คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : #วซดล : บทที่ 11
Eleven
ผมรู้สึกว่าผมเป็นหนักกว่าที่ผมคิดแล้วล่ะ เพราะมันปวดมากจนตัวผมเริ่มงอ ผมรู้สึกไม่โอเคมากๆ พี่มาร์คดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“แบม แบมปวดมากเหรอ”
“แบมคิดว่าแบมโอเค”
“หน้าแบมดูซีดมากยังบอกว่าโอเคอีกเหรอ”
“ไม่ขนาดนั้นมั้งครับ แบมว่าหน้าแบมยังอมชมพูอยู่นะ”
“ปากยังซีดเลย บอกหน้าอมชมพูได้ไง”
“พี่มาร์คกวนตีนเหรอ”
“พี่ว่าแบมต่างหากที่กวน อีกนิดก็จะถึงแล้วอดทนไว้นะ”
“แบมว่าถ้าพี่มาร์คไม่กวนแบมจะช่วยแบมได้มากอ่ะ”
“แบมแบม” เสียงพี่มาร์คดูโหดขึ้นมานิดๆ พอถึงโรงพยาบาลผมก็ค่อยๆลุกออกจากรถ มีพยาบาลและบุรุษพยาบาลประคองผม ผมถึงขั้นกับต้องนั่งรถเข็นเพราะถ้าให้ยืนเองตอนนี้ผมก็คงจะต้องล้มไปกับพื้นแน่ๆ นางพยาบาลเข็นผมเข้าห้องฉุกเฉินไปหาหมอ พี่มาร์คต้องเอารถไปเก็บก่อนจึงค่อยเดินมาหาผมที่ห้องหมอ
หมอสอบถามอาการของผมพร้อมกับตรวจร่างกาย ตอนที่หมอตรวจท้องผมพี่มาร์คก็เดินเข้ามาในห้องหมอพอดี
“หมอครับแบมเป็นอะไรไหมครับ”
“น่าจะลำไส้อักเสบครับ แต่เห็นคนไข้บอกว่ายังไม่อาเจียนใช่ไหม ถือว่าโอเคอยู่” พอหมอบอกว่าไม่อาเจียนเท่านั้นแหละ ผมรู้สึกอยากอ้วกออกมาทันที สงสัยคราวนี้คงจะไม่โอแล้วสินะ
“เอ่อ...”หมอดูตกใจที่จู่ๆผมก็อ้วกออกมา แบบนี้ แต่คือมันทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมเลยอ้วกออกมาหมดไส้หมดพุง พยาบาลรีบเอาถุงมาให้ผมแทบไม่ทัน
“ผมว่าแบบนี้ไม่โอแล้วครับ คงต้องแอดมิดอย่างเดียวแล้วเพราะถ้าไม่แอดมิดถึงกลับบ้านไปก็คงกินอะไรไม่ได้ร่างกายจะอ่อนเพลีย เพราะฉะนั้นนอนให้น้ำเกลือและยาที่โรงพยาบาลเลยดีกว่า”
พี่มาร์ครีบเดินเข้ามาจับมือผม “พี่จะอยู่กับแบมไม่ต้องกังวลนะ”
“พี่มาร์คอย่าทิ้งแบมนะแบมไม่ชอบโรงพยาบาล”
“อืมพี่สัญญา จะไม่ทิ้งแบมคนเดียวแน่ๆ”
ผมไม่ชอบที่จะต้องอยู่โรงพยาบาล ไม่ชอบกลิ่นโรงพยาบาล และเกลียดที่ต้องอยู่คนเดียวให้ห้องขาวๆคนเดียว ไม่ชอบมากๆ ถ้าไม่ถึงกับป่วยหนักจริๆ ยังไงก็ไม่นอนเด็ดขาดโรงพยาบาล แต่มือของพี่มาร์คที่กุมผมเอาไว้ตอนนี้มันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นและไม่กลัวอะไรอีกแล้ว
ถ้าป่วยแล้วพี่มาร์คจะแคร์ผมขนาดนี้ ผมขอป่วยบ่อยๆ เลยได้ไหม
O………….N………….E…………..S……….I………….D…………..E…………D
