คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : First : Just Begin
บทที่ 1
ความรู้สึกผิดที่มันเกาะกินในใจ ทำไมมันไม่ช่วยให้พวกเราหยุดทำผิดต่อ.....แฟนของผู้ชายคนนี้สักที
ผู้ชายที่กำลังนอนอยู่ข้างๆ ผมในคอนโดของเขากับแฟนของเขา ....................
มันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่กัน ไอ้ความลับ....ที่ไม่อาจให้ใครรู้ได้อันนี้
...............................................................
ใครๆก็รู้ว่า ผู้ชายที่ชื่อ มาร์ค ต้วน มีแฟนอยู่แล้ว เป็นคู่ที่ใครเห็นก็ว่าเหมาะสม ใครเห็นก็ว่ามันใช่
ผมได้แค่แอบมองพี่เขาอยู่ไกลๆ เวลาเขามาตอนเช้า หรือ ตอนเขากลับบ้านกับแฟนของเขา...พี่จินยอง
พี่มาร์คเป็นคนที่อบอุ่น เวลาเขาอยู่กับพี่จินยองเขาจะอบอุ่น น่ารัก และมีรอยยิ้มอยู่เสมอ
ผมชอบในความอบอุ่นนั้น ผมไม่เคยมีความคิดว่าจะไปแย่ง หรือ ทำอะไร
ผมแค่ชื่นชมในความรักของเขาทั้งคู่ ไอ้ยูคชอบถามผมว่าดูความรักของคนอื่นแล้วมันมีความสุขยังไง
ผมบอกไม่ถูกสิ ผมก็แค่ชอบเพราะได้เห็นรอยยิ้มของผู้ชายผมมแดงคนนี้ละมั้ง
“ไอ้ยูค มรึงจะไปไหนนนนนนนนน มาช่วยขนของไปเก็บห้องศิลปะก่อนเลย”
“กรูขอโทษจริงๆ กรูมีนัด กูรีบ แม่กูโทรมาเร่งยิกๆๆๆๆ แล้วเนี่ย มึงไปเก็บคนเดียวเหอะแบมเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เลี้ยงขนม”
“ไอ้เพื่อนเลววววววววววววววววววววววว กลับมาก่อนนะเว้ยยยย” แต่ไม่ทันแล้วไอ้เพื่อนตัวโย่งมันวิ่งหนีไปไกลแล้ว เหลือแต่ผมกับความซวยของผมที่ต้องขนของไปหมดเนี่ยยยยยยยยย โอ้ยยยยยยม่ายยยยยยยยยยยย ชีวิตของกันต์พิมุก แม่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ผมจึงต้องถืออุปกรณ์ทั้งหมดไปเก็บที่ห้องศิลปะชั้น 4 จริงๆ การที่ต้องถือไปคนเดียวแบบนี้มันก็ไม่อะไรนะครับแต่คือ......ห้องนั้นมันค่อนข้างห่างไกลผู้คนเพราะไว้เก็บของ แล้วตอนนี้มันก็เริ่มเย็นแล้วเพราะวิชาศิลปะปล่อยช้ามากกกก ผมจึงอยากได้เพื่อนสักคนไปด้วยไว้กัน........สสารที่ไม่อาจอธิบายทางวิทยาศาตร์ได้แต่เพื่อนซี้คนเดียวของผมมันกลับทิ้งผมไปหาแม่ แม่พ่อมันนะสิ มันแอบนัดน้องยูอึนเอาไว้ คิดว่าผมไม่รู้รึไงงงฟ่ะ ตูไม่ได้ฟายยยยยยยนะเฟ้ยไอ้ยูค แต่ถึงจะด่ามันแค่ไหน มันก็คงไม่รู้หรอก เพราะฉะนั้นแทนที่จะด่ามันผมว่าผมรีบไปเก็บแล้วจะได้กลับบ้านดีกว่า
“ของแม่งหนักชิบหายใครว่าเบาๆฟ่ะเนี่ยย” ผมบ่นมาเรื่อยจนถึงห้องศิลปะพอเปิดเข้าไปก็ต้องตกใจสุดขีดไม่ใช่เพราะเจอสสารอะไร แต่เจอพี่มาร์คยืนทำเท่อยู่ตรงหน้าต่าง คือสถานการ์ณนี้ผมควรทำไง
1.เดินไปหาพี่มาร์ค แล้วบอกว่าพี่ครับผมแอบปลื้มพี่มานานแล้ว
