ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ GOT7 ] Keep our secret BBAM Feat MarkBam

    ลำดับตอนที่ #5 : SF : SisTer's Boyfriend

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 58


    คำว่ารักมันกำลังทับถมในใจของผมอยู่แบบนั้น ถ้าสักวันหนึ่งมันไม่ทับถมจนผมตาย มันก็คงต้องระเบิดออกมาสักวัน เพราะ มันไม่ได้พูดออกไป แล้วมันควรรึเปล่า.ในเมื่อ...คนที่ผมรักเป็นคนที่ผมไม่ควรจะบอกรักอย่างเด็ดขาด

     

    ทำไมเขาต้องเป็นแฟนของน้องสาวผม

    ทำไมสวรรค์ไม่ทำให้ผมไปรักคนอื่น

    ทำไมสวรรค์ต้องทำให้ผมรักคนๆ นี้จนถอนตัวไม่ขึ้น

     

    เพราะเขาเปรียบเหมือนของต้องห้ามรึไง

    เพราะยิ่งห้ามมันก็เหมือนยิ่งยุ

    ยิ่งไม่ควรรัก...ก็ยิ่งรัก......

     

    วันแรกที่เราเจอกันผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร....รู้แต่ผู้ชายคนนี้หล่อ ผู้ชายคนนี้เท่ และผู้ชายคนนี้เขามาช่วยพยุงผมในตอนที่ใครสักคนชนผมล้มลง เขาเข้ามาพยุงตัวผมให้ลุกขึ้น ทั้งที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้....แต่สัมผัสที่เขาสัมผัสกลับทำให้ผมร้อนจนต้องรีบเงยหน้าขึ้น

     

    หน้าของผม...กับเขาอยู่ใกล้กันจนปากของผมเกือบชนแก้มของเขา เราเหมือนชะงักกันไปทั้งคู่แล้ว บรรยากาศรอบตัวก็เหมือนจะหายไป มันเหลือแค่ผมกับเขา เสียงมือถือของผมดังขึ้นเหมือนฉุดให้เราต่างหลุดออกจากภวังค์ของกันและกัน...ผมรีบรับมือถือทันที

     

    อ้อ พี่อยู่ห้างแล้วพอดีมีเหตุนิดหน่อย เดี๋ยวจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมรีบว่างโทรศัพท์แล้วหันจะมาขอบคุณเขา แต่เขากลับหายไปแล้วซะงั้น ตอนนั้นหัวใจผมเหมือนจะหายตามไปด้วย แต่มันก็แค่เหมือน พอมาคิดอีกทีถ้าวันนั้นเขาหายไปแล้วหายไปเลยมันคงจะดีกว่า เพราะการที่ได้เจอกับเขาอีกครั้ง...ที่ร้านกาแฟชื่อดังพร้อมกับน้องสาวที่แนะนำตัวว่า....เขาเป็นคนที่ตัวเองคบอยู่และอยากพามาให้ผมรู้จัก...มันทำให้ผม....

     

    พี่เพิ่งเจอพี่เขาเองแหละ...เขาช่วยพี่ไว้

     

    จริงเหรอ บังเอิญจังเลย

     

    ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณพี่เขย ทำไมผมถึงรู้สึกแปลกๆ ที่หัวใจก็ไม่รู้ แต่ผมก็ฝืนยิ้มกลับไป

     

    แหม คุณน้องเขยรีบเชียวครับ แต่ถ้าจากอายุคุณนะพี่ผมอีกนะ

     

    ฮาฮาฮา ก็ผมเป็นแฟนน้องเบบี้ แล้วบี้ก็เป็นน้องคุณหนิครับ

     

    เสียงโทรศัพท์ของน้องผมดังขึ้น ทำให้การสนทนาของเราถูกขัด น้องรับสายพร้อมทำเสียงตกใจ ดูท่าคนในสายคงเป็นเพื่อนสนิท ที่โทรมาตามอะไรสักอย่าง เพราะน้องผมบอกว่าได้ๆ พอเธอว่างเธอก็ทำหน้าตื่นตระหนกพร้อมหันมาบอกผมกับแฟนเธอว่า....