อาการผมมันไม่โอเคอย่างที่หมอบอกจริงๆครับ เพราะผมรู้สึกอยากอ้วกแล้ะเข้าห้องน้ำตลอดไป ผมจำไม่ได้ว่าเข้าห้องน้ำรอบที่ 4 หรือ รอบที่ 5 ผมก็เริ่มหมดแรง คือมันเหมือนไม่มีแรงอะไรแล้วในร่างกายของผม เพราะทุกอย่างที่กินมันออกมาไม่ว่าจะทางปากหรือทางข้างล่าง
ที่น่าร้องไห้คือถึงผมจะเข้าห้องน้ำก็ต้องลากน้ำเกลือไปด้วย โคตรทรมาน พี่มาร์คบอกว่าให้พี่ช่วยไหม แต่จะช่วยอะไรละ ผมก็อายนะครับเพราะผมก็เข้าห้องน้ำไปครุคริ แล้ว คือจะให้พี่มาร์คคอยยืนมองและดมมันก็ไม่ใช่ และผมก็มียางอายพอครับ เลยบอกไม่เป็นไรผมไหวผมบอกทั้งน้ำตาอ่ะจริงๆๆ =[]=
ทุกครั้งที่ผมกลับมานอนเตียงพี่มาร์คก็จะคอยจับมือให้กำลังใจผมอยู่เสมอๆ อาจจะเพราะผมเพลียมากด้วย สุดท้ายเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แต่ถึงผมจะหลับก็ยังสัมผัดได้ถึงความอบอุ่นที่พี่มาร์คคอยจับมือผมเสมอ ให้ตายเถอะผมชอบช่วงเวลานี้จัง
เสียงของคุยกันทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งที่เหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรแล้ว
“แบมตื่นแล้ว แบมน่าจะนอนเยอะนะๆ แบมเป็นไรรึเปล่าพี่หวังเป็นห่วงมาก” เสียงพี่นั่นแหละที่ทำผมตื่น
“เสียงพี่แจ็คสันทำผมตื่น” ทุกคนในห้องหัวเราะกันฮาเลยคราวนี้ ผมเลยลืมเต็มตาเห็นพี่ผู้จัดการ เห็นเมมเบอร์คนอื่นที่นั่งอยู่ในห้อง พี่จินยองเดินมาที่เตียงและลูบหัวผมเบาๆ
“ดีขึ้นยังพวกพี่ตกใจหมดเลยตอนที่ไอ้บีมันบอกว่าแบมปวดท้องจนต้องเข้าโรงพยาบาล”
“ดีขึ้นแล้วฮะแต่ยังไม่ค่อยมีแรง” ผมรู้สึกว่าหิวน้ำอย่างแรง
“เอาไอ้เตี้ย ดื่มซะน้ำเกลือแร่ถ่ายไปเยอะหนิ” ไอ้ยูคยังคงกวนตีนผมทั้งที่ผมป่วย แต่ก็ขอบใจที่มันเป็นคนเอาน้ำมาให้ผมแต่พอผมจะเอามือไปหยิบแก้วน้ำผมดันรู้สึกตัวว่า มือสองข้างของผมมีคนจับเอาไว้ทั้งคู่ทั้งพี่เจบีและพี่มาร์ค
“ปล่อยมือไอ้แบมสักคนดีไหม มันจะได้กินน้ำ” เสียงพี่แจ็คสันทำเอา 2 คนที่กุมมือผมรีบปล่อยเลยทั้งคู่ทำเอาบรรยากาศดูแปลกๆไปนิดๆ
“ขอบใจนะมึง” ผมรีบเอามือ 2 ข้างไปจับแก้วน้ำเพราะถ้าใช้มือข้างเดียวของที่ใครจับไว้ก่อนมันก็ดูแปลกๆ นิดๆและตอนนี้แค่ข้างเดียวของผมก็เหมือนจะไม่มีแรง
“ไปกินไรมาแบมถึงลำไส้อักเสบแบบนี้” พี่ยองแจถามผมขึ้นมา
“ไม่รู้อ่ะพี่เมื่อวานก็กินแม็คตอนเย็นแค่นั้นเองนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรทำให้เป็นแบบนี้”
“วันหลังต้องระวังนะครับแบม” พี่เจบีเอามือมาลูบหัวพร้อมส่งรอยยิ้มให้ผม
“ขอโทษนะครับ ที่ทำให้ทุกคนลำบบาก”
