คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : 12th : Truth [Junior's Part] 100%
-J-U-S-T-A-F-F-A-I-R-
ตอน 12 Junior’s Part
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมได้กลิ่นน้ำหอมแบบนี้ในรถแฟนผม กลิ่นน้ำหอมเบาๆ อ่อนๆ ที่ถ้าหากไม่เคยได้กลิ่นมาก่อนก็คงไม่ติดใจอะไร แต่กลิ่นนี้ผมเคยได้กลิ่นจากทั้งที่เสื้อของแฟนผมเอง หรือ แม้แต่บางครั้งเวลาที่เรากอดกันมันก็จะมีกลิ่นน้ำหอมนี้ที่ทำให้ผมอยากถามมาร์คว่า เจ้าของกลิ่นน้ำหอมนี้คือใคร มาร์คไปทำอะไรกับเขามาถึงมีกลิ่นติดมาด้วยขนาดนี้
ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยสงสัยว่าทำไมเดี๋ยวนี้แฟนผมแปลกไป เขามีเวลาให้ผมน้อยลง ปกติถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะมาอยู่กับผมตั้งแต่วันเสาร์ แต่เดี๋ยวนี้ ทุกวันเสาร์กลับอ้างว่าต้องกลับบ้านแม่ บ้านแม่มาร์คมีคนใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ด้วยเหรอไง กลิ่นที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ใช่น้ำหอมผู้หญิง ถ้าบอกว่าเป็นกลิ่นน้ำหอมพ่อหรือน้องชายมันควรจะเชื่อเหรอ.....?
ทุกครั้งที่เขาอ้างว่าไม่ว่าง หลายครั้งที่เขาจะกลับมาพร้อมกลิ่นน้ำหอมแบบนี้ กลิ่นน้ำหอมเย็นๆ ที่บาดใจผมทุกครั้งไป มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมถึงกับได้กลิ่นน้ำหอมแบบนี้จากเตียงของแฟนผม น้ำตาผมมันเหมือนอยากจะไหลลงมา ผมอยากจะถามมาร์คว่าทำไม ทำไมมาร์คถึงทำกับผมแบบนี้
แต่ผม..................ไม่กล้าพอที่จะถาม
เพราะผมเองก็มีเรื่องทำผิดต่อมาร์ค
หลายครั้งที่ผมอยากจะถามมาร์คว่า เรายังรักกันเหมือนเดิมไหม แต่ก็พูดไม่ออกเพราะสายตาของมาร์คที่มองผมมันไม่เคยต่างจากเดิมที่มาร์คเคยมอง
ถึงมาร์คจะแอบมีคนอื่นแต่ผมก็ยังรู้สึกได้ว่าเขายังคงให้ความสำคัญกับผมเสมอ ทุกครั้งที่ผมโทรหาขอร้องให้เขามาเขาก็จะมาตามที่ผมขอ แต่ไม่รู้ทำไมผมกลับรู้สึกว่า ความสุขของมาร์คที่เคยเกิดขึ้นเพราะผมมันดูลดลงจากแต่ก่อน
“มาร์คไปดูหนังกันไหม”
“ได้สิ จินยองอยากดูเรื่องอะไร”
“Sad Movie อ่ะ เห็นมีคนบอกสนุกมาก ซึ้งด้วย”
“เราบังเอิญไปดูเรื่องนั้นมาแล้ว”
“มาร์คไปดูกับใคร กับแม่เหรอ?” มันไม่มีคำโกหกอื่นที่ดีกว่านี้อีกแล้วเหรอมาร์คต้วน
“ประมาณนั้น” แล้วมาร์คก็หลบสายตาผม ถ้าไปดูกับแม่จริงทำไมต้องหลบตาเวลาที่พูดกับผม
“งั้นเราไปกินข้าวกันเถอะ” ผมไม่อยากฟังเรื่องราวโกหกอะไรทั้งนั้นพอเถอะพอสักที
“เราไปกินที่ .... ดีไหม”
