร์คจะได้ไม่ไปสายด้วย”
พี่มาร์คดูลังเลแต่สุดท้ายเขาก็จอดรถให้ผมลง เพราะยังไงพี่จินยองก็ต้องสำคัญที่สุด
ก่อนที่ผมจะลงพี่มาร์คดึงมือผมเอาไว้ “กลับบ้านดีๆนะ”
“ครับ.....พี่มาร์คคำขอข้อแรกของผมที่อยากจะขอพี่คือ เวลาที่เราอยู่ด้วยกันสองคนช่วยมองเห็นผมที ช่วยรับรู้ว่าผมอยู่กับพี่ตรงนี้ ผมไม่ได้ขอให้พี่ให้ความสำคัญกับผมมากที่สุด แต่แค่อยากจะขอร้องพี่ว่าเวลาอยู่กับผมช่วยรับรู้ทีว่าผมมีตัวตน”
แล้วผมก็เปิดประตูลงจากรถโดยไม่รอฟังคำตอบอะไรจากคนในรถอีก ผมรีบวิ่งเข้าสถานีรถไฟใต้ดิน แล้วก็รอจนพี่มาร์คขับรถออกไปแล้วค่อยเดินออกจากสถานีเพื่อหาอะไรสักอย่างลงท้อง
พี่มาร์คเขาไม่ได้แคร์ผมสักนิด
ผมมไม่ได้กินอะไรเลยมาตั้งแต่เช้าจนตอนนี้บ่าย 3 โมงกว่า
เขาไม่แม้แต่จะเอ่ยถามผมว่าผมหิวไหม
เขาไม่ได้รับรู้แม้สักนิดว่าผมอยู่ตรงนั้น
ตรงข้างๆ เขา..............................
แบมแบมปากนายก็บอกว่าไม่จริงจัง
หลอกกับตัวเองว่าแค่สนุกๆ
หลอกกับตัวเองว่าฉันไม่แคร์
หลอกกับตัวเองว่าฉันไม่ได้คิดอะไร
แต่ถ้าไม่คิดอะไรจริงๆ
ถ้าไม่แคร์จริงๆ
ถ้าไม่จริงจังจริงๆ
ทำไมนายถึงเจ็บแบบนี้
นายมันโง่ ที่คิดมาเล่นกับไฟ
-J-U-S-T-A-F-F-A-I-R-
จู่ๆ ฝนก็ตกเทลงมาอย่างแรง ตัวผมเปียกไปหมดตอนนี้ ฝนที่ทำให้ผมกลับมามีสติและตื่นจากความฝันอันลมแล้งๆ ทำให้ผมตื่นขึ้นมาสู้โลกของความจริง มีคนเคยบอกว่าถ้าเรามี 2 ทางเลือกให้เดิน จงเลือกทางที่เราคิดว่าจะทำให้เรามีความสุขมากกว่าแล้วเดินไปบนเส้นทางนั้น
ผมมีความสุขกับช่วงเวลาที่อยู่กับพี่มาร์ค
มันมีความสุขมากกว่าตอนที่ผมไม่ได้รู้จักพี่เขา
ถึงมันจะต้องมีบางช่วงที่ต้องเสียใจหรือร้องไห้
แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าเวลาของความสุขมากกว่าเวลาที่ทุกข์
ผมรู้ว่ามันผิดกับสิ่งที่ทำอยู่.
แต่.............................................
ผมขอยืดเวลาความสุขกับความสัมพันธ์นี้ไปอีกสักพักนะครับพี่จินยอง
ผมสัญญาว่าผมจะไม่ทำให้พี่เสียใจ หรือ รู้เรื่องนี้เด็ดขาด
และผมจะจบความสัมพันธ์นี้ด้วยตัวเอง
แบมแบมในเมื่อนายตัดสินใจที่จะอยู่ตรงนี้ต่อ
นายต้องไม่ตั้งความหวัง
ถ้าไม่คาดหวังก็จะไม่เสียใจ
แล้วก็เตือนตัวเองเอาไว้
อย่าเผลอโง่ไปรักผู้ชายคนนั้นมากไปกว่านี้
จำเอาไว้ว่า …………………….