“ขอโทษอะไรกันคนจะป่วยจะให้ทำไง” พี่ผู้จัดการก็พูดแทรกขึ้นมา แล้ววพวกเราก็คุยกัน แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าเหนื่อยกว่าปกติเลยไม่ร่าเริงเหมือนปกติ
“แล้วคืนนี้ใครจะเฝ้าแบม” เสียงพี่ยองแจถามขึ้นเมื่อเห็นว่าผมต้องการพักผ่อน
“เราเอง” 3 เสียงจากพี่มาร์ค พี่เจบี และไอ้ยูค
“มาร์คกับแจบอมจะเฝ้าน้องได้ไงพรุ่งนี้มีงาน ให้ยูคยอมเฝ้าแล้วกัน” เสียงพี่ผู้จัดการเป็นการสิ้นสุดว่าใครจะเป็นคนดูผม
“ผมเฝ้าก็ได้ครับแล้วพรุ่งนี้ค่อยไปงานผมสงสารมักเน่ถ้ามันต้องมานอน ตัวมันก็สูง นอนโซฟาลำบากแย่” พี่มาร์คพูดซะดูเป็นพระเอกขึ้นมา
“นั่นสิครับเป็นผมก็ได้ มาร์คนายก็เฝ้าแบมตั้งแต่บ่ายแล้วกลับบ้านไปพักเถอะ”
“เอางี้ไม่ต้องแย่งกัน ผมเฝ้าน้องเอง ตัวผมไม่สูงมากนอนโซฟาได้ไม่ต้องมีปัญหา พรุ่งนี้ก็ไม่มีงาน ทั้งนายทั้งมาร์ควันนี้ก็ออกไปข้างนอกทั้งวันคงจะเหนื่อยแล้วพรุ่งนี้ก็งานด้วย เดี๋ยวจะพากันป่วยไปอีกคนฉันเฝ้าเอง เดี๋ยวพี่ดูแลแบมเองโอเคนะครับแบม”
“โอเคครับพี่จูเนียร์เนี่ยแหละดีที่สุดแล้ว ผมรักพี่จัง” แล้วผมก็หันไปกอดเอวพี่จูเนียร์ พี่จูเนียร์ก็ลูบหัวผมเอาเบาๆเหมือนลิงกอดแม่ลิงเลยครับภาพแบบนี้
ความสงบกลับมาคืนห้องพักของผมอีกครั้ง ที่โรงพยาบาลมีชุดสำหรับคนเฝ้าห้องด้วยเลยไม่จำเป็นต้องไปกลับไปเอาเสื้อใหม่มาให้พี่จินยอง
ผมเพลียมากก็เลยเผลอหลับไปจนเช้า ตื่นอีกทีก็ตอนที่นางพยาบาลมาสะกิดผมเพราะเขาจะเช็ดตัวให้ ผมเลยเห็นว่าพี่จินยองก็ตื่นแล้วพร้อมกับส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจมาให้ เมื่อนางพยาบาลเช็ดตัวให้ผมเขาก็บอกว่าเดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงจะมีอาหารมาเสริฟ ดีมากเลยครับเพราะผมหิวมากตอนนี้
“ดีขึ้นรึยังแบมแบม”
“ดีขึ้นแล้วครับ รู้สึกโอเคขึ้นกว่าเมื่อวานแต่ก็ยังไม่ค่อยมีแรงสงสัยเพราะยังไม่ได้กินอะไรเข้าไปเลย”
“ดีแล้วเมื่อวานแบมหน้าซีดมากเลยตอนกลางคืนก่อนพี่หลับพี่ก็จับตัวแบม แบมก็ตัวอุ่นๆ เหมือนจะมีไข้นิดๆ”
“เหรอครับ ผมไม่รู้ตัวเลย”
“ยังไงวันนี้ก็พักผ่อนเยอะๆนะ พวกพี่เป็นห่วง”
“ขอบคุณมากนะครับพี่จินยอง พี่จินยองเหมาะแก่การเป็นออมม่าของพวกเราจริง”
“มีไรก็ปรึกษาพี่ได้ แบมก็เหมือนน้องของพี่คนหนึ่ง”
“สัญญาเลยครับถ้าผมมีปัญหาเมื่อไหร่ผมจะปรึกษาพี่คนแรกเลย”
“แบม พี่ถามอะไรอย่างดิ คือถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไรนะแต่แค่อยากให้แบมรู้ว่าพี่เป็นห่วงจริงๆ”
“ถามมาสิครับ”