2.ทำไม่รู้ไม่ชี้เก็บของแล้วก็กลับ
ผมคิดอยู่นานว่าจะเอายังไงจนพี่เขาหันกลับมามองตาของเราสบกัน......ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึหน้าตัวเองแดงแบบนี้ทั้งที่พี่เขาไม่ได้ทำอะไรผมสักนิด ผมเลยแก้เก้อโดยยิ้มให้พี่เขานิดหนึ่งแล้วรีบเอาของไปเก็บ ทั้งที่ผมหันหลังให้พี่เขาแต่ผมกลับรู้สึกว่าสายตาของพี่เขามองไล้ไปทั่วตัวผม ผมเกิดความรู้เขินแบบแปลกๆ จะมองอะไรกันหนักหนา แล้วความซวยก็บังเกิดเมื่อขวดสีที่ผมกำลังจะเก็บมันดันหลุดมือกลิ้งไปตรงกลางห้อง ผมรีบหันไปเก็บมันแต่พี่มาร์คกลับถึงไวกว่าเขาหยิบแล้วเดินตรงมาที่ผม
“ขอบคุณครับ....พี่มาร์ค” ผมขอบคุณที่เขายื่นขวดสีนั้นมาให้
“นายรู้จักฉันเหรอ” เสียงที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ยินใกล้ขนาดนี้ในชีวิตถามผม
“เอ่ออ คือ ใครๆ ในโรงเรียนนี้คงรู้จักพี่อ่ะครับ”
“ไม่ขนาดนั้นมั้ง”
ผมไม่รู้จะตอบอะไรก็เลยหันหลังไปเก็บสีขวดนั้น ในใจคิดแต่ว่ารีบเก็บรีบกลับเถอะว่ะ รู้สึกแปลกๆ แล้วสิ่งที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้นเมื่อพี่มาร์คจับมือผมจากด้านหลังตัวของงพี่มาร์คแนบกับด้านนหลังของผม ลมหายใจของเขาอยู่ใกล้ๆ กับกกหูของผม มือของเขาสัมผัสผมอยู่ ผมตกใจมากจนเผลอปล่อยสีขวดนั้นตก พร้อมกับหันหน้ากลับมาเผชิญคนที่อยู่ด้านหลัง
ตาของเราสบกันอีกครั้งแต่คราวนี้มันใกล้จนผมเห็นว่าข้างในตาพี่เขาสีอะไรเห็นริมฝีปากของพี่เขาผมประหม่าไปหมด “พี่ไม่ต้องช่วยผมเก็บก็ได้ครับ ผมเก็บเองได้พี่จินยองน่าจะรอพี่อยู่ข้างล่างนะครับ พี่ไม่รีบไปหาเหรอ”
“รู้ได้ไงว่าจินยองรอฉันอยู่ที่ไหน”
“พี่กลับบ้านด้วยกันทุกวันใครๆ ก็ต้องรู้อยู่แล้ว”
“เหรอ ไม่ใช่ว่านายแอบมองฉันอยู่ทุกวันเหรอกันต์พิมุก” ชื่อของผมที่หลุดจากปากเขาทำให้ผมสงสัยอย่างแรงเพราะตั้งแต่ผมเข้าโรงเรียนนี้มาเราไม่เคยรู้จักกันเลยและนี้เป็นครั้งแรกที่เราคุยกันและผมก็ไม่ได้แนะนำตัวเองออกไปแล้วผู้ชายคนนี้รู้ได้ไง
“พี่รู้ได้ไง”
“ไม่ยากหรอกมั้ง ก็เห็นนายมองฉันอยู่ทุกวันฉันอยากรู้ชื่อนายบ้างก็ไม่เห็นแปลก”
ผมไม่รู้จะเอ่ยอะไรจริงๆ ทีนี้เขารู้ว่าผมแอบมอง เขารู้ว่าผมชื่ออะไรมีอะไรที่จะน่าตกใจกว่านี้ได้อีกไหม
“ผมขอโทษที่แอบมองพี่กับแฟน ผมแค่ปลื้มพวกพี่พวกพี่น่ารักแค่นั้นเอง วันหลังผมจะไม่มองอีก”
“ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยสักหน่อยอยากมองก็มองสิ แบมแบม” มันคงจะไม่มีอะไรถ้าพี่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อเล่นผมโดยกระซิบข้างหูผมแบบนี้หน้าผมแดงไปหมดผมอยากจะผลักเขาออกแต่ร่างกายกลับไม่ฟังอะไรสักอย่าง
