คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : #วซดล : บทที่ 9
ผมตัดสินใจชวนพี่แจบอมไปด้วย ในเมื่อพวกพี่มาร์คไม่อยากไปแค่ 2 คนนะก็ไปด้วยกันหลายๆคน เนี่ยแหละ
พี่แจบอมดูงงๆ เขินๆ นิดๆ ตอนที่ผมชวน ผมเลยรีบบอกว่าเราไม่ได้ไปแค่ 2 คนนะ แล้วก็เลยเล่าความจริงทั้งหมดให้พี่แจบอมฟัง พี่เขาก็น่ารักบอกว่าไปสิพี่ว่างพอดี พอชวนพี่คนอื่น พี่ๆเขาก็ไม่ว่างกันหมด
สุดท้ายในวันอาทิตย์ก็มีผม มีพี่เจบี พี่พี่มาร์ค และก็ลลิส พวกเราตัดสินใจที่จะไปสวนสาธารณะที่ห่างไกลผู้คนสักหน่อย เพราะถ้าอยู่ในเมืองก็คงไม่พ้นถูกถ่ายรูปไปลงหนังสือแหงๆ
“มึงจะไปไหนเนี่ยแจบอม” พี่มาร์คถามขณะที่พวกเรากำลังจะออกไปข้างนอก
“ไปกับมึงไง แบมไม่ได้เหรอไง”
“คือแบมเห็นว่าถ้าไป 3 คนมันดูน้อยไปหน่อย แล้วพี่แจบอมก็ว่างแบมเลยชวนพี่เขาไปด้วย พี่มาร์คไม่ว่าอะไรใช่ป่ะ”
“ถึงพี่อยากว่าก็ไม่ทันแล้วหนิ” เสียงพี่มาร์คติดจะดูงอนๆ นิด
“ไปหลายคนดีออก มึงกับน้องเขาจะได้สวีทกันเยอะๆไง”
“เอ่อๆ”
พี่มาร์คขับรถพาพวกเราไปรอรับลลิสที่แถวๆ หอพัก โดยที่พี่เจบีนั่งหน้าคู่พี่มาร์คแล้วผมก็นั่งหลังคู่กับลลิส เพราะถ้าหากให้ลลิสนั่งหน้าคู่พี่มาร์คเลยมันค่อนข้างจะเสี่ยง วันนี้พวกเราแต่งตัวกันโดยมีแว่นกันแดด หรือเสื้อคลุมเพื่อป้องกันการเป็นข่าวอีกชั้นหนึ่ง
“แบมน้ำครับ” พี่เจบียื่นมาให้ผมขณะที่เรากำลังรอลลิสอยู่
“ขอบคุณครับ” ผมรีบรับน้ำจากมือพี่แจบอม แล้วจู่ๆพี่มาร์คก็ไอขึ้นมาซะงั้น
“ไม่ถามกูมั่งอ่ะ กูคนขับนะเว้ย แบมมันแค่นั่งหลังเฉยๆ เอง”
“แหมมมหึงกูเหรอคะพี่มาร์คของบี” พี่เจบีแกล้งหันไปหยิกแก้มพี่มาร์ค แล้วผมก็เลยยิ้มขำๆ พร้อมยื่นขวดน้ำไปให้พี่มาร์คดื่มต่อ มือของพวกเราสัมผัสกัน ทั้งที่ปกติเราก็จับไม้จับมือเล่นกันบ่อยๆ แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ผมถึงรู้สึกเหมือนมีไฟช็อตที่มือไม่รู้ว่าเพราะมือที่เราจับกันหรือสายตาที่เราสบกันแน่
“เฮ้ย เด็กมึงมาแหละไอ้มาร์ค สวยนี่หว่า ไม่น่าล่ะ ....หลงจัง” ผมรีบปล่อยมือแล้วเสไปมองลลิส
“ระดับมาร์ค ต้วนมองไม่เคยพลาดหรอกว่ะ”
ลลิสเดินขึ้นมาบนรถแล้วผมก็เลยแนะนำให้ลลิสรู้จักกับพี่เจบี ลลิสดูเกร็งๆนิดๆ อาจจะเพราะในรถนี้เป็นผู้ชายหมดและมีเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวบนรถนี้ ผมเลยพยายามชวนเธอคุยเพื่อให้คลายความกังวล พี่มาร์คกับพี่เจบีก็รู้งานพอควร พยายามหาหัวข้อมาคุย