“แบมชอบมาร์คเหรอ” คำถามนี้ของพี่จินยองพาผมน็อคเอาท์จริงๆ
“พี่รู้ได้ยังไงครับ มันเห็นได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ไม่หรอกแบมเก็บอาการเก่งพี่ไม่รู้หรอกจนกระทั่งช่วงนี้ พี่เห็นแบมจะเศร้าทุกครั้งเวลาที่มาร์คเค้าไลน์หรือดทรกับเพื่อนแบม หน้าแบมมันจะเจ็บปวดมากๆ พี่ก็เลยเดาเอา”
“พี่ไม่รังเกียจผมเหรอ ผมชอบพี่มาร์คเลยนะครับ”
“ไม่ยังไงแบมก็น้องพี่แล้วอีกอย่างเรื่องแบบนีมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร”
“ถ้าเลือกได้ผมก็ไม่อยากรักพี่มาร์คครับ มันเศร้าเพราะไม่มีทางเป็นจริง ผมยินดีนะครับถ้าพี่มาร์คเขาจะคบกับลลิสแต่ถึงยังไงผมก็อดเจ็บที่หัวใจไม่ได้ เวลาที่เห็นพี่มาร์คเขาแคร์ลลิสมากกว่า เวลาเห็นว่าในสายตาของพี่มาร์คไม่มีผมเลย ผมก็พยายามเตือนตัวเองอยู่ว่าการที่ได้เป็นน้องของพี่มาร์คมันก็น่าจะพอแล้ว พอแล้วสำหรับผม”
“แบมบางครั้งถ้าไม่ชอบไม่ถูกใจก็แสดงออกมาบ้างก็ได้ อย่าเก็บไว้กับตัวเองคนเดียวเพราะคนเรามีขีดจำกัดของตัวเองถ้าวันหนึ่งทนไม่ไหวมันจะระเบิดออกมาเพราะฉะนั้นตามใจตัวเองบ้าง ดื้อบ้างไม่เป็นไรหรอกนะ” แล้วพี่จินยองก็กอดผม
ไม่รู้ว่าทำไมน้ำตาของผมมันถึงไหลไม่หยุด ผมร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งอ้อมแขนของพี่จินยองวันนี้มันอบอุ่นไปจนถึงหัวใจของผม
ที่ผ่านมาผมอาจจะทำเหมือนไม่แคร์ ที่ผ่านมาผมอาจจะทำเป็นลืมจูบที่รุนแรงและอบอุ่นของพี่มาร์คในวันนั้นได้ แต่จริงๆ แล้วไม่เลย จูบนั้นทำให้ผมรู้สึกตัวว่าผมรักพี่มาร์คจริงๆ ห่วงแหนพี่มาร์คจริงๆ ผมไม่อยากให้พี่มาร์คจูบใคร ผมไม่อยากให้พี่มาร์คมองใคร ผมแค่อยากให้พี่มาร์คมมองเห็นแค่ผม จูบนั้นมันไม่ใช่แค่จูบที่ริมฝีปากแต่มันฝั่งเข้าไปที่หัวใจ
ถ้าพี่มาร์คไม่จูบผม......ผมคงไม่รู้สึกว่าตัวเองรักผู้ชายคนนั้นแค่ไหน
“แบมพูดกับพี่ได้ พี่สัญญาว่าจะไม่บอกใคร อย่าเก็บมันไว้ที่ตัวเองเลยนะ แบมก็ตัวแค่นี้อย่ารับอะไรที่เกินไปคนเดียวเลยนะพี่เป็นห่วงแบมนะ”
“พี่จินยอง ฮือออ ขอบคุณครับ” ผมต้องการใครสักคนจริงๆ ต้องการใครสักคนที่สามารถรับฟังผมได้ ไม่จำเป็นต้องช่วยอะไรผม แค่รับฟังผม อยู่ข้างๆผม คอยจับมือของผมในวันที่ผมต้องมองพี่มาร์คจากไปแค่นั้นก็คงช่วยผมได้มากแล้ว พี่จินยองขอบคุณครับ ขอบคุณจริงๆ
O………….N………….E…………..S……….I………….D…………..E…………D