ไม่รู้อะไรดลใจผมให้ทำบ้าๆแบบนั้นกลับพี่มาร์ค เมื่อเขากระซิบมาผมเลยโอบคอพี่มาร์ค
“จริงๆนะ ไม่ว่าอะไรจริงๆใช่ไหมครับ” ผมแค่อยากจะทำให้ผู้ชายตรงหน้าตกใจบ้างเท่านั้นอยากให้เขาผลักผมออกแล้วด่าอะไรสักอย่างแต่เขาก็ยังคงเป็นคนที่ทำให้ผมตกใจกว่า เขาค่อยๆเคลื่อนหน้ามาแล้วพูดกับผมว่า
“อยากเล่นกับไฟเหรอ”
-J-US-T-A-F-F-A-I-R-
“ไม่อ่ะครับผมไม่ชอบยุ่งกับคนมีเจ้าของแล้ว” พูดยังไม่ทันขาดคำเสียงมือถือที่เป็นเสียงร้องของแฟนผู้ชายตรงหน้าก็ดังขึ้น ไม่ต้องบอกเลยว่าใครโทรมา พี่จินยองแน่นอน ผมรีบใช้โอกาสนี้รีบออกมาจากตรงนั้นแล้วเข้าไปเก็บของที่ยังค้างคาอยู่ ผมเหลือของอีกไม่กี่อย่างที่ต้องเก็บส่วนมากเป็นของที่ต้องเข้าไปเก็บในชั้นว่างในสุด เฮ้ออออออรีบๆทำให้เสร็จเถอะ กันต์พิมุก!!!!!!
ผมไม่ได้ตั้งใจแอบฟังนะครับแต่มันได้ยินเอง เห็นพี่เขาคุยกับแฟนว่าอยู่ห้องศิลปะเก็บของอยู่ใกล้ลงไปแหละ แหมมมมมมมมเก็บของอะไรฟ่ะ ตูไม่เห็นพี่ท่านเก็บอะไรสักอย่าง แต่ผมก็ดีใจนะที่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มันทำให้ผมผ่านพ้นเหตุการณ์บ้าบอคอแตกนั่นมาได้ ต้องขอขอบคุณพี่จินยองจริงๆ TT^TT
ในขณะที่ผมกำลังดีใจสุดขีดเพราะเหลือของอีกแค่ชิ้นเดียวแล้วจะได้รีบเผ่นสักทีผมก็รู้สึกว่าแสงมันผ่านมาน้อยลง เลยหันไป เจอพี่มาร์คยืนอยู่ข้างๆผมซะแล้ว ผมคิดว่าพี่ท่านออกไปแล้วนะนั่น
“พี่ยังไม่ไปอีกหรอกครับ”
“ยังแต่กำลังจะ”
“งั้นผมไปก่อนแล้วกัน พอดีเก็บของเสร็จแล้ว” ในขณะที่กำลังจะเดินผ่านผู้ชายผมส้มไปเขาก็คว้ามือของผมไว้ ให้ตายเหอะเหตุการณ์มันคล้ายๆ กับเกิดมาเมื่อกี้นะ ผมบอกกับตัวเองว่ารอบนี้จะไม่เผลอไปสบตาคมคู่นั้นอีก
“ปล่อยผมนะครับ ผมจะกลับแล้ว”
“มองตาฉันสิหลบตาทำไม กลัวเหรอเด็กน้อย”
“ใครว่าผมกลัว” ยังพูดไม่ทันขาดคำผมก็กลับมาสบตาคู่คมคู่นั้นอีกครั้ง มันมีแววประกายเจ้าเล่ห์บางอย่างอยู่ในนั้นผมไม่รู้ตัวเองเลยว่าผมเดินถอยไปจนชนกำแพงเมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีหลังผมก็ชนกับกำแพงห้องซะแล้ว จุดที่ผมอยู่ค่อนข้างเป็นมุมอับเพราะมันอยู่ในสุดของห้องเก็บของถามมีชั้นว่างเป็นล็อกๆ กั้นเอาไว้หากมองผ่านๆคงไม่เห็นว่ามีใครอยู่ตรงนี้
จู่ๆ พี่มาร์คก็ดึงโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง โดยที่สายตาของเขายังไม่ผละไปจากผม ผมได้ยินเสียงคนเรียกชื่อพี่มาร์คจากด้านนอก พี่มาร์คไม่ได้ตกใจอะไรสักนิดต่างจากผมที่ตกใจอย่างแรงเพราะเสียงนั้นเป็นเสียง.......................พี่จินยอง !!!!!!