     

    หนูลืมส่งงานอาจารย์ อาจารย์ต้องเอางานวันนี้ด้วย....บ้าจริงๆ หนูขอกลับโรงเรียนไปส่งก่อนนะคะ

     

    ให้พี่ไปส่งไหมแฟนของน้องสาวอาสาอย่างที่ผมกำลังแนะนำให้น้องสาวไปกับเขา แต่......

     

    ไม่เป็นไรคะ หนูนั่งรถไปแป๊ะเดียว...เดี๋ยวก็ถึง แต่หนูฝากพี่พาแบมกลับบ้านดีกว่า อุตส่าห์มาจากมหาลัยตั้งไกล ยังไม่ทันได้กินอะไรเลย ขอโทษนะเดี๋ยวเจอกันที่บ้านแล้วกันยังไงฝากพี่บี้กลับบ้านด้วยนะคะคนหล่อ

     

    โอเคครับคนน่ารัก ยังไงคนน่ารักถ้าส่งงานเสร็จไลน์มาบอกด้วยนะ แล้วน้องสาวของผมก็รีบวิ่งออกจากร้านไป ทิ้งให้ผมนั่งอยู่กับแฟนตัวเองที่ยังเจอกันไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ

     

    ไปหาอะไรทานกันไหมครับคุณพี่เขย

     

    เรียกแบมก็ได้ครับ เรียกคุณพี่เขยแล้วมัน...แปลกๆ

     

    โอเค ไปหาอะไรทานกันไหมครับน้องแบม

     

    ไม่ดีกว่าครับ...กลับเลยดีกว่า...แต่ยังไงก็ไม่ต้องไปส่งหรอกครับผมกลับเองได้รบกวนคุณเปล่าๆ

     

    ไม่รบกวนหรอกครับอีกอย่างผมรับปากบี้แล้วด้วยเลยไม่อยากผิดสัญญา

     

    ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ เดี๋ยวผมบอกบี้เอง

     

    ไม่ชอบพี่เหรอครับแบม...หรือว่ากลัวพี่ ทำไมแค่เขาเปลี่ยนการแทนตัวเองจากผมมาเป็นพี่..ทำไมใจผมมันต้องสั่นขนาดนี้ด้วย...ผมก็ไม่เข้าใจ

     

    ไม่ได้..ไม่ชอบหรือกลัวอะไรหรอกครับ...แค่เกรงใจมากกว่า...

     

    ถ้างั้นก็ไม่ต้องเกรงใจหรอก...ไปด้วยกันนี่แหละ...ถ้าเป็นแบมพี่เต็มใจ ทั้งที่เพิ่งเจอกันแต่ทำไมคำพูดของเขาถึงทำให้ผมสั่นไหวขนาดนี้...บ้าจริงๆ เขาก็ต้องเต็มใจอยู่แล้วก็เราเป็นพี่แฟนของเขาไม่ใช่รึไง #ดึงสติหน่อยเถอะแบม

     

    งั้นผมไม่เกรงใจนะ....ถ้าไม่รบกวนจริงๆ...งั้นเราไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อก่อนกลับได้ไหมครับ..ผมหิวแล้ว

     

    ผู้ชายตรงหน้าตอบตกลงพร้อมพาผมมากินอาหารไทยร้านหนึ่ง...ที่คาดว่าเขาน่าจะมากินกับน้องสาวของผมบ่อยๆ เพราะมาถึงแล้วก็สั่งอาหารแบบเชียวชาญเลย

     

    คุณมาทานกับน้องผมบ่อยเหรอคครับ สั่งคล่องจัง

     

    ก็สองสามครั้งแล้ว...อ้อจริงสิพี่ลืมถามแบมไปเลยว่ากินเผ็ดได้รึเปล่า..เพราะบี้กินไม่ได้

     

    ผมกินได้สบายครับ...ยิ่งเผ็ดผมก็ยิ่งชอบ..แอร์ตรงนี้ลงแรงจัง

     

    ย้ายมานั่งข้างพี่ไหม...ข้างพี่แอร์ไม่ค่อยลง

     

    ได้เหรอครับ

     

    ย้ายมาเลย...พี่เต็มใจ

     