ผมสังเกตว่าพี่มาร์คมองกระจกหลังบ่อย คงจะเป็นห่วงเด็กตัวเองละสิท่า เห็นแบบนี้ผมก็ค่อยรู้สึกโอเคหน่อยที่พี่มาร์คเป็นห่วงลลิส แสดงว่าพี่มาร์คจริงจังลลิสพอควร ถึงยังไงลลิสก็เป็นเพื่อนผม และถ้าการที่จะต้องมองพี่มาร์คจากไปไหนกับใครสักคน ถ้าคนนั้นเป็นคนดีจริงอย่างลลิส ผมก็คงจะรู้สึกดีมากกว่า
เมื่อเราถึงจุดหมายพวกเราก็เดินลงจากรถไปสูดอากาศที่สดชื่น สวนสาธารณะยังไงมันก็แค่สวนสาธารณะ มีสวน มีดอกไม้ มีที่วิ่งเล่น ของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ผมคิดว่ามันควรปล่อยเป็นเวลาของ 2 คนให้เขาได้คุยกันได้แล้วรึเปล่า เพราะยังไงจุดประสงค์ของการนัดครั้งนี้มันก็คือการมาเดทของพี่มาร์คกับลลิส ถ้ามีผมกับพี่เจบีอยู่มันจะเรียกว่าเดทได้ยังไง
“พี่เจบีผมอยากกินน้ำส้ม พวกเราไปเดินหาร้านกันเถอะ พวกพี่มาร์คก็เดินกันคุยกันไปก่อนได้เลยนะครับ” ผมไม่รอให้ใครทักทวงอะไรรีบดึงพี่เจบีออกมาอีกทาง
“มันดูจงใจมากไปนะแบม ฮาฮาฮา” ผมรู้สึกอายยังไงไม่รู้ที่มีคนจับไต๋ผมได้
“ก็ยังไงพวกเขาก็คงอยากมากัน 2 แค่คนอยู่แล้ว พวกเราจะไปเป็นก้างของเขาทำไมละพี่”
“แต่พี่ก็รู้สึกดีนะ ที่ได้มาอยู่กับแบมแบบนี้”
“เราไม่ค่อยได้คุยกันเลยเนอะ”
“ก็พี่แจบอมงานยุ่ง” แล้วผมก็เลยพี่แจบอมไปซื้อน้ำที่ซุ้มขายน้ำ ผมซื้อน้ำโค้ก ส่วนพี่เขาซื้อน้ำผลไม้กล่อง พวกเราเดินไปนั่งที่ม้าหินที่สามารถมองวิวรอบๆของสวนสาธารณะได้
“พี่แจบอมสนิทกับพี่จินยองมากเลยไหมครับ”
“ก็สนิทมากแหละก็พวกพี่ออก JJ Project ด้วยกัน เห็นจินยองแบบนั้นแต่ความจริงมันแมนมาก คุยอะไรปรึกษาอะไรได้หมด ถือว่าเป็นเพื่อนรักของพี่เลย”
“งั้นก็เหมือนกับผม พี่มาร์ค และก็พี่แจ็คสันอ่ะดิ”
“จะว่าคล้ายก็คล้าย จะว่าไม่คล้ายก็ไม่คล้ายนะ”
“ทำไมละครับ”
“ก็พวกพี่เป็นเพื่อนกันคุยกันได้ทุกเรื่องก็เหมือนพวกแบมใช่ป่ะ แต่พวกแบมมันน่าจะมีความเป็นครอบครัว ความใกล้ชิดมากกว่านนิดหน่อยเพราะเป็นคนต่างชาติเหมือนกัน เข้าใจความรู้สึกของกันและกันซึ่งบางทีพี่ก็รู้สึกว่าพี่เข้าไปในความสัมพันธ์ของพวกแบมไม่ได้เลย” พี่แจบอมพูดไปยิ้มไปแล้วสุดท้ายก็เอามือมาลูบหัวผม
“แบมไม่ใช่น้องหมานะไม่ต้องลูบก็ได้ แล้วอีกอย่างพี่ไม่เห็นต้องอยากเข้ามาในความสัมพันธ์ของพวกผมเลย เพราะสำหรับผมพี่ก็คือพี่ พี่มาร์คก็คือพี่มาร์ค พี่แจ็คสันก็คือพี่แจ็คสัน เราต่างเป็นตัวของตัวเอง เพราะฉะนั้นบรรยากาศระหว่างกันมันก็ต้องไม่เหมือนกันอยู่แล้วอ่ะ ผมชอบพี่เจบีก็เพราะพี่เป็นพี่เจบี ไม่ใช่ชอบพี่เพราะพี่เป็นพี่แจ็คสันสักหน่อย”