-J-US-T-A-F-F-A-I-R-
“มาร์ค นายอยู่ไหน เอ๊ะ หรือว่าจะสวนทางกัน มาร์ค มาร์ค มาร์คอยู่ห้องนี้รึเปล่า”
จินยองมองไปทั่วทั้งห้องแต่ก็ไม่เจอคนที่เขาหาจึงโทรศัพท์หาแฟนตัวเอง
“โทรไปก็ไม่รับ หรือว่ามาร์ครออยู่ข้างล่างแล้ว สงสัยสวนทางกันแน่ ๆ ไม่น่าขึ้นมาเลย”
-J-US-T-A-F-F-A-I-R-
เสียงพี่จินยองใกล้เข้ามา แต่แทนที่คนตรงหน้าจะถอยห่างผม เขากลับค่อยๆ ขยับตัวเข้าใกล้ผม จนริมฝีปากของเราแตะกันอย่างแผ่วเบา ผมรู้สึกเหมือนฝันไป จูบที่อ่อนโยน ราวกับพี่เสื้อดูดน้ำหวานจากดอกไม้ที่มันถูกใจ พี่มาร์คค่อยๆแตะ ชิมความหวานจากปาก จนในที่สุดผมก็เผลอริมฝีปากออกเพื่อยอมรับความหวานที่มากกว่านั้น ตอนที่พี่จินยองเปิดเข้ามาจากจูบที่อ่อนหวานก็เริ่มรุนแรงขึ้น เร่าร้อนขึ้น ทั้งที่ผมไม่เคยจูบแบบนี้กับใครมาก่อน แต่กลับทนความเว้าวอนจากผู้ชายตรงหน้าไม่ไหวจนต้องขอชิมความหวานจากริมฝีปากคนตรงหน้าบ้าง สายตาของเราที่สบกันมันทำให้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหายไปหมด ทั้งที่ผู้ชายตรงหน้ามีแฟนแล้ว แต่ผมกลับลืมไปชั่วขณะนั้นเพราะในสายตาของเขามีแต่ผม และ ในสายตาของผมก็มีแต่เขา
มือของพี่มาร์คที่ตอนแรกประคองใบหน้าของผมค่อยๆ เลื่อนลงเข้าไปในสาบเสื้อ ผมรีบเผลอจับมือพี่เขาไว้ มันไม่ควรจะเกินเลยไปกว่านี้ โดยที่แฟนของผู้ชายคนนี้อยู่ไม่ห่างจากเราเกิน 2 เมตรแบบนี้ ใจของผมเต้นระรัว ผมเริ่มคิดได้ว่านี่มันไม่ใช่เรื่องที่ดีสักนิด
พี่จินยองเดินออกไปแล้วแต่จูบของผมกับพี่มาร์คกลับไม่หยุดอยู่แค่นั้น ผมที่เริ่มรู้ตัวเต็มที่จึงเหยียบเท้าพี่มาร์คไปเต็มแรงให้เขาถอยห่างออกจาก
“พี่มันเลว แฟนพี่อยู่ห่างจากเรานิดเดียวตอนที่เราทำเรื่องบ้าแบบนั้นกัน”
“ฉันเลว งั้นนายก็คงไม่ต่างเพราะนายไม่ได้ทำอะไรสักอย่างให้ที่ทำให้ฉันหยุด” เขายิ้มให้ผมอย่างเป็นต่อ
“ผมยอมรับว่าผมเลว แต่ขอร้องเถอะให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าพี่อยากสนุกลับหลังแฟนไปหาคนอื่นเถอะ ผมไม่อยากตกนรกไปกับพี่”
“555+ ตกนรกไม่มั้ง เมื่อกี้ฉันว่าเราออกจะมีความสุขกัน ถ้าต้องตกนรกเพราะความรู้สึกดีแบบนั้นฉันยอมตกกับนายกันต์พิมุก”
“พี่มันบ้า ผมไม่อยากคุยกับพี่แล้วหลบไปผมจะกลับบ้าน”
“อย่าเพิ่ง ขอโทรศัพท์หน่อย เมื่อกี้เผลอปิดเสียง จู่ๆก็ไม่มีสัญญาณ ขอโทรเข้ามือถือตัวเองอีกสักรอบ
-J-US-T-A-F-F-A-I-R-