อย่ารักเขามากไปกว่านี้ เพราะเขาเป็นผู้ชายของคนอื่น
-J-U-S-T-A-F-F-A-I-R-
MARK’S PART
ตั้งแต่เมื่อวานหลังจากที่ไปเที่ยวกับจินยองกลับมา จนเช้าวันจันทร์ตอนนี้ ผมพยายามที่จะโทรหาแบมแบมเท่าไหร่ก็เข้าแต่ระบบรับฝากข้อความ ไลน์ไปเท่าไหร่ก็ใม่ตอบ เด็กบ้านี้มีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับผม มาทำให้ผมกังวัลจนเกือบไม่ได้นอนทั้งคืน ทำเอาผมหงุดหงิดจนเกือบปาโทรศัพท์ทิ้งแบบนี้ คอยดูเหอะวันนี้เจอตัวจะจัดการให้เข็ดเลยเด็กบ้า
“เป็นไรมรึง กดโทรศัพท์อยู่นั่นแหละ” ไอ้หวังถามผมเมื่อเห็นว่าผมยังพยายามที่จะโทรศัพท์หาเด็กบ้าคนหนึ่งอยู่
“ทีโทรหาเพื่อน พอดีจะคุยธุระกับมันหน่อย”
“ไม่ใช่ว่า..............ติดเด็ก เหรอมึงอ่ะ”
“เด็กเชี่ยอะไร” เสียงผมเริ่มเบาลงเพราะกลัวแฟนที่นั่งอยู่ข้างหน้าห้องเรียนจะได้ยิน
“ก็...............น้องแบมแบม คนน่ารักไง”
“มรึงเอาอะไรมาพูดเนี่ย”
“วันนั้นกูเห็นนะเว้ยที่มรึงกับน้องเขาแอบจับมือกันอ่ะ กูตั้งใจจะไปช่วยมรึงยกของแต่พอตามไปเท่านั้นแหละเลยเห็นชัดเลย แต่ทีเด็ดเลย คือ เมื่อวันศุกร์กูกลับบ้านเย็นว่ะ กูเห็นน้องเขารอใครแม่งก็ไม่รู้อยู่หน้าโรงเรียน จน...................เห็นรถมรึงขับมาแล้วน้องเขาก็ขึ้นไป คนขับรถที่หน้าตาเหมือนมรึงเป๊ะเลยไอ้ต้วน”
“เอ่อ....กูเองแหละ”
“กูจะทำหน้าที่เพื่อนที่ดีรับรองเรื่องนี้ไม่ถึงไอ้เนียร์มันแน่นอน”
“มันก็ต้องอย่างงั้นอยู่แล้วเปล่าว่ะ มรึงเพื่อนกูนะครับ”
“แหมมมมมมรึงก็ไวไฟเนอะ คนชอบน้องเขาออกจะเพียบ....แต่ดันเสือกโดนมรึงคาบไปแด๊กกกกกกซะแหละ น้องแบมแบมไม่น่าตกเป็นเป็นของหมาป่าใจร้ายแบบมรึงเลย ไปจีบยังไงวะถึงติด กรูเห็นคนจีบเขาก็พอมีแต่ไม่เห็นจะจีบติดสักคน เพิ่งรู้ว่าน้องแม่งชอบคนมีเจ้าของแล้ว”
“อย่าพูดถึงเด็กน้อยของกรูแบบนั้น”
“แหมมมคุณต้วนท่าจะหลงเด็กมากนะมรึง เด็กน้อยของมรึง ถุยยยยย แล้วแฟนมรึงละว่าไง”
“แฟนก็อยู่ส่วนแฟน เด็กกรูก็อยู่ส่วนเด็กกรูไม่เกี่ยวกัน กรูตกลงกับน้องเขาแล้ว มรึงไม่ต้องพูดมากหรอกน่า”
“เอ่อ ๆ กูไม่พูดหรอก กูเต็มใจจะช่วยมรึงด้วยเนี่ย ไม่น่าเลยกรูไม่น่าไปเห็นความลับของมรึงเลยกรูเลยเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยเลย”
“รักมรึงจังคุณหวัง”
“อย่ามารักกรู กรูกลัวววววว =0=”
“เชี่ยยยยยย”
“แล้วไงโทรหาน้องไม่ติดรึไง”
“เอ่อ แม่งตั้งแต่เมื่อวานและปิดเครื่อง ไลน์ไปแม่งก็ไม่ตอบ”
“กรูช่วยมรึงก็ได้ กรูสนิทกับเพื่อนน้องเขาอยู่เดี๋ยวจัดให้”
-J-U-S-T-A-F-F-A-I-R-