“ได้” ทำไมเราถึงต้องไปกินกันไกลขนาดนั้นทั้งที่ขับไปอีกไม่ถึง 5 กิโลเมตรก็จะถึงห้างอีกแห่งหนึ่งที่ใหญ่ไม่แพ้กัน
-J-U-S-T-A-F-F-A-I-R-
“อาหารร้านนี้อร่อยดี เสียดายเราไม่เคยกินกันมาก่อน” ผมรู้สึกว่าอาหารมื้อนี้ทำให้ผมอิ่มทั้งท้องและอิ่มทิ้งใจ มาร์คเอาใจใส่ผมเหมือนที่ผมเคยได้รับมา ผมรู้สึกดีจริงๆ
“อืม เรามากินกับเพื่อนครั้ง 2 ครั้งแล้ว”
“ร้านนี้อร่อยนะเว้ย กรูกล้ารับประกันกินมาครั้ง 2 ครั้งแหละ” เสียงคุ้นหูที่ทำให้ผมหันไปมองพวกน้องแบมกับน้องยูคนั่นเอง โลกมันกลมไปไหมที่เจอพวกน้องเขาในวันแบบนี้
“น้องแบม น้องยูค มานั่งกินด้วยกันสิ”
“อ้าว สวัสดีครับพี่จินยอง สวัสดีครับพี่มาร์ค” น้องยูคทักทายอย่างอารมณ์ดีผิดกับน้องแบมทีตอนแรกดูร่าเริงแต่พอเจอพวกเราน้องแบมกลับดูกังวลแปลกๆ
“เราไปนั่งโต๊ะนู้นเหอะ พวกพี่เขาจะได้กินกันสะดวก”
“นั่งกินด้วยกันเหอะ” มาร์คเรียกร้องให้น้องมานั่ง
“พวกพี่กินใกล้จะเสร็จแล้ว ผมไม่กวนดีกว่าครับ” แล้วน้องแบมก็ลากน้องยูคไปนั่งอีกฝั่งของร้าน ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกก็หันมากินอาหารตรงหน้า แต่เหมือนมาร์คเขาจะอิ่มแล้ว เพราะมัวแต่แชทคุยไลน์กับใครสักคน
“มาร์ค อิ่มแล้วเหรอ”
“อืม”
ผมเห็นน้องแบมเดินออกไปนอกร้าน สงสัยน้องจะไปเข้าห้องน้ำ
“จินยองเราไปห้องน้ำเดี๋ยวมานะ นี่เงิน ยังไงจ่ายเงินแล้วโทรหาเรานะ”
“อ้าว มาร์ค” ยังไม่ทันพูดจบมาร์คเขาก็เดินออกไปนอกร้าน ผมงงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ติดใจอะไร ถึงแม้ว่าจะสงสัยอะไรนิดๆก็ตาม ผมรีบกินและรีบจ่ายเงินกะว่าจะเดินไปหามาร์คที่ห้องน้ำ แต่ในขณะที่กำลังจะเดินเข้าซอยห้องน้ำก็เจอน้องแบมกับมาร์คเดินออกมาพร้อมกัน
ถ้าผมเห็นไม่พลาดผมเห็นมาร์คจับมือน้องแบมก่อนที่จะปล่อย เมื่อเจอผม หน้าน้องแบมดูตกใจและรีบเดินผ่านผมไป แต่จังหวะที่น้องเดินผ่านผมไปผมได้กลิ่นน้ำหอมอันคุ้นเคยจากตัวน้องเขา กลิ่นที่ผมจำมันได้ติดใจ กลิ่นที่อยู่บนรถแฟนผมเมื่อเช้า กลิ่นที่เคยติดอยู่ที่เตียงของแฟนผม
ผมเหมือนจะเข้าใจอะไรได้ลางๆ มาร์คเดินมาหาผมและจับมือผม
“ทำไมไม่โทรหาก่อนล่ะ” ถ้าผมโทรผมจะเห็นอะไรแบบเมื่อกี้รึเปล่า ผมอยากจะไปกระชากแขนเด็กคนนั้นแล้วถามว่า น้องกล้าดียังไงมายุ่งกับแฟนคนอื่น น้องกล้าทำได้ยังไง
“เมื่อกี้ก่อนออกจากร้านน้องยูคชวนไปร้องคาราโอเกะด้วยกัน มาร์คเราไปร้องกับน้องเขานะ” ผมจะจับให้ได้คาหนังคาคาเขา จับให้ได้ว่าเด็กนั่นมายุ่งกับคนของผมเหมือนที่ผมคิดใช่ไหม