    งั้นผมขอนั่งในได้ไหม..... เขาผายมือประมาณว่าเชิญเข้าไปเลยแต่ไม่ยอมลุก ผมก็เลยเบียดตัวเองเข้าไป ทำให้ส่วนท้ายของผมสัมผัสและเสียดสีกับตักของพี่เขาอย่างไม่ตั้งใจ จู่ๆ ความร้อนก็แล่นมาที่หน้าของผมอย่างช่วยไม่ได้..ทั้งที่จริงๆ มันก็ไม่มีอะไร และเพราะขนาดโต๊ะค่อนข้างแคบและพี่เขาก็ไม่ได้กระเถิบตัวออกมากนักทำให้ผมไม่สามารถขยับเข้าไปเลย...ตัวของผมเลยเผลอนั่งบนตักของพี่เขา

     

    ระวังหน่อยสิครับ เดี๋ยวขาถลอกนะ พี่เขาไม่พูดเปล่าแต่กลับเอามือมากอดรอบเอวของผม พร้อมกับพูดที่ข้างหู..ใจของผมมันสั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมไม่รู้ว่าผมใช้ความกล้าอะไรเลยหันไปมองหน้าพี่เขาพร้อมกระซิบที่ข้างหูพี่ของเขา

     

    ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง พูดจบผมก็เขยิบลงจากตักของพี่เขาแล้วนั่งชิดริม พี่เขาปล่อยมือจากเอวของผม แล้วอาหารก็มาเสริฟ ผมกินอย่างเอร็ดอร่อยเพราะหิวจัด พี่เขาคอยตักอาหารให้ผมอยู่เรื่อยๆ เราคุยกันไปเรื่อยเปื่อยแต่..เรากลับไม่เอ่ยชื่อน้องสาวของผมออกมาอีกเลยหลังจากนั้น เมื่อทานเสร็จ พี่เขาก็พาผมขึ้นรถหรูสีแดงที่บอกได้เลยว่าต้องเป็นรถนำเข้าอย่างแน่นอน

     

    รถนั่งสบายจังเลยนะครับ ผมพูดทันทีเมื่อขึ้นรถมานั่งเรียบร้อย

     

    ฮาฮาฮา มีแต่คนพูดแบบนั้นเหมือนกัน

     

    แสดงว่ามีคนนั่งเยอะ เอ๋...แบบนี้ผมจะกล้ายกน้องสาวให้คุณไหมเนี่ย

     

    อย่าเหมารวมพี่สิครับ...คนที่นั่งก็มีแต่เพื่อนๆ กันทั้งนั้นแหละ

     

    แล้วคุณไม่คาดเข็มขัดเหรอครับเดี๋ยวโดนตำรวจจับนะ ผมทวงเมื่อเห็นว่าเขาจะสตาร์ทรถแต่ไม่ยอมคาดเข็มขัด

     

    ช่วยคาดให้พี่หน่อยได้ไหมละครับ สายตาที่เขาส่งออกมาเหมือนจะท้าทายอะไรบางอย่างจากผม

     

    ถ้าผมคาด...แล้วผมจะเป็นคนแรกที่คาดให้พี่รึเปล่าละครับ

     

    ถ้าแบมไม่คาดพี่ก็คงไม่ต้องตอบ..มันอยู่ที่ว่าแบมกล้าไหมรึเปล่า แทนคำตอบ..ผมเอี่ยวตัวไปคาดให้คนขับที่กำลังมองผมอยู่ แต่สายมันกลับลากมาไม่ถึงสักที ผมเลยต้องยกตัวขึ้นแล้วดึงสายคาดเข็มขัดพร้อมกับจ้องตาของเจ้าของรถ สายตาของเราไม่หนีไปจากกัน หน้าของเราห่างกันเพียงนิดจนผมยังรู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่าย ผมรู้สึกหน้าของผมกับพี่เขาใกล้กันเขามาเรื่อยๆ พร้อมกับที่มือของพี่ที่กุมมือผมที่กำลังดึงสายรัดเข็มขัด

     

    ผมไม่รู้ว่าความร้อนที่มือหรือที่หน้าที่มันร้อนกว่ากัน แต่ที่แน่ๆ ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมมันเต้นเร็วซะจนผมกลัวเขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวผมเอง แล้วพี่เขาก็ใช้มืออีกข้างดันท้ายทอยของผมทำให้ริมฝีปากของผมก้มลงมาแนบชิดกับริมฝีปากของอีกฝ่าย

     

    ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมันหายไปหมดเมื่อริมฝีปากของเราแตะกัน...จาก...รสจูบที่สัมผัสกันอย่างแผ่วเบามันค่อยๆ ร้อนแรงขึ้นจนผมเผลอเปิดริมฝีปากให้ลิ้นร้อนของอีกฝ่ายได้เข้ามาชิมความหวานในปากของผม...จากผมที่ตอนแรกเหมือนจะกล้าๆ กลัวๆ ที่จะให้อีกฝ่ายเข้ามาชิมความหวานของตัวเอง...ตอนนี้ผมกลับตอบจูบอีกฝ่ายอย่างร้อนแรงพร้อมกลับแนบชิดริมฝีปากของตัวเองเขาไปใกล้ชิดอีกฝ่ายมากขึ้น เขาเองก็เช่นกันเขาค่อยๆ เอามือที่จับท้ายทอยของผมออกแล้วหันเข้ามาจับในใต้เสื้อนักศึกษาของผม

     

    เสียงโทรศัพท์ของผมดัง เสียงเตือนที่ตั้งเฉพาะน้องสาวดังขึ้นเหมือนเตือนสติผมให้รีบผละออกพร้อมกับกระซิบที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย

     

    เบบี้โทรมานะ

     

    ไม่ต้องรับหรอก”

     

    เขาพูดพร้อมกับก้มหน้ามาจูบผมต่อ...เราจูบกันโดยไม่แคร์เสียงเรียกเข้าที่ดังไม่หยุดสักนิด..เราไม่อายคนที่ผ่านไปผ่านมาด้วยซ้ำ ผมกลายมานั่งตักเจ้าของรถเมื่อไหร่ยังไม่รู้ตัวเลย เขาเริ่มที่จะซุกไซร้ใบหน้ามาที่ซอกคอของผม เสียงโทรศัพท์ที่ไม่ใช่ของผมดังขึ้น ผมเหลือบหน้าไปดูจึงเห็นว่าเป็นรูปน้องสาวผม....เป็นรูปที่เธอกำลังยิ้มอย่างสดใส มันเหมือนดึงสติให้ผมเตือนตัวเองว่าผู้ชายตรงหน้านี้เป็นของใคร....แล้วผมเป็นใคร...แต่คนตรงหน้าที่กำลังหาความหวานจากซอกคอของผมกลับไม่แคร์สักนิด ผมจึงคว้ามือถือของเขาแล้วยื่นมือถือไปให้คนตรงหน้าให้เขาเห็นหน้าของแฟนตัวเอง เขามองสบตาผมแล้วก็สไลด์มือถือเพื่อรับโทรศัพท์

     

    ครับเบบี้...ผมกำลังจะขับรถกลับครับ...อ้อแบมสงสัยเขาเปิดสั่นเลยไม่ได้ยินเสียง...จะให้ไปรับเหรอ...อืมได้สิ...แล้วเจอกันครับเรามองหน้ากันสมองของผมสั่งว่าตัวเองควรจะย้ายกลับที่นั่งซะ...แต่หัวใจกลับเรียกร้องให้ผมทำอย่างอื่น...อย่างอื่นที่มันผิด....ผมก้มลงไปจูบผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง...พร้อมกับไล้ริมฝีปากมาที่ซอกคอของเขาอย่างที่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมกำลังทำอะไรอยู่  เขาค่อยดันหน้าของผมขึ้นจากซอกคอของเขา เราสบตากัน เขายิ้มน้อยๆ แล้วก็หอมแก้มของผมอย่างแผ่วเบา เสียงมือถือของเขาดังขึ้นอีกครั้งมันเป็นเสียงเรียกเดิม และเป็นรูปของคนคนเดิมที่โทรเข้ามา

     

    “จะให้บอกเขาไหมว่าพี่ติดธุระไม่ว่างไปรับแล้ว” ผมหยิบมือถือจากเขาแล้วสไลด์มือถือ รับโทรศัพท์จากน้องตัวเอง

     