ผมพยายามมองหาแบมแบมตลอดเช้าแต่ก็ไม่เจอน้องเขาก็เลยคิดว่าน้องเขาน่าจะไม่มาโรงเรียน เป็นอะไรรึเปล่าฟ่ะรู้ไหมว่ามีคนเป็นห่วง ตอนพักเที่ยงผมก็พยายามมองหาน้องเขาอีกครั้งแต่ก็ยังไม่เห็น จนเห็นเพื่อนสนิทน้องเขาที่ตัวสูงๆเดินเข้าในโรงอาหารผมเลยสะกิดไอ้หวัง ไอ้หวังมันก็ทำหน้าที่ได้ดีครับ เรียกเพื่อนน้องเขามากินข้าวด้วยกัน
“ไอ้ยูคตรงนี้ว่างมานั่งกับพวกพี่มะ”
“หวัดดีครับพี่แจ็คสัน”
“หมอนี่ชื่อมาร์ค ส่วนหมอนี่ชื่อจินยอง ส่วนเด็กนี้เรียกว่าไอ้ยูคพอ”
“แหมมมพี่ ชื่อเต็มๆ ผมก็มีครับ ผมชื่อยูคยอมครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“เอ่อนะ ว่าแต่น้องแบมแบมคนน่ารักไปไหนซะละ เห็นปกติอยู่ด้วยกันออกจะบ่อย น้องเขาสลัดมรึงทิ้งแล้วเหรอ”
“สลัดอะไรพี่ อย่าพูดอะไรชวนสยองแบบนั้น ผมกับมันเพื่อนกันครับ ไม่กินกันเองแน่นอน กินไม่ลง”
“พูดอย่างกับน้องเขาอยากจะกินมรึงงั้นแหละ กรูว่าน้องเขาน่าจะชอบแบบไอ้มาร์คมากกว่า”
ไอ้เชี่ยหวังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงมรึงจะพูดให้มีประเด็นทำไมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
“555 วันนี้มันไม่สบายครับ นอนพักอยู่ที่คอนโด”
“อยู่คนเดียว ?”
“ครับมันอยู่คนเดียว เดี๋ยวตอนเลิกเรียนผมก็ว่าจะไปเยี่ยมมันอยู่”
“คอนโดแถวไหนละ เพื่อเป็นทางผ่านพี่จะได้ไปส่ง” หวังกรูนับถือมรึงเลยเนียนมาก ขอบคุณจากใจเลยเพื่อนเลิฟ
“คอนโด XX แถว YY อ่ะพี่ผ่านป่ะ”
“ไม่ผ่านว่ะคนละทางเลยสงสัยมรึงต้องไปเองแล้วละ”
หลังจากนั้นไอ้หวังมันก็คุยอะไรไปเรื่อย ส่วนผมก็สองจิตสองใจว่าจะเอายังไงดีแต่สุดท้ายผมก็..............................
“จินยอง เราเพิ่งนึกได้ว่าแม่เราโทรบอกว่าให้ไปหา ถ้าเราไปตอนเลิกเรียน กว่าจะถึงบ้านแม่คงเย็นเราว่าช่วงบ่ายเราจะโดด จินยองอยากโดดไปกับเราไหม”
“ไม่ มาร์คไปหาแม่เถอะ” ยังไงผมก็รู้อยู่แล้วว่าแฟนผมต้องปฎิเสธ เพราะจินยองรักการเรียนยิ่งชีพ แต่ถ้าไม่ถามแบบนี้ จินยองอาจจจะจับได้ว่าผมแปลกไป เพราะฉะนั้นตีเนียนไว้ก่อนน่าจะดีที่สุด
“งั้นเราไปก่อนนะฝากจดการบ้านให้เราด้วย ไอ้หวังดูแลแฟนกูด้วยนะเว้ย”
“รับรองจะดูแลให้อย่างดีครับท่าน” พอจินยองเดินออกไปไอ้เพื่อนซี้มันก็หันมาแล้วถามผมว่า
“แม่มรึง รึ เด็กมรึงกันแน่ที่ทำให้โดด ไม่ค่อยติดเด็กเลยนะมรึง”
“ก็นะ ช่วยไม่ได้ว่ะ น้องเขาไม่สบายเพราะกรู...............กรูรุนแรงไปหน่อยเมื่อคืนก่อน”
“เชี่ยยยยยยยยยยย มรึงกับน้องเขา...........”
“เรียบร้อยโรงเรียนต้วนว่ะเพื่อน กรูไปละ ต้องรีบไปหาเด็ก”
#ฟิคแอบมาร์คแบม
ทุกคนเข้าอ่านฉากหวานตอนที่แล้วกันได้ไม่มีปัญหาใช่ไหมคะ ....?
ถ้าใครเข้าไม่ได้ทิ้งเมลล์ไว้แทนในหน้าเวบได้เลยจ้าเดี๋ยวส่งไปให้
หรือ ติดแท็ก ในทวิต พร้อมลงเมลล์ก็ได้ จะไล่ส่งไปให้
เจอกันใหม่ในเร็ววันนี้ ~ นะคะ
ความคิดเห็น