“อืม ไปสิ” มาร์ค มาร์คไม่กลัวที่เราจะรู้ความจริงเลยใช่ไหม มาร์คเห็นเราเป็นไอ้โง่ขนาดไหนกัน
-J-U-S-T-A-F-F-A-I-R-
ผมพยายามเก็บอารมณ์แทบขาดใจที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ทำไมผมไม่เคยสังเกตุมาก่อนว่าน้องแบมใส่สร้อยตัว S เหมือนที่ห้อยโทรศัพท์ มาร์ค ผมเคยถามมาร์คว่าทำไมต้องตัว S เขาตอบมาแค่ว่ามันสวยดี
ถ้าแค่สวยดีทำไมมันถึงบังเอิญมีตัว S อยู่บนคอของเด็กคนนี้ด้วย น้องเขาไม่ได้ตั้งใจอยากจะให้ผมเห็นแต่บังเอิญว่าผมเห็นเองขณะที่น้องเขามาเข้าห้องน้ำแล้วผมตามมาเข้าด้วย
“สร้อยน้องแบมสวยจังใครซื้อให้น้องแบมเหรอครับ”
“เอ่อ ซื้อเองฮะ”
“เหมือนมาร์คเลย เขาก็มีที่ห้อยโทรศัพท์ตัว S เหมือนกัน บังเอิญเนอะ” น้องดูตกใจ ถ้าน้องกลัวพี่รู้ความจริงแล้วน้องทำทำไม
“บังเอิญจริงๆ นั่นแหละครับ”
“เหมือนมาร์คเขาจะนอกใจพี่ น้องแบมรู้ไหมว่าเขานอกใจพี่ไปหาใคร”
“ผมจะไปรู้ได้ไงครับ”
“พี่คิดว่าน้องแบมจะรู้ดีซะอีก ว่ามาร์คเขานอกใจพี่ไปกับใคร”
“พี่มาร์คเขารักแค่พี่จินยองเท่านั้นครับ รักแค่พี่ เขาไม่เคยรักคนอื่นเลย” นี้เป็นประโยคแรกที่น้องกล้าที่จะสบตาผม ดวงตาของน้องมั่นใจและเชื่อในสิ่งที่น้องพูด ผมควรจะเชื่อในสิ่งที่เด็กตรงหน้าพูดดีไหมทั้งที่เขากำลังจะมาแย่งแฟนผมไป
“พี่ก็ว่า งั้น เพราะมาร์คเขารักพี่มาก เพราะฉะนั้นใครที่กำลังจะยุ่งกับแฟนพี่ก็ควรรู้ตัวว่าควรทำยังไง”
“เขารู้แน่นอนครับว่าควรจะทำยังไง พี่จินยองสบายใจได้นะครับ” เด็กตรงหน้ายิ้มทั้งที่ดวงตากำลังเจ็บปวด อย่ามาเจ็บต่อหน้าผม เพราะ ผมต่างหากคือคนที่เจ็บไม่ใช่เขา
“รู้ก็ดี” ผมกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำกลับไปที่ห้องคาราโอเกะ
“คนคนนั้น เขารู้ว่าเขาทำให้พี่เจ็บปวดมาก เขาไม่ได้ขอให้พี่อภัย แต่เขาแค่อยากบอกพี่ว่าเขาขอโทษ และ พี่ไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะไม่ยุ่งกับแฟนพี่อีก เขาคงไม่หน้าด้านพอที่จะยุ่งทั้งที่รู้ว่าพี่รู้แล้ว”
“ถ้าไม่หน้าด้านพอ เขาคงไม่ยุ่งกับแฟนพี่ตั้งแต่แรกหรอก น้องแบมว่ายังงั้นไหม”
“ครับ ผมว่าคนนั้นเขาหน้าด้านจริงๆ” และผมก็เดินออกมาไม่สนใจสักนิดว่าเด็กคนนั้นจะเป็นยังไง ผมได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กคนนั้น เด็กนั่นมีสิทธิ์อะไรที่จะร้องไห้ มีสิทธิ์อะไร ผมเดินกลับไปเจอมาร์ค มาร์คเหมือนกำลังจะลุกไปหาผมที่ห้องน้ำ แต่ผมดึงเขาไว้
75%UP
“กลับบ้านกันเถอะมาร์ค น้องๆ พี่ขอตัวก่อนนะ” แล้วผมก็ผละจากน้องออกมาพร้อมลากมาร์คออกมาจากห้องคาราโอเกะ