    “เดี๋ยวจะไปรับนะบี้...รออยู่หน้าโรงเรียนได้เลย พอดีพี่เขาขับรถอยู่...แบมเลยรับแทน” น้องสาวพูดระบายความหงุดหงิดเรื่องอาจารย์ที่จะตัดคะแนนเพราะส่งช้า...แต่ถ้าถามว่าผมรู้เรื่องมากกว่านั้นไหม คำตอบคือไม่...เพราะแฟนน้องสาวเล่นปิดปากผม ผมทำได้แต่ตอบน้องไปว่า...อืม...อืม....เหมือนรู้เรื่องทั้งที่จริงๆ ไม่รู้สักนิด สิ่งเดียวที่รู้ตอนนี้คือริมฝีปากของแฟนคนที่โทรมา..มันเร่งเร้า..มันเว้าวอน...และมันร้อนแรงจนผมอยากจะผละจากไปไหนด้วยซ้ำ

     

    “แบม แบม แบมตั้งใจฟังอยู่ป่ะเนี่ย” น้องสาวตะโกนเสียงดังเพราะผมตอบได้แค่...อืม... อืม ผมเลยรีบตอบรับเสียงโทรศัพท์ของน้องสาวพร้อมกับโยกตัวเองกลับมานั่งที่ข้างคนขับ ส่วนคนขับรถตัวจริงก็กำลังสตาร์ทรถและออกรถเพื่อเตรียมตัวไปรับแฟนของเขาอย่างเร่งรีบ เพราะเราช้ากันไปมากแล้ว....

     

    น้องของผมยังคงบ่นไปอีกสักพัก จนสุดท้ายเพื่อนน้องคงมาเรียก บี้เลยว่างสายผมไป เมื่อว่างสายจบลง..บรรยากาศในรถดูเงียบมากเพราะผมและเจ้าของรถไม่ได้คุยกัน...ความผิดชอบชั่วดีของเหมือนจะกลับมา แล้วก็ได้แต่คิดว่าตัวเองเป็นบ้าอะไรถึงยอมทำให้เกิดเรื่องเมื่อกี้ที่ร้านจอดรถขึ้นมาได้

     

    มันทั้งผิด มันทั้งแย่...และมันก็ไม่น่าให้อภัยจริงๆ

     

    “เรื่องเมื่อกี้...อย่าบอกบี้นะ” ผมตัดสินใจพูดทำร้ายความเงียบในที่สุด

     

    “ไม่บอกหรอ พี่ไม่ทำร้ายตัวเองแบบนั้นหรอก”

     

    “ถามจริงคุณกับน้องผมถึงขั้นไหนกันแล้ว..ถ้าบอกถึงขั้นเมื่อกี้เหมือนกันผมคงอยากชกคุณตรงนี้เลย”

     

    “ชกเพราะเป็นห่วงน้อง หรือ...หวงพี่ครับแบม” รถพี่เขาขับมาจนใกล้จะถึงเขตบริเวณของโรงเรียนน้องสาวผม ผมเห็นน้องของผมอยู่ไกลๆ ...ทั้งที่ก็รู้สึกผิดกลับน้องแต่ผม...กลับรู้สึกอยากยืดเวลาในรถคันนี้ออกไปอย่างบอกไม่ถูก

     

    “ถ้าบอกว่าทั้งสองอย่างพี่จะเชื่อแบมไหม” ผมบอกพร้อมหันไปยิ้มให้อีกฝ่าย ซึ่งคนรับฟังก็หัวเราะออกมา พร้อมกลับยื่นมือมาจับมือผม...รถจอดลงตรงหน้าน้องสาวผมกำลังจะเปิดประตูแล้วย้ายไปนั่งหลังแต่คนที่จับมือผมอยู่กลับดึงไว้ ทำให้ผมหันไปมอง

     

    “ถ้ารู้สึกทั้งสองอย่า..พี่อยากให้แบมหวงพี่มากกว่าเป็นห่วงน้องสาวนะ” พูดจบอีกฝ่ายก็ปล่อยมือ ผมรีบเปิดประตูรถ หันมาทักน้องสาวแล้วรีบเปิดประตูด้านหลังขึ้นนั่งพร้อมกับสะบัดหน้าออกไปทางหน้าต่างอย่างที่ไม่อยากให้ใครเห็นหน้าของตัวเองว่ามันแดงแค่ไหน

     