ผมอยากกลับบ้านเต็มแก่เลยรีบให้ไป เมื่อผมได้โทรศัพท์คืนผมก็รีบวิ่งออกจากห้องแล้วตรงกลับบ้านทันที ผมอยากกลับไปนอนบนเตียงและทิ้งเรื่องบ้าๆที่เกิดขึ้นวันนี้ไว้ที่โรงเรียน ผมไม่อยากไปนึกถึงรสจูบที่แสนหวานนั้นแต่ยิ่งพยายามห้ามตัวเองไม่ต้องคิด มันก็ยิ่งคิด นายต้องลืมมันซะแบมแบม พี่มาร์คเขาแค่สนุกๆกับนายเท่านั้นแหละ
1 Step & 2 Step Girl
Everybody wanna makes that noize
ใครโทรมาตอน เกือบเที่ยงคืนฟ่ะเนี่ย คนยิ่งนอนไม่หลับอยู่ผมจึงรับกะว่าจะด่ากลับไปเต็มทีว่าไม่รู้รึไงว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้ว แต่ยังไม่ทันจะด่าเสียงของคนที่ทำให้ผมนอนไม่หลับกลับทำให้ผมตื่นเต็มตาเลย
“ฮัลโหล เป็นเด็กเป็นเล็กนอนดึกไม่ดีนะ”
“ขอโทษนะครับคุณโทรผิดแล้ว ที่นี่ไม่มีเด็กน้อย”
“ไม่ใช่ว่าเอาแต่คิดถึงจูบของเราจนไม่หลับหรอกนะแบมแบม” บอกว่าโทรผิด คุณพี่ท่านยังจะคุยต่ออีกฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไงฟ่ะ
“พี่มีอะไร ทำไมไม่โทรหาแฟนพี่นู้น”
“จินยองนอนหลับอยู่บนเตียงฉันนี่แหละ แต่พอด๊ฉันคิดถึงรสจูบของนายจนทนไม่ไหวเลยต้องหนีแฟนออกมาคุยนอกระเบียง”
“พี่ไม่ต้องบรรยายขนาดนั้นก็ได้ ผมไม่อยากรู้ พี่มีอะไรพูดมาเหอะผมจะนอนแล้ว ง่วง”
“หึงรึไง”
“บ้า ใครจะไปหึงพี่ ถ้าพี่ไม่มีอะไรผมจะว่างแล้วนะ”
“แบมแบม นายกำลังทำให้พี่เป็นบ้า รู้ไหม ตั้งแต่ที่เราจูบกันพี่ยังจำความหวานของจูบเราได้อยู่เลย วันนี้ที่พี่จูบจินยองพี่ก็เอาแค่คิดถึงนาย”
“พี่ตอแหล เก่งเนอะ ใช้มุกนี้บ่อยล่ะสิ มิน่าสาวๆเลยติดพี่กันตรึม สงสารแฟนพี่บ้างเหอะว่ะ ทุเรศ”
“นายจะบอกว่านายไม่ใจเต้นเลยตอนที่จูบกับฉัน นายจะบอกว่านายไม่มีความรู้สึกอะไรเลยตอนที่เราสบตากัน นายกล้าพูดไม่ล่ะ ว่าไม่ชอบฉันสักนิด”
“ผมยอมรับว่าผมปลื้มพี่มานานแต่ผมไม่เคยคิดอยากได้พี่เป็นแฟนสักครั้ง สาบาน”
“งั้นเรามาแลกเปลี่ยนกันไหม พี่จะให้อะไรก็ได้ที่นายอยากได้ 3 อย่างแลกกับความสัมพันธ์ลับๆ ของเรา”
“ถ้าผมขอบ้าน ขอรถ พี่ก็มีปัญญาให้ผมว่างั้น”
“บ้านคงให้ไม่ได้ แต่ถ้าคอนโดกับรถบอกมาเลยไม่เกินอาทิตย์หน้าได้”
“รวยเนอะ แต่เสียใจผมไม่เอา ผมมีแต่เสียกับเสีย พี่มีแต่ได้กับได้”
“หรือว่านายไม่กล้า”
“พี่ลองบอกเหตุผลสักสามข้อที่ทำให้ผมอยากเล่นดูไหมละ”
“1.นายจะได้ใกล้ชิดกับฉันอย่างที่ไม่เคยมีใครได้นอกจากจินยอง
2.ได้ยินมาว่านายอยากเข้าชมรมเต้น ฉันสามารถทำให้นายเข้าได้