“เราอยากไปห้องน้ำก่อน” เขาแคร์เด็กนั่นใช่ไหม เขาแคร์เด็กหน้าด้านนั่นมากกว่าผมที่อยู่ตรงนี้
“มาร์คอยากไปหาเด็กนั่นใช่ไหม มาร์คเป็นห่วงมันมากกว่าเรารึไง”
“นายรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“มาร์ค มาร์คคิดว่าเราโง่รึไง มาร์คแปลกไป มาร์คมีเวลาให้เราน้อยลง และ ตัวมาร์คก็มีแต่กลิ่นน้ำหอมที่เราไม่รู้จัก มาร์คเราไม่โง่จนไม่รู้หรอกนะว่าแฟนกำลังนอกใจ” น้ำตาผมไหลอาบแก้ม
“ตอนนี้จินยองเจ็บไหม”
“มาร์คถามอะไร”
“เราถามว่าจินยองเจ็บไหม”
“เราเจ็บมาก เจ็บที่มาร์คนอกใจเรา”
“วันนั้นเราก็เจ็บแบบนี้ วันที่เราเห็นแฟนเรามีอะไรกับเพื่อนสนิทเรา เราเจ็บมากกว่าที่จินยองเจ็บ เพราะวันนั้นคนหนึ่งคือเพื่อนรักเรา อีกคนคือแฟนเรา สองคนที่เรารัก หักหลังเรา”
“มาร์ค มาร์คมันไม่ใช่อย่างที่มาร์คเห็นนะ เราแค่เมา เราแค่เมา”
“ถ้าแค่เมาทำไม จินยองถึงเรียกแต่ชื่อแจ็คสันละ”
“มันไม่ใช่นะมาร์ค มันไม่ใช่”
“จินยองยังจำวันที่เราขอเป็นแฟนจินยองได้ไหม”
“เราบอกว่า เรารู้ว่าจินยองเสียใจที่ไอ้แจ็คสันมันมั่วผู้หญิงไปทั่ว เรารู้ว่าจินยองรักมัน เรารู้ว่าจินยองต้องเจ็บเพราะมัน เราไม่อยากให้จินยองเจ็บ เราขอร้องให้จินยองเป็นแฟนเรา”
“ฮืออ มาร์คเราขอโทษ”
แล้วความทรงจำวันนั้นมันก็กลับมาในหัวผม ผมรักผู้ชายคนนั้นผู้ชายที่ชื่อแจ็คสัน หวัง ผม เขาและมาร์คเป็นเพื่อนกัน แจ็คสันคบกับผู้หญิงไปทั่วผมเจ็บ เจ็บที่มันไม่เคยมองเห็นผม ผมที่อยู่ข้างๆ แจ็คสันมาตลอดกลับมีมาร์คคอยอยู่ข้างๆ คอยปลอบโยน ผมรู้ว่ามาร์คคิดอะไร แต่ผมไม่เคยถามออกไป
จนวันนั้นผมร้องไห้หนักมากเพราะแจ็คสัน มาร์คก็เลยขอคบกับผมเขาบอกว่าให้โอกาสเขาสักนิด ให้เขาได้เข้ามาดูแลผม ให้เขาเข้ามาพยุงหัวใจที่เจ็บช้ำของผม เขาสัญญาว่าจะเป็นแฟนที่ดี ไม่นอกใจ และมาร์คก็ให้ผมสัญญากับเขา
“ถ้าวันหนึ่งจินยองรู้ตัวว่าไม่มีวันรักเราได้จริงๆ รู้ตัวว่าความสุขที่สุดของจินยองคือการที่ได้รักไอ้หวัง ก็บอกเรานะ เราจะขอกลับมาเป็นเพื่อนและทำทุกอย่างเพื่อความสุขของจินยอง สัญญากับเรานะ ขอแค่บอกเรา แค่บอกเราเท่านั้น เรายอมที่จะจบ เพราะเราแคร์ความสุขของจินยองมากกว่า ความสุขของเรา”
ทั้งที่เขาดีกับผมเสมอ แคร์ผมเสมอ แต่ทำไม ผมถึงทำร้ายผู้ชายคนนี้ ทำไมผมถึงยังได้แต่คิดถึงผู้ชายคนอื่น ทำไม ทำไมกัน ปาร์ค จินยอง
-J-U-S-T-A-F-F-A-I-R-
-*-*-*-*- TALK*-*-*-
#ฟิคแอบมาร์คแบม
อีก 25% มาแล้วค่ะ
ตอนหน้าก็ยัง เป็น จินยองพาร์ทอยู่นะจ้ะ >,,<
ความคิดเห็น