    “แบมกินลูกอมไหม” น้องสาวทักขึ้นมาหลังจากที่ขึ้นนั่งรถมาสักพักพร้อมยื่นลูกอมจูปาจุ๊บมาให้ผม ผมรับพร้อมกับแกะเปลือกแล้วอมลูกอม รสโคล่าของลูกอมทำให้ผมยิ้มออกมา ประจวบกลับรถหยุดเพราะไฟแดงพอดี ผมเหลือบสายตาไปที่กระจกมองหลังที่อยู่หน้ารถของคนขับ ทำให้เห็นว่าคนขับก็มองกระจกแล้วมองตรงมาที่ผมเช่นกัน

     

    ผมค่อยๆ อมดึงลูกอมออกจากปากแล้วจูบไปพร้อมกับแลบลิ้นไล้เลียลูกอมอย่างแผ่วเบา พร้อมกับอมลิ้มรสความหวานของรสโค้ก แล้วก็คายออกจากปาก แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะจ้องสายตามองไปที่กระจก ซึ่งคนขับก็สบสายตาของผมผ่านกระจกมาเช่นกัน

     

    “พี่ค่ะรถไปแล้วค่ะ” เสียงของน้องสาวผมทำให้คนขับรีบขับรถออกไป ส่วนผมก็สะดุ้งกลับเสียงเรียกนั้น แต่ก็ไม่อะไรผมก็กินลูกอมของผมต่อไป

     

    “คนน่ารักช่วยลงไปซื้อน้ำให้พี่หน่อยสิ พี่ขอจอดเติมน้ำมันก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยไปรับหน้าเซเว่น”

     

    “แบมลงไปด้วยกันไหม”

     

    “ไม่อ่ะ แบมขอยู่บนรถดีกว่า” เมื่อน้องสาวได้ยินแบบนั้นก็หันหลังแล้วลงจากรถไป ผมหันกลับมาที่คนขับรถที่หันมามองผมอยู่เช่นกัน

     

    “หิวน้ำเหรอครับ”

     

    “จริงๆ พี่ไม่หิวน้ำหรอกพี่อยากกินลูกอมมากว่า”

     

    “แต่ผมมีอันเดียว...อันที่กินอยู่อ่ะครับ...คงให้ไม่ได้”

     

    “ขี้งกจัง...ถ้าพี่ไม่ได้อยากกินลูกอมอันนั้นละครับแบม”

     

    “แล้วพี่อยากกินอันไหนละครับ”

     

    “แบมก็น่าจะรู้..ก็แบมเล่นยั่วพี่ขนาดนั้น” ผมหันไปที่ร้านสะดวกซื้ออีกครั้งไม่เห็นน้องสาวตัวเองผมก็ดึงลูกอมออกจากปากแล้วรีบประกบปากส่งความหวานของลูกอมให้กับคนขับที่ร้องขอลูกอมจากปากของผม

     

    “อืม....” เสียงครางของผมมาพร้อมกับการดันหน้าออก

     

    “อร่อยไหมครับ ลูกอมจากปากแบมแบบนี้”

     

    “มันเร็วไปยังไม่ค่อยรู้รสเลยอ่ะแบม”

     

    “ขับรถไปรับเบบี้เถอะครับ น้องน่าจะเสร็จแล้ว” รถมาจอดลงตรงข้างหน้าร้านสะดวกซื้อ แต่น้องของผมก็ยังไม่ออกมา

     

    “ที่เราทำมันผิดพี่ก็รู้ใช่ไหม แฟนพี่อ่ะน้องสาวผมนะ ผมไม่อยากให้น้องผมเสียใจ” ผมพูดขึ้น

     

    “ถ้าบี้ไม่รู้บี้จะเสียใจได้ไง...”

     

    “เห็นแก่ตัวเนอะ”

     

    “มีใครไม่เห็นแก่ตัวบ้าง...แล้วที่เราทำ...มันผิดจริงๆ...เหรอ”

     

    “เราก็แค่ปล่อยตัว..ปล่อยใจไปกับความอยากรู้ความอยากลอง...แล้วเราผิดเหรอครับที่เราแค่ทำตามใจตัวเอง”

     

    “มันผิดเพราะ..พี่มีแฟนแล้ว...แล้วแฟนพี่ก็เป็นน้องสาวของผมด้วย”

     

    “แล้วไง....พี่อาจจะแค่นอกกาย...แต่พี่ไม่ได้นอกใจ” คำพูดของคนตรงหน้าทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนตบ...นอกกาย..แต่ไม่ได้นอกใจ...จำให้ขึ้นหัวซะกันต์พิมุก

     

    “.....”