“ฮาฮาฮา นี่แบมกำลังสอนพี่อยู่เหรอ ชักจะเอาใหญ่แหละ” แล้วพี่แกก็ตบหัวผมอย่างแรง
“ซื้อลูกโป่งไหมครับ” จู่ๆ ก็มีคุณลุงเดินเข้ามาขายลูกโป่งหลากสีให้กับพวกเรา
“แบมรู้ป่ะ มีคนเคยบอกพี่ว่าถ้าเราอยากขอพรอะไรให้ผูกคำขอของเรากับลูกโป่งแล้วปล่อยให้ลอยไปในท้องฟ้า แล้วคำขอของเราก็จะถึงเทวดาบนนั้น
“ลุงครับงั้นผมซื้อลูกหนึ่ง” ผมรีบซื้อทันทีทีพี่เจบีบอกจบ
“ถ้าพี่บอกล้อเล่นตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วใช่ป่ะ”
“ไม่ทันแหละ -*-”
“ลุงครับผมขอ 3 ลูกเลย” แล้วพวกผม 2 คนก็พาลูกโป่ง 4 ลูกนั้นไปในจุดที่โล่งเพื่อที่จะเขียนคำขอที่จะส่งไปหาคนบนฟ้า
“พี่จะเขียนอะไรอ่ะ”
“เฮ้ยคำขอมีใครเขาบอกกันบ้างละแบมแบม”
“ตั้ง 3 ลูกแนะ พี่แจบอมก็โลภนะ 555+”
“แบมแบม ขอน้อยเกินไปต่างหาก”
“คำขอเดียวของผมมันครอบคลุมทั้งแล้วพี่”
โชคดีที่ผมพกปากกาติดตัวเสมอ ส่วนพี่แจบอมก็สมุดเล็กๆ ไว้จดหรือแต่งเนื้อเพลง เพราะฉะนั้นอุปกรณ์เลยพร้อมสรรพสำหรับการเขียนคำขอ พวกเราผูกลูกโป่งกับก้อนหินเล็กๆเพื่อท่วงมันไว้ก่อน เพื่อที่เราจะได้เขียนนข้อความกันสะดวกๆ
คำขอของผมมีแค่คำขอเดียว คือ “ขอให้ผมและคนที่ผมรักทั้งหมดมีความสุข” บางทีผมอาจจะโลภกว่าพี่แจบอมก็เป็นไปได้ เพราะคนที่ผมรักมีเยอะแยะมากมายทั้งครอบครัว เพื่อน พี่น้อง หรือแม้แต่กระทั่งแฟนคลับของผม แต่ผมคิดว่าแค่คำขอนี่แหละที่ผมต้องการจากใครบนนั้น ผมหวังแค่นั้นจริงๆ
ความสุขหาไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไป ขอแค่เรามองไปรอบๆ เราก็จะเจอความสุขอยู่รอบๆตัวเราเนี่ยแหละ ผมหันไปเห็นพี่แจบอมเขียนคำขอผมเห็นอะไรสักอย่างที่เหมือนจะเป็นชื่อผม
“พี่ขออะไรถึงผม”
“แอบดูได้ไง นิสัยไม่ดีว่ะแบม”
“ก็มันเกี่ยวกับผมไม่ใช่รึไงเอามาดูเลยนะ” ผมพยายามจะแย่งแต่เนื่องจากพี่แจบอมตัวสูงกว่าผมจึงเอื่อมไปไม่ถึงสักที สุดท้ายผมเผลอสะดุดขาตัวเองล้มทับพี่แจบอม แต่โชคดีที่พี่แจบอมใช้มือยันพื้นไว้ทันเลยกลายเป็นว่าพี่แจบอมนั่งไปกับพื้นส่วนผมนั่งทับพี่แจบอมพอดี ให้ตายเถอะผมซุ่มซ่ามจริงๆ
“ขอโทษครับ” ผมรีบลุกขึ้นมาแล้วก็ช่วยฉุดมือพี่แจบอมตามขึ้นมา
“ป่ะไปส่งคำขอของเราขึ้นฟ้ากัน” เหมือนลืมอะไรไปสักอย่างนะพี่แจบอม พี่ยังไม่ปล่อยมือผมเลยนะครับ ไอ้ครั้นจะบอกว่าพี่ลืมรึเปล่าก็รู้สึกเขินตัวเองแปลกๆ ผมมองไปที่มือที่เรากุมกันไว้ เหมือนพี่แจบอมจะเริ่มรู้ตัวก็เลยหันมามองว่าผมมองอะไรอยู่