เมื่อนางพยาบาลเดินเข้ามาเห็นว่าหน้าตาของผมเต็มไปด้วยน้ำตา พี่นางพยาบาลก็รีบเดินเข้ามาจับตัวผมทันที คงคิดว่าผมไม่สบายหนักมาก แต่เปล่าเลยถึงร่างกายผมมันอาจจะเจ็บอยู่ยังไม่หายดี แต่หัวใจของผมมันกำลังได้รับการเยียวยา เยียวยาจากพี่จินยอง
ความรักความลับที่ผมรักพี่มาร์คมันเหมือนเป็นเหมือนอุโมงค์ความมืดของผม ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไงหรือเดินไปทางไหน แต่การที่พี่จินยองถามผมครั้งนี้ ผมรู้สึกเหมือนมีคนคอยจับมือผมเอาไว้ ถึงทางมันจะยังมืดเหมือนเดิมแต่ก็มีคนที่ผมคอยปรึกษาได้ พูดได้
พี่จินยองไม่ได้พูดอะไรในเรื่องนี้อีก เราคุยกันในเรื่องอื่นๆ แต่ผมรู้ดีว่าระยะห่างของผมกับพี่จินยองมันเปลี่ยนไปแล้ว ผมรู้สึกดีขึ้นมากแต่หมอก็ยังห้ามผมกลับหมอบอกว่ากว่าจะให้กลับได้คงต้องอีก 2 วันนู้นแหละ พี่ผู้จัดการเลยบอกผมว่าเอาเถอะถือว่าพักร้อน พี่จูเนียร์กลับไปในช่วงบ่ายเพระวันพรุ่งนี้ต้องมีงาน พี่ผู้จัดการเลยเป็นคนเฝ้าผมตลอดบ่าย ผมเช็คอินสตาแกรมจนตาแฉะ ไลค์รูปแฟนคลับจนปวดมือ จนพี่แจ็คสัน ยูคยอม และพี่ยองแจเคาะเข้าพร้อมมกับผมไม้ ว้าววววววว แบมอยากกินแต่...........
“พี่หมอห้ามแบมกินนมกับผลไม้นะช่วงนี้ ไม่งั้นครุคริอีกชัวร์"
“พี่บอกเหรอว่าซื้อมาให้แบม พี่ซื้อมากินเอง” เออะ พี่แจ็คสันกวนผมใช่ป่ะ
“พี่แจ็คสัน” -*-
“กินไม่ได้เสียดายของแย่ มะเดี๋ยวเรากินให้เองนะเตี้ย” ยูคยอมกวนผมอีกคน
“พี่ยองแจดูสองนี้ดิ แกล้งแบม”
“อย่าแกล้งแบมมัน ดูหน้าเป็นตูดแล้ว” แม้แต่พี่ยองแจก็แกล้งผม ใช่สิผมป่วย ผมทำอะไรก็แพ้หมดอ่ะ
“อย่าแกล้งน้องพวกนี้หนิ เฝ้าแบมกันก่อนนะ เดี๋ยวพี่ต้องเข้าหอก่อน” พี่ผู้จัดการไม่อยู่แบบนี้ แบมโดนแกล้งแหงเลย T^T
“ครับ” สามเสียงแข็งขันตอบรับคำของพี่ผู้จัดการ
หลังจากพี่ผู้จัดการออกไปสักพักเสียงมือถือของพี่แจ็คสันก็ดังขึ้น
“อืม พี่เขาไปแล้วในห้องเหลือแค่พวกกูเนี่ยแหละ” ใครโทรมาหว่า ?? พี่แจ็คสันมองหน้าผมนิดแล้วก็ยิ้มให้ผม
“เดี๋ยวไอ้มาร์คมา มีเซอร์ไพรส์เอ็งด้วย”
“อะไรอ่ะพี่” ยูคยอมมึงต้องยุ่งทุกเรื่องเลยสินะ หลังจากนั้นก็มีเสียงเคาะประตู พร้อมกับมีคนเดินเข้ามา
“แบม พี่พาคนมาเยี่ยม” เสียงพี่มาร์คที่เปิดประตูเข้ามาทำให้พวกผมหันกันไปมองเป็นตาเดียวว่าใครที่เป็นเซอร์ไพรส์ของพี่มาร์ค
เซอร์ไพรส์จริงอ่ะแหละๆ พี่มาร์คพาลลิสมาเยี่ยมผม !!!!
O………….N………….E…………..S……….I………….D…………..E…………D
หุหุหุหุ #วซดล มาแล้วววววว
ยังไม่ได้เช็คคำผิดเลยยยย เดี๋ยวกลับมาเช็คอีกที
ขอโทษทีลงช้านะคะ TT__TT
ไรเตอร์เพิ่งถึงบ้านงานเยอะเท่าโลกกกกก
ความคิดเห็น