     

    “...แบมเองก็ไม่ได้จริงจังไม่ใช่เหรอ..เราแค่ปล่อยตามอารมณ์...คนเราชีวิตหนึ่งโดนบังคับตั้งแต่เด็กจนโต บังคับว่าสิ่งนั้นผิด บังคับว่าสิ่งนั้นถูก..แต่จริงๆแล้ว สิ่งไหนผิด สิ่งไหนถูก...จริงๆ กันแน่ การที่คนส่วนใหญ่บอกว่า...ผิด...ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นมันผิดจริงๆ สักหน่อย...มันก็แค่เป็นกฎของคนหมู่มาก..แล้วเรียกพฤติกรรมของคนหมู่น้อยว่า...ผิด...แต่จริงๆ มันผิดรึเปล่า...ใครเป็นคนบอกไว้กันแน่” จบคำพูดนี้น้องสาวผมก็ก้าวขึ้นมาบนรถ พร้อมกับเปิดขวดน้ำแล้วยื่นให้คนขับดื่ม...มันทำให้ผมรู้สึกว่าคนสองคนตรงหน้ากำลังมีความรักที่สวยงาม...ถึงแม้เมื่อกี้ผู้ชายคนนั้นอาจจะเพิ่งจูบกับผมมา...แต่เขากลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายและน้องสาวของผมก็ยังมีรอยยิ้ม

     

    มันอาจจะจริงอย่างที่เขาบอกเมื่อกี้....ถ้าบี้ไม่รู้บี้ก็ไม่คง......ไม่เสียใจ

     

     

     

    ผมเงียบไปตลอดการเดินทางกลับบ้านครั้งนี้...ผมคิดเกี่ยวกับคำพูดของผู้ชายคนนั้น กับสิ่งที่ผมควรจะทำ...อะไรคือ สิ่งที่ผมควรจะทำ...ปล่อยเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ทิ้งไปซะแล้วก็ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นอีก...หรือ...ปล่อยให้มันดำเนินต่อไปอย่างที่ผมอยากให้มันเป็น...ผมควรเลือกแบบไหนดี

     

    รถมาจอดถึงหน้าบ้านของเรา...โดยที่ผมไม่รู้ตัวสักนิด...จนรถจอดสนิท..ผมกำลังจะก้าวลงจากรถ...แต่บี้กลับเรียกผมไว้

     

    “แบมนั่งรอในรถก่อนสิ เราจะขึ้นไปหยิบของให้พี่เขา....เดี๋ยวรีบลงมา..เรากลัวแม่กลับมาเห็นแล้วคิดว่าเรากลับกับพี่เขาสองคน แต่ถ้าแบมอยู่ด้วยแม่จะได้ไม่ว่า...ปกติเราไม่เคยให้พี่เขาเข้ามาส่งถึงในหน้าบ้านเลย เคยแต่รถหน้าปากซอยหมู่บ้าน นะแบมอย่าเพิ่งลงเลยนะรอเราก่อน แป๊บเดียว เดี๋ยวมา” ผมพยักหน้ารับ แล้วน้องสาวของผมก็วิ่งลงจากรถไป

     

    “พรุ่งนี้บี้ตืดเรียนแล้วก็มีเรียนพิเศษถึงดึก...ให้พี่ไปรับแบมที่มหาลัยได้ไหมครับ” ผมจ้องกลับไปที่คนขับรถตรงหน้าอย่างใช้ความคิดว่าควรทำอย่างไร

     

    “มารับผม...?