3. เราต่างวินวินฉันให้นายอะไรก็ได้อีกตั้ง 3 ข้อและนายก็ไม่ใช่ผู้หญิงนายไม่เสียหายอะไรสักหน่อย”
“ตอนแรกผมคิดว่าพี่เลวนะ แต่จริงๆพี่ชั่วเลยมากกว่าผมมี 3 เหตุผลที่อยากปฎิเสธ
1.พี่คิดว่าพี่วิเศษขนาดไหนจนผมต้องอยู่ใกล้ วันนี้พี่ทำให้ความศรัทธาของผมที่มีต่อพี่มันย่อยยับไปหมดแล้ว
2.ถ้าเข้าชมรมเพราะเป็นเด็กเส้นผมไม่ต้องการ ผมเชื่อว่าถึงไม่ต้องใช้ใบบุญพี่ผมก็เข้าได้
3.ผมอาจจะไม่เสียหายเท่าผู้หญิง แต่ผมก็มีหัวใจ”
“...........................................................................................”
“ผมว่างแล้วนะและอย่าโทรมาอีก”
“นายไม่รู้สึกว่าแค่การเรียน อยู่กับเพื่อน หรือ มีแฟน ทำแบบเดิมทุกๆวันเป็นเรื่องน่าเบื่อเหรอ สำหรับฉันมันน่าเบื่อมาก”
“พี่มีปัญหาอะไรกับแฟนพี่รึเปล่า”
“ไม่มีหรอก แต่ฉันแค่อยากหาอะไรทำแก้เซ็ง ฉันไม่ได้โกหกหรอกนะที่ตอนแรกพูดว่าคิดถึงแต่รสจูบของนาย และ ฉันสาบานด้วยว่าฉันไม่เคยใช้มุกนี่จีบหญิง”
“ทำไมต้องเป็นผม จริงๆระดับพี่จะเป็นใครก็ได้”
“ไม่รู้สิ แค่ตั้งแต่ที่เราสบตากันฉันก็คิดว่าต้องเป็นนาย แค่นายคนเดียวกันต์พิมุก”
“.......................ผมตกลง......................แต่เรื่องนี้ต้องเป็นความลับนะ และผมขอไอ้อะไรก็ได้ 3 อย่างจากพี่ด้วย ผมมันโง่ชะมัดที่ตอบตกลง”
“ได้ แต่ 3 อย่างนั้นต้องไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับจินยองนะ ถ้านายทำอะไรให้จินยองสงสัยความสัมพันธ์ของเรา เรื่องของเราเป็นอันจบ”
“พี่เห็นแก่ตัวดีเนอะ ถ้าพี่แคร์พี่จินยองจริงๆ พี่ไม่ควรโทรหาผมด้วยซ้ำแต่ผมให้สัญญาเลยก็ได้ว่าผมจะไม่ทำให้พี่จินยองสงสัยเรื่องของเรา ผมไม่มีหน้าไปให้เขารู้หรอกว่าตัวเองเป็นคนคลายเหงาให้แฟนเขา”
“อย่าพูดแบบนั้น นายไม่ใช่แค่คนคลายเหงาสำหรับฉันหรอกนะ”
“แล้วระหว่างเรามันควรจะเรียกอะไรไม่ทราบ....ชู้เหรอ ยิ่งแย่นักเลย”
“รุ่นน้องที่สนิทกัน พี่จะให้นายอยู่ตำแหน่งนั้น”
“พี่มีกฎของพี่ ผมก็มีกฎของผม กฎของผมคือ.........................อย่าเผลอรักผม เมื่อไหร่ที่พี่รักผม เรื่องของเราเป็นอันจบ ตกลงนะ”
-------------- See Me on Next Ep.-------------
Talk
อยากแอบเม้นเชิญในนี้ค่ะ หรือ อยากไปเวิ่นในทวิตเชิญติดแท็ก #ฟิคแอบมาร์คแบม ได้นะคะ หุหุหุ
เราจะแอบไปส่อง ตามคอนนเซปของเรื่องไม่แอบไม่มันนะจ้ะ
ความคิดเห็น