“พี่ขอโทษ” พี่แจบอมรีบปล่อยมือผมทันทีเหมือนมือผมเป็นของร้อนอะไรสักอย่าง พี่แจบอมรีบเส มองหน้าไปอีกทาง ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกว่าไอ้ท่าเขินๆ แบบนี้ของพี่แจบอมดูน่ารักมากๆ ในความรู้สึกของผม
“ฮาฮาฮา พี่น่ารักอ่ะ พี่เขินผมเหรอ” แล้วผมก็ยื่นหน้าไปมองพี่แจบอมใกล้ๆ คราวนี้พี่แจบอมยิ่งรีบถอยห่างออกไป
“อย่าแกล้งพี่นะครับแบม”
“ไม่แกล้งแหละ ป่ะไปส่งคำขอของเราขึ้นฟ้ากัน”
พวกเราต่างวุ่นกับการผูกคำขอของเรากับสายของลูกโป่ง ผมทำเสร็จผมก็รีบไปช่วยพี่แจบอมผูกโดยที่ไม่ได้เปิดคำขอของพี่แจบอมอ่าน ผมกลัวว่าถ้าผมอ่านอาจจะทำให้คำขอของพี่แจบอมไม่เป็นจริง ผมอยากให้คำขอของพวกเราเป็นจริง จริงๆนะครับ ^^b
ผมอธิฐานก่อนที่เราจะปล่อยลูกโป่งออกไป พี่แจบอมบอกให้เราปล่อยพร้อมกัน เพื่อที่คำขอของเราจะได้ส่งไปถึงคนบนฟ้าพร้อมๆกัน ผมค่อยๆ ปล่อยๆ ลูกโป่ง ออกไปพร้อมกับมองลูกโป่งของผมลอยขึ้นฟ้า พอผมหันไปมองพี่แจบอม ผมถึงเพิ่งรู้ว่าพี่แจบอมถ่ายรูปผมอยู่
“ถ่ายแบมทำไมอ่ะ” ผมพยายามจะคว้ามือถือของพี่แจบอมแต่ก็เหมือนเคยพี่แจบอมรีบเก็บลงกระเป๋า โดยที่ผมไม่สามารถทำอะไรได้
“ก็เมื่อกี้อารมณ์คือมันใช่อ่ะแบม พี่เลยอยากถ่ายเก็บเอาไว้”
“อารมณ์มันใช่คืออะไรอ่ะไม่เข้าใจ”
“เดี๋ยววันหนึ่งแบมก็รู้เองแหละ”
“บอกตอนนี้ไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้ครับ” แล้วพี่แจบอมก็เอานิ้วมาดีดหน้าผากผม
“เจ็บอ่ะ”
“แบม” เสียงเรียกขอลลิสทำให้ผมหันไปมอง เจอพี่มาร์คกับลลิสที่เดินเข้ามา อืมหน้าพี่มาร์คดูอารมณ์หงุดหงิดนิดหน่อย คือมันน่าจะอารมณ์ดีกว่านี้ป่ะ คุณต้วน
“หนีมาทำอะไรกันสองคนเนี่ย” ลลิสพูดด้วยออกจะงอนๆ
“เปล่าๆ คือพอดีเราซื้อน้ำเสร็จแล้วเจอลุงขายลูกโป่ง แล้วพี่เจบีก็เล่าเรื่องอะไรนิดหน่อยให้ฟังก็แค่นั้นเอง”
“สนุกมากไหม” เสียงเหี้ยมเชียวครับคุณต้วน
“ก็ไม่มากเท่ามึงหรอกกูว่า” พี่แจบอมก็แซวพี่มาร์คกลับไป
“วันหลังมึงไม่มากันสองคนเลยยละ”
“พามาได้เหรอว่ะคุณพี่ชาย”
“เชี่ย ไม่ได้”
“ห่วงจริงน้องมึงเนี่ย”
“เออ”
O………….N………….E…………..S……….I……….D…………..E…………D
มาต่อให้แล้วค่ะ ขอโทษที่หายไปนานรอบนี้ไรเตอร์ป่วยไปให้ยาที่โรงพยาบาลมา TT____TT
คิดว่าจะม่ากันละสิ 55+ ไม่ม่าเนอะ
ทุกคำตอมเม้น ทุกแท็ก #วซดล คือทุกความฟินที่ไรเตอร์ได้รับ
ขอบคุณมากจริงๆๆนะคะ
ความคิดเห็น