     

    “อนุญาตไหมละครับ”

     

    “แล้วหลังจากนั้น....จะพาผมไปไหนต่อเหรอครับ”

     

    “แล้วแต่แบมครับ” ผมหันไปมองน้องสาวที่กำลังวิ่งขึ้นออกจากบ้านมา แล้วหันกลับมามองคนขับรถที่เป็นแฟนน้องสาวของผม

     

    “แบมเลิกเรียนบ่ายโมงมารับแบมที่ห้าง…..แล้วเรา...ไปต่อกันที่คอนโดพี่ได้ไหมครับ” เขายิ้มแล้วพยักหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่น้องสาวของผมเปิดประตูรถเข้ามา พร้อมยื่นของให้

     

    “มีอะไรกันรึเปล่าคะเนี่ย” น้องสาวผมถามขึ้น

     

    “เปล่าครับพี่กำลังจะขอเบอร์แบม เพื่อวันไหนติดต่อบี้ไม่ได้จะได้โทรถามจากแบมว่าบี้แอบไปมีใครรึเปล่า”

     

    “แหม..ไม่มีทางหรอกคะ ส่วนเบอร์แบมเดี๋ยวบี้ไลน์ไปให้ก็ได้ บี้ไปก่อนนะนะคป่ะแบมเข้าบ้าน” น้องสาวเปิดประตูรถแล้วเดินออกไป

     

    “เรื่องของเรามันก็แค่สนุกๆ...เพราะฉะนั้นอย่าทำอะไรให้น้องผมต้องรู้เรื่องของเรานะครับ...”

     

    “สัญญาเลยครับแบมว่า...เรื่องของเรา..มันจะเป็นแค่เรื่องของเราเท่านั้น”

    END or To be continue……..

     

    กระต่ายโหดผู้หายไปนานสามชาติเศษกลับมาก็ไม่ได้อัพอะไรหรา...? อย่าเพิ่งเขวี้ยงขวดมานะคะขอร้อง TT^TT อย่างน้อยก็ปั่น SF เรื่องนี้มาให้อ่านกันแบบแก้ขัดกันไปก่อนเนอะ หุหุหุ

     

    เป็นน้องแบมเวอร์ชั่น...ดาร์กที่สุดตั้งแต่เคยแต่งมาเลย ห้ามด่าอะไรน้องแบมทั้งนั้นนะคะ ถ้าจะด่าด่ามาที่กระต่ายโหดคนเดียวเลยคะ เพราะแต่งเอง 555+

     

    จริงๆ ถ้าอ่านมาทั้งเรื่องจะเห็นว่าไม่ได้ใส่ชื่อพระเอก..ก็เพราะ..จริงแล้วอยากแต่งคุณพี่..ให้เป็นทั้งพี่มาร์คและพี่บี เชื่อว่าใครตามเรื่องนี้จะเป็น BBAM เพราะฉะนั้นตัวเองคงจิ้นเป็นพี่บีแหง แต่ถ้าใครอยากลองเปลี่ยนเป็นพี่มาร์คเชิญ จิ้ม...ที่นี่ >> http://my.dek-d.com/theapril0404/writer/view.php?id=1259419 << แทนค่ะ 555+ มีสองเวอร์ชั่นแล้วแต่คนอ่านจะเลือกสรร

     

    ส่วนจะมีต่อไหมขึ้นอยู่กับอารมณ์คนแต่งเลยคะ แต่ถ้าใครอยากคอมเม้นหรือแท็กอะไรหรือจะจี้ให้เขียนต่อหาก็เชิญที่แท็ก #ฟิคตรากระต่ายโหด ได้เลยค่ะถ้าคนตามเยอะ+อารมณ์ในการแต่งมาอาจจะมีตอนต่อ ...หรา ???

     

    อ้อนอกจากนี้ขอชี้แจงอีกครั้งหากใครเข้าอ่านแฟนบอยอาจจะงงว่าทำไมต้องปิดกั้นการอ่าน คือเราตั้งใจจะอีดิทคำพูดค่ะเพราะมันพิมพ์ผิดค่อนข้างเยอะ แต่รอบแรกเราสะเพราเองคือเราคิดเอาว่าคนอ่านแฟนบอยจบกันไปแล้วคงไม่มีใครอ่านแล้วหรอกมั้ง...ก็เลยปิดกั้นโดยไม่ชี้แจงอะไรผลปรากฎคนคอมเม้น+ทวิตไปหาว่าเกิดอะไรขึ้น..เลยขอชี้แจงไว้ตรงนี้ว่าหากอีดิทเสร็จเมื่อไหร่จะเปิดให้อ่านกันถ้วนหน้าเช่นเดิมจ้า

     

    ขอบคุณทุกคนที่ยังรอกัน..ขอโทษที่ทำให้ต้องรอ..นะคะ T^T

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×